All Chapters of ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ: Chapter 61 - Chapter 70

134 Chapters

บทที่ 61

“ฟางเซียน! วันนี้สามีของเจ้าไม่มาด้วยหรือ ทุกทีเห็นตัวติดกันยิ่ง” หยางตงเยว่เอ่ยถามสหาย หลังจากที่เข้ามาอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของไป๋ฟางเซียน บนชั้นสามของร้านเฟยเจิน แล้วไม่เจอบุรุษผู้เป็นแม่ทัพที่ชอบทำหน้าตาน่ากลัวใส่เขา“ไม่มา เขาไปค่ายทหารน่ะ ไปหลายวันอยู่” นางตอบกลับด้วยรอยยิ้มอ่อน พลางนึกถึงเหตุการณ์ในวันที่เขาต้องไปที่ค่ายทหาร‘เซียนเซียน ข้าคงขาดใจตายแน่ที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้า ฝ่าบาททรงมีรับสั่งชัดเจนให้ข้าฝึกทหารที่ค่ายเป็นเวลากว่าอาทิตย์ ข้าจะไม่โวยวายเลยหากพระองค์ให้ข้ากลับมานอนที่จวนได้’ หลี่เหวินหลางพูดกับนางด้วยใบหน้าแง่งอน คิ้วย่นติดกันจนนางทนไม่ไหวต้องยื่นมือไปคลึงบริเวณหัวคิ้วให้มันคลายออก ‘แล้วท่านจะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมา เพราะสุดท้ายแล้วท่านก็ต้องทำตามรับสั่งของพระองค์อยู่ดี อีกอย่าง แค่อาทิตย์เดียวไม่นับว่านานเลย ท่านจะเกินไปแล้วหรือไม่’ นางเอ่ยตอบเขายิ้ม ๆ มือก็ยังไม่หยุดคลึงหัวคิ้ว ‘หึ! เจ้าไม่เป็นข้าจะไปรู้อะไร เซียนเซียน เจ้าไม่รู้หรือว่าตอนนี้ข้าติดเจ้ามากขนาดไหน ยามกินต้องเห็นหน้า ยามนอนต้องได้จูบ ยามหลับใหลต้องได้กอด ยามลืมตาหรือทำสิ่งใดเจ้าล้วนต้องอยู่ในสายตาข้า
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 62

หลายวันมานี้มีหลายครั้งที่ไป๋ฟางเซียนตั้งคำถามกับตนเองว่าความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นคืออะไร นางมิได้ถามว่าความหวั่นไหวนี้หมายถึงสิ่งใด ด้วยความที่มาจากสังคมที่เปิดกว้าง ทำให้ไป๋ฟางเซียนรู้ว่าความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกเช่นใดหากแต่ว่าที่นางมักตั้งคำถามกับตนเองเป็นเพราะว่า ด้วยยังไม่แน่ใจนัก ว่าความหวั่นไหวและความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลาย ๆ อย่างกับตนเองนั้น มันเป็นความรู้สึกของนางเอง หรือเป็นความรู้สึกที่ยังคั่งค้างของเจ้าของร่างเดิมกันแน่เป็นคำถามที่นางเฝ้าถามตัวเองย้ำ ๆ มาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบเสียที ไม่สิ! ไม่ใช่ นางรู้คำตอบอยู่แล้วต่างหาก เพียงแต่ว่ายังไม่ใคร่อยากยอมรับเสียเท่าไร วันนี้ หลังจากได้ฟังคำพูดของหยางตงเยว่เรื่องที่หลี่เหวินหลางตามใจนางยิ่ง ไป๋ฟางเซียนก็ต้องมานั่งคิดและถามตัวเองใหม่อีกครั้ง พลางหวนคิดถึงการกระทำและสายตาของเขาที่มอบให้นาง ความอ่อนโยนทะนุถนอม กลั่นแกล้งให้นางเขินอายของเขา แท้จริงแล้วนางรู้สึกอย่างไรกับการกระทำเช่นนั้นกันแน่ ไป๋ฟางเซียนนั่งคิดไม่ตกคิ้วเรียวสวยของไป๋ฟางเซียนมุ่นเข้าหากันจนยับยู่ยี่ แววตาก็เคร่งเครียดเสียจนองครักษ์เงาที่จับจ้องอยู่ด้
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 63

ณ ค่ายทหาร“มัวรออะไรอยู่ ชักช้ายิ่ง”“ออกแรงให้มากกว่านี้ไม่ได้หรือ เรี่ยวแรงเช่นนี้จะสู้กับศัตรูได้เช่นไร”“ข้าวปลาที่พวกเจ้ากินไปหายไปไหนหมด เหตุใดจึงได้เหลาะแหละเช่นนี้ ซ้อมให้หนักขึ้นอีก ต่อให้ไม่มีศึกสงครามพวกเจ้าก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม และฝึกปรือฝีมือของตนต่อไปอย่าได้ขาด มิเช่นนั้นหากบ้านเมืองเกิดศึกผู้ใดจะมาช่วยชายชาตรีเช่นพวกเจ้า เอ้า! ฝึกต่อไป ฝึกเสร็จแล้วจึงไปกินข้าว พวกที่วิ่งอยู่นั่นก็ด้วย วิ่งอีกสิบรอบค่อยพัก”น้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟังยามพูดกับไป๋ฟางเซียน บัดนี้ไม่หลงเหลือแล้ว หลี่เหวินหลางบอกทหารที่ตนต้องดูแลฝึกสอนด้วยน้ำเสียงห้าวหาญกล้าแกร่ง ทั้งยังต้องประพฤติตนให้เป็นเยี่ยงอย่าง มิเช่นนั้นคงจะบอกสอนใครไม่ได้ ตลอดหลายวันที่ผ่านมา แม่ทัพหนุ่มตรากตรำทำงานไม่หยุด และไม่ยอมให้ตนว่างจนเกินไป เพราะหากว่างคราใดเป็นอันว่าต้องเหงาเดียวดายทุกที ยามนี้ก็เช่นกันหลี่เหวินหลางคิดถึงไป๋ฟางเซียนเหลือเกิน...เขาคิดถึงน้ำเสียงไพเราะเสนาะหูยามเรียกขายเขาว่าท่านพี่เจ้าคะท่านพี่เจ้าขา คิดถึงใบหน้างามราวนางเซียนยิ่ง คิดถึงรอยยิ้มหวานจับใจ คิดถึงดวงตาแววใสราวกวางป่า คิดถึงใบหน้างามบูดบึ้งยามถู
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 64

“เรื่องตระกูลโจวเป็นเช่นใดบ้าง” ซูเฉินเปิดบทสนทนาทันทีที่เข้ามานั่งด้านในของกระโจม“เป็นเช่นที่ฝ่าบาททรงสงสัย หลังจากที่ข้าสอบถามบางสิ่งบางอย่างกับโจวเฟิ่งจิ่ว รวมกับข้อมูลต่าง ๆ ที่สืบได้ สรุปได้ว่า ภายหลังมานี้ ตระกูลโจวร่ำรวยผิดหูผิดตาจริง ๆ ทั้งยังร่ำรวยเพราะกระทำความผิด เช่นการยักยอกคลังหลวงน่ะ” ได้ยินเช่นนี้แล้วกุนซือหนุ่มก็สูดลมหายใจเข้าลึกแววตาฉายความเสียดาย และไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทั้งยังเกิดขึ้นจากคนมีอำนาจในมือซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในราชสำนัก “ไม่น่าเชื่อว่าท่านเสนาบดีโจวเหลียงเกาจะทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของฝ่าบาทเช่นนี้ ตนเป็นเสนาบดีกรมคลังกลับยักยอกคลังเสียเอง ความผิดนี้ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะทรงลงโทษเช่นไร”“เพราะความโลภเช่นไรเล่า ความโลภบังตาจึงได้ใช้ความไว้วางใจของฝ่าบาทมากระทำในสิ่งที่มิชอบ ส่วนเรื่องความผิดนั้น ข้ายังมิรู้เช่นกันว่าฝ่าบาทคิดเห็นเช่นใด ได้แต่ตามสืบความ และจับตาดูตระกูลโจวอย่างลับ ๆ เท่านั้น เจ้าเล่าซูเฉินได้สิ่งใดมาบ้างหรือไม่” หลี่เหวินหลางกล่าว“จริงสิ ข้าสืบได้ว่าเสนาบดีโจวผู้นี้แอบติดต่อกับคหบดีคนหนึ่งอย่างลับ ๆ คาดว่าคงจะกระทำการมิชอบ แ
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 65

“น้องจื่อถิงช่วยไปแจ้งแก่นายหญิงได้หรือไม่ ว่าท่านแม่ทัพจะกลับจวนวันนี้แล้ว แล้วก็บอกนายหญิงด้วยว่า จะมีสหายของท่านแม่ทัพมากินข้าวที่จวนอีกหนึ่งคน” ตงผิงกล่าวกับจื่อถิงด้วยรอยยิ้มหวาน พลางมองสตรีตัวเล็กที่ตนรู้สึกชมชอบด้วยสายตาสื่อความนัย“ท่านแม่ทัพจะกลับจวนวันนี้พร้อมสหายหรือเจ้าคะพี่ตงผิง” แม้เขินอายกับสายตาของอีกฝ่ายที่ใช้มองตน จื่อถิงก็ต้องแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นไป มิเช่นนั้นคงจะสนทนากันมิรู้เรื่อง“ใช่แล้วละ น้องจื่อถิง เมื่อวานพี่ไปตลาดนอกเมืองมา บังเอิญยิ่งที่ได้ไปเจอปิ่นปักผมประดับด้วยไข่มุกอมชมพูอันนี้ คาดว่าหากจื่อถิงได้ใช้งานปักลงบนกลุ่มผมของเจ้า น้องจื่อถิงย่อมต้องงดงามเป็นแน่ พี่เลยรีบแย่งชิงมาเป็นของตน ตั้งใจซื้อมาฝากเจ้า น้องจื่อถิงช่วยรับน้ำใจของพี่ไว้ด้วย”“พี่ตงผิง” นางเอื้อนเอ่ยอย่างขวยอาย ใบหน้าสาวใช้คนสนิทของไป๋ฟางเซียนแดงระเรื่อ ก้มหน้าหลบสายตาอย่างน่ารัก พร้อมกับยื่นมือเล็กของตนมาคว้าปิ่นปักผมนั้นไป ก่อนจะเหลือบสายตามองตงผิงเล็กน้อยพลางแย้มยิ้มหวานส่งให้คนสนิทของหลี่เหวินหลางคล้ายได้รับสายน้ำชโลมใจ ก่อนหน้านี้ตนต้องถูกท่านแม่ทัพดุด่าว่ากล่าวอยู่เรื่อย ทำสิ่งใดไม
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 66

ต้นยามโหย่ว[1]“คุณหนูเจ้าคะ ท่านแม่ทัพมาแล้วเจ้าค่ะ”“ท่านพี่มาแล้วเช่นนั้นหรือ ดียิ่ง” ว่าแล้วก็ผุดลุกจากศาลารีบตรงไปยังหน้าประตูจวน ด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายคงยังมาไม่ถึงจวนตระกูลหลี่ แต่ที่จื่อถิงเข้ามารายงานนางเช่นนี้ เป็นเพราะนางสั่งให้บ่าวชายไปเฝ้าต้นทางเอาไว้ว่า หากเห็นหลี่เหวินหลางใกล้ถึงจวนเมื่อไร ให้รีบมารายงานนางทันทีไป๋ฟางเซียนเดินด้วยความเร่งรีบ แววตาฉายความตื่นเต้นและความคิดถึง หลายวันมาแล้วที่นางต้องนอนคนเดียวด้วยความเปลี่ยวเหงาหัวใจ ยามค่ำคืนอากาศหนาวเย็นนัก ขนกายของนางลุกชูชันอยู่บ่อย ๆ ทว่าหนาวกายหรือจะเท่าหนาวใจ นางหนาวใจยิ่งที่ไม่มีอ้อมกอดอันอบอุ่น และแผงอกกว้างของเขาให้นางซุกซบ ยามนี้คนที่นางเฝ้ารอด้วยความคิดถึงกำลังกลับมา จะไม่ให้นางตื่นเต้นและดีใจได้อย่างไร ไม่รู้ว่าตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ต้องห่างกัน แม่ทัพหนุ่มรูปงามจะคิดถึงนางบ้างหรือไม่ และจะเป็นเช่นนางบ้างไหมหนอ ที่คิดถึงเขาทุกเวลา จนไม่มีสมาธิจะทำสิ่งใดไม่นานร่างของคนที่นางคุ้นเคยและคะนึงหาก็อยู่ในระยะสายตา เขาควบขี่อาชาสีดำตัวใหญ่อย่างองอาจ ท่วงท่าสง่างามเป็นที่สุด เรือนผมเงางามปลิวไสวตามจังหวะการควบขี่ และ
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 67

“คารวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” หลี่เหวินหลางกล่าวขึ้นเมื่อเข้ามาในส่วนของเรือนใหญ่ซึ่งมีร่างของบิดามารดานั่งรออยู่ก่อนแล้ว“มานั่งก่อน เดี๋ยวค่อยให้เด็กไปยกสำรับข้าวขึ้น เป็นเช่นไร งานหนักหรือไม่” หลี่เหวินชิงเอ่ยถามบุตรชาย“ไม่ถึงกับหนักมากขอรับ เพียงแต่ เอ่อ คือข้า...” เขาไม่พูดแต่หลี่เหวินชิงก็เข้าใจในทันทีเมื่อมองตามสายตาของบุตรชายที่มองหน้าลูกสะใภ้“ดีแล้ว กลับมาก็พักผ่อนให้เต็มที่เสีย”“ขอรับ” ชายหนุ่มรับคำอย่างว่าง่าย ส่วนเหลียนฮวานั้นมิได้เอ่ยอันใด นางเพียงมองบุตรชายด้วยความรัก ความห่วงใย และภาคภูมิใจเท่านั้น เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมิได้ลำบากจึงไม่มีสิ่งใดต้องเอ่ยออกมา เลือกหันไปสนทนากับลูกสะใภ้คนงามมากความสามารถของตนแทน“ซูเฉินเล่า ไหนเจ้าให้คนมาแจ้งว่าสหายจะมาด้วยไม่ใช่รึ”“ข้าอยู่นี่ขอรับท่านพ่อ อาเหวินมิใส่ใจข้าเลยสักนิด คารวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” ซูเฉินที่เดินมาทันได้ยินที่หลี่เหวินชิงกำลังพูดพอดี จึงได้โอกาสกล่าวฟ้องด้วยสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย ก่อนจะคารวะผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความนอบน้อม ก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า“อาเหวินลืมสหายเช่นข้าแล้วขอรับ ลมหายใจเข้าลมหายใจออกก็คิดถึงแต่น้องสะใภ้ ข้าน้
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 68

“อื้อ” เจ้าของเสียงเอียงคอและใบหน้าหนีสิ่งที่กำลังรบกวนการนอนของตน พลางส่งเสียงประท้วงอย่างนึกรำคาญหลี่เหวินหลางมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู สายตามีแต่ความรักใคร่ และปรารถนาอยากจับนางกลืนลงท้องให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่มีใครเห็นใบหน้างดงามนี้อีก นี่คงต้นยามเหม่า[1] แล้วกระมัง ไม่แปลกที่นางจะดูไม่ชอบใจและรำคาญเขา ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนโน้มหน้าเข้าไปสูดดมซอกคอหอมกรุ่นเสียเต็มรัก เท่านั้นยังไม่พอ แม่ทัพหนุ่มจัดการริเริ่มกลั่นแกล้งนางโดยทันทีซอกคอขาวถูกหลี่เหวินหลางขบกัดจนเป็นรอยแดง ทว่าเจ้าของร่างกลับยังไม่ตื่นขึ้น มีเพียงคิ้วเรียวสวยที่ย่นเข้าหากัน ส่งเสียงอืออาในลำคอ ไม่แน่ใจว่ารำคาญหรือซาบซ่านกันแน่ แม่ทัพหนุ่มไม่หยุดแค่นั้น เขาเคลื่อนใบหน้าคลอเคลียไปทั่ว มือไม้เริ่มปัดป่ายดังหนวดหมึก ปลุกให้คนที่กำลังหลับลืมตาตื่นขึ้นมา“อื้อ ท่านพี่ นี่ท่าน...” ยังไม่ทันพูดได้จบประโยคและตื่นเต็มตาเสียเท่าไร ริมฝีปากอวบอิ่มก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากหยักได้รูป หลี่เหวินหลางครอบครองริมฝีปากของนางอย่างเอาแต่ใจ กระทำตนไปตามความรู้สึกที่เกิดขึ้น สอดแทรกเรียวลิ้นและดูดดึงจนคนใต้ร่างหอบหายใจไม่ทันเมื่
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 69

หนึ่งอาทิตย์ต่อมาไป๋ฟางเซียนรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ที่ช่วงนี้หลี่เหวินหลางไม่ค่อยมีเวลาให้เหมือนอย่างเคย เข้าใจว่างานยุ่งและเยอะ แต่ควรบอกนางสักหน่อยหรือไม่ มิใช่ให้นางคิดเองเออเอง เมื่อเช้านี้ก็เช่นกัน รีบตื่นไปไหนของเขาก็ไม่รู้ ถามสิ่งใดก็ไม่ยอมตอบ บอกเพียงว่าเป็นงานเร่งด่วน ต้องรีบเข้าเฝ้าฝ่าบาท เห็นท่าทางรีบร้อนของเขาแล้วพานให้หงุดหงิด ขัดหูขัดตาของนางยิ่งนัก วันนี้ไป๋ฟางเซียนจึงออกจากจวนด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไร“คุณหนูเจ้าคะ” จื่อถิงเรียกนายของตนด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก มองไปยังหน้าร้านเฟยเจินด้วยสายตากังวลอย่างเห็นได้ชัด ไป๋ฟางเซียนมองตามสายตานั้นไป ก่อนจะเจอเข้ากับร่างหญิงงามในชุดอาภรณ์สีชมพู นางกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย“ดาวหายนะมาเยือนอีกแล้ว” นางพึมพำกับตนเองพร้อมส่ายหน้าไปมา ก่อนจะลงจากรถม้าแล้วเดินไปยังร้านของตนโจวเฟิ่งจิ่วที่มาดักรอศัตรูหัวใจนานสองนานรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ทว่านี่ไม่ใช่จวนตระกูลโจวของตน ไม่ใช่เรือนคุณหนูใหญ่ นางจึงมิสามารถอาละวาดหรือระบายโทสะได้ ทำได้เพียงยืนนิ่ง ๆ และชักสีหน้าบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น ครั้นเห็นไป๋ฟางเซียนกำลังเดินมา จึงได้ร
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more

บทที่ 70

“โจวเฟิ่งจิ่ว แผนนี้คิดนานหรือไม่ ถามจริง เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าอย่างนั้นหรือ อยากให้ข้าหย่ากับท่านพี่จนต้องคิดแผนตื้น ๆ นี้ขึ้นมา เหอะ เป็นเด็กไปหรือไม่ ข้ามิใช่ไป๋ฟางเซียนคนเดิมที่จะยอมให้เจ้าหลอกแล้วตามเจ้าไม่ทันนะ เจ้ากลับไปเสียเถอะ มันไม่ได้ผลหรอก”ริมฝีปากบางของโจวเฟิ่งจิ่วขบเม้มเข้าหากัน แววตาของนางมีแต่ไฟโทสะ พร้อมกับลมหายใจที่เร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ ขณะเดียวกันความไม่ยินยอมก็สะท้อนออกมาจากแววตาของนางเช่นกัน นางมิยินยอมกลับไปอย่างคนพ่ายแพ้แน่ ที่มาวันนี้เพราะต้องการเห็นนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เสียใจ มิใช่มาเพื่อให้มันเหยียบย่ำนาง ใบหน้าของโจวเฟิ่งจิ่วเชิดขึ้น ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะอย่างขบขัน“เจ้าคิดเช่นนั้นจริง ๆ อย่างนั้นหรือ น่าขันยิ่งนัก ข้าบอกขนาดนี้แล้วยังจะคิดเข้าข้างตนเองอยู่ได้ หลอกตนเองมีความสุขมากหรือไม่ไป๋ฟางเซียน เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ข้าจะผิดคำพูดกับพี่เหวิน บอกให้เจ้าฉลาดขึ้นก็แล้วกัน” นางหยุดเพียงนิดก่อนพูดต่อว่า“ที่พี่เหวินทำดีกับเจ้า บอกรักเจ้า เป็นเพราะว่าเขาอยากเอาชนะเจ้าอย่างไรเล่าไป๋ฟางเซียน เจ้าและเขาท้าทายพนันสิ่งใดกันไว้ ลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือ เจ้าคิ
last updateLast Updated : 2025-02-10
Read more
PREV
1
...
56789
...
14
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status