เงยหน้าขึ้นไป กลับเห็นเยี่ยเฟิงอยู่ในชุดสีฟ้าทั้งตัวกำลังค่อยๆ เยื้องย่างเข้ามาช้าๆ จากที่ไม่ไกลออกไปท่าทางของเขาสง่างาม โดดเด่นเกินคนธรรมดา เรือนผมดำขลับพริ้วไหวล้อกับสายลม รับกับใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติของเขา ราวกับเทพมาจุติ งามจนคนหยุดหายใจทันทีที่เขาปรากฏตัว ยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตก็พากันเข้ามาล้อมเขาไว้ ประหนึ่งพบศัตรูตัวฉกาจ จ้องมองเขาด้วยความระวังตัวอาจารย์ฉางโกรธเกรี้ยว "เจ้าก็คือเยี่ยเฟิงหรือ เจ้าฆ่าเจ้าสำนักและอาจารย์หรง แล้วยังกล้ากลับมา วันนี้ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะต้องเอาชีวิตเจ้ามาชดใช้ให้เจ้าสำนักให้ได้ ใครก็ได้เข้ามาจับเยี่ยเฟิง""ใครกล้าแตะต้องเขา ข้ามศพข้าไปก่อน"กู้ชูหน่วนเดือดดาล รังสีอาฆาตครุกรุ่นออกมาจากร่างนางอายุไม่มาก ทว่ากลับมีพลังแกร่งกล้า โดยเฉพาะดวงตาด้านนอกผ้าคลุมคู่นั้น เยือกเย็นจนน่ากลัว เด็ดขาด ดุดันทุกคนเกิดสั่นกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุช่างเป็นพลังงานที่รุนแรงยิ่งนักหญิงผู้นี้เป็นเพียงแค่พวกไร้ประโยชน์ที่ไม่มีวิทยายุทธใดๆ เลยแม้แต่น้อยจริงหรือเหตุใดพวกเขาถึงได้รู้สึกสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานปรากฏตั้งแต่เมื่อใด น้ำเส
หลี่เหิงตะลึงงัน "ท่านผู้อาวุโส ท่านไม่ได้เข้าใจผิดใช่หรือไม่"ผู้อาวุโสเฉินสีหน้าอึมครึม "ทำไม เจ้าสงสัยในวิชาการแพทย์ของข้า หรือสงสัยในมนุษยธรรมของข้า""ข้า...ข้าไม่บังอาจ...แต่...""ข้าก็พอจะเข้าใจวิชาการแพทย์อยู่บ้าง ให้ข้าลองดูหน่อยเถิด" อาจารย์สาวอีกคนเดินออกมา นางเป็นอาจารย์สาวเพียงคนเดียวในสำนักบัณฑิต เดิมทีก็เป็นที่รู้จักได้เพราะวิชาการแพทย์ อีกทั้งนางยังเที่ยงตรงมาโดยตลอดได้นางเป็นผู้ตรวจชีพจร ทุกคนก็จะยิ่งมั่นใจมากขึ้นอาจารย์ซู่จับชีพจรของเยี่ยเฟิง ใบหน้าที่นิ่งสงบพลันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มองเยี่ยเฟิงที่หน้าขาวซีดด้วยประหลาดใจคาดไม่ถึงเช่นเดียวกับผู้อาวุโสเฉิน ดวงตาที่ดูตกตะลึงคู่นั้นปิดไว้ไม่อยู่ทุกคนพากันสงสัยก็แค่ตรวจชีพจรเองไม่ใช่หรือเหตุใดถึงได้มีท่าทีตกตะลึงถึงเพียงนี้ อีกอย่าง ดูเหมือนจะยังมีท่าทางเห็นใจ...อาจารย์ฉางกล่าวด้วยความร้อนรน "เป็นเช่นไร"อาจารย์ซู่พยายมาสงบจิตที่ฟุ้งซ่านของตนเอง แล้วเอ่ยช้าๆ "มือซ้ายของเยี่ยเฟิง ตั้งแต่นิ้วมือไปถึงข้อมือ เคยผ่านการถูกหักกระดูกมาไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว มือซ้ายของเขาไร้เรี่ยวแรง ไม่สามารถใช้มีดได้ คนร้ายไม่มี
"แม่เจ้า ยัยขี้เหร่ เหตุใดพวกเจ้ายังอยู่ที่นี่ ใต้เท้าม่อส่งคนจำนวนมากไปที่เสี่ยวเหอชุน ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาตั้งใจจะจับยายของเยี่ยเฟิงมาสอบสวนอย่างเข้มงวด" เซียวอวี่เชียนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาสีหน้าของเยี่ยเฟิงพลันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายสั่นเทาจนไม่อาจควบคุมได้ "เช่นนั้นท่านยายของข้าล่ะ ถูกจับแล้วหรือ""น่าจะ...ยังไม่...""ฟึบ..."พริบตาเดียว เยี่ยเฟิงหายวับราวกับสายลม อยู่ไกลออกไปหลายเมตรหากไม่ใช่เพราะยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตล้อมเขาไว้ เกรงว่าเขาคงจะหายไปจากสายตาตั้งนานแล้วผู้อาวุโสเฉินโบกมือ พลางเอ่ยปาก "ปล่อยเขาไปเถอะ"ทันทีที่ยอดฝีมือของสำนักบัณฑิตหลีกทาง เยี่ยเฟิงก็หายตัวไปทันทีอาจารย์ฉางไม่พอใจ เริ่มบ่นอุบๆ อิบๆกู้ชูหน่วนโบกมือเรียกเซียวอวี่เชียนด้วยหน้าตาเคร่งเครียด "เสี่ยวเชียนเชียน พวกเราก็ไปที่เสี่ยวเหอชุนดูหน่อยเถอะ"พูดจบ ไม่รอให้เหล่าอาจารย์ตอบตกลง พวกเขาก็วิ่งเหยาะๆ ออกไปจากสำนักบัณฑิตเรียบร้อยแล้ว"ไม่เคารพอาจารย์ ไม่เคารพอาจารย์เอาเสียเลย ท่านผู้อาวุโส นักเรียนที่ดื้อรั้นเช่นนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไล่ออก""ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ทุกคนแยกย้าย" ผู้อาวุ
ผิดกับความปลาบปลื้มดีใจของเหล่าชาวบ้าน เยี่ยเฟิงกลับมีสีหน้าเฉยชา ราวกับว่าทุกสิ่งที่พวกเขาพูดไม่เกี่ยวกับเขาเหล่าชาวบ้านมองเยี่ยเฟิงด้วยสายตาเลื่อมใสศรัทธา พลางพูดคุยกับเขาหลายประโยคทว่าหลานของหัวหน้าหมู่บ้านกลับขัดจังหวะความยินดีของพวกเขา"พี่เยี่ยเฟิง เหตุใดพวกเขาถึงบอกว่าพี่ฆ่าคนล่ะ"รอยยิ้มของหัวหน้าหมู่บ้านชะงักงัน แววตาที่ขุ่มมัวเริ่มเกิดความกังวล "นั่นสิ เหตุใดพวกเขาถึงบอกว่าเจ้าฆ่าคน เพราะคนเหล่านั้นเห็นว่าเจ้าไม่มีทางสู้ถึงได้โยนความผิดมาที่เจ้าหรือ""เยี่ยเฟิง เรื่องนี้พอจะมีหนทางอธิบายให้ชัดเจนไหม หากไม่มีหนทาง เช่นนั้นเจ้าก็รีบหนีไป อีกาทั้งใต้หล้าดำเหมือนกันหมด พวกข้าหลวงเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่คนดีอะไร ชอบรังแกชาวบ้านสามัญชนอย่างพวกเรา""สำนักบัณฑิตสอบสวนจนกระจ่างแล้ว คนร้ายไม่ใช่ข้า เชื่อว่าไม่นานข่าวก็น่าจะไปถึงราชสำนัก""จริงหรือ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ดี เยี่ยเฟิง เจ้ารู้หรือไม่ สำนักบัณฑิตหลวงเป็นถึงสถานที่บรรดาผู้มีความสามารถล้วนแต่ใฝ่ฝั่น ขอเพียงแค่ออกมาจากที่นั่น ต่อไปจะต้องได้เป็นขุนนางใหญ่ เจ้ามีอนาคตที่ดี พวกข้าก็ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเจ้าแล้ว"กู้ชูหน่วนแล
ณ จุดพักม้าราชทูตแคว้นจ้าวกู้ชูหน่วนกระโดดกำแพงข้ามไป ก่อนจะแอบเข้าไปในห้องนอนของอี้เฉินเฟยนางยืนกอดอกพิงประตูอยู่ด้านนอก ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มเอื่อยเฉื่อย มองดูอี้เฉินเฟยที่กำลังอาบน้ำอยู่หมอกไอน้ำอบอวล สายตาที่คู่หนึ่งจ้องมองไปที่เขาโดยไม่ปิดบัง ยากที่อี้เฉินเฟยจะไม่รู้สึกตัว เขากำลังหันหลังให้กู้ชูหน่วน มุมปากยกยิ้มฝืดเฝื่อน"คุณหนูสาม เจ้าบุกเข้ามาถึงจุดพักม้ากลางดึกเช่นนี้ เพื่อมาดูข้าอาบน้ำหรอกหรือ""ภาพชายรูปงามอาบน้ำ คงจะเจริญตาน่าดู"อี้เฉินเฟยหน้าแดงก่ำทั้งร่างของเขาเปลือยเปล่า กู้ชูหน่วนยืนพิงประตูอยู่ด้านนอกด้วยเครื่องแต่งกายที่เป็นระเบียบครบถ้วน จ้องเขาตาไม่กระพริบ ช่างทำให้เขาอึดอัดยิ่งนักเขากระอักอระอ่วน "จะให้ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้หรือไม่""เจ้าเปลี่ยนของเจ้าไป ข้าไม่ได้ขวางเจ้าเสียหน่อย""……"นางยืนจ้องเขาอยู่ตรงนั้น จะให้เขาเปลี่ยนได้อย่างไรระหว่างที่กำลังกลัดกลุ้ม กู้ชูหน่วนกลับหันหลังกลับไปทันควันหางตาอี้เฉินเฟยฉายแววประหลาดใจปราดหนึ่งหลายวันก่อน นางผู้นี้ยังมีท่าทีออกนอกหน้าชัดเจนขนาดนั้น วันนี้ได้โอกาสทั้งที เหตุใดนางถึงไม่เกี้ยวเขาสักหน
"ต่อให้ท่านต้องการให้ข้าไปเผ่าหมอกับท่าน อย่างไรก็ต้องให้เหตุผลกับข้าสักข้อไม่ใช่หรือ""ได้ยินมาว่าที่นั่นทิวทัศน์งดงาม ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่น""……"ทิวทัศน์งดงาม ?เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนบอกว่าเขาหมายวิญญาณทิวทัศน์งดงามสาเหตุที่เขาหมายวิญญาณมีชื่อเรียกเช่นนี้ ก็เพราะหลังจากที่เข้าไปในเขาลูกนั้นแล้ว สิ่งที่จะหลงเหลืออยู่มีเพียงแค่วิญญาณเท่านั้นนางผู้นี้ ไม่อยากให้เซียวอวี่เชียนไปผจญอันตรายกับนาง แต่ตัวเองก็ไม่รู้ทางไปเผ่าหมอ ทั้งยังไม่มีความมั่นใจที่จะบุกเข้าไปช่วยคนอื่น ถึงได้ลากเขามาด้วยยังมีหน้ามาหลอกเขาว่าที่นั่นทิวทัศน์งดงามอีกแม่นางผู้นี้ โหดร้ายยิ่งนัก ไม่กลัวว่าจะพาเขาไปตายบ้างเลยแม้จะเป็นเช่นนั้น อี้เฉินเฟยก็ยังคงหาม้าเร็วที่ดีที่สุดมาสองตัว แล้วพากู้ชูหน่วนมุ่งหน้าไปยังเขาหมายวิญญาณด้วยความเร็วแสงไม่นานนัก ทั้งสองก็ไปถึงที่ตีนเขาเมื่อยืนอยู่ตรงตีนเขา กู้ชูหน่วนรู้สึกเพียงแค่ลมหนาวชวนขนหัวลุกพัดผ่าน ภายในชั้นบรรยากาศมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ ไม่รู้ว่าบนยอดเขาจะมีคนตายไปเท่าไหร่"หลังจากเข้าไปในเขาลูกนี้ ก็จะเป็นเขตกองธงหลัน"กู้ชูหน่วนเงยหน้า ที่นี่มียอดเขาสูงต
"ไปกัน ตามข้ามา"อี้เฉินเฟยยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะกุมมือที่อ่อนนุ่มของนาง พานางมุ่งไปทางทิศใต้อย่างชำนาญทางกู้ชูหน่วนกวาดสายตามองดูฝ่ามือหนาใหญ่ของเขาผาดหนึ่ง นิ้วของเขาขาวเนียนเรียวยาว อีกทั้งยังอุ่นร้อน ถูกกุมไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่ๆ ของเขา ทำให้นางรู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกความรู้สึกนั้นมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ เป็นความเชื่อใจที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติกู้ชูหน่วนไม่ต่อต้านความรู้สึกนี้เขานำทางนางไปยังป้อมปราการเมืองทางทิศใต้บนป้อมปราการมีคนอยู่ประปราย ธงขนาดใหญ่ปักลายดอกกล้วยไม้แขวนอยู่ด้านบน อี้เฉินเฟยตีลูกสมุนที่อยู่รั้งท้ายแถวสองคนสลบ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าเขาออก แม้แต่หน้ากากกระโหลกบนใบหน้าก็ถอดออกมาด้วย"ใส่ชุดของพวกเขา พวกเราจะแฝงตัวเข้าไป"กู้ชูหน่วนไม่กระมิดกระเมี้ยน เพียงแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าตรงนั้นอย่างไม่เขินอายอี้เฉินเฟยหน้าร้อนผ่าว รีบหันไปอีกทาง สายตาเอ็นดูแฝงไว้ด้วยความระอา "คุณหนูสาม ชายหญิงไม่ใกล้ชิดกัน เจ้าทำแบบนี้จะดีหรือ"กู้ชูหน่วนกลอกตามองบนใส่ไปหนึ่งทีนางก็แค่ถอดเสื้อคลุมด้านนอกออกก็เท่านั้น ด้านในยังมีเสื้อผ้าอยู่อีกหลายชิ้น มีสิ่งใดให้หลบๆ ซ่อนๆ"ข้าเสร็จแล้ว
"พวกเจ้าเร่งมือหน่อย เชลยกลุ่มนี้ถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน หากมีสิ่งใดผิดพลาด ต่อให้พวกเจ้ามีร้อยหัว ก็ไม่พอให้กุดหรอกนะ""ได้ได้ได้" กู้ชูหน่วนพยักหน้าหงึกๆ ท่าทางนอบน้อม ก่อนจะตามอี้เฉินเฟยขึ้นกระเช้าลำที่หนึ่งไป สายตาเยือกเย็นพลันปรากฏออกมาในที่ที่ลับตาจากผู้อื่นแล้วหากนางทายไม่ผิด ฐานะของคนเหล่านี้คงจะใกล้เคียงกับเยี่ยเฟิง ล้วนแต่ถูกส่งไปบำเรอนายท่านหลันนึกถึงเรื่องที่เยี่ยเฟิงถูกนายท่านหลันขืนใจตั้งแต่ห้าขวบ ไฟโกรธของกู้ชูหน่วนก็ลุกโชนขึ้นมาเพราะสวมหน้ากากกระโหลก และใส่ชุดโครงกระดูก พวกเขาสองคนแฝงตัวอยู่ในกลุ่มจึงไม่เป็นที่สังเกตใดๆ ผ่านไปอย่างราบรื่นตลอดเพียงแต่เมื่อถึงเขาลูกที่ห้า พวกเขาก็ถูกกันเอาไว้นอกจากแสดงป้าย พวกเขายังต้องหยดเลือดของตนลงในถ้วยที่มีน้ำอยู่ครึ่งถ้วยสมุนเผ่าหมอด้านหน้าต่างก็กัดนิ้วของตัวเอง แล้วหยดเลือดลงไปในถ้วย หลังจากที่เลือดผสมเข้ากับน้ำใสในถ้วย กลิ่นคาวเลือดก็คุ้งไปทั่ว ตามมาด้วยควันดำลอยอบอวลอยู่รอบๆกู้ชูหน่วนเหร่มองอี้เฉินเฟย ส่งสายตาถามเขาว่า ยามนี้จะบุกเข้าไปหรือหาวิธีแฝงตัวเข้าไปอี้เฉินเฟยส่งสายตาบอกให้นางวางใจ ก่อนจะกัดนิ้วตัวเอง
"แควก......"นายท่านหลันจับคอเขาไว้และยิ้มอย่างน่าขนลุก "เงื่อนไขของเจ้า ข้าไม่มีทางรับปาก แต่ข้ามีข้อเสนอให้เจ้า"มือใหญ่หยาบของเขา ลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของเยี่ยเฟิงอย่างพึงพอใจ มองดูเขาใบหน้าแดงก่ำเพราะหายใจไม่ออก"เจ้าจงส่งมอบยาถอนพิษมาแต่โดยดี มิฉะนั้นข้าจะหักกระดูกของเขาออกทีละชิ้น จากนั้นจะมอบเขาให้กับบรรดาสมุนนับพันนับหมื่นของเผ่าหมอ แน่นอน ข้าจะให้เจ้าชมอยู่ข้างๆ เขา""อ่อ...... เจ้าอย่าหวังว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะมาช่วยเจ้าเลย เพราะหัวหน้าเผ่าหมอยุ่งมาก ไม่มีเวลาสนใจเรื่องของเผ่าหมอ สมุนจำนวนมาก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาดำรงอยู่"กู้ชูหน่วนไม่ใช่คนโง่เขาได้ยินออกว่า ความหมายของนายท่านหลันคือ พวกเขายังเลี้ยงดูสมุนกลุ่มหนึ่งไว้เป็นการส่วนตัว เป็นสมุนที่แม้แต่หัวหน้าเผ่าหมอก็ไม่รู้แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเนายท่านหลันถึงกลัวว่าเรื่องที่เขาจะจัดการกับนางจะถูกหัวหน้าเผ่าหมอรู้เข้าแต่ต้องยอมรับว่าความคิดนี้ต่ำช้าจริงๆคำพูดของนายท่านหลันเพิ่งจบ นิ้วก้อยซ้ายของเยี่ยเฟิงก็ถูกหัก เสียงดังกรอบเยี่ยเฟิงกัดฟันแน่น ไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย ราวกับว่าสิ่งที่ถูกหักไม่
"ตู้ม......"ฝ่ามืออีกครั้งที่พลาดเป้าไป ทำให้ สวีซานเหนียงโกรธจัด "เจ้ามัวแต่หลบเลี่ยง คิดว่าทำแบบนี้จะหนีพ้นงอย่างนั้นหรือ?""อย่างน้อยก็ช่วยรักษาชีวิตข้าไว้ได้"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะสวีซานเหนียงก็โจมตีด้วยกระบวนท่ารอยประทับหัตถ์โลหิตอีกครั้ง คราวนี้ กู้ชูหน่วน ไม่ได้ถอยหนี แต่กลับพุ่งเข้าใส่"ตู้ม......"ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงร่างกายของกู้ชูหน่วนราวกับว่าวที่ขาดสาย ลอยกระเด็นไปข้างหลัง เลือดคำโตพุ่งออกมา อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรงสวีซานเหนียงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นางมองกู้ชูหน่วนอย่างผู้ชนะ"ยัยขี้เหร่ ใครที่โดนรอยประทับหัตถ์โลหิตของข้า ไม่มีใครรอดชีวิตไปได้สักคน"กู้ชูหน่วนบ้วนเลือดในปากทิ้ง กัดฟันพยุงร่างลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลบนร่างของนางยังคงแผ่รังสีแห่งความดื้อรั้น ไม่ยอมแพ้ และความหยิ่งผยอง"อย่างนั้นรึ แต่ข้ากู้ชูหน่วนชอบทำลายกฎอยู่แล้ว อีกอย่าง ต่อให้เจ้าตาย ข้าก็อาจจะไม่ตายก็ได้"นางคลึงนิ้วของนาง ร้อนจนเจ็บปวดจริงๆในโลกใบนี้ หากไม่มีวิทยายุทธ ก็คงจะลำบากจริงๆทุกคนต่างมองนางด้วยความประหลาดใจรรอยหัตถ์โลหิตของสวีซานเหนียง เป็นพิษและมีอุณหภูมิสู
"ตู้ม ตู้ม ตู้ม......"ผ่านไปอีกหลายฝ่ามือ กู้ชูหน่วนได้แต่หลบเลี่ยงไม่ตอบโต้แม้ว่านางจะหลบได้ทุกครั้ง แต่องครักษ์ลับก็ยังคงร้อนใจอย่างมาก และเพราะเสียสมาธินี่เอง ทำให้องครักษ์ลับสองคนถูกทวนฟางเทียนฮว่าจี่ของสวีเจิ้นฟาดเข้าที่ศีรษะ สมองของพวกเขาแตกกระจายออกมา เสียชีวิตอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุเยี่ยเฟิงดิ้นรนลุกขึ้นยืน "นางเป็นพระชายาของเทพสงคราม หากพวกเจ้าฆ่านาง เทพสงครามจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่""เพียะ......"นายท่านหลันตบหน้าเขาอีกครั้ง เขาลงมือหนักมาก การตบครั้งนี้ทำให้เลือดจากหูของเยี่ยเฟิงไหลออกมาจำนวนมาก ไม่รู้ว่าแก้วหูของเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่นายท่านหลันจับคอเสื้อของเขา ใบหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัสอันดุดันและกระหายเลือดของเขาเข้ามาใกล้เขา ราวกับปีศาจจากขุมนรก และเค้นคำพูดออกมาทีละคำ"เจ้าใส่ใจนางมากขนาดนั้นเลยหรือ? เพื่อนาง ถึงกับกล้าขัดคำสั่งของข้า เพื่อนาง ถึงกับยอมสละชีวิตของตัวเอง? เฟิงเอ๋อร์ ข้าว่าเจ้าคงลืมตัวตนของตัวเองไปแล้วจริงๆ""เฮือก......"เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดของเยี่ยเฟิงถูกฉีกออกต่อหน้าเขา ดวงตาของนายท่านหลันที่เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจและกระหายเลือดขยายใหญ่ข
เยี่ยเฟิงกระอักเลือดสดออกมาหนึ่งคำโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว หน้าอกของเขาก็ถูกใครบางคนเหยียบอย่างแรง แรงกดนั้นทำให้กระดูกซี่โครงของเขาหักไปหลายซี่ เสียงกระดูกแตกดังกร็อบแกร็บ เขารู้สึกเจ็บปวดจนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ขอเพียงเจ้าอ้อนวอนข้า บางทีข้าอาจพิจารณาไว้ชีวิตเจ้า"เยี่ยเฟิงเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่ว่าหน้าอกของเขาจะเจ็บปวดเพียงใด เขาก็ยังคงดื้อรั้นที่จะไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาสิบสามปีที่ราวกับตกอยู่ในขุมนรก เขาได้พิสูจน์เรื่องนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไร ก็ไร้ประโยชน์ จะยิ่งกระตุ้นความโหดเหี้ยมในใจของอีกฝ่าย ทำให้เขาได้รับความอัปยศมากขึ้นเท่านั้นกู้ชูหน่วนวางแม่เฒ่าเยี่ยลง กำหมัดแน่นจนข้อต่อกระดูกดังกร็อบแกร็บ และตวาดว่า "ปล่อยเขา""ปล่อยเขา? เจ้ามีสิทธิอะไรมาสั่งให้ข้าปล่อยเขา?" นายท่านหลันเหลือบมองกู้ชูหน่วน ใบหน้าเหลี่ยมของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจนอกจากฐานะของพระชายาแห่งเทพสงครามและเพื่อนของหัวหน้าเผ่าหมอแล้ว นางยังมีอะไรอีกหรือไม่?ทำไมถึงได้หยิ่งผยองเพียงนี้?สวีซานเหนียงบิดคอองครักษ์ลับที่อยู่ใกล้นางจนตายคาที่ นางเดินไปหากู้ชูหน่วนด้วยท่าทางยั่วยว
อินต้ากุ่ยกับนายท่านหลันสบตากันกัน พวกเขาล้วนเห็นเจตนาฆ่าในดวงตาของอีกฝ่ายกู้ชูหน่วนอาจจะเกี่ยวพันกับสำนักซิวหลัว และยังฆ่าคนแคระเจี่ยน ยุยงเทพสงครามให้โจมตีเขาหมายวิญญาณ ทำให้พวกเขาล้มตายไปจำนวนมาก แม้แต่เขาหมายวิญญาณก็ถูกทำลายไปเกินครึ่งหากไม่ฆ่านาง ก็คงไม่สามารถคลายความแค้นในใจได้ขอเพียงคนเหล่านี้ถูกฆ่าทั้งหมด ถึงเวลานั้นก็ไม่มีหลักฐาน และหัวหน้าเผ่าหมออาจจะไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าด้วยซ้ำสิ่งที่นายท่านหลันเกลียดที่สุดคือความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของนางกับเยี่ยเฟิงเยี่ยเฟิงเป็นคนของเขา ชีวิตนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถแตะต้องได้ แม้แต่ความตายก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่ฆ่าได้กู้ชูหน่วนถอยหลังไปหลายก้าวและเอ่ยเสียงดังว่า "พวกเจ้ารีบไปเร็ว ไปหาเย่จิ่งหาน""ไป? นอกจากนรกแล้ว พวกเจ้าไปที่ไหนไม่ได้ทั้งสิ้น"เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานและพวกนายท่านหลันยืนอยู่ในทิศทางเดียว แล้วก่อตัวเป็นวงล้อมปิดกั้นเส้นทางของพวกเขาพวกเขาทั้งหก ไม่ว่าใคร ล้งนเป็นยอดฝีมือผู้เลื่องชื่อแห่งยุค โดยเฉพาะนายท่านหลันกับอินต้ากุ่ย ซึ่งหาคู่ต่อสู้บนโลกได้ยากยิ่งแต่ที่นี่ พวกเขาทั้งหมดเป็นคนแก่และคนพิการ ไม่ม
กู้ชูหน่วนค่อนข้างรู้สึกแปลกๆ และเมื่อหันศีรษะไปเห็นนายท่านหลันผู้มีสีหน้ามืดมนจนน่ากลัว นางก็ตกใจจนตัวสั่น"คนทำให้คนตกใจจนตายได้เลยนะ"ผู้พิทักษ์ซานเงื้อค้อนฟาดไปข้างหน้าด้วยความโกรธ "นังผู้หญิงสมควรตาย ไม่เพียงยุยงเทพสงครามโจมตีเขาหมายวิญญาณ ยังกล้ายุแหย่ให้แตกแยกกันอีก สมควรตายนัก"สีหน้าขององครักษ์ลับเปลี่ยนไป พลิกดาบยาวในมือ ปัดป้องค้อนเหล็กขนาดใหญ่"ปัง ปัง ปัง......"เพียงชั่วครู่ ก็ปะทะกันไปหลายสิบกระบวนท่าแล้ว"ตู้ม......"เสียงดังสนั่น องครักษ์ลับกระอักเลือด ผู้พิทักษ์ซานกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ชัยชนะและความพ่ายแพ้จึงปรากฏขึ้นทันทีกู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ทำไม พูดความจริงแล้วโกรธจนทนไม่ได้รึ? นายท่านหลัน ไม่ใช่ว่าข้าว่าเจ้านะ เจ้านี่หน้าไม่อายเสียจริงๆ พวกเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานเห็นเจ้าเป็นพี่ เป็นสหาย แต่เจ้ากลับหลอกแม้กระทั่งพวกเขา"พลังภายในมือของนายท่านหลันรวมตัวเป็นลูกไฟ และเห็นได้ชัดว่าขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาที่ไร้ซึ่งอุณหภูมินั้นก็จ้องมองไปที่กู้ชูหน่วน ราวกับว่ากู้ชูหน่วนกลายเป็นคนตายไปแล้วเยี่ยเฟิงคลานขึ้นอย่างยากลำบาก และเตือนด้วยเสียงสั่นเครือ
สวีซานเหนียงหัวเราะเยือกเย็น "นังหนู ข้าจะบอกพวกเจ้าตามตรงแล้วกัน นายท่านหลันกับพวกเราสนิทกันนัก เจ้าจะว่าร้ายผู้ใดก็ได้ แต่กลับชี้ไปที่เขา เจ้าคิดว่าพวกเราจะเชื่อเจ้าหรือ อีกอย่าง พวกเราก็เพิ่งกลับมาจากเขาหมายวิญญาณ"กู้ชูหน่วนเหยียดหยันในใจช่างสมเป็นปลาข้องเดียวกันเสียจริง มีเพื่อนที่วิปริตอย่างนายท่านหลัน ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาน่าขยะแขยงขนาดนี้กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นตกใจ "เป็นไปไม่ได้ ในเมื่อพวกเจ้าเป็นเพื่อนของนายท่านหลัน นายท่านหลันยังหลอกพวกเจ้าได้ลงอีกหรือ"สวีซานเหนียงและคนอื่นๆ ขมวดคิ้วมุ่นกู้ชูหน่วนถอนหายใจอย่างจนปัญญา "เจ้าคิดว่าเหตุใดหานอ๋องถึงส่งทหารไปที่เขาหมายวิญญาณเล่า เป็นเพราะข้าอย่างนั้นหรือ พวกเจ้าช่างใสซื่อเหลือเกิน เทพสงครามบุกเขาหมายวิญญาณ เพียงเพราะกระดิ่งภินวิญญาณอยู่ที่นายท่านหลันก็เท่านั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะยอมทำเพื่อสตรีเพียงผู้เดียว ทั้งยังเป็นหญิงอัปลักษณ์ เพื่อผิดใจกับหัวหน้าเผ่าหมอได้อย่างไร"เดิมทีตีเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานให้ตาย พวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของกู้ชูหน่วนแต่เหตุการณ์ตรงหน้า คำพูดนี้ของนาง ฟังดูมีเหตุผลยิ่งนักเทพสงครามคือผู้ใด เขาต้อง
เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญที่เลื่องชื่อในยุทธภพ โดยเฉพาะอินต้ากุ่ย ลูกพี่ใหญ่ของเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน วิทยายุทธสูงล้ำถึงขั้นที่แม้แต่เทพและปีศาจก็ไม่อาจคาดเดา แทบจะสูสีคู่คี่กับนายท่านหลันได้เลยยามนี้พวกเขาทั้งสามปรากฏตัวขึ้นที่นี่พร้อมกัน คิดว่าต้องไม่ประสงค์ดีเป็นแน่องครักษ์ลับคุ้มกันกู้ชูหน่วน พูดเสียงกร้าว "พวกเราคือคนของเทพสงครามหานอ๋อง ใต้เท้าไม่ใช่คนของเผ่าเทียนเฝิน แล้วก็ไม่ใช่คนของเผ่าหมอ จะช่วยไว้หน้ากันได้หรือไม่"จู่ๆ สวีซานเหนียงก็หัวเราะออกมาด้วยความคุ้มคลั่ง ดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังเยี่ยเฟิงที่บาดแผลเต็มตัว มีทั้งความชื่นชอบ ความโกรธ ซับซ้อนยากจะเข้าใจ"ไว้หน้าพวกเจ้างั้นรึ ตอนนั้นที่นังเด็กนั่นกับเจ้าเด็กคนนั้นฆ่าพี่น้องของข้า เคยไว้หน้าพวกข้าหรือไม่"ดวงตาทั้งสองข้างของสวีเจิ้นบอดสนิท มองไม่เห็นรูม่านตา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด "ยังมีดวงตาของข้า ลูกตาทั้งสองข้างของข้าถูกควักออกไป ล้วนแต่เป็นเพราะพวกเจ้า แค้นนี้ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องสะสางให้รู้เรื่อง"แม้ตาทั้งสองข้างของสวีเจิ้นจะมืดบอด แต่ความสามารถในการฟังกลับเป็นเล
ด้านบนมีค้างคาวกินคน ด้านล่างมีฝูงงูพิษวิธีการเช่นนี้ช่างโหดร้ายเกินไปองครักษ์ลับพากันเลียนแบบฝูกวง ใช้กำลังภายในของตนโจมตีฝูงค้างคาว พยายามปกป้องกู้ชูหน่วนสุดกำลังที่ตนมีกู้ชูหน่วนเอ่ย "เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ฝูกวง เจ้าคิดหาวิธีตามหาผู้อาวุโสที่แซ่ตงผู้นั้น แล้วคุมตัวนางไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเราไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้แน่""แต่หากข้าน้อยไปแล้ว นายหญิงจะทำเช่นไร""ข้ามีวิธีของข้า ข้าจะคุ้มกันเจ้า เจ้ารีบไป ไม่เช่นนั้นรอจนเจ้าใช้กำลังภายในหมด อยากจะจัดการนางก็คงไม่ไหวแล้ว"ฝูกวงกวาดสายตามองดูสถานการณ์การต่อสู้รอบๆสภาพการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นักผู้ใต้บัญชาของเย่จิ่งหานแต่ละรายต่างได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยเยี่ยเฟิงบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังต้องปกป้องแม่เฒ่าเยี่ย ไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้วที่ยังสู้ได้ก็มีเพียงแค่เขากับองครักษ์ลับของเย่จิ่งหานจำนวนไม่กี่คนหากประวิงเวลาต่อไป เกรงว่าพวกเขาจะต้องตายเพราะใช้กำลังภายในจนหมดจริงๆคิดได้เช่นนี้ ฝูกวงจึงทำได้เพียงแค่กัดฟันพูด "ข้าพอจะรู้ตำแหน่งที่นางอยู่ นายหญิง อดทนไว้ ข้าน้อยจะใช้เวลาให้น้อยที่สุดหานางให้เจอ แล้วจะจัดการนางเสีย""ด