Share

บทที่ 2 ปี 1960

last update Last Updated: 2025-01-01 17:56:17

บทที่ 2 ปี 1960

"เยว่หรู... ตื่นเร็ว" เสียงเรียกชื่อเธอดังต่อเนื่อง จนจำต้องลืมตาตื่นขึ้นมา

เยว่หรูพยายามลืมตา... พอลืมตาแล้วเหมือนทุกอย่างมันพร่ามัวไปทั้งหมด เธอต้องกะพริบตาหลาย ๆ รอบ เพื่อที่จะได้มองเห็นทุกอย่างชัดมากกว่าเดิม

"ที่ไหน... " เมื่อมองภาพข้างหน้าชัดเจนแล้ว... จนมั่นใจว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นไม่ใช่ภาพลวงตา

"กินยาก่อนลูก อดทนนิดหนึ่งจะได้หาย" เสียงของหญิงสาววัยกลางคนเอ่ยบอกเธออีกครั้ง

"คุณไปรอข้างนอกก่อน... ฉันดูลูกเอง" ลู่หลิน หันไปบอกสามีที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ 

เยว่หรูมองที่มือของหญิงสาวคนนั้นก็ทำให้เธอถึงกับขมวดคิ้ว ทำไมมีแต่รอยเต็มไปหมดแบบนี้ เธอมาอยู่ที่ไหนหรือว่า... เธอกำลังฝัน เหมือนที่ก่อนหน้านี้เธอชอบฝันติดต่อกัน ก็มีบรรยากาศคล้าย ๆ แบบนี้

"แม่ล้างมือแล้ว ไม่ต้องห่วง" หญิงสาวที่เห็นลูกสาวจ้องมองมาที่มือของตัวเองก็รีบบอกทันที เธอรู้ว่าลูกสาวไม่ชอบเธอสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ต้องรีบให้กินยาเสียก่อน 

"ไม่ใช่ค่ะ... ฉันแค่แปลกใจ ทำไมมือถึงมีแต่แผลล่ะคะ" เยว่หรูรีบบอกพร้อมกับอ้าปากกินยาเพื่อไม่ให้พี่สาวต้องกังวลใจ ที่เรียกพี่สาวเพราะจากที่ดูแล้วอายุเราไม่น่าจะห่างกันมากนัก... แทนตัวเองว่าแม่เลยเหรอ... เยว่หรูงงในงง...

"นอนพักนะ แม่กับพ่อต้องไปลงงานก่อน เมื่อถึงเวลาแม่จะมาปลุกกินยาอีกรอบ" หญิงสาวดีใจที่ลูกสาวของเธอนั้นยอมกินยาจากชามที่เธอเป็นคนถือ จนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ลูกสาวแปลกไป เพราะคิดว่าคนเป็นไข้ก็มีอาการแปลก ๆ ด้วยกันทั้งนั้น...

เยว่หรูพยักหน้ารับแล้วล้มตัวลงนอน เธอต้องการเวลา... เพื่อที่จะได้เช็กว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เธอเจออยู่ในตอนนี้เกิดจากอะไร หากมันคือความฝัน... มันคือฝันที่เหมือนจริงมาก ชีพจรของเธอนั้นบ่งบอกว่าเธอมีไข้ไม่สบาย ถ้าหากเป็นความฝัน... เธอคงไม่รู้สึกถึงรสชาติของยาสมุนไพรแบบนี้  ถึงจะมีส่วนผสมของยาสมุนไพรที่ไม่มากนัก แต่เธอคลุกคลีอยู่กับสมุนไพรย่อมรู้จักเป็นอย่างดี

ยาลดไข้นี่แทบไม่ได้ช่วยให้ร่างกายนี้ทุเลาลงได้เลย เยว่หรูยกมือขึ้นดู... มือเล็กขาวที่เหมือนคนขาดสารอาหาร และแน่นอนว่าไม่ใช่แขนของเธอ เพื่อความมั่นใจ เธอเปิดผ้าห่มผืนบางออก... แล้วสำรวจร่างกายจนทั่ว ก่อนจะมองหากระจกเพื่อที่จะได้เห็นว่ารูปร่างหน้าตาหรือร่างกายนี้เป็นใครที่เธอรู้จักบ้างไหม หรือจะเป็นเธอในช่วงวัยเด็ก...

พอพิสูจน์ไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก ก็วกเข้าไปที่นิยาย คิดว่าตัวเองอาจทะลุมิติมา หากทะลุมาจริง ให้เธอทะลุมาที่ไหน... คงไม่ใช่จีนโบราณ เพราะก่อนหน้านี้พี่สาวกับพี่ชายคุยกันยังเป็นคำพูดคุยปกติ...

"หากฉันนอนสักหน่อย... ฉันจะตื่นจากฝันที่เหมือนจริงนี่ไหม... " เยว่หรูพึมพำออกมาแล้วก็ล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม ในเมื่อไม่มีกระจกให้ส่องเลยไม่รู้จะนั่งหาทำไม 

แต่เยว่หรูไม่ได้หลับในทันที เธอมองทุกอย่างรอบตัว หลังคาที่เป็นหญ้า ผนังที่น่าจะเป็นดิน... ห้องที่เธออยู่แทบไม่มีอะไรเลย มีเตียงนอนที่เล็กกว่าสามฟุตครึ่งเสียอีก ไม่รู้จะบอกว่าเตียงได้ไหมเพราะมันเล็กมาก แต่มันก็คล้ายเตียงเตาสมัยก่อน ในห้องนี้ยังมีตู้ที่เธอเดาว่าน่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า ต้องบอกว่าเธอนอน... แล้วใช้สายตาสำรวจ ไม่ได้ลุกเดินดูแต่อย่างใด เพราะมันยังมีอาการเวียนหัว อาจเพราะร่างกายนี้ยังไม่หายจากไข้ เยว่หรูจำต้องข่มตาให้หลับพักผ่อน...

...

เยว่หรูนั่งมองบ้านดินหลังน้อยที่มีเพียงสองห้องนอน หนึ่งห้องครัว หนึ่งห้องส้วมเพียงเท่านั้น ในบ้านแทบไม่มีอะไรเลย อย่าว่าแต่ในบ้านเลย... แม้แต่เสื้อผ้ายังมีคนละไม่กี่ชุดเพียงเท่านั้น รองเท้าก็เหมือนกัน ขาด ๆ เก่า ๆ นิ้วโผล่ออกมาได้ สภาพมันจะพังอยู่แล้ว

"เฮ้อ... " เยว่หรูถอนหายใจออกมา ปลงกับชีวิตที่กำลังเป็นอยู่

ตลอดระยะเวลาสามวันที่เธอหลับ ๆ ตื่น ๆ ขึ้นมา เธอไม่ได้ไปไหนเลย เธออยู่บ้านหลังนี้ตลอด ความหนาวเหน็บที่สัมผัสได้ทำให้รู้เลยว่าเธอไม่ได้ฝันไป...

จากฝันหวานอยากทะลุมิติไปยุคจีนโบราณ ความฝันของเยว่หรูก็เป็นจริง!! ก็หากไม่คิดอะไรมาก... ก็โบราณเหมือนกัน แต่ไม่มีท่านอ๋อง องค์รัชทายาท หรือท่านแม่ทัพ... มีแต่ ทหารแดง หน่วยคอมมูน ใช้ตั๋วหรือคูปองในการซื้อของ ทำงานแลกแต้มที่แทบจะไม่มีอาหารให้ โบราณกว่ายุค 2020 แน่ ๆ เพราะนี่คือยุค 1960 ของแท้แน่นอน...

"ออกมานั่งข้างนอกทำไม เดี๋ยวไข้ขึ้นหรอกลูก" ลู่หลินรีบเดินเข้ามาหาลูกสาวพร้อมกับเอามือแตะที่หน้าผากกลมมนทันที

"..." เยว่หรูไม่ว่าอะไร ปล่อยให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ในยุคนี้สำรวจอาการเพื่อที่จะได้สบายใจ เพราะเธอรู้ดีว่าร่างกายนี้หายจากอาการไข้แล้ว...

"เอ่อ... แม่ลืมไป" เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งกลับมาจากทำงานในไร่ เลยรีบบอกลูกสาวเพราะรู้ว่าลูกสาวของตนไม่ชอบอะไรแบบนี้

"ไม่เป็นไรค่ะ จับได้เลย... หนูดีขึ้นมากแล้ว" เมื่อเห็นท่าทางของอีกคน เยว่หรูก็รีบบอกเพื่อที่อีกคนจะไม่ต้องทำหน้ารู้สึกผิดแบบนี้

"หนูต้มน้ำไว้ให้แล้วค่ะ" เยว่หรูชวนคุย... พร้อมกับยื่นมือเข้าไปจับตรงบริเวณข้อมือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น แม่

"ขอบใจลูกมาก เข้าบ้านกันดีกว่าเนอะ... แม่จะได้ทำอาหารให้กิน" ลู่หลินมองมือเล็กขาวที่ยื่นมาจับที่ข้อมือของตัวเอง ก็รู้สึกดีใจที่ลูกสาวที่ไม่ชอบให้เธอแตะเนื้อต้องตัวนั้นยอมแม้กระทั่งเป็นคนยื่นมือมาจับเธอก่อน

เยว่หรูเดินตามเข้าบ้านไป พร้อมกับวินิจฉัยอาการของคนที่เธอต้องเรียกว่าแม่ไปด้วย หากเป็นโลกที่เธอจากมานั้นมันรักษาง่ายมาก แค่ต้องให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ แต่มันยากเหลือเกินที่จะทำแบบนั้นได้ในยุคนี้

ในตอนแรกที่เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองนั้นไม่ได้ฝันไป... เยว่หรูแทบบ้า เมื่อได้รู้ว่าสถานที่อยู่นี้คือโลกในหนังสือนิยาย เยว่หรูคนนี้คือนางเอกของเรื่องนี้ แต่ ๆ เยว่หรูไม่ใช่นางเอกตัวจริง!! นางเอกตัวจริงคือคนที่ทะลุมิติมาเข้าร่างนางร้าย! สรุปง่าย ๆ นางร้ายของเรื่องนี้คือนางเอก!! ส่วนเยว่หรูคนนี้คือนางเอกปลอม ๆ นั่นเอง..

Related chapters

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 3 ครอบครัว

    บทที่ 3 ครอบครัวเยว่หรูที่ได้รับบทนางเอกปลอม ๆ หรือก็คือนางร้ายดี ๆ นี่เอง... เธอใช้เวลานานพอสมควรเพื่อสงบสติอารมณ์ มันไม่ใช่เรื่องง่าย... ที่คนคนหนึ่งจะทะลุมิติข้ามยุคมาแล้วสามารถใช้ชีวิตต่อได้เลย ถึงจะชอบพูดว่าอยากจะทะลุมิติเหมือนนิยายที่ตัวเองเคยอ่านก็ตาม แต่ทุกอย่างมันไม่ได้ง่าย ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมดทุกอย่าง สังคม สภาพแวดล้อม มันไม่ได้เหมือนที่เคยอ่านเจอในนิยายบางเรื่อง... ที่พอข้ามมาแล้วนางเอกเก่งเลย เยว่หรูห่างไกลจากคำนั้นมาก เพราะเธอคือนางเอกปลอม ๆ ถึงแม้ว่าจะเคยใช้ชีวิตในโลกก่อนมาเป็นอย่างดี แต่พอมาอยู่ที่ใหม่ก็ต้องเรียนรู้ใหม่และที่แห่งนี้แตกต่างจากที่จากมามากมายหลายอย่าง...สิ่งแรกที่เยว่หรูทำหลังจากตั้งสติได้... นั่นคือสำรวจตัวเองว่าเธอคือเยว่หรูคนที่เป็นนางเอกตัวปลอมจริงไหม และใช่!! ทุกอย่างบ่งบอกว่าเธอคือเยว่หรู มีแม่ชื่อ ลู่หลิน มีพ่อเลี้ยงชื่อ จางหยวนเยว่หรูไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเจ้าของร่างเดิมนี้เลย ทุกอย่างที่เธอรู้ก็อ่านมาจากนิยายทั้งนั้น ตามเนื้อเรื่องบอกว่า... พ่อแม่ของเยว่หรูแยกทางกัน เยว่หรูอยากไปอยู่กับพ่อ แต่เพราะการทำงานของพ่อจะต้องย้ายไปต่างเมืองบ่อย ๆ เ

    Last Updated : 2025-01-01
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 4 ครอบครัวเดียวกันต้องช่วยเหลือกัน

    บทที่ 4 ครอบครัวเดียวกันต้องช่วยเหลือกัน"พ่อกับแม่ไปทำงานก่อน เพิ่งจะหายไข้ อย่าออกมาตากลมข้างนอกเลย" จางหยวนบอกลูกสาวที่ออกมายืนส่งทั้งสองที่หน้าบ้าน"พ่อคะ... หนูหายดีแล้ว ไม่มีไข้มาหลายวันแล้วนะคะ" เยว่หรูบอกพ่อพร้อมกับหัวเราะที่พ่อดูเป็นห่วงเธอมากเกินไป"เดี๋ยวไข้มันกลับมาอีก เข้าบ้านได้แล้ว" ลู่หลินก็เป็นอีกคนที่บอกลูกสาวให้รีบเข้าไปอยู่ในบ้าน"เข้าใจแล้วค่ะ" เยว่หรูบอกพร้อมกับโบกมือลาพ่อกับแม่... แล้วค่อยเดินเข้าบ้านตามที่ทั้งสองคนต้องการเยว่หรูนั่งลงบนเตียงเตาแล้วมองรอบ ๆ ห้องก่อนถอนหายใจออกมา มาอยู่ที่นี่เกือบสองอาทิตย์แล้ว ไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับโลกตัวเอง เคยอ่านแต่นิยายที่ตัวเอกข้ามมาแล้วมีมิติ บางเรื่องก็มีกำไลวิเศษ บางเรื่องมีปานที่จริง ๆ แล้วคือมิติจิต แต่เยว่หรูคนนี้แก้ผ้าสำรวจตัวเองจนทั่ว... หาปานหรือรอยสักไม่เจอสักที่!! อยากมีมิติ หรือไม่ก็ให้มิติฟาร์มแบบที่คนเขานิยมกัน ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ดี เล็ก ๆ ก็ได้ เธอจะไม่ติเลย ให้มีมาเถอะ... เธอจะเรียนรู้การใช้งานเอง แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเธอคือนางเอกปลอม ๆ เท่านั้น เป็นไปได้ยากที่เธอจะมี... สิ่งของพวกนั้นคงเป็นนางเอกหรือคนที่สำคั

    Last Updated : 2025-01-01
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 5  ป้าข้างบ้านทั้งหลาย

    บทที่ 5 ป้าข้างบ้านทั้งหลายนับเป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่เยว่หรูมาอยู่ที่นี่ คิดถึงบ้าน คิดถึงคลินิก คิดถึงอากง อาม่าทั้งหลายที่เป็นคนไข้ของเธอ คิดถึงพี่เหมยผู้ช่วยที่แสนดีที่คอยช่วยเหลือทุกอย่าง เยว่หรูคนนี้อยากบอกพี่เหมยเหลือเกินว่า... อย่าอ่านนิยายก่อนนอน ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น ลุ้นไปลุ้นมาได้เข้ามาอยู่ในนิยายเองเลย... และที่เสียดายมากกว่าอย่างอื่นคือ สิ่งของที่มือลั่นซื้อตอน 8 เดือน 8 ก็ยังไม่ได้เห็นเลยว่าตัวเองมือลั่นซื้ออะไรมาบ้าง ไหนจะของที่สั่งพี่เหมยซื้ออีก มาอยู่ที่แบบนี้น่าจะมีมิติมาให้บ้าง... หรือว่านักเขียนลืมเขียนให้เยว่หรูคนนี้...เยว่หรูทำงานบ้านเรียบร้อยแล้ว เดินไปดูกระถางผักที่แขวนอยู่... ที่พ่อทำให้เธอลองปลูกผักจำนวนห้ากระถาง และสิ่งที่เธอลองปลูกคือผักบุ้ง เพราะเป็นผักที่ปลูกง่ายโตเร็ว จะได้มีผักกินเร็ว ๆ และสถานที่ปลูกผักของเธอก็ในครัวที่มีหลังคาคลุมเพียงเท่านั้นเมื่อรดน้ำเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าไปต้มน้ำขิงและใส่น้ำตาลกรวดนิดหนึ่ง สิ่งนี้เธอจะเอาไปส่งให้พ่อกับแม่เธอที่ฝ่ายผลิต ตอนนี้ในบ้านพอที่จะมีเครื่องปรุงบ้างแล้ว จากเงินในกระปุกที่เธอบอกให้พ่อผ่ามันออกมาแล้วนำไปซื้

    Last Updated : 2025-01-02
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 6 ครอบครัวของพ่อเลี้ยง

    บทที่ 6 ครอบครัวของพ่อเลี้ยงเยว่หรูมองบริเวณรอบ ๆ ใช้ความคิดว่าเธอจะสามารถทำงานหาเงินอะไรได้บ้าง จะเอาอาชีพเดิมมาใช้ก็ยังไม่ได้ ทุกอย่างจะต้องศึกษาและหาทางก่อน และยังมีพ่อแม่ที่รักจนไม่ให้ทำงานอีกด้วย ปัญหานี้ก็ต้องแก้ด้วยเช่นกัน..."ตาย ๆ รู้จักมาช่วยงานพ่อแม่แล้วเหรอเยว่หรู" กำลังถอนหญ้าไปด้วยใช้ความคิดไปด้วย ก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ แหลม ๆ ดังอยู่ไม่ไกล"แม่อย่าพูดแบบนั้น" จางหยวนพูดเสียงเบา"ทำไม!! มันวิเศษมาจากไหน แกก็แค่พ่อเลี้ยง โง่ดักดาน มันก็แค่ลูกติดเมีย แค่มันเอาข้าวมาส่งหน่อยนี่ออกรับแทนทุกอย่าง เป็นขี้ข้ามันไปเถอะ ไอ้ลูกเนรคุณ!! " ประโยคนี้ไม่ใช่เบา ๆ คนที่อยู่ทั่วบริเวณนั้นได้ยินกันหมด ต่างพากันลอบมองว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นไหมเยว่หรูหันไปมอง แต่ไม่ได้ปริปากพูด เพราะตอนนี้มีสายตาหลายคู่มองมาที่ครอบครัวของเธอ หากพูดหรือแสดงท่าทางอะไรไป อาจทำให้พ่อแม่ของเธอเดือดร้อน เธอจึงได้แต่เงียบและก้มหน้าถอนหญ้าต่ออย่างไม่สนใจ"ดูสายตาลูกเลี้ยงของแก ดูที่มันมองฉันสิ!! " เมื่อเห็นว่านังเด็กกาฝากมันไม่มีท่าทีจะตอบโต้เหมือนแต่เก่าก็เริ่มจะโวยวายอีกรอบ หากเป็นแต่ก่อน ทุกครั้งที่พูดแบบนี้

    Last Updated : 2025-01-02
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 7 วันแรกของการไปเรียน

    บทที่ 7 วันแรกของการไปเรียนวันนี้คือวันเปิดเรียนวันแรก โรงเรียนที่เยว่หรูเรียนตั้งอยู่ในเขตตัวเมือง ระยะทางระหว่างหมู่บ้านกับโรงเรียนอยู่ไม่ห่างกันมากนัก ต้องบอกว่าหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองก็ว่าได้ และโชคดีที่ว่าสถานที่ตั้งของโรงเรียนนี้อยู่แถวชานเมือง เยว่หรูสามารถเดินเท้าไปเรียนได้ แต่เธอก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะได้ไปทันเข้าเรียนเยว่หรูอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนที่ทางโรงเรียนมีให้ ซึ่งอุปกรณ์การเรียนทุกอย่างรวมอยู่ในค่าเทอมทั้งหมดแล้ว พ่อเป็นคนเดินไปเอาชุดนักเรียนมาให้ก่อนเปิดเรียนเพียงไม่กี่วัน หากไม่บอกเรื่องเปิดเรียน เยว่หรูก็ไม่รู้เลย ต้องบอกว่านิยายที่เธออ่านนั้นไม่ได้บอกรายละเอียดขนาดนั้น บทนางเอกปลอม ๆ ของเธอจะมีบทบาทมากขึ้นก็ตอนที่เธอย้ายไปอยู่กับพ่อที่แท้จริงนั่นแหละช่วงเวลาที่เยว่หรูอยู่กับแม่นั้นจึงไม่มีรายละเอียดมากนัก บอกแค่อยู่อย่างยากลำบาก เยว่หรูเป็นคนที่ต้องการและโหยหาความรัก และคิดว่าการที่แม่แต่งงานใหม่จะทำให้แม่รักเธอน้อยลง จะโทษเยว่หรูทั้งหมดก็ไม่ได้เพราะไม่มีใครพูดให้เธอรู้และเข้าใจ แล้วเด็กที่เคยอยู่อย่างสุขสบาย แต่ต้องมาอยู่อย่างยากลำบาก มันเลยง่ายที

    Last Updated : 2025-01-03
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 8 นี่คงเป็นข้อดีของการเป็นนางเอก

    บทที่ 8 นี่คงเป็นข้อดีของการเป็นนางเอกเยว่หรูนั่งรอเวลา... แต่สายตาของเธอก็มองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวไปด้วย เธอมองไปทางด้านนอกหน้าต่าง เห็นหลังคาน่าจะเป็นอาคารขนาดใหญ่ แต่เธอมองไม่เห็นทั้งหมดเพราะมีกำแพงกั้นอยู่ หากในยุคนี้มีกำแพงรั้วรอบขอบชิด นั่นหมายถึงสถานที่แห่งนี้น่าจะสำคัญหรือไม่ก็บ้านตระกูลใหญ่ ๆ ส่วนมากคนที่นี่ทำกำแพงบ้านด้วยไม้กันทั้งนั้น แต่เท่าที่ดูก็น่าจะเป็นดินหรือไม่ก็อิฐบล็อก ทุกอย่างที่บอกนั้นเดาล้วน ๆไม่มีอะไรแน่นอนในนิยายเรื่องนี้เลย เดาอีกอย่างกลับเป็นอีกอย่าง อยู่มาเดือนกว่า เรียนรู้มาพอสมควร และจะให้หมอแผนจีนไปมองว่าบ้านนี่ทำด้วยอิฐหรือดินจบเลย เพราะเคยลองแล้ว บ้านทำด้วยอิฐแต่เอาดินมาทาเหมือนฉาบปูนไว้ก็มี อย่าเดาเกี่ยวกับอะไรในนิยายเรื่องนี้เลย..."นักเรียนทุกคนมาเข้าแถวหน้าห้องก่อน ครูจะได้ตรวจนับและแจกสมุดหนังสือ" ชายสูงวัยที่แทนตัวเองว่าครู เรียกนักเรียนที่อยู่ในห้องทั้งหมดให้ออกไปหน้าห้องเยว่หรูลุกขึ้นยืน กระชับกระเป๋าผ้าสะพายบ่าเดินออกไปตามที่ครูเรียก กระเป๋าที่เธอมีนั้นน่าจะมาจากพ่อที่แท้จริงซื้อให้ มันยังดูดีถึงแม้มันจะเก่าแล้ว แล้วเยว่หรูคนเก่าเก็บไว้ในตู้เสื

    Last Updated : 2025-01-03
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 9 มองหาลู่ทาง

    บทที่ 9 มองหาลู่ทาง"ครูคะ... หนูมีเรื่องอยากถามและขอคำแนะนำจากครู" เยว่หรูถามขึ้น... ตอนที่ครูเริ่มปล่อยนักเรียนให้ออกจากห้องเรียนเพื่อให้นักเรียนไปเบิกอุปกรณ์การเรียนและไปรับอาหารกลางวัน เนื่องจากวันนี้ไม่ได้มีการเรียนการสอน เลยปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านเร็ว หากเปรียบเทียบกับโลกเดิม... เหมือนมาฟังครูแนะแนว ซื้ออุปกรณ์การเรียน จ่ายค่าเทอม เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเรียนในวันถัดไป "มีปัญหาอะไรหรือเปล่าเยว่หรู" ครูถามกลับพร้อมกับยิ้มอย่างเอ็นดู น้อยนักที่จะมีนักเรียนหญิงมาเรียน และที่สำคัญ เขามองเยว่หรูแล้ว... ทำให้นึกถึงลูกสาวของเขาที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ... เลยทำให้เอ็นดูเยว่หรูพอสมควร"คือหนูไม่รู้ว่าชั้นเรียนนี้ต้องทำอะไรบ้าง... แบ่งเวลาแบบไหน แล้วถ้าหนูอยากรู้เรื่องการเมือง การเงิน การปกครอง ข้อห้าม ข้อบังคับต่าง ๆ หนูสามารถหาคำตอบได้จากที่ไหนคะ มีหนังสือให้หนูอ่านไหมคะ" เมื่อครูเปิดโอกาสให้ถาม... เยว่หรูก็ไม่รอช้า หากอยากลืมตาอ้าปากได้เร็ว อย่างแรกที่ต้องมีคือข้อมูล สิ่งไหนที่พวกเขาห้ามทำ ผิดกฎหรืออะไรยังไง... จะได้รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรได้บ้างในนิยายเรื่องนี้ที่เธอเข้ามาอยู่ อ้

    Last Updated : 2025-01-04
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 10 ทุกอย่างคือการลงทุน

    บทที่ 10 ทุกอย่างคือการลงทุนเยว่หรูมาเรียนได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว ได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง ได้เรียนรู้แนวทางที่เธอจะเรียนเกี่ยวกับแพทย์แผนโบราณของที่นี่ จะต้องเรียนจบอะไร แล้วไปต่อที่ไหน มันดีตรงที่ว่าในนิยายเรื่องนี้สามารถสอบเทียบได้ ไม่ต้องเรียนตรงตามเวลาที่ทางโรงเรียนกำหนดก็ได้ แค่สอบผ่านระดับตามที่ทางโรงเรียนกำหนดก็พอ การเรียนในมหาวิทยาลัยก็เช่นกัน สามารถสอบเทียบได้ ทุกวันก่อนกลับบ้าน เยว่หรูจะหิ้วปิ่นโตใส่อาหารกลับไปด้วย อาหารที่ได้มาก็คืออาหารที่เธอใช้คูปองที่คุณครู หมิงเว่ย ให้มาและนำไปยื่นที่โรงอาหาร เธอก็ได้ปิ่นโตใส่อาหารหนึ่งเถากลับบ้าน ในปิ่นโตจะมีข้าวและกับข้าวหนึ่งอย่าง บางวันอาจมีผลไม้เพิ่มให้หนึ่งอย่าง แต่ไม่ได้มีทุกวัน อาหารที่ได้ไม่ได้เยอะมากนัก แต่มันสามารถทำให้ครอบครัวของเธอประหยัดขึ้นและมีอาหารกินเพิ่มขึ้น พอเช้าวันต่อมาค่อยเอาปิ่นโตเปล่ามาส่งที่โรงอาหาร เยว่หรูทำแบบนี้ติดต่อกันตั้งแต่วันแรกที่มาเรียนแล้วเยว่หรูเริ่มปรับตัวได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน การใช้ชีวิต วางแผนเพื่อที่จะเรียนในด้านที่ตัวเองถนัด วางแผนเรื่องช่วยเหลือครอบครัวเพื่อให้มีชีวิตดีขึ้นต

    Last Updated : 2025-01-05

Latest chapter

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 20  ความรู้สึกไม่ต่างกัน

    บทที่ 20 ความรู้สึกไม่ต่างกันเยว่หรูเดินตามมาที่ห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนมากมีแต่ญาติของคนไข้ที่เฝ้าอยู่เพียงเท่านั้น พอเยว่หรูมาถึงอาจารย์ก็เริ่มสอนสิ่งต่าง ๆ โดยที่สอนตรวจคนไข้ว่าควรตรวจแบบไหน เพื่อประหยัดเวลาและได้ผลที่แม่นยำทุกอย่างดำเนินไปอย่างดี เนื่องจากคนไข้ยอมให้ตรวจดี ๆ นอนมองนิ่ง ๆ เพียงเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไล่หมอพยาบาลออกไปทั้งหมด แต่เขากลับให้ลูกศิษย์กับอาจารย์สองคนทั้งจับพลิกดูตามร่างกายได้ตามต้องการ"อาจารย์ จากที่หนูดูไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว หนูคิดว่าน่าจะมาจากจิตใจและความคิดด้วย" เยว่หรูสังเกตคนไข้แล้วรู้สึกว่าช่างคุ้นเคยกับอาการนี้เหลือเกิน"มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว" อาจารย์ก็เห็นด้วยกับที่ลูกศิษย์คนล่าสุดบอกมา"เยว่หรูจะรักษาด้วยวิธีไหน เขียนรายงานมาด้วย รักษาแค่เบื้องต้นก่อน ส่วนต้องการเบิกอะไรก็สามารถใช้ญาติของคนไข้ไปจัดการได้เลย และนี่คือเอกสารที่ต้องเขียนรายละเอียดยื่นให้สมาพันธ์ มีเอกสารด้วย เตรียมมาให้พร้อมแล้วเอามาให้อาจารย์ เข้าใจไหม และหากรักษาเบื้องต้นเสร็จก็กลับบ้านได้เลย อาจารย์ต้องรีบไปประชุม" อาจารย์หม่าสั่งงาน

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 19 เรียกร้อง

    บทที่ 19 เรียกร้องในทุกเช้า เยว่หรูจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารบำรุงหลายอย่าง ต้มน้ำแกง ต้มยาสมุนไพรต่าง ๆ และทำอาหารหลากหลายเมนูเก็บไว้ ในทุกวันที่ไปเรียน เยว่หรูต้องเอาน้ำต้มสมุนไพรไปฝากคุณครูหมิงเว่ยเธอยังไม่สามารถให้อย่างอื่นเพื่อตอบแทนคุณครูได้ เพราะครูรู้ดีว่าครอบครัวของเธอยากจน การที่จะได้กินหรือมีสิ่งของดี ๆ นั้นมันแทบไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เมื่อมีโอกาสเธอต้องตอบแทนแน่นอนในระหว่างที่ตัวเองกำลังคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจ เหมือนคนไข้ที่ชื่อหานหรงอี้นั้นไม่เป็นอะไรเลย การไหลเวียนของเลือดมันไม่สมดุลและเหมือนร่างกายมีภาวะเย็นมากเกินไป แต่เธอไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เพราะการตรวจของเธอนั้นต้องยุติก่อนที่จะตรวจเสร็จ ยังไม่ได้ดู ดม และสอบถามเลย อาจารย์ก็บอกพอก่อนและให้เธอกลับมาทำรายงานส่งเยว่หรูมองไปที่สมุดรายงานของตัวเอง ก่อนที่จะจัดเตรียมอาหารให้เรียบร้อย เมื่อวานพ่อก็ต้องเดินไปรอรับ เพราะกว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็เริ่มเย็นแล้ว แล้วที่นี่จะมืดเร็วเสียด้วย หกโมงเย็นนี่เริ่มมืดแล้ว ทั้งที่เธออยากให้พ่อแม่พักผ่อนแต่ต้องไปรับเธอกลับ คงต้องหาวิธีอื่นรอแล้ว ไม่

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 18 หานหรงอี้

    บทที่ 18 หานหรงอี้จางหยวนขอตัวจากกลุ่มคนมาใหม่และหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อจะได้รีบไปส่งลูกสาวแล้วไปทำธุระของเขาให้เรียบร้อย และที่เขารีบขอตัวออกมาเพราะเห็นกลุ่มคนมาใหม่มองลูกสาวของเขาไม่วางตาเลย ทั้งที่ลูกสาวเขายืนอยู่ด้านหลัง แต่ทุกคนก็ดูจะสนใจลูกสาวของเขา ทางที่ดีต้องรีบออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุดหานหรงอี้ มองตามคนตัวเล็กกับพ่อเดินไปจนสุดสายตา ทั้งที่คนตัวเล็กไม่ยอมหันมาทักทายหรือยิ้มแย้ม มันยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเด็กสาวจะชอบคนที่มียศมีตำแหน่งหรอกหรือ การมาของพวกเขานั้นไม่ใช่ความลับ ยังไงสาวน้อยคงจะพอรู้ หากบอกว่าหลบเพราะเขินอายก็ไม่น่าจะใช่ เพราะสายตาที่ใช้มองพวกเขานั้นเหมือนรังเกียจมากกว่า"นายครับ เราต้องไปให้ทันเวลาหมอนัดนะครับ" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาหานายที่ไม่สนใจจะไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดเลย"จะรีบไปไหน โรงพยาบาลก็อยู่แค่นี้ ไม่ต้องตามกันมาเยอะแยะ กลับไปดูคนงานได้แล้ว" หานหรงอี้บอกลูกน้องที่ตามมาเป็นพรวน ทั้งที่อาการเขาดีขึ้นแล้ว เดินเหินได้เหมือนเดิม แต่คนพวกนี้ก็ยังจะตามติดเขาอยู่นั่นแหละ"นายมองสาวน้อยคนนั้นหรือกำลังชื่นชมธรรมชาติครับ" คนสนิทมองตามสายตาคนเป็นนาย

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 17 คนมาใหม่

    บทที่ 17 คนมาใหม่เมื่อคืนเยว่หรูเข้ามานอนในมิติบ้าน เพื่อเตรียมสิ่งของที่จะได้ทำอาหารในตอนเช้า เช้านี้เลยมีทั้งกับข้าวที่เป็นไข่ม้วน กับข้าวสวยร้อน ๆ และมีกระดูกหมูตุ๋นยาจีน เตรียมนมอุ่น ๆ และต้มยาสมุนไพรด้วย ตอนนี้ยังหาข้ออ้างไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าจะบอกว่าเอาสิ่งของพวกนี้มาจากไหน ต้องรอกลับจากโรงพยาบาลแล้วค่อยบอกเป็นค่าตอบแทน เพราะวันนี้เธอมีไปฝึกงานที่โรงพยาบาลส่วนมื้อเช้ามีแบบไหนก็คงต้องกินแบบนั้นไปก่อน ถึงจะอยากให้ทุกคนได้กินอาหารดี ๆ แต่หากไม่ระวัง... ความลับที่ต้องการปกปิดมันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป แล้วหากมันไม่ได้เป็นความลับ เรื่องที่เธอปิดบังทั้งหมดก็อาจถูกเปิดเผย... คนมีความลับเยอะอย่างเยว่หรูเลยต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียน...ในโลกนี้ยุคนี้... กินดีอยู่ดีมากไปก็ไม่ดี... แต่หากหาที่มาที่ไปได้ก็ไม่มีปัญหา... รอให้เธอรู้ผลว่าผ่านการทดสอบเสียก่อน... เธอยังสามารถบอกว่าทุกอย่างที่ได้มาคือสิ่งของสนับสนุน แต่หากเธอไม่ผ่าน... ค่อยคิดหาวิธีอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร...เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เยว่หรูก็เข้าไปอาบน้ำทาครีมบำรุง... ทำทุกอย่างแบบที่เคยทำในโลกเดิม ยังดีที่เครื่องสำอางที่ใช้..

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 16 ตอบแทนบุญคุณ... คนที่สมควรจะได้รับ

    บทที่ 16 ตอบแทนบุญคุณ... คนที่สมควรจะได้รับขอบคุณคุณยายที่มอบสร้อยข้อมือเส้นนี้ให้หนู... ขอบคุณที่คุณยายยัดเยียดให้ทั้งที่ตอนแรกหนูปฏิเสธไปแล้ว ขอบคุณมาก ๆ นะคะเยว่หรูกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง หลังจากที่พิสูจน์ได้แล้วว่า... สร้อยข้อมือนี้คือมิติบ้านของเธอ... หากอยากเข้าหรือออกเพียงเอามือสัมผัสที่สร้อยข้อมือก็สามารถเข้าออกได้ตามที่ใจต้องการเยว่หรูสามารถหยิบสิ่งของออกมาข้างนอกได้... มันเหมือนในนิยายที่เคยอ่านเจอ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งของที่เธอหยิบออกมาแล้วมันจะมีมาเติมให้ใหม่ไหม หรือว่าหมดแล้วหมดเลย เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาเป็นการพิสูจน์ "เอานมนี่แหละ... ลองก่อนเป็นอย่างแรก แล้วจับเวลาว่าด้านนอกกับในมิติบ้านนี้เวลาแตกต่างกันไหม" เยว่หรูพึมพำพร้อมกับหยิบนาฬิกาจับเวลา เพื่อพิสูจน์ว่าด้านนอกและด้านในมีเวลาเท่ากันไหมส่วนอาหารที่เอาออกมาก็ยังเอาอะไรออกมามากไม่ได้ หากแตกต่างมาก เยว่หรูจะยังไม่เอาออกไปข้างนอก เพราะมันต้องมีคำถามตามมาแน่ ๆ เธอยังไม่อยากให้ใครรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้... ไม่รู้มีข้อห้ามอะไรไหม... หากบอกคนอื่นแล้วมิติบ้านหายไปล่ะ... เธอยังไม่อยากเสี่ยงในตอนนี้และที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 15 มาช้าดีกว่าไม่มา

    บทที่ 15 มาช้าดีกว่าไม่มาเยว่หรูเดินกลับบ้านในทิศทางเดิม เธอไม่ได้ออกนอกเส้นทางไปทางอื่นเลย มองเวลาแล้วเธอต้องรีบกลับ หากชักช้ามันอาจถึงบ้านมืดได้ เพราะตั้งใจเดินกลับบ้านเพื่อประหยัดเงิน"หนู ๆ ช่วยยายหน่อย" เสียงร้องเรียกใครไม่รู้ แต่เพราะมันเสียงดังเลยทำให้เยว่หรูที่กำลังรีบเดินกลับบ้านหันไปมองหาที่มาของเสียง"เรียกหนูเหรอคะ" เมื่อไม่เห็นใครนอกจากตัวเธอเองก็หันไปถามคุณยาย"ใช่ ๆ พอดียายจะกลับบ้านแต่ของมันเยอะ ช่วยถือไปส่งหน่อยได้ไหม ไม่ไกล ๆ ซอยข้างหน้านี่เอง" เมื่อเห็นเด็กสาวหันมามองแล้วเลยขอความช่วยเหลือ"อ้อ... ได้ค่ะคุณยาย" เยว่หรูมองกระสอบที่วางอยู่ใกล้ ๆ เลยเข้าไปช่วยหิ้วทันที"ยายเดินนำ ตามมาเลย" บอกจบก็เดินนำหน้าเลยส่วนเยว่หรูที่อุ้มกระสอบก็สงสัยว่าคืออะไรอยู่ข้างใน มันไม่ได้หนักมาก จากที่สัมผัสดูเหมือนเป็นผ้าเลย มัวแต่มองสิ่งที่ตัวเองถือและเดินตามหลังคุณยายเลยไม่ได้สังเกตสิ่งที่อยู่รอบข้าง"ส่งถึงตรงนี้แหละหนู ขอบใจมาก อันนี้ยายให้เป็นค่าตอบแทน" บอกพร้อมกับยื่นสร้อยข้อมือมาให้"ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย แค่นี้เองค่ะ" เยว่หรูบอกพลางวางกระสอบก่อนที่จะมองรอบ ๆ ความสงสัยก็เกิดขึ้นทั

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 14 เริ่มทำแบบทดสอบ

    บทที่ 14 เริ่มทำแบบทดสอบแบบทดสอบที่เยว่หรูได้รับมีทั้งหมดสองฉบับ... หนึ่งฉบับเป็นแบบทดสอบเกี่ยวกับความรู้สมุนไพรเบื้องต้น แบบที่สองคือการรักษาขั้นพื้นฐานของแพทย์แผนจีน... แบบทดสอบต้องตอบเป็นข้อเขียนทั้งหมด หรือก็คืออัตนัยนั่นเอง...ถึงแม้ว่าเยว่หรูจะเป็นแพทย์แผนจีนมาก่อน แต่ก็ยังไม่วางใจ เพราะสิ่งที่เธอถนัดและคุ้นเคยนั้น... เป็นความรู้และการรักษาแบบโลกเดิม คือปี 2020 มันคือการรักษาแบบประยุกต์ มีการรักษาแผนปัจจุบันเข้ามาร่วมด้วย หากทดสอบโดยให้รักษาจะไม่มีปัญหาเพราะเธอเคยทำมาแล้ว แต่การทดสอบตอนนี้นั้น... ต้องตอบตามแบบหนังสือ พลิกแพลงมากไม่ได้ เลยทำให้เยว่หรูใช้เวลาในการทดสอบเรื่องการรักษาด้วยสมุนไพรค่อนข้างนานทำแบบทดสอบได้... แต่ไม่รู้จะผ่านไหม ต้องรอดูอย่างเดียว มั่นใจมากไม่ดี... จงรู้ไว้ว่าในหนังสือเรียนกับสถานการณ์จริงแตกต่างกันมาก แล้วคนที่เรียนจบมาจนทำงานแล้วแบบเธอ... บางอย่างในหนังสือเรียนที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็หลงลืมเป็นธรรมดา และที่สำคัญหนังสือเรียนแพทย์แผนจีนของที่นี่ก็ไม่ค่อยมีให้อ่านมากนัก"เสร็จแล้วค่ะ" เยว่หรูยื่นเอกสารให้คุณตา ก่อนจะมานั่งรอและมองทุกอย่างรอบ ๆ ตัว เหมือนที่นี

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 13 เข้าเมืองคนเดียว

    บทที่ 13 เข้าเมืองคนเดียวเยว่หรูเริ่มชินกับการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่บ้างแล้ว ตอนเช้าจะช่วยแม่ทำงานบ้าน ช่วยพ่อรดน้ำผัก เริ่มทดลองปลูกสมุนไพรที่ทางการอนุญาตให้ปลูกได้ เยว่หรูมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามเดือนแล้ว หมดหวังเรื่องมิติวิเศษเหมือนในนิยายที่ตัวเองชอบอ่าน... สามเดือนแล้วคงไม่มีมาแล้ว...เรื่องยัยป้ามหาภัยนั่นเริ่มดีขึ้น อาจเพราะยังไม่ได้เจอกัน... เลยยังไม่มีปัญหา และตั้งแต่ที่เธอพูดกับพ่อเมื่อวันนั้น พ่อก็พูดกับปู่ในวันที่ปู่เรียกพ่อไปหาอีกครั้ง ในตอนแรกเธอไม่เข้าใจว่าทำไมปู่ถึงชอบเรียกพ่อไปที่บ้านนั้นบ่อย ๆ ทำไมไม่มาดูบ้างว่าพ่ออยู่ยังไง แต่พอแม่บอกว่า... เพราะปู่ต้องการให้พ่อรู้ว่าที่นั่นก็คือครอบครัวพ่อเหมือนกันไม่รู้ว่าพวกเขานิยามคำว่าครอบครัวแบบไหน พ่อลำบากกว่าลูกคนอื่น ๆ อยากให้มาดูบ้านพ่อ ที่อยู่ที่นอนของพ่อเหลือเกิน หากเปรียบกับพวกเขาแล้ว แตกต่างกันอย่างมากยังดีที่ตอนนี้ครอบครัวของเธอได้เสื้อผ้ามาจากคุณครูที่โรงเรียนเอามาให้ เลยมีเสื้อผ้าใส่เปลี่ยนหลายชุด ภรรยาของคุณครูหมิงเว่ยก็เอาชุดที่ไม่ได้ใส่แล้วมาให้แม่ของเธอด้วย พ่อของเธอก็ได้เสื้อผ้าบางตัวของคุณครูหมิงเว่ย แต่แค่บางตั

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 12 ผลกำไรที่ได้รับ

    บทที่ 12 ผลกำไรที่ได้รับเยว่หรูรดน้ำผักอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้ใบหน้าข้างหนึ่งจะบวมเป่งจากการถูกยัยป้าข้างบ้านตบ ไม่สิ... ป้าข้างบ้านไม่กล้าขนาดนี้ ส่วนมากแค่ชอบถาม อยากรู้อยากเห็นมากกว่า บางทีก็มีประโยชน์ เหมือนมีกล้องวงจรปิดประจำบ้านให้ด้วย แขกไปใครมาสามารถรู้หมด ไม่ต้องเสียเงินติดตั้งด้วย แถมรายงานผลรวดเร็วทันใจอีกต่างหากเมื่อรดน้ำผักเรียบร้อยแล้ว เยว่หรูก็เดินเก็บใบไม้แห้งทั้งหลายมาโยนใส่หลุมไว้ทำปุ๋ยใบไม้แห้ง ทำงานไปด้วยร้องเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ดี... ไม่ว่าเสียงร้องจะเหิน สำเนียงจะเพี้ยนแค่ไหนก็ยังร้องอย่างอารมณ์ดี...การลงทุนของเยว่หรูนั้นถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ทุกคนในหมู่บ้านเข้าข้างเธอเพียงแค่เห็นยัยป้านั่นด่าทอบ่อย ๆ นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ตลอดระยะเวลาเดือนกว่าที่เธอไม่ตอบโต้ไม่พูดไม่เถียง เพื่อทำให้ทุกคนได้เห็นในสิ่งที่ยัยป้าทำ แต่พอเจอวันที่เธอเอาคืน ไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการยั่วยุให้ยัยป้าโดดลงมาทำร้ายเธอเลยทำให้คนไม่เชื่อในสิ่งที่ยัยป้าพูดถึงมันจะดูสิ้นคิด แต่หากไม่ทำแบบนั้นเธอจะเอาอะไรไปสู้ ตบตีไม่มีทางชนะเพราะตัวเธอเล็กนิดเดียว จากที่ใช้สมองอันน้อยนิดคิดก็มีแต่เรื่องน

DMCA.com Protection Status