Share

บทที่ 245

Author: จิ้งซิง
ปรากฏว่าคราวนี้ไม่รอให้เวินซื่อพูดให้จบ จินซือถูก็ขัดจังหวะนางด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง

“เวินเยวี่ยน่ะหรือ? จิตใจบริสุทธิ์ดีงาม? ไร้เดียงสาไม่มีพิษภัย? ฮ่า ๆ ๆ ๆ นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในใต้หล้าจริง ๆ!”

จินซือถูอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นหัวเราะลั่น

หัวเราะไปด่าไป “นางเป็นจอมลวงโลก นางโกหกพวกเราทุกคน กับแม่สมควรตายนับหมื่นนับพันครั้งของนางนั้นด้วย หลอกพวกเราทุกคนจนหัวหมุนไปหมด!”

เมื่อจินซือถูพูดจนจบ ก็เริ่มด่าทออย่างโกรธจัด

เวินซื่อจ้องมองเขาเช่นนั้น หลังจากที่เขาด่าทอจบ ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างราบเรียบ “หากเจ้ากล้าขัดจังหวะข้าอีกครั้งหนึ่ง ก็อย่าโทษที่ข้าทรมานแมลงตัวน้อยของเจ้าต่อ”

เวินซื่อชี้ไปที่ถังไม้

จินซือถูจึงพูดอย่างตรงไปตรงมาทันที “เอาละ เจ้าพูด ๆ”

“พูดเรื่องนายของเจ้าจบแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาว่าเจ้าแล้วเจ้าแมลงตัวน้อย”

ตอนนี้เวินซื่อรู้สึกหมดความสนใจเล็กน้อย “นางกล่าวอย่างรายเรียบด้วยอารมณ์หมดสนุก “เจ้าตัวน้อยนี่เจ้าให้มันปล่อยพิษใส่ข้า เพราะว่ามัน ยังทำให้ข้าหลั่งเลือดไปไม่น้อย”

แล้วยังดื่มน้ำทิพย์จากมิติของนางอีกด้วย

ตอนนี้แค่ทรมานมันสักหน่อยก็ถือว่าดีมากแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะค้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 246

    ทางที่ดีก็ขอให้ส่งต่อ?คำพูดนี้ทำให้เวินซื่ออึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นนางก็คิดอะไรออกได้อย่างฉับพลัน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าคงไม่ใช่ไม่ได้กินยาถอนพิษมานานแล้วหรอกนะ?”จินซือถูกัดฟันกรอดทันที “ใช่ นานมาก ๆ แล้ว”พวกเขาหยุดยามาสามปีแล้ว!สามครั้งที่ออกฤทธิ์ พวกเขาต่างไม่เคยได้รับยาถอนพิษเลย!สามครั้งนี้ที่ผ่านมานี้ เดิมทีพวกเขามีอยู่สามร้อยคน เหลือเพียงไม่ถึงสองร้อยคนต่อมาก็ถูกส่งไปที่จินโจวเพื่อลอบสังหารเวินซื่อ สูญเสียไปอีกกว่าครึ่งตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น!หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าอีกไม่นาน พวกเขาทั้งหมดก็จะตายลง“แล้วทำไมพวกเจ้าไม่ฆ่านางเสียเลยเล่า?”เวินซื่อถามด้วยความแปลกใจจินซือถูเหลือบมองเวินซื่อแวบหนึ่ง “ร้ายดีอย่างไรเจ้าก็เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ เป็นแม่ชีน้อยที่ออกบวชแล้วอีกต่างหาก เหตุใดถึงเอาแต่พูดเรื่องการฆ่า ๆ ๆ ตาย ๆ ๆ?”“เจ้าจะบอกหรือไม่?”เวินซื่อจ้องเขม็งกลับไปที่เขา“บอก ๆ ๆ”จินซือถูเอนศีรษะพิงเสาข้างหลัง “พวกข้าก็อยากฆ่านางเหมือนกัน แต่แม่ของเวินเยวี่ยได้บอกพวกข้าไว้ก่อนตาย ว่านางได้ส่งต่อสูตรลับของยาถอนพิษให้แก่เวินเยวี่ย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 247

    เมื่อได้ยินว่าเวินซื่อต้องการเก็บแมลงชีวิตของตัวเองเอาไว้ จินซือถูจึงฉีกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีฝืนใจ “เจ้า...เจ้าใช้งานพั่วจวินไม่ได้เสียหน่อย ทำไมต้องเก็บมันไว้ด้วย?”“ใครว่าข้าใช้งานไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเล็กน้อย “ข้าอยากศึกษาค้นคว้าพิษของแมลงตัวน้อยของเจ้าตัวนี้พอดี”“ก็ได้”จินซือถูเอ่ยอย่างจนปัญญาคนเราอยู่ใต้ชายคา ไม่ก้มหัวก็ไม่ได้จริง ๆ“เช่นนั้นเจ้าก็ปล่อยข้าไปได้แล้วใช่หรือไม่?”เวินซื่อเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นางหมุนตัวหันหลังให้จินซือถู เอื้อมมือเข้าไปในถังไม้ หลังจากเอาตะขาบพิษเก็บไว้ในมิติ ก็พยักหน้าให้จู๋เยวี่ยจู๋เยวี่ยก้าวไปข้างหน้า กวัดแกว่งกระบี่ยาว ตัดเชือกทั้งหมดบนร่างกายของจินซือถูออกทันทีจินซือถูที่ได้รับการปลดปล่อยในที่สุดโยนเชือกที่ขาดออกจากร่างกายทิ้งไป ขยับเขยื้อนมือและเท้าสักพักแล้วถือโอกาสถามเวินซื่อว่า “เจ้าต้องการแมลงพิษชนิดใด ที่ข้าพอมีอยู่บ้าง อย่างเช่นแมงมุมเอย แมงป่องเอย มดคันไฟเอย หากเจ้าต้องการก็สามารถให้เจ้าได้จำนวนหนึ่ง แต่ต้องเอามาให้เจ้าในคราวหน้า”“เอาทุกอย่าง”เวินซื่อกล่าวอย่างไม่เกรงใจจินซือถูเบิกตาโพลงทันที “เจ้านี่ไม่เกรงใจเลยสักนิด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 248

    มีตำรับยาแต่กลับไม่มียา ต่อให้นางคิดที่จะทำก็ทำไม่ได้แต่เวินซื่อนั้นไม่เหมือนกันหลังจากอ่านจบแล้วก็พบว่าสูตรยาถอนพิษนี้มีจุดที่สามารถเป็นไปได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหญ้าฝรั่นซึ่งนางก็มีหากพวกจินซือถูเอาแต่รอให้เวินเยวี่ยศึกษาค้นคว้ายาถอนพิษให้พวกเขาต่อไป เกรงว่ารอจนตายก็เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่านางสามารถทำได้ แต่ก็จะไม่มีทางทำออกมาให้พวกจินซือถูได้ง่าย ๆเพราะถึงอย่างไรคนที่ต้องการยานี้ก็ไม่ได้มีแต่พวกเขาเท่านั้นเวินซื่อถอนหายใจ เห็นทีจะต้องหาวิธีย้ายที่ปลูกให้สมุนไพรในมิติโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะหญ้าฝรั่นนี้หลังจากที่เวินซื่อมีแนวคิดคร่าว ๆ เกี่ยวกับสูตรลับของยาถอนพิษแล้ว ก็เก็บสูตรลับเอาไว้วันรุ่งขึ้น นางเตรียมตัวเดินทางลงจากภูเขาขณะที่เก็บข้าวของเสร็จและปิดประตูห้องออกมา เวินซื่อก็พบว่าต้นสือหูผิวเหล็กที่ย้ายมาปลูกใหม่เมื่อวานตอนบ่ายดูเหมือนจะเจริญเติบโตได้ดีนางเดินเข้าไปดู จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้สวนสมุนไพรผืนนี้ถูกนางรดด้วยน้ำทิพย์ที่ผ่านการเจือจาง ดังนั้นในดินต้องมีพลังวิญญาณอยู่ไม่น้อยแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าพลังวิญญาณเหล่านี้เพียงพอที่จะค้ำชูให้ต้นสือหูผิวเหล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 249

    เวินซื่อ เจ้ายังมีมโนธรรมอยู่หรือไม่!”เวินจื่อเยวี่ยกระโดดพุ่งปราดลงจากรถม้า หลังจากลงมาแล้วก็วิ่งไปหาเวินซื่อ เมื่อเผชิญหน้ากับนางก็พ่นคำด่าทอชุดใหญ่“เจ้าฆ่าองครักษ์ลับไปมากมายเช่นนั้นได้อย่างไร? พวกเขาล้วนเป็นคนของจวนเจิ้นกั๋วกงของเรา! เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้เจ้าพ่อโกรธเจ้าจนล้มป่วยแล้ว?!”“ไม่รู้ และไม่อยากรู้”สีหน้าของเวินซื่อสงบนิ่ง ไม่อยากสนใจเขาเลยแม้เพียงคำพูดเดียว“เจ้าช่างจิตใจโหดเหี้ยมจริง ๆ!”“ข้าจิตใจโหดเหี้ยมอย่างนั้นหรือ?”เวินซื่อส่งเสียงยิ้มเยาะ “หากข้าจิตใจโหดเหี้ยมล่ะก็ แล้วน้องหกของท่านเรียกว่าอะไร? แม้แต่พี่ชายอย่างท่านก็จงใจวางยาพิษได้ ต้องการฆ่าสัตว์เดรัจฉานอย่างท่านให้ตาย?”“ข้าพอใจ!”เวินจื่อเยวี่ยจ้องเขม็งใส่นางอย่างดุดัน “แล้วถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า น้องหกคงไม่ทำกับข้าแบบนี้!”“อ้อ เบาปัญญา”เวินซื่อจะชื่นชมเขาสามคำยังรู้สึกว่ามากเกินไปนางสาวเท้ากำลังจะไป แต่กลับถูกเวินจื่อเยวี่ยพยายามขวางไว้ “เจ้าจะไปไหน? รีบบอกมา เจ้าซ่อนน้องหกเอาไว้หรือไม่? เจ้าเอานางไปซ่อนไว้ที่ไหน รีบปล่อยนางมาให้ข้านะ!”“ก็บอกไปแล้วว่าข้าไม่รู้ ไม่รู้”เวินซื่อเริ่มหงุดหงิดเล็ก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 250

    “ระหว่างเราดูเหมือนไม่จำเป็นต้องพบกันอีกกระมัง”เวินซื่อเอ่ยอย่างเย็นชาอันหลันซินทอดถอนใจ “เจ้าช่างไร้เยื่อใยเสียจริง อาซื่อ นึกถึงเมื่อก่อนนี้ข้าเห็นเจ้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด”เวินซื่อขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “อย่าเรียกชื่อนี้อีก แม่ชีก็ไม่ใช่เพื่อนของเจ้าเช่นกัน”“แม่ชี?”นี่เป็นครั้งแรกที่อันหลันซินได้ยินคำแทนตัวเช่นนี้ หลังจากอึ้งอยู่สักพัก ก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ทันทีพลางเอ่ยว่า “ไม่นึกว่าเจ้าจะออกบวชจริง ๆ แม้แต่คำแทนตัวก็เปลี่ยน ข้านึกว่าเจ้าทำแบบนี้เพื่อประชันกับเวินเยวี่ยเสียอีก”เวินซื่อไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระจากนางอีก จึงหันหลังกำลังจะเดินจากไปไม่นึกว่าอันหลันซินจะดื้อดึงตามมา “รอข้าด้วย ทำไมเพื่อนเก่าพบกันยังไม่ทันพูดอะไรกันสักคำ ก็จะรีบไปเช่นนี้เล่า?”อันหลันซินเดินจ้ำ ๆ ไปหาเวินซื่อ จ้องมองนางจากหัวจรดเท้าอย่างไม่กะพริบตา “อืม น่าเสียดายที่ผมของเจ้ายังไม่ถูกโกน ไม่เช่นนั้นข้ายังอยากเห็นเจ้ากลายเป็นแม่ชีตัวน้อยจริง ๆ”เวินซื่อยังคงไม่สนใจเช่นเคยอันหลันซินเอาแต่พูดต่อไป “แต่ตอนนี้สภาพของเจ้าก็ดูดีทีเดียว แม้ว่าชุดสีฟ้าทะเลนี้จะดูเรียบง่ายไปหน่อย แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 251

    หลังจากทิ้งคำพูดประโยคนี้ไว้ เวินซื่อเดินไปจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนทันที“คารวะธิดาศักดิ์สิทธิ์”องครักษ์เฝ้าประตูไม่แม้แต่จะขัดขวาง หลังทำความเคารพก็ปล่อยให้เวินซื่อเดินเข้าไปการปฏิบัติเช่นนี้อันหลันซินไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับนางเพียงยืนอยู่หน้าประตูใหญ่จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน มองดูร่างของเวินซื่อหายวับไปด้านในอย่างรวดเร็ว“คุณหนูรอง คราวนี้จะทำอย่างไรดี เห็นได้ชัดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์กับท่านอ๋องสนิทสนมกันมาก หากท่านคิดจะเล่นงานธิดาศักดิ์สิทธิ์ คาดว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้นนะเจ้าคะ”สาวใช้คนสนิทของอันหลันซินอดกล่าวอย่างกังวลไม่ได้“ไม่เป็นไร ข้ามีวิธีของข้า”อันหลันซินแค่นหัวเราะเสียงค่อย จากนั้นหันหลังจากไป เมื่อกลับไปถึงรถม้าได้สั่งให้กลับจวนทันทีเพียงไม่นาน นอกห้องหนังสือของราชเลขาฝ่ายขวาที่กำลังสะสางงานราชการอยู่“บุตรสาวหลันซินคารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ”“เข้ามา”อันปี่เค่อกล่าวเพียงสั้นๆพลันได้ยินตรงประตูมีเสียงของคนเดินเข้ามาดังขึ้น ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น อันปี่เค่อก็ยังสะสางงานของเขาโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง“มีธุระอะไรก็รีบว่ามา พูดจบก็รีบออกไป อย่าทำให้ข้าเสียเวลา”นี่ก็คือ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 252

    “เจ้ารู้หรือไม่ว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้นั้นเกลียดหญิงสาวที่เข้าใกล้? เจ้าอยากเป็นคนของเขา? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เจ้านึกว่าที่เจ้าอยากเข้าใกล้จะไม่ทำให้เขาฆ่าเจ้าหรือ?”อันปี่เค่อเหน็บแนมนางอย่างเจ็บแสบ “เป็นแค่ลูกอนุภรรยาคนหนึ่งควรกลับไปเย็บผ้าก็กลับไปเย็บผ้า อย่ามัวแต่คิดเรื่องชั่วช้าสามานย์ ข้าเองก็ไม่มีเวลาฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้ของเจ้า”“ออกไป!”“ข้ารู้ความลับหนึ่งของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ข้าทำให้เขายอมรับข้าได้”อันหลันซินกล่าวกะทันหัน“เจ้ารู้ความลับของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนหรือ?”อันปี่เค่อแค่นหัวเราะ “เจ้าจะไปรู้อะไรได้?”“ความลับนี้ข้าถามมาจากเวินซื่อ”อันหลันซินสีหน้าคงเดิม เอ่ยอย่างสงบนิ่ง“เวินซื่อ?”อันปี่เค่อขมวดคิ้วทันที “เจ้ากับธิดาศักดิ์สิทธิ์แตกหักกันเพราะเรื่องในตอนนั้นนานแล้วไม่ใช่หรือ? ธิดาศักดิ์สิทธิ์จะไปบอกความลับอะไรเจ้า?”อันหลันซินทำท่าใจเย็น “ถูกต้องว่าพวกเราแตกคอกันแล้ว แต่น่าเสียดายที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ใจอ่อนเกินไป ข้าแค่ร้องไห้ต่อหน้านาง นางก็ให้อภัยข้าอีกครั้งแล้วเจ้าค่ะ”“เจ้าพูดจริงหรือ?”อันปี่เค่อหรี่ตาลงเล็กน้อยเขารู้ดีว่าเวินซื่อ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 253

    “อืม!”เวินซื่อพยักหน้าหนักๆ หนึ่งที แล้วกินต่อไป“วันนี้ท่านมาหาข้าเพื่อเรื่องนี้หรือ?”“ใช่ เพื่อเรื่องนี้แหละ”คนใจร้าย ยังนึกว่าคิดถึงเขาเลยมาเยี่ยมเขาซะอีกเป่ยเฉินหยวนเองก็ไม่ได้คาดหวังว่านางจะเข้าใจในตอนนี้ถึงอย่างไรหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล ค่อยเป็นค่อยไปก็แล้วกัน“ใช่สิ จะว่าไปที่ข้ามีข่าวหนึ่งที่ต้องแจ้งให้ท่านทราบ”“อะไร?”เวินซื่อหยุดการกระทำในมือ แล้วมองเขาอย่างใคร่รู้เป่ยเฉินหยวนยื่นนิ้วมือไปเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางอย่างเป็นธรรมชาติเวินซื่อเพิ่งรู้สึกว่าไม่เหมาะสม เตรียมจะหดหัวกลับมา พลันได้ยินเป่ยเฉินหยวนกล่าวขึ้น“ช่วงก่อนผู้ใต้บัญชาข้าหาตัวคนสกุลหลานที่ตอนนั้นอยู่ในเมืองหลวงพบ”เวินซื่อลืมการกระทำของตัวเองทันที พร้อมมองเขาอย่างตะลึง “จริง...จริงหรือ?”“เป็นจริงแน่นอน”เป่ยเฉินหยวนเก็บมือกลับมา ใช้ผ้าเช็ดหน้าตัวเองเช็ดอย่างเบามือ จากนั้นกล่าวเสียงเรียบ “ข้าจะโกหกท่านหรือ?”“ไม่ใช่ ข้าเพียงแต่รู้สึกประหลาดใจเท่านั้น”เวินซื่อรีบส่ายหน้า แน่นอนว่านางไม่สงสัยเป่ยเฉินหยวน ทว่า...คนสกุลหลานนอกจากผู้ที่ไม่ใช่ญาติสายตรงซึ่งแยกบ้านออกจากเมืองหลวงนานแล้ว พวก

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 390

    สมุนไพรทั้งหมดนี้ในที่ดินกุยอวิ๋น เป็นสิ่งที่นางได้ตกลงไว้แล้วว่าจะมอบให้กับเป่ยเฉินหยวนเป็นสมุนไพรสำหรับทหารในกองทัพธงดำที่ออกรบเพื่อราชวงศ์ต้าหมิงมาหลายปี จนสุดท้ายร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล พิการ และเจ็บปวดบัดนี้ สมุนไพรที่ปลูกไว้ได้หนึ่งเดือนแล้วกลับถูกพวกเขาทำลายไปกว่าครึ่ง แถมยังไม่เว้นแม้แต่แปลงสมุนไพรร้ายกาจถึงเพียงนี้ นางจะกลืนความโกรธแค้นนี้ลงไปได้อย่างไรนางจะไม่ปล่อยคนที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไป และคนร้ายตรงหน้าเหล่านี้ นางก็จะไม่ปล่อยไปเช่นกัน“ท่านลุงหลาน ต้องรับพวกเขาให้ดี”ผู้เฒ่าหลานไม่คิดว่าเวินซื่อจะมีด้านนี้ด้วยเดิมทีเขาคิดว่าปกติแล้วคุณหนูน้อยผู้อ่อนโยนและใจดีมาโดยตลอดนั้น จะเหมือนกับคุณหนูใหญ่มากแต่คาดไม่ถึงว่า ภายใต้ความอ่อนโยนของคุณหนูน้อย จะยังมีด้านที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ซ่อนอยู่ช่าง...เหมือนกับนายท่านในตอนนั้นไม่มีผิด!ดวงตาที่แก่ชราของผู้เฒ่าหลานฉายแววเฉียบคม จ้องมองเวินซื่อด้วยสายตาร้อนแรง ราวกับว่าเขามองเห็นภาพของเจ้าบ้านสกุลหลานในอดีตในตัวของนางมองจนหัวใจที่สงบนิ่งมานานหลายปีของเขาถึงกับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมานายท่าน สกุลหลานของพวกเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 389

    “รบกวนลุงหลานเริ่มจัดหาคนในวันพรุ่งนี้ ช่วงสองสามวันนี้ลำบากท่านแล้ว”“เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ลำบากหรอก เพียงแต่ว่าคนร้ายที่วางยาพิษยังจับตัวไม่ได้ หากพวกเราแก้ไขตอนนี้ เกรงว่าคนร้ายนั่นจะกลับมาอีก”เวินซื่อย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีนางยิ้มเล็กน้อย “ลุงหลานวางใจได้ พรุ่งนี้ท่านจัดหาคนได้เลย คืนนี้พวกเราจะจับคน”......คืนนั้นควรจะเป็นเวลาที่เข้าสู่ห้วงนิทรา แต่กลับมีคนจำนวนหนึ่งถือถังไม้คนละใบ หลบเลี่ยงคนลาดตระเวนเหล่านั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาแอบเข้าไปในที่ดินกุยอวิ๋นอีกครั้งอย่างชำนาญ“หัวหน้า เมื่อวานพวกเราสาดยาพิษที่แปลงสมุนไพรทางตะวันออก ทางใต้ก็สาดไปหลายแห่งแล้ว คืนนี้จะเปลี่ยนไปสาดทางตะวันตกหรือทางเหนือดี?”“ได้ ไปดูทางตะวันตกก่อนก็แล้วกัน ถึงอย่างไรคุณชายสามก็บอกว่าต้องสาดให้หมด ต้องทำหมดทุกทาง”ดังนั้น คนร้ายที่ปิดบังใบหน้าทั้งเจ็ดแปดคนจึงอ้อมผ่านไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกไม่นานนัก พวกเขาก็วิ่งมาถึงที่หมาย“เจ้าสอง เจ้าสาม พวกเจ้าสองคนไปดูต้นทาง มีอะไรก็รีบเป่านกหวีด เจ้าสี่ เจ้าห้า เจ้าหก พวกเจ้าสามคนไปตักน้ำ เจ้าเจ็ด เจ้ามาทำลายสมุนไพรกับข้า”“ได้เลย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 388

    “คนร้ายกระจอกๆ พวกนั้นจับตัวได้หรือไม่?”“พวกที่มาครั้งแรกจับได้แล้วขอรับ แต่ไม่กี่วันต่อมา ก็มีมาอีกสองสามคน แถมยังระมัดระวังตัวยิ่งกว่า เจ้าเล่ห์มาก พิษที่เทในแปลงสมุนไพรก็เป็นฝีมือของพวกที่มาครั้งที่สองนี้”เวินซื่อเอ่ยถาม “มีคนได้รับผลกระทบบ้างหรือไม่?”ผู้เฒ่าหลานส่ายหน้า “ยาพิษที่เทนั้นดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่แปลงสมุนไพรของเราเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนมากนัก”เวินซื่อแค่นหัวเราะ “หากวางยาพิษคน เรื่องนี้คงไม่ง่ายดายเช่นนี้แล้ว”หลังจากที่นางทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็กำชับว่า “รบกวนลุงหลานเดินทางรอบนี้ ตอนนี้ฟ้ายังไม่มืด ข้าจะไปดูที่ดินกุยอวิ๋นก่อน”ม่อโฉวซือไท่ก็อยู่ด้วยพอดี นางได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์จะไปกับพวกเจ้าด้วย ไปดูสักหน่อย”“ข้าก็ไปด้วยๆ !”ฉางเสี่ยวหานรีบยกมือออกจากอารามสุ่ยเยว่ ก็มีรถม้าเรียบง่ายคันหนึ่งจอดรออยู่ด้านนอกนี่เป็นสิ่งที่เวินซื่อสั่งให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาระยะทางระหว่างที่ดินกุยอวิ๋นถึงอารามสุ่ยเยว่ก็ไม่ถือว่าใกล้ จะให้พ่อบ้านหลานที่อายุมากแล้วเดินไปเดินมาก็คงไม่ได้ดังนั้น เวินซื่อจึงให้ผู้เฒ่าหลานจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 387

    เป่ยเฉินหยวนไม่คิดว่านางจะยังจำเรื่องนี้ได้ และยังจัดสรรที่ดินไว้ให้เขาแล้วเขารู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งอู๋โยวที่ดีเช่นนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร?เพียงแต่ว่าคนสกุลอันนั่นพูดถูก เขามีความคิดต่ำทราม หากถูกคนอื่นรู้เข้า นั่นก็เท่ากับทำลายการปฏิบัติธรรมของผู้อื่น ทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของผู้อื่น เป็นเรื่องที่เลวทรามอย่างยิ่งดังนั้น เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้จึงทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้อย่างระมัดระวังเมื่อไม่มีอันหลันซิน ขบวนก็ไม่ได้ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย ไม่นานก็ออกเดินทางต่อสองวันต่อมา ขบวนที่เดินทางไกลไปยังลู่โจวในที่สุดก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้วครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ฝ่าบาททรงนำเหล่าขุนนางมาต้อนรับที่ประตูเมืองหลวงด้วยพระองค์เองสถานการณ์ยิ่งใหญ่เอิกเกริกเช่นนี้ ทำเอาเวินซื่อตกใจไม่น้อยภายหลังเวินซื่อถึงได้รู้ว่า ที่แท้ข่าวคราวจากลู่โจวก็แพร่เข้ามาถึงในเมืองหลวงแล้วหลังจากขอฝนที่จินโจวแก้ปัญหาภัยแล้งได้แล้ว เวินซื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องการสวดอธิษฐานขอพรให้ผู้ประสบภัยพิบัติที่ลู่โจวเพิ่มขึ้นมาอีกตอนนี้ชื่อเสียงของนางไม่ได้เลื่องลือแค่ในเมืองหลวงและจินโจวสองแห่งเท่าน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 386

    ภายในป่า เงียบสงบไปครู่หนึ่ง ถึงมีเสียงหัวเราะเยาะเบาๆ ดังขึ้น“เจ้าพูดถูก ข้าไม่คู่ควร”เป่ยเฉินหยวนสีหน้าเย็นชา สายตาเย็นเยียบ “แต่เจ้าไม่คู่ควรยิ่งกว่า”“เจ้าอยากจะใช้คนร้ายที่หลบหนีไปได้มาบีบบังคับข้า น่าเสียดาย ข้าไม่หลงกลเจ้า”เป่ยเฉินหยวนพูดจบก็ยกมือขึ้น กองทัพธงดำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นทันที ล้อมอันหลันซินเอาไว้อันหลันซินตกใจทันที ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี“ท่านคิดจะทำอะไร?”เป่ยเฉินหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ขอบคุณอู๋โยวให้ดีเถอะ หากมิใช่เพราะนาง หัวของเจ้าคงถูกข้าตัดเอาไปเตะเล่นนานแล้ว”พูดจบเขาก็หันหลังกลับไปออกคำสั่ง “เอาตัวไป มัดให้แน่นแล้วส่งไปให้หนิงหย่วนโหว ให้เขาเฝ้าไว้ให้ดีๆ ขอแค่ไม่ตาย จะจัดการอย่างไรก็แล้วแต่เขา แต่ถ้าคนหนีไป ข้าจะเอาเรื่องกับเขา”“พ่ะย่ะค่ะ!”กองทัพธงดำหลายนายรีบเข้ามาทันทีไม่!ไม่ได้!นางจะถูกพาตัวไปไม่ได้!นางอุตส่าห์รอโอกาสนี้มาอย่างยากลำบาก หากถูกพาตัวไปแล้ว ต่อไปนางจะกลับมาหาอาซื่อได้อย่างไร!อันหลันซินเห็นท่าไม่ดี อ้าปากกำลังจะร้องตะโกน“อึก...”น่าเสียดายที่นางเพิ่งจะส่งเสียงออกมา ฝักกระบี่ก็ฟาดลงบนคอของนางอย่างแรงทำให้นางสลบไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 385

    คนที่ปรากฏตัวอยู่ด้านนอกรถม้าของเป่ยเฉินหยวนคืออันหลันซิน“ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน หม่อมฉันจะทำอะไรท่านได้ ท่านจะระแวงหม่อมฉันขนาดนี้ไปทำไมเพคะ?”อันหลันซินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้นเป่ยเฉินหยวนขมวดคิ้ว สายตาไม่พอใจ “มีธุระก็พูด ไม่มีธุระก็ไสหัวไป”ท่าทีที่ไม่เกรงใจเมื่อเทียบกับรอยยิ้มที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวจริงๆอันหลันซินแค่นเสียงหัวเราะในใจเสแสร้งอะไรกันตอนนี้รู้จักปฏิบัติต่อสตรีอื่นอย่างแตกต่างเพราะอาซื่อ แต่ต่อไปความพิเศษเช่นนี้ไม่แน่ว่าจะตกไปอยู่กับสตรีอื่นอย่างไรเสีย บุรุษในโลกนี้ก็เหมือนกันหมดอันหลันซินระงับความรังเกียจในใจ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน “เอาละ รู้ว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนไม่ชอบหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันมีข้อแลกเปลี่ยน อยากจะคุยกับท่านสักหน่อยเพคะ”นางพูดเช่นนี้ เป่ยเฉินหยวนกลับไม่มองนางแม้แต่น้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก “อย่างเจ้า มีคุณสมบัติอะไรมาทำข้อตกลงกับข้า?”“ที่ข้ายอมให้เจ้าอยู่ในขบวนนี้จนถึงตอนนี้ ก็เพียงเพราะเห็นแก่หน้าอู๋โยว”รอยยิ้มบนใบหน้าของอันหลันซินแข็งค้าง กัดฟันเล็กน้อย“เหอะๆ หม่อมฉั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 384

    เป่ยเฉินหยวนนอนเอนกายอย่างสบายอารมณ์อยู่ในรถม้า ในขณะเดียวกันก็นอนอยู่ข้างกายเวินซื่อ หลับตาพริ้มขยับศีรษะอย่างมีความสุข ตอบคำถามของนางทีละประโยค“ได้ ไม่แรง ไม่ได้ดึงเลย ปวดนิดหน่อย เพราะซื่อเอ๋อร์ลูบให้ หัวก็เลยไม่ปวดมากแล้ว”เวินซื่อได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่นางยังจำตำแหน่งกดจุดต่างๆ บนศีรษะที่อาจารย์ม่อโฉวสอนได้ ผสมผสานกับวิธีการนวด แล้วนวดให้เป่ยเฉินหยวน ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะดีเลยทีเดียวเวินซื่อที่คิดว่าได้ผลจริงๆ ก็ยังคงตั้งใจจ้องมองศีรษะของเป่ยเฉินหยวน จดจ่ออยู่กับการผสมผสานวิธีการนวดและกดจุดต่างๆ ของนางหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ภายในรถม้าดูเหมือนจะเงียบสงบลงอย่างสิ้นเชิงเงียบจนแม้ว่าภายนอกจะมีเสียงล้อรถดังอยู่ ก็ยังได้ยินเสียงหายใจแผ่วเบาสม่ำเสมอภายในรถม้าเวินซื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป่ยเฉินหยวนไม่รู้ว่าหลับตาลงตั้งแต่เมื่อไรแล้วเวินซื่อเห็นดังนั้น มือที่วางอยู่บนศีรษะของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไหวช้าลง จนกระทั่งพอสมควรแล้ว นางถึงได้ชักมือกลับก้มหน้าลงมองสีหน้าที่อ่อนล้าระหว่างคิ้วของเป่ยเฉินหยวน หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เวินซื่อก็หยิบขวดน้ำทิพย์ออกมาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 383

    “ปวดหัวหรือ? เกิดอะไรขึ้น? ปวดเป็นพักๆ หรือว่าปวดมากตลอดเวลา?”พอเวินซื่อได้ยินเป่ยเฉินหยวนบอกว่าตนเองปวดหัว ก็ไม่ทันได้ใส่ใจกับคำเรียกที่ดูเหมือนจะสนิทสนมเกินไปนั่น รีบถามอย่างกระวนกระวาย“ปวดเป็นพักๆ เหมือนกับมีคนมากมายพูดอยู่ในหัวของข้า หนวกหูมาก ปวดเหลือเกิน”เป่ยเฉินหยวนมองนางอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มผู้ซึ่งปกติแล้วสูงใหญ่และพึ่งพาได้เสมอ เวลานี้กลับดูอ่อนแอเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องครางกับคนตรงหน้าเพื่อระบายความเจ็บปวดของตนเวินซื่อไม่เคยเห็นเป่ยเฉินหยวนในสภาพที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อนแม้แต่ครั้งแรกที่เห็นเขาป่วยที่ริมลำธารเล็กๆ หลังภูเขานั่น เป่ยเฉินหยวนในตอนนั้นก็ยังคงสติไว้ได้บ้างแต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้ กลับเหมือนแสดงด้านที่อ่อนแอยามเจ็บป่วยออกมาให้นางเห็นอย่างไม่มีปิดบังเวินซื่อจึงลูบหน้าผากเขาด้วยความสงสารทันที แล้วจับชีพจร “ไม่ปวดแล้วๆ ตอนนี้ข้าจะสวดมนต์ให้ท่านอ๋องเดี๋ยวนี้ ท่านนั่งฟังดีๆ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ปวดแล้ว”แต่เป่ยเฉินหยวนในตอนนี้กลับเหมือนจะมีความคิดต่อต้านขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเวินซื่อที่กำลังจะชักกลับ เอ่ยด้วยน้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 382

    นางมองเวินซื่อด้วยความอาลัยอาวรณ์หางตากลับเหลือบไปมองเป่ยเฉินหยวนและเด็กสาวที่อยู่ข้างโต๊ะนั่นอย่างเย็นชาเพิ่มมาอีกคนแล้วแต่ไม่เป็นไร ยังไม่จบหรอกหลังจากที่นายท่านสกุลผังกลับไปแล้ว ไม่นานก็ส่งสัญญาขายตัวมาให้ตามคาด ทั้งยังเขียนหนังสือหย่าอนุภรรยาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมาหนึ่งฉบับจริงๆเมื่อได้สัญญาขายตัวและหนังสือหย่าอนุภรรยา อันหลันซินก็ไปจากที่นี่เวินซื่อให้จู๋เยวี่ยติดตามไประยะหนึ่งแน่นอนว่าเพื่อจับตาดู“เป็นอย่างไรบ้าง?”หลังจากที่จู๋เยวี่ยกลับมา เวินซื่อก็เอ่ยถาม“ดูเหมือนว่าจะมีเศษเงินที่ซ่อนเอาไว้ ซื้อของกินเล็กน้อย ห่อไว้แล้วก็ออกจากเมืองไป ดูท่าทางน่าจะกลับเมืองหลวง”กลับเมืองหลวง...จินโจวอยู่ห่างจากเมืองหลวงขนาดนี้ นางคิดจะเดินเท้ากลับไปหรือ?แล้วยังมีบิดาของนางในเมืองหลวง ทั้งภรรยาเอกและพี่สาวต่างมารดาพวกนั้น คงจะไม่ปล่อยนางไปกระมัง?ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคิดจะกลับไป?เวินซื่อขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คลายปมคิ้วไม่สิ นางจะเป็นห่วงอันหลันซินทำไมกัน?ต่อจากนี้ไปอันหลันซินจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางที่นางช่วยครั้งนี้ก็เพราะเห็นแก่คว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status