Share

บทที่ 253

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือพูดจบก็หันตัวเดินนำเจาซีจากไป

หรงเจียวเจียวรีบร้องขึ้น “หรงจือจือ ท่านจะไปไหน? นางมาหาท่านนะ!”

ฉีอวี่เยียนเข้ามาคว้าแขนหรงเจียวเจียวเอาไว้ “ไม่ ข้ามาหาเจ้าต่างหาก! จะมาหานางทำไม?”

“ความจริงแล้วข้ารู้สึกถูกชะตากับเจ้าตั้งแต่แรกเห็น! จริงสิ ขนาดหรงจือจือยังมีปะการังต้นใหญ่ เจ้าเป็นที่โปรดปรานของครอบครัวขนาดนี้ คิดว่าท่านแม่ของเจ้าน่าจะมอบให้อย่างน้อยสองต้นใช่หรือไม่?”

“รอให้ถึงวันที่ข้าแต่งงานออกเรือน เจ้าแบ่งให้ข้าต้นหนึ่งได้หรือไม่? ข้าขอแค่ต้นเดียวเท่านั้น ถือว่าไม่มากเกินไปกระมัง?”

“พี่หญิงของเจ้าตระหนี่มาก ตอนนั้นข้าขอร้องจนปากเปียกปากแฉะ แต่นางกลับไม่ยอมยกให้แม้เพียงครึ่งต้น เจ้าทั้งใจกว้างทั้งใจดีขนาดนี้ คิดว่าคงไม่ใจแคบกระมัง?”

หรงเจียวเจียว “เจ้า เจ้า…”

นางไม่เคยพบเจอคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน มันทำให้นางโมโหจนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรต่อดี

ที่ทำให้นางโมโหหนักเข้าไปอีกก็คือ ฉีอวี่เยียนมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดว่า “แม้ว่ารูปโฉมจะด้อยกว่าพี่หญิงของเจ้าไปบ้างและมีกิริยามารยาทสง่างามไม่เท่านาง แต่ก็ถือว่าสะสวย”

“แต่หากครอบครัวพวกข้าต้องมีสะใภ้ที่โดดเด่นไม่เท่าเดิม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 254

    สมัยที่หรงจือจือยังไม่ออกเรือน เมื่อไรที่นางหวังโมโหแบบนี้ หรงจือจือจะมายืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเชื่อฟังทุกครั้งไปไม่ว่านางหวังจะสั่งให้นางคุกเข่ายอมรับผิดหรือตบหน้า หรงจือจือก็ไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียวทว่าวันนี้ นางหวังเดินเข้ามาอาละวาดแล้วเห็นหรงจือจือนั่งนิ่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ในมือถือถ้วยชาพร้อมกับจิบอย่างสง่างาม ทั้งยังเพียงแค่ปรายตามองไปที่นางหวังอย่างเรียบเฉยสายตาเรียบนิ่งเฉยเมยนี้เกือบทำให้นางหวังเป็นลมหมดสตินางโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม ชี้หน้าหรงจือจือว่า “เจ้าเห็นว่าข้าเข้ามาแล้ว เหตุใดยังไม่มาทำความเคารพอีก?”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “เคารพอันใดกัน? บัดนี้ข้าเป็นท่านหญิงขั้นที่สอง แต่ฮูหยินไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย หากจะทำความเคารพจริงๆ เกรงว่าคงเป็นท่านมากกว่าที่ต้องทำความเคารพข้า!”นางเข้าใจแล้ว ในเมื่อบัดนี้นางเป็นท่านหญิง เช่นนั้นก็ควรใช้ตำแหน่งนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองบ้างนางหวังเกือบต้องโมโหอกแตกตายเพราะคำพูดของหรงจือจือ นั่นเพราะนางไม่ได้มีตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นสูง ตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นที่หนึ่งที่มีก่อนหน้านี้ถูกมหาราชครูหรงยกให้กับฮูหยินผู้เฒ่า ยังไม่มีโอกาส

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 255

    นางหวังพูดด้วยความรังเกียจ “เสื้อผ้าพวกนี้ถูกทิ้งไว้ที่เรืออี๋เหมยจนแปดเปื้อนไปด้วยความอัปมงคลหมดแล้ว เจียวเจียวของข้าไม่มีทางใส่อีกแน่ ข้าจะสั่งตัดเสื้อผ้าให้นางใหม่ เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปเผาทิ้งให้หมด!”พูดจบก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองครั้นเห็นนางเดินห่างออกไปไกลเจาซีก็อดบ่นเสียงเบาไม่ได้ว่า “เสื้อผ้าที่หรงเจียวเจียวเคยสวมต่างหากที่อัปมงคล เก็บไว้ที่นี่ไปก็ไม่เป็นมงคลต่อคุณหนูของข้า เผาทิ้งก็ดีเหมือนกัน ถุย!”อวี้หมัวมัวมองนางปราดหนึ่ง “บัดนี้อยู่ที่จวนสกุลหรง ระวังคำพูดและกิริยาด้วย”เจาซีมุ่ยปากแล้วไม่พูดอะไรอีกเมื่ออวี้หมัวมัวหันตัวกลับก็เห็นหรงจือจือมองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังกำแพงเรือน สายตาราวกับมองผ่านชายคาออกไปยังโลกกว้างด้านนอกจวนสกุลหรง ภาพนี้ทำให้อวี้หมัวมัวตื่นตระหนกไปชั่วขณะและในจังหวะนี้เองที่หรงจือจือสั่งให้คนปิดประตูจากนั้นถามขึ้นว่า “อวี้หมัวมัว หลังจากที่พบตัวผู้สมรู้ร่วมคิดที่ร่วมมือกับนางถานสังหารท่านย่าแล้ว ข้าจะย้ายออกจากจวนไปเริ่มต้นครอบครัวใหม่ของตัวเองดีหรือไม่?”สุดท้าย เรื่องที่อวี้หมัวมัวหวาดกลัวก็มาถึงจนได้นางรีบตอบกลับไป “คุณหนู ไม่ได้เด็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 256

    เฉินเยี่ยนซู “พ่อบ้าน ส่งแขก”หรงซื่อเจ๋อ “?”เดี๋ยวนะ เขาเพิ่งจะพูดไปแค่ประโยคเดียว เหตุใดจึงไล่กันแล้ว? อีกอย่าง เมื่อครู่ท่านราชเลขาธิการยังยิ้มอยู่เลยมิใช่หรือ?พ่อบ้านหวง “คุณชายรองหรง เชิญเถิด”พ่อบ้านหวงทำการแสดงงิ้วเสฉวนให้หรงซื่อเจ๋อดูเช่นกัน—การแสดงเปลี่ยนหน้าใบหน้าเปลี่ยนจากยิ้มแย้มมาเป็นเคร่งขรึมประหนึ่งมีคำหยาบนับหมื่นอยู่ในใจและทำท่าผายมือเชิญให้เขาออกไปหรงซื่อเจ๋อขมวดคิ้วพูด “ท่านราชเลขาธิการ ไม่ทราบว่าข้า…”เขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ?แต่เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งประโยค เซินเฮ่อก็ทำตัวเหมือนวัวกระทิงก็มิปาน เข้ามาผลักหรงซื่อเจ๋อออกไปด้านนอกด้วยเรี่ยวแรงที่สามารถผลักให้คนลอยกระเด็นได้ “ยังไม่รีบไปอีก! ท่านราชเลขาธิการไล่แล้วนะ!”หรงซื่อเจ๋อสับสนงุนงง “ใต้เท้าเซิน ข้ายังพูดไม่จบเลยนะขอรับ!”เซินเฮ่อ “ยังจะพูดอะไรอีก! ไม่เห็นหรือว่าท่านราชเลขาธิการไม่อยากเห็นหน้าเจ้า? อย่ามารบกวนการพักรักษาตัวของเขา ไม่มีผู้ใดอยากฟังที่เจ้าพูดหรอก!”เหอะๆ น้องภรรยาของท่านราชเลขาธิการไม่รู้จักดูให้ดีแบบนี้ ดีจริงๆ เยี่ยมจริงๆเท่านี้ก็จะเทียบตำแหน่งของเขาภายในใจท่านราชเลขาธิการ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 257

    “แต่ก่อนหน้านี้ท่านพี่ทำตัวไม่ดี นางจึงยังขุ่นเคืองอยู่ก็เท่านั้น”“แท้จริงแล้วนางกำลังรอให้ครอบครัวของเราไปรับตัวกลับมา!”ฉีจื่อฟู่ฟังจบก็ตาเป็นประกาย “เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ?”ฉีอวี่เยียนตอบทันที “เรื่องนี้จะเป็นเท็จได้อย่างไร? หากไม่ใช่เพราะแบบนี้ ข้าก็คงไม่ยืนอยู่หน้าจวนสกุลหรงนานขนาดนั้นหรอก พูดไปพูดมา ที่ข้าไปสอบถามมาก็เพราะรู้ว่าท่านปล่อยวางพี่สะใภ้ไม่ได้”ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่าหัวใจที่แห้งเหือดของตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพราะคำพูดของฉีอวี่เยียน แม้แต่จิตวิญญาณก็ฟื้นกลับมาฉีอวี่เยียนพูดต่อ “ท่านพี่ ข้าว่านะ ท่านให้ผู้อาวุโสไปรับพี่สะใภ้กลับมาด้วยตัวเองเถิด!”“ตัวข้าที่เป็นเพียงน้องสาวสามีไปรับเพียงลำพังนั้นดูเสียมารยาทเล็กน้อย นางจะไม่อยากกลับมากับข้าก็ไม่แปลก”“แต่หากท่านไปด้วยตัวเองจะไม่เหมือนกัน นางจะไม่ยอมไว้หน้าท่านสักหน่อยหรือ? ท่านว่าใช่หรือไม่?”หัวคิ้วของฉีจื่อฟู่ขมวดเข้าด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเริ่มคล้อยตามแต่เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ตัวเองสาบานกับจือจือว่าสกุลฉีของพวกเขาจะผ่านพ้นอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยตัวเอง หากเขาไปหานางตอนนี้ก็อาจจะทำให้นางดูแคลนเขาได้ไม่แ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 258

    ถานผิงถิงตะลึงงันกับความมั่นใจของฉีจื่อฟู่นางไม่รู้ว่าหรงจือจือทำใจไปจากฉีจื่อฟู่ได้หรือไม่ได้ ที่นางรู้ก็คือ ฉีจื่อฟู่ไม่ได้มองนางเป็นมนุษย์แม้แต่น้อยนางลองย้ำเตือนให้ฉีจื่อฟู่รู้ถึงสถานะของนาง “ท่านพี่ ในเมื่อฮูหยินน้อยก็หย่ากับท่านไปแล้ว ท่านมิสู้ให้ความสำคัญกับคนที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้จะดีกว่านะเจ้าคะ หันกลับมามองคนที่รักท่านด้วยใจจริงและอยู่เคียงข้างท่าน!”ฉีจื่อฟู่ “คนเบื้องหน้า? เบื้องหน้าข้ายังมีผู้ใดอีกกัน? ม่านหวาก็ถูกจับไปแล้ว ข้านี่มันโง่เขลาจริงๆ หลงเชื่อไปได้ว่านางจริงใจต่อข้า ไม่ทันได้ป้องกันอะไรมากมาย…”บัดนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดตั้งแต่โบราณกาลมา วีรบุรุษหลายคนจึงมักตายด้วยน้ำมือหญิงงามผู้กล้ายากจะฝ่าด่านหญิงงาม เรื่องนี้เป็นความจริง“ข้าเองก็รู้สึกขบขันเช่นกัน ทั้งที่ข้าไม่ได้รักม่านหวา คิดว่าตัวเองยืนอยู่บนที่สูง ก้มหน้าลงมองนางที่มอบความรักให้ข้า ทว่าสุดท้ายแล้ว ตัวข้ากลับกลายเป็นตัวตลกเสียเอง”ถานผิงถิงเกือบต้องอกแตกตายด้วยความโมโห “ท่านพี่ ข้างกายท่านมีแค่ฮูหยินน้อยกับอนุอวี้แค่สองคนหรืออย่างไร?”ฉีจื่อฟู่ถามกลับด้วยความสงสัย “หรือว่าข้ายังมีคนอื่นอีกห

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 259

    ด้วยความโมโห นางรุดหน้าไปที่เรือนของฉีอวี่เยียน แทนที่จะมาโทษตัวเอง มิสู้ไปทรมานคนอื่นดีกว่า! ฉีอวี่เยียนทำให้นางเสียโฉม ทั้งยังยุยงให้พี่ชายของตัวเองไปรับหรงจือจือกลับมา เห็นนางเป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอกหรืออย่างไร?ฉีอวี่เยียนกลับถึงเรือนตัวเองได้ไม่นานก็เห็นถานผิงถิงบุกเข้ามาเหมือนคนบ้ากระชากผมของฉีอวี่เยียนแล้วลากไปทางสระน้ำในลานบ้าน จากนั้นกดศีรษะนางลงในสระฉีอวี่เยียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ถานผิงถิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”ถานผิงถิง “ใช่! ข้าบ้าไปแล้ว! เป็นบ้าเพราะเจ้า! ในเมื่อเจ้าไม่ให้ข้าอยู่สบาย เช่นนั้นเจ้าก็อย่าคิดจะอยู่สบายเช่นกัน ตายเสียเถอะ!”เซี่ยอวี่ตกใจหน้าซีด “อนุถาน ท่านใจเย็นก่อน…”หลังจากที่ฉีอวี่เยียนสลัดตัวหลุดออกมาได้ก็ผลักถานผิงถิงตกน้ำ แต่ถานผิงถิงมีหรือจะยอม? นางดึงชายกระโปรงของอีกฝ่ายให้ตกน้ำไปด้วยกัน!“ตายเสียเถอะ!”“ถานผิงถิง เจ้ามันบ้าไปแล้ว!”“อย่างน้อยก็ดีกว่านังแพศยาแบบเจ้าก็แล้วกัน!”บรรดาสาวใช้ต่างตื่นตกใจและเรียกคนให้มาช่วย ตอนนี้เป็นเหมันต์ฤดู ยามที่ช่วยทั้งสองคนขึ้นมา พวกนางต่างหน้าซีดเขียวราวกับตายไปแล้วครึ่งชีวิต จากนั้นป่วยไข้กันทั้งสองคนฉีจื่อฟู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 260

    หรงซื่อเจ๋อรู้สึกขนหัวลุกเมื่อเห็นท่าทีโมโหของผู้เป็นบิดาเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าสาเหตุที่ตัวเองถูกไล่ออกจากจวนราชเลขาธิการจะเป็นเพราะได้ด่าว่าหรงจือจือแค่คำเดียว?ที่ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ ราชเลขาธิการเฉินไม่เพียงไล่เขาออกมา แต่ยังส่งคนมาฟ้องเรื่องนี้กับท่านพ่อด้วย นี่มันจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไปแล้ว!หรงซื่อเจ๋อรีบตอบ “ท่านพ่อ ตอนนั้นข้าเพียงแต่ต้องการหาเรื่องเป็นกันเองมาคุยกับราชเลขาธิการเฉินเพื่อตีสนิทเท่านั้น!”ได้ยินดังนี้ มหาราชครูหรงมีหรือจะไม่เข้าใจอีกว่าลูกของตัวเองพูดโง่เขลาแบบนั้นออกไปจริงๆ!มหาราชครูหรงหัวเราะด้วยความโมโห “เป็นกันเองอย่างนั้นหรือ? เป็นกันเองก็เลยด่าพี่หญิงของตัวเองว่าต่ำช้าต่อหน้าคนนอก? หากพี่หญิงของเจ้าต่ำช้า เช่นนั้นตัวเจ้าเล่า? พ่อของเจ้าเล่า?”“เจ้าด่าแค่พี่หญิงของเจ้าคนเดียวหรือว่าด่าทั้งครอบครัวกันแน่? เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ได้หรือ?”“รู้หรือไม่ว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป สกุลหรงจะกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวง?”หรงซื่อเจ๋อฟังถึงตรงนี้แล้วเพิ่งจะเข้าใจความร้ายแรงของปัญหานี้กระนั้นก็ยังคงแก้ตัวเสียงเบา “ท่านพ่อ ข้าเพียงแต่คิดว่าราชเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 261

    นางหวังเห็นบุตรชายมีแต่แผลเต็มตัวไปหมด ก็ปวดใจเป็นอย่างมาก “ท่านพี่ ซื่อเจ๋อเองก็พูดถูกนะเจ้าคะ! สตรีที่ถูกสามีทอดทิ้งหย่าร้างมาอย่างจือจือ ถ้าไม่ใช่คนชั้นต่ำ แล้วจะเป็นคนสูงส่งหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรงเดือดดาลอย่างมาก “คำพูดในวันนี้ ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น! พวกเจ้าฟังให้ดีล่ะ นางมิใช่คนไม่ได้เรื่องอีกต่อไป และเป็นท่านหญิงที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งเองด้วย”“หากไปพูดข้างนอกว่านางชั้นต่ำ ก็เท่ากับตบหน้าฝ่าบาท! พวกเจ้าฟังเข้าใจได้จะดีที่สุด หากฟังไม่เข้าใจจริง ๆ นับตั้งแต่วันนี้ก็อย่าออกจากจวนอีก ขังตัวเองอยู่ในจวนนี้ไปทั้งชีวิตเสีย!”นางหวังเองก็ถูกเสียงดังลั่นของมหาราชครูหรงทำให้ตกใจเช่นกันพูดอยู่ในใจว่าต่อไปไม่ให้ด่านางว่าชั้นต่ำข้างนอก ด่าในจวนก็ได้แต่ปากก็รีบกล่าวไปว่า “ท่านพี่พูดมีเหตุผล ซื่อเจ๋อ รีบรับผิดกับพ่อเจ้าดี ๆ เสียสิ!”“ท่านพี่เองก็จริง ๆ เลย ซื่อเจ๋อทำไม่ถูก ท่านในฐานะพ่อสั่งสอนดี ๆ ก็สิ้นเรื่องแล้ว เหตุใดต้องถึงขั้นใช้กฎบ้านด้วย?”มหาราชครูหรงยังไม่หายโกรธ “เจ้าหลีกไปเสีย! ไอ้ลูกเวรนี่ เขารู้หรือไม่ว่าอัครมหาเสนาบดีเฉินไม่ได้เป็นแค่สมุหราชเลขาธิการ แต่ยังดำรงตำ

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status