All Chapters of ยอดหญิงในเงามาร: Chapter 381 - Chapter 390

442 Chapters

บทที่ 381

มือของเขาเมื่อยล้าเต็มที บัดนี้เนื่องจากใช้แรงสังหารคนมากเกินไปทำให้มือเริ่มสั่นเล็กน้อย ความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาจากข้อมือถึงข้อศอกแต่เขากลับไม่เคยรู้สึกสะใจมากเท่านี้มาก่อน!ใช่แล้ว!บุรุษอกสามศอกมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ก็ควรอิสระเสรีได้ปลดปล่อยเต็มที่เช่นนี้มีคนหมายจะสังหารเขา แล้วทำไมเขาจะฆ่าคนอื่นไม่ได้?!ทำไมเขายังจะต้องเป็นคนดีอยู่อีก?หากคนดีมีแต่จะถูกคนอื่นเหยียบย่ำ มีแต่จะต้องบ้านแตกสาแหรกขาด เช่นนั้นความยุติธรรมของโลกใบนี้อยู่ที่ใดเล่า?เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรเสียที่ไหนกัน!เขาเหมือนได้กลับไปเป็นชายหนุ่มผู้สู้สุดชีวิตในอดีต หันไปถามชีหยวนว่า “คนที่พวกนั้นสามารถส่งมาได้ ก็คงมีแค่นี้แล้ว”ดังนั้น ตอนนี้ลู่หมิงฮุยควรทำเช่นไร?ตระกูลลู่ ลู่หมิงฮุยอยู่ในห้องสือมาตลอดฮูหยินใหญ่ลู่เปิดประตูห้องหนังสือ ซักถามอย่างร้อนใจ “เป็นอย่างไรบ้าง? มีข่าวส่งกลับมาหรือยัง?”ไม่มีผู้ใดร้อนใจไปมากกว่านางอีกแล้วถ้าลู่หมิงอันกลับมาได้ เรื่องราวในครานั้นก็คงถูกเปิดโปงขึ้นมาหากองค์หญิงใหญ่ได้รู้ว่าคนที่ลงมือในตอนนั้นคือลู่หมิงฮุยและคนของเรือนใหญ่ เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาชีวิตคนใ
Read more

บทที่ 382

ฮูหยินใหญ่ลู่ยังจะกลัวอะไรอีก?นางไม่มีอะไรต้องหวาดหวั่นอีกแล้วนางแค่นเสียงเย็นชาในลำคอแล้วเอ่ยวาจาเสียดแทงอย่างไม่ไว้หน้า “ตราบใดที่วันนี้พวกมันยังไม่ตาย พรุ่งนี้คนในวังจะต้องมารับตัวกลับไป! ถึงตอนนั้น ท่านคิดหรือว่าคนอื่นจะไม่รู้เรื่อง?!”เพราะโกรธจัด ฮูหยินใหญ่ลู่ถึงกับหน้าดำหน้าแดง “ไปให้จวนฉู่กั๋วกงหาทางออกสิ! ไม่ใช่เรื่องของพวกเราตระกูลเดียวเสียหน่อย พวกเขาคงไม่คิดว่าพวกเราเดือดร้อนแล้ว ส่วนพวกเขาจะอยู่อย่างสุขสบายได้หรอกกระมัง?!”ลู่หมิงฮุยไม่สนใจฮูหยินใหญ่ลู่เขารู้ดีว่าจวนฉู่กั๋วกงจะไม่ยื่นมือเข้ามาเพราะเมื่อครั้งนั้น คนลงมือมีเพียงตระกูลลู่จริง ๆหากตระกูลลู่กล้าลากจวนฉู่กั๋วกงมาเกี่ยวข้องด้วย จวนฉู่กั๋วกงคงทำให้ตระกูลลู่พบจุดจบที่เลวร้ายกว่าเดิมเปลวเทียนในห้องสั่นไหว ไส้เทียนแตกดังเปรี๊ยะลู่หมิงฮุยสีหน้าไร้อารมณ์ เขาหยิบกระบี่ของตนขึ้นมา “ข้าจะไปเอง!”เขาพูดเช่นนี้ ฮูหยินใหญ่ลู่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นวิตกขึ้นมาจริง ๆ “ท่านจะไปทำอะไร?”เมื่อก่อนนางเคยเห็นฝีมือของลู่หมิงอันกับตาตัวเองมาแล้ว ตอนนี้เขายังเต็มไปด้วยความแค้นฝังลึก ลู่หมิงฮุยยังจะไปคนเดียวอีก?นางกังวลจน
Read more

บทที่ 383

ชีหยวนเป็นคนที่มีลักษณะพิเศษบางอย่างแตกต่างจากผู้อื่น คนอื่นมักให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์เป็นอย่างมากการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ มนุษย์ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ เป็นธรรมดาผู้คนราวกับใช้ชีวิตอยู่ในกรอบที่ถูกกำหนดไว้ และดูเหมือนทุกคนจะเคยชินกับมันแต่ชีหยวนไม่เหมือนคนเหล่านั้น นางกระทำการต่าง ๆ โดยไม่ถูกพันธนาการด้วยกฎเกณฑ์ใด ๆหากมีผู้ใดทำร้ายนาง นางย่อมต้องเอาคืนอย่างสาสมเหมือนอย่างที่นางกล่าวไว้ หากต้องรอให้ผู้อื่นมอบความยุติธรรมให้ แล้วต้องรอไปถึงเมื่อใดเล่า?ก่อนหน้านี้ ลู่หมิงอันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวต่าง ๆ สามารถจัดการเช่นนี้ได้ สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ก็คือรอให้ฮ่องเต้สอบสวนคดีจนเสร็จสิ้น แล้วคืนความบริสุทธิ์ให้พวกเขาแต่บัดนี้ ชีหยวนได้เปิดเส้นทางใหม่ที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนสีหน้าของเขาค่อย ๆ แน่วแน่ขึ้น มือที่กำบังเหียนม้าบีบแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนจากนั้น เขาก็หันไปมองชีหยวนด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ข้าจะไปฆ่ามัน!”ใช่แล้ว ที่ชีหยวนพูดนั้นมีเหตุผล ต่อให้เรื่องนี้ไปถึงฮ่องเต้หย่งชางแล้วอย่างไร? สุดท้ายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาของสามเจ้ากรม และศาลเหล่านั้น
Read more

บทที่ 384

เมื่อเห็นว่าราชบุตรเขยลู่ขมวดคิ้วด้วยความกังวล ชีหยวนก็เอ่ยถามขึ้นทันที “ว่าแต่ ฮูหยินฉู่กั๋วกง นางเป็นคนในเมืองหลวงใช่หรือไม่?”เซียวอวิ๋นถิงหันมามองนาง “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”ชีหยวนยักไหล่ “ได้ยินมา พ่อข้าบอกว่าระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวง พระชายาหลิ่วเคยพูดถึง บอกว่าฮูหยินฉู่กั๋วกงเป็นสหายวัยเยาว์กับฉู่กั๋วกง สหายวัยเยาว์ย่อมต้องรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เช่นนั้นก็น่าจะเป็นคนเมืองหลวงเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”พูดจบนางก็หันไปมองราชบุตรเขยลู่ “ท่านราชบุตรเขยทราบภูมิหลังของนางหรือไม่เจ้าคะ?”ราชบุตรเขยลู่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ข้ารู้มาบ้างจริง ๆ”ชีหยวนยิ้มบาง “เช่นนั้นก็ดีเลย เช่นนี้เราก็มีเรื่องให้จัดการแล้ว”ค่ำคืนล่วงเลยไป แต่จวนฉู่กั๋วกงยังคงสว่างไสวไปด้วยแสงตะเกียงอาหารบนโต๊ะเย็นชืดลงไปหมดแล้ว แต่ละจานค่อย ๆ สูญเสียไอร้อนจนหมดสิ้น สาวใช้เดินเข้ามาด้วยท่าทางระมัดระวัง “ฮูหยินผู้เฒ่า ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ควรรับประทานอาหารสักหน่อยนะเจ้าคะ...”แต่ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วที่กำลังหงุดหงิดอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วไม่หยุดปากของสาวใช้ จอกชาในมือก็ปาใส่ศีรษะของสาวใช้ทันที “เจ้าย
Read more

บทที่ 385

นางโกรธจัด เวลาพูดถึงพระชายาหลิ่วก็แทบจะกัดฟันกรอดสีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที “นางแพศยานั่นนิสัยเสียมาแต่ไหนแต่ไร ตอนอยู่ต่อหน้าข้าแต่ละที เหยียดหยามข้าราวกับข้าไม่ใช่มนุษย์ นางกลับมาแล้ว แล้วหว่านชิวของเราทำอย่างไร?!”พอพูดถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วก็กังวลใจนางอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา “หว่านชิวของเรา จะไปสู้นางได้อย่างไร? ฮ่องเต้เป็นคนใจอ่อนและเห็นแก่ความหลังมากที่สุด ทุกปีคืนส่งท้ายปีเก่าจะต้องไปเซ่นไหว้นางก่อน ถึงจะยอมจัดงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายปีเก่า”ตอนนี้พระชายาหลิ่วกลับมาแล้ว เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยคงถูกกดข่มแน่สำหรับเรื่องนี้ ฉู่กั๋วกงเองก็เป็นกังวลไม่น้อยเป็นเช่นนั้นจริง วันนี้พระชายาหลิ่วยังไม่เห็นแก่หน้าของเขาเลย พอเจอกันก็ฉีกหน้าแตกหักทันทีนางเด็กบ้านี่จะไปมีท่าทีที่ดีต่อเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยได้อย่างไร?อีกทั้งฮ่องเต้ยังรู้สึกผิดต่อนาง เกรงว่าหว่านชิวคงจะต้องลำบากอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้พอคิดได้ดังนั้น เขาก็ลูบมือของฮูหยินผู้เฒ่าเบา ๆ “พอเถิด ๆ ในวังยังมีองค์หญิงเป่าหรงอยู่ นางฉลาดที่สุด ไม่มีทางปล่อยให้กุ้ยเฟยถูกเอาเปรียบแน่”ใคร ๆ ก็รู้ว่าองค์หญิงเป่าหร
Read more

บทที่ 386

นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆแต่แล้วก็รีบกลั้นเสียงหัวเราะ พลางถอนหายใจ “เฮ้อ วิธีนี้โหดร้ายเกินไป”ทว่าจะให้โหดร้ายต่อตัวเอง หรือโหดร้ายต่อผู้อื่น ทางเลือกนี้ง่ายเสียจนแทบไม่ต้องลังเลนางเม้มริมฝีปาก ดวงตาวาววับไปด้วยความอาฆาตแต่เดิมไม่ได้อยากใช้วิธีสกปรกเช่นนี้ ทว่าใครใช้ให้พระชายาหลิ่วกลับมากันเล่า?ไม่กลับมาจะดีกว่าไม่ใช่หรือ?หลบ ๆ ซ่อน ๆ ไปทั้งชีวิต จนตายก็อย่ากลับมา อย่างน้อยก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างสงบสุขแต่นางกลับมาแล้ว นี่ก็เป็นราคาที่นางต้องจ่าย!วังหลวงในขณะนี้ ฮ่องเต้หย่งชางทรงจัดให้นำตัวพระชายาหลิ่วไปพักที่ตำหนักกวงเฟิงจี้เยว่เป็นการชั่วคราว และพระองค์ยังเสด็จไปอยู่กับนาง คอยปลอบประโลมอารมณ์ของนางส่วนองค์หญิงใหญ่ถูกจัดให้ไปพักในตำหนักเดิมที่นางเคยพำนักเมื่อยังประทับในวังเมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว ฮ่องเต้หย่งชางจึงเอ่ยปลอบพระชายาหลิ่ว “เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย เราจะสืบให้ชัดเจน ไม่ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังการไล่สังหารพวกเจ้าครั้งนี้ เมื่อเราสืบจนกระจ่างแล้ว จะทำให้พวกมันต้องชดใช้แน่นอน!”พระชายาหลิ่วได้แต่หัวเราะเยาะในใจกาลเวลาช่างเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริง ๆมัน
Read more

บทที่ 387

เมื่อครั้งอดีต ตอนที่นางรู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของหลิ่วจิงหงและหลิ่วหว่านชิว นางรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนมารดาของตน ถึงขนาดไปตามหามารดาของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเพื่อเอาเรื่องแต่ผลลัพธ์คือพวกนางกลับแสร้งล้มหมดสติไปทีละคนเป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป!ทั้ง ๆ ที่พวกนางเป็นผู้กระทำเรื่องเลวร้าย แต่กลับแสดงท่าทีเหมือนพวกนางเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งสารพัดเสียเองนี่มันเรื่องอะไรกัน?!เดิมทีฮ่องเต้หย่งชางพยายามอดทน เกรงว่าจะยั่วโทสะพระชายาหลิ่วแต่เมื่อเห็นเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยหมดสติไปต่อหน้าต่อตา ในที่สุดพระองค์ก็ฝืนทนต่อไปไม่ไหว รีบตรงเข้าไปประคองเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยขึ้นมา ก่อนจะตวาดสั่งขันทีเซี่ยที่ตามเข้ามา “ยังไม่รีบไปเรียกหมอหลวงอีก!”ยุ่งยากวุ่นวายจริง ๆขันทีเซี่ยแอบเหลือบมองเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยที่นอนอยู่กับพื้น ก่อนจะเหลือบมองพระชายาหลิ่วที่มีสีหน้าเย็นชาอยู่ข้าง ๆ จากนั้นจึงรีบถอยออกไปพระชายาหลิ่วแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา นางทนมามากพอแล้วฮ่องเต้หย่งชางทั้งร้อนใจและเกรงว่าพระชายาหลิ่วจะคิดมากไป จนรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าไปหมดพระองค์ลดเสียงลงแล้วอธิบาย “หว่านหยิน แม้นางจะไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ของเจ้า แ
Read more

บทที่ 388

ชั่วขณะนั้นฮ่องเต้หย่งชางไม่รู้ว่าควรตอบเช่นไรในที่สุดองค์หญิงเป่าหรงก็สะอึกสะอื้นร้องไห้ออกมา “เสด็จพ่อ ต่อไปเสด็จพ่อจะไม่รักพวกเราใช่ไหมเพคะ? ท่านป้าจะขับไล่พวกเราออกจากวังหรือไม่? แต่ขาของเสด็จพี่ยังไม่หายดีเลยนะเพคะ!”ความตื่นตระหนกและหวาดกลัวของพระธิดาทำให้ฮ่องเต้หย่งชางรู้สึกปั่นป่วนไปหมดพระองค์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยดุ “อย่าพูดเหลวไหล! พวกเจ้าเป็นโอรสธิดาของเจิ้น เป็นองค์หญิงแห่งแผ่นดินนี้ ใครจะไล่พวกเจ้าไปได้? ไม่มีใครสามารถขับไล่พวกเจ้าไปได้ทั้งนั้น!”เรื่องในวังถูกส่งมาถึงจวนฉู่กั๋วกงตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้นฉู่กั๋วกงได้ฟังแล้วถึงกับยิ้มออกมา หันไปพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่ว “เห็นหรือไม่ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่างไร? เป่าหรงฉลาดนัก และพระสนมก็ยิ่งรู้จักใช้กลอุบาย พวกนางไม่มีทางเสียเปรียบแน่”น้ำตาของสตรี คืออาวุธที่ดีที่สุดและในด้านนี้ องค์หญิงเป่าหรงกับเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถือเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดก็สงบใจลงได้ พร้อมกับความรู้สึกลำพองใจที่ซ่อนเร้นนางเจียงเป็นคนแข็งกระด้าง ไม่เคยรู้จักทำตัวให้อ่อนโยนลูกสาวที่นางให้กำเนิดก็
Read more

บทที่ 389

นางรู้สึกว่ามันช่างไร้สาระสิ้นดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางเป็นถึงฮูหยินกั๋วกง และยังเป็นแม่ยายของฮ่องเต้ ใคร ๆ ต่างก็ให้ความเคารพนบนอบ แทบอยากจะโค้งคำนับประจบเอาใจอย่าว่าแต่จะมีใครกล้ามาฟ้องร้องนางเลย แม้แต่ขุนนางทั่วไปจะพบหน้านางสักครั้งยังเป็นเรื่องยากแต่ตอนนี้กลับมีเจ้าหน้าที่มาเรียกตัวนางไปไต่สวนที่ศาล?นางหันขวับไปมองฉู่กั๋วกงทันทีสีหน้าของฉู่กั๋วกงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาเห็นว่าสะใภ้พูดจาวกไปวนมา เอ่ยไม่ได้ความอันใด จึงไม่สนใจนางอีก ก้าวเท้าออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วขุนนางของศาลที่ใดกันไม่รู้กฎระเบียบถึงเพียงนี้?ถึงแม้จะมีคนต้องการฟ้องร้องจวนกั๋วกงของพวกเขาจริง ๆ แต่กฎของเหล่าขุนนางในแผ่นดินนี้มีอยู่ ขุนนางพวกนั้นจะไม่เข้าใจหรือ?วิธีปกติคือหากมีใครยื่นฟ้อง เหล่าขุนนางพวกนั้นเองก็มักรีบกดเรื่องลงเพื่อเอาใจพวกเขาอยู่แล้ว จากนั้นค่อยส่งข่าวมาให้จวนฉู่กั๋วกงของพวกเขารับรู้สักคำแต่ตอนนี้เขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าขุนนางคนไหนที่เบื่อชีวิตแล้วจนกล้าทำเรื่องโง่เง่าเช่นนี้!ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วก็รู้สึกเหลือเชื่อไม่แพ้กัน ถึงกับมีคนกล้าฟ้องร้องนางเชียวหรือนางสะบัดมือออกจากการพย
Read more

บทที่ 390

เพียงแค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าคนกลุ่มนี้ไม่ประสงค์ดีแน่นอนฉู่กั๋วกงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในทันที สั่งการไปยังพ่อบ้านอย่างเฉียบขาด “ไปเอาไม้มา! ไล่พวกชาวบ้านชั้นต่ำที่มาก่อเรื่องพวกนี้ออกไป!”ไม่ต้องสนว่าเป็นใคร ไม่ต้องสนว่าพวกมันจะพูดอะไร วิธีที่ดีที่สุดตอนนี้คือไล่คนพวกนี้ไปให้หมด!ห้ามให้พวกมันเอ่ยปากแม้แต่คำเดียวพ่อบ้านรีบรับคำสั่ง ไม่กล้าอืดอาดแม้แต่น้อย รีบไปเรียกรวมคนทันทีแต่สิงหมิ่นกลับมีสีหน้าลำบากใจ “ท่านกั๋วกง ท่านลองดูเถิด คนนี้เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย...”เขายังพูดไม่ทันจบ คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นทันที “สวรรค์! โปรดมองลงมาทีเถิด! มองดูนางแพศยาเย่จิ่นซิ่วผู้นี้! นางแพศยาคนนี้สมคบคิดคนอื่นสังหารคู่หมั้นของตนเอง ยั่วยวนบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้ว!”เพียงเสียงตะโกนนี้ดังขึ้น ฮูหยินหลิ่วก็เห็นว่าร่างของฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทั้งร่างโอนเอนคล้ายจะล้มลงได้ทุกเมื่อนางถึงกับตกตะลึง ยืนนิ่งมองแม่สามีของตนเอง ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรส่วนฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วก็ถึงกับสมองว่างเปล่านางไม่เคยคาดคิดเลยว่าเรื่องเมื่อหลายสิบปีก่อนจะถูกคนขุดขึ้นมาอีกครั้ง
Read more
PREV
1
...
3738394041
...
45
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status