All Chapters of ศิษย์น้องหญิงเล็ก พวกพี่บำเพ็ญเพียรไม่ไหวแล้ว: Chapter 11 - Chapter 20

40 Chapters

บทที่ 11

“นี่คือศิษย์พี่รองตู๋กูเจี้ยนอีกับศิษย์พี่หญิงห้าหนิงซือเยว่ของเจ้า” โม่จิงหงขัดจังหวะความคิดนางด้วยเสียงทุ้มลึกเฟิ่งชิงหร่านล้มเลิกการตามหาเบาะแสของไข่สีดำ คำนับทักทาย “คารวะศิษย์พี่รองกับศิษย์พี่หญิงห้า” “ศิษย์น้องหญิงเล็ก ของขวัญพบหน้ากันครั้งแรกค่อยชดเชยให้เจ้าทีหลังนะ” ตู๋กูเจี้ยนอีสวมชุดสีดำ รูปร่างสูงใหญ่ คิ้วคมเหมือนดาบ ดวงตาเปล่งประกายคล้ายดวงดาว สายตาเฉียบคมประดุจอินทรีในยามราตรี“หรือไม่ศิษย์พี่รองตอบตกลงคำขอของข้าหนึ่งข้อ ถือว่ามอบของขวัญพบกันครั้งแรกให้ข้า เป็นอย่างไรเจ้าคะ?” เฟิ่งชิงหรานรู้ว่าตู๋กูเจี้ยนอีไม่มีอะไรจะให้จริงๆตู๋กูเจี้ยนอี ปีศาจกระบี่ที่ผู้คนได้ยินแล้วต้องอกสั่นขวัญผวาบนแผ่นดินใหญ่ในอนาคตในนิยายต้นฉบับเขียนไว้ว่า ตู๋กูเจี้ยนอีไม่มักมากในทรัพย์ เป็นผู้คลั่งไคล้กระบี่ต่อให้ยากจนแสนเข็ญ ก็ไม่เคยรับเงินผู้อื่นต่อมาเขาได้ฆ่าล้างบางตระกูลฉินที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่เพียงลำพัง ก้าวเข้าสู่เส้นทางวิชามาร ท้ายที่สุดตายภายใต้คมกระบี่ของซูเยียนหราน หลังจากซูเยียนหรานค้นแหวนมิติของของเขา รู้สึกขยะแขยงมาก “ศิษย์น้องหญิงเล็กเชิญพูด”“ศิษย์พี่รองสามารถเข้
Read more

บทที่ 12

หลิ่วชางหลานยิ้มแต่ไม่พูด แววตาสุกใสอ๊ะ!เสียงกรีดร้องสายหนึ่งดึงดูดความสนใจของทุกคน จากนั้นก็ได้ยินมู่เชียนเจวี๋ยกล่าวอย่างร้อนใจ “รีบไปตามตาเฒ่ากลับมา ถ้ายังไม่กลับมาลูกศิษย์ของเขาเป็นบ้าแน่”ทุกคนต่างมีสีหน้าเป็นกังวล เหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่มู่เชียนเจวี๋ยร้อนใจเช่นนี้“ข้าจะส่งเสียงถึงอาจารย์เดี๋ยวนี้ ศิษย์น้องเจ็ดเจ้าไปดูศิษย์น้องสี่ก่อน” หลิ่วชางหลานรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที อาจารย์มักจะหายตัวไปเรื่อย ไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง จะกลับมาคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันเป็นดังคาด หลิ่วชางหลานเพิ่งใช้ยันต์ส่งเสียงส่งข่าวให้เย่เวิ่นเทียน ทางนั้นก็ตอบกลับทันที“ศิษย์เอกเอ๋ย อาจารย์กำลังอยู่ในแดนดิน…เอ่อ…ลับแห่งหนึ่ง กลับไปไม่ได้…เอ่อ เจ้าไปตามจิงหงมาจัดการก่อน”หลิ่วชางหลานเลิกคิ้ว กลั้นเรอหน่อยเถอะอาจารย์ เขาเกือบจะเชื่อแล้ว!หลิ่วชางหลานกัดฟัน อธิบายกับคนรอบข้าง “ตอนนี้อาจารย์ยังกลับมาไม่ได้ ศิษย์น้องเจ็ด เจ้าว่าควรทำอย่างไร?”“ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วง ชีวิตของศิษย์พี่สี่ไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แค่เขาได้รับเพลิงพิเศษกะทันหัน ยังไม่สามารถควบคุมได้ รอเขาสามารถควบคุมเพลิงพิเศษได้ก
Read more

บทที่ 13

“ข้าอยากให้ศิษย์พี่สี่เข้าร่วมการแข่งของสำนักในอีกสองปีข้างหน้า” เดิมทีเฟิ่งชิงหร่านอยากให้ทุกคนเข้าร่วมแต่หลังจากอ่านบันทึกเกี่ยวกับการแข่งขัน รู้มาว่าการแข่งขันจะจัดขึ้นทุกสิบปี และผู้ที่เข้าร่วมจะต้องมีอายุไม่เกินสองร้อยปีนี่จึงส่งผลให้ในบันทึกการแข่งขัน ไม่มียอดฝีมือระดับกำเนิดวิญญาณแม้แต่คนเดียวอย่างไรก็ตามยอดฝีมือที่สามารถบรรลุระดับกำเนิดวิญญาณตอนอายุสองร้อยปีนั่นมีน้อยยิ่งกว่าน้อยต่อให้มี อัจฉริยะระดับนี้ก็ไม่ลดตัวลงมาเข้าร่วมกันแข่งขันเช่นนี้อีกทั้งนางตัดสินใจเก็บศิษย์พี่ใหญ่กับศิษย์พี่เจ็ดไว้เป็นอาวุธลับ ก่อนที่สองคนนี้จะทะลวงถึงระดับหลอมเทพ จะแสดงความสามารถไม่ได้เด็ดขาดมู่เชียนเจวี๋ยครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าตอบตกลงแล้วแม้การแข่งขันเช่นนี้น่าเบื่อ แต่ในเมื่อศิษย์น้องหญิงเล็กอยากไป เขาก็ต้องไปเป็นเพื่อน“ศิษย์น้องหญิงเล็ก ข้าก็จะไปด้วย” ดวงตาหนิงซือเยว่แวววาว เสียงสายดุจกระดิ่ง“ข้าก็จะไป!” ดวงตาที่คล้ายตาจิ้งจอกของไป๋หลี่เหวินเยว่เปล่งประกายความสนใจ คนเยอะสนุกดีหนิงซือเยว่กลอกตาหนึ่งรอบ “ต้องเรียกศิษย์พี่หญิงสามกับศิษย์น้องแปดด้วย พวกเขาอยากไปตั้งนานแล้ว แ
Read more

บทที่ 14

“ปรมาจารย์เชียนจี! เจ้าแน่ใจนะว่าเขาอยู่เขตหั่วหลิง?” ที่มู่เชียนเจวี๋ยยอมเข้าสำนักหลิงอวิ๋นก็เพราะเย่เวิ่นเทียนบอกเขาว่า สามารถพาเขาไปพบปรมาจารย์เชียนจีแต่ปรากฏว่าหลังจากเขาเข้าสำนักหลิงอวิ๋นหลายสิบปี อย่าว่าแต่ได้พบปรมาจารย์เชียนจีเลยแค่จำนวนครั้งที่ได้พบเย่เวิ่นเทียนก็สามารถนับด้วยนิ้วมือ……ขณะเดียวกันเย่เวิ่นเทียนที่อยู่เขตหั่วหลิงจามติดต่อกันหลายครั้งฉับพลัน เขากล่าวอย่างมึนเมา “เชียนจี เจ้าเรียกข้ามากระทันหันมีเรื่องอะไร?”“เจ้าได้ทำตามสัญญา ไม่รับลูกศิษย์ภายในเวลาหนึ่งร้อยปีหรือไม่?” ชายสวมชุดสีขาวที่อยู่ด้านข้างกล่าว ดวงตาของเขาแจ่มใส ไม่มีความสุขหรือเศร้า ราวกับว่าสามารถมองทะลุทุกสรรพสิ่ง“เอ่อ…สัญญา? ข้ารักษาสัญญาอยู่แล้ว” เย่เวิ่นเทียนกล่าวพลางกรอกสุราเข้าปากอีกคำ มีความหนาวเย็นที่ไม่สามารถสังเกตเห็นแลบผ่านแววตาฉู่เชียนจี ราวกับหิมะอุ่นที่ยังไม่ละลายในฤดูใบไม้ผลิ “แล้วเฟิ่งชิงหร่านเป็นใคร?”เย่เวิ่นเทียนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ลูกศิษย์คนที่เก้าของข้า”“เวิ่นเทียน สัญญาณร้อยปียังไม่ถึง เหตุใดต้องรับลูกศิษย์?”“แต่ข้าไม่ได้รับเฟิ่งชิงหร่านในงานชุมนุมใหญ่ประจำสำนั
Read more

บทที่ 15

เขตชิงอวิ๋น เมืองจู้จ้าวเคร้ง เคร้ง เคร้ง!สามารถได้ยินเสียงเคาะตีทั่วทั้งเมือง“ศิษย์น้องหญิงเล็ก คนที่พวกเราตามหาจะปรากฏตัวเมื่อใด?” หน้าตาโม่จิงหงหล่อเหลาอย่างอธิบายไม่ถูก ทุกการเคลื่อนไหวล้วนแสดงถึงความสูงศักดิ์เขาในชุดสีเงิน สะอาดไร้มลทินท่ามกลางเมืองจู้จ้าวที่มีถ่านไฟลุกโชน “ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว” ดวงตาที่สุกใสราวกับผลึกแก้วของเฟิ่งชิงหร่านกวาดมองโดยรอบ“ถ้าหากข้าจำไม่ผิด เมื่อสามวันก่อนศิษย์น้องหญิงเล็กก็พูดเช่นนี้”เฟิ่งชิงหร่านร้อนตัวเล็กน้อย นางก็ไม่รู้ว่าจะเจอประมุขหอคุนเซวียนวันไหนกันแน่แต่จำได้ว่าคร่าวๆ ว่าช่วงนี้แหละ เฟิ่งชิงหร่านกับซูเยียนหรานมาเที่ยวเมืองจู้จ้าวด้วยกันทั้งสองพบกับชายชราคนหนึ่งบนถนน เฟิ่งชิงหร่านพบว่าบนมือขวาของชายชรามีเส้นสีแดงแปลกๆ ซึ่งคล้ายกับลักษณะของการถูกพิษชนิดหนึ่งที่ได้อธิบายไว้ในตำราโบราณเฟิ่งชิงหร่านจะเข้าไปบอกชายชรา กลับโดนซูเยียนหรานดึงไว้ ไม่ให้นางไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นรอหลังจากทั้งสองกลับถึงสำนักกระบี่สวรรค์ ซูเยียนหรานก็แอบกลับไปหาชายชราที่เมืองจู้จ้าว เล่าเรื่องที่เขาถูกพิษ และบอกว่าสามารถรักษาเขาซูเยียนหรานเอาสูตรยาที่เฟ
Read more

บทที่ 16

หลังจากซูเยียนหรานชนคน นางยัดหินวิญญาณระดับต่ำใส่มือชายชราหนึ่งก้อนก็จะไปเมื่อชายชราเห็นหินวิญญาณ บนใบหน้าที่ไร้อารมณ์แสดงความประหลาดใจ พลันคว้าไหล่ของซูเยียนหราน “นางหนู นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”ทว่าชายชราไม่ทันได้พูดอะไร ซูเยียนหรานชิงกล่าวก่อน “หนึ่งก้อนยังไม่พออีกหรือ? เช่นนั้นข้าให้เจ้าอีกห้าก้อน เลิกยุ่งข้าค่าเสียที”สีหน้าซูเยียนหรานเต็มไปด้วยความรำคาญ อยู่ในสำนักกระบี่สวรรค์ต้องอดกลั้นเซิ่งซือเข่อ พอออกมาข้างนอกยังต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้อีกซวยจริงๆ!“นางหนู เจ้าชนคนไม่ขอโทษ กลับเอาหินวิญญาณมาดูหมิ่นผู้อื่น” ชายชรากำหมัดเล็กน้อยสีหน้าซูเยียนหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย คนผู้นี้ช่างไม่รู้จักดีชั่วจริงๆ “เจ้าต่างหากที่พุ่งเข้ามาชนข้ากะทันหัน”ขณะเดียวกัน ซูเยียนหรานก็เริ่มกวาดมองชายชราอย่างละเอียด นางพบว่าบนตัวเขาไม่มีคลื่นพลังวิญญาณเลย อีกทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูเก่ามากมีความดูถูกแลบผ่านแววตานาง มั่นใจแล้วว่าชายชราจงใจหาเรื่องนางขว้างหินวิญญาณระดับกลางไปตกที่เท้าชายชราหนึ่งก้อน จากนั้นกล่าวเย้ยหยัน “ก็แค่อยากได้หินวิญญาณเพิ่มไม่ใช่หรือ! เก็บเองเลย”“นางหนูอวดดีนัก!” ชาย
Read more

บทที่ 17

“พวกเจ้าเป็นคนช่วยข้าหรือ?” ลมหายใจของชายชรายังอ่อนเล็กน้อย แต่หน้าตาและสีหน้าดูดีขึ้นมาก“ไม่ นางเป็นคนช่วยท่าน” โม่จิงหงกล่าวด้วยสายตาเฉยเมยชายชราลุกขึ้นนั่ง เฟิ่งชิงหร่านเข้าไปประคองเขาลุกขึ้นยืน การโจมตีของซูเยียนหรานไม่ได้โดนจุดอันตรายของชายชรา ก่อนหน้านี้ที่เขาล้มลง ที่จริงเป็นเพราะพิษในร่างกายเขากำเริบชายชราถอยหลังหนึ่งก้าว คำนับขอบคุณเฟิ่งชิงหร่านด้วยมารยาทสูงสุด “ขอบคุณบุญคุณช่วยชีวิตของแม่นาง รบกวนแม่นางบอกที่อยู่ให้หน่อย ไว้วันหลังจะส่งของขวัญขอบคุณไปให้แน่นอน”“ไม่ต้องวันหลัง วันนี้เลย” ชายชรายังไม่เข้าใจ เฟิ่งชิงหร่านก็กล่าวต่อแล้ว “แค่ท่านช่วยไขข้อสงสัยบางอย่างให้ข้า ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนแล้ว”“แม่นางถามมาได้”“เหตุใดท่านกินโอสถห้ามเลือดล่วงหน้า?” นี่คือคำถามแรกของเฟิ่งชิงหร่านชายชราถอนหายใจ แล้วกล่าวช้าๆ “ข้าถูกพิษกลืนวิญญาณ ตอนที่พิษกำเริบ เส้นเลือดทั้งร่างจะเดือดพล่าน เลือดกระเซ็นไปทั่ว ข้ากลัวว่าเลือดพิษจะไปทำร้ายผู้อื่น”เฟิ่งชิงหร่านพยักหน้า หันไปมองโม่จิงหงแวบหนึ่ง เพื่อบอกให้เขาถามต่อดวงตาดุจดวงดาวของโม่จิงหงเป็นประกาย เขายิ้มแต่ไม่พูดเฟิ่งชิงหร่านอ
Read more

บทที่ 18

โม่จิงหงพาเฟิ่งชิงหร่านมาถึงร้านค้าที่ทรุดโทรมแห่งหนึ่งทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน เถ้าแก่กำลังดีดลูกคิดบนโต๊ะ เมื่อเห็นมีคนเข้ามา เขาแค่เหลือบมองแวบหนึ่ง ก็คิดบัญชีต่อแล้วเฟิ่งชิงหร่านรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ของที่ขายภายในร้านล้วนเป็นอาวุธอาคมระดับหนึ่ง ร้านค้าที่ขายอาวุธอาคมเช่นนี้มีเยอะมาก แต่ขายแค่อาวุธอาคมระดับล่างกลับไม่มีและอาวุธอาคมมากมายในร้านล้วนมีฝุ่นเกาะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าของร้านไม่ค่อยใส่ใจเห็นเพียงโม่จิงหงเดินไปที่หน้าโต๊ะ นิ้วมือที่เรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะอย่างมีจังหวะสามทีเถ้าแก่เงยหน้าขึ้น กวาดมองคนทั้งสองแวบหนึ่ง แล้วนำป้ายไม้ชิ้นหนึ่งวางบนโต๊ะ “หินวิญญาณระดับสุดยอดคนละหนึ่งก้อน”โม่จิงหงนำหินวิญญาณสองก้อนวางบนโต๊ะ หยิบป้ายไม้ และยื่นอีกชิ้นให้เฟิ่งชิงหร่านเถ้าแก่เก็บหินวิญญาณแล้วกล่าวเสียงเรียบ “ทุกครั้งที่เข้าไปห้ามเกินสามชั่วยาม หนึ่งเดือนเข้าได้แค่สองครั้ง”“หลังจากเข้าไปแล้วซื้อขายได้อย่างอิสระ ทางร้านไม่แบกรับความเสี่ยงในการซื้อขาย นอกจากนี้ข้างในห้ามใช้พลังวิญญาณ เมื่อไรที่ใช้พลังวิญญาณ ก็จะมีผู้คุมกฎปรากฏตัว ทำลายป้ายไม้ ขับออกจากตลาดมืด”เถ้าแก่กล่า
Read more

บทที่ 19

เจ้าของแผงกวาดมองเฟิ่งชิงหร่านอีกครั้งชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน กลิ่นอายสูงสง่า ดุจดอกบัวสีฟ้าเพียงหนึ่งเดียวในโลก ทำให้ผู้พบเห็นต้องตะลึง ด้อยค่าตัวเอง ไม่กล้าสบประมาทเฟิ่งชิงหร่านเห็นเจ้าของแผงเหม่อลอย นางกล่าวเสียงเย็น “ยังมีอะไรอีกหรือ?”เจ้าของแผงหวนคืนสติ สะดุ้งตกใจ รีบกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สหายของแม่นาง นั่งค่ายกลเคลื่อนย้ายตามหลังแม่นางใช่หรือไม่?”ดวงตาอันงดงามเฟิ่งชิงหร่านฉายแววสงสัย “เถ้าแก่ถามเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”“แม่นางอย่าเข้าใจผิด ข้าน้อยแค่อยากบอกแม่นางว่า จุดลงจอดของค่ายกลเคลื่อนย้ายเป็นแบบสุ่ม สหายของแม่นางน่าจะถูกส่งไปที่อื่นแล้ว เจ้ารอที่นี่ไม่มีประโยชน์หรอก”มุมปากเฟิ่งชิงหร่านกระตุกเบาๆ เหตุใดโม่จิงหงไม่พูดเรื่องที่สำคัญเช่นนี้?ถ้าบอกว่าโม่จิงหงไม่รู้เรื่องนี้ ตีให้ตายนางก็ไม่เชื่อ!เดิมทีเฟิ่งชิงหร่านอยากรอให้เจ้าของแผงไปก่อนค่อยไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนไม่ต้องแล้ว “ขอบคุณเถ้าแก่ที่บอก”“แม่นางเกรงใจแล้ว แล้วก็ในตลาดมืดใช้ยันต์ส่งเสียงไม่ได้นะ” เจ้าของแผงเห็นเฟิ่งชิงหร่านถ่อมตนมีมารยาท จึงเตือนด้วยความหวังดี “แม้ตลาดมืดแห่งนี้มีผู้ตรวจตรา แต่แม่นางตัวคนเดียว
Read more

บทที่ 20

เสียงของหยวนเป่าแผ่วเบา “นายหญิง ข้าไม่กล้า ข้าเรียกมัน มันไม่ยอมออกมาแน่นอน”หยวนเป่าไม่กล้าบอกเฟิ่งชิงหร่าน สายเลือดของเจ้าไข่น้อยเผด็จการมาก ถ้าหากมันมีเจตนาร้าย คิดจะแย่งชิงมิตินั้นง่ายนิดเดียวแต่โชคดีตั้งแต่วันแรกที่เจ้าไข่น้อยเข้ามา ก็ได้ทำสัญญาร่วมเป็นร่วมตายกับเฟิ่งชิงหร่านแล้ว จึงไม่เป็นภัยต่อนายหญิงและยังมีบางอย่างที่เฟิ่งชิงหร่านไม่เหมาะที่จะรู้ตอนนี้ ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อกันบำเพ็ญเพียรของนาง“ไม่ออกมาหรือ ดีมาก! เช่นนั้นก็ไม่ต้องเอามงกุฎหยกแล้ว” เฟิ่งชิงหร่านกล่าวข่มขู่ เหมือนกับเด็กที่เอาแต่ใจ“แม่นางน้อย มีตรงไหนที่ไม่พอใจหรือไม่” เจ้าของแผงมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเฟิ่งชิงหราน เริ่มรู้สึกร้อนตัว แม่นางน้อยผู้นี้คงไม่ได้รู้อะไรออกกระมัง?เป็นไปไม่ได้!คนผู้นั้นเคยบอกว่าไอมรณะที่อยู่ข้างในโดนปิดผนึกแล้ว เขาเอาไปขายได้เลย ไม่เป็นอันตรายแน่นอน“มงกุฎหยกนี่ขายอย่างไร?” เฟิ่งชิงหร่านเผยอมุมปากเบาๆ ลูบลูกปัดสีแดงบนมงกุฎหยกทีหนึ่งเป็นไปตามที่คาด มีไข่สีดำใบหนึ่งปรากฏในพื้นที่ที่เฟิ่งชิงหรานสามารถตรวจสอบ บนเปลือกไข่มีอักขระยันต์ที่แปลกประหลาดต่างๆ กะพริบ
Read more
PREV
1234
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status