บททั้งหมดของ ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ: บทที่ 1 - บทที่ 10

134

บทที่ 1

“ฟางเซียน! เจ้าตื่นขึ้นมาคุยกับข้าเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงทุ้มตวาดดังลั่นไปทั่วห้องนอน ปลุกให้คนที่กำลังหลับตาพริ้มตื่นขึ้น “โอ๊ย! เรียกอะไรกันนักกันหนาเนี่ย คนจะหลับจะนอน” เสียงหวานดังออกมาจากตั่งเตียงด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่เจ้าของร่างจะขยับกายลุกขึ้นนั่งบิดตัวไปมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน“น่ารังเกียจนัก!” ไม่พูดเปล่าสายตาคมประดุจเหยี่ยวจ้องมองไปยังคนถูกว่าด้วยสายตารังเกียจปะปนด้วยความโกรธไป๋ฟางเซียน เจ้าของชื่อที่ถูกรบกวนเวลานอน ทั้งยังถูกต่อว่าและได้รับสายตาเช่นนั้นจากอีกฝ่าย ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด นางมองสบตาคนสูงกว่าอย่างเฉยเมย“ฮึ่ม! ไปอาบน้ำ ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับเจ้าให้รู้เรื่อง” พูดจบก็เดินออกไปด้วยอารมณ์ขึ้งโกรธไป๋ฟางเซียนมองตามแผ่นหลังกว้างของผู้เป็นสามีพลางมุ่นคิ้วด้วยความสงสัย‘มีเรื่องต้องคุยกับข้าเช่นนั้นหรือ จะเป็นเรื่องใดได้อีกถ้าไม่ใช่แม่ดอกบัวขาวหวานใจเจ้าผู้นั้น’ นางคิดด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะรีบพาตนเองไปอาบน้ำชำระกายผ่านไปครึ่งชั่วยาม ไป๋ฟางเซียนก็เดินไปที่ศาลารับลมอันเป็นที่ประจำของนาง เมื่อไปถึงก็เห็นบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีนั่งรออยู่ก่อนแล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 2

“มาถึงแล้วก็นั่งสิ เจ้าจะยืนรอให้ข้าไปประคองมานั่งหรืออย่างไร คิดฝันเฟื่องเกินไปหน่อยหรือไม่” หลี่เหวินหลาง แม่ทัพหนุ่มรูปงามว่าที่ผู้นำตระกูลหลี่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ซ้ำยังส่งสายตารังเกียจเดียดฉันท์ไปยังร่างของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาตนเองอย่างไม่คิดปิดบัง ใช่แล้ว บุรุษผู้นี้คือสามีของไป๋ฟางเซียนนั่นเอง สามีที่ไป๋ฟางเซียนรักจนกระทั่งตายไปก็ยังรักหลี่เหวินหลางคือบุตรชายคนเดียวของอดีตแม่ทัพใหญ่นาม หลี่เหวินชิง และฮูหยินใหญ่นาม เหลียนฮวา ผู้เป็นบิดามารดาบุญธรรมของไป๋ฟางเซียนตระกูลหลี่เป็นหนึ่งในตระกูลเก่าแก่ของเมืองหลวง ตระกูลหลี่ทุกรุ่นรับราชการดำรงตำแหน่งแม่ทัพปกป้องบ้านเมืองเรื่อยมา ไม่ฝักใฝ่อำนาจขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เพียงผู้เดียว จึงได้รับความไว้วางใจต่อราชวงศ์อย่างมาก คนทั่วไปมักเรียกตระกูลหลี่ว่าตระกูลแม่ทัพ ด้วยความที่บรรพบุรุษเป็นทหารสืบต่อกันเรื่อยมา และล้วนเป็นคนไม่ชอบการแก่งแย่งอำนาจ หลี่เหวินหลางเองก็เลือกรับราชการตามบรรพบุรุษ จนในที่สุดก็ใช้ความสามารถของตนคว้าตำแหน่งแม่ทัพของแคว้นมาครอบครองได้หลี่เหวินหลางเป็นบุรุษหนุ่มรูปงาม เป็นแม่ทัพหนุ่มอนาคตไกล ก่อนหน้าที่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 3

“เฟิ่งเอ๋อร์มีเรื่องพูดกับเจ้า”‘เฟิ่งเอ๋อร์... เรียกกันสนิทสนมยิ่ง’ นางได้แค่พูดในใจด้วยท่าทีเบื่อหน่ายก่อนหันไปมองคนที่ต้องการพูดกับตน“อันใด” น้ำเสียงราบเรียบเรียกความสนใจจากแม่ทัพหนุ่มไม่น้อย เขามองนางด้วยความฉงนเมื่อเห็นว่านางไม่มีอาการหึงหวงเหมือนอย่างเคย ซึ่งสายตาเช่นนั้นนางก็ได้รับจากโจวเฟิ่งจิ่วเช่นกัน“เซียนอะ...”“อย่าเรียกชื่อข้าเช่นนั้น ข้ากับเจ้าหาได้สนิทกันไม่” ไป๋ฟางเซียนพูดขัดขึ้นทันที ให้ถูกเรียกด้วยความสนิทสนมโดยคนที่ตนเองไม่ชอบนี่ไม่มีวันเสียหรอก เสนียดชื่อนางหมดพอดี อีกอย่างนางหวังดีนะ คนตรงข้ามจะได้ไม่ต้องอดทนเสแสร้งสนิทหวังดีกับนางให้เหนื่อย “แต่เราคือเพื่อนรักกันนะ”“หึ เพื่อนที่จ้องแย่งบุรุษของเพื่อนข้าไม่ต้องการ”“แต่ว่า”“หากเจ้ายังไม่เลิกเรียกข้าเช่นนั้น อย่าหาว่าข้าไม่เตือน” ไป๋ฟางเซียนพูดพร้อมมองไปที่อีกฝ่ายเขม็ง“ฮึ! นางไม่อยากให้เรียกก็ไม่ต้องเรียกหรอกเฟิ่งเอ๋อร์ สตรีเช่นนี้เจ้าไม่ต้องสนิทด้วยเป็นดี”“แต่ว่านางเป็นเพื่อนข้านะเจ้าคะพี่เหวิน” พูดจบแล้วก็รีบหลบสายตา คล้ายกลัวว่าแม่ทัพหนุ่มจะเห็นหยดน้ำตาสีใสที่พร้อมไหลทุกเมื่อ “แสดงเก่ง”“นี่เจ้า!” หลี่เห
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 4

เพล้ง! เพล้ง!กรี๊ดดดด!ภายในจวนตระกูลโจวเกิดเสียงกรีดร้องระคนเสียงข้าวของแตกกระจายดังไปทั่วเรือนของบุตรสาวคนโต เหล่าข้ารับใช้ต่างยืนก้มหน้าด้วยความเงียบและสงบนิ่งเพราะรู้สึกหวาดกลัว กลัวว่าตนเองจะต้องกลายเป็นกระโถนให้อีกฝ่ายระบายอารมณ์ ยามที่นางโกรธภายนอกคุณหนูใหญ่จวนตระกูลโจวมักได้รับสายตาชื่นชมอยู่เป็นนิจ ด้วยภาพลักษณ์ดอกบัวขาวที่สั่งสมมานานทำให้ผู้คนต่างลือกันหนาหูว่านางเป็นสตรีเรียบร้อยอ่อนหวาน เหมาะเป็นสาวงามอันดับหนึ่งยิ่งกว่าไป๋ฟางเซียนทว่าสำหรับเหล่าบ่าวไพร่ข้ารับใช้ในจวนแล้ว นิสัยของคุณหนูใหญ่ต่างจากที่คนภายนอกร่ำลือไปกันลิบลับ ยามอารมณ์ดีนางมักมีรอยยิ้มไว้ล่อลวงผู้คน แต่เมื่อใดที่นางอารมณ์ไม่ดีนางจะกลายเป็นสตรีร้ายกาจทันควัน ทำร้ายบ่าวไพร่ คำผรุสวาทมักจะออกมาจากริมฝีปากเล็กอยู่เสมอ ที่สำคัญนางหาได้ใจดีและอ่อนโยนอย่างที่ผู้อื่นคิดไม่โจวเฟิ่งจิ่ว... เป็นสตรีร้ายกาจอย่างแท้จริง!นางต่อว่าเหยียดหยามบ่าวไพร่ ทำสิ่งใดไม่ถูกใจล้วนต้องถูกสั่งโบยหรือสั่งทำโทษทั้งสิ้น ซึ่งบทลงโทษแต่ละครั้งก็แล้วแต่นางจะคิดหาวิธีการได้ บ่าวคนไหนหน้าตาดีหน่อยนางก็ไม่คิดปล่อยเอาไว้ หากไม่ถูกทำร้ายจนเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5

จวนตระกูลหลี่“ท่านแม่! มายืนทำอันใดอยู่ที่หน้าประตูจวนหรือขอรับ” แม่ทัพหนุ่มถามด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเปิดประตูมาก็เห็นมารดาของตนยืนรอและมองมาที่เขาเขม็ง“ตามแม่มาคุยในเรือน” เหลียนฮวาเอ่ยบอกผู้เป็นบุตรชายก่อนจะหันหลังเดินตรงไปที่เรือนรับรองแขกแม่ทัพหนุ่มแม้จะไม่รู้ว่ามารดามีเรื่องอะไรคุยกับตน หากแต่เขาก็พอรับรู้ถึงบรรยากาศกราดเกรี้ยวจากร่างของมารดาได้ จึงได้เดินตามไปอย่างว่าง่ายเมื่อมาถึงเรือนรับรองแขกของจวนแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็เห็นว่าบิดากำลังนั่งรออยู่ โดยมีสตรีที่เขารังเกียจยิ่งกว่าสิ่งใดคอยรินน้ำชาให้ด้วย หลี่เหวินหลางไม่สนใจ เขาหันหน้าไปหาผู้เป็นมารดาแทนด้วยความอยากรู้เต็มทนว่าท่านมีเรื่องอะไรจะพูดกันแน่“ไปไหนมา”“ไปส่งเฟิ่งเอ๋อร์มาขอรับ” หลี่เหวินหลางตอบรับอย่างตรงไปตรงมา ไม่นึกกลัวสายตาของมารดาที่มองมาอย่างต่อว่าเลยสักนิด“ดียิ่ง! ไปส่งสตรีอื่น ไม่สนใจภรรยาที่อยู่ในเรือน” เพียงแค่มารดาพูดออกมาแม่ทัพหนุ่มก็เข้าใจอะไร ๆ ได้ หลี่เหวินหลางหันหน้าส่งสายตาดุดันไปยังคนต้นเหตุที่ทำให้เขาถูกมารดาเรียกมาต่อว่าไป๋ฟางเซียนเห็นอีกฝ่ายมองมาด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวจนแทบอยากจะฆ่านาง ก็รีบก้มหน้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6

“ฮูหยินนะ...”“เรียกข้าว่าคุณหนู”“แต่ว่า”“ต่อหน้าข้าให้เรียกคุณหนู แต่ถ้าต่อหน้าท่านพ่อท่านแม่เรียกตามปกติ”จื่อถิงแม้ไม่เข้าใจว่าเหตุใดไป๋ฟางเซียนจึงสั่งเช่นนี้ แต่นางก็ไม่ถามอะไรให้มากความ ด้วยค่อนข้างรู้นิสัยของนายตัวเองดี หากคุณหนูของนางบอกว่าไม่ นางก็จะไม่ตาม นางมีวันนี้ได้ก็เพราะคุณหนูเมตตา หากวันนั้นคุณหนูไม่ยื่นมือช่วยเหลือ นางคงเป็นได้แค่เด็กข้างถนน หรือไม่ก็ถูกจับไปอยู่หอนางโลมแล้วยามเห็นผู้มีพระคุณ ผู้ที่ฉุดรั้งนางขึ้นมาจากความหนาวเหน็บ ต้องจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา จื่อถิงตกใจมาก และก็รู้สึกผิดมากเช่นกัน หากวันนั้นนางห้ามไม่ให้คุณหนูมาตามคำนัดหมาย และไม่ปล่อยให้คุณหนูอยู่กับสตรีนางนั้นเพียงสองคน คุณหนูของนางก็คงไม่ต้องจมน้ำจนล้มป่วยนานหลายวันใบหน้าเศร้าสร้อยและสายตารู้สึกผิดของสาวใช้คนสนิท ทำไมไป๋ฟางเซียนจะไม่รับรู้ นางชอบสาวใช้คนนี้มาก เพราะเป็นคนรู้ความ ไม่จู้จี้จุกจิก บอกสิ่งใดก็ทำตามได้อย่างดี การรู้ความของจื่อถิงนี่แหละที่ทำให้ไป๋ฟางเซียนชื่นชอบในตัวสาวใช้คนนี้ที่สุด แม้นางฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ มีนิสัยและกิริยามารยาทรวมถึงวาจาผิดแปลกไป จื่อถิงก็ไม่เอ่ยถามให้นางรู้สึกอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 7

ด้านแม่ทัพหนุ่มหลี่เหวินหลางที่เดินออกมาจากเรือนของไป๋ฟางเซียนด้วยความหงุดหงิด ก็ตรงไปที่ค่ายทหารที่ตั้งอยู่นอกเมืองหลวงด้วยอารมณ์คุกรุ่น ไปถึงชายหนุ่มก็เรียกรวมพลทหารทั้งหลายแล้วทำการฝึกซ้อมอย่างหนักทันทีบรรยากาศรอบตัวแสนขมุกขมัวที่หลี่เหวินหลางตั้งใจปล่อยออกมานั้น ทำให้ไม่มีทหารคนใดกล้าเข้าไปใกล้หรือขัดคำสั่ง และคิดจะหยุดพักเลยสักนิด แม้ว่าตนเองจะเหนื่อยมากแล้วก็ตาม ทว่าก็มีอยู่หนึ่งคนที่กล้าเปิดปากถาม พร้อมไล่ทหารที่ถูกฝึกไปพักผ่อนทันที “หงุดหงิดอันใดของเจ้าอาเหวิน เหตุใดจึงต้องมาลงกับทหารชั้นผู้น้อย” ซูเฉิน สหายสนิทของหลี่เหวินหลางพ่วงตำแหน่งกุนซือหนุ่มมากความสามารถของกองทัพเอ่ยถามอย่างไม่เกรงกลัวหลี่เหวินหลางปรายสายตามองสหายตนเองเล็กน้อย ก่อนจะดึงสายตากลับไปโดยไม่พูดอะไร ซูเฉินมองสหายตนอย่างจับผิด กุนซือหนุ่มหรี่สายตาลงพลางครุ่นคิด ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วพูดมันออกไป“อย่าบอกนะว่าเจ้าทะเลาะกับภรรยาของเจ้ามา”“นางหาใช่ภรรยาข้า!” หลี่เหวินหลางปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมมองไปยังสหายของตนด้วยสายตาไม่พอใจ เพียงแต่ว่ากุนซือหนุ่มหาได้เกรงกลัวสายตาของอีกฝ่ายไม่ เขายังคงแย้มยิ้มเต็มใ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 8

“คุณหนูกำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือเจ้าคะ จื่อถิงเห็นคุณหนูคิดสิ่งใดไม่ตกมาได้สองสามวันแล้ว” จื่อถิงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นนายนิ่งคิดผิดปกติไป๋ฟางเซียนยังคงไม่ตอบ นางนิ่งคิดกับตนเอง ว่าควรจะเดินไปหนทางไหนดี ที่ตัวนางจะไม่ต้องเสี่ยงหรือเจ็บตัว และมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้หลี่เหวินหลางหย่าขาดจากนางโดยที่บิดามารดาบุญธรรมทั้งสองไม่เอ่ยแย้งใช่แล้ว สิ่งที่ไป๋ฟางเซียนคิดและต้องการมากที่สุดก็คือการหย่า นางต้องการเป็นอิสระ จะได้ทำในสิ่งที่ต้องการอย่างใจหวังได้ ไม่ใช่อย่างตอนนี้ ที่จะทำอะไรก็ต้องนึกถึงหน้าคนผู้นั้นผู้นี้อยู่ตลอดการหย่าที่นางต้องการหากพูดก็เหมือนง่าย แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดและเข้าใจ การที่สตรีหย่าขาดสามีสำหรับยุคนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้าม ดังนั้นนางต้องรอเวลาและคิดหาวิธีการอย่างแยบยล ถึงจะสามารถทำตามใจที่ต้องการได้ นอกจากนี้แล้ว ไป๋ฟางเซียนยังคิดถึงปัจจัยหลักด้วยว่า หากนางหย่าขาดจากบุรุษผู้นั้นจริง อนาคตข้างหน้านางจะกินอะไร จะอยู่เช่นไร ส่วนเรื่องที่ยุคนี้สตรีไม่นิยมหย่าขาดจากสามีเพราะความเชื่อที่มีมาแต่โบราณนางไม่ได้นึกกลัวเลยสักนิด ที่นางกลัวคือ การอดตายมากกว่าสิ่งแรกที่ไป๋ฟาง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 9

“ร้านผ้าของคุณหนูไม่ใหญ่มากเจ้าค่ะ เป็นร้านขนาดกลาง ส่วนกิจการก็ เอ่อ... ไม่ค่อยได้กำไรนักเจ้าค่ะ”“ว่าไงนะ! เหตุใดถึงไม่ได้กำไรเล่า” ไป๋ฟางเซียนถามตาโต เปิดร้านขายผ้าเหตุใดถึงจะไม่ได้กำไร จื่อถิงคิดหลอกนางใช่หรือไม่“โธ่คุณหนู... คุณหนูจะให้กิจการของร้านได้กำไรอย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อคุณหนูไม่เคยไปดูที่ร้านเลย นายท่านทั้งสองก็ไม่มีเวลาไปดูให้คุณหนูเช่นกัน หลงจู๊ของร้านถึงจะมีแต่ก็ใช่ว่าจะตัดสินใจได้นะเจ้าคะ... เอ่อ ขอโทษเจ้าค่ะคุณหนู” จื่อถิงร่ายยาวก่อนเอ่ยขอโทษไป๋ฟางเซียนไม่ได้ว่าอะไร เมื่อคิดตามคำพูดของสาวรับใช้แล้วก็เห็นจริงดังที่นางว่า กิจการเมื่อไม่ดูแลและปรับปรุงจะเจริญเติบโตสร้างผลกำไรให้นางได้อย่างไร“เอาเถอะ ที่เจ้าพูดมามันก็ถูก ดังนั้นพรุ่งนี้เราไปที่ร้านดีหรือไม่ ข้าอยากเดินตลาดด้วย ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาข้าก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย จะว่าไปตั้งแต่มาอยู่กับท่านพ่อท่านแม่บุญธรรม ข้าก็ไม่เคยออกนอกจวนเลยนี่นะ งั้นพรุ่งนี้เราไปดูร้านและเดินเที่ยวตลาดกันเถอะ”“เจ้าค่ะคุณหนู” จื่อถิงรับคำด้วยความดีใจ“ว่าแต่นี่ยามใดแล้วจื่อถิง” ด้วยความที่ยังไม่คุ้นชินกับวันเวลาของโลกนี้ ไป๋ฟางเซียนจ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 10

ยามโหย่ว[1] หน้าจวนตระกูลหลี่มีบุรุษหนุ่มรูปงามร่างใหญ่โตนั่งอยู่บนอาชาทมิฬสีดำอย่างองอาจ สายตาของเขาจับจ้องประตูจวนด้วยแววตาลึกล้ำ หลายวันก่อนเขาถูกบิดามารดาต่อว่าโดยมีต้นเหตุมาจากสตรีที่ตนรังเกียจ ทำให้เขาไม่กลับบ้านตนเองเป็นเวลาสามวัน ทว่าวันนี้เขากลับมาแล้ว กลับมาด้วยใบหน้าไม่ใคร่จะแจ่มใสเท่าใดนัก บุรุษผู้นั้นคือ หลี่เหวินหลางสามวันที่ผ่านมาเขาต้องนอนที่ค่ายทหารทั้ง ๆ ที่สามารถกลับมานอนที่จวนได้ แต่เขาก็ไม่มา เพียงเพราะกลัวว่าตนจะพลั้งมือทำร้ายลูกรักของบิดามารดาเข้า แต่ว่าวันนี้เขากลับมาแล้ว กลับเพราะทนฟังเสียงชื่นชมของสหายสนิทที่มีต่อไป๋ฟางเซียนไม่ได้คิดดูเถิด ขนาดนางไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับสหายของเขาเป็นการส่วนตัว ยังทำให้สหายหน้ามึนผู้นั้นพูดถึงนางแทบจะตลอดเวลา กล่าวชมนางไม่หยุดหย่อน จนเขามิสามารถทนฟังเสียงชื่นชมเหล่านั้นได้ จำต้องควบขี่ม้ากลับมาที่จวน นี่ขนาดยังไม่รู้จักกันสหายเขายังเป็นได้ถึงเพียงนี้ หากได้รู้จักและสนิทสนมกันมากเล่า เกรงว่าซูเฉินสหายของเขาคนนี้คงได้หลงใหลสตรีร้ายกาจยากถอนตัวแล้ว เพียงแค่คิดถึงชื่อของสตรีที่มีฐานะเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของตน ใบหน้าที่ไม่
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
14
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status