Semua Bab หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก: Bab 321 - Bab 330

390 Bab

บทที่ 321

หลังจากนั้น เวินซื่อก็ขังเวินจื่อเฉินไว้ในมิติเพียงลำพังนางออกจากมิติ แล้วเดินมาถึงเรือนเล็ก“จู๋เยวี่ย ช่วยไปส่งข่าวให้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที บอกว่าข้ามีเรื่องอยากขอให้เขาช่วย”เวินซื่อเอ่ยปาก ไม่นานเป่ยเฉินหยวนก็มาแล้วยังคงควบม้ามาคนเดียวอย่างรวดเร็วไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ก็มาถึงเรือนเล็กของเวินซื่อ“อู๋โยว ข้ามาแล้ว”ขณะที่เป่ยเฉินหยวนมาถึง เวินซื่อยังคงเตรียมอาหารเย็นอยู่ในห้องครัวเล็กๆ ของนางฝีมือการทำอาหารของนางไม่ได้ดีมากนัก พวกอาหารจานใหญ่ที่ซับซ้อนนั้นทำไม่ได้ แต่อาหารง่ายๆ นั้นกลับทำได้“เหตุใดถึงมาเร็วขนาดนี้? ไปนั่งรอที่โต๊ะหินข้างนอกก่อนเถิด ข้าทำอาหารจานเล็กๆ สองอย่างนี้เสร็จก็จะออกไป”นางเป็นนักบวช แตะต้องเนื้อสัตว์ไม่ได้ดังนั้นอาหารที่ทำจึงเป็นอาหารมังสวิรัติทั้งหมด“ไม่เป็นไร ข้าสามารถช่วยเจ้าที่นี่ได้ ไฟในเตาแรงพอหรือไม่ ต้องการเติมฟืนหรือไม่?”แม้จะเป็นเพียงอาหารมังสวิรัติ เป่ยเฉินหยวนก็ดีใจมากถึงอย่างไรนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลองชิมฝีมือของเวินซื่อตอนที่เป่ยเฉินหยวนพูดประโยคนี้ เวินซื่อก็ชะงักไปเล็กน้อย “เอ๊ะ? ก่อนหน้านี้ท่านไม่เคยลองชิมฝีมือ
Baca selengkapnya

บทที่ 322

เป่ยเฉินหยวนที่มือว่างเปล่าไปกะทันหัน เงยหน้าขึ้นมองเวินซื่อ ถึงได้รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้นใบหน้าหล่อเหลานั้นก็ขึ้นสีแดงระเรื่อตาม แดงไปจนถึงใบหู“มะ...ไม่โดนลวกก็ดีแล้ว ข้าไปเติมฟืนต่อ”ขณะที่เป่ยเฉินหยวนเอ่ยปากก็เกือบจะกัดลิ้นตนเอง คนตัวสูงใหญ่ขนาดนั้นมุดเข้าไปใต้เตา แทบอยากจะมุดแผ่นดินหนีลงไป!เหตุใดเขาถึงได้บุ่มบ่ามขึ้นมาเช่นนั้น?ถึงกับต้องจับมือคนอื่นมาดูให้ได้?อดใจไม่ได้เลยจริงๆ สมควรโดนตี!“เพียะ!”เป่ยเฉินหยวนถึงกับซ่อนตัวอยู่ใต้เตา แล้วแอบตบหน้าตัวเองอีกหนึ่งทีแต่สิ่งที่เขาคิดว่าแอบ กลับดูเหมือนจะออกแรงมากเกินไปหน่อยเสียงนั้นดังยิ่งกว่าเสียงผัดกับข้าวในกระทะเสียอีกชั่วขณะหนึ่ง...เวินซื่อ “...”เป่ยเฉินหยวน “...”ทำอย่างไรดี น่าอับอายยิ่งนักหลังจากนั้นไม่นาน เวินซื่อตักกับข้าวใส่จานเสร็จแล้ว ก็กระแอมหนึ่งทีแล้วเอ่ยขึ้น “อาหารเสร็จแล้ว รีบออกมากินเถิด”“อืม”เป่ยเฉินหยวนขดตัวอยู่ใต้เตา ตอบเสียงอู้อี้เวินซื่อที่ถือจานกับข้าวอยู่ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ข้ายังไม่ได้เอาชามกับตะเกียบออกมา ท่านอย่าลืมเอาออกมานะ ตะเกียบสามคู่ ชามสามใบ”หลังจากที่เป่ยเฉิน
Baca selengkapnya

บทที่ 323

“วันนี้ที่เชิญท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมา เพราะมีเรื่องอยากจะขอให้ท่านช่วยเหลือ”ทั้งสามคนเริ่มกินอาหารหลังจากที่กินเสร็จแล้ว จู๋เยวี่ยก็เก็บชามไปล้างอย่างเงียบๆ ส่วนเวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนยังคงนั่งอยู่ในลานบ้านหลังจากเวินซื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เป่ยเฉินหยวนฟังทั้งหมด เป่ยเฉินหยวนก็เข้าใจได้ในทันที“ท่านสงสัยว่ามีคนในจวนเจิ้นกั๋วกงวางยาเวินจื่อเฉิน?”เวินซื่อเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่สงสัย เป็นการยืนยัน”เวินจื่อเฉินเปลี่ยนไปมากเกินไป ราวกับว่าจู่ๆ ก็สูญเสียความทรงจำช่วงหนึ่งไป สถานการณ์เช่นนี้หากไม่ถูกประตูหนีบหัว ก็ต้องถูกคนวางยาเห็นได้ชัดว่าอย่างหลังมีความเป็นไปได้มากกว่าและคนที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้มีเพียงคนเดียว นั่นก็คือเวินอวี้จือ“ได้ แล้วท่านต้องการให้ข้าทำอย่างไร? ต้องการให้ข้าไปที่จวนเจิ้นกั๋วกงอีกครั้งหรือไม่?”เวินซื่อยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่ต้อง ท่านแค่ร่วมเล่นละครกับข้าฉากหนึ่งก็พอ”เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นว่านางมีแผนการอยู่แล้ว จึงไม่พูดอะไรมาก“ตกลง เมื่อไร? ที่ใด? ต้องการให้ข้าช่วยแสดงอย่างไร?”“พรุ่งนี้ วังหลวง”เวินซื่อยิ้มเล็กน้อย “ตั
Baca selengkapnya

บทที่ 324

ใบหน้าของไทเฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าพอใจกับเวินซื่อธิดาศักดิ์สิทธิ์คนนี้เป็นอย่างมากฉากนี้ ทำให้เวินหย่าลี่รู้สึกตกใจขึ้นมาทันทีแบบนี้ไม่ได้การ หากไทเฮาโปรดปรานเวินซื่อขึ้นมาอีก เช่นนั้นแล้วต่อไปเบื้องหน้าไทเฮาจะมีที่สำหรับนางเวินหย่าลี่อีกหรือ?!เวินหย่าลี่ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนใจ ก็ไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก รีบเอ่ยปากขึ้นมา“หม่อมฉันถวายบังคมไทเฮาเพคะ”เสียงของเวินหย่าลี่ดังขึ้น ค่อนข้างแหลม ทำลายบรรยากาศระหว่างเวินซื่อและไทเฮาเวินซื่อเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเวินหย่าลี่อย่างไม่แปลกใจไทเฮาที่ถูกขัดจังหวะก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย วางพระคัมภีร์ในมือลง แล้วตรัสด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “วันนี้เหตุใดฮูหยินจงหย่งโหวเข้าวังมาด้วย?”เวินหย่าลี่ยิ้มอย่างประจบประแจง “เมื่อหลายวันก่อนหม่อมฉันมัวแต่ยุ่งอยู่กับการอบรมสั่งสอนลูกอกตัญญูอยู่ที่บ้าน จนลืมเข้าวังมาเยี่ยมเยียนไทเฮาเพคะ วันนี้พอดีมีเวลาว่างก็รีบมาถวายพระพรไทเฮาทันที เพียงแต่ไม่คิดว่า...”เวินหย่าลี่มองไปทางเวินซื่อ เผยรอยยิ้มอันใจดีอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อเวินซื่อ เอ่ยขึ้นว่า “ไม่คิดว่าหลานสาวคนดีของหม่อมฉันจะอยู่ที่ตำหนักไทเฮาด
Baca selengkapnya

บทที่ 325

“บังเอิญว่าเมื่อครู่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ไปเยี่ยมมาแล้ว มิสู้ให้ธิดาศักดิ์สิทธิ์พาฮูหยินจงหย่งโหวไปดีหรือไม่? ท่านธิดาศักดิ์สิทธิ์คิดเห็นอย่างไร?”เวินซื่อเงยหน้าขึ้นมองไทเฮา ไทเฮาทรงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยให้นาง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการจงใจเปิดโอกาสให้นางได้แสดงฝีมือ เวินซื่อย่อมไม่ปฏิเสธ“เพคะ ไทเฮา”แม้ว่าฮูหยินจงหย่วนโหวจะไม่อยากไปสักเท่าไร แต่นึกถึงคำกำชับของพี่ชายก่อนเข้าวัง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรไปดูเวินเยวี่ยสักหน่อยหากว่าในภายภาคหน้าเด็กคนนั้นได้เป็นพระสนมคนแรกของฝ่าบาทจริงๆ จวนจงหย่งโหวของพวกเขาก็จะพลอยเจริญก้าวหน้าตามไปด้วยมิใช่หรือดังนั้นตอนนี้จะปล่อยให้นางต้องทนทุกข์ทรมานไม่ได้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ยังต้องสะสางเรื่องระหว่างนังเด็กเวินเยวี่ยกับลูกชายของนางในอดีตด้วยเมื่อคิดได้ดังนั้น เวินหย่าลี่ก็ค้อมตัวทำความเคารพ จากนั้นก็เตรียมตัวถอยออกไปแต่พอนางหันหลังกลับ ก็มีนางกำนัลจากตำหนักของไทเฮามาขวางนางไว้ “ฮูหยินจงหย่งโหวช้าก่อนเจ้าค่ะ”เวินหย่าลี่กำลังจะขมวดคิ้ว ก็เห็นเวินซื่อเดินออกไปจากตรงหน้าของนางอย่างสบายๆและหลังจากที่เวินซื่อเดินออกไปแล้ว นางกำนัลผู้นั้นจึงได้
Baca selengkapnya

บทที่ 326

เพียงแต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอยากจะระบายความโกรธแทนนาง ถึงได้ร่วมมือกับฝ่าบาทแสดงละครฉากนี้ก็เป็นเพราะฮ่องเต้น้อยยังทรงพระเยาว์ ถึงได้ทรงเล่นสนุกไปกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแต่ในเมื่อคนสกุลเวินมาหานางเพราะเรื่องนี้แล้ว นางจะไม่เก็บดอกเบี้ยสักหน่อยได้อย่างไร?“เจ้ายังกล้าพูดอีก ต้องเป็นเจ้าที่ไปทูลฟ้องอะไรต่อหน้าฝ่าบาท ถึงทำให้เวินเยวี่ยตอนนี้นางถูกขังอยู่ในวัง ออกไปไม่ได้ เจ้า...”อันที่จริง เวินหย่าลี่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่เวินเยวี่ยเข้าวัง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ นางมักจะอยู่ข้างพี่ชายของนางเสมอในเมื่อพี่ชายของนางพูดแล้วว่าเวินเยวี่ยไม่สามารถอยู่ในวังได้ ต้องพาเวินเยวี่ยออกไปให้ได้ นางจึงทำได้เพียงทำตามแม้ว่าผลลัพธ์ที่ทำออกมาจะไม่ดีมากนัก แต่ก็เรียกได้ว่า “มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง”อย่างเช่น ปากของนาง มักจะพูดจาโดยไม่คิดอยู่เสมอ“ชู่”เวินหย่าลี่ยังไม่ทันพูดจบ เวินซื่อก็ยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก ทำท่าทางให้นางเงียบ“ฮูหยินจงหย่วนโหว คำพูดบางคำพูดมั่วๆ ไม่ได้ คุณหนูหกสกุลเวินอยู่ในวังเพื่อเรียนรู้กฎระเบียบ เพื่อที่จะเข้าวังเป็นพระสนม ตอนนี้ท่านกลับบอกว่านางถูกกักขังอย
Baca selengkapnya

บทที่ 327

“เพียะ!”ในขณะที่เวินหย่าลี่ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างบ้าคลั่ง รีบปัดความรับผิดชอบออกจากตัว เวินซื่อก็สะบัดฝ่ามืออย่างไม่ลังเล ตบลงบนใบหน้าของเวินหย่าลี่อย่างแรงตบเสียจนเครื่องสำอางของนางเลอะ แก้มแดงก่ำเวินหย่าลี่เอามือกุมหน้า เงยหน้าขึ้นมองนางอย่างรวดเร็ว “เวินซื่อ! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ที่นี่คือวังหลวง! เจ้ากล้าตบข้าอีกได้อย่างไร?!”“อย่าว่าแต่ที่นี่เลย ต่อให้อยู่ต่อหน้าไทเฮาและฝ่าบาท วันนี้ข้าก็จะตบหน้าท่าน”เวินซื่อมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เวินหย่าลี่ ในตอนนั้นท่านได้เป็นฮูหยินจงหย่งโหวสมใจ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุขกับชีวิต ตอนนี้ผ่านไปสิบกว่าปี ท่านเคยรู้สึกซาบซึ้งในความดีของท่านแม่ข้าที่มีต่อท่าน? บุญคุณที่มีต่อท่านหรือไม่?”เวินหย่าลี่ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปนางอ้าปากค้างเหมือนจะไม่ยอมรับและอยากจะโต้แย้งอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายกลับพูดอะไรไม่ออกสักคำเวินซื่อมองดูท่าทางของนาง ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจแทนท่านแม่ของนาง “ดูเหมือนว่าท่านแม่ของข้าในตอนนั้นจะตาบอด มองคนผิดไปจริงๆ”สายตาที่นางมองเวินหย่าลี่นั้น ก็เหมือนขาดแค่ด่าทอว่า “คนเนรคุณ” ออก
Baca selengkapnya

บทที่ 328

จู่ๆ เวินซื่อก็หัวเราะออกมาเสียงหัวเราะนั้นเย็นชาเหลือเกินเย็นชาจนทำให้เวินหย่าลี่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีชั่วขณะหนึ่ง ในใจของนางเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมานางหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรต่อ“เอาละๆ ข้าจะไปดูเวินเยวี่ยแล้ว ถ้าเจ้าไม่อยากไป ข้าไปเองก็ได้ เจ้าไปเถอะ ”ตอนนี้เวินหย่าลี่ก็ไม่กล้าพาเวินซื่อไปพบเวินเยวี่ยแล้วหากไม่ใช่เพราะพี่ชายของนาง ป่านนี้นางคงหันหลังกลับไปแล้วเวินซื่อมองนางอย่างเฉยเมย ไม่ได้พูดอะไรในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้ามั่นคงและทรงพลังดังมาจากข้างหน้าเวินหย่าลี่เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่รู้ตัว แต่พอเห็นก็เกือบจะตกใจจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง“อ๊า! เลือด! เลือดเยอะมาก!”คนที่เดินเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเป่ยเฉินหยวนที่เข้ามาในวังพร้อมกับเวินซื่อเมื่อครู่เขาหายตัวไป ตอนนี้ปรากฏตัวขึ้น บนใบหน้า มือ และเสื้อผ้าล้วนเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดราวกับเพิ่งจะฆ่าคนเสร็จในสถานที่เกิดเหตุดูเหมือนว่าจะเป็นเลือดสดๆ ด้วยเนื่องจากตอนที่เป่ยเฉินหยวนเดินออกมา ก็ยังคงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดไปด้วย เมื่อเช็ดเสร็จแล้วผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดก็เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเป่ยเฉินหยวน
Baca selengkapnya

บทที่ 329

“เป็นไปไม่ได้ เวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนพวกเขาจะกล้าได้อย่างไร?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งแสดงความตกตะลึงและเคลือบแคลงใจ จากนั้นก็หันไปมองเวินหย่าลี่ แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าแน่ใจนะว่าเห็นกับตาตัวเอง?”เวินหย่าลี่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในรถม้า เมื่อได้ยินคำถามของเวินเฉวียนเซิ่ง นางไม่กล้าบอกว่าตอนนั้นนางตกใจกลัว จนวิ่งหนีออกไปจึงตอบอย่างคลุมเครือด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย “แน่นอนว่าเห็นกับตาสิ! เพียงแต่ว่า...แต่ว่าเลือดเยอะเกินไป ข้าไม่กล้าเข้าไปยืนยัน ก็เลยไม่รู้ว่า...ไม่รู้ว่าตายจริงหรือไม่”“เจ้า!”เวินเฉวียนเซิ่งโกรธมาก ยกมือขึ้นชี้ไปที่นางแล้วกล่าวว่า “นั่นหลานสาวแท้ๆ ของเจ้า! เจ้าทิ้งนางแล้ววิ่งหนีไปอย่างนั้นหรือ?!”“ข้าก็กลัวว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนนั่นจะฆ่าข้าด้วยน่ะสิ!”เวินหย่าลี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ก็เสียงดัง “ถ้าข้าถูกฆ่าไปด้วย ท่านก็ขาดน้องสาวแท้ๆ ไปอีกคนมิใช่หรือ!”“ฆ่าอะไรกัน! เป่ยเฉินหยวนนั่นไม่กล้าฆ่าเจ้าหรอก! เจ้าเป็นฮูหยินของจวนจงหย่งโหว ทั้งยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ของข้าเจิ้นกั๋วกง ตราบใดที่เจ้าไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ต่อให้เป่ยเฉินหยวนเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราช
Baca selengkapnya

บทที่ 330

อย่างไรเสียคนในราชสำนักจำนวนมากต่างรู้ว่า เป่ยเฉินหยวนมีโรคประจำตัวชนิดหนึ่ง ทุกครั้งที่โรคกำเริบ เขาก็จะเสียสติ กลายเป็นคนบ้าคลั่งทำร้ายคนรอบข้างหมอหลวงบอกว่าโรคนี้เป็นเพราะฆ่าคนในสนามรบมากเกินไปจึงทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน ดังนั้นฝ่าบาทจึงมีรับสั่งห้ามมิให้ผู้ใดพูดถึงเรื่องนี้ และผู้ที่บังอาจล่วงเกินขุนนางผู้มีความดีความชอบเพราะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะถูกประหารชีวิตโดยไม่มีข้อยกเว้นดังนั้น นอกจากคนในราชสำนักแล้ว คนภายนอกจึงมีน้อยคนที่รู้ว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่าผ่าเผยท่านนี้ แท้จริงแล้วเป็นคนบ้าเวินเฉวียนเซิ่งอดกังวลไม่ได้ว่า หากเป่ยเฉินหยวนนั่นจู่ๆ เกิดโรคกำเริบขึ้นมาในตำหนักฉือหนิงของไทเฮา...ไม่ หรืออาจจะไม่ใช่โรคกำเริบจริงๆแต่เป็น “ลูกสาวผู้แสนดี” ของเขาที่สมรู้ร่วมคิดกับเป่ยเฉินหยวน อยากจะใช้เหตุนี้เป็นข้ออ้างเพื่อกำจัดเยวี่ยเอ๋อร์!เวินเฉวียนเซิ่งยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากเพราะเขารู้ว่าตอนนี้เวินซื่อเกลียดเวินเยวี่ยมากตั้งแต่ตอนที่เยวี่ยเอ๋อร์ไปยุ่งกับศพของหลานจื่อจวิน ระหว่างลูกสาวทั้งสองคนของเขา ก็กลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่จบไม่สิ้นจนกว
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
3132333435
...
39
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status