Share

บทที่ 259

Author: สั่งไม่หยุด
ด้วยความโมโห นางรุดหน้าไปที่เรือนของฉีอวี่เยียน แทนที่จะมาโทษตัวเอง มิสู้ไปทรมานคนอื่นดีกว่า! ฉีอวี่เยียนทำให้นางเสียโฉม ทั้งยังยุยงให้พี่ชายของตัวเองไปรับหรงจือจือกลับมา เห็นนางเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอกหรืออย่างไร?

ฉีอวี่เยียนกลับถึงเรือนตัวเองได้ไม่นานก็เห็นถานผิงถิงบุกเข้ามาเหมือนคนบ้า

กระชากผมของฉีอวี่เยียนแล้วลากไปทางสระน้ำในลานบ้าน จากนั้นกดศีรษะนางลงในสระ

ฉีอวี่เยียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ถานผิงถิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”

ถานผิงถิง “ใช่! ข้าบ้าไปแล้ว! เป็นบ้าเพราะเจ้า! ในเมื่อเจ้าไม่ให้ข้าอยู่สบาย เช่นนั้นเจ้าก็อย่าคิดจะอยู่สบายเช่นกัน ตายเสียเถอะ!”

เซี่ยอวี่ตกใจหน้าซีด “อนุถาน ท่านใจเย็นก่อน…”

หลังจากที่ฉีอวี่เยียนสลัดตัวหลุดออกมาได้ก็ผลักถานผิงถิงตกน้ำ แต่ถานผิงถิงมีหรือจะยอม? นางดึงชายกระโปรงของอีกฝ่ายให้ตกน้ำไปด้วยกัน!

“ตายเสียเถอะ!”

“ถานผิงถิง เจ้ามันบ้าไปแล้ว!”

“อย่างน้อยก็ดีกว่านังแพศยาแบบเจ้าก็แล้วกัน!”

บรรดาสาวใช้ต่างตื่นตกใจและเรียกคนให้มาช่วย ตอนนี้เป็นเหมันต์ฤดู ยามที่ช่วยทั้งสองคนขึ้นมา พวกนางต่างหน้าซีดเขียวราวกับตายไปแล้วครึ่งชีวิต จากนั้นป่วยไข้กันทั้งสองคน

ฉีจื่อฟู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 260

    หรงซื่อเจ๋อรู้สึกขนหัวลุกเมื่อเห็นท่าทีโมโหของผู้เป็นบิดาเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสาเหตุที่ตัวเองถูกไล่ออกจากจวนราชเลขาธิการจะเป็นเพราะได้ด่าว่าหรงจือจือแค่คำเดียว?ที่ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ ราชเลขาธิการเฉินไม่เพียงไล่เขาออกมา แต่ยังส่งคนมาฟ้องเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วย นี่มันจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไปแล้ว!หรงซื่อเจ๋อรีบตอบ “ท่านพ่อ ตอนนั้นข้าเพียงแต่ต้องการหาเรื่องเป็นกันเองมาคุยกับราชเลขาธิการเฉินเพื่อตีสนิทเท่านั้น!”ได้ยินดังนี้ มหาราชครูหรงมีหรือจะไม่เข้าใจอีกว่าลูกของตัวเองพูดโง่เขลาแบบนั้นออกไปจริงๆ!มหาราชครูหรงหัวเราะด้วยความโมโห “เป็นกันเองอย่างนั้นหรือ? เป็นกันเองก็เลยด่าพี่หญิงของตัวเองว่าต่ำช้าต่อหน้าคนนอก? หากพี่หญิงของเจ้าต่ำช้า เช่นนั้นตัวเจ้าเล่า? พ่อของเจ้าเล่า?”“เจ้าด่าแค่พี่หญิงของเจ้าคนเดียวหรือว่าด่าทั้งครอบครัวกันแน่? เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ได้หรือ?”“รู้หรือไม่ว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป สกุลหรงจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวง?”หรงซื่อเจ๋อฟังถึงตรงนี้แล้วเพิ่งจะเข้าใจความร้ายแรงของปัญหานี้กระนั้นก็ยังคงแก้ตัวเสียงเบา “ท่านพ่อ ข้าเพียงแต่คิดว่าราชเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 261

    นางหวังเห็นบุตรชายมีแต่แผลเต็มตัวไปหมด ก็ปวดใจเป็นอย่างมาก “ท่านพี่ ซื่อเจ๋อเองก็พูดถูกนะเจ้าคะ! สตรีที่ถูกสามีทอดทิ้งหย่าร้างมาอย่างจือจือ ถ้าไม่ใช่คนชั้นต่ำ แล้วจะเป็นคนสูงส่งหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรงเดือดดาลอย่างมาก “คำพูดในวันนี้ ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! พวกเจ้าฟังให้ดีล่ะ นางมิใช่คนไม่ได้เรื่องอีกต่อไป และเป็นท่านหญิงที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งเองด้วย”“หากไปพูดข้างนอกว่านางชั้นต่ำ ก็เท่ากับตบหน้าฝ่าบาท! พวกเจ้าฟังเข้าใจได้จะดีที่สุด หากฟังไม่เข้าใจจริง ๆ นับตั้งแต่วันนี้ก็อย่าออกจากจวนอีก ขังตัวเองอยู่ในจวนนี้ไปทั้งชีวิตเสีย!”นางหวังเองก็ถูกเสียงดังลั่นของมหาราชครูหรงทำให้ตกใจเช่นกันพูดอยู่ในใจว่าต่อไปไม่ให้ด่านางว่าชั้นต่ำข้างนอก ด่าในจวนก็ได้แต่ปากก็รีบกล่าวไปว่า “ท่านพี่พูดมีเหตุผล ซื่อเจ๋อ รีบรับผิดกับพ่อเจ้าดี ๆ เสียสิ!”“ท่านพี่เองก็จริง ๆ เลย ซื่อเจ๋อทำไม่ถูก ท่านในฐานะพ่อสั่งสอนดี ๆ ก็สิ้นเรื่องแล้ว เหตุใดต้องถึงขั้นใช้กฎบ้านด้วย?”มหาราชครูหรงยังไม่หายโกรธ “เจ้าหลีกไปเสีย! ไอ้ลูกเวรนี่ เขารู้หรือไม่ว่าอัครมหาเสนาบดีเฉินไม่ได้เป็นแค่สมุหราชเลขาธิการ แต่ยังดำรงตำ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 262

    หรงซื่อเจ่อถูกเฆี่ยนตีอย่างโหดเหี้ยม แม้จะได้นางหวังและหรงเจียวเจียวช่วยเอาไว้ระหว่างนั้น ทว่าก็ยังจับไข้อย่างเดิม ทำเอานางหวังกลัวจนไม่ได้นอนทั้งคืนมหาราชครูหรงดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร ทว่ากว่าจะวางใจลงได้ ก็ตอนพ่อบ้านรายงานว่า อีกฝ่ายไข้ลดแล้วเช่นกัน เขาเพียงถอนหายใจยาวทีหนึ่ง นิสัยเช่นนี้ของบุตรชาย ช่างทำเขากังวลกับอนาคตของสกุลหรงมากจริง ๆขณะที่หรงจือจือรู้เรื่องทั้งหมดนี้ ในใจก็พลันวาบความกังวลขึ้นมา ทว่าคิด ๆ ดูแล้วสองสามปีมานี้หรงซื่อเจ๋อพูดจาเย็นชากับตน ก็รู้สึกเพียงใจสลายขึ้นมาฉับพลัน และไม่ได้คิดอะไรมากอีกทว่าเพื่อเลี่ยงเผื่อมีคนปากมาก อย่างไรนางก็ไปเยี่ยมสักหน่อยเพียงแต่ครั้นมาถึงหน้าประตูเรือนของหรงซื่อเจ๋อ ก็ถูกขวางเอาไว้ อวี้เล่อบ่าวรับใช้ตรงประตูกล่าวขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ เชิญกลับไปเถิดขอรับ คุณชายรองบอกเอาไว้ตั้งนานแล้วว่า เรือนของเขาไม่ต้อนรับคุณหนู!”หากเป็นตอนที่หรงซื่อเจ๋อป่วยก่อนหน้านี้ เมื่อหรงจือจือถูกขวางเอาไว้ด้านนอก ก็จะคอยเฝ้าด้วยความเป็นกังวล ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถามว่าหรงซื่อเจ๋อเป็นเช่นไรบ้างหนำซ้ำยังต้มยามาถ้วยหนึ่งอยู่เป็นระยะ ทว่าก็ถูกหรงซื่อเจ๋อสาดทิ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 263

    อวี้เล่อพลันคุกเข่าลง และรีบกล่าวว่า “คุณชาย กล่าวหาแล้ว บ่าวจงรักภักดีต่อคุณชาย จะถูกคุณหนูใหญ่ซื้อตัวได้อย่างไร!”“หากคุณชายไม่เชื่อ ไปถามพวกบ่าวรับใช้คนอื่น ๆ ดูก็ได้ขอรับ หลังคุณหนูใหญ่ถูกขวางเอาไว้ ก็เดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีก”ในใจของหรงซื่อเจ๋อ มีความผิดหวังที่ยากจะบรรยายอย่างหนึ่ง “เป็นไปได้อย่างไร?”นางใส่ใจตนที่สุดมิใช่หรือ? ก่อนหน้านี้ตนทำหน้าเย็นชาใส่นางเยอะแค่ไหน นางก็ยังเป็นห่วงตนเช่นเดิมมิใช่หรือ? หรือว่านางไม่สนใจไยดีน้องชายอย่างตนผู้นี้แล้ว?ไม่คิดเลยว่าเขาจะกระวนกระวายใจเล็กน้อยผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าใจแล้ว! นี่นางใช้ลูกไม้ถอยเพื่อจะได้เข้าใกล้ก็เท่านั้น!”“นางคิดว่าใช้ท่าทีเสแสร้งเช่นนี้แล้วข้าจะสนใจ จากนั้นก็กลับไปรักใคร่ปรองดองกับนางอีกอย่างนั้นหรือ? น่าขันจริง ๆ!”อวี้เล่อเองก็กล่าวว่า “บ่าวเองก็คิดเหมือนกับคุณชาย คุณหนูใหญ่ไม่สนใจคุณชายแล้ว พูดแบบนี้ออกไปผู้ใดจะเชื่อ?”หรงซื่อเจ๋อเย้ยหยันเบา ๆ “คอยดูเถอะ อีกไม่กี่วัน นางจะต้องมาขอเอาใจใส่ข้า!”...เรือนอี่เหมยอวี้หมัวมัวกระซิบรายงานต

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 264

    ทว่าหรงจือจือกลับไม่ประหลาดใจกับการกระทำของนางหวังเลยแม้แต่น้อย แอบคิดเอาไว้ในใจอยู่แล้ว บางทีครั้งหน้าตนอาจต้องหลบให้เร็วกว่านี้หน่อย แบบนี้ไหล่ก็คงไม่ถูกปาจนบาดเจ็บ แตกต่างจากนางหวังที่เต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธอารมณ์ของหรงจือจือเรียบเฉย “ฮูหยินหรง น้องรองไม่อยากเจอข้า และพวกท่านก็บอกว่าข้าอัปมงคลยิ่งมิใช่หรือ? คิดดูแล้วหากข้าไปยืนอยู่หน้าประตูเรือนไม่ยอมไป ถึงทำให้เตะถ่วงการรักษาอาการบาดเจ็บของน้องรอง”น่าขันจริง ๆ เขาไม่ยอมพบนาง ทว่ายังโทษว่าตนไม่ยอมไปเฝ้าอยู่นอกเรือนเหมือนสุนัขอย่างก่อนหน้านี้ต่อนางโง่ดักดานมาหลายปี ทว่าไม่คิดจะโง่ไปตลอดชีวิตนางหวังถูกคำพูดของหรงจือจือทำให้สำลักไป “เจ้า...”หรงจือจือกล่าวต่ออย่างเรียบเฉย “ชาติกำเนิดของฮูหยินหรงอยู่ในสกุลมีชื่อเสียง อย่างไรอย่าเอะอะก็ตบตีคน ทุบตีคนเลยจะดีกว่า หากแพร่ออกไป คนนอกยังคิดว่าฮูหยินหรงเป็นหญิงใจหยาบ คิดแล้วก็ไม่เป็นผลดีกับชื่อเสียงของเจียวเจียวเช่นกัน”สีหน้าของนางหวังแดงซีดสลับกัน “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าด่าคนเป็นแม่อย่างข้าว่าเป็นหญิงใจหยาบ?”สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้หรงจือจือรำคาญใจที่สุด แม้สองแม่ลูกพูดเอาไว้ว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 265

    หรงจือจือกล่าวขึ้นชืด ๆ “ข้าแค่สั่งสอนให้นางเคารพพี่สาวคนโต เข้าใจว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูดเท่านั้น”“คิดแล้วหากทำให้ท่านพ่อรู้เข้าว่า นางอ้าปากทีก็มีแต่คำพูดอย่างหอคณิกาเช่นนี้ จุดจบของนางไม่ได้ดูดีไปกว่าน้องรองแน่!”ครั้นนางหวังได้ยินเช่นนั้น ก็เดือดดาลจนอยากจะอาเจียนเป็นเลือด ไหนเลยจะไม่รู้ว่า ที่หรงจือจือกล่าวเช่นนี้เป็นการขู่ จะโวยวายจนไปเข้าหูมหาราชครูหรงไม่ได้นางเองก็ลอบโทษหรงเจียวเจียวพูดจาซี้ซั้ว แม้พวกนางจะมีเหตุผล ทว่าถูกหรงเจียวเจียวกล่าวเช่นนี้ออกมา ก็ไม่มีเหตุผลแล้ว!ต่อให้หรงจือจือจะเกลียดมารดาอย่างตนแค่ไหน ก็คงไม่มีทางโพล่งบอกให้อีกฝ่ายไปหาเลี้ยงชีพที่หอคณิกาเช่นนี้แน่!นางรีบส่งสายตาให้สาวใช้จ้าวทีหนึ่ง “เจ้ายังไม่ไปตามหมอประจำจวนมาอีก เจ้ายังบื้ออยู่ทำอะไร?”สาวใช้จ้าว “เจ้าค่ะ!”นางหวังมองไปรอบ ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะกล่าวทั้งหน้าคล้ำดำเขียวว่า “เรื่องในวันนี้ บอกไปแค่ว่าคุณหนูสามหกล้มเอง พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่?”หากทำให้ท่านพี่รู้ว่าหรงเจียงเจียวพูดอะไร บุตรสาวต้องโดนลงแส้จนจับไข้ และต้องล้มหมอนนอนเสื่อเช่นเดียวกับบุตรชายเป็นแน่พวกบ่าวรับใช้ “เจ้าค่ะ!”หรงเจียว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 266

    เมื่อหรงจือจือได้ยินดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว มองนางหวังทีหนึ่งก่อน นางหวังเป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัวท่านตา ได้รับความโปรดปรานเลี้ยงดูดั่งไข่ในหินด้วยความหยิ่งผยองและมักใช้อำนาจบาตรใหญ่มาตลอด หนำซ้ำยังโง่ดักดาน จุดนี้เป็นจุดที่ท่านย่าไม่ชอบ ทว่าหรงเจียวเจียวเองก็ถูกนางหวังอบรมสั่งสอนจนเป็นเช่นนี้ ช่างพาออกหน้าออกตาไม่ได้เลยจริง ๆนางจ้องหรงเจียวเจียว “เช่นนั้นเจ้ากับท่านเสนาบดี ก็เข้าพิธีสามหนังสือหกพิธีแล้วหรือ?”หรงเจียวเจียว “นี่...”หรงจือจือกล่าวขึ้นอีกว่า “ในเมื่อเจ้ามั่นใจเรื่องแต่งงานขนาดนี้ ไม่สู้นำใบเทียบดวงชะตาของท่านเสนาบดีออกมาให้ข้าดูสิ?”หรงเจียวเจียวมีใบเทียบดวงชะตาอะไรเสียที่ไหน นางตอบกลับอย่างเดือดดาลว่า “หรงจือจือ ท่านจงใจใช่หรือไม่? ท่านรู้อยู่แล้วว่าเพียงพูดคุยเรื่องแต่งงาน ไม่ได้หมายความว่าจะตกลงแล้ว”หรงจือจือตอกกลับชืด ๆ “อ๋อ ที่แท้ก็ยังไม่ได้ตกลงกันนี่เอง”ไหนเลยหรงเจียวเจียวจะฟังคำถากถางที่อยู่ในคำพูดนี้ไม่ออก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังเตือนตนเอง เรื่องยังไม่ได้ตกลงแน่นอน ตนพูดเช่นนี้ไร้ยางอายอยู่เล็กน้อยทว่านางกลับกล่าวพร้อมเลิกคิ้ว “เรื่องน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 267

    ทางท่านพ่อต้องยิ่งเข้าใจได้โดยง่ายอยู่แล้ว คิดว่าท่านพ่อเองก็รู้ว่าเจียวเจียวโง่ดักดาน ไม่คู่ควรกับอัครมหาเสนาบดีเฉิน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดีกว่าสตรีที่ผ่านการหย่าเช่นตนอยู่หน่อยในสายตาของคนทั้งใต้หล้า สตรีที่หย่าและถูกเขียนหนังสือปลดภรรยา ไม่ต่างอะไรกับหญิงสำส่อนที่ไม่มีใครเอา นับตั้งแต่ที่นางกลับจวนในวันนั้นก็ถูกพวกชาวบ้านก่นด่า หากตระหนักถึงจุดนี้ได้ ท่านพ่อจะมองตนด้วยความชื่นชมได้อย่างไรอีก?เห็นคุณหนูไม่ตอบ เจาซีเองก็ไม่ฝืนถาม ได้แต่เอ่ยว่า “คุณหนู คุณหนูคิดว่าที่ท่านเสนาบดีทำดีกับจวนเรา เพราะคุณหนูรองจริง ๆ หรือ?”หรงจือจือ “คงไม่ใช่อยู่แล้ว”นางยิ่งเชื่อว่าเฉินเยี่ยนซูทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของตน ส่วนจะแต่งงานหรือไม่นั้น เกรงว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อน ทว่าคนสกุลหรงเริ่มดีใจแทนหรงเจียวเจียวกันไปแล้วเจาซีบ่นพึมพำกระซิบกระซาบ “หากท่านเสนาบดีชอบคุณหนูรองได้จริง ๆ บ่าวจะทุ่มเงินซื้อยารักษาดวงตาให้ท่านเสนาบดีเลย”กระทั่งนางยินดีทุ่มเงินเก็บส่วนตัวทั้งหมดที่ตนสะสมมาหลายปีเพื่อการนี้เชียว!หรงจือจือมองนางพร้อมความขำขันทีหนึ่ง “อย่าเอาแต่พูดไร้สาระทั้งวันสิ”หากเฉินเยี่ยนซูจะแต่งงานกับหรงเ

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 310

    สวีเจ๋อไม่โง่ถึงขนาดตั้งใจจะไปต่อต้านอาจารย์ของตนเองหรอก ก็แค่ไม่พอใจเสิ่นเยี่ยนซูเท่านั้นเขาสั่งการอย่างใจเย็น “ยังมีเวลาอีกครึ่งเดือน คำสั่งแต่งตั้งและโยกย้ายขุนนางออกจากตำแหน่งในปีหน้าก็จะส่งออกมา ลู่อวี๋ซินมีความประพฤติที่ไม่ดี แจ้งเสนาธิการฝั่งซ้ายของกรมขุนนาง ปลดเขาออกจากตำแหน่ง โดยไม่ต้องอธิบายรายละเอียดของเหตุผล”เซินเฮ่อ “ขอรับ”ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนและราชเลขาธิการ การแต่งตั้งหรือโยกย้ายอาลักษณ์ในกรมโยธาธิการคนเดียว ท่านเสนาบดีไม่จำเป็นต้องให้เหตุผล......เช้าวันรุ่งขึ้นพ่อบ้านหวงก็ส่งบัตรเยี่ยมไปที่จวนมหาราชครู เพื่อแสดงเจตนาว่าเสิ่นเยี่ยนซูต้องการจะเข้าไปเยี่ยมเยียนพ่อบ้านหวง “ท่านเสนาบดี รอจวนมหาราชครูตอบกลับมาแล้ว บ่าวจะไปรายงานท่านขอรับ”เสิ่นเยี่ยนซูหยักหน้า “อืม”หลังจากขานรับ เขาก็นั่งอยู่บนรถม้า ไปยังพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าในท้องพระโรงหลายวันมานี้รักษาบาดแผล การเข้าเฝ้าเช้าควรได้รับยกเว้นไปหลายวัน เพียงแต่เขาไม่มีเวลาว่างมากนัก เพราะเรื่องที่ฝ่าบาททรงลังเล ล้วนส่งมาให้เขาตัดสินใจทั้งหมดภาระราชการไม่มีละเลย แต่บาดแผลบนร่างกายกลับหายช้าลงเสียเล็กน้อย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 309

    เสิ่นเยี่ยนซูชะงักไปเล็กน้อยเซิ่งเฟิงก็รีบกล่าว “จะเป็นไปได้อย่างไร? เจ้าคงไม่ได้เห็นว่ากลยุทธ์ของเจ้าไร้ประโยชน์ จึงจงใจมาขู่ท่านเสนาบดีหรอกกระมัง?”เซินเฮ่อตัวชาไปหมดแล้ว จึงรีบกล่าว “เรื่องใหญ่เช่นนี้ ข้ายังจะล้อเล่นได้อีกหรือ?”จากนั้น เขาก็เล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลู่อวี๋ซินทั้งหมดให้ฟังหลังพูดจบ เซินเฮ่อถ็ถาม “ท่านเสนาบดี ตอนที่ท่านขอแต่งงานกับมหาราชครูหรง ได้พูดชัดเจนหรือไม่ว่าเป็นบุตรสาวคนใดขอรับ?”คำถามนี้กลับถามไปยังเสิ่นเยี่ยนซูแล้วเขากล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่น่าจะเป็นหรงจือจือ”เซิ่งเฟิงก็กล่าวต่อทันทีว่า “คนปกติก็คงคิดว่าเป็นคุณหนูใหญ่สกุลหรงกระมัง ตอนนั้นมหาราชครูหรงได้ถามก่อนแล้วว่า ท่านเสนาบดีมองเรื่องที่คนนอกพูดไม่ดีเกี่ยวกับคุณหนูใหญ่หรงว่าอย่างไร”“ท่านเสนาบดีพูดไปว่าข่าวลือย่อมหยุดลงที่ผู้มีปัญญา จากนั้นเขาก็คุยเรื่องแต่งงานแล้ว”“หรือว่าประโยคหน้าถามถึงบุตรสาวคนโต และประโยคหลังกลับพูดถึงบุตรสาวคนเล็กงั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้นจริง มหาราชครูหรงบ้าไปแล้วหรือไร?”คนคนนี้พูดคุย แบบนั้นก็กระโดดข้ามไปมาเกินไปแล้ว!คนปกติที่ใดจะพูดคุยอย่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 308

    ในฐานะที่เขาเป็นลูกศิษย์ของท่านเสนาบดี เขาจะต้องรู้ให้ได้ และเขาไม่เชื่อว่าลู่อวี๋ซินจะกล้าไม่พูด!แม้เช่นนี้จะเป็นการเปิดเผยความจริงเรื่องที่ตนเองแอบฟังคนอื่นคุยกัน แต่เพื่อความสุขของท่านเสนาบดี เขาไม่สนใจเรื่องนี้มากนักแต่ทว่านั่งรถม้าออกไปได้ไม่นาน บ่าวรับใช้ก็บอกว่า เห็นรถม้าของจวนสกุลลู่แล้วเซินเฮ่อคิดสักพัก ก็ให้คนตามไปกลับพบว่าอีกฝ่ายไปหอคณิกาขณะที่กำลังวางแผนว่าจะคุยเรื่องนี้กันวันหลัง สุดท้ายกลับเห็นเกี้ยวของเซียวจวิ้นอ๋องก็จอดอยู่ที่ปากประตู และลู่อวี๋ซินยังก้าวไปคารวะอยู่ด้านหน้าเซียวจวิ้นอ๋องอย่างนอบน้อมเซินเฮ่อรู้สึกว่าเรื่องราวไม่ธรรมดา จึงแอบตามเข้าไปแล้วแม่เล้าเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มพลางกล่าว “คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าท่านชอบแม่นางแบบใดหรือ ข้าน้อยจะจัดเตรียมให้ท่านเองเจ้าค่ะ...”เซินเฮ่อกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าอยากรู้ว่าสองคนนั่นมาคุยอะไรกัน”รอยยิ้มที่อยู่ใบบนหน้าของแม่เล้าแข็งค้าง “คุณชายพูดล้อเล่นแล้ว พวกแขกคนอื่น ๆ คุยอะไรกัน ท่านจะรู้ได้อย่างไร ให้ข้าน้อยจัดคนมาให้ท่านเสียสองสามคนไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ...”เซินเฮ่อยื่นเงินให้นางหนึ่งใบ “นี่คือเงินห้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 307

    เซิ่งเฟิง “...”เจ้ารู้จักหาเหตุผลในตัวเองนี่นะครานี้เสิ่นเยี่ยนซูนิ่งเงียบลง ก็กล่าวเพียงว่า “ลำบากเจ้าแล้ว ข้ายังมีน้ำหมึกที่ประเมินราคาไม่ได้อยู่ ประเดี๋ยวจะส่งคนเอาไปให้เจ้าทีหลังแล้วกัน”เซินเฮ่อยืดอกและเชิดคางขึ้น พลางยิ้มออกมาด้วยฟันขาวใหญ่อีกครั้ง “ขอบคุณท่านเสนาบดีมากขอรับ!”แถมยังมองเซิ่งเฟิงอย่างยั่วยุอีกครั้งหนึ่งเซิ่งเฟิง “?”บางครั้งยังรู้สึกว่าเซินเฮ่อป่วยหรือไม่ แม้ทุกคนจะแข่งขันกันทั้งแบบเปิดเผยหรือซ่อนเร้นเพื่อชิงตำแหน่งคนสำคัญอันดับหนึ่งของท่านเสนาบดี แต่คนผู้นี้กลับมักจะทำตัวราวกับหญิงสาวในเรือนหลังที่แย่งชิงความโปรดปรานอยู่เสมอช่างทำให้รู้สึกหนาวสะท้านใจจริง ๆเมื่อเห็นเสิ่นเยี่ยนซูยังคงดูกลยุทธ์พวกนั้นอยู่ เซิ่งเฟิงก็ประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านเสนาบดี สิ่งนี้ยังมีอะไรน่าดูอีกหรือขอรับ?”เสิ่นเยี่ยนซูกล่าวด้วยเสียงเรียบว่า “ดูเสียหน่อย วันหลังจะได้รู้ว่าควรจะคุยกับนางอย่างไร”หลายครั้งที่พบนาง ก็มักจะหาบทสนทนาไม่เจอมาโดยตลอดหรือจะบอกว่าเพราะกังวลว่าหัวข้อของเขา นางจะไม่สนใจ จึงมักจะนิ่งเงียบจนเกินไปอยู่เสมอแต่กลยุทธ์สามร้อยข้อที่เซินเฮ่อให้มา แม้จะวนเว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 306

    นางก็ไม่ได้พูดแข็งกร้าวเกินไป เพียงแค่กล่าวว่า “ลูกจะเชื่อฟังท่านพ่อ และพิจารณาให้ดีเจ้าค่ะ”สีหน้าของมหาราชครูหรงอ่อนลงเล็กน้อย พลางพยักหน้าเบา ๆ และกล่าว “ไปเถอะ! ท่านแม่ของเจ้าเลอะเลือนไปบ้าง แต่นางถึงอย่างไรก็ให้กำเนิดเจ้า เจ้าอย่าได้โต้เถียงกับนางเลย!”คำพูดนี้ของเขา ไม่ได้เกินความคาดหมายของหรงจือจือเลยแม้แต่น้อยท่านพ่อเป็นคนให้ความสำคัญกับความกตัญญูมากที่สุด เพราะเหตุนี้ จนถึงตอนนี้นางยังไม่เคยบอกท่านพ่อเลยว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนางหวังถึงจุดทะเลาะกันจนขาดสะบั้นไปนานแล้วหากพูดเช่นนี้แล้ว นางหวังจะโดนดุ ส่วนตนเองไม่แน่ว่าจะต้องโดนตีหรงจือจือ “ลูกขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”มหาราชครูหรงพยักหน้าเล็กน้อย หลังนางจากไป เขาก็ถอนหายใจยาว ๆ ทีหนึ่ง หากบุตรสาวสามารถแต่งงานกับลู่อวี๋ซินอย่างเชื่อฟัง และใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้ดีได้ ตนเองก็ถือว่ามีคำอธิบายต่อท่านแม่แล้ว……เมื่อออกมาจากห้องหนังสือ และกลับเรือนของตนเอง หรงจือจือก็พบกับหรงซื่อเจ๋อนางไม่มองเขา และยิ่งไม่มีความคิดจะทักทายท่าทางเช่นนี้ ทำให้หรงซื่อเจ๋ออึดอัดใจ “หรงจือจือ เจ้าไม่เห็นข้าหรือ?”หรงจือจือทำเป็นไม่ได้ยินหรงซื

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 305

    เมื่อหรงจือจือเพิ่งกลับถึงเรือนของตน นางหวังก็ปรี่เข้ามาราวกับคนเสียสติ เงื้อฝ่ามือหมายจะทำร้าย ทว่านางกำนัลเฉินคว้าข้อมือนางไว้ได้ทัน ยังบิดมันอย่างแรงในที่สุดนางหวังก็กรีดร้องออกมา “อ๊าก...”นางกำนัลเฉินก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าเฉยเมย “ฮูหยิน บ่าวเคยเรียนท่านแล้วว่าบ่าวพอมีวิชาป้องกันตัวอยู่บ้าง หากใครบังอาจไม่เคารพท่านหญิง บ่าวจะไม่ไว้หน้าเป็นอันขาด” สีหน้าของนางหวังบิดเบี้ยว นางกุมแขนที่เจ็บปวดแทบขาดใจ มองหน้านางกำนัลเฉิน “เจ้ากล้าทำร้ายข้าจริงๆ หรือ?”นางนึกว่าอีกฝ่ายคงแค่มาทำทีขู่ให้กลัว แต่บัดนี้นางเพิ่งรู้ว่าตนเองคิดผิดมหันต์ กระดูกข้อมือแทบจะแหลกละเอียด!นางกำนัลเฉินเตือนว่า “ท่านหญิงเจ้าคะ บ่าวเป็นทูตของฮ่องเต้!”นางหวังตวัดสายตาอย่างดุดัน “แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าลูกสาวข้าเจียวเจียว กำลังจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี หากเจ้ากล้าหือกับข้า เจ้าจะไม่มีวันได้ตายดี!”นางกำนัลเฉินกล่าวด้วยท่าทีสงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน “เช่นนั้นบ่าวก็ขอให้ฮูหยินทำให้บ่าวตายสมใจปรารถนาเถิดเจ้าค่ะ”นางหวัง “เจ้า...”นางเบนสายตาจากนางกำนัลเฉินอย่างเคียดแค้น พยายามสงบสติอารมณ์ นางกำนัลเฉินเป็นแม่นมของฮ่องเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 304

    “ตอนนี้ข้าไม่ใช่สะใภ้ตระกูลฉี ไม่มีอำนาจจัดการเด็กในท้องของอวี้ม่านหวา หากข้าทำจริง ย่อมต้องถูกลงโทษ”ฉีจื่อฟู่รีบกล่าวว่า “ข้าก็กลัวเจ้าจะถูกลงโทษ อยากจะช่วยเจ้า ถึงได้มานี่! ถ้าไม่ไหวจริงๆ เจ้าก็บอกว่า ข้าเป็นคนสั่งให้เจ้าไปทำแท้ง นั่นลูกของข้า ข้ามีสิทธิ์ที่จะไม่เอา อย่างนี้เจ้าก็จะพ้นผิดไปได้!”หรงจือจือหมดแรงจะต่อว่าเขาจริงๆ “ต่อไปนี้ท่านอย่าคิดจะช่วยข้าเลย การที่ท่านไม่ปรากฏตัวต่อหน้าข้า ก็คือการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับข้าแล้ว”“จำไว้ ข้าหรงจือจือไม่คิดจะลดตัวไปจัดการกับเด็กที่ยังไม่เกิด ท่านเอาแต่พูดว่ารักข้า แต่ท่านไม่เคยเข้าใจข้าอย่างแท้จริงเลย”เมื่อกล่าวจบแล้ว นางไม่มองฉีจื่อฟู่อีกแม้แต่แวบเดียว ก้าวเร็วๆ เข้าจวนตระกูลหรงไปฉีจื่อฟู่ “จือจือ…”แต่ก็ไม่ได้รับแม้แต่การเหลียวหลังกลับมามอง ประตูใหญ่ของจวนตระกูลหรงปิดลงต่อหน้าเขาชิวยี่กระซิบเสียงเบาอย่างกระอักกระอ่วน “คุณชาย บ่าวก็บอกแล้วว่า ท่านควรจะถามก่อนว่าใช่ท่านหญิงทำหรือไม่…”นี่พอมาถึงก็ตัดสินว่าท่านหญิงผิดเลย ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ ท่านหญิงโกรธแล้วฉีจื่อฟู่ขมวดคิ้วกล่าว “มีอะไรต้องถามอีก? เรื่องนี้มันไม่ชั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 303

    หยางหมัวมัวมองสีหน้าของนายหญิงของตน ก็เข้าใจทุกอย่างในทันทีในใจนางถอนหายใจ นางรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึงในที่สุดนางเซี่ยก็กัดฟัน นางเชื่อว่าบุตรชายของนางจะผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ ตราบใดที่ผ่านพ้นไปได้ ก็ถือว่าผ่านพ้นเคราะห์กรรมรักนี้ไปได้แม้นางจะเสียใจ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิด!ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น......เมื่อหรงจือจือเพิ่งกลับมาถึงหน้าประตูจวนหรง นางก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น “จือจือ”นางขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ หันไปมองกลับกลายเป็นฉีจื่อฟู่เขากลับมาด้วยความมุ่งมั่น แม้จะลุกจากเตียงไม่ได้ ก็ยังนั่งรถเข็นมาถึงหน้าประตูจวนตระกูลหรงฉีจื่อฟู่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “จือจือ ข้าขอคุยกับเจ้าตามลำพังได้หรือไม่”หรงจือจือรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น นางกำลังจะเบนสายตาหนีฉีจื่อฟู่ก็กล่าว “เป็นเรื่องของม่านหวา! ข้าอยากจะคุยกับเจ้าเรื่องของม่านหวา”หรงจือจือลังเลไปชั่วขณะ คิดในใจ หรือว่าฉีจื่อฟู่จะรู้เรื่องราวเบื้องลึกอะไรบางอย่าง นางจึงกล่าวเสียงเรียบ “คุยกันตามลำพังไม่จำเป็นหรอก ท่านมีอะไรก็พูดตรงนี้เถอะ”ฉีจื่อฟู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 302

    เป็นดังคาด เมื่อนางเซี่ยได้ฟัง แววตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “เรื่องนี้ข้าจะพิจารณาให้ถี่ถ้วน ขอบคุณเจ้ามากที่ใส่ใจ”กล่าวจบ นางก็ตบมือหรงจือจือเบาๆ “ตระกูลเดิมของข้ายังมีหลานชายอีกหลายคน ที่ยังไม่ได้แต่งงาน แต่ละคนก็เป็นจวี่เหริน ทั้งยังไม่มีนิสัยเสียอะไร หากเจ้าถูกใจใคร ก็บอกข้าได้เลย ข้าจะเป็นแม่สื่อให้เจ้าเอง!”ในสายตาของนางเซี่ย หรงจือจือไม่คู่ควรกับบุตรชายคนโตของนาง แต่ตระกูลเซี่ยมีทายาทมากมาย จะจับคู่ให้สักคนก็ไม่เป็นไรหากบุตรชายคนเล็กของนางได้แต่งงานกับจงเจิ้งอวี๋ หรงจือจือก็ถือว่าทำคุณงามความดีให้นางอย่างใหญ่หลวง อีกทั้งวันนี้หรงจือจือก็แสดงออกได้ดีมาก นางก็เป็นคนที่มีน้ำใจตอบแทนผู้อื่นเช่นกันหรงจือจือยิ้ม “พระชายาซื่อจื่อเกรงใจเกินไปแล้ว”นางเซี่ย “ข้าพูดจริงนะ! เจ้าลองคิดดูให้ดี”นางเซี่ยก็มีเจตนาส่วนตัวเช่นกัน หากหรงจือจือแต่งงานออกเรือนไปเป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เลือกจีอู๋เหิง บางทีบุตรชายของนางอาจจะไม่คิดถึงนางอีกหรงจือจือ “ข้าจะจดจำไว้ ขอบคุณพระชายาซื่อจื่อ ข้าขอตัวกลับก่อน”ฟังดูน่าขันยิ่งนัก แม้แต่นางเซี่ยที่ดูถูกนางเช่นนี้ มองว่านางไม่คู่ควรกั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status