บททั้งหมดของ หย่า…มารักฉันเลย: บทที่ 31 - บทที่ 40

246

บทที่ 31

มุมมองของซิดนีย์ฉันตบแก้มมาร์คเบา ๆ อย่างโกรธ ๆ "ตื่น ๆ! ฉันซิดนีย์นะไม่ใช่เบลล่า"ฉันคำรามเสียงดังในขณะที่ผลักไหล่เขา เพื่อพยายามดันเขาออกจากตัวฉันอีกครั้ง ฉันทิ้งไหล่ลงในขณะที่ถอนหายใจอย่างยอมแพ้เขาเมามายถึงขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย?!หลังจากที่เขาทำให้ฉันตกใจแทบตายและพูดอย่างเมามายว่า 'เมียจ๋า' พร้อมกับเผยยิ้มของคนเมาออกมา เขาก็ทรุดตัวแล้วล้มลงบนหน้าอกของฉัน และต้องบอกเลยว่าเขาตัวหนักมากการที่หัวของเขาอยู่บนหน้าอกฉันแบบนั้นทำให้ฉันหายใจได้ลำบากมาก และเสียงกรนที่ลอดออกมาลำคอของเขาก็ยิ่งทำให้รู้สึกรำคาญเข้าไปกันใหญ่“มาร์ค! ให้ตายเถอะ!” ฉันกรีดร้องด้วยความหงุดหงิด ฉันรู้สึกเหนื่อยกับเรื่องราวทั้งหมดนี้เหลือเกิน ฉันแค่อยากกลับบ้าน ขังตัวเองอยู่ในห้องและพักผ่อนให้เต็มอิ่มเพื่อเติมพลังงานให้เต็มที่ให้กับตัวเองในวันถัดไป แต่ฉันกลับต้องมานอนคิดจนหัวแทบแตกอยู่ที่นี่ ว่าจะทำยังไงถึงจะเอาตัวเขาออกไปจากฉันได้ ในขณะที่ยังพยายามดันไหล่ตึง ๆ ของเขาอยู่ฉันกวาดตามองไปทั่วห้องที่มืดสลัว ด้วยความหวังว่าเงาที่ดูน่ากลัวเหล่านั้นจะกลายร่างเป็นคนงานในบ้านสักคนหนึ่ง แต่เปล่าเลย เงานั้นก็ยังคงอยู่ที่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 32

กว่าเธอจะรับสายก็ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ฉันแทบรอให้เธอพูดคำว่า 'สวัสดี' อย่างเย็นชาให้จบไม่ไหว ก่อนจะเริ่มพูดขึ้นว่า "ฉันไม่รู้ว่าทำไมมาร์คถึงเมาหนักขนาดนี้ เขาต้องการคนดูแล เธอควรมาที่นี่หน่อยนะ"ฉันได้ยินเสียงกุกกักก่อนที่เธอจะตอบว่า "ฉันจะไปเดี๋ยวนี้" แล้วเธอก็วางสายฉันชงกาแฟมาดื่มแล้วเดินกลับไปที่ห้องมาร์ค ฉันนั่งจิบกาแฟรอเธอ ประมาณสิบนาทีต่อมา ฉันก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างร้อนรน แล้วไม่กี่วินาทีต่อมาประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออก เผยให้เห็นเบลล่าที่ดูเป็นกังวลฉันขมวดคิ้วเมื่อเห็นสภาพของเธอ เธอดูกระเซอะกระเซิงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอรีบร้อนมาที่นี่ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจได้จริง ๆ ก็คือชุดชั้นในที่มองเห็นผ่านเสื้อคลุมบาง ๆ นั่นแหละโอเค เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ทำไมเธอถึงมาดูแลผู้ชายที่กำลังเมามายในชุดชั้นในอย่างนี้ล่ะ? ฉันผิวปากพร้อมกับพยักหน้า เธอมีแผนการแน่นอน แต่ฉันไม่สนใจหรอกเธอกลอกตาแล้วเดินผ่านฉันไปเพื่อไปดูมาร์คเนื่องจากฤทธิ์กาแฟที่ฉันดื่มเข้าไปนั้นทำให้ฉันตาสว่าง ฉันก็เลยตัดสินใจอยู่ดูต่อฉันยังคงนั่งจิบกาแฟดูเธออย่างสนุกสนาน ในขณะที่เธอเดินกลับไปกลับมาระหว่างห้อง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 33

ฉันหลับตาพร้อมกับบ่นพึมพำ "บ้าชะมัด!” ทำไมเขาต้องตื่นขึ้นมาตอนนี้ด้วย?ฉันกับเบลล่าต่างจ้องมองเขา สายตาของเบลล่าแสดงถึงความกลัดกลุ้มใจ ในขณะที่สายตาของฉันจ้องมองเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ“อย่าให้เธอนะ" เขาย้ำอีกครั้งในขณะจ้องมองฉัน ตอนนี้เขาดูเมาน้อยลงแล้ว คำพูดของเขาไม่ได้ฟังดูคลุมเครืออีกต่อไป และสายตาก็ดูแน่วแน่ในระดับหนึ่งซุปนั้นต้องมีสรรพคุณดีแน่ ๆ ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนอ้วกก็ตาม ฉันต้องขอสูตรจากเธอแล้วล่ะ เบลล่าขยับไปใกล้เขามากขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้ว "มาร์คคะ" เธอวางมือไว้บนหน้าเขาแล้วบังคับให้เขาหันหน้ามาหาเธอ "คุณควรพักผ่อนมาก ๆ นะ"“ไม่" เขาส่ายหัวแล้วดึงมือเธอออก "ผมต้องตื่นขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ให้เงินเธอไป" เขากะพริบตาถี่ ๆ เป็นเวลาสองสามวินาที ก่อนจะส่ายหัวแล้วส่งสายตาที่ดูแน่วแน่อีกครั้งมีความรู้สึกบางอย่างที่ดูคล้าย ๆ กับความเจ็บปวดและความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเบลล่า "ให้อะไรเหรอ? คุณรู้หรือเปล่าว่าเรากำลังคุยกันเรื่องอะไรกัน? คุณเพิ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เอง"“ผมได้ยินบทสนทนาของคุณลอยเข้ามาในหัวตอนนอนหลับ ก็ซิดนีย์อยากให้คุณจ่ายเงินสี่สิบล้าน ผมได้ยินเต็มสองห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 34

"มาร์ค" เบลล่ากระซิบ เสียงสั่นเครือจนดึงดูดความสนใจของฉันกับมาร์ค "บอกมาเลย!” เธอกรีดร้องจนเส้นเลือดบนคอโป่งพอง และดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา "คุณตกหลุมรักมันแล้วใช่ไหม?!”หลังจากนั้น ก็มีแต่ความเงียบงัน ฉันหันไปหามาร์คที่ยังคงสบตากับเบลล่าอยู่ทันใดนั้น เขาก็โยนแขนฉันออกไป ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างในตัวเขาที่โดนกระตุ้นจากคำถามของเบลล่า“อะไรนะ? เรื่องเหลวไหลอะไรเนี่ย?” ตอนนี้เขาดูเหมือนตื่นนอนเต็มที่แล้วในขณะที่โซซัดโซเซถอยหลังไป "พูดแบบนั้นได้ยังไงกัน?” เขาทำเสียงเย้ยหยัน "ตกหลุมรักเหรอ? อุ๊ฟ! เลิกพูดจากเหลวไหลได้แล้ว" จากนั้นก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงดูถูก "ผมจะรักเธอเข้าไปได้ยังไง?”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมหย่ากับมันล่ะ?!” ดวงตาของเบลล่ายังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา และเสียงยังคงสั่นเครือในขณะกล่าวหาเขา“ไม่จำเป็นต้องมานั่งห่วงเรื่องนี้เลย เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องของคุณเลย"เธอสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ "ไม่ใช่เรื่องของฉันเหรอ?” เธอกระซิบพร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกตัวเอง“ถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องของคุณ" เขาตอบอย่างไม่แยแส จากนั้นเขาก็คว้าแขนเธออย่างแรง แล้วเดินนำเธอไปทางประตูเธอตีมือเขา "มาร์ค คุณทำอะไรน่ะ? ปล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 35

ฉันยิ้มในขณะเก็บรายละเอียดสร้อยข้อมือเส้นนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ฉันร้องครางออกมาในขณะที่ลุกขึ้นยืน เหยียดแขนออกไปพร้อมกับอ้าปากหาวฉันถอนหายใจเมื่อดูเวลา ตอนนี้เลยเวลาทำงานอีกแล้ว แต่ฉันก็รู้สึกสบายใจเมื่อรู้ว่าวันนี้ฉันทำอะไรเสร็จไปตั้งมากมายฉันก้มมองสร้อยคอและสร้อยข้อมือพวกนั้น มันช่างดูงดงามเสียเหลือเกิน จริง ๆ แล้วคำว่างดงามยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ เครื่องประดับพวกนี้ไม่เหมือนสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแบรนด์อเทลิเย่ สตูดิโอส์นั่นแหละ ฉันมักจะทุ่มเทกับการทำงานกับเครื่องประดับทุกชิ้นอย่างดีที่สุด ถึงแม้ว่าคำสั่งซื้อนั้นจะมาจากพวกไม่ได้เรื่องนั่นก็ตาม และนั่นคือสิ่งที่ฉันปลูกฝังให้กับพนักงานในฝ่ายผลิตของเราด้วยวันนี้ฉันไปทำงานแต่เช้า หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ ฉันก็นอนหลับสบายได้อย่างน่าประหลาดใจ ฉันรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างมากในเช้านี้ ฉันคิดว่านั่นคงเป็นเพราะความมุ่งมั่นที่จะยุติชีวิตแต่งงานเสียทีฉันนำสร้อยข้อมือและสร้อยคอพวกนั้นใส่กล่องด้วยตัวเองแล้วโทรหาผู้ช่วยเธอมาเคาะห้องฉันภายในไม่กี่วินาทีเหมือนเคย "เข้ามาสิ"ฉันยื่นกล่องเครื่องประดับพวกนั้นให้เธอ "บอกลูกค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 36

เสียงเคาะประตูรัว ๆ ของเขาทำให้ฉันหลุดออกจากห้วงความคิด“เข้ามาสิ" ฉันพูดอย่างใจเย็นโดยใช้เวลาสักครู่ก่อนจะตอบเขาเขายังคงพรวดพราดเข้ามา โชคดีที่ประตูไม่กระแทกกำแพง "ทำไมคุณถึงเลิกจ้างทีมงานไปครึ่งหนึ่งล่ะ?!” เขาถามอย่างหยิ่งผยองฉันมองดูเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ในช่วงสามปีนั้นริชชี่ที่ผอมแห้งได้หายไปแล้ว ตอนนี้เขามีกล้ามเป็นมัด ๆ พร้อมกับเรือนร่างที่ดูกระชับได้รูป ใบหน้าก็บ่งบอกว่าได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี และเสื้อผ้าราคาแพงพวกนั้นก็ร้องตะโกนบอกถึงการใช้ชีวิตอันหรูหราได้ฉันส่ายหัว ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเรื่องราวทั้งหมดนี้ถึงเกิดขึ้นได้ ความภาคภูมิใจ ความมั่นใจ“เรื่องแรกนะ ริชชี่ คุณก็รู้ดีว่าฉันเป็นประธานบริษัทนี้" ฉันเริ่มพูดโดยพยายามพูดให้ฟังดูมีอำนาจและเย็นชามากที่สุด เพื่อจะช่วยสะกดให้เขาอยู่ในที่ในทางของตัวเอง "ฉันมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจในทุก ๆ เรื่อง แล้วคุณล่ะ?” ฉันชี้ไปที่เขาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น "คุณก็แค่หัวหน้าแผนก" ฉันเน้นคำว่า 'แค่' อย่างชัดเจน "ก็แค่ผู้จัดการ" ฉันย้ำด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยันสีหน้าของเขาแทบจะกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ในขณะที่ส่งเสียงไม่พอใจพร้อมกับกำม
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 37

หลังจากริชชี่ออกไปได้หนึ่งชั่วโมง ฉันก็เก็บข้าวของเพื่อกลับบ้านโทรศัพท์ของฉันส่งเสียงดังขึ้นบนโต๊ะอีกครั้ง "อยู่ไหนเหรอ เพื่อนสาว?”“กำลังไปค่ะคุณผู้หญิง แป๊บเดียวเดี๋ยวถึงจ้า นี่ก็รีบอยู่นะ"ฉันยกคิ้วขึ้นพร้อมกับยิ้ม นับตั้งแต่ที่เธอโทรมาตามให้ฉันกลับวิลล่าที่อยู่ด้วยกันเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอก็โทรมาเตือนอย่างไม่หยุดหย่อน ให้ฉันกลับไปที่นั่นหลังเลิกงานทันที เธอดูตื่นเต้นเหลือเกิน แม้แต่ตอนนี้เสียงก็ยังสั่นเครือด้วยความตื่นเต้น“เธอยังไม่ยอมบอกเหตุผลฉันเลยนะ มีอะไร?”ฉันหนีบโทรศัพท์เอาไว้ระหว่างไหล่กับคอในขณะที่กำลังล็อกกุญแจลิ้นชัก“ไม่บอก" ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าเธอกำลังยิ้มอยู่ฉันพึมพำออกไป "เถอะน่า เกรซ อ้อม ๆ ก็ได้ ฉันอยากรู้จนจะตายอยู่แล้ว" ฉันหยิบกล่องเครื่องประดับจากโต๊ะมาวางไว้ในกระเป๋า จากนั้นก็สะพายกระเป๋าไว้บนไหล่“ถ้าเธอกำลังจะตาย ก็ช่วยมาที่นี่ก่อน"ฉันหัวเราะคิกคักกับคำพูดของเธอ "ก็ได้ เดี๋ยวถึง ๆ" ฉันล็อกประตูใหญ่ แล้วเริ่มเดินไปยังที่ที่จะเรียกแท็กซี่ได้ "เรียกแท็กซี่แล้วเนี่ย""เลิศมาก รออยู่นะ"ฉันเรียกแท็กซี่และบอกจุดหมายปลายทางนับตั้งแต่ที่ฉันไปท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 38

"ฉันว่ามันสวยดีนะ โทนสีดูเข้ากับสีผิวของเธอ เลยทำให้ดูสวยเป็นพิเศษ" แล้วฉันก็ยิ้ม "น่าเสียดายที่ฉันชอบผู้ชายแบบปกติน่ะนะ ไม่งั้นฉันคงเป็นแฟนกับเธอไปนานแล้ว" จากนั้น ฉันก็ถอยหลังไปแบบปุบปับ เอามือปิดปากแล้วหายใจแรง ๆ "โอ้ ไม่นะ!”ดวงตาของเกรซเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย "มีอะไรเหรอ?”“ฉันตกหลุมรักเธอเข้าแล้วน่ะสิ!” ฉันกระซิบเกรซมีสีหน้าที่ดูโล่งอก เธอปัดมือฉันออก "โอ้ ไม่นะ" เธอทำท่าเลียนแบบฉันเมื่อกี้นี้ "ฉันก็ตกหลุมรักเธอแล้วเหมือนกัน"เราทั้งคู่หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานกับการแสดงละครนั้นหลังจากชื่นชมชุดนั้นกันเสร็จแล้ว เกรซก็พูดถึงเรื่องนั้นไม่หยุด“เล่าให้ฉันฟังหน่อย" ฉันนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีสบายใจ ความคิดที่จะกลับบ้านไปหาสามีได้เลือนหายไปหมด "ลูกค้าสั่งให้ตัดชุดนั้นเหรอ?”“ไม่ใช่หรอก" เธอถอดชุดนั้นออกแล้วทำหน้าเบิกบานต่อหน้าฉัน "ตัดชุดให้ตัวเองเถอะจ้ะ"“อ้อ" ฉันขยับคิ้วไปมา "มีผู้ชายคนใหม่แล้วล่ะสิใช่ไหม?”เธอหรี่ตา "ใหม่ไหมคงบอกไม่ได้หรอก แต่ก็ใช่...ฉันมีแฟนแล้วจ้า" ใบหน้าดูเปล่งปลั่งไปด้วยความสุขและความเบิกบานในขณะที่พูด "เขาชื่อโจเอล"“โจเอล" ฉันพูดชื่อนั้นซ้ำพร้อมกับพยักหน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 39

"มันเหมาะกับเธอขนาดนั้นเพราะว่าตอนที่ทำ ฉันนึกถึงเธอย่างเดียวเลย"จากนั้น ฉันก็อธิบายให้เธอฟังว่าจี้สามารถทำเป็นเข็มกลัดได้ ฉันมองดูเธอพยายามที่จะทำตามนั้น แล้วตบมือดีใจในขณะที่ก้มมองเข็มกลัดบริเวณหน้าอก“เธอต้องจ่ายเงินไปเยอะเลยนะสำหรับสิ่งนี้" ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง“ฉันจะทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้เธอยิ้มได้เลยนะ"“ซิดนีย์" เธอกระซิบพร้อมกับน้ำตาคลอ แล้วดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้งฉันตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมกับน้ำตาซึม "จ้า อย่าร้องนะ ๆ เกรซ ฉันดีใจที่เธอชอบนะ ตอนนี้เธอเตรียมตัวไปออกเดตให้ดีเถอะ"เธอหัวเราะคิกคักแล้วถอยหลังไปจ้องมองมาที่ฉัน "อย่ามาหวงฉันเลยนะ เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เธอคงทนเห็นฉันกลายเป็นยายแก่เพียงลำพังไม่ได้หรอกจริงไหม?”ฉันกลอกตา "ได้สิ ฉันทำได้" จากนั้นฉันก็พยายามผลักเธอออกไปอย่างเย้าแหย่ แต่เธอกลับดึงฉันเข้าไปกอดแน่นอีกครั้ง“ตอนเธอหวงแบบนี้น่ารักเป็นบ้าเลย"“ฉันไม่ได้หวงเถอะ!” ฉันคัดค้านเกรซระเบิดหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะนั้นทำให้ฉันต้องหัวเราะตาม แล้วในไม่ช้าเสียงหัวเราะของเราก็เติมเต็มบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายและน่ารื่นรมย์ฉันถอนหายใจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 40

มาร์คกระแอมกระไอเมื่อฉันไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเลย "ซิดนีย์?”“ฉันเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้ม "ขอโทษค่ะที ฉันใจลอยไปหน่อย คุณพูดว่ายังไงนะคะ?”เขาเบนสายตาไปที่โทรศัพท์ที่อยู่ในมือฉัน แล้วจ้องมองอยู่ตรงนั้น ฉันคิดว่าฉันมองเห็นขากรรไกรของเขานูนขึ้นมา แต่เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งและนุ่มนวล "ผมมีของขวัญให้คุณ"“อ๋อ ใช่แล้ว" ฉันพูดติด ๆ ขัด ๆ จากนั้นก็รีบหยิบกล่องที่ยื่นมาจากมือของเขาในขณะที่เขายืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงนั้นเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง ฉันก็คิดที่จะโอนเงินค่าหย่าร้างให้เขาในตอนนี้ เพื่อที่จะได้ย้ายออกไปพร้อมกับข้าวของในคืนนี้เลย ซึ่งจะทำให้ฉันได้ใช้เวลาในช่วงเช้าตรู่กับเกรซ แต่เมื่อฉันก้มมองของขวัญที่เขาซื้อให้ ฉันต้องเลื่อนสายตากลับไปที่เขาเขาไม่เคยซื้อของขวัญให้ฉันมาก่อนเลย บางทีนี่อาจจะเป็นการดึงรั้งไม่ให้ฉันยืนกรานที่จะหย่าร้างก็ได้ ฉันไม่สามารถยกเรื่องการหย่าร้างขึ้นมาพูดตอนนี้ได้“ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดออกไปพร้อมกับดูผลงานของตัวเอง "เป็นสร้อยข้อมือที่สวยดีค่ะ"“ผมได้กำชับเอาไว้อย่างนั้น" เขาพึมพำ น้ำเสียงไม่ได้ฟังดูมีความหวังเหมือนเมื่อครู่นี้เลย เขาล้วงมือเข้าไปในก
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123456
...
25
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status