All Chapters of วางใจเถอะ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น: Chapter 11 - Chapter 20

20 Chapters

Chapter11.  ไม่อาจอธิบายได้

“ข้าไม่อาจอธิบายได้ทั้งหมด แต่...คุณชายจะอยู่ได้เพียงสี่สิบเก้าวัน ตอนนี้เวลาเหลือเพียงแค่สิบห้าวันเท่านั้น หากไม่รีบกลับเมืองหลวงคุณชายของข้าก็จะ...” ‘ตาย’ แม้ไม่ได้พูดมาแต่นางเข้าใจคำนั้นได้อย่างดีหญิงสาวกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิด ไม่เพียงแค่อยากรู้ถึงเหตุผลที่ตัวเองมาที่นี่ รวมทั้งร่างของตัวเองในอีกโลกยังรวมถึงชีวิตของอาหมานอีกด้วย แต่นางอดเป็นห่วงคนที่นี่ไม่ได้ นางเป็นคนเดียวที่แข็งแรงที่สุด เป็นพี่สาวของน้อง ๆ “ข้ารู้ว่าแม่นางน้อยเป็นคนมีคุณธรรมไม่อาจเอาเรื่องเงินทองมาพูดคุยได้ แต่ถ้าเจ้ามีใจเมตตา ข้ายินดีจ่ายค่าตอบแทนให้ในเวลานี้ทันทีห้าสิบตำลึง และจะได้รับอีกห้าสิบตำลึง เมื่อคุณชายกลับถึงเมืองหลวง” “ห้าสิบตำลึง” เงินห้าสิบตำลึงมันเยอะแค่ไหนนะ? ดวงตากลมมีแววประหลาดใจ นางมองหน้าเสียเอี๋ยนกับอาหมานสลับไปมาแล้วถอนหายใจหนัก“ยังไงก็ต้องเป็นข้าใช่ไหม” “แม่นาง...” “ขอข้าปรึกษาท่านพ่อก่อน” นางพูดตามตรง “แต่ท่านควรรู้ว่าข้าอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ ไม่รู้เส้นทาง” “เรื่องนั้นมิใช่ปัญหา เพียงของแค่
Read more

Chapter 12.  พันดาวในร่างของเหมยซิง

“ใช้เวลาเดินทางสิบวัน ถ้าเป็นม้าเร็วก็ใช้เวลาแค่ครึ่งหนึ่ง ถ้าเช่นนั้นหมู่บ้านที่อยู่ก็ไม่ไกลเมืองหลวงมากซินะ”เหมยซิงพูดกับตัวเองแต่ให้ดังพอที่คนข้างหลังได้ยิน แม้เขาโต้ตอบนางไม่ได้ก็เถอะ นางอยากส่งเสียงให้รู้ว่าเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เหมยซิงนึกถึงเรื่องราวที่พูดคุยกับเสียเอี๋ยน แม้คนผู้นั้นพูดกำกวมไม่ขยายความให้เข้าใจทั้งหมด แต่คาดเดาว่าคุณชายของเสียเอี๋ยนผู้นี้คล้ายกับนางตรงที่ดวงจิตมาอยู่อีกร่าง ซ้ำร้ายที่ดวงจิตของเขาดันมาอยู่ในร่างที่เป็นผักสื่อสารกับใครไม่ได้เช่นนี้ อยากกลับบ้านก็ทำไม่ได้ ส่วนนางดวงจิตมาอยู่ในร่างเด็กสาววัยสิบหก ทว่าดวงจิตของนางหลุดมาจากอีกโลกหนึ่ง นางเหลือความหวังน้อยเหลือเกินที่จะได้กลับไปโลกเดิม แต่พอคิดว่านางอาจจะช่วยคนที่มีสภาพเป็นผักให้กลับคืนเป็นปกติในร่างที่ควรอยู่ นางก็มีกำลังใจขึ้นมา และที่สำคัญ...หากนางกลับไม่ได้จริง ๆ ขอเพียงได้รู้ว่าลุงทองดีสบายดีก็พอแล้ว จะว่าไปชีวิตในร่างนี้มีส่วนคล้ายกับนางในโลกโน้น นางมีลุงทองดีเป็นเหมือนพ่อบุญธรรม อยู่ที่นี่นางก็มีติงเชาเป็นพ่อบุญธรรม แต่ที่นี่นางยังมีน้อง ๆ
Read more

Chapter 13.  มีความกล้า

ซุนเว่ยหมินแทบสำลักน้ำลายตัวเอง สองหูได้ยินสิ่งที่หญิงผู้นั้นพูดท่าทางสงสารเหมยซิงจับใจ เหมยซิงเมื่อพาชายหนุ่มเข้ามาในห้องแล้วก็จัดท่าทางให้เขาได้เอนหลังสบาย ๆ เห็นดวงตาของเขาจ้องมองเขม็ง นางถลึงตามองกลับก่อนย่นจมูกแล้วยื่นปลายนิ้วมาจิ้มจมูกของเขาเบา ๆ “ข้าจำเป็นต้องบอกพวกเขาว่าเจ้าเป็นสามีของข้า ข้าจะพาสามีกลับบ้าน”นางยิ้มทะเล้นใส่ แล้วหมุนตัวไปรินน้ำป้อนให้เขาจิบที่ละนิด“ประเดี๋ยวข้าจะออกไปดูสักหน่อยว่าจะทำอาหารเย็นกินกัน เจ้ารออยู่คนเดียวก่อนนะ” นางไม่รอให้เขาพยักหน้ารับ รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว แม้นางจะปิดประตูห้องแล้ว แต่เขายังได้ยินเสียงนางพูดคุยกับหญิงชรา และสะใภ้ผู้นั้น แม้จับใจความที่พวกนางสนทนาไม่ได้แต่เสียงหัวเราะของเหมยซิงทำให้เขาพลอยหัวเราะตามไปด้วย ไม่นานนักเหมยซิงก็กลับเข้ามาพร้อมอ่างน้ำ “เช็ดตัวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน เสื้อผ้าเจ้าข้าจะรีบซักตาก น่าจะแห้งก่อนเดินทาง”แม้ในบ้านจะมีผู้ชาย แต่ก็เป็นเด็กและพ่อบุญธรรมก็ป่วย นางจึงรับหน้าที่ดูแลอาหมาน ในโลกโน้นนางอยู่กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่เป็นสตั๊นต์แมน เห็นผู้ชายเปล
Read more

Chapter 14. ลำบาก

เพราะเสียงหัวเราะของเหมยซิงทำให้หญิงชรา และสะใภ้ผู้นั้นขบขันไปด้วย เข้าใจไปว่านาแสร้งทำให้ทั้งสองหัวเราะทั้งทีความจริงแล้ว เหมยซิงไม่รู้ว่าการแสดงความคารวะ หรือขอบคุณผู้อื่นนั้นต้องทำเช่นไร “ข้าจำมาจากในหนังจีน” เหมยซิงบ่นอุบอิบพลางย่อตัวลงแล้วแบกร่างผักของชายหนุ่มขึ้นหลัง พาเขาเข้าไปนอนในที่นอนที่นางเอาออกไปผึ่งลมเมื่อวาน เขาไม่ชอบกลิ่นอับ นางรู้เรื่องนี้ดี นางปีนขึ้นหลังรถม้า จัดที่ทางและท่านอนให้เขาอย่างพอเหมาะ และเขาต้องเบิกตาโตเมื่อเห็นนางใช้เส้นไหมผูกปลายนิ้วชี้ของเขาไว้ “ข้านั่งข้างหน้าบังคับม้า เจ้าอยู่ด้านหลัง ส่งเสียงเรียกข้าก็ไม่ได้ ขยับได้แค่ปลายนิ้วกับกลอกตาไปมา ข้าเลยขอเส้นไหมจากท่านย่าผูกปลายนิ้วของเจ้า ปลายเส้นไหมอีกด้านนั้นข้างจะผูกไว้กับนิ้วมือของข้า หากเจ้าต้องการอะไร หรืออยากเรียกข้าก็แค่กระตุกเส้นไหมนี้ ข้าจะได้รู้อย่างไรล่ะ” เหมยซิงมุดกลับออกไปนั่งด้านหน้า กระตุกบังเหียนให้ม้าก้าวเท้าออกเดินทาง ปลายนิ้วชี้ข้างขวาผู้เส้นไหมสีแดงกับเขาปลายนิ้วของชายที่เอนตัวลงนอนอยู่ด้านในของรถม้า ซุนเว่ยหมินมองเส้นไหมด้วยความร
Read more

Chapter 15.  ระหว่างเดินทาง

ร่างกายภายใต้น้ำพุร้อนสบายยิ่ง เขารู้สึกว่าตนเองขยับตัวได้มากกว่าปลายนิ้ว ตอนนี้เขาสามารถหมุนข้อมือตัวเองได้ ปลายเท้าก็ขยับได้มากขึ้น ลองยกขาขึ้นแต่ยังไม่สามารถทำได้ เขาถอนหายใจหนักหน่วง หวังให้ร่างกายนี้ขยับตัวได้มากกว่านี้ “อย่ากังวลเลย เจ้าต้องขยับตัวได้แน่” ซุนเว่ยหมินลืมตาขึ้นมองเจ้าของเสียงที่อยู่ใกล้ ๆ นางค่อย ๆ ขยับตัวเข้ามาหาเขา ท่อนแขนเรียวยื่นออกไปหยิบบางสิ่งที่อยู่ด้านหลังของเขา ชายหนุ่มแทบกลั้นหายใจ ครู่หนึ่งนางก็ชักมือกลับมาพร้อมกับจ่อยาลูกกลอนที่เสียเอี๋ยนสั่งให้เขากินทุกหนึ่งชั่วยาม “ได้เวลากินยาแล้ว” เหมยซิงยิ้มกว้าง “ข้ารู้ว่าเจ้าฝึกขยับตัวอยู่เสมอ อย่าได้เร่งร้อนเกินไปจะบาดเจ็บได้ เอ้า! อ้าปากแล้วกลืนยานี่” ชายหนุ่มทำตามที่นางสั่ง อ้าปากให้นางป้อนยาลูกกลอนเคลือบน้ำผึ้งลงคออย่างง่ายดาย “ข้าจะขึ้นจากน้ำสวมเสื้อผ้าก่อน เจ้ารอประเดี๋ยวนะ” นางก้าวขึ้นจากน้ำ ซุนเว่ยหมินหลุบตาลงแต่กระนั้นก็ยังทันได้เห็นเรือนร่างผอมบางที่แม้จะสวมเอี๊ยมปกปิดเรือนร่าง ทว่ายามเปียกน้ำนั้นมันกลับเหมือนนางไม่ได้สวมใส่สิ่งใด
Read more

Chapter 16.  แค่ตกใจ

“อาหมาน...ซื้อม้าตัวหนึ่งนี่ต้องใช้เงินเท่าไร ม้าตัวนี้เสียเอี๋ยนให้ข้าใช้พาเจ้ามาส่ง ข้าผูกพันกับมันมาก อยากได้มันไปอยู่กับข้าด้วย” “อาหมาน...ข้าอยากซื้อบ้านสักหลัง บ้านที่ข้าอยู่ตอนนี้มันของผู้อื่น ไม่รู้เจ้าของจะมาทวงเอาคืนเมื่อใด เจ้าว่าต้องใช้เงินเท่าไรกัน” “อาหมาน...ไหน ๆ ต้องซื้อบ้านแล้ว ข้าว่าซื้อบ้านในเมืองหน่อยดีหรือไม่ จะได้ทำการค้าไปด้วย” “อาหมาน...” ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่สามารถขยับปากพูดคุยตอบคำถามของนางได้ แต่นางก็ยังตั้งคำถามอยู่เสมอ และเขาเองชินกับการถูกเรียกว่า ‘อาหมาน’ ไปแล้ว เขาจดจำจังหวะการเดินของนางได้ นางจะวิ่งมาเต็มฝีเท้า และหยุดยืนหอบหายใจอยู่หน้าบานประตูครู่หนึ่งก่อนค่อย ๆ ผลักบานประตูเข้ามา “อาหมาน...รอข้านานไหม พอดีข้าได้ถั่วฝักยาวมาก็เลยเอาไปให้เจ้าโชคดี” นางเอ่ยขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้ ๆ จ้องมองดวงตาของเขาซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่โต้ตอบกับนางได้ จะมีสตรีสักกี่นางที่กล้าจ้องตาเขาเช่นนี้ “ตัวข้ามีแต่กลิ่นม้า ข้าจะเช็ดตัวสักครู่ เจ้ารอก่อนนะ ประเดี๋ยวค่อยเข้านอนพร้อมกัน”
Read more

Chapter 17.   หญิงอัปลักษณ์

ซุนเว่ยหมินกะพริบตาอย่างประหลาดใจ มองดูแขนของตนที่ยกขึ้นได้แล้ว และยังมีเรี่ยวแรงพอจะรั้งนางไม่ให้พลิกตัวจนตกเตียง เขาจ้องมองคนที่ยังหลับอยู่แล้วลองขยับตัวใช้สองแขนยันร่างตัวเองขึ้นจากที่นอน แม้การขยับตัวง่าย ๆ นี้ก็ทำให้เหงื่อซึมออกมาที่หน้าผาก แต่เขาก็ยิ้มอย่างดีใจที่ขยับตัวได้มากถึงเพียงนี้ แต่ยิ้มได้เพียงครู่เดียวก็รู้ว่าร่างของตนโงนเงน และล้มลงเหมือนกิ่งไม้ไร้น้ำหนัก ยังดีที่เขายังเหลือแรงใช้ศอกยันที่นอนไม่ให้ตัวเองทับร่างของหญิงสาว เขาถอนหายใจเบา ๆ เห็นนางหลับสนิทค่อยเบาใจ เขายังไม่มั่นใจว่าตนเองจะขยับตัวได้เช่นนี้อีกหรือไม่ หญิงอัปลักษณ์!เขาต่อว่านางที่บังอาจมาล่วงเกินเขาได้ มือเล็กของนางไม่นุ่มนิ่มซึ่งไม่น่าประหลาดใจนัก นางนอนพลิกตัวบ่อยไร้ความเป็นกุลสตรี ยามหัวเราะนางไม่เคยสะกดกลั้นเสียงของตนเอง ยามนางยิ้ม ดวงตาของนางเป็นประกายระยิบระยับ แม้นางผายผอมไปสักหน่อย แต่ยามที่นางเปียกน้ำในบ่อน้ำพุร้อนนั้น เขามั่นใจว่าหากนางได้กินดีกินอิ่มทั้งสามมื้อต้องมีน้ำมีนวลกว่านี้ กลิ่นกายของนางนั้นละมุนอย่างที่เขาไม่เคยพานพบมาก่อน หญิงอื่นมักอบร่ำตนเองให้หอ
Read more

Chapter 18. เกิดอะไรขึ้น

“เจ้าไม่มีสิทธิ์ทุบตีผู้อื่นเช่นนี้เหมือนกัน!” ยังดีที่นางฝึกฝนตัวเองมาตลอด แม้รูปร่าเล็กแต่ยังต้านทานน้ำหนักที่ฟาดลงมาได้อยู่ “ข้าเป็นสามีของนาง ข้าจะทำอย่างไรกับนางก็ได้” “สามี!” เหมยซิงพูดอย่างไม่เชื่อ หันไปมองสองแม่ลูกที่กอดกันกลมร้องไห้จนหน้าตาเปื้อนเปรอะไปหมด “เป็นสามีภาษาอะไร ทุบตีภรรยาและลูกเหมือนหมูหมาเช่นนี้” นางโมโหจนอยากกระทืบเท้าแรง ๆ บ้านไหนเมืองไหน ยุคสมัยใดแทบไม่แตกต่างกันเลยจริง ๆ “ข้าตีมันสองแม่ลูกมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า!” ชายผู้นั้นหัวเราะเยาะ “ถ้ามันยอมดี ๆ ข้าก็ไม่ต้องเหนื่อยตีมันเช่นนี้หรอก” “ท่านพ่อจะขายท่านแม่ไปอยู่ในซ่องนางโลม” เด็กชายร้องไห้สะอึกสะอื้น “ท่านพ่ออย่าขายท่านแม่เลย ข้าจะทำงานหาเงินให้ท่านเอง” “เหอะ! ตัวแค่นี้ทำอะไรได้” ไม่พูดเปล่า ยังใช้เท้ายันร่างเล็กเหมือนเขี่ยขยะชิ้นหนึ่ง “เงินมันสำคัญกับเจ้าขนาดขายภรรยาทิ้งเลยรึ” นางตะคอกใส่อย่างหัวเสีย “ใช่นะซิ ไม่งั้นข้าจะขายพวกมันเรอะ” ชายคนนั้นหัวเราะเยาะ “ถ้าเจ้าอยากได้มันสองแม่
Read more

Chapter 19.  นี่ไม่ใช่ร่างกายข้า

“ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก” สองแม่ลูกพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หันมากล่าวคำขอบคุณกับเด็กสาวแปลกหน้า เหมยซิงเพียงโบกมือไปมา ยันตัวเองลุกขึ้นแล้วพูดอย่างจริงจัง “สามีที่คิดจะขายเจ้า ทำร้ายเจ้าและลูก เจ้าตรองดูเอาเองแล้วกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะคงไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเช่นนี้ทุกครั้ง” ซุนเว่ยหมินมองร่างของเหมยซิงที่เดินตรงมาทางเขา ก้มตัวลงแบกเขาขึ้นหลังเช่นทุกครั้ง เห็นนางดื่มสุราเข้าไปมากขนาดนั้นไม่คิดว่านางยังมีแรงแบกเขาไหว “แม่นาง...ข้าไม่ใช่คนใจดำ ถ้าไม่รังเกียจพักในหอนางโลมของข้าสักคืนค่อยเดินทางก็ได้” ซิงลี่แสดงความใจกว้างต่อหน้าผู้อื่น ทำให้ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์เลื่อมใสในความมีน้ำใจ เหมยซิงทำเสียงงึมงำในลำคอแต่พยักหน้ารับ เดินตามเสี้ยวเอ้อไปห้องพักที่ซิงลี่จัดให้ นางแบกร่างของอาหมานไปวางบนเตียง แล้วสั่งเสี้ยวเอ้อให้ยกน้ำอุ่นมาให้หนึ่งอ่าง รอจนได้ทุกอย่างที่ต้องการ และในห้องไม่มีผู้อื่นแล้ว ร่างของนางร่วงผล็อยลงไปทับร่างของอาหมานที่นอนอยู่ก่อนแล้ว “อือออออ” เป็นเสียงครางตกใจที่หลุดออกจากลำคอของอาหมาน “ข้ารู
Read more

Chapter 20. โง่นัก

‘เป็นนางที่เถลไถล มิใช่ข้า’ ‘อ๋อ! เป็นเพราะนางมิใช่ท่าน’ เสียเอี๋ยนเอ่ยตอบผ่านผีเสื้อตัวน้อย ‘อย่างไรท่านก็ระวังตัวให้มาก ยิ่งใกล้เมืองหลวง ข้ายิ่งมิอาจปรากฏกายได้แต่จะให้องครักษ์ลับคอยดูแลท่าน’ ‘เสียเอี๋ยน เมื่อดวงจิตข้ากลับสู่ร่างแล้ว ร่างนี้จะเป็นอย่างไร’ ‘ข้ามิอาจตอบได้ในตอนนี้’ ซุนเว่ยหมินรู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ที่หน้าประตู เขาจึงยกมือขึ้นโบกไปมา ผีเสื้อตัวน้อยหายวับไปราวกับหมอกควัน เป็นเสียงฝีเท้าของเหมยซิง นางวิ่งมา และหยุดหน้าประตู สงบใจครู่หนึ่งก่อนเปิดประตูออกพร้อมรอยยิ้ม แต่คราวนี้นางมีขนมเปี๊ยะในมือ “นี่ ๆ ข้าเพิ่งเคยได้กินขนมเปี๊ยะไส้เนื้อ เจ้าลองกินดูไหม” นางบิขนมในมือแบ่งเป็นสองส่วน “ข้าเจอซิงลี่ นางให้ข้ามา ข้ากินไปชิ้นหนึ่งแล้วไม่มีอันตรายใดก็เลยขอมาฝากเจ้าชิ้นหนึ่ง” ‘โง่นัก! หากเจ้าเป็นอะไรไปจะทำเช่นไร แค่ขนมเปี๊ยะชิ้นเดียว รอให้ข้ากลับคืนร่างก่อนเถอะ! เจ้าอยากกินอะไรข้าจะหามาให้เจ้ากินจนต้องส่ายหน้าไม่กินอีก!’ เหมยซิงยื่นขนมไปจ่อที่ปากของอาหมาน แต่เขาเม้มปากแน่นไม่ยอมอ้
Read more
PREV
12
DMCA.com Protection Status