Share

บทที่ 330

Penulis: จิ้งซิง
อย่างไรเสียคนในราชสำนักจำนวนมากต่างรู้ว่า เป่ยเฉินหยวนมีโรคประจำตัวชนิดหนึ่ง ทุกครั้งที่โรคกำเริบ เขาก็จะเสียสติ กลายเป็นคนบ้าคลั่งทำร้ายคนรอบข้าง

หมอหลวงบอกว่าโรคนี้เป็นเพราะฆ่าคนในสนามรบมากเกินไปจึงทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน ดังนั้นฝ่าบาทจึงมีรับสั่งห้ามมิให้ผู้ใดพูดถึงเรื่องนี้ และผู้ที่บังอาจล่วงเกินขุนนางผู้มีความดีความชอบเพราะเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะถูกประหารชีวิตโดยไม่มีข้อยกเว้น

ดังนั้น นอกจากคนในราชสำนักแล้ว คนภายนอกจึงมีน้อยคนที่รู้ว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่าผ่าเผยท่านนี้ แท้จริงแล้วเป็นคนบ้า

เวินเฉวียนเซิ่งอดกังวลไม่ได้ว่า หากเป่ยเฉินหยวนนั่นจู่ๆ เกิดโรคกำเริบขึ้นมาในตำหนักฉือหนิงของไทเฮา...

ไม่ หรืออาจจะไม่ใช่โรคกำเริบจริงๆ

แต่เป็น “ลูกสาวผู้แสนดี” ของเขาที่สมรู้ร่วมคิดกับเป่ยเฉินหยวน อยากจะใช้เหตุนี้เป็นข้ออ้างเพื่อกำจัดเยวี่ยเอ๋อร์!

เวินเฉวียนเซิ่งยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มาก

เพราะเขารู้ว่าตอนนี้เวินซื่อเกลียดเวินเยวี่ยมาก

ตั้งแต่ตอนที่เยวี่ยเอ๋อร์ไปยุ่งกับศพของหลานจื่อจวิน ระหว่างลูกสาวทั้งสองคนของเขา ก็กลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่จบไม่สิ้นจนกว
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 331

    เวินเฉวียนเซิ่งที่ได้ยินคำพูดนี้ชะงักฝีเท้าลง แล้วหันศีรษะกลับมาจ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาเฉียบคม“เป่ยเฉินหยวนล้มป่วยลงแล้วใช่ไหม?”เวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เร่งรีบ “ดังนั้นตอนนี้เขาถึงมาอยู่ที่นี่”เวินซื่อคิดในใจ: เป็นไปดังคาด เวินเฉวียนเซิ่งก็รู้เรื่องอาการป่วยของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเช่นกันดังนั้นจึงนั่งไม่ติดและวิ่งมาหานางเช่นนี้อันที่จริง เมื่อวานนี้เวินซื่อขอให้เป่ยเฉินหยวนช่วยนางแสดงละครฉากหนึ่ง ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งคิดว่าเวินเยวี่ยเกิดเรื่องขึ้นในตำหนักฉือหนิง กระตุ้นให้เขามาหาถึงเรือนด้วยตัวเองแต่พอนางพูดไปเช่นนั้น เป่ยเฉินหยวนก็เสนอวิธี “แกล้งบ้า” ขึ้นมาทันที“เจิ้นกั๋วกงรู้เรื่องอาการป่วยของข้า ดังนั้นขอเพียงทำให้เขาคิดว่าข้าคลุ้มคลั่งในตำหนักฉือหนิงจริง ๆ เขาก็จะนั่งไม่ติด”เดิมทีเวินซื่อไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะถึงอย่างไรหากเรื่องนี้ลุกลามใหญ่โต ต่อไปทุกคนก็จะรู้เรื่องความเจ็บป่วยของเป่ยเฉินหยวนแต่เป่ยเฉินหยวนกลับบอกว่า “ท่านคิดว่าคนพวกนั้นไม่รู้หรือ? พวกเขาแค่ไม่กล้าพูดเท่านั้น”เมื่อเผชิญหน้ากับขุนนางผู้สร้างคุณูปการแก่ประเทศชาติแห่งราชวงศ์หมิงผู้นี้ ใ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 332

    “เขาก็คือเจิ้นกั๋วกงผู้นั้นใช่ไหม?”“เขานั่นแหละ เมื่อก่อนตอนที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์สวดขอพรให้แว่นแคว้นที่เมืองหลวงข้าเคยเห็นมาก่อน เขาก็คือเจิ้นกั๋วกงที่ขับไล่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราออกจากบ้าน ซ้ำยังตัดชื่อออกจากลำดับเครือญาติเพื่อสนับสนุนลูกสาวนอกสมรสของเขา”“เอ๋? แต่ทำไมข้าได้ยินมาว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ทนความลำเอียงของจวนเจิ้นกั๋วกงไม่ไหวถึงได้ออกมา?”“เฮ้อ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ถึงอย่างไรคนของจวนเจิ้นกั๋วกงก็รังแกธิดาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา เรื่องเมื่อก่อนนั้นพวกเจ้าไม่เคยได้ยินหรือ? คุณชายคนหนึ่งจากจวนเจิ้นกั๋วกงถึงกับบุกเข้าไปในอารามสุ่ยเยว่และทุบตีธิดาศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าธารกำนัล เพื่อแก้แค้นให้ลูกสาวนอกสมรส!”“โอ้สวรรค์ เป็นคนอย่างไรกันนะ ทุบตีน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองเพื่อน้องสาวที่เป็นลูกนอกสมรส”“เชื้อไม่ทิ้งแถวจริง ๆ”“ฉวยโอกาสรังแกธิดาศักดิ์สิทธิ์ของเราในขณะที่ท่านอ๋องไม่อยู่ ไม่สนใจว่าพวกเรามากมายเช่นนี้จะเห็นด้วยหรือไม่!”คนที่ได้ยินว่าเวินเฉวียนเซิ่งเข้ามาข่มขู่เวินซื่อก่อนหน้านี้พากันเอ่ยอย่างโกรธเคือง“อย่าคิดว่าท่านเป็นเจิ้นกั๋วกงแล้วพวกข้าจะเกรงกลัวท่าน!”“หากวันนี้ท

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 333

    ประโยคนี้ที่เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม กินเวลานานถึงสองชั่วอายุคนจากชาติที่แล้วจนถึงชาตินี้ ในที่สุดนางก็มีโอกาสได้พูดออกมานางมองไปยังคนตรงหน้าที่เคยสูงใหญ่สง่างามในสายตาของนาง การแสดงออกทางสายตาได้เปลี่ยนไปจากความชื่นชมศรัทธาไปเป็นความเกลียดชังในวันนี้“ตบนางแล้ว...เจิ้นกั๋วกงตบนางแล้ว...”“เจิ้นกั๋วกงตบธิดาศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ?!”“คุณพระ! ธิดาศักดิ์สิทธิ์!”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?!”“ธิดาศักดิ์สิทธิ์รีบไปทางด้านหลัง รีบไปซ่อนตัวไว้!”บรรดาประชาชนในร้านขายยาต่างมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา รีบกรูกันเข้าไป ปกป้องเวินซื่อให้อยู่ทางด้านหลังบรรดาผู้ดูแลที่อยู่ในร้านขายยาต่างมองดูเวินเฉวียนเซิ่งอย่างระแวดระวัง “ท่านเจิ้นกั๋วกง วันนี้ร้านขายยาของเราปิดรับลูกค้าแล้ว เรียนเชิญท่านออกไป!”“หากท่านไม่พอใจพวกเรา ก็ไปหานายของพวกเราได้ตามสบาย นายของเราคือหนิงหย่วนโหวแห่งลู่โจวเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เวินเฉวียนเซิ่งก็เหลือบมองผู้ดูแลร้านขายยาผู้นี้ที่อยู่ตรงหน้าในที่สุดหนิงหย่วนโหวแห่งลู่โจว เป็นบุคคลโหดเหี้ยมที่อาศัยความเป็นสถานที่ไกลปืนเที่ยงอย่างแท้จริง ทั้งยังควบ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 334

    “พวกท่านคงได้ข่าวกันหมดแล้วใช่ไหม?”“ก็ต้องได้ข่าวมาอยู่แล้ว ตอนนี้มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”“แล้วมันเป็นการตบจริงหรือว่าตบหลอก?”“ก็ต้องตบจริงแน่นอนอยู่แล้ว เมื่อวานลุงของอาของลูกเขยของแม่สามีของหลานสาวของครอบครัวลุงสามของข้าเห็นกับตาตัวเอง ตอนนั้นตาเฒ่าได้ถือไม้เท้าวิ่งออกไปปกป้องอยู่ข้างหน้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏว่าเจิ้นกั๋วกงนั่นผลักเขาออกไปเลย ไม้เท้าก็ถูกเขาปัดทิ้งไป จากนั้นเจิ้นกั๋วกงนั่นก็เข้าไปตบธิดาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดนี้ตาเฒ่าพูดขึ้นเอง เห็นกับตาตัวเอง ประสบด้วยตัวเอง จะเป็นเรื่องหลอกได้อย่างไร?”“แล้วยังได้ยินมาว่าเป็นการแก้แค้นให้ลูกสาวนอกสมรสของเขา!”“สวรรค์ ท่านเจิ้นกั๋วกงลำเอียงถึงขั้นนี้แล้วจริง ๆ ทำเกินไปหน่อยกระมัง!”“ไม่เพียงเท่านี้นะ เจิ้นกั๋วกงนั่นยังจงใจเลือกที่จะไปหาธิดาศักดิ์สิทธิ์ในตอนที่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่อยู่ อีกอย่างว่ากันว่าตอนนั้นเขายังคิดจะพาธิดาศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย แต่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ฉลาดมีไหวพริบ อยู่ในร้านขายยาแห่งนั้นไม่ออกไปข้างนอก เขาถึงกระทำแผนชั่วไม่สำเร็จ ไม่เช่นนั้นก็ยังไม่รู้ว่าหากธิดาศักดิ์สิทธิ์ถูกพาตัวไป จะ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 335

    แต่ในช่วงเวลานี้ กลับมีคนต่อต้านบิดาของพวกเขา ซ้ำยังสร้างปัญหาให้กับบิดาด้วยเมื่อครู่เขาเอาแต่โมโหมาก แต่ตอนนี้เมื่อคิดดูอย่างรอบคอบแล้ว ก็ต้องขมวดคิ้วทันที“ท่ามกลางข่าวลือครั้งนี้เดิมทีเวินซื่อก็คือตัวเอกที่ถูกลือกันว่าเป็นเหยื่ออยู่แล้ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนางอย่างดิ้นไม่หลุดแน่นอน แต่ตอนนี้ข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไปข้างนอกน่าจะมีคนอื่นด้วย เพราะถึงอย่างไรเวินซื่อก็ยังไม่ใช่ต้นเรื่องใหญ่โตเช่นนั้น”เวินจื่อเยวี่ยโมโหขึ้นมาในทันใด “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นฝีมือของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนเป่ยเฉินหยวนแน่ ๆ นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครช่วยเวินซื่อต่อต้านเจิ้นกั๋วกงเช่นนี้อีกแล้ว!”เวินอวี้จือไม่พูดอะไรอีก แต่เห็นได้ชัดว่าความคิดของเขาเหมือนกับของเวินจื่อเยวี่ย“ท่านพ่อ ตอนนี้เราจะทำอย่างไรต่อไป? คนโง่เขลาอย่างเหลือล้นข้างนอกพวกนั้นหลงเชื่อข่าวลือเหล่านั้นไปแล้ว ตอนนี้กำลังจะเอาไข่ไก่เน่ากับเศษผักไปขว้างที่ประตูจวนเจิ้นกั๋วกงของเราแล้ว ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไปเราจะออกไปพบปะผู้คนได้อย่างไร?!”เวินเฉวียนเซิ่งเริ่มไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่ตอนที่เวินจื่อเยวี่ยบุกเข้ามาเขาข่มอารมณ์ไว้ในใจ ถือพู่กั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 336

    ทันทีที่พูดคำนี้ออกไป เวินเฉวียนเซิ่งก็เงยหน้าขึ้นมองเวินจื่อเยวี่ยแวบหนึ่ง“เป็น...เป็นอะไรไปท่านพ่อ?”สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งทำให้เวินจื่อเยวี่ยรู้สึกสับสนเล็กน้อยเวินเฉวียนเซิ่งก็อยากถามเขาเหมือนกันว่าเขาเป็นอะไรไปบิดาของตัวเองก็ถูกลงโทษแล้ว ยังไม่ทันได้ยินเสียงเป็นห่วงเป็นใยจากลูกชายของเขาคนนี้ กลับถูกถามว่าจะส่งผลกระทบต่อเวินเยวี่ยหรือไม่?ในเวลานี้เวินเฉวียนเซิ่งที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อเห็นท่าทีไม่ไยดีแม้แต่นิดที่มีต่อพ่ออย่างเขาคนนี้ของเวินจื่อเยวี่ย ไฟโทสะก็ปะทุขึ้นมาในหัวใจทันที“พ่อถูกลงโทษแล้ว จะส่งผลกระทบต่อนางอย่างไรน่ะหรือ? นางไม่สามารถเข้าวังเป็นพระสนมได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่างมากก็ถูกหาข้ออ้างโยนออกมา ไม่จำเป็นต้องให้พวกเราคิดหาวิธีช่วยนางแล้ว”ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะสะสางเรื่องยุ่ง ๆ นี้ให้เวินเยวี่ย ก็คงไม่ถูกวางแผนอย่างในวันนี้ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องคิดถึงทางด้านฮ่องเต้น้อยแล้ว เมื่อมีเป่ยเฉินหยวนอยู่ด้วย ฮ่องเต้น้อยย่อมไม่มายืนฝั่งเดียวกับเขาได้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทั้งสองคนร่วมมือกันทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาอย่างชัดเจนคิดจะปลดเขาออกจากตำ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 337

    “ท่านอ๋อง มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องการรบกวนท่าน”“ได้สิ”เป่ยเฉินหยวนพยักหน้าตอบรับโดยไม่รอให้นางพูดจบเวินซื่ออดหัวเราะไม่ได้ “ท่านอ๋องไม่ฟังข้าพูดให้จบก็ตอบตกลงแล้วหรือ?”เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ขอเพียงเป็นเรื่องของท่าน ข้าตอบตกลงทุกอย่าง”“แล้วถ้าเกิดข้าเสนออะไรที่ท่านจัดการได้ยากล่ะ?”“ใต้หล้านี้เรื่องที่ข้าจัดการได้ยากเหลือเพียงไม่กี่อย่างแล้ว หากใช่จริง ๆ ข้าก็จะทำทุกวิถีทาง เพื่อจัดการให้ท่านอย่างเต็มกำลัง”เมื่อเป่ยเฉินหยวนพูดเช่นนี้สีหน้าก็ดูสงบ น้ำเสียงจริงจัง ไม่มีเจตนาที่จะทำแบบขอไปทีเลยแม้แต่นิดเดียวภายในใจของเวินซื่อรู้สึกซาบซึ้งนางประสานมือคารวะเป่ยเฉินหยวนอย่างตั้งใจ “ท่านช่างมีน้ำใจยิ่งนัก จะไม่ทำให้สหายผิดหวังแน่นอน”ความกรุณาและมิตรไมตรีของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนที่มีต่อนางยิ่งใหญ่ดั่งขุนเขาและท้องทะเลเมื่อมีสหายเช่นนี้ นางก็ยิ่งสมควรทุ่มเทสุดกำลังความสามารถอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรักษาอาการป่วยของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนให้ได้เมื่อเผชิญกับคำสัญญาอย่างจริงจังเช่นนี้ของเวินซื่อ ใบหน้าหล่อเหลาของเป่ยเฉินหยวนก็เผยรอยยิ้มออกมาเช่นกันหากดูอย่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 338

    “จริงสิ เช้านี้ฝ่าบาทถือโอกาสเพิกถอนอำนาจรับผิดชอบในมือของเจิ้นกั๋วกงไปไม่น้อย วันนี้เขาจะต้องมาหาท่านแน่นอน”เป่ยเฉินหยวนมองดูนางด้วยท่าทีอ่อนโยน “ต้องการให้ข้าคอยเฝ้าดูอยู่ใกล้ ๆ หรือไม่?”“ไม่ต้องหรอก ตราบใดที่เขายังต้องการพาตัวเวินเยวี่ยออกมา ท่าทีของเขาในวันนี้จะไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว”ครั้งนี้เวินซื่อรอคอยมาเนิ่นนาน การก้มหัวเป็นครั้งแรกจากบิดาผู้สูงศักดิ์ของนางนางตั้งตารอคอยมากผลลัพธ์พิสูจน์ให้เห็นว่า ก็สะใจมากเช่นกัน“ซื่อเอ๋อร์ เมื่อก่อนพ่อผิดไปแล้ว”เมื่อยืนอยู่นอกประตูอารามสุ่ยเยว่ หลังจากเวินเฉวียนเซิ่งให้คนไปเชิญเวินซื่อออกมาแล้ว ก็เอ่ยปากด้วยสีหน้าจริงจังเขาพูดอย่างจริงจังเช่นนั้น พอเอ่ยปากก็ขอโทษทันทีแม้แต่เวินอวี้จือที่เดินตามมาข้าง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็อดเผยความประหลาดใจออกมาไม่ได้บิดากำลังก้มหัวให้เวินซื่อจริงหรือ?!เขารู้ว่าที่บิดามาครั้งนี้ จะไม่ใช้วิธีการรุนแรงบังคับเวินซื่อเหมือนเมื่อก่อน บางทีท่าทีอาจจะอ่อนโยนกว่านี้เล็กน้อย วิธีการนุ่มนวลกว่านี้บ้างแต่เขาไม่คาดคิดว่าจะไม่ใช่แค่นุ่มนวลอ่อนโยนเท่านั้น แต่บิดายังก้มหัวให้โดยตรงอย่างไม่น

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status