ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม의 모든 챕터: 챕터 191 - 챕터 200

384 챕터

บทที่ 191

"หลายครั้ง การมีชีวิตอยู่นั้นยากกว่าการตายจาก" เยี่ยเฟิงเอ่ยเสียงเบา ตัวอักษรบนป้ายสุสานทำให้เขารู้สึกบาดตา"นั่นสิ การอยู่ยากกว่าการตายจากไปเสมอ เฉกเช่นเจ้าในยามนี้ เจ้าสำนักจากไปแล้ว ก็ไม่มีทางวางใจ""ก่อนจะไปที่หอสมุด ข้าได้พบกับเจ้าสำนักครู่หนึ่ง เขาบอกว่ามีของจะให้ข้า แล้วยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะบอกข้า ตอนนั้นราชทูตจากหลายแคว้นมีเหตุต้องการพบเจ้าสำนัก เจ้าสำนักจึงนัดข้า บอกให้ไปที่หอสมุดให้ได้ในช่วงค่ำ"กู้ชูหน่วนใจเต้นรัว "เขาได้บอกเจ้าหรือไหมว่าต้องการมอบสิ่งใดให้เจ้า หรือเป็นเรื่องสำคัญใด"เยี่ยเฟิงส่ายหน้า "ไม่แน่ใจ เขาเพียงแต่บอกว่า อย่าเพิ่งแพร่งพรายออกไปก่อน""เช่นนั้น การตายของเจ้าสำนักอาจจะเกี่ยวกับเรื่องที่เขาต้องการจะบอกเจ้าก็เป็นได้"เยี่ยเฟิงกอดเข่าตัวเอง ดวงตาเฉยชาจ้องมองไปที่สุสานอยู่นานกว่าจะละสายตาเขาครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ก็คิดไม่ออกว่าเจ้าสำนักต้องการจะบอกสิ่งใดกับเขากันแน่"ผู้ที่อยู่กับข้า ล้วนแต่ไม่มีจุดจบที่ดี เจ้า...อยู่ให้ห่างข้าหน่อยเถอะ""ข้าดวงแข็ง ฆ่าไม่ตายหรอก" กู้ชูหน่วนไม่ใส่ใจแต่อย่างใด หยิบกล่องไม้ดำกล่องหนึ่งออกมาแล้วโยนไปให้เยี่ยเฟิงเ
더 보기

บทที่ 192

"กระดิ่งภินวิญญาณนี่มีราคาไม่น้อยเลยนะ บวกกับหยกจันทร์เสี้ยวขององค์หญิงตังตัง มีราคาถึงห้าแสนตำลึงเงินเชียว หากเจ้าไม่รับไว้ ระวังข้าเปลี่ยนใจไม่ให้ขึ้นมานะ"กู้ชูหน่วนยัดกระดิ่งภินวิญญาณใส่มือเขาเยี่ยเฟิงกำกระดิ่งภินวิญญาณไว้ในมือราวกับคว้าโลกทั้งใบไว้ได้หากบอกว่าไม่ซาบซึ้งใจเลยก็คงโกหกแต่เพราะซึ้งใจ เขาจึงไม่รู้ว่าควรพูดอะไรไปชั่วขณะเขาต้องการกระดิ่งภินวิญญาณต้องการมากมีแต่ต้องได้กระดิ่งภินวิญญาณมาเท่านั้น พวกเขาถึงจะเป็นอิสระได้แต่เขาก็กลัวว่าจะสร้างความลำบากให้กู้ชูหน่วน"เลิกใช้สายตาเช่นนั้นมองเขาได้แล้ว สะอิดสะเอียนชวนขนลุก""ขอบใจ""ก็แค่กระดิ่งเน่าๆ อันเดียว มีสิ่งใดต้องขอบคุณ หากต้องการขอบคุณ เจ้าบอกข้ามาดีกว่า ว่าสามารถหาหญ้าตี้อวี้ได้จากที่ใดบ้าง""หุบเขาดูดวิญญาณ"มือของกู้ชูหน่วนสั่นรัว "หุบเขาดูดวิญญาณ ? เจ้าบอกว่าหุบเขาดูดวิญญาณมีหญ้าตี้อวี้เช่นนั้นหรือ""ใช่ แต่หุบเขาดูดวิญญาณนั้นผ่านเข้าไปได้ยากมาก ที่นั่นเป็นจุดเชื่อมต่อของเผ่าหมอ เผ่ามนุษย์ และถือเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแคว้นเย่ แคว้นฉู่ แคว้นจ้าว แคว้นหวาด้วย ถือเป็นจุดที่ไม่มีฝ่ายใดควบคุมดูแล ที
더 보기

บทที่ 193

"เขารอบรู้มีความสามารถไม่ใช่หรอกหรือ ใช้ฝีมือลายมือของตนหาเงินไม่ได้หรืออย่างไร ถึงต้องไปทำงานไร้เกียรติเช่นนั้น""นี่แค่เล็กน้อย เขายังเป็นนักบรรเลงฉินให้หออู๋โย่วด้วยนะ พวกเจ้ายังจำได้ใช่หรือไม่ ช่วงก่อนหน้านี้หออู๋โยวมีนักบรรเลงฉินที่ฝีมือดีมากมาใหม่ บรรเลงแค่คืนละเพลง เพราะการมาของนักเบรรเลงฉินผู้นั้น กิจการของหออู๋โยวจึงรุ่งเรืองขึ้นมาก นักบรรเลงฉินคนนั้นก็คือเยี่ยเฟิง""ว่าอย่างไรนะ...เป็นไปได้อย่างไร...เยี่ยเฟิงดูเฉยชาเย่อหยิ่ง เขาจะไปเป็นนักบรรเลงฉินในที่อย่างหออู๋โยวได้อย่างไร เจ้าต้องเข้าใจผิดแน่""คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เจ้ารู้ได้เช่นไรว่าเขาจะไม่ไป"คนในสำนักบัณฑิตต่างก็พากันรุมล้อมเข้ามาด้วยความสงสัย เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ "เป็นความจริงหรือ เจ้าไม่ได้พูดเหลวไหลใช่ไหม""อนุบ้านบ้านแปดที่เรือนข้าเพิ่งรับเข้ามาเป็นดาวเด่นประจำหออู๋โย่ว นางเห็นภาพเหมือนของเยี่ยเฟิงแล้วบอกกับข้าเอง ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อ ข้าจึงนำภาพไปที่หออู๋โยว พวกเจ้าทายดูว่าเป็นเช่นไร คนที่หออู๋โยวต่างก็บอกว่าคนผู้นั้นคือเยี่ยเฟิง นักบรรเลงฉินของพวกเขา"ซู่...ทุกคนต่างตกตะลึงเท่าที่พวกเขารู้ เพียงแค่ท
더 보기

บทที่ 194

หลี่เหิงพูดยังไม่ทันจบ ทว่าได้ยินเพียงแค่เสียงกระแทกพื้นดังตุบตับอย่างแรงหลังจากนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนประหนึ่งหมูถูกเชือดตามมาเขาเงยหน้าขึ้นไปทันที ทว่ากลับเห็นเหล่าพรรคพวกของตนไม่รู้ว่าถูกกู้ชูหน่วนทุ่มออกไปตั้งแต่เมื่อใด แต่ละคนต่างก็กำลังกอดแขนกอดขาพลางส่งเสียงร้องโอดโอยนี่มัน...นางทำได้เยี่ยงไรสหายทั้งกลุ่มของเขาล้วนแต่มีศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวกันหมดกู้ชูหน่วนค่อยๆ เยื้องย่างมาตรงหน้าเขาทีละก้าว แสยะหัวเราะ "เจ้าจะไสหัวออกไปเอง หรือจะให้ข้าโยนเจ้าออกไป"หลี่เหิงกลืนน้ำลายอึกๆ "ข้าบอกเจ้าไว้เลย ข้าเป็นถึงคุณชายสายตรงแห่งจวนกั๋วกง...อ้าก..."ยังไม่ทันสิ้นเสียง หลี่เหิงก็ถูกกู้ชูหน่วนโยนออกไปนอกหน้าต่างราวกับลูกไก่ตัวน้อย ร่างกระแทกกับพื้นอย่างแรง เจ็บจนหน้าตาเหยเก"เจ้าทำข้าเจ็บนัก กู้ชูหน่วน นังบ้า ข้า...""เพี้ยะๆๆๆ..."กู้ชูหน่วนฟาดฝ่ามือซ้ายขวาสลับกันลงไปบนหน้าใบหน้าเขาสิบกว่าทีในคราวเดียว ทำเอาหลี่เหิงกลายเป็นหมูหันไปเสียตรงนั้น"น้องสาม นี่เจ้ากำลังทำอะไร สำนักบัณฑิตห้ามไม่ให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทส่วนตัว เจ้าทำเช่นนี้จะถูกไล่ออกจากสำนักบัณฑิตได้ อาจารย์ทุกท่าน
더 보기

บทที่ 195

กู้ชูหน่วนสางผมที่ถูกลมพัดปลิวไม่เป็นทรง ราวกับได้ยินเรื่องตลกไร้สาระก็ไม่ปาน ดวงตาเรียวยาวแต้มรอยยิ้ม ชี้ไปที่หลี่เหิงด้วยท่าทางหยิ่งยโส "ให้ข้าขอโทษเขาหรือ ท่านอาจารย์ เกรงว่าท่านจะพูดกลับกันเสียแล้ว""กู้ชูหน่วน พวกข้าไม่ได้พูดจาว่าร้ายเจ้า แล้วก็ไม่ได้ทำร้ายเจ้า เป็นเจ้าเองที่เข้ามาถึงก็ลงมือทำร้ายกันก่อน เหตุใดพวกข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย""เจ้าไม่ได้พูดจาว่าร้ายข้า แต่พวกเจ้าดูหมิ่นหยามเกียรติเยี่ยเฟิงอย่างโจ่งแจ้งเปิดเผย ทำลายชื่อเสียงของเยี่ยเฟิง นี่ไม่ควรต้องขอโทษหรืออย่างไร""เดิมทีเยี่ยเฟิงก็เป็นนักบรรเลงฉินของหออู๋โยวอยู่แล้ว พวกข้าก็แค่พูดความจริง""เพี้ยะ..."ฝ่ามือหนึ่งฟาดเข้าไปอีกครั้งฟันของหลี่เหิงหักสามซี่ เจ็บจนเขาเกือบจะเป็นลมหมดสติไป"สามหาว กู้ชูหน่วน เจ้าบังอาจยิ่งนัก ต่อหน้าอาจารย์ เจ้ายังกล้าอวดดีเช่นนี้ คิดว่าพวกข้าไม่กล้าไล่เจ้าออกจริงๆ ใช่ไหม""เช่นนั้นท่านก็ไล่ข้าออกเลยเถอะ สถานที่ห่วยๆ เช่นนี้ เชิญให้ข้ามา ข้ายังไม่อยากมาเลย""เจ้า...ท่านผู้อาวุโส คนเช่นนี้ หากไม่ไล่ออก ชื่อเสียงของสำนักบัณฑิตหลวงจะยังเหลืออยู่อีกหรือ"เหล่าผู้อาวุโสดวงตาเป็นประกาย
더 보기

บทที่ 196

"เจ้าสำนักถูกปาดคอ ไม่รู้ว่าพวกท่านได้สังเกตอย่างละเอียดแล้วหรือไม่ ที่รอยแผลบนลำคอของเจ้าสำนัก แม้จะใกล้เคียงกันหมด แต่หากตรวสอบดูดีๆ ก็จะเห็นว่ารอยแผลฝั่งขวาลึกฝั่งซ้ายตื้น ซึ่งก็หมายความว่า เขาถูกสังหารด้วยดาบมือซ้าย รอยมีดที่คออาจารย์หรงก็เช่นกัน"อาจารย์สวีกระซิบกับอาจารย์ฉางและผู้อาวุโสอีกหลายท่านเสียงเบาๆ "นักชันสูตรทำการพิสูจน์อยู่นาน ถึงได้พบว่ารอยมีดบนคออาจารย์หรงและเจ้าสำนักล้วนแต่ขวาลึกซ้ายตื้น มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าผู้ที่ถนัดซ้ายเป็นคนลงมือฆ่า"เสียงเขาไม่ดังมาก แต่คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ตรงนั้นต่างก็ได้ยินกันหมดกู้ชูอวิ๋นเอ่ยเบาๆ "หากเยี่ยเฟิงจงใจปิดบังว่าตนเองถนัดซ้ายเล่า"เหล่าบัณฑิตในสำนักบัณฑิตต่างพากันเออออเห็นด้วย"หากเยี่ยเฟิงมีเป้าหมายในการมาที่สำนักบัณฑิต เช่นนั้นเขาปกปิดความจริงที่ว่าตนถนัดซ้ายไว้ตั้งแต่แรกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "หากเขาต้องการปิดบัง หากเขาเป็นคนร้ายจริง เหตุใดตอนที่ฆ่าคนกลับไม่ปกปิดใบหน้าตนเอง ทว่ากลับปล่อยให้พวกเจ้าเห็นโฉมหน้าของเขาได้""บางทีเขาอาจจะนึกถึงจุดนี้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว จึงจงใจเปิดเผยใบหน้า เพื่อจะได้พิสูจน์
더 보기

บทที่ 197

เงยหน้าขึ้นไป กลับเห็นเยี่ยเฟิงอยู่ในชุดสีฟ้าทั้งตัวกำลังค่อยๆ เยื้องย่างเข้ามาช้าๆ จากที่ไม่ไกลออกไปท่าทางของเขาสง่างาม โดดเด่นเกินคนธรรมดา เรือนผมดำขลับพริ้วไหวล้อกับสายลม รับกับใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเขา ราวกับเทพมาจุติ งามจนคนหยุดหายใจทันทีที่เขาปรากฏตัว ยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตก็พากันเข้ามาล้อมเขาไว้ ประหนึ่งพบศัตรูตัวฉกาจ จ้องมองเขาด้วยความระวังตัวอาจารย์ฉางโกรธเกรี้ยว "เจ้าก็คือเยี่ยเฟิงหรือ เจ้าฆ่าเจ้าสำนักและอาจารย์หรง แล้วยังกล้ากลับมา วันนี้ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะต้องเอาชีวิตเจ้ามาชดใช้ให้เจ้าสำนักให้ได้ ใครก็ได้เข้ามาจับเยี่ยเฟิง""ใครกล้าแตะต้องเขา ข้ามศพข้าไปก่อน"กู้ชูหน่วนเดือดดาล รังสีอาฆาตครุกรุ่นออกมาจากร่างนางอายุไม่มาก ทว่ากลับมีพลังแกร่งกล้า โดยเฉพาะดวงตาด้านนอกผ้าคลุมคู่นั้น เยือกเย็นจนน่ากลัว เด็ดขาด ดุดันทุกคนเกิดสั่นกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุช่างเป็นพลังงานที่รุนแรงยิ่งนักหญิงผู้นี้เป็นเพียงแค่พวกไร้ประโยชน์ที่ไม่มีวิทยายุทธใดๆ เลยแม้แต่น้อยจริงหรือเหตุใดพวกเขาถึงได้รู้สึกสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานปรากฏตั้งแต่เมื่อใด น้ำเส
더 보기

บทที่ 198

หลี่เหิงตะลึงงัน "ท่านผู้อาวุโส ท่านไม่ได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่"ผู้อาวุโสเฉินสีหน้าอึมครึม "ทำไม เจ้าสงสัยในวิชาการแพทย์ของข้า หรือสงสัยในมนุษยธรรมของข้า""ข้า...ข้าไม่บังอาจ...แต่...""ข้าก็พอจะเข้าใจวิชาการแพทย์อยู่บ้าง ให้ข้าลองดูหน่อยเถิด" อาจารย์สาวอีกคนเดินออกมา นางเป็นอาจารย์สาวเพียงคนเดียวในสำนักบัณฑิต เดิมทีก็เป็นที่รู้จักได้เพราะวิชาการแพทย์ อีกทั้งนางยังเที่ยงตรงมาโดยตลอดได้นางเป็นผู้ตรวจชีพจร ทุกคนก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้นอาจารย์ซู่จับชีพจรของเยี่ยเฟิง ใบหน้าที่นิ่งสงบพลันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มองเยี่ยเฟิงที่หน้าขาวซีดด้วยประหลาดใจคาดไม่ถึงเช่นเดียวกับผู้อาวุโสเฉิน ดวงตาที่ดูตกตะลึงคู่นั้นปิดไว้ไม่อยู่ทุกคนพากันสงสัยก็แค่ตรวจชีพจรเองไม่ใช่หรือเหตุใดถึงได้มีท่าทีตกตะลึงถึงเพียงนี้ อีกอย่าง ดูเหมือนจะยังมีท่าทางเห็นใจ...อาจารย์ฉางกล่าวด้วยความร้อนรน "เป็นเช่นไร"อาจารย์ซู่พยายมาสงบจิตที่ฟุ้งซ่านของตนเอง แล้วเอ่ยช้าๆ "มือซ้ายของเยี่ยเฟิง ตั้งแต่นิ้วมือไปถึงข้อมือ เคยผ่านการถูกหักกระดูกมาไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว มือซ้ายของเขาไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถใช้มีดได้ คนร้ายไม่มี
더 보기

บทที่ 199

"แม่เจ้า ยัยขี้เหร่ เหตุใดพวกเจ้ายังอยู่ที่นี่ ใต้เท้าม่อส่งคนจำนวนมากไปที่เสี่ยวเหอชุน ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาตั้งใจจะจับยายของเยี่ยเฟิงมาสอบสวนอย่างเข้มงวด" เซียวอวี่เชียนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาสีหน้าของเยี่ยเฟิงพลันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายสั่นเทาจนไม่อาจควบคุมได้ "เช่นนั้นท่านยายของข้าล่ะ ถูกจับแล้วหรือ""น่าจะ...ยังไม่...""ฟึบ..."พริบตาเดียว เยี่ยเฟิงหายวับราวกับสายลม อยู่ไกลออกไปหลายเมตรหากไม่ใช่เพราะยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตล้อมเขาไว้ เกรงว่าเขาคงจะหายไปจากสายตาตั้งนานแล้วผู้อาวุโสเฉินโบกมือ พลางเอ่ยปาก "ปล่อยเขาไปเถอะ"ทันทีที่ยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตหลีกทาง เยี่ยเฟิงก็หายตัวไปทันทีอาจารย์ฉางไม่พอใจ เริ่มบ่นอุบๆ อิบๆกู้ชูหน่วนโบกมือเรียกเซียวอวี่เชียนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด "เสี่ยวเชียนเชียน พวกเราก็ไปที่เสี่ยวเหอชุนดูหน่อยเถอะ"พูดจบ ไม่รอให้เหล่าอาจารย์ตอบตกลง พวกเขาก็วิ่งเหยาะๆ ออกไปจากสำนักบัณฑิตเรียบร้อยแล้ว"ไม่เคารพอาจารย์ ไม่เคารพอาจารย์เอาเสียเลย ท่านผู้อาวุโส นักเรียนที่ดื้อรั้นเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไล่ออก""ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ทุกคนแยกย้าย" ผู้อาวุ
더 보기

บทที่ 200

ผิดกับความปลาบปลื้มดีใจของเหล่าชาวบ้าน เยี่ยเฟิงกลับมีสีหน้าเฉยชา ราวกับว่าทุกสิ่งที่พวกเขาพูดไม่เกี่ยวกับเขาเหล่าชาวบ้านมองเยี่ยเฟิงด้วยสายตาเลื่อมใสศรัทธา พลางพูดคุยกับเขาหลายประโยคทว่าหลานของหัวหน้าหมู่บ้านกลับขัดจังหวะความยินดีของพวกเขา"พี่เยี่ยเฟิง เหตุใดพวกเขาถึงบอกว่าพี่ฆ่าคนล่ะ"รอยยิ้มของหัวหน้าหมู่บ้านชะงักงัน แววตาที่ขุ่มมัวเริ่มเกิดความกังวล "นั่นสิ เหตุใดพวกเขาถึงบอกว่าเจ้าฆ่าคน เพราะคนเหล่านั้นเห็นว่าเจ้าไม่มีทางสู้ถึงได้โยนความผิดมาที่เจ้าหรือ""เยี่ยเฟิง เรื่องนี้พอจะมีหนทางอธิบายให้ชัดเจนไหม หากไม่มีหนทาง เช่นนั้นเจ้าก็รีบหนีไป อีกาทั้งใต้หล้าดำเหมือนกันหมด พวกข้าหลวงเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่คนดีอะไร ชอบรังแกชาวบ้านสามัญชนอย่างพวกเรา""สำนักบัณฑิตสอบสวนจนกระจ่างแล้ว คนร้ายไม่ใช่ข้า เชื่อว่าไม่นานข่าวก็น่าจะไปถึงราชสำนัก""จริงหรือ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ดี เยี่ยเฟิง เจ้ารู้หรือไม่ สำนักบัณฑิตหลวงเป็นถึงสถานที่บรรดาผู้มีความสามารถล้วนแต่ใฝ่ฝั่น ขอเพียงแค่ออกมาจากที่นั่น ต่อไปจะต้องได้เป็นขุนนางใหญ่ เจ้ามีอนาคตที่ดี พวกข้าก็ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเจ้าแล้ว"กู้ชูหน่วนแล
더 보기
이전
1
...
1819202122
...
39
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status