Share

บทที่ 49

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
มุมปากเซี่ยซางพลันหยักขึ้นอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ฉวยโอกาสกับผู้อื่นมิใช่สิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำ

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว สิ่งที่เจียงเฟิ่งหัวต้องการก็คือความชอบจากใจจริงของสามี เช่นนี้นางจึงยินดีมอบความจริงใจออกไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่สามีที่ดี นางไม่เหมือนซูถิงหว่าน นางต้องการเพียงความชอบเล็กน้อยเท่านั้น

ก่อนหน้านี้นางได้รับการปกป้องทะนุถนอมจากสกุลเจียง นางไม่ประสาเรื่องทางโลก นางเพิ่งอายุสิบห้าเท่านั้นเอง!

เขาวางนางลงบนเตียงอย่างเบามือ นางหาท่าที่สบายตัวนอนหลับฝันหวาน ท่าทางปราศจากเล่ห์เพทุบายโดยสิ้นเชิง

เขายิ้มบาง ลองเรียกอีกครั้งว่า “หรวนหร่วน”

ไม่ได้รับคำตอบรับ จากนั้นเขาก็นอนลงข้างกายนางอีกครั้ง กุมมือนางเงียบๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายนาง เขาเองก็ค่อยๆ นอนหลับไปเช่นกัน

วันรุ่งขึ้น ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวตื่นนอน เซี่ยซางก็จากไปแล้ว

นางนอนดึกตื่นสาย ไม่รู้เลยว่าเซี่ยซางจากไปตั้งแต่เมื่อใด

เจียงเฟิ่งหัวค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน หันไปถามหงซิ่วว่า “ตอนนี้เป็นยามไหนแล้ว?”

“ยามซื่อแล้วเพคะ พระชายาไม่ตื่นสายเช่นนี้มานานแล้ว คืนวานท่านอ๋องพักที่หอหล่านเยว่ ความสัมพันธ์ระหว่างพระช
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 50

    ชาติก่อนเจียงเฟิ่งหัวไม่เคยได้รับการคารวะจากซูถิงหว่าน เนื่องจากไม่ได้รับความโปรดปรานจากเซี่ยซาง ข้ารับใช้ในจวนก็สร้างความลำบากให้นางสารพัด ชาตินี้ คืนวานเซี่ยซางเพิ่งเดินออกมาจากห้องของนาง ทุกคนล้วนเห็นกับตาย่อมจะเคารพนบนอบต่อนางเป็นธรรมดา“พระชายารองซูไม่ต้องมากพิธี ล้วนแต่เป็นคนครอบครัวเดียวกัน รีบนั่งลงเถอะ” นางสั่งความเสียงลุ่มลึก “หงซิ่วยกน้ำชาให้พระชายารองซู”“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” ซูถิงหว่านนั่งลงอย่างเรียบร้อยแล้วเอ่ยว่า “เมื่อวานหม่อมฉันหุนหันพลันแล่นเกินไป ขออภัยด้วยเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวอมยิ้มมุมปาก อ่อนโยนดุจสายลมวสันต์เดือนสาม “ท่านอ๋องอธิบายให้ข้าฟังแล้ว เขาบอกว่าพระชายารองซูเติบโตที่ชายแดนมาตั้งแต่เล็ก คำพูดและการกระทำเถรตรง นิสัยตรงไปตรงมา ทว่าจิตใจดีงาม ข้าจะโกรธเคืองเจ้าได้อย่างไรกัน ล้วนผ่านไปแล้ว”อาซางอธิบายแทนนาง ซูถิงหว่านพลันปวดใจ เจียงเฟิ่งหัวอ่อนโยนแบบนี้ นางรู้สึกว่าอ่อนนุ่มยวบยาบ ใช้กำลังไม่ได้แม้แต่น้อย นางนึกว่าอาซางไม่ชอบสตรีที่อ่อนโยนอ่อนหวานเช่นนี้เสียอีก นางผิดไปแล้ว อาซางถูกเจียงเฟิ่งหัวดึงดูดได้เหมือนกัน ตอนนี้นางอยากย้อนเวลากลับไปเหลือเกิน นางจะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 51

    “ไม่สะดวกอย่างไรกันเพคะ ถ้าพระชายาไม่ไปแสดงว่ายังโกรธหม่อมฉันอยู่” ซูถิงหว่านพูดมาอีกว่า “พระชายาเป็นคนเซิ่งจิง จะต้องคุ้นเคยกับเทศกาลชมบุปผามากกว่าหม่อมฉันเป็นแน่!”เจียงเฟิ่งหัวมีสีหน้าค่อนข้างลำบากใจ “ที่ผ่านมาพี่ใหญ่ไปเป็นเพื่อนข้า คนเยอะเกินไป ข้าไม่ค่อยชอบ”ซูถิงหว่านกล่าว “นอกจากชมบุปผา ยังมีการประชันบุปผาด้วยนะเพคะ น่าสนใจยิ่งนัก ช่วงหลายวันนี้ท่านอ๋องอาจมีงานราชการรัดตัว ปีนี้เขาอาจไม่มีเวลาไปชมบุปผาเป็นเพื่อนหม่อมฉันก็ได้เพคะ”“งั้นก็ได้!” เจียงเฟิ่งหัวพยักหน้าตกลงอย่างฝืนใจ อยากเห็นนักว่าพวกเจ้าจะเล่นลูกไม้อะไรเดิมนางก็จะไปร่วมเทศกาลชมบุปผาอยู่แล้ว ตอนนี้ซูถิงหว่านมานัดหมายกะทันหัน สามารถใช้นางมากลบเกลื่อนได้พอดีที่ผ่านมานางก็เข้าร่วมเทศกาลชมบุปผา แต่นางไม่เคยใช้สถานะสตรีออกมาข้างนอก......วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาที่จัดขึ้นปีละครั้ง ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวออกมาก็เห็นว่าซูถิงหว่านเปลี่ยนไปสวมชุดทะมัดทะแมงสีแดง รวบผมขึ้นสูง แลดูค่อนข้างองอาจคล่องแคล่วเจียงเฟิ่งหัวคิด นางไม่ได้มีรูปโฉมงามล้ำ แต่ก็ยังนับว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่ง สาเหตุที่เซี่ยซางชอบนางคงเป็นเพราะชอบบุคลิกภาพเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 52

    เซี่ยซางรีบรุดมาที่ทะเลสาบร้อยบุปผาก็เห็นว่าที่นั่นมีผู้คนคลาคล่ำ แน่นขนัดเบียดเสียด เขาถาม “เหตุใดที่นี่จึงมีคนมากมายเช่นนี้?”หลินเฟิงอธิบาย “วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาประจำปีพอดีพ่ะย่ะค่ะ งานเทศกาลจัดขึ้นที่ทะเลสาบร้อยบุปผาจึงมีคนมากมายเช่นนี้”เขารู้แล้วว่าเกิดเรื่องอันใดที่ทะเลสาบร้อยบุปผา สาเหตุความวุ่นวายคือคดีหญิงสาวหายสาบสูญเมื่อสามปีก่อน มีคนปล่อยข่าวที่ทะเลสาบร้อยบุปผาว่าหยางจิ้งเจ้ากรมอาญาเป็นฆาตกร ทั้งยังวาดภาพที่หยางจิ้งสังหารหญิงสาวอีกด้วย ภาพนั้นสมจริงสมจังจนทำให้สาธารณชนเดือดดาล ความผิดมากเกินกว่าจะเขียนบรรยายออกมาได้หมดข่าวที่เจ้ากรมอาญาถูกฆาตกรรมเผยแพร่ออกมาแต่แรกแล้ว ยามนี้คนที่ทราบว่าเขาก่อกรรมทำเข็ญมามากมายขนาดนั้นล้วนด่าทอว่าตายได้ก็ดี ความตายยังไม่สามารถชดใช้ความผิดได้หมด เพราะหยางจิ้งข่มขืนและสังหารโหดหญิงสาวไปหนึ่งร้อยกว่าคน หยางจิ้งตายไปแล้วก็รู้สึกเพียงว่าสาสมใจนักเป็นผู้ใดที่มีคุณธรรมปานนี้ ทางการไม่เพียงไม่ตกรางวัล แต่ยังติดประกาศตามจับตัวฆาตกร ดังนั้นทุกคนจึงประท้วงขึ้นมาเซี่ยซางเห็นว่าสถานการณ์วุ่นวายขนาดนั้นก็สั่งความเสียงขรึม “ให้กองกำลังรักษาความ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 53

    เซี่ยซางขมวดคิ้วแน่น ทั่วบริเวณวุ่นวายสับสน สถานการณ์ขณะนั้นไม่สงบเป็นอย่างยิ่ง จำเป็นต้องมีคนแสดงท่าทีออกมา มิฉะนั้นราษฎรไม่มีทางเชื่อถือทางการ เรื่องนี้ต้องรายงานให้ฝ่าบาททรงทราบโดยเร็วที่สุดเซี่ยซางพลันกระโดดขึ้นไปยืนบนสะพานโค้งเหนือทะเลสาบร้อยบุปผา เอ่ยเสียงลุ่มลึกว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งวู่วาม ข้าคือเซี่ยซางผู้ดูแลเขตเมืองหลวง วันนี้ข้ายินดีเป็นผู้นำลงนามหนังสือหมื่นประชาลงนามร้องทุกข์นำไปกราบทูลฝ่าบาท จะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมกับตระกูลหยางแทนทุกท่านรวมถึงเหล่าสตรีที่ตายไปอย่างแน่นอน และประจานพฤติกรรมอันชั่วร้ายของหยางจิ้งให้ทุกคนรับทราบโดยทั่วกัน”เห็นเขาสวมเครื่องแบบขุนนางสีม่วง ท่าทางน่าเกรงขาม ทรงอำนาจบารมี แววตาหนักแน่น ในไม่ช้าก็มีคนตัดผ้าขาวยาวสิบจั้งก้าวออกมาผ้าขาวนั้นทอดยาวจากปลายด้านหนึ่งของสะพานโค้ง โอบล้อมทะเลสาบร้อยบุปผาได้ครึ่งทางเซี่ยซางหยิบกริชขึ้นมากรีดนิ้ว เขียนตัวอักษรสองตัวว่า ‘เซี่ยซาง’ อย่างทรงพลังและสง่างาม เพื่อสื่อว่าวันนี้เขาจะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ปวงชนอย่างแน่นอน ทุกคนอึ้งงันไปอย่างเหลือเชื่อ ฉับพลันนั้นทุกคนก็เงียบเสียง เหิงอ๋องเป็นผู้นำลง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 54

    หลินอวี่รู้ว่าเจียงเฟิ่งหัวมีปณิธานยิ่งใหญ่และมีความสามารถไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็ก ตอนมีราชโองการสมรสพระราชทานลงมาเมื่อครึ่งปีก่อน เจียงเฟิ่งหัวน้อมรับด้วยความยินดี ทั้งยังดีใจมากอีกต่างหาก นางจึงเข้าใจว่าคนที่นางชอบคือเหิงอ๋องเซี่ยซางแต่เจียงเฟิ่งหัวกลับบอกนางว่าตนเองไม่ชอบเขา ต่อไปก็ไม่มีทางชอบหลินอวี่หลินอวี่งุนงงไปหมดแล้วหลินอวี่กับเจียงเฟิ่งหัวรู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาพวกนางไม่ได้เป็นเพียงนายบ่าว แต่เหมือนพันธมิตรและมิตรแท้สำหรับกันและกันมากกว่าต่อมา เจียงเฟิ่งหัวลงทุนก่อตั้งกิจการหอสุราแห่งนี้ หลินอวี่กลายเป็นเถ้าแก่หอสุราตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่าการตัดสินใจทุกอย่างมีเจียงเฟิ่งหัวคอยกำกับอยู่หลังม่านพวกนางพบกันครั้งแรกที่หอสังคีต เปลือกนอกเป็นหอสังคีต แต่แท้จริงแล้วเป็นหอโคมเขียวแต่สถานการณ์ของพวกนางกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง หลินอวี่ถูกขายให้หอสังคีต ชะตาชีวิตนางถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะต้องชวนสลดน่าสังเวช อยู่มิสู้ตาย กระทั่งว่าที่พึ่งชั่วชีวิตของนางคือการปรนนิบัติเอาใจบุรุษ เมื่อเข้าไปในหอโคมเขียว เดิมนางก็สิ้นหวังไปแล้วทว่าคล้ายกับว่าสวรรค์นำโช

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 55

    “เจ้าหมายความว่าหนังสือหมื่นประชาลงนามเป็นสิ่งที่เหิงอ๋องเตรียมการเอาไว้แต่แรกแล้ว” หลินอวี่รู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง “เขาทำแบบนี้ไม่กลัวว่าฮ่องเต้จะทรงกริ้วรึ?”“กฎหมายไม่ลงโทษคนหมู่มากนี่นา” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว “เขาร้องทุกข์เรียกร้องความยุติธรรมแทนราษฎร เรื่องยังวุ่นวายใหญ่โตปานนี้ ถ้าฮ่องเต้ทรงลงโทษเหิงอ๋องแล้วจะอธิบายต่อไพร่ฟ้าอย่างไรเล่า” อย่างไรเสียเซี่ยซางก็ไม่เคยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เขาคงไม่สนใจอันใดอีกแล้วจึงทำเช่นนี้กระมัง!ทางด้านนี้ หลังจากเซี่ยซางง้อซูถิงหว่านเสร็จแล้ว ราชโองการจากในวังก็มาถึง ทว่าคนที่มาถ่ายทอดราชโองการกลับเป็นองค์ชายรองเซี่ยอวี้เซี่ยอวี้เห็นว่าซูถิงหว่านอยู่ข้างกายเซี่ยซางก็เสียดสีว่า “ผู้ดูแลเขตเมืองหลวงมาสืบคดีก็ไม่ลืมพาอนุคนงามมาด้วย พวกเจ้าช่างรักใคร่กันดีเหลือเกินนะ!”ซูถิงหว่านฟังออกว่าเซี่ยอวี้พูดจาเสียดสีจึงอธิบายว่า “อวี้อ๋องเข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันมาเจอท่านอ๋องโดยบังเอิญ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องกำลังสืบคดีอยู่ที่นี่”เป็นเพราะเซี่ยซางอธิบายสถานการณ์ให้นางฟัง นางจึงรู้ว่าเซี่ยซางกำลังสืบคดีอยู่ เดิมยังคับข้องใจที่เซี่ยซางไม่ให้ความร่วมมือนา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 56

    สำนักหลิงอวิ๋นเมื่อเซี่ยซางมาถึงหน้าทางเข้าสำนัก บ่าวเฝ้าประตูไม่ได้ถามว่าเป็นใคร กลับเอ่ยทันที “เหิงอ๋องโปรดเชิญทางนี้ เจ้าสำนักของพวกเรารอท่านนานแล้ว”เซี่ยซางเต็มไปด้วยความสงสัย ในเมื่ออีกฝ่ายรู้ฐานะของเขา เชื่อว่าน่าจะเตรียมการไว้แต่แรก เขาเดินตามบ่าวเฝ้าประตูเข้าไปในสำนักอย่างเงียบขรึมเมื่อเข้ามาในสำนักเขาจึงได้รู้ว่าด้านในแตกต่าง ลูกไม้แพรวพราวถานหว่านชิงเตรียมน้ำชาไว้แต่แรก เดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง “หม่อมฉันถานหว่านชิงคารวะเหิงอ๋องเพคะ”เซี่ยซางหันไปมอง หญิงสาวตรงหน้าซึ่งมีอายุประมาณยี่สิบปีเศษเท่านั้น นางสวมชุดทะมัดทะแมงสีดำทั้งชุด แต่งกายด้วยชุดของบุรุษ ดูเหมือนผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งเขาไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าคือเจ้าสำนักหลิงอวิ๋น“เจ้าสำนักถานเกรงใจเกินไปแล้ว ในสายตาเจ้าสำนักถานข้าคงเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้น” เขากล่าวต่อ “ขนาดเจ้ากรมอาญา พวกเจ้ายังสังหารโดยไม่ให้รู้ตัว”ถานหว่านชิงกล่าวด้วยแววตาจริงใจ “ตอนหยางจิ้งทำให้น้องสาวหม่อมฉันตายนางอายุเพียงสิบสองปีเท่านั้น ขณะที่นางตายเอาแต่ขอร้องตลอด แต่หยางจิ้งกลับไม่ได้หยุดพฤติกรรมเยี่ยงเดรัจฉานของเขา น้องสาวหม่อมฉันถูกเขาท

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 57

    เซี่ยซางไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตไปมากกว่านี้ ต่อให้คนของเขาสืบสาวมาถึงสำนักหลิงอวิ๋น เขาก็ไม่ได้ให้ใครรู้เขาเอ่ยเสียงเข้ม “สำนักหลิงอวิ๋น ข้าจะจำไว้”พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องรับแขกทันที เมื่อมาถึงด้านนอก จึงเห็นคนมามุงอยู่เต็มเรือน หนำซ้ำยังเป็นสตรีทั้งหมด สีหน้าพวกนางหวาดกลัว จ้องเขาตาไม่กระพริบเซี่ยซางถูกหญิงมากมายจ้องมอง อีกทั้งนึกถึงหญิงสาวร้อยกว่าคนที่ตายไป จู่ ๆ ในใจเขาหวาดกลัวเล็กน้อย ดูท่าคงต้องให้หลินเฟิงไปสืบที่มาของสตรีเหล่านี้ทว่าสุดท้ายกลับทำให้เซี่ยซางผิดหวัง หญิงเหล่านี้เป็นเพียงหญิงน่าสงสารที่ไม่มีบ้าน ถานหว่านชิงเองก็เป็นหญิงชาวบ้าน ที่ถูกหยางจิ้งทำร้ายจนบ้านแตกสาแหรกขาด ส่วนพวกหญิงสาวที่อยู่ในสำนักหลิงอวิ๋นถูกนางรับไว้ทั้งหมดสำนักหลิงอวิ๋นก็เป็นเหมือนศูนย์เมตตาธรรม......อีกด้านหนึ่ง เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับไปที่ทะเลสาบร้อยบุปผา งานชมบุปผาได้จบลงแล้วงานชมบุปผาปีนี้มีทั้งเรื่องประหลาดใจและเรื่องน่าเสียใจ ทุกคนพูดกันไปต่าง ๆ นานา “คุณชายใหญ่เจียงไม่มาร่วมงาน น่าเสียดายยิ่งนัก ปีก่อนที่เขาร่วมงาน เวลานี้งานชมบุปผาก็ยังไม่จบ ทุกคนแข่งกันจนไม่อยากกลับ เด็กรับ

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 156

    นางย้อนนึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเซี่ยซาง มีเพียงตอนที่นางพูดถึงเฉิงฮองเฮาเท่านั้น ที่เขาดูเหมือนจะสะเทือนใจขึ้นมา กระทั่ง…คำพูดประโยคนั้นของเขาจู่ๆ ในสมองของเจียงเฟิ่งหัวก็มีความคิดที่ทำให้คนตื่นตระหนกผุดขึ้นมา หรือว่าเซี่ยซางเข้าใจมาตลอดว่าเฉิงฮองเฮาไม่ใช่มารดาแท้ๆ ของเขาแม้แต่ท่าทีที่ฮ่องเต้มีต่อเฉิงฮองเฮาก็ไร้ไมตรีเช่นนั้น นางจึงคิดว่าตัวนางในอดีตก็เหมือนเฉิงฮองเฮา ที่ไม่เป็นที่พึงใจของสวามีตน และถึงขนาดรังเกียจเพราะในใจของเซี่ยซางมีสตรีนางอื่นอยู่อย่างนั้นที่ฮ่องเต้ทรงรังเกียจฮองเฮา ก็เพราะในใจของฮองเฮามีบุรุษอื่นเช่นนั้นหรือ? จึงคิดว่าเซี่ยซางเป็นลูกที่ถือกำเนิดจากฮองเฮาและชายอื่นนางรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ราชวงศ์ไม่มีทางยอมให้สายเลือดของเชื้อพระวงศ์ไม่บริสุทธิ์อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้เซี่ยซางยังต้องเป็นโอรสของฮ่องเต้จริงๆ ไม่เช่นนั้นเขาไม่มีทางมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้นางคล้ายจะตะลึงค้างไปแล้ว ดูเหมือนนางจะค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ของวังหลวงเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจซะแล้ว“ท่านอ๋อง ศีรษะของหม่อมฉันถูกพระองค์หมุนจนวิงเวียนไปหมดแล้วเพคะ ทรงรีบวางหม่อมฉันลงเร็วเข้า” เจียงเฟิ่งหัวรีบปรับ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 155

    สีหน้าของเจียงเฟิ่งหัวตะลึงไป ไม่มีสิ่งใดจะกล่าวอีก เซี่ยซางมุ่งมั่นปักใจรักซูถิงหว่านไม่แปรเปลี่ยน ดังนั้นเขาจึงมอบความโปรดปรานให้นาง และให้นางและอดทนให้อภัยนางอย่างไม่มีขีดจำกัดจู่ๆ นางก็กล่าวออกมาว่า “แม้แต่เด็กเล็กยังสามารถรับผิดชอบต่อคำพูดและพฤติกรรมของตน แล้วเหตุใดชายารองซูจึงทำไม่ได้ ชายารองซูนางไม่ใช่เด็กแล้ว ไม่อาจนำความไร้เดียงสา ร่าเริงเปิดกว้างมารับมือได้ทุกครั้ง นางสามารถไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่หม่อมฉันไม่ทำตามอำเภอใจโกรธใครโดยไม่มีเหตุผลได้”“วันนั้นหม่อมฉันเห็นท่านอ๋องแยกแยะถูกผิดในศาลได้อย่างง่ายดาย หม่อมฉันจึงเต็มไปด้วยความยอมรับนับถือต่อท่านอ๋อง คิดว่าไม่ว่าท่านอ๋องจัดการเรื่องใดล้วนสามารถพิจารณาถูกผิดได้อย่างกระจ่าง คิดไม่ถึงว่าเมื่อท่านอ๋องทรงเผชิญหน้ากับหญิงอันเป็นที่รัก จะทรงมัวเมาหลงใหลจนสูญเสียบรรทัดฐานที่ควรมี”เซี่ยซางจ้องนางอย่างไม่ละสายตา เพราะนางผิดหวังในตัวเขาเสียแล้ว จึงได้ไม่สนใจใช่หรือไม่?นางย่อมไม่มีทางพูดคำพูดประเภท ‘ผิดหวังในตัวเขา’ ที่ทำร้ายสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาออกมา จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป “ท่านอ๋องทรงอยากถามใช่หรือไม่ว่า ที

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 154

    เมื่อซูถิงหว่านได้ยินก็ตกใจจนสีหน้าซีดสีขาว รีบกล่าวว่า “ข้าไม่ดื่ม เหตุใดข้าต้องดื่มด้วย ข้าไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดต่ออาซาง ข้าก็บอกแล้ว ข้าไม่ได้อยู่กับชายอื่น ข้าอยู่กับแค่ท่านอ๋องเท่านั้น พวกท่านไปเรียกท่านอ๋องมาสิ ถามเขาดูว่าเมื่อเช้าทำเรื่องนั้นกับข้าใช่หรือไม่ ข้าจะพูดกับเขาต่อหน้า”หลังเฉิงฮองเฮาได้ยินก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย เมื่อบุรุษผู้หนึ่งเต็มใจแตะต้องสตรีนางหนึ่งแสดงถึงสิ่งใด นี่แสดงว่าเขาชอบนาง หากครั้งนี้ซูถิงหว่านตั้งครรภ์ขึ้นมา และคืนก่อนนางก็ไม่ได้อยู่ในจวนอ๋องอีก เรื่องนี้ก็พูดได้ไม่ชัดเจนแล้วสี่หมัวมัวสั่งหมัวมัวอีกสี่นางให้กดซูถิงหว่านไว้อีกครั้งส่วนสี่หมัวมัวเมื่อยกยาขึ้นมาได้ก็จับกรอกลงปากของนางไปทันที ซูถิงหว่านหวาดกลัวแทบตาย นางปิดปากแน่น ไม่ง่ายเลยกว่านางจะล่อให้เซี่ยซางมาอยู่กับนางอีกครั้ง ต้องไม่ให้แผนชั่วของเฉิงฮองเฮาสำเร็จเด็ดขาดถึงอย่างไรซูถิงหว่านก็เป็นวรยุทธ์ แล้วจะยอมให้พวกนางกรอกยาง่ายๆ ได้อย่างไร นางโขกศีรษะออกไปอย่างแรงจนกระแทกถูกดั้งจมูกของสี่หมัวมัว เป็นเหตุให้จมูกของสี่หมัวมัวมีเลือดสดไหลออกมาจากนั้นก็ถือโอกาสที่ทุกคนกำลังตกตะลึงและผ่อนคลา

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 153

    เซี่ยซางเป็นฝ่ายเดินเข้าไปประคองเจียงเฟิ่งหัวขึ้นมาด้วยฝีเท้าที่มั่นคง “ลุกขึ้นมาเถอะ”เขารู้จักเสด็จแม่ดี ขอเพียงเขาใส่ใจใครแม้เพียงเล็กน้อย เสด็จแม่ก็จะต้องเห็นคนผู้นั้นเป็นดั่งศัตรู ยี่สิบกว่าปีแล้ว ความเป็นห่วงใยที่เสด็จแม่มีต่อเขากดดันเขาจนแทบจะหายใจไม่ออกดวงตาทั้งคู่ของเจียงเฟิ่งหัวอดกลั้นจนเต็มไปด้วยหมอกน้ำตา ทำท่าจะลุกขึ้นมาทันที แต่ต้องพบว่าขาทั้งคู่ของนางแข็งทื่อ เซี่ยซางต้องช่วยประคองนางอีกแรงนางถึงลุกขึ้นมาได้เซี่ยซางคิดวางนางยืนดีแล้วจึงปล่อยมือออกวินาทีถัดมา ก็เห็นขาทั้งคู่ของเจียงเฟิ่งหัวสั่นสะท้านแล้วซวนเซจนล้มลงกับพื้น สีหน้าขาวซีดไปหมดเมื่อเซี่ยซางเห็นเช่นนั้นดวงตาก็เต็มไปด้วยความร้อนใจ อุ้มนางขึ้นมาทันที “หรวนหร่วน เจ้าเป็นอะไรไป? เหตุใดสีหน้าจึงได้แย่เช่นนี้”“หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ อาจเป็นเพราะคุกเข่านานไป เลยรู้สึกเวียนหัวอยู่บ้าง หม่อมฉันออกไปสูดอากาศเสียหน่อยก็หายแล้วเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวพูดเสียงเบา นางกำลังอดทนเซี่ยซางกอดนางไว้ในอ้อมกอดแน่น พยายามสะกดกลั้นเพลิงโทสะที่อัดแน่นอยู่ในอกโดยตลอด อุ้มนางได้ก็ออกจากตำหนักคุนหนิงทันทีเฉิงฮองเฮาก็ไม่คิดว่าจะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 152

    เจียงเฟิ่งหัวรู้จักเฉิงฮองเฮาดี การที่นางส่งวังหมัวมัวไปเฝ้าดูทุกความเคลื่อนไหวของเซี่ยซาง ทำให้เขาไม่พอใจอยู่นานแล้ว ดังนั้นจึงทำให้ชาติก่อน พอเซี่ยซางขึ้นครองราชย์ อาศัยเพียงคำพูดประโยคเดียวของซูถิงหว่านก็แต่งตั้งซูกุ้ยเฟยเป็นไทเฮาแห่งวังตะวันตกนางไม่ได้รับความรักจากฮ่องเต้ จึงถ่ายโอนความสนใจทั้งหมดมาที่ตัวของเซี่ยซาง การควบคุมที่รุนแรงเช่นนี้แทบจะกลายเป็นความคลุ้มคลั่งไปแล้วเฉิงฮองเฮาก็ปล่อยให้นางคุกเข่าอยู่บนพื้น แม้แต่เบาะรองเข่าก็ไม่ประทานให้นางสักอัน ผิวของนางบอบบาง ตอนนี้หัวเขาแดงช้ำเป็นปื้นไปนานแล้ว แต่นางไม่ขยับแม้แต่น้อย หัวเข่ายิ่งออกแรงกดลงกับพื้นเข้าไปอีก ยิ่งแรงยิ่งดีในตอนที่เซี่ยซางบุกเข้ามาในตำหนักคุนหนิงด้วยความโมโห ก็เห็นเจียงเฟิ่งหัวกำลังคุกเข่าอยู่กลางตำหนัก ทั่วทั้งร่างของนางสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว หมอบราบอยู่บนพื้นจากนั้น เขาก็มิได้มองนางอีก แต่ทำความเคารพฮองเฮาอย่างเคารพครั้งหนึ่ง “ลูกถวายบังคมเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”ซูถิงหว่านติดตามอยู่เบื้องหลังของเซี่ยซาง เมื่อเห็นเจียงเฟิ่งหัวคุกเข่าอย่างเรียบร้อยอยู่บนพื้น นางก็ทำความเคารพอย่างนอบน้อมเช่นเดียวกัน “หม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 151

    เจียงเฟิ่งหัวย่อมคิดถึงจุดนี้นานแล้ว และรู้ว่าซูถิงหว่านใช้ฐานะของนางไปติดค้างเงินทอง ทว่าที่นางยังคงไม่สนใจไม่ไยดี ก็เพื่อรอวันที่นางถูกเปิดโปงออกมานั่นเอง แต่นางคิดไม่ถึงว่า เซี่ยซางจะเป็นฝ่ายไปคืนเงินแทนซูถิงหว่าน จากนั้นก็ถือว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว แม้แต่คำตำหนิสักคำก็ไม่มีนางย่อมต้องแสดงออกถึงความใจกว้าง ทว่าฮองเฮาย่อมไม่ได้ใจกว้างเหมือนนาง สตรีที่มีสามีแล้วออกจากจวนโดยพลการแถมยังไม่กลับมาตลอดคืน เทียบกับการที่นางใช้เงินไปหลายหมื่นตำลึงแล้วยังหนักหนายิ่งกว่าหากคิดให้ลึก ฐานะของเซี่ยซางมิใช่สามัญชนคนธรรมดา แต่เป็นองค์ชาย เป็นท่านอ๋อง ทุกการกระทำและคำพูดของพวกเขาล้วนตนอยู่ในสายตาของคนใต้หล้าไม่ว่าเซี่ยซางจะช่วยซูถิงหว่านอย่างไร เขาก็ไม่อาจต้านทานคำครหานินทาที่คนทั้งใต้หล้ามีต่อจวนเหิงอ๋องได้ครั้งก่อนทั้งที่ฮองเฮารู้ชัดๆ ว่าเป็นซูถิงหว่านที่ติดเงิน แต่ก็ไม่ได้เรียกนางเข้าวัง แต่เมื่อนางออกจากจวนโดยพลการกลับรีบเรียกตัวนางเข้าวังมาตำหนิ นี่ก็คือกฎระเบียบของราชวงศ์เจียงเฟิ่งหัวได้วางแผนไว้นานแล้ว การหลอกล่อให้นางใช้เงินเป็นเพียงตัวจุดชนวนเท่านั้น แม้จะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของนางเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 150

    หวานหว่านไม่เคารพเจียงเฟิ่งหัวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ไม่เคยตำหนิหวานหว่านแม้แต่คำเดียวเลยจริงๆ แถมทุกครั้งเขากลับเลือกที่จะให้อดทนและให้อภัยเสียด้วยเจียงเฟิ่งหัวชื่นชอบเขา แต่ไม่เคยร้องขอสิ่งใดจากเขาเลยครั้งนี้ ต่อให้เสด็จแม่ทรงทราบความจริง ก็จะตำหนิโทษว่านางบกพร่องต่อหน้าที่ของพระชายาต้องโทษตัวเขาเอง ที่ไม่ได้มอบอำนาจการปกครองจวนอ๋องให้เจียงเฟิ่งหัวดูแล พ่อบ้านเฉิงพูดไม่ผิด ต้องมอบอำนาจให้พระชายาสักหน่อย หวานหว่านถึงจะรู้จักควบคุมตนเองลงบ้าง ไม่เช่นนั้น หากครั้งหน้าเขายังคอยช่วยหวานหว่านอย่างลับๆ เช่นนี้อีก แบบนี้ผู้ที่ถูกทำร้ายก็คือเจียงเฟิ่งหัวแล้วตัวเซี่ยซางในเวลานี้จะมีหน้าไปลงโทษสาวใช้ของเจียงเฟิ่งหัวได้อย่างไร คำพูดของสาวใช้ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่างแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นเขาที่จัดการเรื่องราวอย่างไม่ยุติธรรม เอาแต่ปกป้องซูถิงหว่านอย่างผิดๆ มาตลอดเขาสาวเท้าออกไปทันที ซูถิงหว่านกับอวิ๋นฟางยังไม่รู้ว่าที่แท้เกิดสิ่งใดขึ้นซูถิงหว่านยิ่งโอบแขนของเขาไว้ “ท่านอ๋อง หม่อมฉันแค่กลับสกุลซูเท่านั้น เรื่องแบบนี้ฮองเฮาก็ต้องพิโรธหม่อมฉันด้วยหรือ ฮองเฮาทรงไม่โปรดหม่อมฉันมาตลอด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 149

    เซี่ยซางหัวเราะหยัน เพื่อปกป้องเจียงเฟิ่งหัว แม้แต่เจียงจิ่นเหยียนก็ยอมรับกับเขาแล้วว่า เป็นเจียงจิ่นเหยียนชัดๆ ที่ตีนางจนสลบแล้วโยนเข้าไปในตำหนักข้าง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของชายผู้นั้นจนหมดแล้วโยนเข้าไปในตำหนักของซูกุ้ยเฟยบางทีอาจเป็นเพราะเสด็จพ่อมีไมตรีต่อกุ้ยเฟย จึงไม่ได้สังหารนาง หรือบางทีอาจเป็นเพราะเสด็จพ่อทรงกริ่งเกรงสกุลซู จึงเหลือชีวิตของซูกุ้ยเฟยไว้และก็เป็นสตรีนางนี้ที่ยุยงให้หวานหว่านติดเงินไปทั่ว แต่หว่านหวานกลับมองไม่ออกถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง เขาก็ไม่คิดจะเปิดโปงนาง เพียงเพราะอยากให้หวานหว่านได้รู้ว่าจิตใจคนนั้นชั่วร้ายเช่นใดซูถิงหว่านเชื่อถืออวิ๋นฟางเป็นอย่างมาก จึงตกลงคำให้การกับนางไว้ก่อนแล้ว “นั่นสิ อวิ๋นฟางกูกูกลับบ้านไปน่ะ”“ข้าจำได้ว่า วันนี้หวานหว่านบอกว่าไม่รู้ว่านางไปที่ใดเหมือนกัน แล้วตอนนี้รู้ได้อย่างไรว่านางกลับบ้าน” แววตาที่เซี่ยซางจ้องมองซูถิงหว่านแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง มันไม่อ่อนโยนเหมือนเมื่อครู่แล้ว แต่กลับเปล่งประกายความเย็นชาออกมาซูถิงหว่านรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าเซี่ยซางจะฉีกหน้าแตกหักก็แตกหักเลยเช่นนี้อวิ๋นฟางก็ตอบสนองได้อย่าง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 148

    หากซูถิงหว่านกับอวิ๋นฟางมีการติดต่อกัน ก็แปลว่าครั้งก่อนที่พวกเขาต้องการทำร้ายเจียงเฟิ่งหัว หวานหว่านก็เข้าร่วมด้วยแล้วชายที่ตายไปแล้วผู้นั้นถึงกับเป็นอันธพาลบนท้องถนน เรื่องที่อวิ๋นฟางไปคบค้าสมาคมกับคนเช่นนี้ หวานหว่านรู้หรือไม่?หรือว่านางโกหกนางมาตลอด?เซี่ยซางสลัดความคิดในสมองของตนไป เขายังไม่สามารถเชื่อว่าหวานหว่านจะเป็นสตรีที่จิตใจชั่วร้ายอำมหิตเช่นนี้ หวานหว่านไม่ใช่คนเช่นนั้นแต่ทุกเบาะแสกลับแสดงให้เห็นว่านางมิได้บริสุทธิ์จู่ๆ เขาก็ลูบผมของนางอย่างสนิทสนมขึ้นมา “วันหลังไม่อนุญาตให้อาละวาดเอาแต่ใจเช่นนี้อีก ต่อให้คิดหนีจะออกจากบ้านก็ไม่อนุญาตให้ค้างคืนข้างนอก หากเรื่องไปถึงหูเสด็จแม่ ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้ง่ายนัก”“อื้ม ข้ารู้แล้ว” ซูถิงหว่านไม่รู้ความคิดของเซี่ยซาง คิดเพียงว่าเขายังคงชมชอบตนเอง จึงเป็นฝ่ายไปนั่งบนตักเขาก่อน จากนั้นโอบคอของเซี่ยซางแล้วจูบลงไปบนริมฝีปากของเขา ยามนี้นางไม่อาจประมาท ลดความระมัดระวังตัวได้แล้ว จะต้องกุมหัวใจของอาซางไว้ให้มั่นในใจของเซี่ยซางรู้สึกต่อต้านอยู่บ้าง หากไม่ใช่ฝีมือของหวานหว่าน นางก็มิได้มีความผิดใด สุดท้ายเขาจึงยังคงเป็นฝ่ายเริ่มตอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status