Share

บทที่ 260

Author: สั่งไม่หยุด
หรงซื่อเจ๋อรู้สึกขนหัวลุกเมื่อเห็นท่าทีโมโหของผู้เป็นบิดา

เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสาเหตุที่ตัวเองถูกไล่ออกจากจวนราชเลขาธิการจะเป็นเพราะได้ด่าว่าหรงจือจือแค่คำเดียว?

ที่ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ ราชเลขาธิการเฉินไม่เพียงไล่เขาออกมา แต่ยังส่งคนมาฟ้องเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วย นี่มันจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไปแล้ว!

หรงซื่อเจ๋อรีบตอบ “ท่านพ่อ ตอนนั้นข้าเพียงแต่ต้องการหาเรื่องเป็นกันเองมาคุยกับราชเลขาธิการเฉินเพื่อตีสนิทเท่านั้น!”

ได้ยินดังนี้ มหาราชครูหรงมีหรือจะไม่เข้าใจอีกว่าลูกของตัวเองพูดโง่เขลาแบบนั้นออกไปจริงๆ!

มหาราชครูหรงหัวเราะด้วยความโมโห “เป็นกันเองอย่างนั้นหรือ? เป็นกันเองก็เลยด่าพี่หญิงของตัวเองว่าต่ำช้าต่อหน้าคนนอก? หากพี่หญิงของเจ้าต่ำช้า เช่นนั้นตัวเจ้าเล่า? พ่อของเจ้าเล่า?”

“เจ้าด่าแค่พี่หญิงของเจ้าคนเดียวหรือว่าด่าทั้งครอบครัวกันแน่? เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ได้หรือ?”

“รู้หรือไม่ว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป สกุลหรงจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวง?”

หรงซื่อเจ๋อฟังถึงตรงนี้แล้วเพิ่งจะเข้าใจความร้ายแรงของปัญหานี้

กระนั้นก็ยังคงแก้ตัวเสียงเบา “ท่านพ่อ ข้าเพียงแต่คิดว่าราชเ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 261

    นางหวังเห็นบุตรชายมีแต่แผลเต็มตัวไปหมด ก็ปวดใจเป็นอย่างมาก “ท่านพี่ ซื่อเจ๋อเองก็พูดถูกนะเจ้าคะ! สตรีที่ถูกสามีทอดทิ้งหย่าร้างมาอย่างจือจือ ถ้าไม่ใช่คนชั้นต่ำ แล้วจะเป็นคนสูงส่งหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรงเดือดดาลอย่างมาก “คำพูดในวันนี้ ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! พวกเจ้าฟังให้ดีล่ะ นางมิใช่คนไม่ได้เรื่องอีกต่อไป และเป็นท่านหญิงที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งเองด้วย”“หากไปพูดข้างนอกว่านางชั้นต่ำ ก็เท่ากับตบหน้าฝ่าบาท! พวกเจ้าฟังเข้าใจได้จะดีที่สุด หากฟังไม่เข้าใจจริง ๆ นับตั้งแต่วันนี้ก็อย่าออกจากจวนอีก ขังตัวเองอยู่ในจวนนี้ไปทั้งชีวิตเสีย!”นางหวังเองก็ถูกเสียงดังลั่นของมหาราชครูหรงทำให้ตกใจเช่นกันพูดอยู่ในใจว่าต่อไปไม่ให้ด่านางว่าชั้นต่ำข้างนอก ด่าในจวนก็ได้แต่ปากก็รีบกล่าวไปว่า “ท่านพี่พูดมีเหตุผล ซื่อเจ๋อ รีบรับผิดกับพ่อเจ้าดี ๆ เสียสิ!”“ท่านพี่เองก็จริง ๆ เลย ซื่อเจ๋อทำไม่ถูก ท่านในฐานะพ่อสั่งสอนดี ๆ ก็สิ้นเรื่องแล้ว เหตุใดต้องถึงขั้นใช้กฎบ้านด้วย?”มหาราชครูหรงยังไม่หายโกรธ “เจ้าหลีกไปเสีย! ไอ้ลูกเวรนี่ เขารู้หรือไม่ว่าอัครมหาเสนาบดีเฉินไม่ได้เป็นแค่สมุหราชเลขาธิการ แต่ยังดำรงตำ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 262

    หรงซื่อเจ่อถูกเฆี่ยนตีอย่างโหดเหี้ยม แม้จะได้นางหวังและหรงเจียวเจียวช่วยเอาไว้ระหว่างนั้น ทว่าก็ยังจับไข้อย่างเดิม ทำเอานางหวังกลัวจนไม่ได้นอนทั้งคืนมหาราชครูหรงดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร ทว่ากว่าจะวางใจลงได้ ก็ตอนพ่อบ้านรายงานว่า อีกฝ่ายไข้ลดแล้วเช่นกัน เขาเพียงถอนหายใจยาวทีหนึ่ง นิสัยเช่นนี้ของบุตรชาย ช่างทำเขากังวลกับอนาคตของสกุลหรงมากจริง ๆขณะที่หรงจือจือรู้เรื่องทั้งหมดนี้ ในใจก็พลันวาบความกังวลขึ้นมา ทว่าคิด ๆ ดูแล้วสองสามปีมานี้หรงซื่อเจ๋อพูดจาเย็นชากับตน ก็รู้สึกเพียงใจสลายขึ้นมาฉับพลัน และไม่ได้คิดอะไรมากอีกทว่าเพื่อเลี่ยงเผื่อมีคนปากมาก อย่างไรนางก็ไปเยี่ยมสักหน่อยเพียงแต่ครั้นมาถึงหน้าประตูเรือนของหรงซื่อเจ๋อ ก็ถูกขวางเอาไว้ อวี้เล่อบ่าวรับใช้ตรงประตูกล่าวขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ เชิญกลับไปเถิดขอรับ คุณชายรองบอกเอาไว้ตั้งนานแล้วว่า เรือนของเขาไม่ต้อนรับคุณหนู!”หากเป็นตอนที่หรงซื่อเจ๋อป่วยก่อนหน้านี้ เมื่อหรงจือจือถูกขวางเอาไว้ด้านนอก ก็จะคอยเฝ้าด้วยความเป็นกังวล ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถามว่าหรงซื่อเจ๋อเป็นเช่นไรบ้างหนำซ้ำยังต้มยามาถ้วยหนึ่งอยู่เป็นระยะ ทว่าก็ถูกหรงซื่อเจ๋อสาดทิ้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 263

    อวี้เล่อพลันคุกเข่าลง และรีบกล่าวว่า “คุณชาย กล่าวหาแล้ว บ่าวจงรักภักดีต่อคุณชาย จะถูกคุณหนูใหญ่ซื้อตัวได้อย่างไร!”“หากคุณชายไม่เชื่อ ไปถามพวกบ่าวรับใช้คนอื่น ๆ ดูก็ได้ขอรับ หลังคุณหนูใหญ่ถูกขวางเอาไว้ ก็เดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองอีก”ในใจของหรงซื่อเจ๋อ มีความผิดหวังที่ยากจะบรรยายอย่างหนึ่ง “เป็นไปได้อย่างไร?”นางใส่ใจตนที่สุดมิใช่หรือ? ก่อนหน้านี้ตนทำหน้าเย็นชาใส่นางเยอะแค่ไหน นางก็ยังเป็นห่วงตนเช่นเดิมมิใช่หรือ? หรือว่านางไม่สนใจไยดีน้องชายอย่างตนผู้นี้แล้ว?ไม่คิดเลยว่าเขาจะกระวนกระวายใจเล็กน้อยผ่านไปครู่หนึ่ง เขาถึงนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าใจแล้ว! นี่นางใช้ลูกไม้ถอยเพื่อจะได้เข้าใกล้ก็เท่านั้น!”“นางคิดว่าใช้ท่าทีเสแสร้งเช่นนี้แล้วข้าจะสนใจ จากนั้นก็กลับไปรักใคร่ปรองดองกับนางอีกอย่างนั้นหรือ? น่าขันจริง ๆ!”อวี้เล่อเองก็กล่าวว่า “บ่าวเองก็คิดเหมือนกับคุณชาย คุณหนูใหญ่ไม่สนใจคุณชายแล้ว พูดแบบนี้ออกไปผู้ใดจะเชื่อ?”หรงซื่อเจ๋อเย้ยหยันเบา ๆ “คอยดูเถอะ อีกไม่กี่วัน นางจะต้องมาขอเอาใจใส่ข้า!”...เรือนอี่เหมยอวี้หมัวมัวกระซิบรายงานต

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 264

    ทว่าหรงจือจือกลับไม่ประหลาดใจกับการกระทำของนางหวังเลยแม้แต่น้อย แอบคิดเอาไว้ในใจอยู่แล้ว บางทีครั้งหน้าตนอาจต้องหลบให้เร็วกว่านี้หน่อย แบบนี้ไหล่ก็คงไม่ถูกปาจนบาดเจ็บ แตกต่างจากนางหวังที่เต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธอารมณ์ของหรงจือจือเรียบเฉย “ฮูหยินหรง น้องรองไม่อยากเจอข้า และพวกท่านก็บอกว่าข้าอัปมงคลยิ่งมิใช่หรือ? คิดดูแล้วหากข้าไปยืนอยู่หน้าประตูเรือนไม่ยอมไป ถึงทำให้เตะถ่วงการรักษาอาการบาดเจ็บของน้องรอง”น่าขันจริง ๆ เขาไม่ยอมพบนาง ทว่ายังโทษว่าตนไม่ยอมไปเฝ้าอยู่นอกเรือนเหมือนสุนัขอย่างก่อนหน้านี้ต่อนางโง่ดักดานมาหลายปี ทว่าไม่คิดจะโง่ไปตลอดชีวิตนางหวังถูกคำพูดของหรงจือจือทำให้สำลักไป “เจ้า...”หรงจือจือกล่าวต่ออย่างเรียบเฉย “ชาติกำเนิดของฮูหยินหรงอยู่ในสกุลมีชื่อเสียง อย่างไรอย่าเอะอะก็ตบตีคน ทุบตีคนเลยจะดีกว่า หากแพร่ออกไป คนนอกยังคิดว่าฮูหยินหรงเป็นหญิงใจหยาบ คิดแล้วก็ไม่เป็นผลดีกับชื่อเสียงของเจียวเจียวเช่นกัน”สีหน้าของนางหวังแดงซีดสลับกัน “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าด่าคนเป็นแม่อย่างข้าว่าเป็นหญิงใจหยาบ?”สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้หรงจือจือรำคาญใจที่สุด แม้สองแม่ลูกพูดเอาไว้ว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 265

    หรงจือจือกล่าวขึ้นชืด ๆ “ข้าแค่สั่งสอนให้นางเคารพพี่สาวคนโต เข้าใจว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูดเท่านั้น”“คิดแล้วหากทำให้ท่านพ่อรู้เข้าว่า นางอ้าปากทีก็มีแต่คำพูดอย่างหอคณิกาเช่นนี้ จุดจบของนางไม่ได้ดูดีไปกว่าน้องรองแน่!”ครั้นนางหวังได้ยินเช่นนั้น ก็เดือดดาลจนอยากจะอาเจียนเป็นเลือด ไหนเลยจะไม่รู้ว่า ที่หรงจือจือกล่าวเช่นนี้เป็นการขู่ จะโวยวายจนไปเข้าหูมหาราชครูหรงไม่ได้นางเองก็ลอบโทษหรงเจียวเจียวพูดจาซี้ซั้ว แม้พวกนางจะมีเหตุผล ทว่าถูกหรงเจียวเจียวกล่าวเช่นนี้ออกมา ก็ไม่มีเหตุผลแล้ว!ต่อให้หรงจือจือจะเกลียดมารดาอย่างตนแค่ไหน ก็คงไม่มีทางโพล่งบอกให้อีกฝ่ายไปหาเลี้ยงชีพที่หอคณิกาเช่นนี้แน่!นางรีบส่งสายตาให้สาวใช้จ้าวทีหนึ่ง “เจ้ายังไม่ไปตามหมอประจำจวนมาอีก เจ้ายังบื้ออยู่ทำอะไร?”สาวใช้จ้าว “เจ้าค่ะ!”นางหวังมองไปรอบ ๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะกล่าวทั้งหน้าคล้ำดำเขียวว่า “เรื่องในวันนี้ บอกไปแค่ว่าคุณหนูสามหกล้มเอง พวกเจ้าเข้าใจหรือไม่?”หากทำให้ท่านพี่รู้ว่าหรงเจียงเจียวพูดอะไร บุตรสาวต้องโดนลงแส้จนจับไข้ และต้องล้มหมอนนอนเสื่อเช่นเดียวกับบุตรชายเป็นแน่พวกบ่าวรับใช้ “เจ้าค่ะ!”หรงเจียว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 266

    เมื่อหรงจือจือได้ยินดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว มองนางหวังทีหนึ่งก่อน นางหวังเป็นบุตรสาวคนเดียวของครอบครัวท่านตา ได้รับความโปรดปรานเลี้ยงดูดั่งไข่ในหินด้วยความหยิ่งผยองและมักใช้อำนาจบาตรใหญ่มาตลอด หนำซ้ำยังโง่ดักดาน จุดนี้เป็นจุดที่ท่านย่าไม่ชอบ ทว่าหรงเจียวเจียวเองก็ถูกนางหวังอบรมสั่งสอนจนเป็นเช่นนี้ ช่างพาออกหน้าออกตาไม่ได้เลยจริง ๆนางจ้องหรงเจียวเจียว “เช่นนั้นเจ้ากับท่านเสนาบดี ก็เข้าพิธีสามหนังสือหกพิธีแล้วหรือ?”หรงเจียวเจียว “นี่...”หรงจือจือกล่าวขึ้นอีกว่า “ในเมื่อเจ้ามั่นใจเรื่องแต่งงานขนาดนี้ ไม่สู้นำใบเทียบดวงชะตาของท่านเสนาบดีออกมาให้ข้าดูสิ?”หรงเจียวเจียวมีใบเทียบดวงชะตาอะไรเสียที่ไหน นางตอบกลับอย่างเดือดดาลว่า “หรงจือจือ ท่านจงใจใช่หรือไม่? ท่านรู้อยู่แล้วว่าเพียงพูดคุยเรื่องแต่งงาน ไม่ได้หมายความว่าจะตกลงแล้ว”หรงจือจือตอกกลับชืด ๆ “อ๋อ ที่แท้ก็ยังไม่ได้ตกลงกันนี่เอง”ไหนเลยหรงเจียวเจียวจะฟังคำถากถางที่อยู่ในคำพูดนี้ไม่ออก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังเตือนตนเอง เรื่องยังไม่ได้ตกลงแน่นอน ตนพูดเช่นนี้ไร้ยางอายอยู่เล็กน้อยทว่านางกลับกล่าวพร้อมเลิกคิ้ว “เรื่องน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 267

    ทางท่านพ่อต้องยิ่งเข้าใจได้โดยง่ายอยู่แล้ว คิดว่าท่านพ่อเองก็รู้ว่าเจียวเจียวโง่ดักดาน ไม่คู่ควรกับอัครมหาเสนาบดีเฉิน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดีกว่าสตรีที่ผ่านการหย่าเช่นตนอยู่หน่อยในสายตาของคนทั้งใต้หล้า สตรีที่หย่าและถูกเขียนหนังสือปลดภรรยา ไม่ต่างอะไรกับหญิงสำส่อนที่ไม่มีใครเอา นับตั้งแต่ที่นางกลับจวนในวันนั้นก็ถูกพวกชาวบ้านก่นด่า หากตระหนักถึงจุดนี้ได้ ท่านพ่อจะมองตนด้วยความชื่นชมได้อย่างไรอีก?เห็นคุณหนูไม่ตอบ เจาซีเองก็ไม่ฝืนถาม ได้แต่เอ่ยว่า “คุณหนู คุณหนูคิดว่าที่ท่านเสนาบดีทำดีกับจวนเรา เพราะคุณหนูรองจริง ๆ หรือ?”หรงจือจือ “คงไม่ใช่อยู่แล้ว”นางยิ่งเชื่อว่าเฉินเยี่ยนซูทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของตน ส่วนจะแต่งงานหรือไม่นั้น เกรงว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อน ทว่าคนสกุลหรงเริ่มดีใจแทนหรงเจียวเจียวกันไปแล้วเจาซีบ่นพึมพำกระซิบกระซาบ “หากท่านเสนาบดีชอบคุณหนูรองได้จริง ๆ บ่าวจะทุ่มเงินซื้อยารักษาดวงตาให้ท่านเสนาบดีเลย”กระทั่งนางยินดีทุ่มเงินเก็บส่วนตัวทั้งหมดที่ตนสะสมมาหลายปีเพื่อการนี้เชียว!หรงจือจือมองนางพร้อมความขำขันทีหนึ่ง “อย่าเอาแต่พูดไร้สาระทั้งวันสิ”หากเฉินเยี่ยนซูจะแต่งงานกับหรงเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 268

    ไม่ว่าเขาจะมาทำไม ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางหวังเมินเฉยได้นางรีบลุกขึ้นเดินออกไป พร้อมกับพูดทิ้งท้ายกับหรงเจียวเจียวว่า “เจ้ารักษาแผลดี ๆ ไป ทำใจกว้าง ๆ หน่อย ยังเป็นเช่นนั้น หรงจือจือได้ใจไม่ได้กี่วันหรอก”พูดจบก็เดินออกไปหรงเจียวเจียวครุ่นคิด ก่อนจะกล่าวกับสาวใช้ข้างกายตนว่า “ฝานซิง เจ้าออกไปดูหน่อย ดูว่าคนในวังมาทำไม จะแต่งตั้งข้าเป็นท่านหญิงใช่หรือไม่”ไม่แน่ว่าท้ายที่สุดท่านเสนาบดีจะคิดได้แล้วว่า การที่พี่หญิงเป็นท่านหญิง คอยกดหัวตน ไม่ดีกับตนจริง ๆ จะทำให้ตนไม่มีหน้ามีตาฉะนั้นจึงขอพระราชทานแต่งตั้งให้ตนเป็นท่านหญิง หากเขาตามีแววเช่นนี้จริง ๆ ตนก็จะให้อภัยเรื่องที่ก่อนหน้านี้เขาคิดไม่รอบคอบ แต่งตั้งตำแหน่งให้หรงจือจือ!ฝานซิงรีบตอบกลับ “บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ คุณหนูอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะเจ้าคะ เป็นของของคุณหนู อย่างไรก็หนีไม่พ้น! ไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้เป็นท่านหญิงหรือไม่ วันข้างหน้าคุณหนูก็จะแต่งงานกับท่านเสนาบดีแล้ว ไม่แน่ว่าฝ่าบาทจะแต่งตั้งให้คุณหนูเป็นฮูหยินแห่งแคว้นขั้นหนึ่ง ขอให้คุณหนูได้เป็นเช่นมารดาบุญธรรม”หรงเจียวเจียวเขินอายจนหน้าแดงไปหมดฝานซิงรีบออกไปในตอนนี้ มหาราช

Pinakabagong kabanata

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 294

    หลังจากเขาออกไปเจาซี “คุณหนูเจ้าคะ ก่อนหน้านี้คุณหนูให้บ่าว หาขวดลายครามที่เหมือนกับขวดที่หมอเทวดาใส่ยาให้คุณหนูเป๊ะ ๆ มาสองขวด แล้วใส่ยารักษาอาการบาดเจ็บทั่วไปเข้าไป คิดว่าคงคาดการณ์ถึงวันนี้แล้ว”หรงจือจือยกจอกชาขึ้นมา แล้วตอบกลับชืด ๆ “บนตัวพวกเขายังมีบาดแผลอยู่ และข้าก็มียาดี หากข้าไม่ให้กระทั่งยา ท่านพ่อรู้เข้าคงไม่พอใจแน่”“จะคิดว่าคนเป็นพี่สาวคนโตเช่นข้า ปฏิบัติกับน้องชายน้องสาวไม่ดี เช่นนี้ สถานการณ์ที่จวนของข้ามีแต่จะยิ่งยากขึ้น”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่สู้หลอกพวกเขาสักนิดสักหน่อยทำเช่นนี้ ดูผิวเผินทุกคนก็พอจะยอมรับได้...ไหนเลยหรงซื่อเจ๋อจะรู้ว่า ที่ตนถืออยู่ในมือ ไม่ใช่ยาดีอะไรเขาออกมาจากเรือนอี่เหมย สีหน้าบูดบึ้งจนแทบจะบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เขาส่งขวดลายครามให้อวี้เล่อขวดหนึ่ง “เดี๋ยวเจ้าเอาไปให้เจียวเจียวที”อวี้เล่อ “คุณชายรอง คุณชายไม่เอาไปให้ด้วยตัวเองหรือเจ้าคะ?”หรงซื่อเจ๋อ “ไม่ไป”เขาจะไปได้อย่างไร? เขาพูดกับเจียวเจียวอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าจะเอายามาจากหรงจือจือให้หมด แถมยังบอกว่าจะให้ชุดกระโปรงที่หรงเจียวเจียวอยากได้อีกด้วย ทว่าตอนนี้ล่ะ?เขาจะเสียหน้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 293

    หรงจือจือเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตาไม่ต่างจากมองคนโง่คนหนึ่ง กระทั่งแฝงการเย้ยหยันเอาไว้สองสามส่วนหรงซื่อเจ๋อหน้าคล้ำดำเขียวไปหมด “ท่านมองด้วยสายตาเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”หรงจือจือ “ความหมายง่ายมาก ท่านพ่อเป็นคนให้ยา ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าและหรงเจียวเจียวเลย ต่อไปไม่ต้องเอาแต่เฝ้าคิดถึงแล้ว”หรงซื่อเจ๋อกล่าวขึ้นอย่างยากจะเชื่อ “ท่านไม่ให้?”หรงจือจือตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เจาซี!”เจาซีนำยาสองขวดที่คุณหนูใช้ให้ตน เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้มาวางบนโต๊ะหรงจือจือกล่าวขึ้นชืด ๆ อีกว่า “ยาสองขวดนี้ได้ผลดีกับแผลภายนอกเป็นอย่างมาก ในเมื่อที่ตัวเจ้ากับเจียวเจียวมีแผล ให้พวกเจ้าคนละขวด ก็ไม่เป็นไร ส่วนมากกว่านี้ ไม่ต้องพูดถึงแล้ว”หรงซื่อเจ๋อจ้องยาสองขวดนั้น พลางถามหรงจือจือ “แบ่งให้ข้าแค่สองขวด ท่านจะไล่ขอทานหรือ?”หรงจือจือแอบแสยะยิ้มอยู่ในใจ นี่เรียกว่าไล่ขอทานแล้วหรือ?หลายปีมานี้ หรงซื่อเจ๋อและหรงเจียวเจียว เคยให้ของอะไรตนบ้าง? ตนอยู่ที่จวนพวกเขา ยังสู้ขอทานไม่ได้เลยนางกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงชืด ๆ “เจ้าจะไม่เอาก็ได้ ข้าย่อมไม่บังคับให้เจ้ารับไปอยู่แล้ว หากไม่ม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 292

    แต่ไม่คิดเลยว่า หรงจือจือกลับคลี่ยิ้ม “ข้ากับฮูหยินหรง ก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเท่านั้น มีอะไรให้ตัดใจไม่ได้กัน?”“เครื่องทองเยอะขนาดนี้ คิดแล้วหากนำมาหลอมรวมกัน คงได้สักสองชั่งเป็นแน่”“หลังจ้าวหมัวมัวกลับไป ก็ฝากขอบคุณฮูหยินหรงแทนข้าด้วยนะ”เจาซีรีบก้าวเข้าไป แล้วนำเครื่องทองทั้งหมดมาเก็บขาของสาวใช้จ้าวกลับอ่อนลง “คุณหนู ทองพวกนี้เป็นทองที่ช่างมีชื่อเสียงทำขึ้นมาทั้งนั้น หากนำไปหลอมหมด จะน่าเสียดายแค่ไหน คุณหนู...”หรงจือจือฉีกยิ้มเล็กน้อยพลางเอ่ย “เสียดายหรือไม่เสียดาย ก็ไม่จำเป็นต้องให้จ้าวหมัวมัวเป็นห่วง จ้าวหมัวมัว ขอให้ตัวเองมีความสุขมาก ๆ เถิด”“จริงสิ แต่ไหนแต่ไรมาข้าก็รู้สึกถูกชะตากับเจ้า ยินดีช่วยเจ้าเป็นอย่างมาก จ้าวหมัวมัวจดจำคำนี้เอาไว้ให้ดีล่ะ”สาวใช้จ้าวได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงวิงเวียนศีรษะตาลายไประลอกหนึ่ง! ช่วยตนอะไรกัน นางไม่ทำร้ายตนก็ไม่เลวแล้ว! เดี๋ยวกลับไปอยู่ต่อหน้าฮูหยิน ตนจะอธิบายอย่างไร ตนเป็นคนออกความคิดนี้เองด้วย!เดิมทีช่วงนี้ฮูหยินก็สงสัยตนอยู่แล้ว คราวนี้เยี่ยมไปเลย?หรงจือจือ “ส่งแขก”จ้าวหมัวมัวทำสีหน้าอมทุกข์ พร้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 291

    หรงจือจือเย้ยหยันเบา ๆ เสียงหนึ่ง “ที่ข้าหยดบนปะการัง เป็นยาบำรุงอย่างดี ยาบำรุงขนานนี้ไม่มีรสชาติ สีแดง หยดบนปะการังเลือดสองหยด หมอประจำจวนย่อมมองไม่ออกอยู่แล้ว”“ปกติหรงเจียวเจียวจะใช้รังนกร่วมกับยานี้ ย่อมรู้สึกไม่สบายตัวเป็นธรรมดา”ร่างกายอ่อนแอก็จะไม่สบาย บำรุงมากเกินไปก็จะไม่สบายเช่นกันปกติบ่าวรับใช้ในเรือนของหรงเจียวเจียวไม่กินรังนก ย่อมไม่ได้เจ็บป่วยตามไปด้วย“ใช่ว่าหมอประจำจวนไม่เคยเอะใจว่าหรงเจียวเจียวบำรุงเยอะเกินไปหรือเปล่า แต่เคยตรวจดูของที่นางกินแล้ว ข้อสงสัยนี้ย่อมถูกตัดไปเช่นกัน”เจาซีตกตะลึง “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่บ่าวรู้ว่า ยาบำรุงชั้นดีก็สามารถทำร้ายคนได้ สมแล้วที่เป็นฝีมือของหมอเทวดาผู้เฒ่า บ่าวจะเช็ดปะการังให้สะอาดและเก็บอย่างดีเจ้าค่ะ”หรงจือจือพยักหน้า “ไปเถอะ”ไม่นาน สาวใช้จ้าวก็นำคนมาส่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ กล่าวพร้อมเสแสร้งยิ้ม “ท่านหญิง นี่เป็นสิ่งที่ฮูหยินมอบให้ท่านเพิ่มเติม ท่านดูและเลือกเอาเถอะเจ้าค่ะ”หรงจือจือกวาดสายตามองทีหนึ่ง นางหวังรู้จักทำให้คนคลื่นไส้เสียจริงเสื้อผ้าพวกนี้สวยงามฉูดฉาดทุกตัว ล้วนเป็นแบบที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ เ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 290

    พูดเพียงว่า “ประเดี๋ยวเจ้าส่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับไปให้จือจือสักหน่อย ถือว่าปลอบขวัญนาง”ภายในใจนางหวางไม่ยินดีแม้แต่น้อย กระนั้นกลับพูดได้เพียงว่า “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ”หลังจากที่นางหวางออกจากห้องหนังสือ สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างรวดเร็ว มุ่งตรงไปยังเรือนเฮ่าเย่ว์ครั้นได้พบกับหรงเจียวเจียวก็พูดว่า “เจ้าได้สั่งให้คนไปทำอะไรกับล้อรถของพี่หญิงเจ้าหรือไม่?”หรงเจียวเจียวหลบสายตา “เรื่องนี้ ท่านแม่…”เห็นนางมีอาการเช่นนี้ ยังจะมีสิ่งใดที่นางหวางไม่เข้าใจอีกกัน?นางขมวดคิ้วว่า “เมื่อครู่นี้ท่านพ่อของเจ้าเรียกข้าไปดุด่าก็เพราะเรื่องนี้! ต่อไปอย่าได้ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้อีก หากนางตกรถม้าตายอยู่ด้านนอกจริงๆ พวกเราทุกคนจะอับอายขายหน้ากันหมด”หรงเจียวเจียวมุ่ยปากพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เช่นนั้นจะปล่อยให้นางมีชีวิตราบรื่นต่อหน้าพวกเราเช่นนี้ตลอดไปหรือ?”นางหวาง “มีวิธีที่ใช้จัดการนางอยู่เยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องทำให้ท่านพ่อของเจ้าโมโห”หรงเจียวเจียวบ่นเสียงเบา “ท่านก็อายุปูนนี้แล้ว เหตุใดยังให้ความสำคัญต่อท่านพ่อเป็นอันดับแรกในทุกๆ เรื่องอยู่อีก”นางหวางมองนางตาขวาง หรงเจีย

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 289

    หลังจากที่หรงจือจือกลับถึงจวนก็ไม่ได้รีบกลับไปที่เรือนของตัวเองแต่อย่างใด แต่ไปที่ห้องหนังสือของมหาราชครูหรงมหาราชครูหรงเห็นนางเข้ามาก็เลิกคิ้วถาม “เรื่องที่คุกชั้นใน จัดการราบรื่นดีหรือไม่?”หรงจือจือ “ทุกอย่างราบรื่นดีเจ้าค่ะ”หรงจือจือไม่ได้ตอบอะไรมาก ส่วนมหาราชครูหรงก็ไม่ได้ถามอะไรมากเช่นกัน เรื่องที่ศาลหลงสิงมีเฉินเยี่ยนซูคอยดูอยู่ ไม่ต้องให้เขายื่นมือเข้าไปยุ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาก็อยู่ในช่วงไว้ทุกข์ ยิ่งไม่มีเหตุผลให้เข้าไปยุ่งด้วยเหตุนี้จึงพูดเพียงว่า “เช่นนั้นเจ้ามาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?”หรงจือจือพูดเสียงเบา “วันนี้รถม้าของลูกล้อหัก ท่านพ่อน่าจะทราบดีว่านั่นเป็นรถม้าที่ท่านย่าสั่งทำให้ข้า”บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องพูดสิ่งต่างๆ ให้ชัดเจนมากเกินไป มหาราชครูหรงฟังถึงตรงนี้ก็เข้าใจแล้วเขาขมวดคิ้วถาม “เจ้าคิดว่าเป็นฝีมือผู้ใด?”หรงจือจือ “ลูกไม่ทราบเจ้าค่ะ”มหาราชครูหรงเปลี่ยนคำถาม “เช่นนั้นเจ้าอยากให้จัดการเรื่องนี้อย่างไร?”หรงจือจือพูดด้วยความเคารพ “ลูกหวังเพียงว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก”นางรู้จักบิดาของตัวเองดีเพียงใดอย่างไรนั้นหรือ? ครั้งนี้นางไม่ได้เป็นอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 288

    “แต่หากนางกลายเป็นฮูหยินราชเลขาธิการก็จะต่างออกไป”จากนั้น นางก็เห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาดุจหยกขาวของเฉินเยี่ยนซูผู้สงบนิ่งแม้ภูเขาไท่ซานจะพังถล่มต่อหน้ากลายเป็นสีแดงก่ำหลังจากได้ยินในสิ่งที่นางพูดเฉินเยี่ยนซู “ตะ แต่งงานกับนางหรือ?”เซิ่งเฟิงหันหน้าไปทางอื่นด้วยความรังเกียจ ผู้ใดจะไปเชื่อกัน! ว่าท่านราชเลขาธิการผู้เก่งกาจด้านการวางกลยุทธ์จะติดอ่างเมื่อพูดถึงการแต่งงานกับนางในใจจงเจิ้งอวี๋เห็นสีหน้าของเฉินเยี่ยนซูแล้วยังจะมีสิ่งใดที่ไม่เข้าใจอีกกัน?นางรู้สึกประหลาดใจมาก ที่แท้แล้ว ราชเลขาธิการเฉินผู้ซึ่งถูกชาวโลกมองว่าไร้หัวใจก็มีนางในใจมาตั้งนานแล้วนางพูดว่า “ใช่เจ้าค่ะ ท่านราชเลขาธิการลองตรองดูเถิดว่าวิธีที่ข้าพูดเป็นวิธีที่ดีที่สุดจริงหรือไม่?”“ถึงแม้ว่าการแต่งงานจะถูกกำหนดโดยพ่อแม่ แต่สถานการณ์ตอนนี้ของท่านหญิงค่อนข้างพิเศษ”“นางเป็นคนฉลาด ข้ามองว่าหากท่านตระเตรียมคำพูดไปคุยกับนางด้วยตัวเอง นางอาจจะตอบตกลงก็เป็นได้”“เวลานี้ก็เย็นมากแล้ว ชิงหวาขอตัวกลับก่อน”ไม่ว่าผู้ใดก็รักสวยรักงามทั้งนั้น นางยอมให้ใบหน้าดวงงามของหรงจือจือถูกทำลายไม่ได้จริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงมาพูดเรื่องนี

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 287

    วันนี้รถม้าของหรงจือจือพังเสียหาย หากไม่ใช่ฝีมือของนางหวางก็คงเป็นฝีมือของหรงเจียวเจียว นางไม่สบอารมณ์มากยิ่งมาได้ยินถ้อยคำไร้สาระของหรงจือจือก็ยิ่งหมดความอดทนนางหันไปคว้าข้อมือของหรงเจียวเจียวหรงเจียวเจียวตกใจ “ท่านจะทำอะไร?”หรงจือจือจ้องนาง “มาสิ! พวกเราไปที่จวนของท่านราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปถามเขาว่าช่วยเหลือข้าทุกครั้งเพราะเจ้าจริงหรือไม่”“หากเป็นเพราะเจ้าจริง เช่นนั้นต่อไปก็ขอให้เขาอยู่ห่างข้าให้ไกลหน่อย ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา!”นี่เป็นความในใจของหรงจือจือเช่นกัน หากเฉินเยี่ยนซูช่วยนางเพราะหรงเจียวเจียวจริงๆ เช่นนั้นนางก็ไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากเขามีหลายเรื่องที่นางสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง เหตุใดต้องยอมให้หรงเจียวเจียวมาพูดให้รู้สึกสะอิดสะเอียนอยู่เรื่อยด้วย?หรงจือจือเห็นถึงความบ้าคลั่งในดวงตาหรงจือจือก็รู้สึกว่าความอดทนที่อีกฝ่ายมีต่อตัวเองมาถึงขีดจำกัดแล้วนางรีบชักข้อมือตัวเองออก “หรงจือจือ ท่านบ้าไปแล้วหรือ? มีคนที่ใดไปถามเรื่องแบบนี้กัน?”หรงจือจือยิ้มเยาะ “ทำไม เจ้าไม่กล้ารึ?”หรงเจียวเจียว “ข้าเป็นห่วงชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลต่างหาก…”หรงจือจือ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 286

    หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “ก็แค่ของนอกกาย การได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่างหากที่สำคัญที่สุด”ตอนแรกจงเจิ้งอวี้รู้สึกดูแคลนในท่าทีอมทุกข์ของหรงจือจือ แต่เมื่อฟังถึงตรงนี้จึงค่อยเข้าใจว่าความยากลำบากของหรงจือจือนั้นน่าจะเกินกว่าที่นางจินตนาการไว้หากไม่หมดหนทางจริงๆ หญิงสาวคนใดจะคิดทำลายรูปโฉมของตัวเองกัน?ภายในใจอดรู้สึกเห็นใจขึ้นมาไม่ได้ “เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม อย่าได้สิ้นหวังและอย่าทำอะไรสุดโต่ง”หรงจือจือ “แน่นอนเจ้าค่ะ”มีหญิงสาวคนใดไม่ชอบความสวยความงามบ้างกัน? หากไม่จำเป็นจริงๆ นางเองก็ไม่อยากทำแบบนั้นจงเจิ้งอวี๋มองนางด้วยความตื่นตกใจครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย!”หรงจือจือประหลาดใจเล็กน้อย ด้วยฐานะของจงเจิ้งอวี๋แล้วจะมีเรื่องอะไรที่ต้องให้นางช่วยกัน?นางพินิจพิเคราะห์แล้วตอบ “เชิญท่านหญิงพูดเจ้าค่ะ”จงเจิ้งอวี๋ “ช่วงนี้ข้าถูกใจบุรุษผู้หนึ่ง อยากให้เจ้าช่วยเป็นแม่สื่อ วางใจได้ หากงานนี้สำเร็จ ข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน”ใบหน้าของหรงจือจือกระตุก รู้สึกว่าคำพูดนี้ฟังดูไร้ที่มาแปลกๆจวนอ๋องจวินต้องการหาคู่ให้จงเจิ้งอวี๋ เหตุใดต้องให้นางช่วยเหลือด้วย? อีกอย่

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status