All Chapters of ดอกไม้ในเปลวเพลิง: Chapter 41 - Chapter 50

113 Chapters

บทที่ 41 พระราชโองการที่ซ่อนเร้นความนัย

หิมะโปรยปรายลงมาต่อเนื่อง เมืองหลวงของแคว้นเจียถูกปกคลุมด้วยสีขาว ลมหนาวพัดแรง ไอเย็นที่กระทบร่างกายนั้นป้องกันง่าย แต่ไอเย็นที่เสียดแทงเข้าไปที่หัวใจนั้นเล่าจะมีสิ่งใดปกป้องได้สุ่ยเฉินเฟิงนั่งอยู่ในลานเล็กหน้าเรือนของตนเอง หลังคาของเรือนยื่นออกมาคลุมลานไว้ครึ่งหนึ่ง ดวงตาของนางแดงช้ำ ใต้ตาดำคล้ำจากการอดนอนในคืนที่ผ่านมา ใบหน้าซีดเซียว สุ่ยฝานหรงเดินย่ำหิมะมายังเรือนของน้องสาว เมื่อถึงหน้าเรือนเขาก็ถอดเสื้อคลุมออกมาสะบัดเกล็ดหิมะออก ถิงถิงเข้ามารับเสื้อคลุมไปแขวนยังที่แขวนสุ่ยฝานหรงทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามน้องสาว เตาถ่านที่ตั้งอยู่ให้ความอบอุ่นได้ดี ช่างขัดแย้งกับลมหนาวที่พัดมาปะทะใบหน้ายิ่งนัก ถิงถิงนำถ้วยชาและขนมมาวางลงบนโต๊ะแล้วถอยห่างออกไปอย่างรู้ความ“เฟิงเอ๋อร์อย่าเสียใจไปเลย บุรุษอื่นที่ดีพร้อมในต้าเจียยังมีอีกมากนัก ถือว่าไม่มีวาสนาต่อกัน”“ทำไมฝ่าบาทถึงมีพระราชโองการเช่นนั้นเจ้าคะ”“เรื่องนี้สมประโยชน์หลายฝ่าย ท่านอ๋องกุมอำนาจทางทหารไว้มาก ฝ่าบาทคงเห็นว่าไม่ควรมีอำนาจทางทหารมากไปกว่านี้แล้ว เพราะอาจเป็นอันตรายต่อบัลลังก์ของรัชทายาทในภายหน้า"“หากยึดอำนาจทางทหารกลับคืนก็เป็นการล
last updateLast Updated : 2025-03-08
Read more

บทที่ 42 จัดเตรียมอาวุธอย่างลับ ๆ

หลังจากประกาศพระราชโองการพระราชทานสมรสแก่ฉินอ๋องและจงเฝิ่นลู่ผ่านไปสามวัน ฉินอ๋องก็มาเยือนจวนผู้บัญชาการกองกำลังทหารม้า จางชุนและเหลียงจื้อติดตามมาด้วย มีเพียงสุ่ยฝานหรงออกมาต้อนรับที่หน้าจวน ในระหว่างเดินไปยังห้องอักษร ต้องผ่านศาลากลางน้ำ ฉินอ๋องหันซ้ายหันขวากวาดตามองไปทั่วจวน สุ่ยฝานหรงเข้าใจกริยานั้นจึงเอ่ยว่า“ท่านแม่และเฟิงเอ๋อร์ออกไปธุระข้างนอกพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอ๋องพยักหน้ารับทราบ เขาเดินตรงไปยังห้องอักษรด้วยสีหน้าหงอยเหงา“สายข่าวแจ้งมาว่า ชายแดนทางเหนือมีชาวต้าเลี่ยงเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่เต็มไปหมด ส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์ ท่านส่งคนไปสอดส่องด้วยนะ”“กระหม่อมกำลังจะไปรายงานเรื่องนี้ที่จวนท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอ๋องรีบโบกมือ “จวนข้าช่วงนี้ท่านอย่าไปเลย แต่ถ้าอยากฟังเสียงบ่นว่าจงเฝิ่นลู่กับมารดาของนางก็ไปได้นะ มีให้ฟังทั้งวัน”“พระชายาอารมณ์ไม่ดีหรือพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอ๋องพยักหน้า สุ่ยฝานหรงกล่าวต่อไปว่า “ต่อไปคุณหนูจงก็ต้องแต่งเข้าจวนอ๋อง ได้ใกล้ชิดดูแลกัน เดี๋ยวก็จะดีขึ้นเองพ่ะย่ะค่ะ”“ช่างเถอะ ลูกสะใภ้คนไหนก็ไม่ถูกใจทั้งนั้นแหละ เรามาคุยเรื่องการสร้างอาวุธกันต่อดีกว่า”“พ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องแร่
last updateLast Updated : 2025-03-09
Read more

บทที่ 43 เร่งรัดการสมรส

ฉินอ๋องย้ายตัวเองมาพำนักที่บ้านพักผู้นำหน่วยมัจฉาพระกาฬเป็นการชั่วคราว เขากลับจวนเพื่อเยี่ยมพระชายาผู้เป็นมารดาเป็นครั้งคราว ทราบว่าฮูหยินเสนาบดีกรมคลังและบุตรีมาหาที่จวนอ๋องถึงสองครั้งแล้วเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการแต่งงานพระชายาบอกว่าให้รอปรึกษากับฉินอ๋องเอง แต่ฉินอ๋องไปทำงานราชการยังไม่รู้ว่าจะกลับจวนเมื่อใด ที่ทำการหน่วยมัจฉาพระกาฬไม่ใช่สถานที่ที่บุคคลภายนอกจะเข้าไปได้ แม้บ้านพักผู้นำหน่วยไม่สะดวกสบายเท่าจวนอ๋อง แต่ฉินอ๋องก็คลายความรำคาญใจได้บ้างน้ำชาร้อนหอมกรุ่นจัดเตรียมไว้ให้บนโต๊ะในห้องพัก เตาเล็กถูกจุดเพื่อสร้างความอบอุ่น ฉินอ๋องเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยนำจดหมายจากจวนอ๋องมาส่งให้ เมื่อเปิดออกอ่านสีหน้าที่ยังสดชื่นจากการออกกำลังกายยามเช้าก็เปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวดจางชุนรีบเดินไปฝนหมึกที่โต๊ะอักษรซึ่งวางอยู่ใกล้กันกับโต๊ะอาหาร ก็บ้านพักมิได้ใหญ่โตกว้างขวาง หลายอย่างก็วางรวมอยู่ในห้องเดียวกัน“ทำอะไร”“ก็ท่านอ๋องจะต้องเขียนจดหมายตอบกลับพระชายามิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าคงต้องกลับจวนอ๋องอีกซักครั้ง ไม่งั้นจดหมายบ่นก็จะมาอีก”“ท่านอ๋องจะเข้าพิธีแต่งเมื่อใดพ่ะย่ะค่
last updateLast Updated : 2025-03-09
Read more

บทที่ 44 ความเย็นชาของฉินอ๋อง

“ฮูหยินไม่ต้องรีบ เรื่องฤกษ์มงคลจวนอ๋องจะจัดการเอง”ฉินอ๋องรีบห้าม เมื่อยังหาทางออกไม่ได้ เขาก็จะขอยื้อเวลาไว้สักหน่อย อ๋องหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดตั้งแต่ได้ยินคำว่า หม่อมฉันเต็มใจเพคะ เขาเก็บยิ้มกลับคืนมา สีหน้าเย็นชาฮูหยินเสนาบดีกรมคลังถอนหายใจ รู้ทั้งรู้ว่าฉินอ๋องมิได้มีบุตรีของนางอยู่ในใจ แต่เป็นความปกติของสังคมที่ชนชั้นสูงก็มิได้แต่งภรรยาเอกด้วยความรักเสมอไป คำว่าความเหมาะสมมีความสำคัญกว่า ไม่เป็นไร บุตรีของนางสวยน่ารักเช่นนี้ อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ก็ผูกพันรักใคร่กันไปเองต่อไปบุตรีของนางจะต้องแต่งเข้าจวนอ๋อง การผ่อนปรนให้บ้างจะทำให้จงเฝิ่นลู่อยู่อย่างสุขสบาย นางจึงยังคงยิ้มแย้มพลางกล่าวว่า“หากท่านอ๋องจะหาฤกษ์ดีเองย่อมเป็นการดีเพคะ หม่อมฉันคิดว่าอย่างช้าไม่ควรเกินสองเดือนนี้”ฉินอ๋องนิ่งเงียบ ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ ฉินอ๋องยังจำเหตุการณ์ที่เขาและสุ่ยฝานหรงต้องเสี่ยงอันตรายเมื่อต้องฝ่าป่าไม้กินเนื้อคนเพื่อขึ้นไปช่วยสุ่ยเฉินเฟิงที่ยอดเขาเกาชาน การสืบสวนหาข่าวทำให้แน่ใจว่าจงเฝิ่นลู่เป็นผู้ช่วยเหลือให้เมิ่งหยางลักพาตัวสุ่ยเฉินเฟิงไปยังยอดเขาเกาชาน เพียงแต่ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอจะเอาผิดนางไ
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 45 สารภาพรัก

ณ จวนผู้บัญชาการกองกำลังทหารม้า ข่าวเตรียมจัดพิธีแต่งงานเร็ว ๆ นี้ของฉินอ๋องและจงเฝิ่นลู่ย่อมไม่พ้นการรับรู้ของสุ่ยเฉินเฟิงความรู้สึกสะอิดสะเอียนเมื่อนึกถึงกลิ่นลมหายใจที่ปะปนกลิ่นเหล้าของเมิ่งหยางเมื่อผลักนางลงไปบนเตียงยังจำได้เด่นชัด ความหยาบช้าของอดีตคู่หมายเมื่อใช้ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าอย่างรุนแรง ความเจ็บแสบหนังศีรษะเมื่อถูกกระชากผม ความเลวร้ายในครั้งนั้นที่นางพยายามกดข่มเอาไว้กลับเด่นชัดขึ้นมาในสมองอีกครั้งนางคงถูกย่ำยีจนยับเยินไปแล้วหากฉินอ๋องไปช่วยเหลือไว้ไม่ทัน นางมั่นใจว่าจงเฝิ่นลู่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือให้เมิ่งหยางลักพาตัวนางไปยังเขาเกาชาน แม้ว่าในเวลานี้ยังหาหลักฐานที่จะเอาผิดไม่ได้ แต่จวนเสนาบดีกรมคลังก็ถูกจับตาไว้แล้วบัดนี้จงเฝิ่นลู่กำลังจะได้แต่งเข้าเป็นพระชายาของฉินอ๋อง สุ่ยเฉินเฟิงจะรู้สึกเหมือนหัวใจของนางถูกกรีดด้วยมีดนับพันเล่มเสียงอ้อแอ้ของทารกดังขึ้นเรื่อย ๆ ถิงถิงอุ้มเพียวเพียวเข้ามา ใบหน้าของทารกน้อยบัดนี้อ้วนกลม แก้มยุ้ย น่ารักน่าเอ็นดู เมื่อเห็นสุ่ยเฉินเฟิง เพียวเพียวก็กวัดแกว่งแขนไปมา มือน้อย ๆ ยื่นมาหาสุ่ยเฉินเฟิง นางจึงรับเพียวเพียวมาอุ้มไว้อ้อมแขน ถิงถ
last updateLast Updated : 2025-03-10
Read more

บทที่ 46 ศัตรูรุกราน

ชายแดนทางเหนือของแคว้นต้าเจียมีพื้นที่ติดกับแคว้นต้าเลี่ยง เมืองชายแดนที่อยู่เหนือสุดของแคว้นต้าเจียคือเมืองเฮย มีการติดต่อซื้อขายสินค้ากันตลอดมา แคว้นต้าเลี่ยงมีพื้นดินส่วนใหญ่เป็นดินปนทราย ยากที่จะทำการเพาะปลูกให้ได้ผลดี และพื้นที่บางส่วนเป็นทะเลทราย แห้งแล้งกันดาร สินค้าที่ซื้อจากเมืองเฮยส่วนใหญ่จึงเป็นพืชผลทางการเกษตร สินค้าที่นำมาขายคือสิ่งของที่แคว้นต้าเลี่ยงได้มาจากแคว้นอื่นที่แพ้สงครามแคว้นต้าเลี่ยงมีกองทัพที่แข็งแกร่ง ผู้นำทัพคือแม่ทัพเอี้ยน เป็นแม่ทัพใหญ่ที่มีความชำนาญการศึก เก่งกาจในการสู้รบ อุปนิสัยโหดร้าย มีเสียงเล่าลือว่าความสุขของเขาคือการดูเชลยศึกถูกทารุณด้วยวิธีการต่าง ๆ แม่ทัพเอี้ยนสามารถนั่งกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาใช้ไฟลนเท้าของเชลยศึกให้เปิดเผยความลับ เขาจะหัวเราะเสียงดังสนุกสนานเช่นเดียวกับคนทั่วไปที่ชมมหรสพในช่วงเวลานี้มีคนจากแคว้นต้าเลี่ยงเข้ามาในเมืองเฮยจำนวนมาก โรงเตี๊ยมเต็มหมดทุกแห่ง ส่วนหนึ่งมาเช่าเรือนเสมือนจะตั้งถิ่นฐานกันเลยทีเดียว ทั้งหมดล้วนเป็นชายฉกรรจ์ เมืองเฮยคึกคักกว่าปกติเจ้าเมืองเฮยเป็นชายวัยกลางคน ให้ความสำคัญกับเศรษ
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 47 เมืองเฮยแตกพ่าย

ไฟลามมาถึงฝ่าเท้า กลิ่นเนื้อไหม้โชยออกมา เจ้าเมืองเฮยทุรนทุรายอยู่บนเก้าอี้ เมื่อร้อนเท้าซ้ายเขาก็ยกเท้าซ้ายขึ้นซึ่งเป็นปฏิกริยาของร่างกายโดยโนมัติ แต่เท้าขวาที่แตะเก้าอี้อยู่ก็ร้อนเช่นกัน จึงเป็นภาพที่เจ้าเมืองเฮยสลับเท้าอย่างเร็วคล้ายคนกำลังวิ่งแม่ทัพเอี้ยนยืนกอดอกมองดูภาพนั้น ทหารต้าเลี่ยงก็มองดูภาพนั้น ในแววตาของทุกคนมีความเฉยเมย ราวกับเป็นภาพที่เห็นเป็นประจำ ไม่รู้สึกสยดสยองแต่อย่างใดเจ้าเมืองเฮยกัดริมฝีปากแน่น เขารู้ดีว่าการลงนามในสัญญาสวามิภักดิ์จะทำให้เมืองเฮยถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นต้าเลี่ยง ราษฎรจะต้องทุกข์ทนถูกกดขี่ข่มเหงจากชาวต้าเลี่ยงที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโหดเหี้ยมเดิมเมืองเฮยเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีอิสระ เป็นรัฐกันชนระหว่างแคว้นต้าเจียและแคว้นต้าเลี่ยง มีระบบเศรษฐกิจที่ดี บรรพบุรุษของเจ้าเมืองเฮยย้อนไปสองรุ่นมองเห็นว่าความอิสระนั้นมีความเสี่ยงภัยจะถูกรุกรานจากแคว้นต่าง ๆ จึงตัดสินใจเข้าสวามิภักดิ์เป็นเมืองหนึ่งของแคว้นต้าเจียดังนั้น ฮ่องเต้แคว้นต้าเจียจึงมิได้ส่งขุนนางจากเมืองหลวงมาปกครองเมืองเฮย แต่ให้ทายาทของเจ้าเมืองเฮยในเวลานั้นปกครองกันเองต่อมาถึงสองรุ่
last updateLast Updated : 2025-03-11
Read more

บทที่ 48 ฉินอ๋องถูกขัดขวางมิให้นำทัพ

เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ต่างก็ถวายความคิดเห็น บ้างก็ว่าควรยกทัพไปปราบปรามโดยเร็ว บ้างก็เห็นว่าการเจรจาสงบศึกจะทำให้ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ประหยัดทั้งกำลังพลและงบประมาณ แต่ละฝ่ายต่างก็มีเหตุผลรองรับฮ่องเต้ตรึกตรองแล้ว ตรัสว่า “เจิ้นเห็นด้วยว่าควรเจรจาสงบศึก แต่ตอนนี้ต้าเลี่ยงยึดเมืองเฮยไปแล้ว ต้องเจรจาให้ต้าเลี่ยงถอนทัพออกไป พรุ่งนี้ให้คณะทูตออกเดินทางไปเจรจา จัดกำลังคุ้มครองไปด้วย”วันรุ่งขึ้นคณะทูตต้าเจียออกเดินทางไปยังเมืองเฮย สองสัปดาห์ต่อมาศีรษะของคณะทูตถูกส่งกลับมาครบทุกคน กำลังที่คุ้มครองไปรอดชีวิตเพียงผู้เดียว คือคนที่นำศีรษะกลับมานั่นเอง ความระส่ำระสายเกิดขึ้นทันที มีอารยชนที่ไหนประหารทูตท้องพระโรงวันนี้พูดคุยกันอื้ออึง เมื่อฮ่องเต้เสด็จมาประทับบนบัลลังก์ เสียงจึงเงียบลงได้ “ทุกท่านคงทราบกันแล้วว่าแคว้นต้าเลี่ยงไม่พร้อมจะเจรจา จำเป็นต้องส่งกองทัพไปปราบปราม มีผู้ใดจะอาสานำทัพหรือไม่”ฉินอ๋องก้าวออกมาทันที “ฝ่าบาท กระหม่อมขออาสานำทัพในครั้งนี้พ่ะย่ะค่ะ”เสนาบดีกรมคลังหน้าซีดลง หากฉินอ๋องไปทำศึกอยู่ชายแดน เห็นทีจงเฝินลู่คงต้องรอเข้าพิธีแต่งอีกนาน แต่เขาก็ไม่กล้าขัดแย้งฮ่องเต้ทอดพ
last updateLast Updated : 2025-03-12
Read more

บทที่ 49 มีความไม่ชอบมาพากล

กองทัพของแคว้นต้าเลี่ยงอันแข็งแกร่งโจมตีเมืองเฮย ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของแคว้นต้าเจียแตกพ่ายอย่างรวดเร็ว แม่ทัพเอี้ยนผู้ชำนาญการศึกของแคว้นต้าเลี่ยงยกทัพเดินทางมุ่งสู่เมืองหลวงของแคว้นต้าเจีย บัดนี้กองทัพของแคว้นต้าเลี่ยงเดินทัพถึงเมืองเหอ หากผ่านเมืองเหอได้ก็จะถึงเมืองฮั่วซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญของเมืองหลวงเจ้าเมืองเหอแม้จะสูงวัยแต่การป้องกันเมืองมิเคยบกพร่อง กองทัพแคว้นต้าเลี่ยงไม่สามารถผ่านเข้าประตูเมืองได้อย่างง่ายดาย จึงตั้งทัพอยู่นอกกำแพงเมืองเหอเมืองเหอมีกองทัพประจำเมืองที่มีฝีมือในการสู้รบ แม้ว่าจะไม่สามารถชนะศึกกองทัพแคว้นต้าเลี่ยงได้ แต่ก็ยังคงต้านทานไว้ได้ในระหว่างรอความช่วยเหลือจากเมืองหลวง สำหรับเมืองเฮยนั้นเดิมเป็นเมืองที่มีอิสระ ภายหลังจึงสวามิภักดิ์เป็นเมืองหนึ่งของแคว้นต้าเจีย แต่เมืองเหอเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นต้าเจียมาตลอด เจ้าเมืองเหอจึงเป็นขุนนางที่ทางราชสำนักส่งมาปกครองหลายวันผ่านไปกองกำลังป้องกันเมืองเหอก็อ่อนล้าลงเรื่อย ๆ แต่ก็พยายามยืนหยัดรอกำลังเสริม ดังนั้นเมื่อกองทัพหลวงเดินทางมาถึง เจ้าเมืองผู้ชราก็ดีใจแทบน้ำตาไหล เขาต้อนรับแม่ทัพใหญ่จวงเจี้ยนอย่างยินดี แ
last updateLast Updated : 2025-03-12
Read more

บทที่ 50 รักษาประตูเมือง

ในช่วงปลายเหมันตฤดู เริ่มต้นยามเหม่า ท้องฟ้าก็ยังไม่สว่าง ทหารเมืองเหอกลุ่มหนึ่งที่ทำหน้าที่รักษาการณ์ประจำประตูเมือง เมื่อได้รับหนังสือคำสั่งจากแม่ทัพใหญ่จวงเจี้ยนให้เปิดประตูเมืองรับทัพของแคว้นต้าเลี่ยงกลับยืนนิ่งกันทุกคน ทหารหนุ่มน้อยคนหนึ่งย้อนถามผู้ที่มาถ่ายทอดคำสั่งว่า“เหตุใดมิใช่คำสั่งของท่านเจ้าเมือง”ผู้ที่มาถ่ายทอดคำสั่งเป็นทหารที่มาพร้อมกับกองทัพหลวงตอบว่า “ข้ารับคำสั่งมาจากหัวหน้ากองให้รีบนำหนังสือคำสั่งนี้มาแจ้งแก่ท่านเท่านั้น ไม่ทราบเรื่องอื่นใด”ทหารหนุ่มน้อยนิ่งอึ้งแล้วจึงบอกว่า “ท่านรอสักครู่เถิด ข้าขอถามท่านเจ้าเมืองให้แน่ใจเสียก่อนว่าจะให้กองทัพต้าเลี่ยงเข้ามาในเมืองจริง ๆ”ทหารจากกองทัพหลวงจึงบอกว่า “จะไปสอบถามก็เร่งดำเนินการเถิด หากท่านเปิดประตูเมืองช้าข้าอาจจะโดนลงทัณฑ์”ในใจของทหารจากกองทัพหลวงก็กังขาหนังสือคำสั่งนี้เช่นกัน แต่เขามีหน้าที่เพียงนำหนังสือมาส่งเท่านั้น อย่างไรพวกเขาก็เป็นทหารแคว้นต้าเจียด้วยกัน รออีกซักหน่อยก็คงไม่เป็นไรทหารหนุ่มน้อยเกรงว่าหากตนเองละทิ้งประตูเมืองอาจไม่มีคนทัดทานคนจากกองทัพหลวง จึงให้เพื่อนร่วมงานสองนายรีบไปสอบถามเจ้าเมืองเหอ ยังไ
last updateLast Updated : 2025-03-13
Read more
PREV
1
...
34567
...
12
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status