Share

บทที่ 46

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
แต่ไม่ว่าเจียงเฟิ่งหัวจะเคาะประตูอย่างไร ข้างนอกก็เงียบสงัด ปราศจากสรรพเสียงใดใดแม้แต่น้อย

เหลียนเย่กับหงซิ่วล้วนไม่อยู่ สวีหมัวมัวยิ่งแกล้งหูหนวกเป็นใบ้ หลินเฟิงถูกเหลียนเย่ซื้อตัวไว้แล้ว ยิ่งไม่มีทางเข้ามาช่วยเหลือ

เจียงเฟิ่งหัวรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่บ้าง “ต้องโทษที่ยามปกติหม่อมฉันเอ็นดูพวกนางเกินไปทำให้พวกนางไม่เห็นกฎระเบียบอยู่ในสายตา เชิญท่านอ๋องนั่งก่อนเพคะ อีกประเดี๋ยวเหลียนเย่ก็คงกลับมา หม่อมฉันรอจนนางกลับมาแล้ว...จะต้องลงโทษนางแน่นอนเพคะ”

เซี่ยซางพลันเอ่ยว่า “ปกติเจ้าอยู่คนเดียว นอกจากเต้นรำแล้วยังทำอะไรอีก”

“ท่านพ่อของหม่อมฉันเป็นอาจารย์สอนหนังสือให้ผู้อื่น ปกติหม่อมฉันถูกเขาตีมือมาไม่น้อย ราชครูเจียงตีเจ็บนักเพคะ” ใบหน้าเจียงเฟิ่งหัวเผยความซุกซนออกมา

เซี่ยซางพลันเข้าใจแล้ว สกุลเจียงเป็นตระกูลบัณฑิต ความรู้ของนางย่อมไม่อ่อนด้อย นอกจากความเย้ายวนเร่าร้อนตอนเต้นรำแล้ว เวลาอื่นๆ มักสงบเสงี่ยมเรียบร้อย เสด็จแม่บอกว่าเขาจำเป็นต้องมีพระชายาเช่นนี้

“ข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นคนตกแต่งหอทิงเสวี่ย เป็นนามที่สง่างามมีเอกลักษณ์นัก”

“ท่านอ๋องชอบก็ดีแล้วเพคะ นี่เป็นหน้าที่ในฐานะภรรยาของ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 47

    ครั้นเซี่ยซางได้ยินว่าพี่ใหญ่ของนางเป็นคนส่งไม้กระถางในสวนมาให้ อารมณ์ก็ดีขึ้นอย่างน่าประหลาด เขาไม่พูดออกมา เพียงถามว่า “พี่ใหญ่เจ้ามักไม่ได้กลับมา ปกติเจ้าเดินหมากกับผู้ใดงั้นรึ”“กับตัวเองนะสิเพคะ!”เซี่ยซางถาม “เล่นกับตัวเองอย่างไร?”เห็นเจียงเฟิ่งหัวมือซ้ายถือหมากดำ มือขวาถือหมากขาว เม็ดหมากสีดำวางลงบนกระดาน เม็ดหมากสีขาวก็ตามมาติดๆ จากนั้นหมากดำหมากขาวก็ค่อยๆ กระจายไปทั่วกระดานหมาก เซี่ยซางจ้องมองโดยไม่ละสายตา ดวงตาฉายแววตกตะลึงเจียงเฟิ่งหัวตรงหน้าเจิดจ้าจับตาจนเกินไป ดวงตาของนางใสสะอาดประหนึ่งน้ำพุใสพิสุทธิ์ ทั้งมาดมั่นและน่าหลงใหลรูปโฉมนางพริ้มเพราพิลาสล้ำ เขาคิดว่าบุรุษคนใดก็คงจะหลงใหลในตัวนางกระมัง!โชคดีที่สกุลเจียงซ่อนนางเอาไว้อย่างดี โชคดีที่นางแต่งงานกับเขา ความปรารถนาอยากครอบครองอุบัติขึ้นในใจเซี่ยซาง สตรีที่งดงามเช่นนี้ เขาต้องการครอบครองหมากกระดานนี้ดำเนินไปเนิ่นนานมาก ทั้งสองล้วนจดจ่อจึงไม่ได้สนใจเวลา เวลาล่วงเลยยามจื่ออย่างรวดเร็วเจียงเฟิ่งหัวเดินหมากกับตัวเองแต่กลับยากจะตัดสินความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ต้องการทำให้ได้ถึงขั้นนี้ ในหัวนางต้องมีแนวทางเดินหมากสองช

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 48

    หลังเซี่ยซางออกมาแล้ว เจียงเฟิ่งหัวก็เลี่ยงเขาเดินเข้าไปในตำหนักข้าง นางเยื้องกรายชดช้อย เปี่ยมเสน่ห์รัดรึงใจเซี่ยซางจ้องมองเงาหลังของนางอย่างเงียบๆ อยู่เพียงครู่ก็หันหลังเดินอ้อมฉากบังลมไปนั่งลงบนเตียง เขากำมือแน่นจนเห็นข้อกระดูกขาว คล้ายตัดสินใจบางอย่างแน่วแน่ดีแล้ว เขาเป็นสามีของนางก็ควรทำหน้าที่ทุกอย่างของสามีขณะที่เจียงเฟิ่งหัวเดินออกมานั่นเอง เซี่ยซางก็นอนบนขอบเตียงด้านนอกทั้งที่ยังสวมชุดเรียบร้อย เขาหลับตาพริ้มเหมือนนอนหลับไปแล้วนางทราบว่าเขายังไม่หลับ ตอนนี้เกรงว่าในใจเขาคงกำลังทรมานมาก ด้านหนึ่งถูกความงามดึงดูด อีกด้านก็คำนึงถึงสตรีที่เคยลั่นสัญญารักเอาไว้นางแค่นหัวเราะในใจ ตอนนี้ก็ให้ภรรยาของท่านมาทำลายความรักอันงดงามระหว่างท่านกับซูถิงหว่านก็แล้วกันนางเดินเข้าไปเป่าลมดับเทียน จากนั้นจึงปีนขึ้นไปขอบเตียงด้านในอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นข้อเท้านางก็ถูกคนคว้าไว้ เขาออกแรงดึงกะทันหัน เจียงเฟิ่งหัวจึงถลาล้มลงบนแผงอกแกร่งของเขานางอุทานคำหนึ่ง เรือนร่างอรชรทับอยู่เหนือลำตัวเขา ดวงตานางเบิกโพลง จ้องมองบุรุษรูปงามเป็นเอกตรงหน้า ท่ามกลางราตรีมืดสนิท นางสัมผัสได้ว่ามือของเขาล

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 49

    มุมปากเซี่ยซางพลันหยักขึ้นอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ฉวยโอกาสกับผู้อื่นมิใช่สิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว สิ่งที่เจียงเฟิ่งหัวต้องการก็คือความชอบจากใจจริงของสามี เช่นนี้นางจึงยินดีมอบความจริงใจออกไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่สามีที่ดี นางไม่เหมือนซูถิงหว่าน นางต้องการเพียงความชอบเล็กน้อยเท่านั้นก่อนหน้านี้นางได้รับการปกป้องทะนุถนอมจากสกุลเจียง นางไม่ประสาเรื่องทางโลก นางเพิ่งอายุสิบห้าเท่านั้นเอง!เขาวางนางลงบนเตียงอย่างเบามือ นางหาท่าที่สบายตัวนอนหลับฝันหวาน ท่าทางปราศจากเล่ห์เพทุบายโดยสิ้นเชิงเขายิ้มบาง ลองเรียกอีกครั้งว่า “หรวนหร่วน”ไม่ได้รับคำตอบรับ จากนั้นเขาก็นอนลงข้างกายนางอีกครั้ง กุมมือนางเงียบๆ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายนาง เขาเองก็ค่อยๆ นอนหลับไปเช่นกันวันรุ่งขึ้น ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวตื่นนอน เซี่ยซางก็จากไปแล้วนางนอนดึกตื่นสาย ไม่รู้เลยว่าเซี่ยซางจากไปตั้งแต่เมื่อใดเจียงเฟิ่งหัวค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน หันไปถามหงซิ่วว่า “ตอนนี้เป็นยามไหนแล้ว?”“ยามซื่อแล้วเพคะ พระชายาไม่ตื่นสายเช่นนี้มานานแล้ว คืนวานท่านอ๋องพักที่หอหล่านเยว่ ความสัมพันธ์ระหว่างพระช

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 50

    ชาติก่อนเจียงเฟิ่งหัวไม่เคยได้รับการคารวะจากซูถิงหว่าน เนื่องจากไม่ได้รับความโปรดปรานจากเซี่ยซาง ข้ารับใช้ในจวนก็สร้างความลำบากให้นางสารพัด ชาตินี้ คืนวานเซี่ยซางเพิ่งเดินออกมาจากห้องของนาง ทุกคนล้วนเห็นกับตาย่อมจะเคารพนบนอบต่อนางเป็นธรรมดา“พระชายารองซูไม่ต้องมากพิธี ล้วนแต่เป็นคนครอบครัวเดียวกัน รีบนั่งลงเถอะ” นางสั่งความเสียงลุ่มลึก “หงซิ่วยกน้ำชาให้พระชายารองซู”“ขอบพระทัยพระชายาเพคะ” ซูถิงหว่านนั่งลงอย่างเรียบร้อยแล้วเอ่ยว่า “เมื่อวานหม่อมฉันหุนหันพลันแล่นเกินไป ขออภัยด้วยเพคะ”เจียงเฟิ่งหัวอมยิ้มมุมปาก อ่อนโยนดุจสายลมวสันต์เดือนสาม “ท่านอ๋องอธิบายให้ข้าฟังแล้ว เขาบอกว่าพระชายารองซูเติบโตที่ชายแดนมาตั้งแต่เล็ก คำพูดและการกระทำเถรตรง นิสัยตรงไปตรงมา ทว่าจิตใจดีงาม ข้าจะโกรธเคืองเจ้าได้อย่างไรกัน ล้วนผ่านไปแล้ว”อาซางอธิบายแทนนาง ซูถิงหว่านพลันปวดใจ เจียงเฟิ่งหัวอ่อนโยนแบบนี้ นางรู้สึกว่าอ่อนนุ่มยวบยาบ ใช้กำลังไม่ได้แม้แต่น้อย นางนึกว่าอาซางไม่ชอบสตรีที่อ่อนโยนอ่อนหวานเช่นนี้เสียอีก นางผิดไปแล้ว อาซางถูกเจียงเฟิ่งหัวดึงดูดได้เหมือนกัน ตอนนี้นางอยากย้อนเวลากลับไปเหลือเกิน นางจะ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 51

    “ไม่สะดวกอย่างไรกันเพคะ ถ้าพระชายาไม่ไปแสดงว่ายังโกรธหม่อมฉันอยู่” ซูถิงหว่านพูดมาอีกว่า “พระชายาเป็นคนเซิ่งจิง จะต้องคุ้นเคยกับเทศกาลชมบุปผามากกว่าหม่อมฉันเป็นแน่!”เจียงเฟิ่งหัวมีสีหน้าค่อนข้างลำบากใจ “ที่ผ่านมาพี่ใหญ่ไปเป็นเพื่อนข้า คนเยอะเกินไป ข้าไม่ค่อยชอบ”ซูถิงหว่านกล่าว “นอกจากชมบุปผา ยังมีการประชันบุปผาด้วยนะเพคะ น่าสนใจยิ่งนัก ช่วงหลายวันนี้ท่านอ๋องอาจมีงานราชการรัดตัว ปีนี้เขาอาจไม่มีเวลาไปชมบุปผาเป็นเพื่อนหม่อมฉันก็ได้เพคะ”“งั้นก็ได้!” เจียงเฟิ่งหัวพยักหน้าตกลงอย่างฝืนใจ อยากเห็นนักว่าพวกเจ้าจะเล่นลูกไม้อะไรเดิมนางก็จะไปร่วมเทศกาลชมบุปผาอยู่แล้ว ตอนนี้ซูถิงหว่านมานัดหมายกะทันหัน สามารถใช้นางมากลบเกลื่อนได้พอดีที่ผ่านมานางก็เข้าร่วมเทศกาลชมบุปผา แต่นางไม่เคยใช้สถานะสตรีออกมาข้างนอก......วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาที่จัดขึ้นปีละครั้ง ตอนที่เจียงเฟิ่งหัวออกมาก็เห็นว่าซูถิงหว่านเปลี่ยนไปสวมชุดทะมัดทะแมงสีแดง รวบผมขึ้นสูง แลดูค่อนข้างองอาจคล่องแคล่วเจียงเฟิ่งหัวคิด นางไม่ได้มีรูปโฉมงามล้ำ แต่ก็ยังนับว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่ง สาเหตุที่เซี่ยซางชอบนางคงเป็นเพราะชอบบุคลิกภาพเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 52

    เซี่ยซางรีบรุดมาที่ทะเลสาบร้อยบุปผาก็เห็นว่าที่นั่นมีผู้คนคลาคล่ำ แน่นขนัดเบียดเสียด เขาถาม “เหตุใดที่นี่จึงมีคนมากมายเช่นนี้?”หลินเฟิงอธิบาย “วันนี้เป็นเทศกาลชมบุปผาประจำปีพอดีพ่ะย่ะค่ะ งานเทศกาลจัดขึ้นที่ทะเลสาบร้อยบุปผาจึงมีคนมากมายเช่นนี้”เขารู้แล้วว่าเกิดเรื่องอันใดที่ทะเลสาบร้อยบุปผา สาเหตุความวุ่นวายคือคดีหญิงสาวหายสาบสูญเมื่อสามปีก่อน มีคนปล่อยข่าวที่ทะเลสาบร้อยบุปผาว่าหยางจิ้งเจ้ากรมอาญาเป็นฆาตกร ทั้งยังวาดภาพที่หยางจิ้งสังหารหญิงสาวอีกด้วย ภาพนั้นสมจริงสมจังจนทำให้สาธารณชนเดือดดาล ความผิดมากเกินกว่าจะเขียนบรรยายออกมาได้หมดข่าวที่เจ้ากรมอาญาถูกฆาตกรรมเผยแพร่ออกมาแต่แรกแล้ว ยามนี้คนที่ทราบว่าเขาก่อกรรมทำเข็ญมามากมายขนาดนั้นล้วนด่าทอว่าตายได้ก็ดี ความตายยังไม่สามารถชดใช้ความผิดได้หมด เพราะหยางจิ้งข่มขืนและสังหารโหดหญิงสาวไปหนึ่งร้อยกว่าคน หยางจิ้งตายไปแล้วก็รู้สึกเพียงว่าสาสมใจนักเป็นผู้ใดที่มีคุณธรรมปานนี้ ทางการไม่เพียงไม่ตกรางวัล แต่ยังติดประกาศตามจับตัวฆาตกร ดังนั้นทุกคนจึงประท้วงขึ้นมาเซี่ยซางเห็นว่าสถานการณ์วุ่นวายขนาดนั้นก็สั่งความเสียงขรึม “ให้กองกำลังรักษาความ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 53

    เซี่ยซางขมวดคิ้วแน่น ทั่วบริเวณวุ่นวายสับสน สถานการณ์ขณะนั้นไม่สงบเป็นอย่างยิ่ง จำเป็นต้องมีคนแสดงท่าทีออกมา มิฉะนั้นราษฎรไม่มีทางเชื่อถือทางการ เรื่องนี้ต้องรายงานให้ฝ่าบาททรงทราบโดยเร็วที่สุดเซี่ยซางพลันกระโดดขึ้นไปยืนบนสะพานโค้งเหนือทะเลสาบร้อยบุปผา เอ่ยเสียงลุ่มลึกว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งวู่วาม ข้าคือเซี่ยซางผู้ดูแลเขตเมืองหลวง วันนี้ข้ายินดีเป็นผู้นำลงนามหนังสือหมื่นประชาลงนามร้องทุกข์นำไปกราบทูลฝ่าบาท จะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมกับตระกูลหยางแทนทุกท่านรวมถึงเหล่าสตรีที่ตายไปอย่างแน่นอน และประจานพฤติกรรมอันชั่วร้ายของหยางจิ้งให้ทุกคนรับทราบโดยทั่วกัน”เห็นเขาสวมเครื่องแบบขุนนางสีม่วง ท่าทางน่าเกรงขาม ทรงอำนาจบารมี แววตาหนักแน่น ในไม่ช้าก็มีคนตัดผ้าขาวยาวสิบจั้งก้าวออกมาผ้าขาวนั้นทอดยาวจากปลายด้านหนึ่งของสะพานโค้ง โอบล้อมทะเลสาบร้อยบุปผาได้ครึ่งทางเซี่ยซางหยิบกริชขึ้นมากรีดนิ้ว เขียนตัวอักษรสองตัวว่า ‘เซี่ยซาง’ อย่างทรงพลังและสง่างาม เพื่อสื่อว่าวันนี้เขาจะต้องเรียกร้องความเป็นธรรมให้ปวงชนอย่างแน่นอน ทุกคนอึ้งงันไปอย่างเหลือเชื่อ ฉับพลันนั้นทุกคนก็เงียบเสียง เหิงอ๋องเป็นผู้นำลง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 54

    หลินอวี่รู้ว่าเจียงเฟิ่งหัวมีปณิธานยิ่งใหญ่และมีความสามารถไม่ธรรมดามาตั้งแต่เด็ก ตอนมีราชโองการสมรสพระราชทานลงมาเมื่อครึ่งปีก่อน เจียงเฟิ่งหัวน้อมรับด้วยความยินดี ทั้งยังดีใจมากอีกต่างหาก นางจึงเข้าใจว่าคนที่นางชอบคือเหิงอ๋องเซี่ยซางแต่เจียงเฟิ่งหัวกลับบอกนางว่าตนเองไม่ชอบเขา ต่อไปก็ไม่มีทางชอบหลินอวี่หลินอวี่งุนงงไปหมดแล้วหลินอวี่กับเจียงเฟิ่งหัวรู้จักกันมาเกือบสิบปีแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาพวกนางไม่ได้เป็นเพียงนายบ่าว แต่เหมือนพันธมิตรและมิตรแท้สำหรับกันและกันมากกว่าต่อมา เจียงเฟิ่งหัวลงทุนก่อตั้งกิจการหอสุราแห่งนี้ หลินอวี่กลายเป็นเถ้าแก่หอสุราตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่าการตัดสินใจทุกอย่างมีเจียงเฟิ่งหัวคอยกำกับอยู่หลังม่านพวกนางพบกันครั้งแรกที่หอสังคีต เปลือกนอกเป็นหอสังคีต แต่แท้จริงแล้วเป็นหอโคมเขียวแต่สถานการณ์ของพวกนางกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง หลินอวี่ถูกขายให้หอสังคีต ชะตาชีวิตนางถูกลิขิตไว้แล้วว่าจะต้องชวนสลดน่าสังเวช อยู่มิสู้ตาย กระทั่งว่าที่พึ่งชั่วชีวิตของนางคือการปรนนิบัติเอาใจบุรุษ เมื่อเข้าไปในหอโคมเขียว เดิมนางก็สิ้นหวังไปแล้วทว่าคล้ายกับว่าสวรรค์นำโช

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 367

    “แม่นางหลิน เจ้าดื่มช้าๆ หน่อย” กัวเซี่ยวไม่เหลือท่าทางเสเพลไร้ความสำรวมในอดีตอีก เขาเอ่ยห้ามปรามว่า “แม่นางหลิน เจ้าอารมณ์ไม่ดีหรือ!”“ผู้ใดบอกว่าข้าอารมณ์ไม่ดีกัน” หลินอวี่กล่าวต่อว่า “สุรานี้เจ้าเป็นคนออกเงินซื้อ ท่านจะดื่มไม่ดื่ม?” กัวเซี่ยวรีบเทเหล้าออกมาอีกจอกแล้วดื่มลงไปจนหมดในอึกเดียว “ข้าดื่ม” ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้ดื่มสุรากับนาง แน่นอนว่าต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่นสุราผ่านไปสามรอบ กัวเซี่ยวก็ดื่มจนหน้าแดงก่ำแล้ว แม้แต่นั่งก็นั่งไม่มั่น “ดื่มอีก ข้ายังดื่มได้…ดื่ม…แม่นาง…แม่นางหลิน เจ้าช่างงามนัก”สีหน้าของหลินอวี่ยิ่งเปล่งปลั่งแดงระเรื่อ จู่ๆ นิ้วเรียวงามทั้งสิบของนางก็สัมผัสลงบนแก้มของเขา คนที่อยู่เบื้องหน้าราวกับได้กลายเป็นผู้ที่อยู่ในใจนางไปแล้ว นางพึมพำว่า “คุณชายน้อย ดื่มสุราสิ”กัวเซี่ยวถูกอารมณ์รักทำให้เลอะเลือนไปแล้ว เขาคว้ามือนางไว้แล้วดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด “แม่นางหลิน ข้าชอบเจ้า”หลินอวี่หัวเราะอย่างหยาดเยิ้ม ตั้งแต่เด็กนางก็เรียนรู้ทักษะการล่อลวงบุรุษพวกนั้นกับเจียงเฟิ่งหัว ยามนี้นำมาใช้กับกัวเซี่ยวก็เกินจะพอ อาศัยเพียงยิ้มเดียวของนางก็ทำให้กัวเซี่ยวมัวเมาลุ่มห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 366

    ไม่รอให้ชายฉกรรจ์ตอบสนอง หลินอวี่ก็เอ่ยเสียงหนักว่า “นำสุรามา คืนนี้พี่ชายจะออกเงินครั้งละร้อยตำลึงได้มากเท่าใด ข้าก็จะดื่มเป็นเพื่อนท่านมากเท่านั้น ว่าอย่างไร?”ม่านตาของชายฉกรรจ์หดแคบลง สุราเช่นนี้พวกเขาดื่มไม่ไหวดอก ทันใดนั้น คนทั้งสองก็ห่อเหี่ยวลงทันทีหลินอวี่ลุกขึ้นมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าว่าสองท่านคงไม่ได้คิดมาดื่มสุราหาความสำราญ แต่เหมือนจะมาก่อเรื่องในหออี๋ชุนของข้ามากกว่า”“ผู้ใดบอกว่าไม่ได้มาดื่มสุรากัน” บุรุษหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมา ชี้จมูกหลินอวี่ได้ก็ด่าออกมาทันทีว่า “หอสุราเน่าๆ อะไรของพวกเจ้ากัน เหล้าจอกละร้อยตำลึง ทำไมพวกเจ้าไม่ไปปล้นเสียเลยล่ะ”พูดจบเขาก็คิดจะเริ่มทำลายข้าวของ สุราอาหารกับจอกสุราถูกเขาพลิกโต๊ะจนล้มคว่ำหลินอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ไม่ทันที่นางจะลงมือ ในเวลานั้นเอง ที่หน้าประตูก็มีบุรุษผู้หนึ่งบุกเข้ามาปกป้องอยู่เบื้องหน้าของนางอย่างสง่างามน่าเกรงขาม “ข้ามาแล้ว เป็นไอ้ลูกเต่าลูกตะพาบตัวไหนกล้ามาก่อเรื่องที่หออี๋ชุนกัน”“แม่นางหลินวางใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่มีใครกล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่แน่” ใบหน้ากัวเซี่ยวเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นหลินอวี่ถอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 365

    หิมะตกแล้ว หิมะที่ตกหนักและปลิวไสวดุจขนห่าน ทำให้เมืองหลวงอันเรืองรองประดุจปกคลุมไปด้วยอาภรณ์สีเงิน ทัศนียภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะนี้ก็ดูงดงามมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบไม่ว่าสงครามที่ชายแดนจะรบกันหนักหน่วงเพียงใด ล้วนไม่อาจส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง ที่ยังคงคึกคักและรุ่งเรืองเช่นเดิมเจียงเฟิ่งหัวสวมเสื้อคลุมอันหรูหราที่มีหมวกคลุมศีรษะยืนอยู่ข้างหน้าต่างพลางทอดสายตาออกไปไกล ความคิดของนางล่องลอยออกไปไกลแสนไกล แววตาที่ลึกล้ำดุจบึงน้ำอันหนาวเหน็บสาดประกายเย็นเยียบออกมาคิดไม่ถึงว่าจะจัดการกับจีเฉินได้รวดเร็วเช่นนี้ ในชาติก่อน จีเฉินเป็นแรงหนุนคนสำคัญของซูถิงหว่าน พวกเขาคนหนึ่งอยู่ในวังคนหนึ่งอยู่นอกวัง ในนอกเสริมประสาน การกำจัดเขาทิ้งในเวลานี้จึงถือเป็นการกำจัดศัตรูคู่แค้นที่สำคัญไปได้คนหนึ่ง“เจ้าต้องกลับวังอีกแล้วสินะ! ข้าจะไม่ได้เห็นเจ้าอีกหลายเดือนอีกแล้วใช่หรือไม่ หวังจริงว่า ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตอนเจ้าคลอดลูกได้ คนอื่นล้วนบอกว่า การคลอดลูกเป็นด่านความเป็นตายของผู้หญิงที่เท้าข้างหนึ่งก้าวไปอยู่ในตำหนักมัจจุราช” หลินอวี่ยืนอยู่ข้างนาย มองตามสายตาของนางไปยังควันที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ไกลออกไป

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 364

    เนื่องจากสายสัมพันธ์กับซูฮองเฮา บัดนี้ อำนาจของซูไทเฮาจึงเหนือล้ำเฉิงฮองเฮาไปแล้วดังนั้น ฝูลู่จึงไม่กล้าล่วงเกินฮองเฮาเช่นกัน เพราะไม่ว่าอย่างไรยามอยู่ต่อหน้าฮ่องเต้ ตำแหน่งแห่งที่ของเขาก็ยังไม่มั่นคงนัก ขันทีผู้หนึ่งแบบเขาจะไปช่วยใครได้ เขาช่วยผู้ใดไม่ได้ทั้งนั้นยังคงยุ่งเรื่องผู้อื่นให้น้อยลงจะดีกว่า!“คืนนี้ ฝ่าบาทจะทรงพลิกป้ายของพระสนมท่านใดพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้กล่าวว่า “ไม่พลิกป้ายแล้ว ช่วงนี้ข้างานราชกิจรัดตัว ไม่ต้องจัดนางสนมมาปรนนิบัติแล้ว ตรงไปที่ห้องทรงอักษรเลยเถอะ!”“พ่ะย่ะค่ะ” ฝูลู่กล่าว นับตั้งแต่ฮ่องเต้กลายเป็นองค์รัชทายาท มีวันใดที่ทรงไม่ยุ่งบ้าง เหล่าพระสนมในวังล้วนได้ไทเฮาดูแลทั้งนั้น ก็น่าจะทรงไปทำความรู้จักบ้างเฮ้อ! สถานที่ที่ฮ่องเต้ไปมากที่สุดยังคงเป็นตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา ดูท่าเสียนเฟยคงไม่มีโอกาสแล้ว ยังดีที่นางมีลูกสองคนจึงยังรักษาตำแหน่งเสียนเฟยไว้ได้เมื่อจีเฉินที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเห็นฉากนี้ ในใจก็ยิ่งตื่นเต้น อย่างนั้นก็แปลว่าในอนาคตเจียงเฟิ่งหัวจะไม่ได้เป็นฮองเฮา และเซี่ยซางก็ไม่ได้ชอบนางด้วยแต่ไม่ถูกสิ!ลูกก็คลอดออกมาแล้ว เหตุใดพวกเขาสองคนจึงยังดู

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status