เมื่อเดินกลับไปหยิบตะเกียบออกมาอีกครั้ง นางก็เรียกทั้งสองคนนั้นโดยไม่ได้คิดอะไร “เลิกสู้กันได้แล้ว รีบมากินข้าวเร็วเข้า”จู๋เยวี่ยวางมือลงในทันใด แล้วรีบเหาะไปหาเวินซื่อทางด้านนั้นทันทีจินซือถูที่ฉวยโอกาสกำลังจะได้เปรียบอยู่แล้วก็คว้าน้ำเหลวในทันใดจินซือถู “...”ไม่มีใครต่อยตีกับเขาแล้ว เขาจึงต้องเดินตามไปด้วย จากนั้นก็ยืนบนโต๊ะหินอย่างไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง มองไปที่บะหมี่หยางชุนชามที่เพิ่มขึ้นมาชามหนึ่งแบบคล้ายสนใจแต่ก็เหมือนไม่สนใจ“ท่านเป็นถึงธิดาศักดิ์สิทธิ์ยังมาทำบะหมี่ให้คนอื่นกินอีกหรือ? ชามที่เพิ่มมานี่คงไม่ใช่ของข้ากระมัง?”เวินซื่อกินบะหมี่ของตัวเองโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า “ไม่ใช่ ให้จู๋เยวี่ยกิน นางค่อนข้างกินจุ”จู๋เยวี่ยพยักหน้า “อืม ๆ”จินซือถูเบิกตากว้างทันที จ้องมองจู๋เยวี่ยอย่างไม่เชื่อสายตา “เจ้ากินจุขนาดไหนกินบะหมี่ชามใหญ่ได้ตั้งสองชาม? ข้าไม่สน ตะเกียบมีสามคู่ ทำไมชามนี้ถึงไม่ใช่ของข้าล่ะ?”เขานั่งลงอย่างไม่ลังเลด้วยความโมโห หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกินทันทีอย่าว่าไป แม้ว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้มีดีอะไรมากมาย อารมณ์ก็ร้าย แต่ฝีมือการทำบะหมี่หยางชุนถือว
Read more