แชร์

บทที่ 326

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เพียงแต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนอยากจะระบายความโกรธแทนนาง ถึงได้ร่วมมือกับฝ่าบาทแสดงละครฉากนี้

ก็เป็นเพราะฮ่องเต้น้อยยังทรงพระเยาว์ ถึงได้ทรงเล่นสนุกไปกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน

แต่ในเมื่อคนสกุลเวินมาหานางเพราะเรื่องนี้แล้ว นางจะไม่เก็บดอกเบี้ยสักหน่อยได้อย่างไร?

“เจ้ายังกล้าพูดอีก ต้องเป็นเจ้าที่ไปทูลฟ้องอะไรต่อหน้าฝ่าบาท ถึงทำให้เวินเยวี่ยตอนนี้นางถูกขังอยู่ในวัง ออกไปไม่ได้ เจ้า...”

อันที่จริง เวินหย่าลี่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่เวินเยวี่ยเข้าวัง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ นางมักจะอยู่ข้างพี่ชายของนางเสมอ

ในเมื่อพี่ชายของนางพูดแล้วว่าเวินเยวี่ยไม่สามารถอยู่ในวังได้ ต้องพาเวินเยวี่ยออกไปให้ได้ นางจึงทำได้เพียงทำตาม

แม้ว่าผลลัพธ์ที่ทำออกมาจะไม่ดีมากนัก แต่ก็เรียกได้ว่า “มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง”

อย่างเช่น ปากของนาง มักจะพูดจาโดยไม่คิดอยู่เสมอ

“ชู่”

เวินหย่าลี่ยังไม่ทันพูดจบ เวินซื่อก็ยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปาก ทำท่าทางให้นางเงียบ

“ฮูหยินจงหย่วนโหว คำพูดบางคำพูดมั่วๆ ไม่ได้ คุณหนูหกสกุลเวินอยู่ในวังเพื่อเรียนรู้กฎระเบียบ เพื่อที่จะเข้าวังเป็นพระสนม ตอนนี้ท่านกลับบอกว่านางถูกกักขังอย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
WLFJ
ญาติฝั่งพ่อนี่ก็ร้ายเหลือ อาศัยฐานะของแม่นางเอก แต่ดูถูกขา ไอ้พวกเลว
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 327

    “เพียะ!”ในขณะที่เวินหย่าลี่ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างบ้าคลั่ง รีบปัดความรับผิดชอบออกจากตัว เวินซื่อก็สะบัดฝ่ามืออย่างไม่ลังเล ตบลงบนใบหน้าของเวินหย่าลี่อย่างแรงตบเสียจนเครื่องสำอางของนางเลอะ แก้มแดงก่ำเวินหย่าลี่เอามือกุมหน้า เงยหน้าขึ้นมองนางอย่างรวดเร็ว “เวินซื่อ! เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ที่นี่คือวังหลวง! เจ้ากล้าตบข้าอีกได้อย่างไร?!”“อย่าว่าแต่ที่นี่เลย ต่อให้อยู่ต่อหน้าไทเฮาและฝ่าบาท วันนี้ข้าก็จะตบหน้าท่าน”เวินซื่อมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เวินหย่าลี่ ในตอนนั้นท่านได้เป็นฮูหยินจงหย่งโหวสมใจ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุขกับชีวิต ตอนนี้ผ่านไปสิบกว่าปี ท่านเคยรู้สึกซาบซึ้งในความดีของท่านแม่ข้าที่มีต่อท่าน? บุญคุณที่มีต่อท่านหรือไม่?”เวินหย่าลี่ได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปนางอ้าปากค้างเหมือนจะไม่ยอมรับและอยากจะโต้แย้งอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายกลับพูดอะไรไม่ออกสักคำเวินซื่อมองดูท่าทางของนาง ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจแทนท่านแม่ของนาง “ดูเหมือนว่าท่านแม่ของข้าในตอนนั้นจะตาบอด มองคนผิดไปจริงๆ”สายตาที่นางมองเวินหย่าลี่นั้น ก็เหมือนขาดแค่ด่าทอว่า “คนเนรคุณ” ออก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 328

    จู่ๆ เวินซื่อก็หัวเราะออกมาเสียงหัวเราะนั้นเย็นชาเหลือเกินเย็นชาจนทำให้เวินหย่าลี่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีชั่วขณะหนึ่ง ในใจของนางเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมานางหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรต่อ“เอาละๆ ข้าจะไปดูเวินเยวี่ยแล้ว ถ้าเจ้าไม่อยากไป ข้าไปเองก็ได้ เจ้าไปเถอะ ”ตอนนี้เวินหย่าลี่ก็ไม่กล้าพาเวินซื่อไปพบเวินเยวี่ยแล้วหากไม่ใช่เพราะพี่ชายของนาง ป่านนี้นางคงหันหลังกลับไปแล้วเวินซื่อมองนางอย่างเฉยเมย ไม่ได้พูดอะไรในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้ามั่นคงและทรงพลังดังมาจากข้างหน้าเวินหย่าลี่เงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่รู้ตัว แต่พอเห็นก็เกือบจะตกใจจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง“อ๊า! เลือด! เลือดเยอะมาก!”คนที่เดินเข้ามาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเป่ยเฉินหยวนที่เข้ามาในวังพร้อมกับเวินซื่อเมื่อครู่เขาหายตัวไป ตอนนี้ปรากฏตัวขึ้น บนใบหน้า มือ และเสื้อผ้าล้วนเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดราวกับเพิ่งจะฆ่าคนเสร็จในสถานที่เกิดเหตุดูเหมือนว่าจะเป็นเลือดสดๆ ด้วยเนื่องจากตอนที่เป่ยเฉินหยวนเดินออกมา ก็ยังคงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดไปด้วย เมื่อเช็ดเสร็จแล้วผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดก็เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเป่ยเฉินหยวน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 329

    “เป็นไปไม่ได้ เวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนพวกเขาจะกล้าได้อย่างไร?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งแสดงความตกตะลึงและเคลือบแคลงใจ จากนั้นก็หันไปมองเวินหย่าลี่ แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าแน่ใจนะว่าเห็นกับตาตัวเอง?”เวินหย่าลี่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในรถม้า เมื่อได้ยินคำถามของเวินเฉวียนเซิ่ง นางไม่กล้าบอกว่าตอนนั้นนางตกใจกลัว จนวิ่งหนีออกไปจึงตอบอย่างคลุมเครือด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย “แน่นอนว่าเห็นกับตาสิ! เพียงแต่ว่า...แต่ว่าเลือดเยอะเกินไป ข้าไม่กล้าเข้าไปยืนยัน ก็เลยไม่รู้ว่า...ไม่รู้ว่าตายจริงหรือไม่”“เจ้า!”เวินเฉวียนเซิ่งโกรธมาก ยกมือขึ้นชี้ไปที่นางแล้วกล่าวว่า “นั่นหลานสาวแท้ๆ ของเจ้า! เจ้าทิ้งนางแล้ววิ่งหนีไปอย่างนั้นหรือ?!”“ข้าก็กลัวว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนนั่นจะฆ่าข้าด้วยน่ะสิ!”เวินหย่าลี่เอ่ยขึ้นอย่างไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ก็เสียงดัง “ถ้าข้าถูกฆ่าไปด้วย ท่านก็ขาดน้องสาวแท้ๆ ไปอีกคนมิใช่หรือ!”“ฆ่าอะไรกัน! เป่ยเฉินหยวนนั่นไม่กล้าฆ่าเจ้าหรอก! เจ้าเป็นฮูหยินของจวนจงหย่งโหว ทั้งยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ของข้าเจิ้นกั๋วกง ตราบใดที่เจ้าไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ต่อให้เป่ยเฉินหยวนเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราช

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 330

    อย่างไรเสียคนในราชสำนักจำนวนมากต่างรู้ว่า เป่ยเฉินหยวนมีโรคประจำตัวชนิดหนึ่ง ทุกครั้งที่โรคกำเริบ เขาก็จะเสียสติ กลายเป็นคนบ้าคลั่งทำร้ายคนรอบข้างหมอหลวงบอกว่าโรคนี้เป็นเพราะฆ่าคนในสนามรบมากเกินไปจึงทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน ดังนั้นฝ่าบาทจึงมีรับสั่งห้ามมิให้ผู้ใดพูดถึงเรื่องนี้ และผู้ที่บังอาจล่วงเกินขุนนางผู้มีความดีความชอบเพราะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะถูกประหารชีวิตโดยไม่มีข้อยกเว้นดังนั้น นอกจากคนในราชสำนักแล้ว คนภายนอกจึงมีน้อยคนที่รู้ว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่าผ่าเผยท่านนี้ แท้จริงแล้วเป็นคนบ้าเวินเฉวียนเซิ่งอดกังวลไม่ได้ว่า หากเป่ยเฉินหยวนนั่นจู่ๆ เกิดโรคกำเริบขึ้นมาในตำหนักฉือหนิงของไทเฮา...ไม่ หรืออาจจะไม่ใช่โรคกำเริบจริงๆแต่เป็น “ลูกสาวผู้แสนดี” ของเขาที่สมรู้ร่วมคิดกับเป่ยเฉินหยวน อยากจะใช้เหตุนี้เป็นข้ออ้างเพื่อกำจัดเยวี่ยเอ๋อร์!เวินเฉวียนเซิ่งยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากเพราะเขารู้ว่าตอนนี้เวินซื่อเกลียดเวินเยวี่ยมากตั้งแต่ตอนที่เยวี่ยเอ๋อร์ไปยุ่งกับศพของหลานจื่อจวิน ระหว่างลูกสาวทั้งสองคนของเขา ก็กลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่จบไม่สิ้นจนกว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 331

    เวินเฉวียนเซิ่งที่ได้ยินคำพูดนี้ชะงักฝีเท้าลง แล้วหันศีรษะกลับมาจ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาเฉียบคม“เป่ยเฉินหยวนล้มป่วยลงแล้วใช่ไหม?”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เร่งรีบ “ดังนั้นตอนนี้เขาถึงมาอยู่ที่นี่”เวินซื่อคิดในใจ: เป็นไปดังคาด เวินเฉวียนเซิ่งก็รู้เรื่องอาการป่วยของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเช่นกันดังนั้นจึงนั่งไม่ติดและวิ่งมาหานางเช่นนี้อันที่จริง เมื่อวานนี้เวินซื่อขอให้เป่ยเฉินหยวนช่วยนางแสดงละครฉากหนึ่ง ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งคิดว่าเวินเยวี่ยเกิดเรื่องขึ้นในตำหนักฉือหนิง กระตุ้นให้เขามาหาถึงเรือนด้วยตัวเองแต่พอนางพูดไปเช่นนั้น เป่ยเฉินหยวนก็เสนอวิธี “แกล้งบ้า” ขึ้นมาทันที“เจิ้นกั๋วกงรู้เรื่องอาการป่วยของข้า ดังนั้นขอเพียงทำให้เขาคิดว่าข้าคลุ้มคลั่งในตำหนักฉือหนิงจริง ๆ เขาก็จะนั่งไม่ติด”เดิมทีเวินซื่อไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะถึงอย่างไรหากเรื่องนี้ลุกลามใหญ่โต ต่อไปทุกคนก็จะรู้เรื่องความเจ็บป่วยของเป่ยเฉินหยวนแต่เป่ยเฉินหยวนกลับบอกว่า “ท่านคิดว่าคนพวกนั้นไม่รู้หรือ? พวกเขาแค่ไม่กล้าพูดเท่านั้น”เมื่อเผชิญหน้ากับขุนนางผู้สร้างคุณูปการแก่ประเทศชาติแห่งราชวงศ์หมิงผู้นี้ ใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 332

    “เขาก็คือเจิ้นกั๋วกงผู้นั้นใช่ไหม?”“เขานั่นแหละ เมื่อก่อนตอนที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวดขอพรให้แว่นแคว้นที่เมืองหลวงข้าเคยเห็นมาก่อน เขาก็คือเจิ้นกั๋วกงที่ขับไล่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราออกจากบ้าน ซ้ำยังตัดชื่อออกจากลำดับเครือญาติเพื่อสนับสนุนลูกสาวนอกสมรสของเขา”“เอ๋? แต่ทำไมข้าได้ยินมาว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ทนความลำเอียงของจวนเจิ้นกั๋วกงไม่ไหวถึงได้ออกมา?”“เฮ้อ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ถึงอย่างไรคนของจวนเจิ้นกั๋วกงก็รังแกธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา เรื่องเมื่อก่อนนั้นพวกเจ้าไม่เคยได้ยินหรือ? คุณชายคนหนึ่งจากจวนเจิ้นกั๋วกงถึงกับบุกเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่และทุบตีธิดาศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าธารกำนัล เพื่อแก้แค้นให้ลูกสาวนอกสมรส!”“โอ้สวรรค์ เป็นคนอย่างไรกันนะ ทุบตีน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองเพื่อน้องสาวที่เป็นลูกนอกสมรส”“เชื้อไม่ทิ้งแถวจริง ๆ”“ฉวยโอกาสรังแกธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเราในขณะที่ท่านอ๋องไม่อยู่ ไม่สนใจว่าพวกเรามากมายเช่นนี้จะเห็นด้วยหรือไม่!”คนที่ได้ยินว่าเวินเฉวียนเซิ่งเข้ามาข่มขู่เวินซื่อก่อนหน้านี้พากันเอ่ยอย่างโกรธเคือง“อย่าคิดว่าท่านเป็นเจิ้นกั๋วกงแล้วพวกข้าจะเกรงกลัวท่าน!”“หากวันนี้ท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 333

    ประโยคนี้ที่เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม กินเวลานานถึงสองชั่วอายุคนจากชาติที่แล้วจนถึงชาตินี้ ในที่สุดนางก็มีโอกาสได้พูดออกมานางมองไปยังคนตรงหน้าที่เคยสูงใหญ่สง่างามในสายตาของนาง การแสดงออกทางสายตาได้เปลี่ยนไปจากความชื่นชมศรัทธาไปเป็นความเกลียดชังในวันนี้“ตบนางแล้ว...เจิ้นกั๋วกงตบนางแล้ว...”“เจิ้นกั๋วกงตบธิดาศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ?!”“คุณพระ! ธิดาศักดิ์สิทธิ์!”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?!”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์รีบไปทางด้านหลัง รีบไปซ่อนตัวไว้!”บรรดาประชาชนในร้านขายยาต่างมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา รีบกรูกันเข้าไป ปกป้องเวินซื่อให้อยู่ทางด้านหลังบรรดาผู้ดูแลที่อยู่ในร้านขายยาต่างมองดูเวินเฉวียนเซิ่งอย่างระแวดระวัง “ท่านเจิ้นกั๋วกง วันนี้ร้านขายยาของเราปิดรับลูกค้าแล้ว เรียนเชิญท่านออกไป!”“หากท่านไม่พอใจพวกเรา ก็ไปหานายของพวกเราได้ตามสบาย นายของเราคือหนิงหย่วนโหวแห่งลู่โจวเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เวินเฉวียนเซิ่งก็เหลือบมองผู้ดูแลร้านขายยาผู้นี้ที่อยู่ตรงหน้าในที่สุดหนิงหย่วนโหวแห่งลู่โจว เป็นบุคคลโหดเหี้ยมที่อาศัยความเป็นสถานที่ไกลปืนเที่ยงอย่างแท้จริง ทั้งยังควบ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 334

    “พวกท่านคงได้ข่าวกันหมดแล้วใช่ไหม?”“ก็ต้องได้ข่าวมาอยู่แล้ว ตอนนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”“แล้วมันเป็นการตบจริงหรือว่าตบหลอก?”“ก็ต้องตบจริงแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อวานลุงของอาของลูกเขยของแม่สามีของหลานสาวของครอบครัวลุงสามของข้าเห็นกับตาตัวเอง ตอนนั้นตาเฒ่าได้ถือไม้เท้าวิ่งออกไปปกป้องอยู่ข้างหน้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏว่าเจิ้นกั๋วกงนั่นผลักเขาออกไปเลย ไม้เท้าก็ถูกเขาปัดทิ้งไป จากนั้นเจิ้นกั๋วกงนั่นก็เข้าไปตบธิดาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดนี้ตาเฒ่าพูดขึ้นเอง เห็นกับตาตัวเอง ประสบด้วยตัวเอง จะเป็นเรื่องหลอกได้อย่างไร?”“แล้วยังได้ยินมาว่าเป็นการแก้แค้นให้ลูกสาวนอกสมรสของเขา!”“สวรรค์ ท่านเจิ้นกั๋วกงลำเอียงถึงขั้นนี้แล้วจริง ๆ ทำเกินไปหน่อยกระมัง!”“ไม่เพียงเท่านี้นะ เจิ้นกั๋วกงนั่นยังจงใจเลือกที่จะไปหาธิดาศักดิ์สิทธิ์ในตอนที่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่อยู่ อีกอย่างว่ากันว่าตอนนั้นเขายังคิดจะพาธิดาศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย แต่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ฉลาดมีไหวพริบ อยู่ในร้านขายยาแห่งนั้นไม่ออกไปข้างนอก เขาถึงกระทำแผนชั่วไม่สำเร็จ ไม่เช่นนั้นก็ยังไม่รู้ว่าหากธิดาศักดิ์สิทธิ์ถูกพาตัวไป จะ

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status