ขายาวๆ ของเซี่ยซางก้าวออกไปข้างนอก คิดถึงว่าวันนี้ไม่ได้สนใจนางตลอดช่วงบ่าย นางจะต้องรู้สึกแย่มากเป็นแน่ครั้นมาถึงเรือนถานเซียง เซี่ยซางผลักประตูเข้าไปก็เห็นว่าซูถิงหว่านเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน เขี้ยวเล็บของนางราวกับถูกคนลับจนสูญคม นั่งตั้งใจคัดอักษรอยู่ที่โต๊ะหนังสืออย่างเรียบๆ ร้อยๆ บนโต๊ะเต็มไปด้วยกระดาษที่คัดอักษรเสร็จแล้ว ตัวอักษรไม่นับว่าบรรจง กระทั่งยังหวัดอยู่บ้าง ขนาดตัวอักษรก็ใหญ่เล็กไม่เสมอกันลายมือเจียงเฟิ่งหัวพลันปรากฏขึ้นในความคิดของเขา มุมปากเขาโค้งขึ้นน้อยๆซูถิงหว่านคัดอักษรต่อไปโดยแสร้งเป็นมองไม่เห็นเขา เซี่ยซางอ่านความคิดของนางออกจึงทำทีจะเดินจากไป ซูถิงหว่านรีบร้อนลุกขึ้นแล้วเอ่ยเสียงอ่อนหวาน “ท่านอ๋อง ช้าก่อนเพคะ”เซี่ยซางหยุดชะงักซูถิงหว่านวางพู่กันลงแล้วลุกขึ้นเดินมาแสดงคารวะตรงหน้าเขาอย่างนอบน้อม “หม่อมฉันคารวะท่านอ๋อง ท่านอ๋องอย่ากริ้วหม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว ไม่ควรไปก่อความวุ่นวายที่เรือนของพระชายา”เซี่ยซางเหมือนจะฟังผิดไป เห็นนางแต่งกายอย่างพิถีพิถัน ทั้งยังลดท่าทีลงยอมรับว่าตนเองผิดไปแล้ว เขากล่าว “ได้ยินสาวใช้บอกว่าเจ้าไม่ได้กินข้าวมา
อ่านเพิ่มเติม