หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก의 모든 챕터: 챕터 131 - 챕터 140

390 챕터

บทที่ 131

ยามเวินซื่อได้รับข่าวนางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“นางจะมาไม้ไหนอีก?”เวินซื่อรู้ดีว่าเวินหย่าลี่เป็นคนเช่นไร ครั้งที่แล้วนางพ่ายแพ้กลับไปจากอารามสุ่ยเยว่ ไม่มาหาเรื่องตนอีกก็ดีเท่าใดแล้ว จะยอมมาขอขมานางได้อย่างไร?เวินซื่อลูบคางพร้อมครุ่นคิด “ศิษย์พี่หญิง ยังมีผู้ใดติดตามฮูหยินจงหย่งโหวมาหรือไม่?”“มี เป็นชายวัยกลางคนท่านหนึ่งที่สวมชุดขุนนาง แล้วยังมีชายหนุ่มรูปงามอีกคน” สวมชุดขุนนางหรือ ซ้ำยังยอมมาเป็นเพื่อนเวินหย่าลี่ หากไม่ใช่เวินเฉวียนเซิ่งก็คงเป็นจงหย่งโหวครั้งที่แล้วเวินเฉวียนเซิ่งเคยมาที่นี่แล้ว ซ้ำยังหน้าหงายกลับไปภายในเวลาอันสั้นคนผู้นั้นไม่น่าจะมาอีกดังนั้นผู้มาเยือนอาจเป็นจงหย่งโหวส่วนอีกคนที่เหลือคงเป็นชุยเส้าเจ๋ออย่างไม่ต้องสงสัยพวกเขามากันทั้งครอบครัว ตกลงอยากทำสิ่งใดกันแน่?หลังเวินซื่อขมวดคิ้ว นางวางคัมภีร์ในมือลง “เช่นนั้นข้าจะออกไปดูสักหน่อย”“ศิษย์น้องหญิงไม่ต้องกลัว ข้าจะไปพร้อมเจ้า”เมื่อได้ยินว่านางจะออกไป ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่ที่ชอบไปมาหาสู่กับนางเอ่ยทันควัน“ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่วางใจ ครั้งนี้ไม่น่าจะมีเรื่องอะไร”เวินซื่อเอ่ยพร้อมยิ้ม“เช่นนั้
더 보기

บทที่ 132

หลังจากตีเสร็จ จงหย่งโหวเงยหน้ามองเวินซื่อ เมื่อเห็นความเย็นชาบนใบหน้านาง ในใจเขาสับสนอย่างมาก“ขอโทษด้วย นางบหนูเวินซื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถอนหมั้นก่อนหน้านี้ หรือเรื่องยาหยกหิมะนั่น กระทั่งเรื่องน้อยใหญ่มากมายระหว่างนี้ ล้วนเป็นเพราะข้าสอนลูกไม่ดี จึงต้องทำให้เจ้าได้รับความลำบากมากมาย”ระหว่างที่พูด เขาทำท่าคารวะแสดงความขอโทษต่อเวินซื่อเวินซื่อชะงักไปทันทีการปรากฏตัวของจงหย่งโหวทำให้นางคาดเดาได้ ว่าวันนี้เวินหย่าลี่มีความเป็นไปได้ที่ต้องขอโทษนางแต่นางนึกไม่ถึง คนแรกที่ยอมก้มหัวขอขมานางจะกลายเป็นจงหย่งโหวเองหากบอกว่าไม่แปลกใจคงเสแสร้งทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น แต่ยามนี้ใจของเวินซื่อด้านชาไปนานแล้วแววตาของนางสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นกลับสู่ความเย็นชาอย่างรวดเร็ว“การขอขมาของท่านโหว ข้าคงรับไว้ไม่ได้”“อะไรนะ? ! เวินซื่อ เจ้าอย่าให้มันเกินไป! ท่านพ่อข้าอุตส่าห์...”ชุยเส้าเจ๋อไม่นึกว่าเวินซื่อจะอวดดีถึงเพียงนี้นั่นบิดาของเขาเชียวนะ!เป็นถึงจงหย่งโหวแต่ขอโทษนางที่แม่ชีน้อยคนหนึ่งยังไม่พอหรือ? !“ยังไม่หุบปากอีกหรือ!”จงหย่งโหวถลึงตาใส่ลูกชายตัวเอง หลังจากชุยเส้าเจ๋อหุบปาก
더 보기

บทที่ 133

เวินซื่อ “?”เวินซื่อแคลงใจต่อคำพูดของเวินหย่าลี่มากเพราะนางนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเวินหย่าลี่จะมาขอขมานางจริง ซ้ำยังขอให้นางยกโทษให้หลังจากเวินซื่อครุ่นคิดสักครู่ คล้ายนึกถึงบางอย่างนางมองดูทั้งสามคนตรงหน้า พร้อมเอ่ยถาม “หากข้าไม่ยกโทษให้จะเป็นเช่นไรหรือ?”นางสงสัยมากวินาทีต่อมาสีหน้าเวินหย่าลี่เปลี่ยนทันควัน โมโหโทโส “ขอโทษเจ้าไปแล้ว ลูกชายข้าก็คุกเข่าทำความเคารพเจ้าแล้ว เจ้ายังจะเอาอย่างไรอีก? !”ดวงตาทั้งคู่ของเวินซื่อหรี่ลงเล็กน้อย เห็นท่าทางร้อนรนของเวินหย่าลี่ นางรู้ว่าตัวเองทายถูกแล้วที่แท้ก็ถูกผู้อื่นข่มขู่นี่เองมิน่าคนที่ยามปกติไม่ถูกคอกับนางมาตลอด จู่ ๆ ถึงได้ยอมมาก้มหัวขอโทษนางได้ส่วนใครจะเป็นผู้ข่มขู่นั้น...พูดตามตรง เวินซื่อไม่ต้องทายว่าเป็นใครก็รู้แล้วเพราะทั่วทั้งราชวงศ์ต้าหมิง ผู้ที่ทำให้จวนจงหย่งโหวจำเป็นต้องยอมก้มหัวให้ทั้งจวนมีเพียงสองคนเท่านั้นเวินซื่อแค่นหัวเราะทันใด “ข้าบอกไปแล้ว ข้าไม่ยอมรับการขอขมาของท่านโหว”“เวินซื่อ เจ้าอย่าให้มันเกินไปนัก!”ชุยเส้าเจ๋อกล่าวอย่างโมโห“เกินไปหรือ?”สีหน้าเวินซื่อเรียบเฉย “ต่อให้ข้าจะทำเกินไปอย่างไร ก็ไม
더 보기

บทที่ 134

“พี่สี่ ท่านเองก็สังเกตเห็นแล้วหรือ?”เวินเยวี่ยนั่งอยู่ในเรือนของเวินอวี้จือ กำลังระบายกับเขาด้วยแววตากลัดกลุ้ม“ตั้งแต่พี่หญิงห้าออกบวช พี่ใหญ่กับพี่รองยิ่งไม่เหมือนเดิมมากขึ้นเรื่อย ๆ เยวี่ยเอ๋อร์เองก็ไม่ทราบว่าตกลงเกิดเรื่องใดขึ้น แต่พวกเขาเป็นอย่างนี้ ทำให้เยวี่ยเอ๋อร์เป็นห่วงมากเจ้าค่ะ”หลังจากวันนั้นที่ไปฉลองวันเกิดให้เวินซื่อที่อารามสุ่ยเยว่ แค่เวินจื่อเฉินคนเดียวไม่เพียงทำร้ายชุยเส้าเจ๋อ หนำซ้ำยังไม่ยอมออกจากโถงบรรพชนเพราะถูกพี่ใหญ่ทำโทษต่อมาหากไม่ใช่เพราะเวินฉางอวิ้นถามเขา ว่าตกลงจะเตรียมของขวัญให้น้องห้าหรือไม่?เวินจื่อเฉินถึงได้รีบออกมาจากโถงบรรพชนทันทีนับจากนั้น เวินฉางอวิ้นและเวินจื่อเฉินมักจะออกไปข้างนอกหลายครั้งที่เวินเยวี่ยออดอ้อนอยากให้พวกเขาพานางไปพร้อมกัน สุดท้ายไม่ว่าเวินฉางอวิ้นหรือเวินจื่อเฉิน ทั้งสองคนไม่มีใครรับปากนางเรื่องนี้ทำให้เวินเยวี่ยรู้สึกถึงวิกฤตอย่างรุนแรงเวินเยวี่ยที่นั่งไม่ติดอีกต่อไปรีบมาหาเวินอวี้จือทันทีในบรรดาพี่น้องตระกูลเวินทั้งสี่คน หากจะบอกว่าใครฉลาดที่สุดความจริงไม่ใช่พี่ใหญ่อย่างเวินฉางอวิ้น แต่กลับเป็นคนขี้โรคอย่างเวินอวี
더 보기

บทที่ 135

หลังเวินอวี้จือรับปาก เวินเยวี่ยเซ้าซี้ถามเขาว่าจะทำอย่างไรเพราะอย่างไรนางก็ไม่ได้หวังให้เวินซื่อกลับมาจริงทว่าไม่ว่านางจะถามอย่างไร เวินอวี้จือก็ได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดสิ่งใดเห็นได้ชัดว่าไม่อยากบอกวิธีการแก่เวินเยวี่ยนเพียงแต่ราวกับเขาอ่านใจเวินเยวี่ยทะลุปรุโปร่ง แค่เอ่ยรับประกัน “น้องหกวางใจได้ พี่สี่จะไม่ปล่อยให้นางคุกคามถึงตำแหน่งของเจ้าเด็ดขาด”ได้ยินคำพูดเช่นนี้กะทันหัน ทำให้จังหวะหัวใจของเวินเยวี่ยหยุดกึกวินาทีนั้นนางยังนึกว่า เวินอวี้จือมองเห็นแผนการทุกอย่างของนางอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน นึกว่าธาตุแท้ของนางถูกเปิดโปงแล้วรอจนหลังจากเวินอวี้จือยกมือขึ้นลูบหัวนางอย่างเอ็นดู นางจึงเก็บอารมณ์เอาไว้อย่างกระวนกระวายเล็กน้อย ไม่กล้าถามต่อไปทว่าผ่านไปไม่นาน นางได้รับรู้แล้วว่าตกลงแผนการของเวินอวี้จือเป็นอย่างไรหลังจากเวินอวี้จือรับปากเวินเยวี่ย เขาคิดแต่แรกแล้วว่าไม่ลงมือด้วยตัวเองด้วยสุขภาพร่างกายของเขาคงตรากตรำลำบากมากไม่ได้ดังนั้นยามนี้เขาจึงไปหาอีกคนในบรรดาสี่พี่น้อง ซึ่งเป็นอีกคนเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ได้หวั่นไหวเพราะการจากไปของเวินซื่อเวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านกลับม
더 보기

บทที่ 136

ในขณะที่มือของเวินจื่อเยวี่ยใกล้สัมผัสประตูห้องเวินซื่อนั้น จู่ ๆ เขารู้สึกเย็นเยือกแผ่นหลัง จึงหันขวับ ซัดหมัดออกไปด้านหลังทันที“พลั่ก!”วินาทีที่หมัดและเท้าปะทะกัน เวินจื่อเยวี่ยจึงมองเห็นคนด้านหลังชัดเจนแต่จะบอกว่าชัดเจนก็ไม่ทั้งหมด เพราะอีกฝ่ายห่อหุ้มด้วยชุดพรางกายยามวิกาล นอกจากดวงตาคู่นั้นที่ยังเปิดเผย ส่วนอื่นหลอมรวมไปกับความมืดมิด“เจ้าคือผู้ใด!”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยถามเสียงเข้มจู๋เยวี่ยยื่นนิ้วชี้ออกมาวางไว้ตรงริมฝีปาก แล้วทำเสียงชู่ว์ “เสียงเบาหน่อย อย่าทำให้นางตื่น”เมื่อสิ้นเสียง กระบี่ในมือนางปรากฏ วินาทีต่อมาพุ่งไปที่หัวของเวินจื่อเยวี่ยเวินจื่อเยวี่ยโมโหทันที“ไม่ยอมพูด ถ้างั้นข้าก็ไม่เกรงใจเจ้าแล้ว!”มีดสั้นเล่มหนึ่งไถลออกมาจากแขนเสื้อของเขา จากนั้นชูมือขึ้น เกิดเสียงดังเคร้ง ต้านทานกระบี่ยาวของจู๋เยวี่ยเอาไว้ทั้งสองคนต่อสู้กันในเรือนของเวินซื่อทันที……วันรุ่งขึ้น เมื่อเวินซื่อสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา พอเปิดประตูห้อง มองเห็นสภาพเละเทะภายในเรือน สีหน้าบนใบหน้าแข็งค้างไปทันที“นี่...เกิดอะไรขึ้น? !”หนึ่งคืนผ่านไป สภาพภายในเรือนของนางราวกับถูกสัตว์ป่าโจมตีไ
더 보기

บทที่ 137

“ทำไม ในสายตาคุณชายสามอย่างท่าน ขอเพียงไม่ได้วางยาให้ใครตาย ก็ถือว่าไม่ชั่วหรือ?”ดวงตาของเวินซื่อแดงก่ำ นางจ้องเขม็งไปที่เวินจื่อเยวี่ย “เช่นนั้นข้าอยากถามดู หากท่านไม่คิดจะวางยาให้ท่านตาย อย่างนั้นท่านต้องการทำสิ่งใดกันแน่? หา? ท่านพูดมาสิ!”“อยากให้ข้ากินยานี่เข้าไป แล้วพาข้ากลับไปที่จวนเจิ้นกั๋วกงหรือ? หรือว่าจับข้าขังเอาไว้ จะได้ให้น้องหกของท่านสังหารข้า? ทรมานข้า? หรือไม่เจ้าก็อยากจะผ่าท้องข้าอีกครั้งอย่างนั้นหรือ? !”เมื่อพูดมาถึงตอนท้าย เวินซื่อแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่วินาทีนี้ความโกรธแค้นที่เก็บกดอยู่ในใจระเบิดออกมาอย่างสิ้นเชิงหลังจากนางพูดประโยคสุดท้ายออกไปด้วยความวู่วาม สายตาของอีกสามคนในเรือนตกใจ นางตระหนักถึงบางสิ่ง จึงหลับตาลง“ท่านอาจารย์ ศิษย์อยากไปสงบสติอารมณ์สักครู่ ท่านช่วยสอบสวนเขาแทนข้าทีเถอะเจ้าค่ะ”เวินซื่อพูดจนจบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย จากนั้นหันหลังวิ่งเข้าไปในห้องตัวเอง แล้วปิดประตูดัง “ปัง”กลับไม่รู้เลยว่าอีกสามคนที่อยู่ในเรือน จิตใจกำลังปั่นป่วนอย่างมากจากคำพูดของนางเมื่อสักครู่ม่อโฉวซือไท่กับจู๋เยวี่ยมองดูบานประตูที่ปิดสนิท“เมื่อคร
더 보기

บทที่ 138

ม่อโฉวซือไท่ชะงักไปสักครู่นางนึกไม่ถึงว่าภายในใจของเวินจื่อเยวี่ย คำตอบของคำถามนี้จะกลายเป็นเยี่ยงนี้แกรก...ประตูด้านหลังคล้ายถูกเปิดออก ม่อโฉวซือไท่จึงหันไปมองเป็นไปตามคาดเวินซื่อออกมาจากด้านในแล้ว“อู๋โยว...”ม่อโฉวซือไท่อยากพูดบางอย่าง แต่เวินซื่อฝืนยิ้มให้นาง “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาจารย์ ข้าใจเย็นลงแล้ว”แต่นึกไม่ถึงว่าพอออกมา กลับได้ยินคำพูดเหล่านี้เวินซื่อเดินไปหาเวินจื่อเยวี่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย นางยืนอยู่ตรงหน้าเขา เอ่ยถามเสียงเย็นชา “ท่านว่าข้าทำให้ท่านแม่ตายหรือ?”“ถูกต้อง เจ้านั่นแหละ!”ทั้งที่แววตาของเวินจื่อเยวี่ยยังอยู่ในสภาวะไม่ได้สติ แต่อารมณ์ของเขากลับฉุนเฉียวมาก“หากท่านแม่ไม่คลอดเจ้า ร่างกายของนางคงไม่ต้องมีโรคภัยที่สาหัสหลงเหลืออยู่เพราะคลอดยาก สุดท้ายยิ่งไม่ต้องจากไปเพราะโรคภัย!”หางตาของเวินจื่อเยวี่ยมีน้ำตาไหลรินสองข้าง แววตาที่เลื่อนลอยของเขาราวกับมองดูบางคนด้วยความโกรธแค้นผ่านบางสิ่งเวินซื่อรู้ว่าคือใคร นางไม่หลบ ยืนอยู่อย่างนั้น“ทั้งที่ท่านแม่เคยบอกว่าจะเติบโตไปพร้อมพวกเรา แต่ท่านแม่ผิดคำพูด ท่านแม่บอกว่าไม่เป็นไร เพราะท่านแม่ชอบน้องสาว และเพื
더 보기

บทที่ 139

ม่อโฉวซือไท่เดินไปข้างหน้า ยื่นมือไปดึงนางมากอด“เด็กดี ไม่ต้องเป็นห่วง จื่อจวินคือผู้ที่อ่อนโยนที่สุดบนโลกใบนี้ นางจะเข้าใจเจ้า”แต่สิ่งที่ม่อโฉวซือไท่ไม่ได้บอกคือแต่หากแม่เจ้าได้รับรู้ความเสียใจของเจ้า และความเจ็บปวดพวกนั้นที่เจ้าได้ประสบ นางคงจะเสียใจอย่างแท้จริงกระมังม่อโฉวซือไท่หลับตาลงอย่างอดไม่ได้ในใจนางกำลังพร่ำบอก ขอโทษนะ จื่อจวิน ที่ข้าไม่ได้ดูแลพวกลูกของเจ้าให้ดีโชคดีที่ลูกสาวของเจ้าเข้มแข็งเหมือนเจ้าในตอนนั้นนางไม่ได้พ่ายแพ้เพียงแต่ เด็กที่เข้มแข็งมักจะต้องลำบากกว่ามากม่อโฉวซือไท่ลูบหัวของเวินซื่ออย่างสงสาร รอคอยให้นางร้องไห้เสร็จเงียบ ๆหลังจากร้องไห้ไปสักครู่ ในที่สุดเวินซื่อจึงสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้งนางมองดูหัวไหล่ของอาจารย์ที่เปื้อนคราบน้ำตาของนางเป็นวงอย่างละอายใจ“ขอโทษเจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าดูเหมือนชอบร้องไห้มากไปหน่อย”ความจริงเวินซื่อไม่ถือว่าเข้มแข็งนางเป็นคนบอบบางมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังโตมาจากการประคบประหงมของจวนเจิ้นกั๋วกงดังนั้นชาติที่แล้วจึงถูกเวินเยวี่ยเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าอย่างง่ายดายชาตินี้แม้นางจะยังบอบบางอยู่บ้าง แต่โชคดีที่ครั้ง
더 보기

บทที่ 140

ระยะเวลาห่างจากที่เวินจื่อเยวี่ยไปหาเวินซื่อที่อารามสุ่ยเยว่เป็นเวลาสองวันสองคืนแล้วเวินอวี้จือไม่รู้ว่าตกลงเกิดอะไรขึ้น หรือว่าขณะที่เวินจื่อเยวี่ยวางยามีใครมาพบเห็นเข้า?แต่หากถูกจับได้จริง ทำไมจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดเลยในขณะที่เวินอวี้จือกำลังคิดว่าจะส่งคนไปดูสถานการณ์ที่อารามสุ่ยเยว่หรือไม่ ในที่สุดเวินจื่อเยวี่ยก็กลับมาข้างนอกท้องฟ้ามืดสนิท ตอนเวินจื่อเยวี่ยกลับมา เวินอวี้จือเตรียมตัวเข้านอนบ่าวรับใช้ได้ยินเสียงเคาะประตู “ใครนะ?”“ข้า เวินจื่อเยวี่ย”เวินอวี้จือที่เตรียมจะเอนกายนอนหยุดทันที แล้วสั่งให้บ่าวเปิดประตู“คุณชายสาม”หลังจากเวินจื่อเยวี่ยเข้าไปในห้องจึงพูดกับบ่าว “เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีธุระจะคุยกับน้องสี่”บ่าวย่อมไม่ได้จากไปทันที กลับหันมองคำสั่งทางสายตาของคุณชายผู้เป็นนายตน จึงหันหลังจากไปพร้อมปิดประตูห้องให้เรียบร้อย“พี่สาม ทำไมผ่านไปตั้งนานแล้วท่านเพิ่งกลับมา? เวินซื่อล่ะ? ท่านไม่ได้พานางกลับมาด้วยหรือ?”เวินอวี้จือสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนั่งลงข้างเตียง พร้อมเอ่ยถามก่อน‘หากเวินอวี้จือถามเจ้า เจ้าบอกว่า…’ดวงตาของเวินจื่อเยวี่ยเ
더 보기
이전
1
...
1213141516
...
39
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status