โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น의 모든 챕터: 챕터 251 - 챕터 260

322 챕터

บทที่ 251

แต่นางเซี่ยไม่ยอมรับในตัวนางหรงจือจือพูด “ต่อไปอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีก ในเมื่อข้ารับปากนางเซี่ยไปแล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะกลับคำ”“เอาแต่คิดเรื่องพวกนี้ไปก็มีแต่จะเพิ่มความคิดที่ไร้ประโยชน์ให้กับเจ้า หรือหากแพร่งพรายออกไปก็จะกระทบต่อชื่อเสียงของทั้งสองฝ่าย”ไม่รู้ว่าการกระทำของจีอู๋เหิงวันนี้จะทำให้เกิดข่าวลือหรือไม่เจาซีตอบอย่างไม่เต็มใจนัก “บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่าหัวใจของเจาซีกำลังหลั่งโลหิต ที่คุณหนูต้องพลาดจากบุรุษที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้สองนายบ่าวคุยกันถึงแค่ตรงนี้คนเฝ้าประตูเดินเข้ามารายงาน “คุณหนู ฉีอวี่เยียนมาหาขอรับ ร้องโวยวายอยู่ด้านนอกว่าต้องการพบท่าน!”เมื่อนึกถึงยามที่ออกจากสกุลฉีเมื่อวาน ฉีอวี่เยียนข่มขู่ว่าจะฆ่าตัวตายเพื่อบีบให้หรงจือจือทิ้งสินเดิมไว้ ครั้นได้ยินว่าอีกฝ่ายมาหาในวันนี้ หรงจือจือก็ย่อมรู้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนเอ่ยปากตอบทันทีว่า “ไม่พบ!”นางนึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าตัวเองออกจากสกุลฉีมาแล้ วแต่ก็ยังจะโดนคนสกุลฉีตามหลอกหลอนไม่เลิกอีก นางคิดว่าตราบใดที่คดีของอวี้ม่านหวายังไต่สวนไม่เสร็จสิ้น สกุลฉีก็น่าจะต้องปวดหัวกับเรื่องน
더 보기

บทที่ 252

หรงเจียวเจียวฟังถึงตรงนี้ก็รีบพูดตาม “นั่นสิเจ้าคะพี่หญิง อย่าก่อเรื่องอีกเลย รีบตามคุณหนูสามจากสกุลฉีกลับไปเถิด”“การที่นางมารับถึงที่นี่ก็แสดงให้ถึงความจริงใจของสกุลฉี จะเล่นตัวก็เล่นแค่พอเป็นพิธี เล่นมากไปจะหมดความหมาย”นางว่าจบก็ดันฉีอวี่เยียนเบาๆ “ยังไม่รีบพูดจาดีๆ กับพี่หญิงของข้าอีก?”ฉีอวี่เยียนฟังหรงเจียวเจียวพูดแบบนี้แล้ว มีหรือจะเห็นหรงจือจืออยู่ในสายตาอีก มองว่าก็แค่เศษสวะที่อยากตามตัวเองกลับสกุลฉีแต่ชอบวางท่าเล่นตัวพูดเย้ยหยันว่า “หรงจือจือ ข้าพูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว จะกลับหรือไม่กลับก็แล้วแต่! ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด”หรงเจียวเจียวมองหรงจือจือ “ท่านพี่ คุณหนูสามสกุลฉีโมโหแล้วเจ้าค่ะ หากท่านยังไม่รีบกลับไป ทำให้ผลประโยชน์ตกเป็นของสตรีคนอื่นขึ้นมาจะทำอย่างไรเจ้าคะ?”“ข้าเพียงแต่กลัวว่าผลประโยชน์จะตกไปเป็นของผู้อื่น กลัวว่าท่านจะหยิ่งในศักดิ์ศรี ด้วยเหตุนี้จึงต้อนรับนางแทนท่าน”“สกุลฉีเป็นครอบครัวอันเพียบพร้อมที่หาได้ยากยิ่ง พี่เขยเป็นคนดีที่หาได้ยากเช่นกัน แม้ว่าช่วงนี้จะทำผิดพลาดไปเล็กน้อย แต่ข้าก็เชื่อว่าเขาจะแก้ไขปรับปรุงได้อย่างแน่นอน ท่านรีบไปเก็บของเถิด!”
더 보기

บทที่ 253

หรงจือจือพูดจบก็หันตัวเดินนำเจาซีจากไปหรงเจียวเจียวรีบร้องขึ้น “หรงจือจือ ท่านจะไปไหน? นางมาหาท่านนะ!”ฉีอวี่เยียนเข้ามาคว้าแขนหรงเจียวเจียวเอาไว้ “ไม่ ข้ามาหาเจ้าต่างหาก! จะมาหานางทำไม?”“ความจริงแล้วข้ารู้สึกถูกชะตากับเจ้าตั้งแต่แรกเห็น! จริงสิ ขนาดหรงจือจือยังมีปะการังต้นใหญ่ เจ้าเป็นที่โปรดปรานของครอบครัวขนาดนี้ คิดว่าท่านแม่ของเจ้าน่าจะมอบให้อย่างน้อยสองต้นใช่หรือไม่?”“รอให้ถึงวันที่ข้าแต่งงานออกเรือน เจ้าแบ่งให้ข้าต้นหนึ่งได้หรือไม่? ข้าขอแค่ต้นเดียวเท่านั้น ถือว่าไม่มากเกินไปกระมัง?”“พี่หญิงของเจ้าตระหนี่มาก ตอนนั้นข้าขอร้องจนปากเปียกปากแฉะ แต่นางกลับไม่ยอมยกให้แม้เพียงครึ่งต้น เจ้าทั้งใจกว้างทั้งใจดีขนาดนี้ คิดว่าคงไม่ใจแคบกระมัง?”หรงเจียวเจียว “เจ้า เจ้า…”นางไม่เคยพบเจอคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน มันทำให้นางโมโหจนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรต่อดีที่ทำให้นางโมโหหนักเข้าไปอีกก็คือ ฉีอวี่เยียนมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดว่า “แม้ว่ารูปโฉมจะด้อยกว่าพี่หญิงของเจ้าไปบ้างและมีกิริยามารยาทสง่างามไม่เท่านาง แต่ก็ถือว่าสะสวย”“แต่หากครอบครัวพวกข้าต้องมีสะใภ้ที่โดดเด่นไม่เท่าเดิม
더 보기

บทที่ 254

สมัยที่หรงจือจือยังไม่ออกเรือน เมื่อไรที่นางหวังโมโหแบบนี้ หรงจือจือจะมายืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเชื่อฟังทุกครั้งไปไม่ว่านางหวังจะสั่งให้นางคุกเข่ายอมรับผิดหรือตบหน้า หรงจือจือก็ไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียวทว่าวันนี้ นางหวังเดินเข้ามาอาละวาดแล้วเห็นหรงจือจือนั่งนิ่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ในมือถือถ้วยชาพร้อมกับจิบอย่างสง่างาม ทั้งยังเพียงแค่ปรายตามองไปที่นางหวังอย่างเรียบเฉยสายตาเรียบนิ่งเฉยเมยนี้เกือบทำให้นางหวังเป็นลมหมดสตินางโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม ชี้หน้าหรงจือจือว่า “เจ้าเห็นว่าข้าเข้ามาแล้ว เหตุใดยังไม่มาทำความเคารพอีก?”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “เคารพอันใดกัน? บัดนี้ข้าเป็นท่านหญิงขั้นที่สอง แต่ฮูหยินไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย หากจะทำความเคารพจริงๆ เกรงว่าคงเป็นท่านมากกว่าที่ต้องทำความเคารพข้า!”นางเข้าใจแล้ว ในเมื่อบัดนี้นางเป็นท่านหญิง เช่นนั้นก็ควรใช้ตำแหน่งนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองบ้างนางหวังเกือบต้องโมโหอกแตกตายเพราะคำพูดของหรงจือจือ นั่นเพราะนางไม่ได้มีตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นสูง ตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นที่หนึ่งที่มีก่อนหน้านี้ถูกมหาราชครูหรงยกให้กับฮูหยินผู้เฒ่า ยังไม่มีโอกาส
더 보기

บทที่ 255

นางหวังพูดด้วยความรังเกียจ “เสื้อผ้าพวกนี้ถูกทิ้งไว้ที่เรืออี๋เหมยจนแปดเปื้อนไปด้วยความอัปมงคลหมดแล้ว เจียวเจียวของข้าไม่มีทางใส่อีกแน่ ข้าจะสั่งตัดเสื้อผ้าให้นางใหม่ เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปเผาทิ้งให้หมด!”พูดจบก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองครั้นเห็นนางเดินห่างออกไปไกลเจาซีก็อดบ่นเสียงเบาไม่ได้ว่า “เสื้อผ้าที่หรงเจียวเจียวเคยสวมต่างหากที่อัปมงคล เก็บไว้ที่นี่ไปก็ไม่เป็นมงคลต่อคุณหนูของข้า เผาทิ้งก็ดีเหมือนกัน ถุย!”อวี้หมัวมัวมองนางปราดหนึ่ง “บัดนี้อยู่ที่จวนสกุลหรง ระวังคำพูดและกิริยาด้วย”เจาซีมุ่ยปากแล้วไม่พูดอะไรอีกเมื่ออวี้หมัวมัวหันตัวกลับก็เห็นหรงจือจือมองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังกำแพงเรือน สายตาราวกับมองผ่านชายคาออกไปยังโลกกว้างด้านนอกจวนสกุลหรง ภาพนี้ทำให้อวี้หมัวมัวตื่นตระหนกไปชั่วขณะและในจังหวะนี้เองที่หรงจือจือสั่งให้คนปิดประตูจากนั้นถามขึ้นว่า “อวี้หมัวมัว หลังจากที่พบตัวผู้สมรู้ร่วมคิดที่ร่วมมือกับนางถานสังหารท่านย่าแล้ว ข้าจะย้ายออกจากจวนไปเริ่มต้นครอบครัวใหม่ของตัวเองดีหรือไม่?”สุดท้าย เรื่องที่อวี้หมัวมัวหวาดกลัวก็มาถึงจนได้นางรีบตอบกลับไป “คุณหนู ไม่ได้เด็
더 보기

บทที่ 256

เฉินเยี่ยนซู “พ่อบ้าน ส่งแขก”หรงซื่อเจ๋อ “?”เดี๋ยวนะ เขาเพิ่งจะพูดไปแค่ประโยคเดียว เหตุใดจึงไล่กันแล้ว? อีกอย่าง เมื่อครู่ท่านราชเลขาธิการยังยิ้มอยู่เลยมิใช่หรือ?พ่อบ้านหวง “คุณชายรองหรง เชิญเถิด”พ่อบ้านหวงทำการแสดงงิ้วเสฉวนให้หรงซื่อเจ๋อดูเช่นกัน—การแสดงเปลี่ยนหน้าใบหน้าเปลี่ยนจากยิ้มแย้มมาเป็นเคร่งขรึมประหนึ่งมีคำหยาบนับหมื่นอยู่ในใจและทำท่าผายมือเชิญให้เขาออกไปหรงซื่อเจ๋อขมวดคิ้วพูด “ท่านราชเลขาธิการ ไม่ทราบว่าข้า…”เขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ?แต่เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งประโยค เซินเฮ่อก็ทำตัวเหมือนวัวกระทิงก็มิปาน เข้ามาผลักหรงซื่อเจ๋อออกไปด้านนอกด้วยเรี่ยวแรงที่สามารถผลักให้คนลอยกระเด็นได้ “ยังไม่รีบไปอีก! ท่านราชเลขาธิการไล่แล้วนะ!”หรงซื่อเจ๋อสับสนงุนงง “ใต้เท้าเซิน ข้ายังพูดไม่จบเลยนะขอรับ!”เซินเฮ่อ “ยังจะพูดอะไรอีก! ไม่เห็นหรือว่าท่านราชเลขาธิการไม่อยากเห็นหน้าเจ้า? อย่ามารบกวนการพักรักษาตัวของเขา ไม่มีผู้ใดอยากฟังที่เจ้าพูดหรอก!”เหอะๆ น้องภรรยาของท่านราชเลขาธิการไม่รู้จักดูให้ดีแบบนี้ ดีจริงๆ เยี่ยมจริงๆเท่านี้ก็จะเทียบตำแหน่งของเขาภายในใจท่านราชเลขาธิการ
더 보기

บทที่ 257

“แต่ก่อนหน้านี้ท่านพี่ทำตัวไม่ดี นางจึงยังขุ่นเคืองอยู่ก็เท่านั้น”“แท้จริงแล้วนางกำลังรอให้ครอบครัวของเราไปรับตัวกลับมา!”ฉีจื่อฟู่ฟังจบก็ตาเป็นประกาย “เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ?”ฉีอวี่เยียนตอบทันที “เรื่องนี้จะเป็นเท็จได้อย่างไร? หากไม่ใช่เพราะแบบนี้ ข้าก็คงไม่ยืนอยู่หน้าจวนสกุลหรงนานขนาดนั้นหรอก พูดไปพูดมา ที่ข้าไปสอบถามมาก็เพราะรู้ว่าท่านปล่อยวางพี่สะใภ้ไม่ได้”ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่าหัวใจที่แห้งเหือดของตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพราะคำพูดของฉีอวี่เยียน แม้แต่จิตวิญญาณก็ฟื้นกลับมาฉีอวี่เยียนพูดต่อ “ท่านพี่ ข้าว่านะ ท่านให้ผู้อาวุโสไปรับพี่สะใภ้กลับมาด้วยตัวเองเถิด!”“ตัวข้าที่เป็นเพียงน้องสาวสามีไปรับเพียงลำพังนั้นดูเสียมารยาทเล็กน้อย นางจะไม่อยากกลับมากับข้าก็ไม่แปลก”“แต่หากท่านไปด้วยตัวเองจะไม่เหมือนกัน นางจะไม่ยอมไว้หน้าท่านสักหน่อยหรือ? ท่านว่าใช่หรือไม่?”หัวคิ้วของฉีจื่อฟู่ขมวดเข้าด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเริ่มคล้อยตามแต่เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ตัวเองสาบานกับจือจือว่าสกุลฉีของพวกเขาจะผ่านพ้นอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยตัวเอง หากเขาไปหานางตอนนี้ก็อาจจะทำให้นางดูแคลนเขาได้ไม่แ
더 보기

บทที่ 258

ถานผิงถิงตะลึงงันกับความมั่นใจของฉีจื่อฟู่นางไม่รู้ว่าหรงจือจือทำใจไปจากฉีจื่อฟู่ได้หรือไม่ได้ ที่นางรู้ก็คือ ฉีจื่อฟู่ไม่ได้มองนางเป็นมนุษย์แม้แต่น้อยนางลองย้ำเตือนให้ฉีจื่อฟู่รู้ถึงสถานะของนาง “ท่านพี่ ในเมื่อฮูหยินน้อยก็หย่ากับท่านไปแล้ว ท่านมิสู้ให้ความสำคัญกับคนที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้จะดีกว่านะเจ้าคะ หันกลับมามองคนที่รักท่านด้วยใจจริงและอยู่เคียงข้างท่าน!”ฉีจื่อฟู่ “คนเบื้องหน้า? เบื้องหน้าข้ายังมีผู้ใดอีกกัน? ม่านหวาก็ถูกจับไปแล้ว ข้านี่มันโง่เขลาจริงๆ หลงเชื่อไปได้ว่านางจริงใจต่อข้า ไม่ทันได้ป้องกันอะไรมากมาย…”บัดนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดตั้งแต่โบราณกาลมา วีรบุรุษหลายคนจึงมักตายด้วยน้ำมือหญิงงามผู้กล้ายากจะฝ่าด่านหญิงงาม เรื่องนี้เป็นความจริง“ข้าเองก็รู้สึกขบขันเช่นกัน ทั้งที่ข้าไม่ได้รักม่านหวา คิดว่าตัวเองยืนอยู่บนที่สูง ก้มหน้าลงมองนางที่มอบความรักให้ข้า ทว่าสุดท้ายแล้ว ตัวข้ากลับกลายเป็นตัวตลกเสียเอง”ถานผิงถิงเกือบต้องอกแตกตายด้วยความโมโห “ท่านพี่ ข้างกายท่านมีแค่ฮูหยินน้อยกับอนุอวี้แค่สองคนหรืออย่างไร?”ฉีจื่อฟู่ถามกลับด้วยความสงสัย “หรือว่าข้ายังมีคนอื่นอีกห
더 보기

บทที่ 259

ด้วยความโมโห นางรุดหน้าไปที่เรือนของฉีอวี่เยียน แทนที่จะมาโทษตัวเอง มิสู้ไปทรมานคนอื่นดีกว่า! ฉีอวี่เยียนทำให้นางเสียโฉม ทั้งยังยุยงให้พี่ชายของตัวเองไปรับหรงจือจือกลับมา เห็นนางเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอกหรืออย่างไร?ฉีอวี่เยียนกลับถึงเรือนตัวเองได้ไม่นานก็เห็นถานผิงถิงบุกเข้ามาเหมือนคนบ้ากระชากผมของฉีอวี่เยียนแล้วลากไปทางสระน้ำในลานบ้าน จากนั้นกดศีรษะนางลงในสระฉีอวี่เยียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ถานผิงถิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”ถานผิงถิง “ใช่! ข้าบ้าไปแล้ว! เป็นบ้าเพราะเจ้า! ในเมื่อเจ้าไม่ให้ข้าอยู่สบาย เช่นนั้นเจ้าก็อย่าคิดจะอยู่สบายเช่นกัน ตายเสียเถอะ!”เซี่ยอวี่ตกใจหน้าซีด “อนุถาน ท่านใจเย็นก่อน…”หลังจากที่ฉีอวี่เยียนสลัดตัวหลุดออกมาได้ก็ผลักถานผิงถิงตกน้ำ แต่ถานผิงถิงมีหรือจะยอม? นางดึงชายกระโปรงของอีกฝ่ายให้ตกน้ำไปด้วยกัน!“ตายเสียเถอะ!”“ถานผิงถิง เจ้ามันบ้าไปแล้ว!”“อย่างน้อยก็ดีกว่านังแพศยาแบบเจ้าก็แล้วกัน!”บรรดาสาวใช้ต่างตื่นตกใจและเรียกคนให้มาช่วย ตอนนี้เป็นเหมันต์ฤดู ยามที่ช่วยทั้งสองคนขึ้นมา พวกนางต่างหน้าซีดเขียวราวกับตายไปแล้วครึ่งชีวิต จากนั้นป่วยไข้กันทั้งสองคนฉีจื่อฟู
더 보기

บทที่ 260

หรงซื่อเจ๋อรู้สึกขนหัวลุกเมื่อเห็นท่าทีโมโหของผู้เป็นบิดาเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสาเหตุที่ตัวเองถูกไล่ออกจากจวนราชเลขาธิการจะเป็นเพราะได้ด่าว่าหรงจือจือแค่คำเดียว?ที่ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ ราชเลขาธิการเฉินไม่เพียงไล่เขาออกมา แต่ยังส่งคนมาฟ้องเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วย นี่มันจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไปแล้ว!หรงซื่อเจ๋อรีบตอบ “ท่านพ่อ ตอนนั้นข้าเพียงแต่ต้องการหาเรื่องเป็นกันเองมาคุยกับราชเลขาธิการเฉินเพื่อตีสนิทเท่านั้น!”ได้ยินดังนี้ มหาราชครูหรงมีหรือจะไม่เข้าใจอีกว่าลูกของตัวเองพูดโง่เขลาแบบนั้นออกไปจริงๆ!มหาราชครูหรงหัวเราะด้วยความโมโห “เป็นกันเองอย่างนั้นหรือ? เป็นกันเองก็เลยด่าพี่หญิงของตัวเองว่าต่ำช้าต่อหน้าคนนอก? หากพี่หญิงของเจ้าต่ำช้า เช่นนั้นตัวเจ้าเล่า? พ่อของเจ้าเล่า?”“เจ้าด่าแค่พี่หญิงของเจ้าคนเดียวหรือว่าด่าทั้งครอบครัวกันแน่? เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ได้หรือ?”“รู้หรือไม่ว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป สกุลหรงจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวง?”หรงซื่อเจ๋อฟังถึงตรงนี้แล้วเพิ่งจะเข้าใจความร้ายแรงของปัญหานี้กระนั้นก็ยังคงแก้ตัวเสียงเบา “ท่านพ่อ ข้าเพียงแต่คิดว่าราชเ
더 보기
이전
1
...
2425262728
...
33
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status