Share

บทที่ 47

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ครั้นเซี่ยซางได้ยินว่าพี่ใหญ่ของนางเป็นคนส่งไม้กระถางในสวนมาให้ อารมณ์ก็ดีขึ้นอย่างน่าประหลาด เขาไม่พูดออกมา เพียงถามว่า “พี่ใหญ่เจ้ามักไม่ได้กลับมา ปกติเจ้าเดินหมากกับผู้ใดงั้นรึ”

“กับตัวเองนะสิเพคะ!”

เซี่ยซางถาม “เล่นกับตัวเองอย่างไร?”

เห็นเจียงเฟิ่งหัวมือซ้ายถือหมากดำ มือขวาถือหมากขาว เม็ดหมากสีดำวางลงบนกระดาน เม็ดหมากสีขาวก็ตามมาติดๆ จากนั้นหมากดำหมากขาวก็ค่อยๆ กระจายไปทั่วกระดานหมาก เซี่ยซางจ้องมองโดยไม่ละสายตา ดวงตาฉายแววตกตะลึง

เจียงเฟิ่งหัวตรงหน้าเจิดจ้าจับตาจนเกินไป ดวงตาของนางใสสะอาดประหนึ่งน้ำพุใสพิสุทธิ์ ทั้งมาดมั่นและน่าหลงใหล

รูปโฉมนางพริ้มเพราพิลาสล้ำ เขาคิดว่าบุรุษคนใดก็คงจะหลงใหลในตัวนางกระมัง!

โชคดีที่สกุลเจียงซ่อนนางเอาไว้อย่างดี โชคดีที่นางแต่งงานกับเขา ความปรารถนาอยากครอบครองอุบัติขึ้นในใจเซี่ยซาง สตรีที่งดงามเช่นนี้ เขาต้องการครอบครอง

หมากกระดานนี้ดำเนินไปเนิ่นนานมาก ทั้งสองล้วนจดจ่อจึงไม่ได้สนใจเวลา เวลาล่วงเลยยามจื่ออย่างรวดเร็ว

เจียงเฟิ่งหัวเดินหมากกับตัวเองแต่กลับยากจะตัดสินความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ต้องการทำให้ได้ถึงขั้นนี้ ในหัวนางต้องมีแนวทางเดินหมากสองช
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 48

    หลังเซี่ยซางออกมาแล้ว เจียงเฟิ่งหัวก็เลี่ยงเขาเดินเข้าไปในตำหนักข้าง นางเยื้องกรายชดช้อย เปี่ยมเสน่ห์รัดรึงใจเซี่ยซางจ้องมองเงาหลังของนางอย่างเงียบๆ อยู่เพียงครู่ก็หันหลังเดินอ้อมฉากบังลมไปนั่งลงบนเตียง เขากำมือแน่นจนเห็นข้อกระดูกขาว คล้ายตัดสินใจบางอย่างแน่วแน่ดีแล้ว เขาเป็นสามีของนางก็ควรทำหน้าที่ทุกอย่างของสามีขณะที่เจียงเฟิ่งหัวเดินออกมานั่นเอง เซี่ยซางก็นอนบนขอบเตียงด้านนอกทั้งที่ยังสวมชุดเรียบร้อย เขาหลับตาพริ้มเหมือนนอนหลับไปแล้วนางทราบว่าเขายังไม่หลับ ตอนนี้เกรงว่าในใจเขาคงกำลังทรมานมาก ด้านหนึ่งถูกความงามดึงดูด อีกด้านก็คำนึงถึงสตรีที่เคยลั่นสัญญารักเอาไว้นางแค่นหัวเราะในใจ ตอนนี้ก็ให้ภรรยาของท่านมาทำลายความรักอันงดงามระหว่างท่านกับซูถิงหว่านก็แล้วกันนางเดินเข้าไปเป่าลมดับเทียน จากนั้นจึงปีนขึ้นไปขอบเตียงด้านในอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นข้อเท้านางก็ถูกคนคว้าไว้ เขาออกแรงดึงกะทันหัน เจียงเฟิ่งหัวจึงถลาล้มลงบนแผงอกแกร่งของเขานางอุทานคำหนึ่ง เรือนร่างอรชรทับอยู่เหนือลำตัวเขา ดวงตานางเบิกโพลง จ้องมองบุรุษรูปงามเป็นเอกตรงหน้า ท่ามกลางราตรีมืดสนิท นางสัมผัสได้ว่ามือของเขาล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 49

    มุมปากเซี่ยซางพลันหยักขึ้นอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ฉวยโอกาสกับผู้อื่นมิใช่สิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว สิ่งที่เจียงเฟิ่งหัวต้องการก็คือความชอบจากใจจริงของสามี เช่นนี้นางจึงยินดีมอบความจริงใจออกไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่สามีที่ดี นางไม่เหมือนซูถิงหว่าน นางต้องการเพียงความชอบเล็กน้อยเท่านั้นก่อนหน้านี้นางได้รับการปกป้องทะนุถนอมจากสกุลเจียง นางไม่ประสาเรื่องทางโลก นางเพิ่งอายุสิบห้าเท่านั้นเอง!เขาวางนางลงบนเตียงอย่างเบามือ นางหาท่าที่สบายตัวนอนหลับฝันหวาน ท่าทางปราศจากเล่ห์เพทุบายโดยสิ้นเชิงเขายิ้มบาง ลองเรียกอีกครั้งว่า “หรวนหร่วน”ไม่ได้รับคำตอบรับ จากนั้นเขาก็นอนลงข้างกายนางอีกครั้ง กุมมือนางเงียบๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายนาง เขาเองก็ค่อยๆ นอนหลับไปเช่นกันวันรุ่งขึ้น ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวตื่นนอน เซี่ยซางก็จากไปแล้วนางนอนดึกตื่นสาย ไม่รู้เลยว่าเซี่ยซางจากไปตั้งแต่เมื่อใดเจียงเฟิ่งหัวค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน หันไปถามหงซิ่วว่า “ตอนนี้เป็นยามไหนแล้ว?”“ยามซื่อแล้วเพคะ พระชายาไม่ตื่นสายเช่นนี้มานานแล้ว คืนวานท่านอ๋องพักที่หอหล่านเยว่ ความสัมพันธ์ระหว่างพระช

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 50

    ชาติก่อนเจียงเฟิ่งหัวไม่เคยได้รับการคารวะจากซูถิงหว่าน เนื่องจากไม่ได้รับความโปรดปรานจากเซี่ยซาง ข้ารับใช้ในจวนก็สร้างความลำบากให้นางสารพัด ชาตินี้ คืนวานเซี่ยซางเพิ่งเดินออกมาจากห้องของนาง ทุกคนล้วนเห็นกับตาย่อมจะเคารพนบนอบต่อนางเป็นธรรมดา“พระชายารองซูไม่ต้องมากพิธี ล้วนแต่เป็นคนครอบครัวเดียวกัน รีบนั่งลงเถอะ” นางสั่งความเสียงลุ่มลึก “หงซิ่วยกน้ำชาให้พระชายารองซู”“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” ซูถิงหว่านนั่งลงอย่างเรียบร้อยแล้วเอ่ยว่า “เมื่อวานหม่อมฉันหุนหันพลันแล่นเกินไป ขออภัยด้วยเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวอมยิ้มมุมปาก อ่อนโยนดุจสายลมวสันต์เดือนสาม “ท่านอ๋องอธิบายให้ข้าฟังแล้ว เขาบอกว่าพระชายารองซูเติบโตที่ชายแดนมาตั้งแต่เล็ก คำพูดและการกระทำเถรตรง นิสัยตรงไปตรงมา ทว่าจิตใจดีงาม ข้าจะโกรธเคืองเจ้าได้อย่างไรกัน ล้วนผ่านไปแล้ว”อาซางอธิบายแทนนาง ซูถิงหว่านพลันปวดใจ เจียงเฟิ่งหัวอ่อนโยนแบบนี้ นางรู้สึกว่าอ่อนนุ่มยวบยาบ ใช้กำลังไม่ได้แม้แต่น้อย นางนึกว่าอาซางไม่ชอบสตรีที่อ่อนโยนอ่อนหวานเช่นนี้เสียอีก นางผิดไปแล้ว อาซางถูกเจียงเฟิ่งหัวดึงดูดได้เหมือนกัน ตอนนี้นางอยากย้อนเวลากลับไปเหลือเกิน นางจะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 51

    “ไม่สะดวกอย่างไรกันเพคะ ถ้าพระชายาไม่ไปแสดงว่ายังโกรธหม่อมฉันอยู่” ซูถิงหว่านพูดมาอีกว่า “พระชายาเป็นคนเซิ่งจิง จะต้องคุ้นเคยกับเทศกาลชมบุปผามากกว่าหม่อมฉันเป็นแน่!”เจียงเฟิ่งหัวมีสีหน้าค่อนข้างลำบากใจ “ที่ผ่านมาพี่ใหญ่ไปเป็นเพื่อนข้า คนเยอะเกินไป ข้าไม่ค่อยชอบ”ซูถิงหว่านกล่าว “นอกจากชมบุปผา ยังมีการประชันบุปผาด้วยนะเพคะ น่าสนใจยิ่งนัก ช่วงหลายวันนี้ท่านอ๋องอาจมีงานราชการรัดตัว ปีนี้เขาอาจไม่มีเวลาไปชมบุปผาเป็นเพื่อนหม่อมฉันก็ได้เพคะ”“งั้นก็ได้!” เจียงเฟิ่งหัวพยักหน้าตกลงอย่างฝืนใจ อยากเห็นนักว่าพวกเจ้าจะเล่นลูกไม้อะไรเดิมนางก็จะไปร่วมเทศกาลชมบุปผาอยู่แล้ว ตอนนี้ซูถิงหว่านมานัดหมายกะทันหัน สามารถใช้นางมากลบเกลื่อนได้พอดีที่ผ่านมานางก็เข้าร่วมเทศกาลชมบุปผา แต่นางไม่เคยใช้สถานะสตรีออกมาข้างนอก......วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาที่จัดขึ้นปีละครั้ง ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวออกมาก็เห็นว่าซูถิงหว่านเปลี่ยนไปสวมชุดทะมัดทะแมงสีแดง รวบผมขึ้นสูง แลดูค่อนข้างองอาจคล่องแคล่วเจียงเฟิ่งหัวคิด นางไม่ได้มีรูปโฉมงามล้ำ แต่ก็ยังนับว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่ง สาเหตุที่เซี่ยซางชอบนางคงเป็นเพราะชอบบุคลิกภาพเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 52

    เซี่ยซางรีบรุดมาที่ทะเลสาบร้อยบุปผาก็เห็นว่าที่นั่นมีผู้คนคลาคล่ำ แน่นขนัดเบียดเสียด เขาถาม “เหตุใดที่นี่จึงมีคนมากมายเช่นนี้?”หลินเฟิงอธิบาย “วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาประจำปีพอดีพ่ะย่ะค่ะ งานเทศกาลจัดขึ้นที่ทะเลสาบร้อยบุปผาจึงมีคนมากมายเช่นนี้”เขารู้แล้วว่าเกิดเรื่องอันใดที่ทะเลสาบร้อยบุปผา สาเหตุความวุ่นวายคือคดีหญิงสาวหายสาบสูญเมื่อสามปีก่อน มีคนปล่อยข่าวที่ทะเลสาบร้อยบุปผาว่าหยางจิ้งเจ้ากรมอาญาเป็นฆาตกร ทั้งยังวาดภาพที่หยางจิ้งสังหารหญิงสาวอีกด้วย ภาพนั้นสมจริงสมจังจนทำให้สาธารณชนเดือดดาล ความผิดมากเกินกว่าจะเขียนบรรยายออกมาได้หมดข่าวที่เจ้ากรมอาญาถูกฆาตกรรมเผยแพร่ออกมาแต่แรกแล้ว ยามนี้คนที่ทราบว่าเขาก่อกรรมทำเข็ญมามากมายขนาดนั้นล้วนด่าทอว่าตายได้ก็ดี ความตายยังไม่สามารถชดใช้ความผิดได้หมด เพราะหยางจิ้งข่มขืนและสังหารโหดหญิงสาวไปหนึ่งร้อยกว่าคน หยางจิ้งตายไปแล้วก็รู้สึกเพียงว่าสาสมใจนักเป็นผู้ใดที่มีคุณธรรมปานนี้ ทางการไม่เพียงไม่ตกรางวัล แต่ยังติดประกาศตามจับตัวฆาตกร ดังนั้นทุกคนจึงประท้วงขึ้นมาเซี่ยซางเห็นว่าสถานการณ์วุ่นวายขนาดนั้นก็สั่งความเสียงขรึม “ให้กองกำลังรักษาความ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 53

    เซี่ยซางขมวดคิ้วแน่น ทั่วบริเวณวุ่นวายสับสน สถานการณ์ขณะนั้นไม่สงบเป็นอย่างยิ่ง จำเป็นต้องมีคนแสดงท่าทีออกมา มิฉะนั้นราษฎรไม่มีทางเชื่อถือทางการ เรื่องนี้ต้องรายงานให้ฝ่าบาททรงทราบโดยเร็วที่สุดเซี่ยซางพลันกระโดดขึ้นไปยืนบนสะพานโค้งเหนือทะเลสาบร้อยบุปผา เอ่ยเสียงลุ่มลึกว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งวู่วาม ข้าคือเซี่ยซางผู้ดูแลเขตเมืองหลวง วันนี้ข้ายินดีเป็นผู้นำลงนามหนังสือหมื่นประชาลงนามร้องทุกข์นำไปกราบทูลฝ่าบาท จะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมกับตระกูลหยางแทนทุกท่านรวมถึงเหล่าสตรีที่ตายไปอย่างแน่นอน และประจานพฤติกรรมอันชั่วร้ายของหยางจิ้งให้ทุกคนรับทราบโดยทั่วกัน”เห็นเขาสวมเครื่องแบบขุนนางสีม่วง ท่าทางน่าเกรงขาม ทรงอำนาจบารมี แววตาหนักแน่น ในไม่ช้าก็มีคนตัดผ้าขาวยาวสิบจั้งก้าวออกมาผ้าขาวนั้นทอดยาวจากปลายด้านหนึ่งของสะพานโค้ง โอบล้อมทะเลสาบร้อยบุปผาได้ครึ่งทางเซี่ยซางหยิบกริชขึ้นมากรีดนิ้ว เขียนตัวอักษรสองตัวว่า ‘เซี่ยซาง’ อย่างทรงพลังและสง่างาม เพื่อสื่อว่าวันนี้เขาจะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ปวงชนอย่างแน่นอน ทุกคนอึ้งงันไปอย่างเหลือเชื่อ ฉับพลันนั้นทุกคนก็เงียบเสียง เหิงอ๋องเป็นผู้นำลง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 54

    หลินอวี่รู้ว่าเจียงเฟิ่งหัวมีปณิธานยิ่งใหญ่และมีความสามารถไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็ก ตอนมีราชโองการสมรสพระราชทานลงมาเมื่อครึ่งปีก่อน เจียงเฟิ่งหัวน้อมรับด้วยความยินดี ทั้งยังดีใจมากอีกต่างหาก นางจึงเข้าใจว่าคนที่นางชอบคือเหิงอ๋องเซี่ยซางแต่เจียงเฟิ่งหัวกลับบอกนางว่าตนเองไม่ชอบเขา ต่อไปก็ไม่มีทางชอบหลินอวี่หลินอวี่งุนงงไปหมดแล้วหลินอวี่กับเจียงเฟิ่งหัวรู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาพวกนางไม่ได้เป็นเพียงนายบ่าว แต่เหมือนพันธมิตรและมิตรแท้สำหรับกันและกันมากกว่าต่อมา เจียงเฟิ่งหัวลงทุนก่อตั้งกิจการหอสุราแห่งนี้ หลินอวี่กลายเป็นเถ้าแก่หอสุราตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่าการตัดสินใจทุกอย่างมีเจียงเฟิ่งหัวคอยกำกับอยู่หลังม่านพวกนางพบกันครั้งแรกที่หอสังคีต เปลือกนอกเป็นหอสังคีต แต่แท้จริงแล้วเป็นหอโคมเขียวแต่สถานการณ์ของพวกนางกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง หลินอวี่ถูกขายให้หอสังคีต ชะตาชีวิตนางถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะต้องชวนสลดน่าสังเวช อยู่มิสู้ตาย กระทั่งว่าที่พึ่งชั่วชีวิตของนางคือการปรนนิบัติเอาใจบุรุษ เมื่อเข้าไปในหอโคมเขียว เดิมนางก็สิ้นหวังไปแล้วทว่าคล้ายกับว่าสวรรค์นำโช

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 55

    “เจ้าหมายความว่าหนังสือหมื่นประชาลงนามเป็นสิ่งที่เหิงอ๋องเตรียมการเอาไว้แต่แรกแล้ว” หลินอวี่รู้สึกตกตะลึงอยู่บ้าง “เขาทำแบบนี้ไม่กลัวว่าฮ่องเต้จะทรงกริ้วรึ?”“กฎหมายไม่ลงโทษคนหมู่มากนี่นา” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว “เขาร้องทุกข์เรียกร้องความยุติธรรมแทนราษฎร เรื่องยังวุ่นวายใหญ่โตปานนี้ ถ้าฮ่องเต้ทรงลงโทษเหิงอ๋องแล้วจะอธิบายต่อไพร่ฟ้าอย่างไรเล่า” อย่างไรเสียเซี่ยซางก็ไม่เคยได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ เขาคงไม่สนใจอันใดอีกแล้วจึงทำเช่นนี้กระมัง!ทางด้านนี้ หลังจากเซี่ยซางง้อซูถิงหว่านเสร็จแล้ว ราชโองการจากในวังก็มาถึง ทว่าคนที่มาถ่ายทอดราชโองการกลับเป็นองค์ชายรองเซี่ยอวี้เซี่ยอวี้เห็นว่าซูถิงหว่านอยู่ข้างกายเซี่ยซางก็เสียดสีว่า “ผู้ดูแลเขตเมืองหลวงมาสืบคดีก็ไม่ลืมพาอนุคนงามมาด้วย พวกเจ้าช่างรักใคร่กันดีเหลือเกินนะ!”ซูถิงหว่านฟังออกว่าเซี่ยอวี้พูดจาเสียดสีจึงอธิบายว่า “อวี้อ๋องเข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันมาเจอท่านอ๋องโดยบังเอิญ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องกำลังสืบคดีอยู่ที่นี่”เป็นเพราะเซี่ยซางอธิบายสถานการณ์ให้นางฟัง นางจึงรู้ว่าเซี่ยซางกำลังสืบคดีอยู่ เดิมยังคับข้องใจที่เซี่ยซางไม่ให้ความร่วมมือนา

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 100

    เขาดูเหมือนขาดคนเอาใจใส่และขาดความรักเป็นอย่างมากตอนเด็กเขายังร้องห่มร้องไห้เพราะไม่ได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้ น้ำตาไหลพรั่งพรูไปหมดเจียงเฟิ่งหัวเก็บกวาดจนสะอาดแล้วก็ไปที่ห้องครัวอีก เซี่ยซางกลับไปที่โต๊ะ ทำงานที่ยังค้างไว้ต่อ และก็เป็นเพราะดึกเกินไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปที่ห้องหนังสือ เวลานี้ จู่ ๆ เขาก็มีความคิดขึ้นมา เริ่มเขียนหนังสืออย่างรวดเร็วเพียงไม่นานนางก็กลับมา เมื่อครู่นางเหมือนจะแอบเห็นว่าเนื้อหาบนกระดาษเกี่ยวข้องกับคดีสุสานหลวงถูกปล้นพี่ใหญ่บอกว่าเขาสืบได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่เป็นทางการมาจากช่องทางพิเศษ เซี่ยซางอารมณ์ไม่ดีเพราะคดี เพราะฉะนั้นเมื่อครู่เขากำลังหงุดหงิดเรื่องคดีหรอกหรือ?นางจำได้ว่าชาติที่แล้วต่อให้สุสานหลวงถูกปล้น สิบกว่าปีหลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องใหญ่โตอะไรเกิดขึ้น อย่างมากก็แค่อัญมณีและเครื่องหยกที่ฝังพร้อมพระศพในสุสานหายไปบ้างเท่านั้นแต่ดูท่าทางของเซี่ยซางในตอนนี้แล้ว นางรู้ว่ามีของอย่างหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากหายไปอย่างแน่นอน“เจ้าไปนอนก่อนเถอะ ข้ายังมีเรื่องบางอย่างต้องสะสาง” เซี่ยซางเห็นนางกลับมา กล่าวเสียงอ่อนโยนนางไม่ได้พูดอะไร “ตอนนี้ดึ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 99

    เซี่ยซางกลับขยับเว้นที่ให้นางเองอย่างมีไหวพริบ ถังอาบน้ำในหอหล่านเยว่ใหญ่มาก รองรับสองคนแล้วยังมีที่ว่างเหลือเจียงเฟิ่งหัวเห็นว่าเขานอนพาดอยู่นิ่ง ๆ กับขอบถังอาบน้ำ ขณะที่นางเตรียมจะลุกขึ้น ทันใดนั้นเซี่ยซางก็ฉุดข้อเท้าของนางไว้ “อาบด้วยกัน”เจียงเฟิ่งหัวอยากจะบอกว่าอาบไปแล้ว แต่เซี่ยซางพูดด้วยทีท่าหนักแน่น นางจึงหยิบผ้าขึ้นมาถูหลังให้เขาเบา ๆ ล้างแขน ลงไปด้านล่างเรื่อย ๆ …นางทำอย่างเบามือ อ่อนโยน เหมือนกำลังลูบไล้สัตว์เลี้ยง ตอนนี้นางก็มองเขาเป็นสัตว์เลี้ยงแล้ว ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตัวเองคงไม่มีความอดทนพอที่จะอาบเขาให้เสร็จได้ผมของนางตั้งแต่ไหล่ลงไปเปียกหมดแล้ว ลอยอยู่บนผิวน้ำ นางดูแล้วมีเสน่ห์เย้ายวนน่าหลงใหลแต่เซี่ยซางกลับไม่หวั่นไหว ทั้งสองคนเหมือนสามีภรรยาทั่วไปที่อาบน้ำให้กัน นางถึงขั้นสระผมให้เขา สระจนสะอาด น้ำก็เริ่มเย็นแล้ว เขาก็ยังไม่คิดจะลุกขึ้นนางกล่าว “ท่านอ๋อง” วันนี้ดูเหมือนเขาจะไม่มีอารมณ์ และยังอารมณ์ไม่ดีอีกด้วย“ข้าเริ่มเหนื่อยแล้ว เจ้าลุกขึ้นก่อนเถอะ!” เซี่ยซางว้าวุ่นในใจ ร้อนรุ่ม อยู่ไม่สุข แต่เขาคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งไม่มีทางทำอะไรกับนางในน้ำอย่า

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 98

    เมื่อเห็นเซี่ยซางแช่อยู่ในน้ำ เปลือยแขนและท่อนบน ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเมตตาสงสารขึ้นมา ต่อให้เป็นหมาแมวตกน้ำ นางก็ต้องไปช่วยหน่อยมิใช่หรือ ยิ่งไปกว่านั้นเขาดื่มจนเมาขนาดนี้ หากไถลลงไปจมน้ำตาย ฝันของนางที่จะเป็นฮองเฮามิต้องสลายไปหรอกหรือนางคิดว่าต่อให้ตอนนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนเต็มที่แล้ว แม้ไม่จมน้ำตาย แต่กลางคืนหลับไปแบบนี้ก็จะเป็นหวัดได้ง่าย ๆนางฝืนใจยกน้ำแกงสร่างเมาไปทางเรือนด้านข้าง “ท่านอ๋อง ตื่นเถอะเพคะ” นางเรียกข้างหูเขาเบา ๆ หนึ่งทีเซี่ยซางเหมือนจะหลับไปแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย นอกจากว่าเขาคออ่อน มารยาทในการดื่มของเขายังถือว่าใช้ได้ อย่างน้อยไม่โหวกเหวกโวยวายนางใช้ช้อนตักน้ำแกงสร่างเมา ค่อย ๆ ป้อนใส่ปากเขา “ดื่มสักหน่อยนะเพคะ ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าตื่นมาจะรู้สึกไม่สบายตัวนะเพคะ”เซี่ยซายยังคงไม่ขยับ หายใจสม่ำเสมอ หลับลึกมาก เหมือนเหนื่อยสุดขีด เจียงเฟิ่งหัวป้อนเขานิดเดียวอย่างใจเย็น แต่กลับไหลเปรอะเปื้อนเต็มปากไปหมด นางก็ขี้เกียจจะป้อนแล้ว เมื่อครู่อาเจียนในเรือนไปแล้ว ในท้องเขาไม่น่าจะมีเหล้าหลงเหลืออยู่เจียงเฟิ่งหัวย่อมย้ายตัวเขาไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อเห็นกล้าม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 97

    เซี่ยซางเห็นเจียงเฟิงหัวยืนอย่างงดงามอ่อนช้อยอยู่ที่ประตู ก็ยื่นมือไปทางนาง กล่าวเสียงเข้มว่า “มานี่…”“อ๊อก!” เขายังพูดไม่จบ เซี่ยซางก็เริ่มอาเจียนออกมาอย่างรุนแรงทันที เวลานี้ท่าทางของเขาน่าสมเพชเวทนามาก ไม่เหลือมาดท่านอ๋องแม้แต่นิดเดียวเจียงเฟิ่งหัวปิดปากและจมูกไว้ มองดูเรือนที่นางจัดตกแต่งอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจหลินเฟิงรู้สึกผิดไม่น้อย วันนี้ท่านอ๋องน่าขายหน้ามากจริง ๆ อาเจียนได้อย่างไรกัน?แล้วก็ได้ยินเจียงเฟิ่งหัวสั่งสาวใช้ว่า “เตรียมน้ำอุ่นให้ท่านอ๋อง ให้ท่านอาบน้ำ สวีหมัวมัว วานท่านไปห้องครัว ต้มน้ำแกงสร่างเมามาหน่อย”รอจนเขาอาเจียนน้ำเหลือง ๆ ออกมาจากในท้อง หลินเฟิงกับพ่อบ้านเฉิงจึงค่อยย้ายเซี่ยซางไปเรือนด้านข้าง วางเขาลงในถังอาบน้ำอันที่จริงเจียงเฟิ่งหัวอยากให้หลินเฟิงเอาเขาไปส่งหอทิงเสวี่ยหลินเฟิ่งช่วยถอดเสื้อผ้าของเซี่ยซางออก เหลือไว้เพียงกางเกงชั้นในบนตัวเขา เขาลองหยั่งเชิงว่า “เช่นนั้นแล้วข้าน้อยก็จะออกไปแล้ว?”เจียงเฟิ่งหัวขมวดคิ้ว อยากจะพูดว่าเจ้ามาอาบน้ำล้างตัวเขาให้สะอาดก่อนค่อยไปสิ!แต่หลินเฟิงไหนเลยจะให้โอกาสนางได้พูด พูด “ข้าน้อย

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 96

    ซูถิงหว่านกล่าว “ท่านก็เห็นว่าเขาจ้องเจียงเฟิ่งหัวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและไม่อยากจากลา คนก็จากไปแล้ว ลูกตาเขายังจ้องจนแทบจะออกมานอกเบ้า”“ข้าหมายถึงว่าต้องการหลักฐานที่แน่นหนา”ซูถิงหว่านก็เริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย “คราวก่อนก็เป็นเขาที่มาช่วยนางไว้ ท่านอ๋องเห็นกับตาอยู่ชัด ๆ ว่าเขากับเจียงเฟิ่งหัวมีความสัมพันธ์คลุมเครือ แต่ท่านอ๋องกลับไม่ถือสาหาความ วันนี้ก็เป็นเขาอีกแล้ว ท่านพูดถูก ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน อาซางไม่มีทางเชื่อแน่”“พระชายารองรู้จักคนคนนี้ตั้งนานแล้วหรือ?” อวิ๋นฟางถาม“ไม่รู้จักได้อย่างไร เหมือนจะชื่อเซียวอวี้ เป็นดาวเด่นคนใหม่ในเมืองเซิ่งจิ่ง มีชื่อเสียงอยู่พอสมควร” ซูถิงหว่านอธิบาย ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ “คนพวกนี้ชอบดัดจริตเป็นที่สุด ทำตัวเป็นผู้ดีมีรสนิยม เรียนหนังสือเก่งแล้วมีอะไรดีเล่า ถ้าไม่ได้ทหารเหล่านั้นที่ปกป้องประเทศชาติอยู่ชายแดน พวกเขาจะได้เดินเตร่ในหอโคมเขียว ดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์เช่นนี้ไหม? ทั้งสกุลซูของข้าพิทักษ์รักษาบ้านเมือง เป็นขุนนางที่มีความดีความชอบของแคว้นต้าโจว แม้แต่ฝ่าบาทยังต้องให้ความเคารพสกุลซูของข้าอยู่ไม่น้อย เหตุใดท่านป้าจึง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 95

    อีกฝั่งหนึ่ง เจียงเฟิ่งหัวหนีออกมาจากหออี๋ชุนแล้วก็ไม่กล้ากลับไปอีก กลัวจะเจอเซี่ยซางเข้าเซียวอวี้เห็นนางสวมหน้ากาก ก็ลองถามดูว่า “คุณหนูสามหรือ?”เจียงเฟิ่งหัวได้สติกลับมา เปิดหน้ากากออก กล่าวว่า “คุณชายเซียวรู้ได้อย่างไรว่าเป็นข้า?”เซียวอวี้หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ตอบตามตรงว่า “เมื่อก่อนไปหาท่านครูที่จวนสกุลเจียงอยู่บ่อย ๆ บ้านสกุลเจียงมักจะมีเสียงพิณลอยออกมา ข้าเลยรู้ว่าคุณหนูสามสกุลเจียงดีดพิณอยู่”เมื่อเขาได้ยินท่วงทำนองอันคุ้ยเคยที่หออี๋ชุนอีกครั้ง เขาก็ตกใจตาค้าง วินาทีนั้นเอง เขาก็กล้าฟันธงว่านางคือเจียงเฟิ่งหัว เพราะว่าคุ้นเคยเป็นอย่างดี“ที่แท้คุณชายเซียวฟังเสียงดนตรีก็รู้ตัวคนเล่น ดูท่าคุณชายเซียวก็เป็นคนที่ชื่นชอบเสียงดนตรีเช่นกัน” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวเซียวอวี้ตอบ “ก็แค่พอรู้เรื่องบ้าง ไม่ได้เสี้ยวของคุณหนูสามหรอก”“คุณชายเซียวถ่อมตัวไปแล้ว ท่านพ่อของข้ามักจะบอกว่าในบรรดานักเรียนของท่านทั้งหมด มีเพียงเซียวอวี้ที่เฉลียวฉลาดเกินใคร ต่อไปจะต้องเป็นใหญ่เป็นโตแน่นอน” เจียงเฟิ่งหัวไม่ได้โกหก ราชครูเจียงเป็นคนที่เห็นคุณค่าของคนมีความสามารถจริง ๆ ดังนั้นจึงมักกล่าวถึงเขาอยู่บ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 94

    เวลานี้เอง เจียงจิ่นเหยียนก็มาถึงเวทีเช่นกัน เขาอยากจะพาเจียงเฟิ่งหัวไป แต่กลับคว้ามือของชายอีกคนหนึ่งไว้ในความมืดมิด เจียงเฟิ่งหัวยื่นมือไปคว้ามือของพี่ใหญ่ของนางไว้ แต่กลับคลำเจอฝ่ามือใหญ่ ๆ คู่หนึ่งที่มีแผ่นหนังด้าน ๆ นางรู้ว่านี่ไม่ใช่มือของพี่ใหญ่แน่ ถ้าเช่นนั้นก็เป็นคนอื่น จะเป็นใครเล่า?นางคิดอยากสะบัดมือของอีกฝ่ายออก แต่อีกฝ่ายกลับกำมือนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยทันใดนั้น ฝั่งตรงข้ามก็ดึงนางเข้าไปใกล้ นางจึงเพิ่งได้กลิ่นที่คุ้นเคย นางสับสนวุ่นวายในใจ เป็นเซี่ยซางได้อย่างไรกันเจียงเฟิ่งหัวรีบหุบปากไว้ ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่แอะเดียว กลัวว่าเขาจะจำเสียงได้เนื่องจากนางใส่หน้ากากปกปิดไว้ทั้งหน้า เซี่ยซางเห็นลักษณะของคนที่อยู่เบื้องหน้าไม่ชัด รู้สึกเพียงว่านิ้วมือของคนผู้นี้เรียว เนียนละเอียด เหมือนมือผู้หญิง วินาทีนั้นที่เขาเข้าโอบเอวคนผู้นี้ ก็รู้สึกได้ว่าเอวบางเหมือนกิ่งหลิว และหน้าอกของคนผู้นี้นุ่มนิ่มเขารู้ตัวแล้วว่าที่แท้เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง…ขณะที่เขากำลังลังเลนั้นเอง เจียงเฟิ่งหัวเหยียบหลังเท้าเขาอย่างแรง นางใช้กำลังทั้งหมดที่มีจึงหลุดออกมาจากมือเขาได้ นางก็ไม่มีเวลาสนใจอะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 93

    ในหออี๋ชุนมีทั้งร้องทั้งเต้น เสียงปรบมือโห่ร้องดังทั่วหอ แล้วก็ได้ยินพิธีกรเอ่ยว่า “ขอเชิญคุณชายไร้เทียมทานขึ้นเวที”ฝูงชนเมื่อได้ยินว่าคุณชายไร้เทียมทาน ทุกคนก็ตกใจ พากันวิพากษ์วิจารณ์ “นี่คือการประกวดคัดเลือกนางคณิกา จะมีผู้ชายขึ้นเวทีได้อย่างไร หรือว่าผู้ชายก็อยากชิงตำแหน่งยอดนางคณิกาด้วยหรือ”“ก็ใช่น่ะสิ คณิกาชายมาจากไหนกัน พวกเราต้องการแต่ผู้หญิง ไม่เอาผู้ชาย” ทันใดนั้นกัวเซี่ยก็ขึ้นเสียงด่าทอ “ให้คุณชายไร้เทียมทานอะไรนั่นไสหัวลงไป”มีคนผสมโรงไปด้วยอีก “ข้าน่ะมาใช้เงินเพื่อดูสาว ๆ แก้เบื่อ ผู้ชายมีอะไรน่าดูกัน พวกเจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย ให้แม่นางเพียนเพียนเมื่อครู่ออกมาร้องอีกเพลงซิ ข้ามีเงินเยอะแยะ พวกนี้ก็ตบรางวัลนางให้หมด”ในชั่วพริบตา ชายคนนั้นควักทองตำลึงออกมาหลายก้อน “ตำแหน่งยอดคณิกาคืนนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่นางเพียนเพียน ให้นางออกมา”“เพียนเพียน!”ไม่นาน ทั้งหอก็ตะโกนเรียกชื่อของเพียนเพียนหลินอวี่ในชุดกระโปรงยาวเข้ารูปอันประณีตเดินอย่างอ่อนช้อยไปที่เวที นางยิ้มมุมปากอย่างเย้ายวน ริมฝีปากแดงระเรื่อ กล่าวเสียงหนักแน่นว่า “ทุกท่านมาสนับสนุนงานนี้ที่หออี๋ชุนของข้า ก็เป็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 92

    เจียงจิ่นเหยียนเห็นว่าในแววตานางมีความกังวลซ่อนอยู่ “ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ที่เจ้าแต่งกับเหิงอ๋อง เขาทำอะไรเจ้าหรือ ถึงได้ห่วงหน้าพะวงหลัง ข้าแทบจะจำเจ้าไม่ได้แล้ว เจียงเฟิ่งหัวที่มีการวางแผนชัดเจนอยู่ในใจ มีความมั่นใจเต็มเปี่ยมไปอยู่ที่ไหนแล้ว”“เมื่อก่อนข้าเข้าออกหออี๋ชุนมีพี่ใหญ่คอยปกปิดให้ข้า แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ข้าทำตามอำเภอใจไม่ได้อีกต่อไป” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบเจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางคือพระชายาเหิงอ๋อง ยิ่งรู้ดีว่าเซี่ยซางผูกสมัครรักใคร่กับหญิงอื่นมานานแล้ว แต่หรวนหร่วนอยากจะแต่งเอง เขาก็ห้ามไม่ได้ เขาเพียงแค่หวังว่าน้องสาวจะทำใจให้สบาย ไร้ทุกข์ไร้กังวลในใจเขาสงสัยมาตลอดว่า หรือว่าหรวนหร่วนจะมีใจให้เหิงอ๋องมาตั้งแต่เด็ก เขาถามว่า “หรวนหร่วน พี่ใหญ่รู้ว่าเจ้ามีแผนการอันซับซ้อนอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็ก พี่ใหญ่หวังว่าเจ้าจะไม่ลืมความเป็นตัวเอง ทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์เพื่อเรื่องบางอย่างหรือคนบางคนที่ไม่ควรค่า เจ้าต้องจำไว้ว่าความสุขสำคัญที่สุด ถ้าเขาทำให้เจ้ามีความสุขไม่ได้ ทำให้เจ้าไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง เจ้าจะแต่งงานกับเขาไปทำไม”เจียงจิ่นเหยียนรู้ว่านางแตกต่าง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status