All Chapters of หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก: Chapter 471 - Chapter 480

526 Chapters

บทที่ 471

“อย่าว่าแต่นางเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์เลย แม้แต่ฝ่าบาทเสด็จมา ก็ยังต้องเคารพผู้อาวุโส หากนางกล้าลงไม้ลงมือกับข้า ท่านลองดูสิว่าคนเหล่านั้นจะรุมประณามนางจนจมดินหรือไม่!”“ปึง!”จงหย่งโหวกระแทกหนังสือในมือลงบนโต๊ะโดยตรง“เลิกวางตัวเป็นผู้อาวุโสแล้วไปข่มผู้อื่นเสียที ถึงแม้ว่าเวินซื่อนางจะไม่กล้า แต่เจ้าลองดูคนข้างกายคนอื่นๆ สิว่า พวกเขากล้าหรือไม่?”“ไม่ต้องพูดถึงท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ม่อโฉวซือไท่แห่งอารามสุ่ยเยว่นั่น แม้กระทั่งพี่ใหญ่ของเจ้ายังกล้าตี แล้วจะไม่กล้าตีเจ้าหรือ?”เวินหย่าลี่ได้ยินดังนั้น ก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะ ก่อนจะพึมพำว่า “ซือไท่คนหนึ่งแล้วอย่างไร ตอนนั้นพี่ชายของข้าไม่ตอบโต้ก็เพราะไม่อยากทำร้ายผู้หญิงเท่านั้น ไม่เช่นนั้นนางคงถูกพี่ชายข้าจัดการไปนานแล้ว ยังคิดจะมาจัดการข้าอีก? หึ”จงหย่วนโหวยกมือขึ้นปิดตำราหมากรุก แล้วโยนลงบนโต๊ะ กล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในเมื่อเจ้ามีความคิดเป็นของตัวเองเช่นนี้ แล้วจะฟังคำพูดของข้าไปทำไม? ไปหาพี่ใหญ่ของเจ้าสิ”เวินหย่าลี่หันกลับไปมอง ก็รู้ว่าเขาโกรธจริงๆ แล้ว จึงรีบยอมแพ้แล้วกล่าวว่า “ได้ๆๆ ข้าไม่พูดแล้วก็ได้ พอใจหรือยัง? ข้าฟังท่า
Read more

บทที่ 472

“พี่สี่ เมล็ดพันธุ์สมุนไพรและต้นกล้าที่ซื้อมาถึงหมดแล้ว คนงานและแปลงสมุนไพรก็เตรียมพร้อมแล้วนะ พวกเรารออะไรอยู่ล่ะ? หรือว่าเราจะเริ่มปลูกตอนนี้เลยดี?”ภายในลานบ้านของเวินอวี้จือ เวินเยวี่ยถือสมุดบัญชีแล้วพลิกดูสองสามครั้งอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เอ่ยถามเวินอวี้จือตรงๆ ก่อนจะหมดความอดทน“นาง...พี่หญิงห้าคนนั้นนำหน้าพวกเราไปก้าวหนึ่งแล้ว ปลูกไปเกือบเดือนหนึ่งแล้ว ถ้าพวกเรายังรอต่อไป ถึงตอนนั้นก็จะตามไม่ทันแล้ว”“น้องหกอย่าใจร้อน”เวินอวี้จือก็กำลังพลิกดูอะไรบางอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่อยู่ในมือเขาไม่ใช่สมุดบัญชีเมื่อดูเนื้อหาข้างในอย่างละเอียด จะเห็นได้ชัดว่าเป็นสมุดบันทึกการเพาะปลูกสมุนไพรเล่มหนึ่งหากเวินซื่ออยู่ที่นี่ในตอนนี้ จะต้องพบว่า ลายมือในสมุดบันทึกเล่มนี้คุ้นตาเป็นพิเศษ“สมุดบันทึกการปลูกสมุนไพรที่ท่านพ่อให้มาเล่มนี้ละเอียดมาก เพียงแค่ปลูกสมุนไพรตามวิธีการข้างบนนี้ ก็จะทำให้สมุนไพรของเราเติบโตทันเวลาได้อย่างแน่นอน”เวินเยวี่ยได้ยินดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังสมุดบันทึกในมือของเขา “จริงหรือ? เก่งขนาดนี้เชียวหรือ นี่เป็นสมุดบันทึกที่ใครเขียนกัน? หรือไม่ก็ให้ท่านพ่อไปสืบด
Read more

บทที่ 473

ไม่นานนัก ชุยเส้าเจ๋อก็มาเคาะประตู“น้องเยวี่ยเอ๋อร์ เจ้ามาอยู่ที่นี่กับน้องสี่ได้อย่างไร?”ทันทีที่เห็นชุยเส้าเจ๋อ สีหน้าอ่อนโยนบนใบหน้าของเวินอวี้จือก็จางหายไปเขาไม่ลืมว่าชุยเส้าเจ๋อผู้นี้เป็นคนเจ้าชู้ ตอนที่ถอนหมั้นกับเวินซื่อ ก็ยังอยากจะแต่งกับน้องหกของเขา แถมภายหลังยังคิดจะจับปลาสองมืออีก ไม่ดูตัวเองเลยว่าคู่ควรหรือไม่คิดว่าจวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาเป็นสถานที่หาความสุขส่วนตัวหรือไร ถึงได้คิดจะเสวยสุขท่ามกลางภรรยาหลายคนเขากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “น้องหกเป็นน้องสาวของข้า มานั่งเล่นในลานบ้านของพี่สี่อย่างข้า มีปัญหาอะไรหรือ?”“เอ่อ...แน่นอนว่าไม่มีปัญหา”เขาก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนว่าวันนี้เวินอวี้จืออารมณ์ไม่ค่อยดีจึงสำนึกผิดเล็กน้อย แต่ชุยเส้าเจ๋อก็สำนึกผิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นรู้ว่าคำพูดที่ตนเองเคยพูดกับเวินซื่อเมื่อก่อนนั้น ดูเหมือนจะเกินไปหน่อย แต่มันเกี่ยวข้องอะไรกับคนอื่นด้วยเล่า? เขาไม่ได้พูดกับเวินอวี้จือพวกเขาสักหน่อยดังนั้น เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าเวินอวี้จือพวกเขาแล้ว ชุยเส้าเจ๋อจึงไม่คิดเลยว่าตัวเองทำอะไรผิด แม้กระทั่งยังรู้สึกว่าท่าทีของเวิน
Read more

บทที่ 474

สีหน้าของเวินเยวี่ยแข็งค้างแค่นี้?แค่ของเก่าพังๆ นี่ ยังกล้าเอามามอบให้นางเป็นของหมั้นอีกหรือ?!จวนจงหย่งโหวของพวกเจ้า ยากจนถึงขนาดไม่มีอะไรจะกินแล้วหรือ?เวินเยวี่ยมองปิ่นปักผมหักอันนั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ“ชุยเส้าเจ๋อ!”เวินอวี้จือที่ได้ยินคำพูดของชุยเส้าเจ๋อเมื่อครู่เช่นเดียวกัน ก็รู้สึกโกรธมากเขาลุกขึ้นยืนทันที “ท่านรนหาที่ตาย แค่กๆๆ ...ท่าน... ท่านรนหาที่ตายใช่หรือไม่?!”ใครจะรู้ว่าลุกขึ้นเร็วเกินไป เกือบจะหายใจไม่ทัน จึงไอเสียจนใบหน้าที่ซีดขาวแดงก่ำไปหมดแล้วเขาเอามือปิดปากไอไปพลาง จ้องมองชุยเส้าเจ๋ออย่างดุร้ายไปพลาง ชี้หน้าเขาแล้วด่าทอ“แค่กๆๆ ...คนสารเลวอย่างท่านอย่าได้คิดที่จะแตะต้องน้องหกแม้แต่น้อย ไสหัวไป...ไสหัวไปเสีย!”“ไม่ใช่ น้องสี่ เจ้าดูแลตัวเองให้ดีเถอะ เรื่องระหว่างข้ากับน้องเยวี่ยเอ๋อร์ พวกเราจะตัดสินใจกันเอง ยังไม่ถึงคราวที่ต้องให้เจ้ามาจัดการ”ชุยเส้าเจ๋อปัดมือของเวินอวี้จือที่ชี้หน้าเขาออกไป แล้วกล่าวอย่างไม่พอใจเมื่อครู่เขาเห็นเวินอวี้จือก็รู้สึกขัดหูขัดตาแล้ว ตอนนี้ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตาเข้าไปใหญ่“ข้า...ข้าเป็นพี่สี่ของน้องหก เรื่องสำค
Read more

บทที่ 475

ในคืนนั้น ร่างหนึ่งหลบเลี่ยงคนทั้งหมดของจวนเจิ้นกั๋วกง ปรากฏตัวขึ้นในห้องของเวินอวี้จืออย่างเงียบเชียบจู๋เยวี่ยที่ยืนอยู่ข้างเตียงจ้องมองคนที่อยู่บนเตียง กริชเล่มหนึ่งแนบชิดกับลำคอของเวินอวี้จืออย่างเงียบงันทันทีที่คมกริชอันเย็นเฉียบเข้ามาใกล้ คอของเวินอวี้จือก็ปรากฏรอยเลือดเส้นหนึ่งดูเหมือนว่าเพียงออกแรงอีกนิด ก็จะสามารถตัดหลอดลมของเขาได้โดยตรงแต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วจู๋เยวี่ยก็ไม่ได้ลงมือต่อ“จะให้พวกเขาตายเมื่อไรก็ได้ แต่ข้าไม่อยากให้พวกเขาตายง่ายเกินไป การแก้แค้นของข้า ตั้งแต่แรกก็คือต้องการให้พวกเขามีชีวิตอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น”นี่คือคำพูดที่เวินซื่อเคยกล่าวกับจู๋เยวี่ยจู๋เยวี่ยไม่เข้าใจ แต่ไม่เป็นไร ขอเพียงเป็นสิ่งที่นายหญิงของนางกล่าว นางก็จะทำตามหลังจากเก็บกริชกลับไป จู๋เยวี่ยก็หยิบแมงมุมขนาดเท่าฝ่ามือออกมา วางไว้บนตัวของเวินอวี้จือแมงมุมตัวนั้นไต่ไปทั่วตัวของเวินอวี้จือสองสามรอบ สุดท้ายเหมือนจะหาที่ได้ มันไต่ไปที่คอของเวินอวี้จือ แล้วกัดลงไปเวินอวี้จือที่กำลังหลับใหลดูเหมือนจะรับรู้ถึงบางสิ่ง ร่างกายขยับเล็กน้อยอย่างดิ้นรน แต่สุดท้ายก็ยังคงหลับสนิทต่อไป
Read more

บทที่ 476

หากมีคนมาหยั่งเชิง นั่นก็ต้องเป็นคนของเวินเยวี่ยอย่างแน่นอนหากไม่มีใครมา เช่นนั้นก็น่าจะเป็นไปได้ว่าคือผู้ช่วยที่เวินเฉวียนเซิ่งเชิญมาจากข้างนอก และดูจากสถานการณ์เมื่อคืน ก็เป็นประเภทที่คอยคุ้มกันเวินเยวี่ยเท่านั้นเวินซื่อหรี่ตาลงเล็กน้อย สั่งให้จู๋เยวี่ยระมัดระวังตัวและนางยังได้ฝังบางสิ่งบางอย่างไว้ใกล้ๆ กับอารามสุ่ยเยว่แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางคิดมากไปเองหรือไม่ ผ่านไปหลายวันแล้ว จวนเจิ้นกั๋วกงนั่นก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ หรือว่าจะเป็นผู้ช่วยที่เวินเฉวียนเซิ่งเชิญมาจริงๆ?จะเป็นผู้ช่วยหรือไม่นั้นก็ยังไม่รู้ แต่ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่จู๋เยวี่ยไปที่จวนเจิ้นกั๋วกง เวินอวี้จือก็อาการทรุดหนักอีกครั้งและในครั้งนี้บรรดาหมอทั้งหมดรวมทั้งหมอหลวง หลังจากตรวจดูอาการของเวินอวี้จือแล้วต่างบอกว่าหมดหนทางรักษา ถึงขนาดมีบางคนบอกให้เวินเฉวียนเซิ่งเตรียมตัวสำหรับงานศพแต่หลายวันผ่านไป ภายในจวนเจิ้นกั๋วกงกลับไม่มีข่าวคราวใดๆ เล็ดลอดออกมาคนภายนอกที่ได้ยินข่าวลือบางอย่างต่างก็พูดกันไปต่างๆ นานาบางคนพูดว่าคุณชายสี่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกงคงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอนส่วนบางคนก็คาดเดาว่าน่าจะย
Read more

บทที่ 477

จวนเจิ้นกั๋วกง“พี่สี่ วันนี้ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง ดีขึ้นหรือไม่?”เวินเยวี่ยมาเยี่ยมเวินอวี้จืออีกแล้วนางนั่งลงข้างเตียงของเวินอวี้จือ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน สีหน้าแฝงไปด้วยความกังวลบนเตียง เวินอวี้จือมีสีหน้าซีดเซียว สภาพจิตใจย่ำแย่มาก แต่เมื่อเห็นเวินเยวี่ยมา ก็ยังฝืนยิ้มออกมา “วันนี้รู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานอีก ต้องขอบคุณยาของน้องหก ไม่เช่นนั้น เกรงว่าพี่สี่ของเจ้าคงจะไปอยู่ที่ปรโลกแล้ว”“พี่สี่อย่าพูดเช่นนี้ พี่สี่เป็นคนดีมีวาสนา ย่อมไม่เป็นอะไร ที่จริงแล้วยาของข้านั่นแหละ หากมันดีกว่านี้อีกหน่อย ก็คงจะไม่ทำให้พี่สี่ต้องเป็นแบบนี้ เป็นความผิดของข้า...”เวินเยวี่ยก้มหน้าลง แสดงสีหน้าตำหนิตัวเองอย่างเต็มที่ตอนนี้เวินอวี้จือจะไปโทษนางได้อย่างไร “ไม่ นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า และต้องขอบคุณยาของเจ้าด้วยซ้ำ ทำให้ข้ารอดชีวิตมาได้ การที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ก็ดีมากแล้ว”เขาฝืนยิ้มแม้ว่าปากจะพูดเช่นนั้น แต่สวรรค์รู้ว่าตอนนี้เขาได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจมากแค่ไหนสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือการที่คนอื่นมองว่าเขาเป็นคนพิการไร้ประโยชน์เพราะว่าเขาเพียงแค่ร่างกายอ่อนแอขี้โรคเท่านั
Read more

บทที่ 478

เวินเยวี่ยยังคงแสร้งทำท่าทางไร้เดียงสาเมื่อได้ยินเช่นนั้น เวินอวี้จือก็จ้องมองไปที่ใบหน้าของนาง สบตากับนางครู่หนึ่งเวินเยวี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง ถูกเขามองจนรู้สึกผิดเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูกมองนางแบบนี้ทำไม?เดี๋ยวก่อน หรือว่าเวินอวี้จือจะพบอะไรบางอย่างแล้ว?เวินเยวี่ยหัวใจเต้นแรงทันที จากนั้นกลืนน้ำลายแต่ในตอนนั้นเอง เวินอวี้จือก็เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งออกมา “น้องหก ที่จริงเจ้าไม่ต้องกลัว พี่สี่ของเจ้ารู้ทุกอย่าง ดังนั้น เจ้าไม่ต้องเสแสร้งต่อหน้าพี่สี่ก็ได้ ปล่อยตัวตนที่แท้จริงของเจ้าออกมาเถิด”เวินเยวี่ย “...”ไม่ใช่สิ เขารู้อะไรกัน?ตอนนี้สีหน้าของเวินเยวี่ยดูฝืนๆ ยิ่งกว่าเวินอวี้จือเมื่อครู่นี้เสียอีกโชคดีที่เวินอวี้จือมองนางอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า “เอาเถอะ ในเมื่อเจ้าอยากจะเสแสร้งก็แล้วแต่เจ้าเถิด พี่สี่ไม่ถือสา”เวินเยวี่ยไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ต่อแล้ว จึงเปลี่ยนเรื่องอย่างกระทันหัน “จริงสิ พี่สี่ ดอกไม้กระถางนั้นที่ข้าให้ท่านก่อนหน้านี้ยังอยู่หรือไม่?”เวินอวี้จือพยักหน้า “แน่นอน ข้าวางไว้ในห้องลับ เกิดอะไรขึ้น?”“เมื่อวานข้าเพิ่งรู้ว่าดอกไม้นั่นก็เป็นสม
Read more

บทที่ 479

ปีนี้จวนเจิ้นกั๋วกงถูกกำหนดให้ต้องใช้ชีวิตอย่างไม่สงบสุขแต่ปีนี้เวินซื่อกลับใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมาก“คืนพรุ่งนี้ลงเขาไปดูงานโคมไฟหรือไม่?”วันนี้เป่ยเฉินหยวนเอ่ยชวนขึ้นมากะทันหัน“งานโคมไฟ?”เวินซื่อชะงักไปครู่หนึ่ง “งานโคมไฟอะไร?”เป่ยเฉินหยวน “คืนพรุ่งนี้ก็เป็นวันส่งท้ายปีเก่าแล้ว ในเมืองหลวงก็จัดงานโคมไฟเหมือนกับทุกปี”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เวินซื่อก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เวลาผ่านไปครึ่งปีแล้วนับตั้งแต่ที่นางทูลขอพระบรมราชานุญาตออกบวช เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงวันส่งท้ายปีเก่าแล้วเมื่อผ่านพ้นวันส่งท้ายปีเก่าไปก็จะเป็นเทศกาลปีใหม่ และก็จะเป็นปีใหม่แล้วเวินซื่อพ่นลมหายใจอุ่นๆ ออกมา ถูมือเล็กๆ ที่เริ่มจะแข็งเพราะความหนาวเย็น ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “ได้สิ แต่ว่าข้าต้องถามท่านอาจารย์ก่อน”สายตาของเป่ยเฉินหยวนจับจ้องอยู่ที่มือเล็กๆ ของนางที่เริ่มแดงเพราะความหนาวเย็นวันรุ่งขึ้น หลังจากทำสิ่งที่ต้องทำเสร็จแล้ว เวินซื่อก็บอกเรื่องนี้กับม่อโฉวซือไท่“ได้แน่นอน”ม่อโฉวซือไท่ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น “ไปเที่ยวเล่นให้สนุกเถิด อย่าตึงเครียดกับตัวเองมากเกินไป”ไม่ใช่แค่เวินซื่อเท่านั้น หลังจากทำ
Read more

บทที่ 480

เขาชินเสียแล้วตรงกันข้าม หากไม่ได้เจออู๋โยวของเขาสักสองสามวัน เขาถึงจะรู้สึกไม่ชินครั้งนี้ เป่ยเฉินหยวนมารับเวินซื่อด้วยตัวเอง ก็ยังคงเป็นนางนั่งรถม้า เขาขี่ม้าตอนมาก็รีบร้อน ตอนกลับก็ค่อยๆ ไปเป่ยเฉินหยวนควบคุมม้าตัวใหญ่ที่อยู่ใต้ร่างของตนเอง อยู่ข้างๆ รถม้าที่เคลื่อนไปข้างหน้าไม่เร็วนักด้วยความเร็วที่ไม่ช้าและไม่เร็วเหลือบมองเล็กน้อย ก็ยังสามารถมองเห็นเวินซื่อที่นั่งอยู่ข้างใน พูดคุยหัวเราะกับฉางเสี่ยวหานผ่านหน้าต่างรถม้าที่ม่านถูกลมพัดปลิวเป็นครั้งคราวสายตาเลื่อนผ่านใบหน้าเล็กๆ ของนาง เป่ยเฉินหยวนก็เอ่ยขึ้นทันที “ในรถมีเตาอุ่นมือ ท่านหยิบออกมาอุ่นมือสักหน่อย อย่าให้เป็นหวัด”เวินซื่อได้ยินดังนั้น ก็มองหาในรถม้า ก็พบเตาอุ่นมือที่เป่ยเฉินหยวนพูดถึงแทบจะในทันทีไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มีถึงสองอันอันหนึ่งประณีตและเล็กกะทัดรัด เหมาะกับมือของเวินซื่อพอดี มองแวบเดียวก็รู้ว่าเตรียมไว้ให้เวินซื่ออีกอันหนึ่งอยู่ที่ด้านหลังที่นั่งของฉางเสี่ยวหาน แม้ว่าจะไม่ประณีตเท่า แต่เมื่อสัมผัสก็อุ่นมากเช่นกันไม่ต้องพูดฉางเสี่ยวหานก็เข้าใจได้ทันที นี่จะต้องเป็นสิ่งที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน
Read more
PREV
1
...
4647484950
...
53
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status