공유

บทที่ 385

작가: ฉินอันอัน
นางโกรธจัด เวลาพูดถึงพระชายาหลิ่วก็แทบจะกัดฟันกรอด

สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที “นางแพศยานั่นนิสัยเสียมาแต่ไหนแต่ไร ตอนอยู่ต่อหน้าข้าแต่ละที เหยียดหยามข้าราวกับข้าไม่ใช่มนุษย์ นางกลับมาแล้ว แล้วหว่านชิวของเราทำอย่างไร?!”

พอพูดถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วก็กังวลใจ

นางอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา “หว่านชิวของเรา จะไปสู้นางได้อย่างไร? ฮ่องเต้เป็นคนใจอ่อนและเห็นแก่ความหลังมากที่สุด ทุกปีคืนส่งท้ายปีเก่าจะต้องไปเซ่นไหว้นางก่อน ถึงจะยอมจัดงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายปีเก่า”

ตอนนี้พระชายาหลิ่วกลับมาแล้ว เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยคงถูกกดข่มแน่

สำหรับเรื่องนี้ ฉู่กั๋วกงเองก็เป็นกังวลไม่น้อย

เป็นเช่นนั้นจริง วันนี้พระชายาหลิ่วยังไม่เห็นแก่หน้าของเขาเลย พอเจอกันก็ฉีกหน้าแตกหักทันที

นางเด็กบ้านี่จะไปมีท่าทีที่ดีต่อเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยได้อย่างไร?

อีกทั้งฮ่องเต้ยังรู้สึกผิดต่อนาง เกรงว่าหว่านชิวคงจะต้องลำบากอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

พอคิดได้ดังนั้น เขาก็ลูบมือของฮูหยินผู้เฒ่าเบา ๆ “พอเถิด ๆ ในวังยังมีองค์หญิงเป่าหรงอยู่ นางฉลาดที่สุด ไม่มีทางปล่อยให้กุ้ยเฟยถูกเอาเปรียบแน่”

ใคร ๆ ก็รู้ว่าองค์หญิงเป่าหร
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
พระชายาหลิ่วเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดนะ ไม่มีญาติพี่น้องอยู่เคียงข้างเลย ถูกตามฆ่าตลอดชีวิต
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 386

    นางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆแต่แล้วก็รีบกลั้นเสียงหัวเราะ พลางถอนหายใจ “เฮ้อ วิธีนี้โหดร้ายเกินไป”ทว่าจะให้โหดร้ายต่อตัวเอง หรือโหดร้ายต่อผู้อื่น ทางเลือกนี้ง่ายเสียจนแทบไม่ต้องลังเลนางเม้มริมฝีปาก ดวงตาวาววับไปด้วยความอาฆาตแต่เดิมไม่ได้อยากใช้วิธีสกปรกเช่นนี้ ทว่าใครใช้ให้พระชายาหลิ่วกลับมากันเล่า?ไม่กลับมาจะดีกว่าไม่ใช่หรือ?หลบ ๆ ซ่อน ๆ ไปทั้งชีวิต จนตายก็อย่ากลับมา อย่างน้อยก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างสงบสุขแต่นางกลับมาแล้ว นี่ก็เป็นราคาที่นางต้องจ่าย!วังหลวงในขณะนี้ ฮ่องเต้หย่งชางทรงจัดให้นำตัวพระชายาหลิ่วไปพักที่ตำหนักกวงเฟิงจี้เยว่เป็นการชั่วคราว และพระองค์ยังเสด็จไปอยู่กับนาง คอยปลอบประโลมอารมณ์ของนางส่วนองค์หญิงใหญ่ถูกจัดให้ไปพักในตำหนักเดิมที่นางเคยพำนักเมื่อยังประทับในวังเมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว ฮ่องเต้หย่งชางจึงเอ่ยปลอบพระชายาหลิ่ว “เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย เราจะสืบให้ชัดเจน ไม่ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังการไล่สังหารพวกเจ้าครั้งนี้ เมื่อเราสืบจนกระจ่างแล้ว จะทำให้พวกมันต้องชดใช้แน่นอน!”พระชายาหลิ่วได้แต่หัวเราะเยาะในใจกาลเวลาช่างเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริง ๆมัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 387

    เมื่อครั้งอดีต ตอนที่นางรู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของหลิ่วจิงหงและหลิ่วหว่านชิว นางรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนมารดาของตน ถึงขนาดไปตามหามารดาของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเพื่อเอาเรื่องแต่ผลลัพธ์คือพวกนางกลับแสร้งล้มหมดสติไปทีละคนเป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป!ทั้ง ๆ ที่พวกนางเป็นผู้กระทำเรื่องเลวร้าย แต่กลับแสดงท่าทีเหมือนพวกนางเป็นฝ่ายถูกกลั่นแกล้งสารพัดเสียเองนี่มันเรื่องอะไรกัน?!เดิมทีฮ่องเต้หย่งชางพยายามอดทน เกรงว่าจะยั่วโทสะพระชายาหลิ่วแต่เมื่อเห็นเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยหมดสติไปต่อหน้าต่อตา ในที่สุดพระองค์ก็ฝืนทนต่อไปไม่ไหว รีบตรงเข้าไปประคองเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยขึ้นมา ก่อนจะตวาดสั่งขันทีเซี่ยที่ตามเข้ามา “ยังไม่รีบไปเรียกหมอหลวงอีก!”ยุ่งยากวุ่นวายจริง ๆขันทีเซี่ยแอบเหลือบมองเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยที่นอนอยู่กับพื้น ก่อนจะเหลือบมองพระชายาหลิ่วที่มีสีหน้าเย็นชาอยู่ข้าง ๆ จากนั้นจึงรีบถอยออกไปพระชายาหลิ่วแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา นางทนมามากพอแล้วฮ่องเต้หย่งชางทั้งร้อนใจและเกรงว่าพระชายาหลิ่วจะคิดมากไป จนรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าไปหมดพระองค์ลดเสียงลงแล้วอธิบาย “หว่านหยิน แม้นางจะไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ ของเจ้า แ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 388

    ชั่วขณะนั้นฮ่องเต้หย่งชางไม่รู้ว่าควรตอบเช่นไรในที่สุดองค์หญิงเป่าหรงก็สะอึกสะอื้นร้องไห้ออกมา “เสด็จพ่อ ต่อไปเสด็จพ่อจะไม่รักพวกเราใช่ไหมเพคะ? ท่านป้าจะขับไล่พวกเราออกจากวังหรือไม่? แต่ขาของเสด็จพี่ยังไม่หายดีเลยนะเพคะ!”ความตื่นตระหนกและหวาดกลัวของพระธิดาทำให้ฮ่องเต้หย่งชางรู้สึกปั่นป่วนไปหมดพระองค์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยดุ “อย่าพูดเหลวไหล! พวกเจ้าเป็นโอรสธิดาของเจิ้น เป็นองค์หญิงแห่งแผ่นดินนี้ ใครจะไล่พวกเจ้าไปได้? ไม่มีใครสามารถขับไล่พวกเจ้าไปได้ทั้งนั้น!”เรื่องในวังถูกส่งมาถึงจวนฉู่กั๋วกงตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้นฉู่กั๋วกงได้ฟังแล้วถึงกับยิ้มออกมา หันไปพูดกับฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่ว “เห็นหรือไม่ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่างไร? เป่าหรงฉลาดนัก และพระสนมก็ยิ่งรู้จักใช้กลอุบาย พวกนางไม่มีทางเสียเปรียบแน่”น้ำตาของสตรี คืออาวุธที่ดีที่สุดและในด้านนี้ องค์หญิงเป่าหรงกับเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถือเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดก็สงบใจลงได้ พร้อมกับความรู้สึกลำพองใจที่ซ่อนเร้นนางเจียงเป็นคนแข็งกระด้าง ไม่เคยรู้จักทำตัวให้อ่อนโยนลูกสาวที่นางให้กำเนิดก็

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 389

    นางรู้สึกว่ามันช่างไร้สาระสิ้นดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางเป็นถึงฮูหยินกั๋วกง และยังเป็นแม่ยายของฮ่องเต้ ใคร ๆ ต่างก็ให้ความเคารพนบนอบ แทบอยากจะโค้งคำนับประจบเอาใจอย่าว่าแต่จะมีใครกล้ามาฟ้องร้องนางเลย แม้แต่ขุนนางทั่วไปจะพบหน้านางสักครั้งยังเป็นเรื่องยากแต่ตอนนี้กลับมีเจ้าหน้าที่มาเรียกตัวนางไปไต่สวนที่ศาล?นางหันขวับไปมองฉู่กั๋วกงทันทีสีหน้าของฉู่กั๋วกงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาเห็นว่าสะใภ้พูดจาวกไปวนมา เอ่ยไม่ได้ความอันใด จึงไม่สนใจนางอีก ก้าวเท้าออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วขุนนางของศาลที่ใดกันไม่รู้กฎระเบียบถึงเพียงนี้?ถึงแม้จะมีคนต้องการฟ้องร้องจวนกั๋วกงของพวกเขาจริง ๆ แต่กฎของเหล่าขุนนางในแผ่นดินนี้มีอยู่ ขุนนางพวกนั้นจะไม่เข้าใจหรือ?วิธีปกติคือหากมีใครยื่นฟ้อง เหล่าขุนนางพวกนั้นเองก็มักรีบกดเรื่องลงเพื่อเอาใจพวกเขาอยู่แล้ว จากนั้นค่อยส่งข่าวมาให้จวนฉู่กั๋วกงของพวกเขารับรู้สักคำแต่ตอนนี้เขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าขุนนางคนไหนที่เบื่อชีวิตแล้วจนกล้าทำเรื่องโง่เง่าเช่นนี้!ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วก็รู้สึกเหลือเชื่อไม่แพ้กัน ถึงกับมีคนกล้าฟ้องร้องนางเชียวหรือนางสะบัดมือออกจากการพย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 390

    เพียงแค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าคนกลุ่มนี้ไม่ประสงค์ดีแน่นอนฉู่กั๋วกงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในทันที สั่งการไปยังพ่อบ้านอย่างเฉียบขาด “ไปเอาไม้มา! ไล่พวกชาวบ้านชั้นต่ำที่มาก่อเรื่องพวกนี้ออกไป!”ไม่ต้องสนว่าเป็นใคร ไม่ต้องสนว่าพวกมันจะพูดอะไร วิธีที่ดีที่สุดตอนนี้คือไล่คนพวกนี้ไปให้หมด!ห้ามให้พวกมันเอ่ยปากแม้แต่คำเดียวพ่อบ้านรีบรับคำสั่ง ไม่กล้าอืดอาดแม้แต่น้อย รีบไปเรียกรวมคนทันทีแต่สิงหมิ่นกลับมีสีหน้าลำบากใจ “ท่านกั๋วกง ท่านลองดูเถิด คนนี้เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย...”เขายังพูดไม่ทันจบ คนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นทันที “สวรรค์! โปรดมองลงมาทีเถิด! มองดูนางแพศยาเย่จิ่นซิ่วผู้นี้! นางแพศยาคนนี้สมคบคิดคนอื่นสังหารคู่หมั้นของตนเอง ยั่วยวนบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้ว!”เพียงเสียงตะโกนนี้ดังขึ้น ฮูหยินหลิ่วก็เห็นว่าร่างของฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทั้งร่างโอนเอนคล้ายจะล้มลงได้ทุกเมื่อนางถึงกับตกตะลึง ยืนนิ่งมองแม่สามีของตนเอง ไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรส่วนฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วก็ถึงกับสมองว่างเปล่านางไม่เคยคาดคิดเลยว่าเรื่องเมื่อหลายสิบปีก่อนจะถูกคนขุดขึ้นมาอีกครั้ง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 391

    สวรรค์จะเห็นถึงความยุติธรรมหรือไม่นั้น ไป๋จื่อไม่รู้แต่ไป๋จื่อมั่นใจว่า คุณหนูของตนต้องตาแจ้งใจสว่างแน่นางเก็บก้อนหินก้อนหนึ่งขึ้นมาอย่างเงียบๆ และปาไปทางจวนกั๋วกงอย่างไม่ลังเล “ปาพวกผู้ชายชั่วอย่างพวกเจ้าให้ตายไปเลย! ถุย!”ชีหยวนหันกลับมามองนางแวบหนึ่งไป๋จื่อพูดอย่างกระดากใจ “คุณหนู ข้านี่สุดจะทนแล้วจริงๆ คนพวกนี้หน้าด้านเกินไปแล้ว!”ชีหยวนส่ายหน้าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไม่เป็นไร ข้าพาเจ้ามาก็เพื่อให้เจ้าทำแบบนี้แหละ”คราวก่อนที่ปาก้อนหินใส่โจวผิงก็ปาได้ไม่เลวหินก้อนหนึ่งถูกขว้างออกไป ก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างรุนแรงบรรดาชาวบ้านที่ยืนมุงดูเหตุการณ์ด้วยความสนใจอยู่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ก็ถูกจุดติดขึ้นทันทีคนที่อยู่ตรงหน้าก้มลงโขกศีรษะร้องขอความเป็นธรรมไม่หยุด แม้ว่าจะถูกบ่าวของจวนกั๋วกงที่โหดร้ายดึงกระชากและทำร้ายร่างกาย เขาก็ยังคงแหงนหน้าร้องตะโกนขอความเป็นธรรมไม่หยุด แม้หน้าผากจะแตกเลือดไหลก็ยังไม่ยอมหยุดร้องไห้ร้องขอสวรรค์ให้ความเป็นธรรมช่างน่าสงสารนัก!ถ้าไม่ใช่ว่ามีเรื่องคับข้องใจอย่างมากมาย จะมีความกล้าแบบนี้หรือ?!ให้ตายเถอะ!ฆ่าภรรยาตัวเองแล้วแย่งภรรยาคนอื่นไป ใต

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 392

    บ่าวรับใช้ต่างตกใจ กำหมัดแล้วทุบลงไปสุดแรงแต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น ชาวบ้านที่ยืนมุงดูอยู่ก็ยิ่งโกรธจัดย่ำยีคนก็ไม่ควรย่ำยีกันถึงเพียงนี้!ผู้คนพากันกรูกันเข้าไป จนเกิดการปะทะกับบ่าวรับใช้ของจวนกั๋วกงฉู่กั๋วกงถึงกับตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้าพวกชาวบ้านชั้นต่ำพวกนี้ ปกติแต่ละคนขี้ขลาดตาขาวไม่ใช่หรือ กลัวว่าจะไปล่วงเกินพวกชนชั้นสูง?แต่ทำไมวันนี้แต่ละคนถึงคลั่งเหมือนหมาบ้าได้?ขณะนั้นเอง หูอี้ชวนได้สะบัดตัวหลุดจากบ่าวรับใช้แล้ว เมื่อเห็นว่าชาวบ้านยอมลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเขา เขาก็หัวเราะลั่นพลางชี้ไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วและสาปแช่งเสียงดัง “เย่จิ่นซิ่ว! เจ้าช่างโหดเหี้ยมไร้หัวใจ! ทรยศคนที่เคยช่วยเหลือเจ้า! เจ้าต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน! เจ้าต้องไม่ตายดี!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลิ่วชี้ไปที่เขา ในใจเต็มไปด้วยถ้อยคำที่จะโต้แย้งแต่เมื่อเห็นสายตาชาวบ้านที่ดูเหมือนอยากจะฆ่านางเสียให้ได้ หัวใจของนางก็ค่อยๆ ดิ่งลงเรื่อยๆเส้นเลือดในศีรษะเต้นตุบๆ ยิ่งเต้นยิ่งตึงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดจู่ๆ ก็มีเสียง 'หวืด' แล้วมันก็ขาดไปแล้วร่างของนางหงายล้มลงไปด้านหลังอย่างตรงๆ ท้ายทอยกระแทกพื้นอย่างแรงฮูหยินหลิ่ว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 393

    ประตูใหญ่ของจวนกั๋วกงค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ บ่าวรับใช้ที่ได้รับคำสั่ง ต่างก็ถีบหูอี้ชวนออกไปเหมือนเตะสุนัข ยังถุยน้ำลายใส่เขาหลายครั้ง ก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างดุดันสิงหมิ่นมองดูพวกบ่าวรับใช้ของจวนกั๋วกงที่หยิ่งผยองไม่เห็นหัวใคร สายตาของเขาหดเกร็งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองชีหยวนในฝูงชนโดยไม่รู้ตัวชีหยวนพยักหน้าให้เขาเบาๆสิงหมิ่นเข้าใจทันที เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วถอนหายใจให้กับหูอี้ชวน “จวนกั๋วกงเป็นขุนนางใหญ่ทรงอำนาจ ท่านเจ้าเมืองของพวกเราเต็มใจออกคำสั่งเรียกฮูหยินฉู่กั๋วกงมาสอบสวน นั่นถือว่าปรานีอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่เจ้าก็เห็นแล้วว่าท่าทีของจวนกั๋วกงในตอนนี้เป็นเช่นไร”ชาวบ้านทั้งหมดต่างจ้องมองไปที่สิงหมิ่นหูอี้ชวนเชิดหน้าขึ้น “ใต้เท้าสิง! เย่จิ่นซิ่วเป็นฆาตกร!”สิงหมิ่นถอนหายใจหนักกว่าเดิม “เมื่อครู่ฮูหยินฉู่กั๋วกงก็พูดแล้วว่านางไม่ได้ตั้งใจทำร้ายพี่ชายของเจ้า เขาเป็นฝ่ายรับความกดดันไม่ไหวจึงตรอมใจตายไปเอง”ความจริงสิ่งนี้ก็ยากที่จะตัดสินโทษแต่แรกอยู่แล้วแต่สถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วราษฎรเกลียดชังคนประเภทใดที่สุด?แน่นอนว่าคือพวกหญิงแพศยาผู้ไร้ศีลธรรมเฉกเช่นพานจินเหลียน ที่วาง

최신 챕터

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 497  

    สวีฮว่านรู้สึกอึดอัดกับแรงกดของกริชเล่มนั้น และไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลกระทบทางจิตใจหรือไม่ เขารู้สึกอยู่ตลอดว่ารอยแผลที่ชีหยวนกรีดไปนั้นยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด สิ่งนี้ทำให้เขาหวาดกลัวถึงขีดสุดจริง ๆ คนย่อมมีจุดอ่อน ชื่อเสียงและความรู้สึกหวงแหนชีวิตก็คือจุดอ่อนของสวีฮว่าน เขาเอ่ยด้วยความร้อนรน “ข้าช่วยเจ้าได้! ข้าช่วยล้างมลทินให้ตระกูลของเจ้าได้ ตราบใดที่พวกเจ้ายอมให้ความร่วมมือ ความผิดนี้ ข้าสามารถโยนให้คนอื่นรับไว้ได้!” ใบหน้าของชีหยวนไร้ซึ่งความรู้สึก ทว่าความเยือกเย็นในดวงตากลับยิ่งลุ่มลึกขึ้นมา ปลายกริชที่นางกดเอาไว้บนลำคอของเขาขยับเล็กน้อย เพียงเสี้ยวพริบตาก็สร้างรอยแผลเลือดซิบเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรอยให้เขาได้เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มข้นขึ้น “จะผลักความผิดให้แม่ทัพขุนศึกท่านอื่นที่บัดนี้ยังคงสู้รบในสมรภูมิอย่างซื่อสัตย์ภักดี พร้อมยอมพลีชีพเพื่อชาติได้อย่างนั้นหรือ? หรือคิดจะโยนความผิดให้บรรดาบุตรชายของครอบครัวทหารที่ต้องเข้าสู่สมรภูมิรบตั้งแต่วัยเพียงสิบสองสิบสามเหล่านั้นกัน พวกเขายังไม่ทันได้เติบโตด้วยซ้ำ ก็ต้องมาตายภายใต้อุบายชั่วช้าสามานย์ของพวกเจ้า”

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 496  

    หากว่ามี เช่นนั้นก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี หากว่าไม่มี เช่นนั้นก็ต้องคิดหาหนทางเลือกเด็กสักคนในตระกูลมาเป็นบุตรบุญธรรมของเขา เพื่อจะได้เป็นทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล ขณะที่กำลังคิดสะระตะ เขาพลันได้ยินเสียงลมหายใจระลอกหนึ่งพัดผ่านข้างใบหู เสียงลมหายใจ! ทว่าในห้องมีเขาอยู่เพียงคนเดียว! เสี้ยวพริบตาเดียวสวีฮว่านพลันรู้สึกเส้นขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว สติหลุดออกจากร่าง และทันใดนั้นก็คิดจะหมุนศีรษะกลับไปโดยสัญชาตญาณ ทว่าจังหวะที่เขากำลังคิดจะผินศีรษะกลับไป กริชเล่มหนึ่งก็ปักลงบนลำคอของเขาอย่างเงียบเชียบไร้เสียง หลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ เสียงนี้ชัดเจนว่าเป็นเสียงของดรุณีน้อยงามเพริศพริ้งสดใส เหมือนกับเสียงของบุตรสาวของเขาที่เข้ามาออดอ้อนเขาในยามปกติ ทว่าในเสี้ยวขณะนี้เวลานี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเสียงนั่นกำลังออดอ้อนสักนิด! เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์สุจริตของตนเองแล้ว เรือนของเขายังต้องเช่าอาศัย และในเมื่อเรือนยังต้องเช่าอาศัย ดังนั้นในเรือนย่อมไม่สามารถมีบ่าวรับใช้ที่มากเกินไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถมียามเฝ้าเรือนได้ด้วย ดังนั้นองครักษ์เหล่านั้นของเขา ล้วนแต่ถูกเลี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 495  

    อาภรณ์ชุดใหม่ในเรือนตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ปีนี้นับเป็นปีที่หาได้ยากที่เหล่าดรุณีสกุลสวีจะได้สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ออกไปเที่ยวชมพระโพธิสัตว์ สกุลสวีทั้งเบื้องบนเบื้องล่างต่างปีติยินดี แม้แต่ฮูหยินสวีก็ยังแต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดใหม่ทั้งตัว ในปีนี้นางสวมเสื้อนวมสองชั้นที่ทำจากผ้าไหมฝูกวงซึ่งเป็นแบบที่ทันสมัยที่สุด ข้างนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมขนนกยูง มองแล้วดูหรูหราเจิดจ้าจับตา เดิมทีนางรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อย ก่อนออกจากเรือนยังถึงขั้นถามสวีฮว่านขึ้นมาเป็นพิเศษว่า “วันนี้เป็นวันที่สาม ต้องขึ้นเขาไปกราบไหว้พระโพธิสัตว์ จุดธูปทอนน้ำมัน ทว่าก็มีบรรดาสตรีผู้มีหน้ามีตาในเมืองหลวงไปที่นั่นด้วยเช่นกัน พวกเราแต่งกายเช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือ?” หลายปีที่ผ่านมานี้ บรรดาสตรีในสกุลสวีได้ชื่อว่ามัธยัสถ์เรียบง่ายมาตลอด แต่กระนั้นก็ไม่มีใครดูถูกดูแคลนพวกนาง ใครต่างก็รู้ว่าในเมืองหลวงสวีฮว่านขึ้นชื่อว่าสุจริตมือสะอาด งานเลี้ยงของคนอื่น งานสังสรรค์สุราของคนอื่น เขาไม่เคยไปร่วมเลยสักครา เพราะไปกินของคนอื่น ย่อมเลี่ยงไม่ได้ต้องเชิญคนอื่นมากินเลี้ยงตอบแทนกลับในภายหลัง ใต้เท้าสวีเคร่งครัดในความสุจร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 494  

    “ไม่!” ชีหยวนส่ายหน้า มองเซียวอวิ๋นถิงตรง ๆ พลางถามว่า “ท่านอ๋อง หากต้องให้คนอื่นมาพูดแทนท่านปู่และท่านพ่อของข้าน้อย ตรงกันข้าม ขอให้คนของท่านยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจท่านพ่อและท่านปู่ของข้าน้อยด้วยดีกว่า!” เหล่าจ้าวคิดในใจ นี่เขาไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง? คุณหนูใหญ่สกุลชีเสียสติไปแล้วหรือ?! ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับเข้าใจความหมายของชีหยวนได้ในทันที การลักลอบค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายและการสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติให้อริศัตรูถือเป็นแผนการอันชั่วช้าเลวร้ายมากเกินไปจริง ๆ เหตุผลที่ผู่อู๋ย่งทำเช่นนี้ ก็เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็สามารถทำให้สกุลชีสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายพระเนตรของฮ่องเต้หย่งชางนับจากนี้ไปตลอดกาล แม้ภายหลังจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอแล้วก็ตาม ทว่าหากว่า หากว่าชีหยวนถูกลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า และคนในราชสำนักล้วนพากันรุมโจมตีสกุลชี หวังทำลายสกุลชีให้สิ้นซากไป ทว่าต่อมากลับได้ค้นพบความลับในภายหลังว่าเงินตำลึงจำนวนมหาศาลถูกซุกซ่อนไว้ในเรือนเช่าของสกุลสวี ไหนจะคนเหล่านั้นที่เซียวอวิ๋นถิงได้ส่งไปที่จี้โจวแล้วด้วย… เช่นนั้นในตอนนี้ยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่โตอื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 493  

    ตอนที่นางกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เซียวอวิ๋นถิงคอยอยู่บนชั้นสองแล้ว เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ราวกับเดินกลับเรือนของตนเอง ชีหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องสำคัญ ก็มิได้พูดอะไรมาก เพียงแต่นั่งลง และเอ่ยขึ้นอย่างตรงประเด็น “ข้าน้อยจัดการสังหารสวีซินเฉียวแล้ว เขามิได้เปิดเผยข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์” หนนี้เหล่าจ้าวแอบติดตามมาด้วย วิชายุทธ์ของเหล่าจ้าวนับว่าเลิศล้ำ ดังนั้นต่อให้จะอยู่ห่างไกล เขาก็สามารถได้ยินบทสนทนาของคุณหนูใหญ่สกุลชี มิหนำซ้ำ… ยังพูดอย่างฉะฉานมั่นใจในเหตุผลมากเสียด้วย ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย เขามุ่นหัวคิ้วขึ้น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคนแอบติดตามเจ้า” อำนาจของขันทีผู้ใหญ่ประจำกรมขันทีราชพิธีมิใช่เล่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นองครักษ์เสื้อแพรยังแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ กล่าวได้ว่า นับแต่เสี้ยวขณะที่ชีหยวนถูกลอบสังหาร ทุกการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในกำมือของพวกเขาหมดแล้ว ชีหยวนเปล่งเสียงรับคำเบา ๆ สีหน้าท่าทางสงบสุขุมยิ่งนัก “ข้าน้อยทราบแล้ว ดังนั้นหลังจากข้าน้อยสังหารสวีซินเฉียว พวกเขาจะคิดว่าอย่างไร?” จะคิดว่าอย่างไรหร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 492  

    คนเรายามที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ก็มักจะเผลอใช้ความคิดฟุ้งซ่านมากลบเกลื่อนความหวาดกลัวและความตกใจของตนเองเสมอ ชีหยวนเผากริชด้วยไฟจนร้อนจัด ก่อนจะดึงหน้านิ่งและเสียบมันเข้าไปที่กระดูกสะบักซ้ายของสวีซินเฉียว จนแทงทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเขา ทว่าหนนี้สวีซินเฉียวแม้แต่เสียงร้องก็ยังเปล่งออกมาไม่ได้ ทรุดลงกับพื้นทั้งร่างสั่นเทาและชักกระตุก ดวงตาฉายประกายหวาดกลัว ชีหยวนหยัดกายขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างเรียบเฉยและส่งยิ้มให้สวีซินเฉียวพลางเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี ท่านจะไม่พูดก็ย่อมได้ ข้าเข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของคนในสกุล ท่านจะไม่พูดก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นพวกเราค่อยพบกันอีกครั้งในยุทธจักรเถิด” นางเอ่ยพลาง ก็ส่ายเทียนไขในมือของตนเองไปมา “ข้าจะส่งท่านเดินทางครั้งสุดท้าย เผาท่านไม่ให้เหลือซาก จะได้ประหยัดแม้กระทั่งโลงศพด้วย ถือเป็นการทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อชาวบ้านจี้โจวไปด้วย” ชาวหว่าล่ารุกรานเข้ามาทุกปี ชาวบ้านในที่แห่งนั้นเผชิญหายนะทุกข์ทรมานกันไปแล้วตั้งเท่าใด?! พวกเขาโหดร้ายป่าเถื่อน บุรุษถูกสังหารทันที ส่วนสตรีและเด็กก็กวาดต้อนกลับไปยังทุ่งหญ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 491  

    และทันทีที่ผ้าขี้ริ้วถูกดึงออกมาจากในปาก สวีซินเฉียวไม่แม้แต่จะหยุดชะงักก็อ้าปากหมายจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ชัดเจนว่าความรวดเร็วของชีหยวนยังเร็วกว่าเขามาก เขายังไม่ทันได้อ้าปากส่งเสียง ชีหยวนก็จัดการยัดผ้าขี้ริ้วกลับเข้าไปในปากของเขาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วแล้ว และที่ยัดเข้าไปคราวนี้ก็ลึกยิ่งกว่าคราวก่อน แทบจะจุกเข้าไปถึงด้านในลำคอของสวีซินเฉียว ทำให้สวีซินเฉียวถึงขั้นพะอืดพะอมพยายามสำรอกออกมาหลายครั้ง ระดับความตื่นรู้ของคนหนึ่งคน เทียบเท่ากับระดับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับ สำหรับสวีซินเฉียวในยามนี้ก็นับเป็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อใดที่สตรีตรงหน้าเอื้อนเอ่ยวาจาน้ำลายหนึ่งหยดของนางคือตะปูหนึ่งดอก หากไม่เชื่อฟังคำพูดของนางแล้ว นางจะแสดงความน่ากลัวอย่างถึงที่สุดออกมา ชีหยวนผุดยิ้มเล็กน้อยพลางหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาและปักกลับไปที่มวยผมดังเดิม จากนั้นค่อยแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางขยับข้อมือไปมา “ใต้เท้าสวี ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเจ้าคะ? คนที่ไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ” เอ่ยพลาง นางก็เลื่อนมือข้างหนึ่งไปปิดปากสวีซินเฉียวไว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 490

    แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น สวีฮว่านก็ยิ่งระมัดระวังในการกระทำมากขึ้นไปอีกที่จวนไม่เคยจัดงานเลี้ยงหรืองานมหรสพใด ๆ เลยแม้แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหญิงชรา ก็แค่ให้คนในครอบครัวทานข้าวด้วยกันมื้อเดียวแล้วก็จบกันไปเงินทองในบ้านกองเป็นภูเขา ผ้าไหมผ้าแพรก็มีมากมาย แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้แค่เห็นแต่ใช้ไม่ได้ นี่แหละถึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจและกลัดกลุ้มใจที่สุด!นางยังคิดว่าสวีฮว่านคงจะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาเหมือนจะคิดตกได้ในทันทีสวีฮว่านยิ้มบาง ๆ พูดอย่างมีนัยยะว่า “เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะใช้ได้แล้ว”ฮูหยินสวีฟังไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ก็ดีใจยิ่งนัก รีบเปิดคลังเอาหนังสัตว์ออกมา ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ ในบ้านกันคนละชุดที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่นสวีซินเฉียวออกจากบ้านสวีก็ยิ้มแย้มมีความสุขเช่นกันแน่นอนว่ามีความสุขอยู่แล้ว!สิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นความผิดมหันต์ถึงขั้นถูกตัดหัวและฆ่าล้างเก้าชั่วโคตร แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะมีตระกูลชีเป็นแพะรับบาปไปแล้ววันขึ้นปีใหม่ บังเอิญมีเรื่องมงคล เขาดีใจจนเดินตรงไปที่หอหงเฟิ่นจินที่ค้าขายดีท

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status