Share

บทที่ 66

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-10 14:42:50

ต้นยามโหย่ว[1]

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านแม่ทัพมาแล้วเจ้าค่ะ”

“ท่านพี่มาแล้วเช่นนั้นหรือ ดียิ่ง” ว่าแล้วก็ผุดลุกจากศาลารีบตรงไปยังหน้าประตูจวน ด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายคงยังมาไม่ถึงจวนตระกูลหลี่ แต่ที่จื่อถิงเข้ามารายงานนางเช่นนี้ เป็นเพราะนางสั่งให้บ่าวชายไปเฝ้าต้นทางเอาไว้ว่า หากเห็นหลี่เหวินหลางใกล้ถึงจวนเมื่อไร ให้รีบมารายงานนางทันที

ไป๋ฟางเซียนเดินด้วยความเร่งรีบ แววตาฉายความตื่นเต้นและความคิดถึง หลายวันมาแล้วที่นางต้องนอนคนเดียวด้วยความเปลี่ยวเหงาหัวใจ ยามค่ำคืนอากาศหนาวเย็นนัก ขนกายของนางลุกชูชันอยู่บ่อย ๆ ทว่าหนาวกายหรือจะเท่าหนาวใจ นางหนาวใจยิ่งที่ไม่มีอ้อมกอดอันอบอุ่น และแผงอกกว้างของเขาให้นางซุกซบ ยามนี้คนที่นางเฝ้ารอด้วยความคิดถึงกำลังกลับมา จะไม่ให้นางตื่นเต้นและดีใจได้อย่างไร ไม่รู้ว่าตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ต้องห่างกัน แม่ทัพหนุ่มรูปงามจะคิดถึงนางบ้างหรือไม่ และจะเป็นเช่นนางบ้างไหมหนอ ที่คิดถึงเขาทุกเวลา จนไม่มีสมาธิจะทำสิ่งใด

ไม่นานร่างของคนที่นางคุ้นเคยและคะนึงหาก็อยู่ในระยะสายตา เขาควบขี่อาชาสีดำตัวใหญ่อย่างองอาจ ท่วงท่าสง่างามเป็นที่สุด เรือนผมเงางามปลิวไสวตามจังหวะการควบขี่ และ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 67

    “คารวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” หลี่เหวินหลางกล่าวขึ้นเมื่อเข้ามาในส่วนของเรือนใหญ่ซึ่งมีร่างของบิดามารดานั่งรออยู่ก่อนแล้ว“มานั่งก่อน เดี๋ยวค่อยให้เด็กไปยกสำรับข้าวขึ้น เป็นเช่นไร งานหนักหรือไม่” หลี่เหวินชิงเอ่ยถามบุตรชาย“ไม่ถึงกับหนักมากขอรับ เพียงแต่ เอ่อ คือข้า...” เขาไม่พูดแต่หลี่เหวินชิงก็เข้าใจในทันทีเมื่อมองตามสายตาของบุตรชายที่มองหน้าลูกสะใภ้“ดีแล้ว กลับมาก็พักผ่อนให้เต็มที่เสีย”“ขอรับ” ชายหนุ่มรับคำอย่างว่าง่าย ส่วนเหลียนฮวานั้นมิได้เอ่ยอันใด นางเพียงมองบุตรชายด้วยความรัก ความห่วงใย และภาคภูมิใจเท่านั้น เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมิได้ลำบากจึงไม่มีสิ่งใดต้องเอ่ยออกมา เลือกหันไปสนทนากับลูกสะใภ้คนงามมากความสามารถของตนแทน“ซูเฉินเล่า ไหนเจ้าให้คนมาแจ้งว่าสหายจะมาด้วยไม่ใช่รึ”“ข้าอยู่นี่ขอรับท่านพ่อ อาเหวินมิใส่ใจข้าเลยสักนิด คารวะท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” ซูเฉินที่เดินมาทันได้ยินที่หลี่เหวินชิงกำลังพูดพอดี จึงได้โอกาสกล่าวฟ้องด้วยสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย ก่อนจะคารวะผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความนอบน้อม ก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า“อาเหวินลืมสหายเช่นข้าแล้วขอรับ ลมหายใจเข้าลมหายใจออกก็คิดถึงแต่น้องสะใภ้ ข้าน้

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 68

    “อื้อ” เจ้าของเสียงเอียงคอและใบหน้าหนีสิ่งที่กำลังรบกวนการนอนของตน พลางส่งเสียงประท้วงอย่างนึกรำคาญหลี่เหวินหลางมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู สายตามีแต่ความรักใคร่ และปรารถนาอยากจับนางกลืนลงท้องให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่มีใครเห็นใบหน้างดงามนี้อีก นี่คงต้นยามเหม่า[1] แล้วกระมัง ไม่แปลกที่นางจะดูไม่ชอบใจและรำคาญเขา ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนโน้มหน้าเข้าไปสูดดมซอกคอหอมกรุ่นเสียเต็มรัก เท่านั้นยังไม่พอ แม่ทัพหนุ่มจัดการริเริ่มกลั่นแกล้งนางโดยทันทีซอกคอขาวถูกหลี่เหวินหลางขบกัดจนเป็นรอยแดง ทว่าเจ้าของร่างกลับยังไม่ตื่นขึ้น มีเพียงคิ้วเรียวสวยที่ย่นเข้าหากัน ส่งเสียงอืออาในลำคอ ไม่แน่ใจว่ารำคาญหรือซาบซ่านกันแน่ แม่ทัพหนุ่มไม่หยุดแค่นั้น เขาเคลื่อนใบหน้าคลอเคลียไปทั่ว มือไม้เริ่มปัดป่ายดังหนวดหมึก ปลุกให้คนที่กำลังหลับลืมตาตื่นขึ้นมา“อื้อ ท่านพี่ นี่ท่าน...” ยังไม่ทันพูดได้จบประโยคและตื่นเต็มตาเสียเท่าไร ริมฝีปากอวบอิ่มก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากหยักได้รูป หลี่เหวินหลางครอบครองริมฝีปากของนางอย่างเอาแต่ใจ กระทำตนไปตามความรู้สึกที่เกิดขึ้น สอดแทรกเรียวลิ้นและดูดดึงจนคนใต้ร่างหอบหายใจไม่ทันเมื่

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 69

    หนึ่งอาทิตย์ต่อมาไป๋ฟางเซียนรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ที่ช่วงนี้หลี่เหวินหลางไม่ค่อยมีเวลาให้เหมือนอย่างเคย เข้าใจว่างานยุ่งและเยอะ แต่ควรบอกนางสักหน่อยหรือไม่ มิใช่ให้นางคิดเองเออเอง เมื่อเช้านี้ก็เช่นกัน รีบตื่นไปไหนของเขาก็ไม่รู้ ถามสิ่งใดก็ไม่ยอมตอบ บอกเพียงว่าเป็นงานเร่งด่วน ต้องรีบเข้าเฝ้าฝ่าบาท เห็นท่าทางรีบร้อนของเขาแล้วพานให้หงุดหงิด ขัดหูขัดตาของนางยิ่งนัก วันนี้ไป๋ฟางเซียนจึงออกจากจวนด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยแจ่มใสเท่าไร“คุณหนูเจ้าคะ” จื่อถิงเรียกนายของตนด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก มองไปยังหน้าร้านเฟยเจินด้วยสายตากังวลอย่างเห็นได้ชัด ไป๋ฟางเซียนมองตามสายตานั้นไป ก่อนจะเจอเข้ากับร่างหญิงงามในชุดอาภรณ์สีชมพู นางกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย“ดาวหายนะมาเยือนอีกแล้ว” นางพึมพำกับตนเองพร้อมส่ายหน้าไปมา ก่อนจะลงจากรถม้าแล้วเดินไปยังร้านของตนโจวเฟิ่งจิ่วที่มาดักรอศัตรูหัวใจนานสองนานรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ทว่านี่ไม่ใช่จวนตระกูลโจวของตน ไม่ใช่เรือนคุณหนูใหญ่ นางจึงมิสามารถอาละวาดหรือระบายโทสะได้ ทำได้เพียงยืนนิ่ง ๆ และชักสีหน้าบ้างเป็นบางครั้งเท่านั้น ครั้นเห็นไป๋ฟางเซียนกำลังเดินมา จึงได้ร

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 70

    “โจวเฟิ่งจิ่ว แผนนี้คิดนานหรือไม่ ถามจริง เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าอย่างนั้นหรือ อยากให้ข้าหย่ากับท่านพี่จนต้องคิดแผนตื้น ๆ นี้ขึ้นมา เหอะ เป็นเด็กไปหรือไม่ ข้ามิใช่ไป๋ฟางเซียนคนเดิมที่จะยอมให้เจ้าหลอกแล้วตามเจ้าไม่ทันนะ เจ้ากลับไปเสียเถอะ มันไม่ได้ผลหรอก”ริมฝีปากบางของโจวเฟิ่งจิ่วขบเม้มเข้าหากัน แววตาของนางมีแต่ไฟโทสะ พร้อมกับลมหายใจที่เร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ ขณะเดียวกันความไม่ยินยอมก็สะท้อนออกมาจากแววตาของนางเช่นกัน นางมิยินยอมกลับไปอย่างคนพ่ายแพ้แน่ ที่มาวันนี้เพราะต้องการเห็นนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เสียใจ มิใช่มาเพื่อให้มันเหยียบย่ำนาง ใบหน้าของโจวเฟิ่งจิ่วเชิดขึ้น ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะอย่างขบขัน“เจ้าคิดเช่นนั้นจริง ๆ อย่างนั้นหรือ น่าขันยิ่งนัก ข้าบอกขนาดนี้แล้วยังจะคิดเข้าข้างตนเองอยู่ได้ หลอกตนเองมีความสุขมากหรือไม่ไป๋ฟางเซียน เอาเถอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ข้าจะผิดคำพูดกับพี่เหวิน บอกให้เจ้าฉลาดขึ้นก็แล้วกัน” นางหยุดเพียงนิดก่อนพูดต่อว่า“ที่พี่เหวินทำดีกับเจ้า บอกรักเจ้า เป็นเพราะว่าเขาอยากเอาชนะเจ้าอย่างไรเล่าไป๋ฟางเซียน เจ้าและเขาท้าทายพนันสิ่งใดกันไว้ ลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือ เจ้าคิ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 71

    “คุณหนู” จื่อถิงร้องเรียกเจ้านายสาวด้วยน้ำเสียงตกใจและเป็นห่วง เมื่อเห็นหยดน้ำตาไหลอาบแก้มนวล นางรีบปรี่เข้าไปดูคุณหนูของนางทันที นานเท่าไรแล้วที่คุณหนูของนางมิได้ร้องไห้เช่นนี้ ก่อนหน้านี้มันเกิดอันใดขึ้นกัน สตรีนางนั้นเข้ามาพูดจาอันใดให้คุณหนูของนางเสียใจอีก จื่อถิงคิดด้วยความว้าวุ่นใจ“เกิดอันใดขึ้นเจ้าคะคุณหนู บุตรสาวตระกูลโจวทำอันใดคุณหนูเจ้าคะ บอกจื่อถิงเจ้าค่ะ จื่อถิงจะจัดการให้ แม้ต้องตายก็ยอมเจ้าค่ะ” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน ยิ่งเห็นเจ้านายสาวนั่งนิ่งปล่อยน้ำตาไหลอาบแก้มยิ่งรู้สึกเป็นห่วงไป๋ฟางเซียนหาได้สนใจจื่อถิงไม่ นางเพียงนั่งนิ่งขบคิดถึงคำพูดโจวเฟิ่งจิ่ว และทบทวนการกระทำของหลี่เหวินหลาง ส่วนน้ำตาที่รินไหลก็ไม่ได้ใส่ใจ ไม่มีเสียงร้องไห้ให้ได้ยิน ดวงตาของนางแดงเรื่อ มือเล็กกำเข้าหากันแน่น หัวใจของนางบีบคั้น เพราะหลังจากทบทวนทุกอย่างอย่างถี่ถ้วน ก็รู้สึกว่า สิ่งที่โจวเฟิ่งจิ่วพูดออกมานั้นมีมูลความจริงไม่น้อยไป๋ฟางเซียนไม่ได้เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างเต็มที่นัก เพราะนางอยากฟังความสองข้าง ทว่าไม่สามารถห้ามน้ำตาหรือสั่งให้ตนเองหยุดร้องได้‘ที่พี่เหวินทำดีกับเจ้า บอกรัก

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 72

    ยามเว่ย[1]ชั้นสองของโรงเตี๊ยมตระกูลหยาง ณ มุมอับสายตา มีร่างบุรุษและสตรีจ้องหน้ากันอยู่ บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบเล็กน้อย ทั้งอารมณ์ของพวกเขาทั้งสองแตกต่างกันอยู่มาก ด้านบุรุษมีใบหน้าเฉยชาติดจะอึมครึม ส่วนสตรีใบหน้างดงามเจิดจ้าแย้มยิ้มเอียงอาย ส่งสายตาหยาดเยิ้มให้คนที่ตนมองอยู่เป็นนิจ อีกทั้งใบหน้าของนางยังเห่อแดง ยกยิ้มมุมปากบางเบา ก่อนเสหลบสายตาด้วยความเหนียมอาย ซึ่งบุรุษและสตรีคนดังกล่าวก็คือ หลี่เหวินหลาง และ โจวเฟิ่งจิ่ว“พี่เหวินนัดเฟิ่งเอ๋อร์มาในวันนี้เพราะอันใดหรือเจ้าคะ” นางเอ่ยถามพลางยกมือป้องปากเล็กน้อย ด้วยเกรงว่าตนจะเผลอยิ้มหวานจนเกินไป“ย่อมต้องมีเรื่องสนทนากับเจ้า” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ หาได้ตื่นเต้นหรือแฝงความรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายไม่“น่าน้อยใจนัก หากมิมีเรื่องสนทนากัน ท่านจะไม่ยอมมาหาข้าเลยเชียวหรือเจ้าคะ รู้หรือไม่ว่าข้าคิดถึงท่านเพียงใด เฟิ่งเอ๋อร์น้อยใจยิ่ง” นางพูดอย่างมีจริต พลางส่งสายตาตัดพ้อต่อว่าเขาอย่างไม่จริงจังนัก“เป็นเพราะว่าข้างานยุ่ง ที่สำคัญการที่จะนัดพบ หรือลอบพบกับเจ้ามิใช่เรื่องที่สมควรนัก ผู้คนจะร่ำลือไปในทางเสียหายได้”“เสียหายอันใดกันเจ้าคะ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 73

    ด้านไป๋ฟางเซียนหลังได้เห็นว่าคนที่พยายามเทียวไล้เทียวขื่อตนเองตลอดสามสี่วันที่ผ่านมา มานั่งกินข้าวกับโจวเฟิ่งจิ่วถึงโรงเตี๊ยมก็รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก!ยามกลางวันกับข้าท่านบอกยุ่งอยู่กับงาน แต่กับนาง ท่านกลับปลีกตัวมากินข้าวด้วยกันได้ ไม่ไว้หน้ากันเกินไปแล้ว!ท่าทีนิ่งเฉยเช่นนั้นคืออันใด! มิใช่ว่าเรื่องที่โจวเฟิ่งจิ่วพูดกับนางเมื่อหลายวันก่อนมันจริงหรอกหรือ หลี่เหวินหลางนะหลี่เหวินหลาง นางหรือก็อุตส่าห์คิดในแง่ดีว่ามันคงไม่จริง คิดเข้าข้างตนเองว่าเขามิได้มีนิสัยเช่นนั้น เห็นตำตาเช่นนี้นางคงคิดแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว!ภายนอกที่ไป๋ฟางเซียนแสดงออกในยามนี้หาได้รู้สึกเสียใจอันใดไม่ ทั้งยังไม่มีความรู้สึกโกรธให้เห็น นางเพียงมองทั้งสองด้วยความเฉยเมย ทว่าใครเลยจะรู้ว่าความนิ่งเฉยที่แสดงออกมานั้น หัวใจของนางกำลังบีบรัดเพียงใด ยามนี้ไป๋ฟางเซียนกำลังรู้สึกว่าตนถูกมือที่มองไม่เห็นบีบหัวใจของนางอย่างแรง เจ็บมาก แต่แสดงออกไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดีแม้จะอยากเถียงว่าเขามิได้เป็นอย่างที่โจวเฟิ่งจิ่วพูด ทว่าภาพที่ได้เห็นตรงหน้าก็ฟ้องเสียเหลือเกินว่ามันไม่ใช่ สิ่งที่โจวเฟิ่งจิ่วพูดเป็นเรื่องจริงนางเ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 74

    ยามซวี[1] เกิดความเงียบสงัดภายในเรือนเหมยกุ้ย เกิดความอึดอัดและขุ่นข้องหมองใจในห้องนอนของไป๋ฟางเซียน บรรยากาศที่แสนจะอึมครึมนี้ทำให้หลี่เหวินหลางกระอักกระอ่วนใจอย่างมาก ทั้งยังรู้สึกหงุดหงิดตั้งแต่ช่วงบ่ายที่เซียนเซียนของเขาหัวเราะยิ้มแย้มกับฉินเฟิง แม้จะมีฮุ่ยหลินและหยางตงเยว่อยู่ด้วยก็ตาม ทว่าก็ไม่สามารถลดความหึงหวงที่เขามีต่อนางได้ อยากลงโทษนางเช่นทุกทีที่เขาชมชอบก็ไม่สามารถเช่นกัน ด้วยรู้ดีว่าตนมีความผิดอยู่ไม่น้อยสามวันแล้วที่ไป๋ฟางเซียนไม่ยอมคุยกับเขา ไม่ว่าทำสิ่งใดก็ไม่ได้ยินนางเอื้อนเอ่ยสักประโยคเดียว ตอนแรกตั้งใจว่าไว้ค่อยปรับความเข้าใจกันหลังงานทุกอย่างเรียบร้อย ทว่าคงจะนานเกินไป และกลัวเหลือเกินว่าจิ้งจอกน้อยจะตีจาก ดังนั้นวันนี้หลังจากที่คุยกับโจวเฟิ่งจิ่วถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ปรี่พาไป๋ฟางเซียนกลับจวนทันที เพราะไม่อาจทนเห็นนางคุยกับฉินเฟิงอย่างสนิทสนมได้ โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าสตรีที่เขาส่งจดหมายนัดมานั้นมองเขาและไป๋ฟางเซียนด้วยสายตาโกรธแค้นเพียงใดโจวเฟิ่งจิ่วรู้สึกอยากกรีดร้องในความอัดอั้นตันใจออกไปจนแทบบ้า หากไม่สามารถกระทำได้เพราะผู้คนในโรงเตี

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-10

Bab terbaru

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 134 จบ

    ไป๋ฟางเซียนที่รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง ก็พบเห็นสามีของตนใบหน้าเขียวคล้ำสลับแดง เขาหรี่ตามองราวกับคนกำลังจับผิด สายตาของเขาทำเอานางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียงลมหายใจหอบถี่ของผู้เป็นสามีทำให้นางเข้าใจได้ทันทีว่านางทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ขณะที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย ร่างของผู้เป็นสามีก็สะบัดชายอาภรณ์ตรงกลับไปยังห้องนอน ไป๋ฟางเซียนนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกตามไปขณะเดินไปยังห้องนอนของตน นางก็ขบคิดกับตนเองว่าจะง้องอนเขาเช่นไรดี เขาจึงจะหายจากท่าทางปั้นปึ่งเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมาพลันนึกขึ้นได้ว่า ตัวนางเองไม่ได้ผิดอันใดเสียหน่อย คนที่มาหานางในวันนี้ล้วนเป็นสหายนางทั้งนั้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมง้อเขาหรอกแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องนอนเห็นสีหน้าปั้นปึ่งมองนางตาขวางด้วยแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็รีบก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาเขาอย่างเร็วรี่ พลางลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ “ท่านพี่เจ้าขา เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ประเดี๋ยวจะไม่หล่อเอานา” นางเอ่ยเสียงหวานหยอกเย้าเขา หวังให้เขาโต้แย้งเช่นทุกครั้ง แต่กลับได้ความเงียบตอบมาแทนดวงตากลมโตช้อนสายตาหวานขึ้นมองอ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 133

    หนึ่งเดือนผ่านไปนับจากวันที่ไป๋ฟางเซียนฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างในชีวิตของนางและหลี่เหวินหลางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักของคนทั้งสองต่างผลิบานและสุกงอมเต็มที่ หลี่เหวินหลางกระทำอย่างปากว่า เขาไม่เคยปล่อยให้นางห่างจากตัวหรือห่างจากสายตาอีกเลย ไม่รู้เช่นกันว่าเขาไปทำเช่นไร จึงสามารถทำให้องค์ฮ่องเต้พระราชทานวันหยุดมาให้ถึงสองเดือนด้วยกัน ทว่าจะบอกว่าหยุดเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะระหว่างนี้หลี่เหวินหลางก็ต้องไปดูระเบียบในค่ายทหารเป็นครั้งคราวด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็มีเวลาอยู่กับนางมากขึ้นอยู่ดี และนอกจากชีวิตของนางและเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตของผู้อื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันยามนี้สาวใช้ตัวน้อยของนางและคนสนิทของหลี่เหวินหลาง จื่อถิงกับตงผิง ต่างก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้นางจึงไม่เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทเลย แต่ก็เป็นนางอีกนั่นแหละที่ให้จื่อถิงหยุดและใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานบ้าง แน่นอนว่าคำของนางทำให้ตงผิงมีความสุขอย่างมาก เพราะถ้านางบอกให้จื่อถิงหยุด หลี่เหวินหลางก็จะบอกให้ตงผิงหยุดงานชั่วคราวเช่นเดียวกัน แต่นี่ก็ครบกำหนดเวลาที่นางให้ไปแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันนี้คงได้เห็นห

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 132

    หลี่เหวินหลางกอดร่างบางแนบแน่น คางสากเกยไหล่มนของนางไว้พร่ำบอกแนบชิดริมหู จนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นอดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้ มือบางยกมือขึ้นโอบกอดบุรุษร่างโตด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกรักและห่วงหาทว่าดูเหมือนพวกเขาจะหลงลืมไปว่าในห้องนี้หาได้มีพวกเขาไม่ ยามนี้ทั้งท่านหมอชรา หลี่เหวินชิง เหลียนฮวา จื่อถิงและตงผิงต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำหน้าไม่ถูกกันแทบทั้งสิ้น ก่อนจะเป็นไป๋ฟางเซียนที่ตั้งสติได้ นางมีกิริยาเลิ่กลั่ก พยายามดันตัวตนเองออกจากอ้อมกอดของหลี่เหวินหลาง แต่เจ้าของอ้อมกอดแสนอบอุ่นหาได้ยินยอมไม่“เซียนเซียน พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่กลัวมากเพียงใด กลัวว่าเจ้าจะจากพี่ไป กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาพี่อีก พี่คิดไปต่าง ๆ นานา นอนก็ไม่เคยหลับ กินก็ไม่เคยอิ่ม ใจภวงคิดถึงเป็นกังวลแต่เรื่องของเจ้า เซียนเซียน ขอบคุณที่เจ้ากลับมาหาพี่ นับว่าการรอคอยที่แสนทรมานของพี่สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ”“เอ่อ ท่านปล่อยข้าก่อนดีไหมเจ้าคะ”“ไม่! จากนี้ไปพี่จะไม่ยอมห่างเจ้าอีกแล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าห่างสายตาจากพี่อีกด้วย”“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 131

    “ข้าขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างตัวจริงทำเพียงยิ้มรับ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ สุดท้ายแล้วข้าและเจ้าก็คือคนคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าจะมีใครที่ไหนจะมีชื่อแซ่เดียวกับตนเองบ้างเล่า สิ่งที่เจ้าควรรู้คือ เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”“แต่ว่า...”“ตอนแรกข้าก็สงสัยเหมือนเจ้า ในยามที่ข้าตกตายเพราะจมน้ำ ข้าก็ถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ เฝ้ามองดูเจ้าเข้าไปในร่างของข้าอย่างไม่ยินยอมนัก หลายครั้งที่ข้าคิดทำร้ายเจ้า หากแต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ข้าจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่เข้าใจและเฝ้าถามตนเองมาตลอดว่าทำไม กระทั่งวันหนึ่งข้าก็ได้คำตอบจากคนผู้หนึ่ง”“ผู้ใดรึ”“คนผู้นั้นบอกกับข้าว่า แท้จริงแล้วทั้งข้าและเจ้าต่างเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแต่ว่าตอนเกิด ดวงจิตของเราได้แยกเป็นสอง หนึ่งคือข้า สองคือเจ้า เมื่อดวงจิตแยกไม่รวมเป็นหนึ่งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าทำไมตอนที่อยู่ในโลกเดิมทั้ง ๆ ที่เจ้ามีทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดีพร้อมและอบอุ่น แต่เจ้ากลับรู้สึกมีความสุขได้ไม่เต็มที่นัก เ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 130

    สภาพของหลี่เหวินหลางทำให้ผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลหลี่รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หากจะบอกว่าอาการของไป๋ฟางเซียนน่าเป็นห่วง สภาพของผู้เป็นบุตรชายก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างกันหลี่เหวินชิงและเหลียนฮวามองสภาพบุตรชายที่หน้าประตูด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างสุดแสน คิ้วของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนแน่นขนัด ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัยฉายความกังวลออกมาอย่างมาก ก่อนจะเป็นหลี่ฮูหยินที่ทนไม่ไหวพูดมันออกมา“ท่านพี่ น้องเป็นห่วงบุตรของเราจังเลยเจ้าค่ะ อาเหวินแทบไม่ออกจากห้องนอนของเซียนเอ๋อร์เลยนะเจ้าคะ เห็นอาการของลูกเราตอนนี้แล้ว น้องกลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ น้องกลัวว่าลูกจะล้มป่วยไปอีกคน” เหลียนฮวาเอ่ยขึ้นอย่างหนักอกหนักใจ มองหลี่เหวินหลางที่กอบกุมมือไป๋ฟางเซียนด้วยความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ด้วยไม่เคยเห็นบุตรชายของตนมีสภาพซึมเศร้าเช่นนี้มาก่อน“ไม่ต้องกังวลหรอกน้องหญิง อาเหวินรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองดี เราแค่อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขาต้องการก็พอ ตอนนี้เราไปนั่งรับลมที่ศาลากันก่อนเถิด อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ประเดี๋ยวน้องหญิงจะเป็นกังวลห่วงคนนั้นคนนี้จนพานจะไม่สบายไปอีกคน”“ท่านพี่”แม้จะเป็นห่วงบุตรชายแต่ก

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 129

    “เซียนเซียน ตื่นขึ้นมาเถิดนะคนดี พี่คิดถึงเจ้า อยากได้ยินเสียงของเจ้าจนแทบจะทานทนไม่ไหวแล้ว หรือที่เจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะอยากลงโทษที่พี่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันแรกที่เจ้าลืมตาขึ้นมาที่จวนเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่ เซียนเซียน พี่ขอโทษเจ้า กลับมาเถิดนะคนดี กลับมาหาพี่ พี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกิน” หลี่เหวินหลางทอดสายตาแห่งความคะนึงหาไปยังดวงหน้างาม ก่อนที่ชั่วพริบตาแววตาของเขาจะมีความโกรธแค้นวาบผ่าน หากแล้วก็ปล่อยวางลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นเช่นนี้ได้ตกตายไปแล้ว เขาจึงไม่รู้ว่าต้องจ้องเวรไปเพื่อสิ่งใดแท้จริงแล้วการตกน้ำของนางอันเป็นที่รักใช่ว่าเขาไม่คิดติดใจสงสัย เขาย่อมต้องสงสัยแน่นอน และมั่นใจมากว่านางคงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่ ที่ไม่ได้สืบหาตั้งแต่วันแรกเพราะเป็นห่วงนางจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด พอตั้งสติกับตนเองได้เขาจึงเริ่มสอบถามเรื่องราวคาดคั้นกับจื่อถิงอีกครั้ง แต่นางก็ตอบสิ่งใดไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นอกจากร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดและโทษว่าที่ไป๋ฟางเซียนเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของตน หลี่เหวินหลางจึงสั่งให้ตงผิงและจื่อถิงกลับไปที่สร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 128

    “เซียนเซียน! เซียนเซียน ฟื้นสิเซียนเซียน” หลี่เหวินหลางร้องเรียกชื่อภรรยาด้วยความกระวนกระวายใจ ภายในอกของเขาร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความวิตกกังวล กลัวเหลือเกินว่านางจะเป็นอันใดไป กลัวสูญเสียนางอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความกังวลฉายชัดทั้งสีหน้าและแววตา โชคยังดีที่เขามาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นกังวลมากกว่านี้“พาคุณหนุกลับจวนก่อนเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ จะได้รีบตามท่านหมอมาดูอาการ” จื่อถิงบอกอย่างร้อนรนและกระวนกระวายใจไม่แพ้กัน พลางมองเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุด น้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาสวย เหตุใดจึงเกิดเรื่องกับคุณหนูทุกครั้งที่นางไม่ได้อยู่ด้วยก็ไม่รู้ โชคดีที่ทั้งนางและท่านแม่ทัพมาได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะเป็นเช่นไร“รีบกลับจวนให้เร็วที่สุด!” หลี่เหวินหลางบอกคนขับรถม้าพร้อมทั้งอุ้มนางเข้าไปนั่งภายใน โอบกอดนางไว้อย่างหวงแหน มองดวงหน้าหวานด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุดก่อนหน้านี้หลี่เหวินหลางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว และได้เข้าไปรายงานทุกอย่างให้องค์ฮ่องเต้รับรู้เรียบร้อยถึงการปราบโจรของตน หลังจากนั้นก็รีบพาตนเองออกจากวังหลวงอย่างรวดเร็ว ด้วยคิดถ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 127

    “ไม่จริง! ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาโกหกข้า ข้าไม่สนว่าใครจะเป็นคนคิด ในเมื่อพี่เหวินเป็นคนทำเขาก็ต้องรับผิดชอบ เจ้าก็ด้วย ในเมื่อวันนี้ข้าสูญสิ้นไม่เหลืออะไร พวกเจ้าก็ต้องสูญสิ้นไม่เหลือสิ่งใดเช่นเดียวกัน อย่างไรวันนี้ทุกอย่างก็ต้องจบลง ไม่ข้าและเจ้าก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ครั้งที่แล้วข้าหวังให้เจ้าจมน้ำตายที่นี่ เพราะต้องการให้เจ้าทรมานถึงที่สุด กระทั่งหลังความตายก็ยังคงทุกข์ทรมานเพราะความเย็นของกระแสน้ำ ได้แต่เหน็บหนาวแต่เพียงผู้เดียวไร้ซึ่งคนเหลียวแล ครั้งที่แล้วเป็นโชคดีของเจ้าที่ข้าทำไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม เจ้าต้องตาย ตายเพราะข้า!” โจวเฟิ่งจิ่วตวาดกร้าว ไป๋ฟางเซียนได้ฟังแล้วรู้ว่าถึงเจรจาต่อไปย่อมไม่เป็นผล ดังนั้นจึงโพล่งไปอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน เช่นไรนางก็เคยตายมาแล้ว ตายอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเลยสักนิด ห่วงก็แต่หลี่เหวินหลาง หากนางจากไปเขาจะรู้สึกเช่นไร จะเสียใจหรือคิดถึงนางบ้างหรือไม่เท่านั้นเอง “ตายก็ตายสิ คนอย่างไป๋ฟางเซียนไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว หากข้าตาย เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” จบคำพูดของไป๋ฟางเซียนร่างของโจวเฟิ่วจิ่วก็พุ่งตรงเข้ามาหวังจะกร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 126

    “ข้าไปทำอะไรให้เจ้านักหนาจึงได้คิดทำร้ายข้า”“ฮ่าฮ่า เพราะเจ้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้าไปไงเล่า! คนไม่มีบิดามารดาเป็นกำพร้าเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรลงประกวดสาวงาม แย่งชิงตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจากข้าไป เท่านั้นยังไม่พอเจ้ายังเป็นคู่หมั้นของพี่เหวิน คิดอยากได้และครอบครองเขา เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดว่าตนเองเหมาะสมกับบุรุษเก่งกล้าและรูปงามเช่นเขา แทนที่เจ้าจะสำนึกในบุญคุณของบิดามารดาของพี่เหวิน กล่าวยกเลิกงานหมั้นนั่นเสีย เจ้ากลับเร่งรัดให้ทุกอย่างเร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่เจ้าก็รู้ตนเองดี ว่าพี่เหวินมิได้รักเจ้าเลยแม้แต่น้อย แล้วข้าจะให้คนหน้าด้านเช่นเจ้าเชิดหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับข้าได้เช่นไร คิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้าคิดเทียบเคียงข้ามาโดยตลอด หวังใช้ฐานะฮูหยินแม่ทัพตีเสมอข้าน่ะสิ หึ ไม่เจียมตน”“เจ้าบ้าไปแล้วโจวเฟิ่งจิ่ว ข้าไม่เคยคิดตีตนเสมอเจ้า ข้ารู้ตนเองดี เจ้าเอาแต่ว่าข้าแล้วเจ้าเล่าดีตรงไหน วัน ๆ ตามแต่คู่หมั้นของสหาย นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้ว ยังคิดทำร้ายผู้อื่น นี่มันไม่น่ารังเกียจกว่าข้ารึ” ไป๋ฟางเซียนย้อนกลับทันควัน เพราะนางไม่ชอบให้ใครมาว่านางเช่นกัน แม้ว่าคนที่ถูก

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status