บททั้งหมดของ ท่อนแขนมังกร: บทที่ 51 - บทที่ 60

127

Chapter 51. เจ้าเห็นเป็นสิ่งใด

แสงตะวันยังไม่ทันแต้มเปลี่ยนสีของท้องฟ้า ทหารยามเฝ้าประตูเมืองเห็นเงาร่างของบุรุษบนหลังอาชาตัวใหญ่กำลังพุ่งกระโจนเข้ามา ด้วยรู้ว่าอาชาตัวนี้เป็นของผู้ใดก็รีบเปิดประตูเมืองให้เข้ามาทันทีโดยที่ม้าไม่ได้ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อย จวบจนม้าหยุดที่ตำหนักดุจตะวันอันเป็นที่พำนักขององค์ชายเฟยเทียน หญิงสาวที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น ว่านหนิงเหมยไม่คิดเลยว่าตัวเองจะหลับใหลบนหลังม้าได้ วงแขนที่กอดกระชับคอยระวังไม่ให้นางกลิ้งหล่นจากหลังม้า วงแขนแข็งแกร่งแต่โอบกอดถ่ายทอดไออุ่นให้นางไม่หนาวเหน็บบนหลังม้า อ่อนโยนเสียจนหัวใจเต้นรัวของนางสงบลงเมื่อใดก็ไม่อาจรู้ได้ บุรุษร่างสูงก้มมองดวงหน้าที่ยังงัวเงียเหมือนเด็กน้อย มุมปากเผยรอยยิ้มไม่รู้ตัว ก้มกระซิบเรียกนาง “หนิงเหมย ถึงแล้ว” ‘หนิงเหมย’ เพียงเสียงทุ้มต่ำกระซิบที่ริมหูเรียกชื่อนาง หัวใจที่คิดว่าสงบกลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง คนผู้นี้เรียกชื่อนาง...เขาเรียกชื่อนาง...เขาเรียกชื่อนางเป็นครั้งแรก! ว่านหนิงเหมยเหลือบตามอง คนผู้นี้ยังคงสีหน้านิ่งขรึม
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
อ่านเพิ่มเติม

Chapter52. เรื่องเล่าลือ

ดูเหมือนใครๆ อยากยลโฉมหน้าของพระชายากันทั้งนั้น หลายคนหวังจะได้พบหญิงงามล่มเมืองที่ทำให้องค์ชายเฟยเทียนประกาศอภิเษกกับนางภายในสามวัน หญิงสาวที่ทำให้องค์ชายต้องไปปราบกบฏที่แคว้นฉิน ยึดบ่อเกลือกลับคืน สตรีที่ทำให้องค์ชายต้องเสด็จไปรับกลางดึกด้วยพระองค์เอง เรื่องราวเล่าลือเกี่ยวกับพระชายาหนิงเหมยมากมายเหลือเกิน สร้างความกระหายใคร่รู้และริษยาในคราเดียวกัน รุยหลงไม่อาจสะกดกลั้นความอยากรู้อยากเห็นของตนเองได้ แม้ถูกกำชับมิให้นางวุ่นวายภายนอก กระนั้นนางอาศัยความเป็น ‘คนโปรด’ ขององค์ชายเฟยเทียน ทำให้ไม่มีใครกล้าห้ามปรามนาง หญิงสาวเจ้าของเรือนร่างอวบอิ่ม สอบถามจากบรรดานางกำนัลจนรู้ว่าขณะนี้พระชายาอยู่ที่สวนด้านหลังของตำหนัก ฐานะของนางไม่ถูกยกย่องให้เป็นแม้กระทั่งนางสนม ได้เป็นเพียงแค่นางบำเรอรับใช้ในฮาเร็ม แต่เพราะเป็น ‘คนโปรด’ ทำให้นางเชิดหน้าก้าวออกจากฮาเร็มโดยที่ท่านอ๋องเองไม่ได้ว่ากล่าวตำหนิ จึงไม่แปลกนักถ้าเห็นรุยหลงมาด้อมๆมองๆ หาพระชายา เสียงหัวเราะสดใสกังวานดุจระฆังเงิน อบอวลด้วยบรรยากาศสดใสของแสงตะวันที่ลอดผ่านกิ่งไม้ทอดเงาสลั
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
อ่านเพิ่มเติม

Chapter53.  พระชายา

ว่านหนิงเหมยยิ้มให้รุยหลง เพียงแต่ไม่ใช่รอยยิ้มไร้เดียงสาเช่นเมื่อครู่ที่อยู่กับผู้อื่น นางวางตัวในตำแหน่ง ‘พระชายา’ อย่างไรก็ตาม นางสามารถใช้ตำแหน่งนี้ปกป้องตนเองได้ และสามารถกดอีกฝ่ายให้ต่ำต้อยแม้นางไม่ต้องการก็ตาม“หม่อมฉันได้ยินเรื่องพระชายา หวังใจว่าจะมีวาสนาได้คารวะสักครั้ง จึงละเมิดกฎออกจากเรือนมาพบพระชายาเพคะ”พูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน แต่แววตาเป็นประกายหยามเหยียด นางเผลอคิดไปว่า รุยหลงน่าจะมีกิริยาลุ่มลึกกว่านี้ ผู้หญิงคนนี้ดูง่ายเกินไป ตื้นเขินเสียจนว่านหนิงเหมยประหลาดใจที่องค์ชายเฟยเทียน ‘โปรด’หญิงสาวผู้นี้ “เมื่อรู้ว่ากฎย่อมเป็นกฎ โทษของการละเมิดกฎผู้รู้กฎย่อมรู้ดี” ว่านหนิงเหมยหรี่ดวงตาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ ด้วยการวางตัวและน้ำเสียงที่ใช้ ทำให้บรรดาบ่าวไพร่และจื่อเหยี่ยนได้ยินถึงกับสะท้าน พวกเขาไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้ “ข้าน้อยผิดไปแล้ว พระชายาโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วย” รุยหลงถึงกับทรุดเข่าลงนั่งเบื้องหน้า นางเปลี่ยนคำเรียกขานตัวเองให้ต่ำต้อยทันที แม้รู้ว่าองค์ชายเฟยเทียนถูกบังคับให้อภิเษกสมรสและได้ยินว่าทั้งสองไม่ได้นอนร่วมห้องเดียวกัน แต่กระนั้นนางก็ไม่อาจทำตัวข่มเหงอีกฝ่า
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
อ่านเพิ่มเติม

Chapter 54. วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับต้นไม้ดอกไม้

ไม่ว่านางไปทางใด จะได้ยินเสียงหัวเราะของนางอยู่เสมอ นานเพียงใดไม่อาจรู้ได้ เสียงหัวเราะสดใสของนางสลายม่านหมอกที่ปกคลุมตำหนักของเขาไปหมดสิ้น เวลาอันแสนสั้น ใครต่อใครต่างรักใคร่นาง “ได้ยินว่ารุยหลงไปหาเรื่องก่อกวนพระชายา....” ซิ่นเจี่ยงเอ่ยขึ้น รุยหลงเป็นหญิงที่องค์ชายเฟยเทียนเรียกมาปรนนิบัติบ่อยครั้งที่สุด เจิ้งหู่เจิ้งไฉได้ยินที่กุนซือเอ่ย ถึงกับทำหน้าตาถมึงทึง ราวกับจะไปลงโทษด้วยตนเอง“...แต่ก็ถูกพระชายาหนิงเหมยกำราบจนรีบวิ่งกลับฮาเร็มแทบไม่ทัน”กำราบ?คราวนี้องค์ชายเฟยเทียนกระตุกยิ้มที่มุมปาก นางคงเริ่มเรียนรู้แล้วสินะว่า ตำแหน่งพระชายาของนางนั้นทำสิ่งใดได้บ้าง“แล้วนางทำอะไรอีก” ถามแต่ยังวางสายตาที่ตัวอักษรบนหนังสือไม้ไผ่เบื้องหน้า อากาศยามค่ำของตุนหวงหนาวเหน็บนัก ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กนั้นหลับไปหรือยังเขาจงใจไม่เรียกพบนาง แสร้งทำเป็นไม่สนใจ แต่นางกระเถิบเข้าใกล้เขาทีละเล็กละน้อย เช่นเวลานี้เขาได้ยินเสียงผีผาลอยมาตามสายลม เสียงแว่วหวานชวนให้ผ่อนคลาย ทั้งที่เมื่อครู่เจิ้งหู่รายงานว่านางกลับเข้าห้องนอนไปแล้ว“วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่กับต้นไม้ดอกไม้ เจ็ดวันที่ผ่านมาแทบกลายเป็นคนสวนของตำหนัก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
อ่านเพิ่มเติม

Chapter 55. ข้าจะทำอะไรที่ไหนก็ได้

“เช่นนี้เรียกว่าเจ้ากำลังวางกำลังสอดแนมข้าอยู่หรือไม่” นางทำให้เขาตกตะลึงได้อย่างคาดไม่ถึง“ท่านอ๋องกล่าวเกินไปแล้ว” นางตอบแล้วกัดริมฝีปาก แสร้งเป็นหลุบตาลง ทว่าแอบช้อนตาขึ้นมอง นางอยากเห็นสีหน้าของเขา คนผู้นี้ซ่อนทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยเสียจริง“จากนี้เจ้าอยากทำอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองบุรุษเบื้องหน้า ประเมินดูสีหน้าครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตอบ“หม่อมฉันอยากดูรอบๆ ตุนหวง พี่จื่อเหยี่ยนบอกว่ามีวัดถ้ำโม่เกางดงามนัก ในวัดมีคัมภีร์และหนังสือต่างๆ มีพระพุทธรูปงดงามให้เคารพสักการะ แล้วก็ไปเนินทรายขนาดยักษ์ชื่อว่าหมิงซาชาน หมายถึง ‘ทรายก้องกังวาน’ แล้วก็อยากลองขี่อูฐดูสักครั้ง แล้วก็...”“นอกจากจะยึดตำหนักข้าแล้ว เจ้าคงมิได้คิดวางโครงข่ายยึดตุนหวงด้วยหรอกนะ” “มิกล้า มิกล้า...หม่อมฉันมิกล้าทำเช่นนั้นหรอกเพคะ” นางหัวเราะเสียงใส เรื่องนี้นางก็แอบคิดอยู่หรอกนะ“เห็นทีข้าคงต้องประเมินเจ้าใหม่” เขาโน้มหน้าลงดูดกลืนเสียงหัวเราะสดใสของนางเข้าสู่ปากของเขารวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว เรียวลิ้นเจือรสสุราเข้ามาเกี่ยวกระหวัดลิ้นน้อยๆ ของนาง ร่างบางถูกโอบกอดแนบชิดบดเบียดกับแผงอกกำยำ กรุ่นไอบุรุษเพศโอบล้อมกาย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
อ่านเพิ่มเติม

Chapter 56. ต้องใช้วิธีนี้

ว่านหนิงเหมยไม่คิดว่าต้องใช้วิธีนี้จริงๆนางวางหมากดำลงไปนานแล้ว ยกน้ำชาขึ้นจิบเป็นถ้วยที่สอง แต่ซิ่นเจี่ยงคลี่โบกไปมาเบาๆ แววตาจับจ้องบนกระดานหมากล้อม ราวสองชั่วยามก่อนหน้านี้กระดานนี้ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า มาบัดนี้ เห็นได้ชัดว่าหมากขาวที่เขากำอยู่นั้นเพลี่ยงพล้ำไปมาก ตั้งแต่คนผู้นั้นรู้เจตนาที่แท้ของนาง เขาสั่งบ่าวไพร่ย้ายกระถางต้นไม้ในห้องบรรทมออกจนหมด แม้กระทั่งแจกันดอกไม้ก็ไม่เอาไว้ ทั้งที่บอกแล้วว่านางคุยกับต้นไม้ดอกไม้ที่หยั่งรากลงดิน หรือไม่ก็อย่างกาฝากที่อาศัยดูดน้ำเลี้ยงของต้นไม้ การตีสนิทกับเหล่าพฤกษาทำให้รู้ว่าองค์ชายเฟยเทียนไม่ได้เรียกหญิงสาวนางใดมาปรนนิบัติและไม่ได้ไปที่ฮาเร็มด้วย นางไม่เข้าใจคือเหตุใดเขาจึงทำหมางเมิน นางสับสนกับท่าทีของชายผู้เป็นสามีตน เมื่อไม่สามารถหาคำตอบนี้ได้จากต้นไม้ดอกไม้ในตำหนัก นางล่อหลอกเจิ้งหู่เจิ้งไฉด้วยขนมหวานที่เข้าครัวทำเองกับมือ แต่ทั้งสองอ้ำอึ้ง ไม่กล้ากินขนมของนาง มิอาจปริปากได้ นางสงสารหน้าตาละห้อยละเหี่ยขององครักษ์ทั้งสองจึงยอมยกขนมให้พวกเขาไป สุดท้ายแล้ว นางใคร่อยากได้คำตอบยิ่ง จึงต้องลอ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
อ่านเพิ่มเติม

Chapter 57.  ไม่เข้าใจ

เจิ้งไฉหันมามองกุนซืออย่างรอคำยืนยัน เขาแอบฟังคนทั้งสองคุยกันมาครึ่งวันก็ยังไม่เข้าใจความหมายอะไรสักนิด รู้เพียงแค่ว่าพระชายาอยากไปเดินเล่นนอกตำหนัก แค่ไปตลาด ไปนอกตำหนักไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่นางเป็นพระชายาและองค์ชายเฟยเทียนจำกัดให้นางอยู่แค่ในตำหนักเท่านั้นว่านหนิงเหมยอยากไปตลาดจริงๆ เดิมทีนางชวนจื่อเหยี่ยน แต่จื่อเหยี่ยนยืนยันคำสั่งท่านอ๋อง ผู้อื่นมิรู้ก็คิดว่าองค์ชายเฟยเทียนรักใคร่เป็นห่วง ให้นางอยู่แต่ในตำหนัก แต่คนสนิททั้งสามนี้ย่อมรู้ว่า เขาระแวงว่านางจะวางสายข่าวรอบตุนหวงถ้านางจะทำเช่นนั้นจริง นางก็ทำเพื่อเขานั่นแหละ!สิ่งใดที่ต้องการ เพียงร้องขอออกไปนางกำนัลก็จะจัดหามาให้ แต่นางอยากเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่ตุนหวง การจะดูว่าผู้คนที่เมืองนั้นเป็นอยู่อย่างไร ควรไปดูที่ตลาด ที่ที่คนร่ำรวยหรือยากจนต้องไปทั้งนั้น“เอาอย่างนี้ กระหม่อมไปด้วยก็แล้วกัน” ถ้าถูกด่าหรือมีเรื่องอื่นใด เขาจะได้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย“ดีสิ ไปหลายคนสนุกดี”นางร่าเริงราวกับเป็นเด็กน้อย นี่ถ้าจ้าวต้าไม่ได้ไปร่ำเรียนกับชากกี นางต้องลากเขาไปด้วยกัน ราวกับกลัวกุนซือเปลี่ยนใจ นางรีบวิ่งกลับไปห้องส่ว
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
อ่านเพิ่มเติม

Chapter 58.   อารมณ์ร้าย

ซานม่านหวาจ้องมององค์ชายเฟยเทียนด้วยความหงุดหงิด อากาศบริเวณนี้ร้อนอยู่แล้ว ยังต้องมาเจอคนอารมณ์ร้ายอีก ต่อให้นางเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองอย่างไร ก็ไม่เคยเอาอารมณ์ร้ายของตนเองไปลงที่ผู้อื่น เอ่อ... นางคิดเช่นนั้นนะ หญิงสาวชักม้าเข้าไปใกล้ม้าขององค์ชายเฟยเทียนที่คุมเชลยซ่อมแซมกำแพงเมืองตุนหวงอยู่ “เห็นทีข้าต้องคุยกับท่านแล้ว” ซานม่านหวาพูดขึ้นอย่างสิ้นความอดทน แต่อีกฝ่ายกลับตวัดสายตาคมกริบจ้องมอง ซึ่งไม่ได้ทำให้นางหวาดกลัวเลยสักนิด “นี่ใช่เวลาคุยหรือไร” เมื่อเห็นว่าการข่มขู่ของเขาไม่ได้ผล บุรุษหนุ่มบนหลังอาชาสีดำย้ายสายตากลับมาที่เชลยนับร้อยเบื้องหน้า “ข้าคุมการซ่อมแซมไม่ดีรึ” นางขึ้นเสียงอย่างไม่เกรงกลัว แม้นางจะเป็นเพียงรองแม่ทัพก็เถอะ “ข้าทำงานได้ตามกำหนดเวลาที่วางไว้ท่านมาเร่งให้คนพวกนี้เหนื่อยตายหรือไร” “เฮอะ!” องค์ชายเฟยเทียนแค่นเสียงในลำคอ ปรายตามองหญิงสาวที่ชักม้าให้เดินตามเขามา “ไม่คิดว่าคนอย่างเจ้าจะเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็น”“คนตายมันใช้ประโยชน์ไม่ได้ ตายไปก็เป็นได้แค่อาหารของแร้งกาเท่านั้น” นางพูดอย่างที่คิด คนอย่างนางไม่ได้
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
อ่านเพิ่มเติม

Chapter 59.    คนอย่างเขานะรึจะรักใครได้

เพียงคิดถึง ใบหน้าของนางพลันปรากฏเบื้องหน้า รอยยิ้มและแววตาที่นางมองเขาเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น นางไม่เคยกลัวเขา... ไม่เคยเลยสักครั้งเดียว“ซานม่านหวา” เขาเรียกชื่อนางน้ำเสียงกระด้าง “เจ้าเรียกชื่อชายาของข้าสนิทสนมอย่างนี้เลยรึ”หญิงสาวหัวเราะออกมา “ข้านึกว่าท่านกลุ้มอกกลุ้มใจต้องมาใช้พลังงานกับเชลยพวกนี้ เพราะถูกเจ้าหมาหวงกระดูกตัวนั้นขัดขวางเสียอีก”“ดูเจ้าไม่ชอบมันเสียเท่าไหร่” เขาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง “มันไม่ใช่หมาธรรมดา”“ข้ารู้ว่ามันเป็นหมาป่า” นางเบ้ปาก ว่านหนิงเหมยมักพูดแย้งเสมอถ้านางเรียกมันว่าหมา“มากกว่านั้น” เขาพูดพลางกระตุ้นให้ม้าเดินกลับมาทางเดิม“อะไรล่ะ มันกลายร่างเป็นคนได้อย่างนั้นเหรอ” นางถามไม่จริงจัง แต่พอเห็นอีกฝ่ายเงียบไป สีหน้าเรียบนิ่งไม่มีท่าทีล้อเล่นของเขาทำให้นางหัวเราะออกมา“ข้าก็ว่าอยู่ ดูมันไม่เหมือนหมาป่าทั่วไป”“ดูเจ้าไม่ตื่นตกใจเลยสักนิด”“ข้าอยู่กับปีศาจอย่างท่านมากี่ปี ทหารปีศาจที่ท่านเรียกออกมาก็เคยเห็นมาแล้ว กับแค่หมาป่ากลายเป็นมนุษย์หรือมนุษย์เป็นหมาป่าจะแปลกตรงไหนเล่า" นางเองเคยได้ยินเรื่องเล่าในตอนเด็ก เคยคิดว่าผู้ใหญ่เล่าหลอกให้หวาดกลัว ไม่คิดว่ามี
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
อ่านเพิ่มเติม

Chapter 60.    ทำไมใบหน้านางดูหน้าซีดเซียวนัก?

องค์ชายเฟยเทียนที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมซิ่นเจี่ยงและเจิ้งหู่ เจิ้งไฉ สายตาของเขามองนางเป็นสิ่งแรก เห็นนางยืนนิ่งหน้าซีดกัดริมฝีปากตนเองก็ก้าวเร็วๆ เข้าไปหาหญิงสาวทันทีว่านหนิงเหมยรู้สึกเหมือนว่ามีคนหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า นางจึงรู้สึกตัวแล้วเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเป็น...“ท่านอ๋อง”“เจ้าเป็นอะไร” ถามพลางใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากของนาง “เจ้ากัดปากจนเลือดซึมแล้ว”“เปล่าเสียหน่อยเพคะ” นางถอยหลังไปครึ่งก้าวเพื่อให้พ้นนิ้วมือของเขา ถ้านางกัดปากจนเลือดออกนางคงรู้สึกถึงคาวเลือดไปแล้วเสียงหัวเราะหึๆ ของซิ่นเจี่ยงเรียกสติของทั้งสองหนุ่มสาว กุนซือ คลี่พัดโบกไปมาเดินผ่านทั้งสอง ทำเป็นไม่เห็นภาพเมื่อครู่แล้วไปนั่งที่เก้าอี้ของตน“รุยหลงก็มาด้วยรึ”“เจ้าค่ะท่านกุนซือ” รุยหลงทอดน้ำเสียง เห็นภาพเมื่อครู่แล้วบาดตาบาดใจเหลือเกิน ไม่เคยคิดว่าคนเยือกเย็นราวกับไร้หัวใจอย่างองค์ชายเฟยเทียนจะแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่นถึงเพียงนี้รุยหลง? องค์ชายเฟยเทียนเพิ่งเห็นว่ารุยหลงก็มาด้วย เขาขมวดคิ้วงุนงงว่าใครเป็นคนเรียกนางมา เขาแสร้งกระแอมไอแล้วจับมือของหญิงสาวเพื่อให้เดินไปนั่งข้างเขา แต่นางขืนตัวเล็กน้อย เขาจึงโน้มห
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
45678
...
13
DMCA.com Protection Status