All Chapters of ศิษย์น้องหญิงเล็ก พวกพี่บำเพ็ญเพียรไม่ไหวแล้ว: Chapter 21 - Chapter 30

40 Chapters

บทที่ 21  

เฟิ่งชิงหร่านไม่มีเวลาสนใจจ้าวซื่อ สายตาของนางทอดมองไปที่หน้าแผงขายของของจางซาน ที่นั่นมีเด็กสาววัยราวสิบเอ็ดสิบสองปียืนอยู่ เด็กสาวกำลังคุ้ยหาบางสิ่งบนแผงขายของของจางซาน “เถ้าแก่ ที่ท่านยังมีหินอื่นอีกหรือไม่?” “แม่นางชอบสีอะไรหรือ?” จางซานเผยรอยยิ้มสอพลอเต็มใบหน้า วันนี้เขาเงินไหลเข้ามารัว ๆ เลยจริง ๆ “เอาออกมาให้ข้าดูทั้งหมดเลยสิ” เสียงของเด็กสาวนุ่มนวล ใบหน้าก็น่ารักน่าเอ็นดู จางซานยิ้มกว้าง โบกมือหนึ่งที หินแพรวพราวหลากสีสันจำนวนมากถูกวางกองไว้บนแผงขายของ หินแต่ละก้อนล้วนสวยงามและประณีตมาก ซูเยียนหรานเห็นจำนวนของหินเหล่านั้นแล้วแววตาก็เปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ในสถานที่แห่งนี้ใช้พลังวิญญาณไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้สัมผัสเทพตรวจสอบไม่ได้อีกด้วย หินจำนวนมากขนาดนี้นางต้องใช้เวลาตรวจสอบไปจนถึงเมื่อใดกัน “แม่นาง ทั้งหมดในคลังสินค้าของข้าน้อยอยู่ที่นี่หมดแล้ว” จางซานพิจารณาซูเยียนหราน ดรุณีท่านนี้มองแล้วรู้สึกคุ้นตา ทว่าดวงตามิได้ดูใสสะอาดเหมือนแม่นางท่านก่อนหน้านั้นเลย อีกทั้งร่างกายยังแผ่ไอพยาบาทออกมา ไม่น่ายุแหย่ นางคงมิใช่สหายที่แม่นางน้อยท่านนั้นกำลังตามหากระมัง? จางซา
Read more

บทที่ 22  

เฟิ่งชิงหร่านซ่อนลมปราณ สวมหน้ากาก และเดินตามซูเยียนหรานเข้าไปในโรงรับจำนำ ในตลาดมืดมีผู้แข็งแกร่งระดับเทพจำแลงเฝ้าอยู่ประจำ นางไม่จำเป็นต้องกลัวผู้บำเพ็ญระดับหลอมเทพคนนั้นที่ตามซูเยียนหรานมา ภายในโรงรับจำนำมีแม่นางจำนวนมาก แต่เมื่อเฟิ่งชิงหร่านเข้าไป ก็ยังมีบ่าวรับใช้คนหนึ่งเข้ามาต้อนรับ “ไม่ทราบแม่นางต้องการจำนำสิ่งใดขอรับ?” เฟิ่งชิงหร่านไม่เห็นเงาร่างของซูเยียนหราน จึงลองถามหยั่งเชิงว่า “ที่แห่งนี้ทำแค่กิจการรับจำนำเท่านั้นหรือ?” “พวกเราทำการค้าทุกรูปแบบขอรับ ไม่ทราบแม่นางอยากจะทำอะไรหรือขอรับ?” สีหน้าของบ่าวรับใช้เต็มไปด้วยความทะนง แววตาของเฟิ่งชิงหร่านวูบไหวเล็กน้อย นางลองทำท่าปาดคอหยั่งเชิงดู “แล้วไม่ทราบงานแบบนี้รับด้วยหรือไม่?” สีหน้าของบ่าวรับใช้หนุ่มปกติเรียบเฉยเป็นปกติ กวาดตามองรอบด้านแล้ว ก็กดเสียงลงกระซิบว่า “แม่นางตามข้าน้อยมาขอรับ ไปเจรจากันที่ห้องด้านข้างดีกว่า” เฟิ่งชิงหร่านเดินตามบ่าวรับใช้ ครั้นผ่านประตูหลังเข้ามาแล้ว ก็เห็นห้องข้างเรียงรายเป็นแนวยาว ทุกห้องล้วนแต่มีม่านอาคม ตอนที่เดินผ่านหน้าประตูจะไม่สามารถสืบรู้อะไรได้ทั้งสิ้น เฟิ่งชิงหร่านจงใจย่
Read more

บทที่ 23  

ซูเยียนหรานครุ่นคิดหน้าหลังครู่หนึ่ง ก็เอ่ยปากกล่าวว่า “คืนแหวนมาให้ข้า เจรจาการค้าคราวนี้เป็นอันยกเลิก” ชายชุดดำคืนแหวนให้ซูเยียนหราน ซูเยียนหรานลุกขึ้นและเดินออกไปนอกห้อง ในขณะที่นางกำลังเปิดประตูออก เสียงแหบพร่าของชายชุดดำก็ดังขึ้น “การทำพันธสัญญากับจิตสำนึกบนแหวนนั่น เกรงว่ามีแค่ที่แห่งนี้เท่านั้นที่สามารถช่วยเจ้าลบล้างได้” ซูเยียนหรานชะงักฝีเท้าเล็กน้อย คนชุดดำเปล่งเสียงอีกครั้ง “หากคนอื่นกล้าสัมผัสแหวนวงนี้ เกรงว่าจะต้องถูกอาคมลึกลับแว้งกัดแน่นอน” “เจ้าต้องการจะสื่ออะไรกันแน่?” ซูเยียนหรานมองออกว่าคนชุดดำต้องมีวัตถุประสงค์บางอย่างแน่ ถึงได้คิดจะเป็นศัตรูกับนางมาตลอด ดวงตาดุจนกเหยี่ยวของชายชุดดำฉายประกายเยือกเย็นคมกริบ “แม่นางจำเป็นต้องตอบคำถามของข้าหนึ่งคำถาม เจ้าของแหวนวงนี้ถูกฝังร่างไว้ที่ใด?” นัยน์ตาที่หลุบลงของซูเยียนหรานมีแววตื่นตระหนก เขารู้จักเจ้าของแหวนวงนี้หรือ? มิเช่นนั้นแล้วเหตุใดถึงได้คอยแต่ถามนี่ถามนั่นอยู่ตลอด ซูเยียนหรานข่มความหวาดกลัวในใจเอาไว้อย่างสุดกำลัง “ข้าไปจะรู้ได้อย่างไรว่าถูกฝังที่ใด? ข้าไม่ได้เป็นคนฆ่าเขาสักหน่อย” ซูเยียนหรานไม่ทันสังเก
Read more

บทที่ 24  

เฟิ่งชิงหร่านชะงักฝีเท้า หมุนตัวกลับมา และแสร้งทำเป็นถามอย่างไม่เข้าใจ “การแลกเปลี่ยนไม่สำเร็จก็ต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยหรือ?” “เปล่า! แม่นางน้อยเข้าใจผิดแล้ว” คนชุดดำโบกมือ นัยน์ตาเป็นประกาย “ข้าเพียงต้องการถามแม่นางน้อยว่ามีผลแก่นวิญญาณจริงหรือ?” “มีสิ ในมือศิษย์พี่ใหญ่ข้ายังมีอีกตั้งหลายผลเชียว” เฟิ่งชิงหร่านผงกศีรษะอย่างใสซื่อ และในขณะเดียวกัน ณ สำนักหลิงอวิ๋น ยอดเขาชางหลาน หลิ่วชางหลานจามติดกันถึงสามหน เขาพลิกอ่านเคล็ดวิชาระดับสวรรค์แบบทั้งทรมานแต่ก็สุขใจ พลางพึมพำกับตนเอง “ศิษย์น้องหญิงเล็กช่างสรรหายิ่งนัก การแข่งขันในวงการแบบนี้จะขาดไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่ได้การแล้ว! จะให้คนทรมานมีเพียงข้าไม่ได้ ศิษย์สกุลหลิ่วจะต้องมาร่วมแข่งขันด้วย เขาทำมือมุทรา จากนั้นเหยี่ยวตัวหนึ่งก็บินเข้ามา หลิ่วชางหลานหยิบถุงมิติใบหนึ่งออกมา จากนั้นก็ส่งต่อให้เหยี่ยวตัวนั้นไป หลิ่วชางหลานยิ้มอย่างเบิกบาน แววตาอ่อนโยนฉายประกายสว่างวาบออกมา “นำไปที่เรือนสกุลหลิ่ว ส่งให้ผู้นำตระกูลสกุลหลิ่ว และบอกเขาว่า ศิษย์น้องหญิงเล็กวัยสิบเอ็ดขวบที่ท่านอาจารย์เพิ่งรับเข้ามาในสำนัก บัดนี้ถึงระดับฝึกปราณขั้นห้าแล้ว”
Read more

บทที่ 25  

นอกประตู สามคนกำลังแนบหูติดกับบานประตู ทว่ากลับไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น “เจ้าห้า เจ้าว่าที่พี่ใหญ่ไล่พวกเราออกมา คงมิใช่เพราะคิดจะฆ่าคนแล้วปล้นเอาสมบัติไปหรอกกระมัง?” เจ้าสามคาดเดา “หา! ไม่กระมัง หากคิดจะทำเช่นนี้จริงแล้วผลแก่นวิญญาณของข้าจะทำอย่างไร?” ใบหน้าของเจ้าหาฉายแววตื่นตระหนกทันที เพียะ! คนชุดดำตบศีรษะของสองคนพร้อมกัน “เจ้าโง่ พี่ใหญ่ดีร้ายอย่างไรก็เป็นระดับเทพจำแลงแล้ว ลงมือกับแม่นางน้อยระดับฝึกปราณคนเดียว นางไม่ต้องการชื่อเสียงเกียรติยศแล้วหรือ?!” เจ้าสามและเจ้าห้าสบตากัน ก่อนจะเอ่ยพร้อมกันเป็นเสียงเดียว “ฆ่าปิดปากเสียก็สิ้นเรื่องแล้ว เรื่องแบบนี้ก็จะกลายเป็นความลับที่มีแค่ฟ้าดินรู้ เจ้ารู้ และพวกข้ารู้” คนชุดดำสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ข่มอารมณ์อยากชกหน้าคนไว้อย่างยิ่งยวด “เหอะ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดพวกเจ้าสองคนถึงได้ทำภารกิจเดียวอยู่สามสิบปี ที่แท้มิใช่เพราะขาดฝีมือ แต่ขาดสมอง!” ฆ่าปิดปากดูเหมือนง่าย ความจริงรังแต่จะนำพาปัญหาความวุ่นวายนับไม่ถ้วนมาให้ ยิ่งไปกว่านั้นเฟิ่งชิงหร่านวัยเพียงสิบเอ็ดสิบสองเท่านั้น กลับบำเพ็ญเพียรถึงระดับฝึกปราณขั้นห้าได้แล้ว ผู้น้อยที่มี
Read more

บทที่ 26  

โรงเตี๊ยมหลิงอวิ๋น ห้องรับรองส่วนตัว “ศิษย์พี่เจ็ด ท่านดูจะว่างมากเลยนะ?” เฟิ่งชิงหร่านมองเด็กหนุ่มที่คิ้วคางงามปานภาพวาดตรงหน้า นางมองบนจนตาขาวแทบจะไปอยู่บนฟ้าแล้ว สรุปง่าย ๆ คือโม่จิงหงไม่ยังไม่ได้เข้าไปในตลาดมืดเลยด้วยซ้ำ หลังจากเขาหลอกให้ตนเองเข้าไปในตลาดมืดแล้ว ก็กลับมาจิบน้ำชาสบายใจเฉิบอยู่ที่นี่ โม่จิงหงวางชาใสไว้ตรงหน้าเฟิ่งชิงหร่าน “ศิษย์น้องหญิงเล็ก ดื่มน้ำชาถ้วยนี้หมด ก็ควรจะกลับไปฝึกบำเพ็ญเพียรที่สำนักได้แล้ว” เฟิ่งชิงหร่านกำถ้วยชาแน่น ข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้เผลอสาดน้ำชาใส่หน้าโม่จิงหง ไม่ได้! จะสาดไม่ได้! ตอนนี้นางยังสู้เขาไม่ได้ เฟิ่งชิงหร่านดื่มน้ำชาหมดเกลี้ยงในอึกเดียว วางถ้วยชาลง ลุกขึ้นและเดินออกไปทันที ไม่แม้แต่จะรอโม่จิงหง โม่จิงหงมองเฟิ่งชิงหร่านที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกไป มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเก็บอุปกรณ์ชงชาอย่างใจเย็น กระทั่งเรียบร้อยจึงลุกขึ้น ...... นอกเมืองจู้จ้าว เฟิ่งชิงหร่านบังเอิญได้พบซูเยียนหรานที่นางพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ความรู้สึกในใจของนางซับซ้อนยิ่งนัก ทางหนึ่งนางมีความคิดอยากสังหารซูเยียนหราน ทว่าอีกทางหนึ่งก็ยังมีเรื่องราว
Read more

บทที่ 27  

ซูเยียนหรานชะงักงันไปในเสี้ยวพริบตา แววตาฉายประกายตื่นเต้นยินดี เขาเป็นศิษย์พี่ของนางอย่างนั้นหรือ ทว่าศิษย์พี่ผู้ซึ่งมีรูปโฉมสะเทือนฟ้าเช่นนี้ เหตุใดจึงไม่มีอยู่ในความทรงจำของนางแม้สักเสี้ยว? “คารวะศิษย์พี่” ซูเยียนหรานน้ำเสียงอ่อนโยนลง ดวงหน้างดงามแดงระเรื่อ ท่าทางตื่นเต้นเพราะได้รับความเอ็นดูโดยไม่นึกฝัน ทว่าการเคลื่อนไหวต่อมาของโม่จิงหงกลับทำให้ซูเยียนหรานสีหน้าซีดเผือด เขาเดินตรงไปหาเฟิ่งชิงหร่าน โม่จิงหงเลื่อนมือยื่นขนมถังหูลู่ไม้หนึ่งส่งให้เฟิ่งชิงหร่าน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะที่สุดว่า “เป็นของขวัญไถ่โทษสำหรับศิษย์น้องหญิงเล็ก” “ถือว่าท่านรู้จักอ่านสถานการณ์” เฟิ่งชิงหร่านรับขนมถังหูลู่มา และกัดไปหนึ่งคำ ซานจายังมีพลังลมปราณแฝงไว้จาง ๆ นัยน์ตาผลซิ่งของเฟิ่งชิงหร่านสะท้อนประกาย มันคืออาหารวิญญาณ มิน่าโม่จิงหงถึงได้มาช้านัก ที่แท้ก็ไปตั้งใจหาอาหารวิญญาณนั่นเอง หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็เดินผ่านซูเยียนหรานไป ไม่แม้แต่จะแลมองซูเยียนหรานสักสายตา ซูเยียนหรานงอห้านิ้ว กำมือแน่น ใบหน้าค่อย ๆ บิดเบี้ยว เฟิ่งชิงหร่านไม่มีสำนักสักหน่อย เหตุใดถึงมีศิษย์พี่ซึ่งงามเลิศจนน
Read more

บทที่ 28  

ห่างออกไปไม่ไกลนัก ใครบางคนตะโกนด้วยเสียงสั่นว่า “เขา…เขา…เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญเพียรระดับกำเนิดวิญญาณ ทุกคนหลบ! รีบไปเรียกหน่วยองครักษ์มา!” “จะเป็นไปได้อย่างไร? ดูจากโครงร่างเขาเพิ่งจะวัยเพียงยี่สิบกว่าเท่านั้น จะเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญระดับกำเนิดวิญญาณได้อย่างไร?” “ล้อเล่นอะไร ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับกำเนิดวิญญาณที่วัยเพียงยี่สิบกว่า เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!” “เขาคลุกคลีกับผู้บำเพ็ญเพียรสายมาร ยังมีอะไรเป็นไปไม่ได้อีก? เขาจะต้องฝึกเคล็ดวิชาต้องห้ามบางอย่าง เพื่อดันพลังบำเพ็ญเพียรให้ถึงระดับก่อกำเนิดแน่” …… ซูเยียนหรานได้ฟังคำพูดของทุกคน ราวกับมีเสียงอสนีบาตดังสนั่นข้างใบหู เหงื่อเย็นไหลชุ่มท่วมตัว เมื่อตระหนักได้ว่าหากโม่จิงหงอยากฆ่านางก็แค่ผงกศีรษะทีเดียว นางก็ไม่มีจิตใจไปคิดถึงเรื่องกำไลอีกแล้ว ซูเยียนหรานจ้องมองโม่จิงหงอย่างหวาดระแวง ก่อนจะสืบเท้าถอยหลังไปด้วยความระมัดระวัง โม่จิงหงใช้สันมือฟาดลงไปที่หลังคอของเฟิ่งชิงหร่านสับเดียว ทันใดนั้น เฟิ่งชิงหร่านพลันหลับตา หมดสติ ทรุดกายล้มลงในอ้อมอกของโม่จิงหง โม่จิงหงอุ้มร่างเฟิ่งชิงหร่านไว้ ทันใดนั้นกระบี่เล่มหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากช่องแขนเสื
Read more

บทที่ 29  

ผู้บำเพ็ญเพียรที่สามารถทะลวงถึงระดับกำเนิดวิญญาณได้จริง จำเป็นต้องมีคุณสมบัติทั้งปัญญา โอกาส ทรัพยากร ความหยั่งรู้ และสภาพจิตใจที่เข้มแข็งทรหด มิอาจขาดได้แม้สิ่งเดียว ในแผ่นดินจิ่วโจว คนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วนมีจำนวนน้อยอย่างยิ่ง โจวจี๋หรานย่อมรู้ว่าคำพูดของจางปิ่งแฝงความหมายอะไรไว้ ความเป็นไปได้จำนวนนับไม่ถ้วนแล่นแวบเข้ามาในสมองของเขา ก็เอ่ยปากว่า “ยังมีอีกวิธีหนึ่ง ที่สามารถทำให้ทะลวงได้ถึงระดับกำเนิดวิญญาณในวัยยี่สิบกว่า สิ่งนั้นก็คือการฝึกเคล็ดวิชาหลอมโลหิตสังเวยสวรรค์ โดยอาศัยการผลาญอายุขัยเพื่อแลกกับการฝืนเพิ่มระดับการบำเพ็ญ” จางปิ่งส่ายศีรษะ “สิ่งของที่เกี่ยวกับเคล็ดวิชาหลอมโลหิตสังเวยสวรรค์ถูกทำลายตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้ว เขาต้องไม่มีจึงจะถูก” ได้ยินถ้อยคำของจางปิ่ง คิ้วเรียวรูปดาบของโจวจี๋หรานก็ขมวดปมเล็กน้อย ความจริงเขาเองก็ไม่เชื่อนักหรอก ว่าโม่จิงหงผู้ซึ่งอากัปกิริยาสูงส่งไร้ใดเปรียบจะฝึกเคล็ดวิชาหลอมโลหิตสังเวยสวรรค์ พูดอีกอย่างสำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญเพียร สิ่งที่เสาะแสวงหาก็คือการมีอายุยืนยาวเทียบเท่าฟ้าดิน วิธีการฝึกบำเพ็ญที่ต้องใช้อายุขัยแลกมานั้นเสี่
Read more

บทที่ 30  

“แปลกออกไป?” เฟิ่งชิงหร่านรีบหมุนเวียนพลังลมปราณในร่างกายทันที แววตาพลันสว่างวาบขึ้นมา “ข้าอยู่ระดับฝึกปราณขั้นสิบสองแล้ว! ข้า…ข้าไม่ได้ฝึกฝนเลยตลอดทั้งเดือนนี้ เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้เลื่อนขั้นแล้วเล่า?” “ศิษย์พี่เจ็ด ร่างกายข้ามีปัญหาใช่หรือไม่เจ้าคะ?” โม่จิงหงเลื่อนมือขึ้นไปเคาะหน้าผากของเฟิ่งชิงหร่านไปหนึ่งที มองเฟิ่งชิงหร่านราวกับมองคนโง่ “ศิษย์น้องหญิงเล็ก ทุกวันนี้เจ้านอกจากออกไปหาคนแล้ว เวลาอื่นเจ้าก็เก็บตัวฝึกบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้อง แล้วอีกอย่างเจ้าคิดว่าน้ำชาที่เจ้าดื่มไปเหล่านั้นคือดื่มไปเฉย ๆ อย่างนั้นหรือ?” เฟิ่งชิงหร่านเข้าใจในทันที “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง ศิษย์พี่เจ็ด ใบชานั้นของท่านดูดีทีเดียว ข้าขอเพิ่มสักสองชั่งได้หรือไม่เจ้าคะ?” “ไม่มี” โม่จิงหงปฏิเสธนางทันที เกรงว่าศิษย์น้องหญิงเล็กผู้นี้คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ตนเองดื่มเข้าไปคือชาอะไร! “ศิษย์พี่เจ็ด ท่านขี้งกจริง ๆ เลย!” เฟิ่งชิงหร่านเบะปาก รู้สึกน้อยใจอยู่หน่อย ๆ “ภายในสองปีหากทะลวงถึงขั้นสร้างฐานปราณได้ จะให้เจ้า” โม่จิงหงเอ่ยด้วยเสียงเบา เฟิ่งชิงหร่านพลันยิ้มร่าออกมาทันที “คำไหนคำนั้น! หากว่าภายในสองปีข้
Read more
PREV
1234
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status