Share

บทที่ 33

Author: เบลล่า
ฉันหลับตาพร้อมกับบ่นพึมพำ "บ้าชะมัด!” ทำไมเขาต้องตื่นขึ้นมาตอนนี้ด้วย?

ฉันกับเบลล่าต่างจ้องมองเขา สายตาของเบลล่าแสดงถึงความกลัดกลุ้มใจ ในขณะที่สายตาของฉันจ้องมองเขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“อย่าให้เธอนะ" เขาย้ำอีกครั้งในขณะจ้องมองฉัน ตอนนี้เขาดูเมาน้อยลงแล้ว คำพูดของเขาไม่ได้ฟังดูคลุมเครืออีกต่อไป และสายตาก็ดูแน่วแน่ในระดับหนึ่ง

ซุปนั้นต้องมีสรรพคุณดีแน่ ๆ ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนอ้วกก็ตาม ฉันต้องขอสูตรจากเธอแล้วล่ะ

เบลล่าขยับไปใกล้เขามากขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้ว "มาร์คคะ" เธอวางมือไว้บนหน้าเขาแล้วบังคับให้เขาหันหน้ามาหาเธอ "คุณควรพักผ่อนมาก ๆ นะ"

“ไม่" เขาส่ายหัวแล้วดึงมือเธอออก "ผมต้องตื่นขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ให้เงินเธอไป" เขากะพริบตาถี่ ๆ เป็นเวลาสองสามวินาที ก่อนจะส่ายหัวแล้วส่งสายตาที่ดูแน่วแน่อีกครั้ง

มีความรู้สึกบางอย่างที่ดูคล้าย ๆ กับความเจ็บปวดและความสับสนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเบลล่า "ให้อะไรเหรอ? คุณรู้หรือเปล่าว่าเรากำลังคุยกันเรื่องอะไรกัน? คุณเพิ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เอง"

“ผมได้ยินบทสนทนาของคุณลอยเข้ามาในหัวตอนนอนหลับ ก็ซิดนีย์อยากให้คุณจ่ายเงินสี่สิบล้าน ผมได้ยินเต็มสองห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ploy Tiktok
เกลียดอย่างหนึ่งบทนางเอกทำไมต้องถุยน้ำลาย ...... ใส่พระเอก หงุดหงิดตอนอ่าน 55555
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 34

    "มาร์ค" เบลล่ากระซิบ เสียงสั่นเครือจนดึงดูดความสนใจของฉันกับมาร์ค "บอกมาเลย!” เธอกรีดร้องจนเส้นเลือดบนคอโป่งพอง และดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา "คุณตกหลุมรักมันแล้วใช่ไหม?!”หลังจากนั้น ก็มีแต่ความเงียบงัน ฉันหันไปหามาร์คที่ยังคงสบตากับเบลล่าอยู่ทันใดนั้น เขาก็โยนแขนฉันออกไป ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างในตัวเขาที่โดนกระตุ้นจากคำถามของเบลล่า“อะไรนะ? เรื่องเหลวไหลอะไรเนี่ย?” ตอนนี้เขาดูเหมือนตื่นนอนเต็มที่แล้วในขณะที่โซซัดโซเซถอยหลังไป "พูดแบบนั้นได้ยังไงกัน?” เขาทำเสียงเย้ยหยัน "ตกหลุมรักเหรอ? อุ๊ฟ! เลิกพูดจากเหลวไหลได้แล้ว" จากนั้นก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงดูถูก "ผมจะรักเธอเข้าไปได้ยังไง?”“แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมหย่ากับมันล่ะ?!” ดวงตาของเบลล่ายังเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา และเสียงยังคงสั่นเครือในขณะกล่าวหาเขา“ไม่จำเป็นต้องมานั่งห่วงเรื่องนี้เลย เพราะนั่นไม่ใช่เรื่องของคุณเลย"เธอสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ "ไม่ใช่เรื่องของฉันเหรอ?” เธอกระซิบพร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกตัวเอง“ถูกต้อง ไม่ใช่เรื่องของคุณ" เขาตอบอย่างไม่แยแส จากนั้นเขาก็คว้าแขนเธออย่างแรง แล้วเดินนำเธอไปทางประตูเธอตีมือเขา "มาร์ค คุณทำอะไรน่ะ? ปล

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 35

    ฉันยิ้มในขณะเก็บรายละเอียดสร้อยข้อมือเส้นนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ฉันร้องครางออกมาในขณะที่ลุกขึ้นยืน เหยียดแขนออกไปพร้อมกับอ้าปากหาวฉันถอนหายใจเมื่อดูเวลา ตอนนี้เลยเวลาทำงานอีกแล้ว แต่ฉันก็รู้สึกสบายใจเมื่อรู้ว่าวันนี้ฉันทำอะไรเสร็จไปตั้งมากมายฉันก้มมองสร้อยคอและสร้อยข้อมือพวกนั้น มันช่างดูงดงามเสียเหลือเกิน จริง ๆ แล้วคำว่างดงามยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ เครื่องประดับพวกนี้ไม่เหมือนสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแบรนด์อเทลิเย่ สตูดิโอส์นั่นแหละ ฉันมักจะทุ่มเทกับการทำงานกับเครื่องประดับทุกชิ้นอย่างดีที่สุด ถึงแม้ว่าคำสั่งซื้อนั้นจะมาจากพวกไม่ได้เรื่องนั่นก็ตาม และนั่นคือสิ่งที่ฉันปลูกฝังให้กับพนักงานในฝ่ายผลิตของเราด้วยวันนี้ฉันไปทำงานแต่เช้า หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ ฉันก็นอนหลับสบายได้อย่างน่าประหลาดใจ ฉันรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างมากในเช้านี้ ฉันคิดว่านั่นคงเป็นเพราะความมุ่งมั่นที่จะยุติชีวิตแต่งงานเสียทีฉันนำสร้อยข้อมือและสร้อยคอพวกนั้นใส่กล่องด้วยตัวเองแล้วโทรหาผู้ช่วยเธอมาเคาะห้องฉันภายในไม่กี่วินาทีเหมือนเคย "เข้ามาสิ"ฉันยื่นกล่องเครื่องประดับพวกนั้นให้เธอ "บอกลูกค

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 36

    เสียงเคาะประตูรัว ๆ ของเขาทำให้ฉันหลุดออกจากห้วงความคิด“เข้ามาสิ" ฉันพูดอย่างใจเย็นโดยใช้เวลาสักครู่ก่อนจะตอบเขาเขายังคงพรวดพราดเข้ามา โชคดีที่ประตูไม่กระแทกกำแพง "ทำไมคุณถึงเลิกจ้างทีมงานไปครึ่งหนึ่งล่ะ?!” เขาถามอย่างหยิ่งผยองฉันมองดูเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ในช่วงสามปีนั้นริชชี่ที่ผอมแห้งได้หายไปแล้ว ตอนนี้เขามีกล้ามเป็นมัด ๆ พร้อมกับเรือนร่างที่ดูกระชับได้รูป ใบหน้าก็บ่งบอกว่าได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี และเสื้อผ้าราคาแพงพวกนั้นก็ร้องตะโกนบอกถึงการใช้ชีวิตอันหรูหราได้ฉันส่ายหัว ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเรื่องราวทั้งหมดนี้ถึงเกิดขึ้นได้ ความภาคภูมิใจ ความมั่นใจ“เรื่องแรกนะ ริชชี่ คุณก็รู้ดีว่าฉันเป็นประธานบริษัทนี้" ฉันเริ่มพูดโดยพยายามพูดให้ฟังดูมีอำนาจและเย็นชามากที่สุด เพื่อจะช่วยสะกดให้เขาอยู่ในที่ในทางของตัวเอง "ฉันมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจในทุก ๆ เรื่อง แล้วคุณล่ะ?” ฉันชี้ไปที่เขาพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น "คุณก็แค่หัวหน้าแผนก" ฉันเน้นคำว่า 'แค่' อย่างชัดเจน "ก็แค่ผู้จัดการ" ฉันย้ำด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยันสีหน้าของเขาแทบจะกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ ในขณะที่ส่งเสียงไม่พอใจพร้อมกับกำม

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 37

    หลังจากริชชี่ออกไปได้หนึ่งชั่วโมง ฉันก็เก็บข้าวของเพื่อกลับบ้านโทรศัพท์ของฉันส่งเสียงดังขึ้นบนโต๊ะอีกครั้ง "อยู่ไหนเหรอ เพื่อนสาว?”“กำลังไปค่ะคุณผู้หญิง แป๊บเดียวเดี๋ยวถึงจ้า นี่ก็รีบอยู่นะ"ฉันยกคิ้วขึ้นพร้อมกับยิ้ม นับตั้งแต่ที่เธอโทรมาตามให้ฉันกลับวิลล่าที่อยู่ด้วยกันเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอก็โทรมาเตือนอย่างไม่หยุดหย่อน ให้ฉันกลับไปที่นั่นหลังเลิกงานทันที เธอดูตื่นเต้นเหลือเกิน แม้แต่ตอนนี้เสียงก็ยังสั่นเครือด้วยความตื่นเต้น“เธอยังไม่ยอมบอกเหตุผลฉันเลยนะ มีอะไร?”ฉันหนีบโทรศัพท์เอาไว้ระหว่างไหล่กับคอในขณะที่กำลังล็อกกุญแจลิ้นชัก“ไม่บอก" ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าเธอกำลังยิ้มอยู่ฉันพึมพำออกไป "เถอะน่า เกรซ อ้อม ๆ ก็ได้ ฉันอยากรู้จนจะตายอยู่แล้ว" ฉันหยิบกล่องเครื่องประดับจากโต๊ะมาวางไว้ในกระเป๋า จากนั้นก็สะพายกระเป๋าไว้บนไหล่“ถ้าเธอกำลังจะตาย ก็ช่วยมาที่นี่ก่อน"ฉันหัวเราะคิกคักกับคำพูดของเธอ "ก็ได้ เดี๋ยวถึง ๆ" ฉันล็อกประตูใหญ่ แล้วเริ่มเดินไปยังที่ที่จะเรียกแท็กซี่ได้ "เรียกแท็กซี่แล้วเนี่ย""เลิศมาก รออยู่นะ"ฉันเรียกแท็กซี่และบอกจุดหมายปลายทางนับตั้งแต่ที่ฉันไปท

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 38

    "ฉันว่ามันสวยดีนะ โทนสีดูเข้ากับสีผิวของเธอ เลยทำให้ดูสวยเป็นพิเศษ" แล้วฉันก็ยิ้ม "น่าเสียดายที่ฉันชอบผู้ชายแบบปกติน่ะนะ ไม่งั้นฉันคงเป็นแฟนกับเธอไปนานแล้ว" จากนั้น ฉันก็ถอยหลังไปแบบปุบปับ เอามือปิดปากแล้วหายใจแรง ๆ "โอ้ ไม่นะ!”ดวงตาของเกรซเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย "มีอะไรเหรอ?”“ฉันตกหลุมรักเธอเข้าแล้วน่ะสิ!” ฉันกระซิบเกรซมีสีหน้าที่ดูโล่งอก เธอปัดมือฉันออก "โอ้ ไม่นะ" เธอทำท่าเลียนแบบฉันเมื่อกี้นี้ "ฉันก็ตกหลุมรักเธอแล้วเหมือนกัน"เราทั้งคู่หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานกับการแสดงละครนั้นหลังจากชื่นชมชุดนั้นกันเสร็จแล้ว เกรซก็พูดถึงเรื่องนั้นไม่หยุด“เล่าให้ฉันฟังหน่อย" ฉันนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีสบายใจ ความคิดที่จะกลับบ้านไปหาสามีได้เลือนหายไปหมด "ลูกค้าสั่งให้ตัดชุดนั้นเหรอ?”“ไม่ใช่หรอก" เธอถอดชุดนั้นออกแล้วทำหน้าเบิกบานต่อหน้าฉัน "ตัดชุดให้ตัวเองเถอะจ้ะ"“อ้อ" ฉันขยับคิ้วไปมา "มีผู้ชายคนใหม่แล้วล่ะสิใช่ไหม?”เธอหรี่ตา "ใหม่ไหมคงบอกไม่ได้หรอก แต่ก็ใช่...ฉันมีแฟนแล้วจ้า" ใบหน้าดูเปล่งปลั่งไปด้วยความสุขและความเบิกบานในขณะที่พูด "เขาชื่อโจเอล"“โจเอล" ฉันพูดชื่อนั้นซ้ำพร้อมกับพยักหน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 39

    "มันเหมาะกับเธอขนาดนั้นเพราะว่าตอนที่ทำ ฉันนึกถึงเธอย่างเดียวเลย"จากนั้น ฉันก็อธิบายให้เธอฟังว่าจี้สามารถทำเป็นเข็มกลัดได้ ฉันมองดูเธอพยายามที่จะทำตามนั้น แล้วตบมือดีใจในขณะที่ก้มมองเข็มกลัดบริเวณหน้าอก“เธอต้องจ่ายเงินไปเยอะเลยนะสำหรับสิ่งนี้" ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง“ฉันจะทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้เธอยิ้มได้เลยนะ"“ซิดนีย์" เธอกระซิบพร้อมกับน้ำตาคลอ แล้วดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้งฉันตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมกับน้ำตาซึม "จ้า อย่าร้องนะ ๆ เกรซ ฉันดีใจที่เธอชอบนะ ตอนนี้เธอเตรียมตัวไปออกเดตให้ดีเถอะ"เธอหัวเราะคิกคักแล้วถอยหลังไปจ้องมองมาที่ฉัน "อย่ามาหวงฉันเลยนะ เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เธอคงทนเห็นฉันกลายเป็นยายแก่เพียงลำพังไม่ได้หรอกจริงไหม?”ฉันกลอกตา "ได้สิ ฉันทำได้" จากนั้นฉันก็พยายามผลักเธอออกไปอย่างเย้าแหย่ แต่เธอกลับดึงฉันเข้าไปกอดแน่นอีกครั้ง“ตอนเธอหวงแบบนี้น่ารักเป็นบ้าเลย"“ฉันไม่ได้หวงเถอะ!” ฉันคัดค้านเกรซระเบิดหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะนั้นทำให้ฉันต้องหัวเราะตาม แล้วในไม่ช้าเสียงหัวเราะของเราก็เติมเต็มบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายและน่ารื่นรมย์ฉันถอนหายใจ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 40

    มาร์คกระแอมกระไอเมื่อฉันไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเลย "ซิดนีย์?”“ฉันเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้ม "ขอโทษค่ะที ฉันใจลอยไปหน่อย คุณพูดว่ายังไงนะคะ?”เขาเบนสายตาไปที่โทรศัพท์ที่อยู่ในมือฉัน แล้วจ้องมองอยู่ตรงนั้น ฉันคิดว่าฉันมองเห็นขากรรไกรของเขานูนขึ้นมา แต่เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งและนุ่มนวล "ผมมีของขวัญให้คุณ"“อ๋อ ใช่แล้ว" ฉันพูดติด ๆ ขัด ๆ จากนั้นก็รีบหยิบกล่องที่ยื่นมาจากมือของเขาในขณะที่เขายืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงนั้นเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง ฉันก็คิดที่จะโอนเงินค่าหย่าร้างให้เขาในตอนนี้ เพื่อที่จะได้ย้ายออกไปพร้อมกับข้าวของในคืนนี้เลย ซึ่งจะทำให้ฉันได้ใช้เวลาในช่วงเช้าตรู่กับเกรซ แต่เมื่อฉันก้มมองของขวัญที่เขาซื้อให้ ฉันต้องเลื่อนสายตากลับไปที่เขาเขาไม่เคยซื้อของขวัญให้ฉันมาก่อนเลย บางทีนี่อาจจะเป็นการดึงรั้งไม่ให้ฉันยืนกรานที่จะหย่าร้างก็ได้ ฉันไม่สามารถยกเรื่องการหย่าร้างขึ้นมาพูดตอนนี้ได้“ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดออกไปพร้อมกับดูผลงานของตัวเอง "เป็นสร้อยข้อมือที่สวยดีค่ะ"“ผมได้กำชับเอาไว้อย่างนั้น" เขาพึมพำ น้ำเสียงไม่ได้ฟังดูมีความหวังเหมือนเมื่อครู่นี้เลย เขาล้วงมือเข้าไปในก

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 41

    อย่ามองคนแค่เปลือกนอก ฉันพึมพำกับตัวเอง แล้วเร่งเร้าให้เดินต่อไป“คุณแบรนคะ" ฉันทักทาย“คุณนายตอร์เรสครับ" เขายิ้ม เมื่อฉันเดินไปถึงโต๊ะที่เขานั่งอยู่ เขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง ตัวสูงกว่าฉันมากจนต้องยืดแขนมาจับมือทักทายกับฉัน ฉันจับมือทักทายเขา มือจับกันอย่างแนบแน่นเรานั่งลงแล้วพูดคุยเรื่องธุรกิจกันทันที ฉันนึกอยากจะถามว่าสามารถสั่งกาแฟอีกแก้วนอกเหนือจากแก้วที่เขาสั่งมาแล้วได้ไหม แต่ก็ไม่เห็นความจำเป็นเลย เพราะไม่มีการให้บริการใด ๆ ที่นี่เลยขณะพูดคุยกันอยู่นั้น ฉันก็สังเกตเห็นว่าเขามีความกระตือรือร้นไม่แพ้ตอนที่เราคุยกันทางออนไลน์เลย แต่ฉันไม่สามารถสลัดความรู้สึกแปลก ๆ ออกไปได้ เขาจ้องมองฉันในขณะที่ยิ้มและพูดถึงวิธีการที่เราจะร่วมมือกัน รวมทั้งการสร้างสรรค์งานออกแบบใหม่ ๆ ไม่หยุด ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกกระวนกระวายใจมาก และเขาไม่ได้เป็นมืออาชีพอย่างที่ฉันชอบเลย เขาคอยเร่งเร้าให้ฉันดื่มกาแฟ ที่ดูเหมือนจะสั่งมาตั้งแต่ตอนที่ฉันยังมาไม่ถึงใช่แล้ว เขาดูเหมือนผู้ชายที่ฉันเคยคุยด้วย และทุกอย่างที่เขาพูดก็ฟังดูสอดคล้องกับที่เราเคยคุยกันนั่นแหละ แต่ฉันก็อดสงสัยในตัวตนของเขาไม่ได้“ดิฉันขอตัวไปเ

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status