Share

บทที่ 135

Author: จิ้งซิง
หลังเวินอวี้จือรับปาก เวินเยวี่ยเซ้าซี้ถามเขาว่าจะทำอย่างไร

เพราะอย่างไรนางก็ไม่ได้หวังให้เวินซื่อกลับมาจริง

ทว่าไม่ว่านางจะถามอย่างไร เวินอวี้จือก็ได้แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดสิ่งใด

เห็นได้ชัดว่าไม่อยากบอกวิธีการแก่เวินเยวี่ยน

เพียงแต่ราวกับเขาอ่านใจเวินเยวี่ยทะลุปรุโปร่ง แค่เอ่ยรับประกัน “น้องหกวางใจได้ พี่สี่จะไม่ปล่อยให้นางคุกคามถึงตำแหน่งของเจ้าเด็ดขาด”

ได้ยินคำพูดเช่นนี้กะทันหัน ทำให้จังหวะหัวใจของเวินเยวี่ยหยุดกึก

วินาทีนั้นนางยังนึกว่า เวินอวี้จือมองเห็นแผนการทุกอย่างของนางอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน นึกว่าธาตุแท้ของนางถูกเปิดโปงแล้ว

รอจนหลังจากเวินอวี้จือยกมือขึ้นลูบหัวนางอย่างเอ็นดู นางจึงเก็บอารมณ์เอาไว้อย่างกระวนกระวายเล็กน้อย ไม่กล้าถามต่อไป

ทว่าผ่านไปไม่นาน นางได้รับรู้แล้วว่าตกลงแผนการของเวินอวี้จือเป็นอย่างไร

หลังจากเวินอวี้จือรับปากเวินเยวี่ย เขาคิดแต่แรกแล้วว่าไม่ลงมือด้วยตัวเอง

ด้วยสุขภาพร่างกายของเขาคงตรากตรำลำบากมากไม่ได้

ดังนั้นยามนี้เขาจึงไปหาอีกคนในบรรดาสี่พี่น้อง ซึ่งเป็นอีกคนเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ได้หวั่นไหวเพราะการจากไปของเวินซื่อ

เวินจื่อเยวี่ย

“พี่สาม ท่านกลับม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
I Mo
สายเลืือดนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ลูกแต่ละคนถึงได้สมองมีปัญหา จิจใจบิดเบี้ยว
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
เป็นพี่น้องแม่เดียวกันแน่เหรอ ชั่วร้ายจริงๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 136

    ในขณะที่มือของเวินจื่อเยวี่ยใกล้สัมผัสประตูห้องเวินซื่อนั้น จู่ ๆ เขารู้สึกเย็นเยือกแผ่นหลัง จึงหันขวับ ซัดหมัดออกไปด้านหลังทันที“พลั่ก!”วินาทีที่หมัดและเท้าปะทะกัน เวินจื่อเยวี่ยจึงมองเห็นคนด้านหลังชัดเจนแต่จะบอกว่าชัดเจนก็ไม่ทั้งหมด เพราะอีกฝ่ายห่อหุ้มด้วยชุดพรางกายยามวิกาล นอกจากดวงตาคู่นั้นที่ยังเปิดเผย ส่วนอื่นหลอมรวมไปกับความมืดมิด“เจ้าคือผู้ใด!”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยถามเสียงเข้มจู๋เยวี่ยยื่นนิ้วชี้ออกมาวางไว้ตรงริมฝีปาก แล้วทำเสียงชู่ว์ “เสียงเบาหน่อย อย่าทำให้นางตื่น”เมื่อสิ้นเสียง กระบี่ในมือนางปรากฏ วินาทีต่อมาพุ่งไปที่หัวของเวินจื่อเยวี่ยเวินจื่อเยวี่ยโมโหทันที“ไม่ยอมพูด ถ้างั้นข้าก็ไม่เกรงใจเจ้าแล้ว!”มีดสั้นเล่มหนึ่งไถลออกมาจากแขนเสื้อของเขา จากนั้นชูมือขึ้น เกิดเสียงดังเคร้ง ต้านทานกระบี่ยาวของจู๋เยวี่ยเอาไว้ทั้งสองคนต่อสู้กันในเรือนของเวินซื่อทันที……วันรุ่งขึ้น เมื่อเวินซื่อสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา พอเปิดประตูห้อง มองเห็นสภาพเละเทะภายในเรือน สีหน้าบนใบหน้าแข็งค้างไปทันที“นี่...เกิดอะไรขึ้น? !”หนึ่งคืนผ่านไป สภาพภายในเรือนของนางราวกับถูกสัตว์ป่าโจมตีไ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 137

    “ทำไม ในสายตาคุณชายสามอย่างท่าน ขอเพียงไม่ได้วางยาให้ใครตาย ก็ถือว่าไม่ชั่วหรือ?”ดวงตาของเวินซื่อแดงก่ำ นางจ้องเขม็งไปที่เวินจื่อเยวี่ย “เช่นนั้นข้าอยากถามดู หากท่านไม่คิดจะวางยาให้ท่านตาย อย่างนั้นท่านต้องการทำสิ่งใดกันแน่? หา? ท่านพูดมาสิ!”“อยากให้ข้ากินยานี่เข้าไป แล้วพาข้ากลับไปที่จวนเจิ้นกั๋วกงหรือ? หรือว่าจับข้าขังเอาไว้ จะได้ให้น้องหกของท่านสังหารข้า? ทรมานข้า? หรือไม่เจ้าก็อยากจะผ่าท้องข้าอีกครั้งอย่างนั้นหรือ? !”เมื่อพูดมาถึงตอนท้าย เวินซื่อแทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่วินาทีนี้ความโกรธแค้นที่เก็บกดอยู่ในใจระเบิดออกมาอย่างสิ้นเชิงหลังจากนางพูดประโยคสุดท้ายออกไปด้วยความวู่วาม สายตาของอีกสามคนในเรือนตกใจ นางตระหนักถึงบางสิ่ง จึงหลับตาลง“ท่านอาจารย์ ศิษย์อยากไปสงบสติอารมณ์สักครู่ ท่านช่วยสอบสวนเขาแทนข้าทีเถอะเจ้าค่ะ”เวินซื่อพูดจนจบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย จากนั้นหันหลังวิ่งเข้าไปในห้องตัวเอง แล้วปิดประตูดัง “ปัง”กลับไม่รู้เลยว่าอีกสามคนที่อยู่ในเรือน จิตใจกำลังปั่นป่วนอย่างมากจากคำพูดของนางเมื่อสักครู่ม่อโฉวซือไท่กับจู๋เยวี่ยมองดูบานประตูที่ปิดสนิท“เมื่อคร

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 138

    ม่อโฉวซือไท่ชะงักไปสักครู่นางนึกไม่ถึงว่าภายในใจของเวินจื่อเยวี่ย คำตอบของคำถามนี้จะกลายเป็นเยี่ยงนี้แกรก...ประตูด้านหลังคล้ายถูกเปิดออก ม่อโฉวซือไท่จึงหันไปมองเป็นไปตามคาดเวินซื่อออกมาจากด้านในแล้ว“อู๋โยว...”ม่อโฉวซือไท่อยากพูดบางอย่าง แต่เวินซื่อฝืนยิ้มให้นาง “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาจารย์ ข้าใจเย็นลงแล้ว”แต่นึกไม่ถึงว่าพอออกมา กลับได้ยินคำพูดเหล่านี้เวินซื่อเดินไปหาเวินจื่อเยวี่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย นางยืนอยู่ตรงหน้าเขา เอ่ยถามเสียงเย็นชา “ท่านว่าข้าทำให้ท่านแม่ตายหรือ?”“ถูกต้อง เจ้านั่นแหละ!”ทั้งที่แววตาของเวินจื่อเยวี่ยยังอยู่ในสภาวะไม่ได้สติ แต่อารมณ์ของเขากลับฉุนเฉียวมาก“หากท่านแม่ไม่คลอดเจ้า ร่างกายของนางคงไม่ต้องมีโรคภัยที่สาหัสหลงเหลืออยู่เพราะคลอดยาก สุดท้ายยิ่งไม่ต้องจากไปเพราะโรคภัย!”หางตาของเวินจื่อเยวี่ยมีน้ำตาไหลรินสองข้าง แววตาที่เลื่อนลอยของเขาราวกับมองดูบางคนด้วยความโกรธแค้นผ่านบางสิ่งเวินซื่อรู้ว่าคือใคร นางไม่หลบ ยืนอยู่อย่างนั้น“ทั้งที่ท่านแม่เคยบอกว่าจะเติบโตไปพร้อมพวกเรา แต่ท่านแม่ผิดคำพูด ท่านแม่บอกว่าไม่เป็นไร เพราะท่านแม่ชอบน้องสาว และเพื

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 139

    ม่อโฉวซือไท่เดินไปข้างหน้า ยื่นมือไปดึงนางมากอด“เด็กดี ไม่ต้องเป็นห่วง จื่อจวินคือผู้ที่อ่อนโยนที่สุดบนโลกใบนี้ นางจะเข้าใจเจ้า”แต่สิ่งที่ม่อโฉวซือไท่ไม่ได้บอกคือแต่หากแม่เจ้าได้รับรู้ความเสียใจของเจ้า และความเจ็บปวดพวกนั้นที่เจ้าได้ประสบ นางคงจะเสียใจอย่างแท้จริงกระมังม่อโฉวซือไท่หลับตาลงอย่างอดไม่ได้ในใจนางกำลังพร่ำบอก ขอโทษนะ จื่อจวิน ที่ข้าไม่ได้ดูแลพวกลูกของเจ้าให้ดีโชคดีที่ลูกสาวของเจ้าเข้มแข็งเหมือนเจ้าในตอนนั้นนางไม่ได้พ่ายแพ้เพียงแต่ เด็กที่เข้มแข็งมักจะต้องลำบากกว่ามากม่อโฉวซือไท่ลูบหัวของเวินซื่ออย่างสงสาร รอคอยให้นางร้องไห้เสร็จเงียบ ๆหลังจากร้องไห้ไปสักครู่ ในที่สุดเวินซื่อจึงสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้งนางมองดูหัวไหล่ของอาจารย์ที่เปื้อนคราบน้ำตาของนางเป็นวงอย่างละอายใจ“ขอโทษเจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าดูเหมือนชอบร้องไห้มากไปหน่อย”ความจริงเวินซื่อไม่ถือว่าเข้มแข็งนางเป็นคนบอบบางมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังโตมาจากการประคบประหงมของจวนเจิ้นกั๋วกงดังนั้นชาติที่แล้วจึงถูกเวินเยวี่ยเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าอย่างง่ายดายชาตินี้แม้นางจะยังบอบบางอยู่บ้าง แต่โชคดีที่ครั้ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 140

    ระยะเวลาห่างจากที่เวินจื่อเยวี่ยไปหาเวินซื่อที่อารามสุ่ยเยว่เป็นเวลาสองวันสองคืนแล้วเวินอวี้จือไม่รู้ว่าตกลงเกิดอะไรขึ้น หรือว่าขณะที่เวินจื่อเยวี่ยวางยามีใครมาพบเห็นเข้า?แต่หากถูกจับได้จริง ทำไมจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดเลยในขณะที่เวินอวี้จือกำลังคิดว่าจะส่งคนไปดูสถานการณ์ที่อารามสุ่ยเยว่หรือไม่ ในที่สุดเวินจื่อเยวี่ยก็กลับมาข้างนอกท้องฟ้ามืดสนิท ตอนเวินจื่อเยวี่ยกลับมา เวินอวี้จือเตรียมตัวเข้านอนบ่าวรับใช้ได้ยินเสียงเคาะประตู “ใครนะ?”“ข้า เวินจื่อเยวี่ย”เวินอวี้จือที่เตรียมจะเอนกายนอนหยุดทันที แล้วสั่งให้บ่าวเปิดประตู“คุณชายสาม”หลังจากเวินจื่อเยวี่ยเข้าไปในห้องจึงพูดกับบ่าว “เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีธุระจะคุยกับน้องสี่”บ่าวย่อมไม่ได้จากไปทันที กลับหันมองคำสั่งทางสายตาของคุณชายผู้เป็นนายตน จึงหันหลังจากไปพร้อมปิดประตูห้องให้เรียบร้อย“พี่สาม ทำไมผ่านไปตั้งนานแล้วท่านเพิ่งกลับมา? เวินซื่อล่ะ? ท่านไม่ได้พานางกลับมาด้วยหรือ?”เวินอวี้จือสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วนั่งลงข้างเตียง พร้อมเอ่ยถามก่อน‘หากเวินอวี้จือถามเจ้า เจ้าบอกว่า…’ดวงตาของเวินจื่อเยวี่ยเ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 141

    เวินเฉวียนเซิ่งไม่ได้ให้นางไป เพียงแต่สั่งเวินจื่อเยวี่ยเสียงหนึ่งเวินจื่อเยวี่ยลุกขึ้นอย่างช้าๆ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะลุกออกจากโต๊ะ ก็มีเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนดังมาจากข้างนอก“แย่แล้วๆ !”เวินเฉวียนเซิ่งและคนอื่นๆ ต่างเงยหน้าขึ้นมองเห็นเพียงข้ารับใช้ที่คอยปรนนิบัติในเรือนของเวินอวี้จือวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน จากนั้นเอ่ยขึ้นด้วยความร้อนรน “ท่านกั๋วกง คุณชายใหญ่ รีบไปดูคุณชายสี่เถิด เขาเกิดเรื่องแล้ว!”คนที่อยู่ที่โต๊ะต่างพากันลุกขึ้นยืน“เกิดอะไรขึ้น? เจ้าสี่ป่วยอีกแล้วหรือ?”“ไม่ใช่ป่วย...”ข้ารับใช้รู้สึกร้อนใจจนเกือบจะร้องไห้ “คุณชายสี่ เขา...จู่ๆ เขาก็พูดไม่ได้แล้วขอรับ!”“อะไรนะ?!”……ครู่ต่อมา คนในสกุลเวินหลายคนล้อมอยู่หน้าเตียงของเวินอวี้จือ รอคอยผลการวินิจฉัยของหมอด้วยความกังวลหมอผู้เฒ่าตรวจชีพจรเสร็จ ก็ขมวดคิ้วพลางดึงมือกลับ“ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ คุณชายสี่ได้กินอะไรผิดปกติไปบ้างหรือไม่?”เวินฉางอวิ้นส่ายหัว “เจ้าสี่ร่างกายไม่แข็งแรง ปกติแล้วก็ต้องดื่มยาบำรุงมากมาย ทำให้เบื่ออาหาร โดยทั่วไปนอกจากอาหารมื้อหลักแล้ว ก็จะไม่กินอะไรอย่างอื่นอีก”“เช่นนั้นได้ไปสัมผ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 142

    ทันทีที่บ่าวรับใช้ค้นพบห้องลับในห้องของเจ้าสี่ เวินเฉวียนเซิ่งก็รู้ว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายดายอย่างที่คิด“ดังนั้นจึงยังไม่ได้สั่งให้คนเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ภายในทันทีหมอหลวงหลี่ผู้มากประสบการณ์ทำราวกับไม่ได้ยินอะไร ยังคงตั้งใจตรวจสอบผงยาในขวดต่อไปแต่หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็ม หมอหลวงหลี่ก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียด แล้วเอ่ยกับเวินเฉวียนเซิ่ง “ท่านเจิ้นกั๋วกง ครั้งนี้ข้าน้อยเกรงว่าคงไร้ความสามารถ”เวินเฉวียนเซิ่งไม่คาดคิดว่าพิษนี้จะร้ายแรงถึงขนาดทำให้หมอหลวงหลี่ผู้นี้ถึงกับเอ่ยปากว่าไร้ความสามารถ“หมอหลวงหลี่ พิษนี้มันอะไรกันแน่? เหตุใดถึงร้ายแรงเช่นนี้?”“พิษนี้ยากจะแก้ไขก็ตรงที่ส่วนผสมของยาที่ใช้มีความซับซ้อนมาก แถมยังผสมสมุนไพรพิษที่หายากยิ่งชนิดหนึ่งเข้าไปด้วย มีชื่อว่าเกล็ดงูแดง”“เป็นเพราะสมุนไพรพิษชนิดนี้ ข้าน้อยจึงบอกว่าไร้ความสามารถ เพราะมันจะแก้พิษได้ก็ต่อเมื่อใช้ดอกงูเขียวซึ่งหายากพอๆ กัน แต่ดอกงูเขียวที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวในเมืองหลวงถูกใช้ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้อยากจะหาอีกสักต้น ก็ยากยิ่งนัก”ท่ามกลางเสียงถอนหายใจของหมอหลวงหลี่ สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งและคนอื่นๆ ก็

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 143

    “พยักหน้าที ส่ายหน้าที เจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”เวินฉางอวิ้นเริ่มไม่เข้าใจแล้วแต่เขาไม่รู้เลยว่า เวินอวี้จือนั้นอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมากยาเชื่องฟังนั้นเป็นของเขา แต่ก็ไม่ใช่ของเขา!ยาเชื่องฟังของเขาไม่มีทางทำให้คนเป็นใบ้อยู่แล้ว และไม่ได้ทำให้คนอ่อนแรงด้วย!เมื่อนึกถึงว่าเวินจื่อเยวี่ยเป็นคนนำขวดยานี้กลับมา เวินอวี้จือก็หันไปมองเขาในทันทีรีบพูดสิ ท่านรีบพูดมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ใครกันที่ทำอะไรกับยาเชื่องฟังของเขา!เป็นฝีมือของเวินซื่อ? หรือว่าคนชุดดำนั่น?ในตอนนี้เวินอวี้จือไม่สามารถพูดเองได้ จึงได้แต่หวังพึ่งเวินจื่อเยวี่ยให้พูดแทนทว่าสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ เมื่อเผชิญกับสายตาขอความช่วยเหลือจากเขา เวินจื่อเยวี่ยกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยเวินอวี้จือพลันรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างหรือว่าก่อนหน้านี้ เวินจื่อเยวี่ยโดนเล่นงานไปก่อนแล้ว?!โชคดีที่ในเวลานี้มีคนตาไวสังเกตเห็นสายตาของเขา“พี่สี่ เหตุใดท่านจึงมองพี่สามตลอดเลย? หรือว่าพี่สามรู้อะไรบางอย่าง?”น้ำเสียงของเวินเยวี่ยดังขึ้นภายในห้อง ทำให้ทุกคนต่างสังเกตเห็นสายตาของเวินอวี้จือ แล้วหันไปมองเวินจ

Latest chapter

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status