All Chapters of เล่ห์หวนรัก: Chapter 71 - Chapter 80

"แหม ไม่มีคนให้เอาก็บอกแล้วว่าให้มาเอากับพี่ รับรองว่าจะจัดให้อย่างถึงใจจนลืมไอ้เจ้านายหน้าอ่อนของเธอไปเลยละ ว่าแต่คืนนั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ เดินขาถ่างกลับบ้านเลยรึเปล่าจ๊ะน้องจันทร์""หุบปากไปเดี๋ยวนี้เลยนะ อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเลวเหมือนคุณ"มือข้างหนึ่งของหญิงสาวกำเข้าหากันแน่นเพราะโกรธจัด และอาการของเธอนั้นก็ไม่รอดพ้นสายตาของชินดนัยไปได้ แม้ว่าเสียงที่เธอพูดคุยกับคนปลายสายจะเบาแสนเบาจนเขาคาดเดาไม่ถูกว่าคุยกันเรื่องอะไร แต่คนที่โทรศัพท์เข้ามานั้นเขาคิดว่าน่าจะเป็นตัวปัญหาที่เขากับเพื่อนกำลังหาทางโยนมันเข้าคุกอยู่ในตอนนี้"โถ...น้องจันทร์จ๋า พูดจี้ใจดำแค่นี้ทำเป็นโกรธ จะบอกพี่ว่าคืนนั้นไม่ได้ถูกเจ้านายขย่มทั้งคืนอย่างนั้นหรือ ฮ่า ๆ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว หรือถ้าเป็นเรื่องจริงก็หมายความว่าไอ้หนุ่มนั่นคงไก่อ่อนน่าดู มีผู้หญิงมานอนแบให้ขนาดนั้นยังไม่เอา แต่ช่างเถอะ ที่พี่โทร. มานี่ก็เพื่อจะบอกให้น้องจันทร์ไปถอนแจ้งความซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน เพราะถ้าอยากให้แม่กับหลานอยู่บ้านอย่างสงบสุขก็ทำตามที่พี่บอก ถอนเสร็จแล้วก็มาขอโทษพี่ด้วยนะ แต่พี่จะยกโทษให้รึเปล่านั้น

ชินดนัยกลับมาถึงบ้านของจันทร์เจ้าอีกครั้งในเวลาเกือบสี่ทุ่ม ระหว่างทางทั้งขาไปและกลับเขาได้รู้ความเคลื่อนไหวมากมายจากนักสืบและปกเกล้า เขาอยากเล่าให้หญิงสาวฟัง แต่ไม่รู้ว่าหลังจากที่เธอเปิดประตูให้เขาแล้วจะขึ้นนอนเลยหรือเปล่า"เป็นยังไงบ้างคะ" เธอเอ่ยปากถามทันทีที่เขาก้าวลงจากรถ"จูบก่อนสิแล้วจะบอก" เขาพูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว แต่เธอกลับเดินหนีเข้าบ้านไปดื้อ ๆ"อ้าว...ไม่อยากรู้แล้วหรือ" เขาเดินตามเข้าไปในบ้าน จันทร์เจ้าเดินเลี่ยงไปทางห้องครัว เปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าออกมาเทใส่แก้วแล้วเดินถือมาให้เขาในห้องรับแขก จากนั้นก็หย่อนตัวนั่งบนโซฟาคนละตัวกับที่ชายหนุ่มนั่งอยู่"คุณแม่ขึ้นนอนแล้วหรือ" เขานึกว่ามารดาของจันทร์เจ้าจะนั่งดูละครหลังข่าวเหมือนมารดาของเขาเสียอีก เพราะเวลานี้ละครช่องโปรดยังไม่จบ ตอนที่เขาโทรศัพท์ไปบอกที่บ้านว่าจะค้างบ้านเพื่อน ท่านรับรู้แล้วก็รีบวางสายเพราะตอนใหม่มาพอดี"ขึ้นนอนแล้วค่ะ เพราะต้องกล่อมหนูพราวด้วยก็เลยหลับไปพร้อมหลานเลย""เมื่อกี้ตอนที่ขับรถเข้ามา พี่ลองคุยกับทางรปภ. เขาแล้วละว่ารถพี่โดนทุบ พี่เปิดรูปใ

สี่สิบห้านาทีต่อมา ชินดนัยก็มายืนอยู่โถงรับรองหน้าลิฟต์ของคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพราะเขาไม่มีคีย์การ์ดผ่านเข้าออก ต้องรอให้เจ้าของห้องลงมารับด้วยตัวเอง เมื่อเห็นปกเกล้าออกจากลิฟต์แล้วเปิดประตูกระจกเพื่อให้เขาเข้าไปในนั้น ชินดนัยจึงก้าวยาว ๆ เข้าไปหาทันทีพร้อมกับเอ่ยปากถามเพื่อนรัก"มีเรื่องอะไรวะ ทำหน้าโคตรเครียด"ปกเกล้าถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มก่อนจะมองหน้าชินดนัยแล้วพูดว่า"ลูกน้องกูเอาข้อมูลในโทรศัพท์ของไอ้บรรพตออกมาได้แล้ว ในนั้นมีทั้งภาพทั้งคลิปที่มันไปทำระยำกับผู้หญิงไว้แทบนับไม่ถ้วน กูเลยอยากให้มึงมาดูน่ะ"ชินดนัยขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย เพราะหากเป็นคลิปที่สามารถเอาผิดบรรพตกับเพื่อนได้ก็น่าจะเป็นผลดีในการดำเนินคดีกับพวกมันไม่ใช่หรือ แต่สีหน้าเคร่งเครียดและท่าทางที่ไม่อยากพูดอะไรมากไปกว่านี้ของปกเกล้านั้น ทำให้เขาเชื่อว่าในคลิปพวกนั้นน่าจะมีอะไรบางอย่างอยู่เมื่อขึ้นมาถึงห้อง ปกเกล้าก็ชี้ไปที่โน้ตบุ๊กซึ่งวางอยู่บนโต๊ะกลางชุดรับแขกแล้วพูดว่า"มึงลองดูเองละกัน กูชี้ไว้ให้แล้วว่าไฟล์ไหน" จากนั้นปกเกล้าก็ตบบ่าชินดนั

"แล้วคุณจะเอายังไง ถอนแจ้งความฉันก็ทำแล้ว ขอโทษก็ทำแล้ว คุณยังต้องการอะไรอีก""พี่ว่าจันทร์รู้ดีนะว่าพี่ต้องการอะไร อยู่ที่ว่าจันทร์จะยอมรึเปล่า เพราะถ้ายอมเนี่ยเรื่องทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าไม่ยอม พี่ก็ไม่รับประกันหรอกนะว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับคนที่บ้านของจันทร์อีก พี่ไม่ชอบคนดื้อด้านหรอกนะ ถ้าจันทร์ทำตัวน่ารักว่านอนสอนง่ายไม่ขัดใจพี่ พี่ก็จะเลี้ยงดูปูเสื่อเราอย่างดี มีเงินให้ใช้อีกด้วย ไม่ต้องไปทำงานนอกบ้านงก ๆ ยิ่งถ้าปรนนิบัติพี่บนเตียงได้ถึงใจละก็ พี่เปย์ไม่อั้น""คุณจะให้ฉันเป็นอีหนูของคุณหรือ" จันทร์เจ้าถามเสียงสั่นด้วยความโกรธ"พูดอะไรอย่างนั้น เรียกว่าคนสนิทจะดีกว่า ว่ายังไงล่ะ จะตกลงรึเปล่า""แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะทำตามคำพูดที่บอกว่าจะไม่มายุ่งกับคนในบ้านของฉันอีก" เธอพูดพลางมองผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้าม ซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้าตาถมึงทึงราวกับจะพ่นไฟออกมาทางตาได้อยู่แล้ว"คนอย่างพี่พูดคำไหนคำนั้น อ้อ มีข้อแม้อีกอย่าง ไปเลิกกับไอ้เจ้านายนั่นซะ"จันทร์เจ้าแค่นยิ้มมุมปาก ตามองชินดนัยที่นั่งหักข้อนิ้วตัวเองเพื่อระงับความโกรธแล้วพูดว่า

"เออ รู้น่า" ภาวินรับปากทั้งที่ตนก็ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อถึงเวลาจริง ๆ จะทำได้หรือไม่ เพราะดูแล้วหากมีปัญหาเรื่องการแย่งเด็กขึ้นมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพื่อนรักอย่างชินดนัยจะเลือกอยู่ข้างไหน เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ชินดนัยกับจันทร์เจ้าก็เดินเข้ามาในห้องที่วางแผนกันอีกครั้ง ชินดนัยนั้นหน้าตาสดชื่นแจ่มใส มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ส่วนจันทร์เจ้านั้นมีท่าทางประหม่าขัดเขิน ไม่กล้าสบตาใครแม้แต่คนเดียว"หน้าระรื่นมาเชียวนะมึง หมั่นไส้เว้ย" ปกเกล้าแกล้งแซวเพื่อน แต่พอเห็นหญิงสาวหน้าแดงก่ำด้วยความอายจึงหุบปากไม่กล้าแซวอีก เพราะจันทร์เจ้าเรียบร้อยเสียจนเขาไม่กล้าพูดอะไรแรง ๆ"เฮ้ย ๆ มาแล้วเว้ย พวกมันมาแจ้งข่าวในไลน์กลุ่มแล้ว" ภาวินรีบบอกให้ทุกคนรู้ ปกเกล้าจึงเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ้างพวกเขาแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มสวิงกิ้งซึ่งอติวิชญ์เป็นคนก่อตั้งขึ้น โดยเสียค่าสมาชิกเข้ากลุ่มเดือนละสองพันบาทสำหรับดูคลิปกิจกรรมประเภทเซ็กซ์หมู่ที่จัดขึ้น รวมถึงสั่งซื้อยาเสียสาวและยาปลุกเซ็กซ์ที่อติวิชญ์นำเข้ามาขาย ในกลุ่มมีสมาชิกอยู่หลายร้อยคน และส่วนให