Share

บทที่ 39

Author: เบลล่า
last update Last Updated: 2024-12-03 13:41:41
"มันเหมาะกับเธอขนาดนั้นเพราะว่าตอนที่ทำ ฉันนึกถึงเธอย่างเดียวเลย"

จากนั้น ฉันก็อธิบายให้เธอฟังว่าจี้สามารถทำเป็นเข็มกลัดได้ ฉันมองดูเธอพยายามที่จะทำตามนั้น แล้วตบมือดีใจในขณะที่ก้มมองเข็มกลัดบริเวณหน้าอก

“เธอต้องจ่ายเงินไปเยอะเลยนะสำหรับสิ่งนี้" ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง

“ฉันจะทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้เธอยิ้มได้เลยนะ"

“ซิดนีย์" เธอกระซิบพร้อมกับน้ำตาคลอ แล้วดึงฉันเข้าไปกอดอีกครั้ง

ฉันตบหลังเธอเบา ๆ พร้อมกับน้ำตาซึม "จ้า อย่าร้องนะ ๆ เกรซ ฉันดีใจที่เธอชอบนะ ตอนนี้เธอเตรียมตัวไปออกเดตให้ดีเถอะ"

เธอหัวเราะคิกคักแล้วถอยหลังไปจ้องมองมาที่ฉัน "อย่ามาหวงฉันเลยนะ เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เธอคงทนเห็นฉันกลายเป็นยายแก่เพียงลำพังไม่ได้หรอกจริงไหม?”

ฉันกลอกตา "ได้สิ ฉันทำได้" จากนั้นฉันก็พยายามผลักเธอออกไปอย่างเย้าแหย่ แต่เธอกลับดึงฉันเข้าไปกอดแน่นอีกครั้ง

“ตอนเธอหวงแบบนี้น่ารักเป็นบ้าเลย"

“ฉันไม่ได้หวงเถอะ!” ฉันคัดค้าน

เกรซระเบิดหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะนั้นทำให้ฉันต้องหัวเราะตาม แล้วในไม่ช้าเสียงหัวเราะของเราก็เติมเต็มบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายและน่ารื่นรมย์

ฉันถอนหายใจ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 40

    มาร์คกระแอมกระไอเมื่อฉันไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเลย "ซิดนีย์?”“ฉันเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยิ้ม "ขอโทษค่ะที ฉันใจลอยไปหน่อย คุณพูดว่ายังไงนะคะ?”เขาเบนสายตาไปที่โทรศัพท์ที่อยู่ในมือฉัน แล้วจ้องมองอยู่ตรงนั้น ฉันคิดว่าฉันมองเห็นขากรรไกรของเขานูนขึ้นมา แต่เขาก็พูดขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งและนุ่มนวล "ผมมีของขวัญให้คุณ"“อ๋อ ใช่แล้ว" ฉันพูดติด ๆ ขัด ๆ จากนั้นก็รีบหยิบกล่องที่ยื่นมาจากมือของเขาในขณะที่เขายืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงนั้นเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง ฉันก็คิดที่จะโอนเงินค่าหย่าร้างให้เขาในตอนนี้ เพื่อที่จะได้ย้ายออกไปพร้อมกับข้าวของในคืนนี้เลย ซึ่งจะทำให้ฉันได้ใช้เวลาในช่วงเช้าตรู่กับเกรซ แต่เมื่อฉันก้มมองของขวัญที่เขาซื้อให้ ฉันต้องเลื่อนสายตากลับไปที่เขาเขาไม่เคยซื้อของขวัญให้ฉันมาก่อนเลย บางทีนี่อาจจะเป็นการดึงรั้งไม่ให้ฉันยืนกรานที่จะหย่าร้างก็ได้ ฉันไม่สามารถยกเรื่องการหย่าร้างขึ้นมาพูดตอนนี้ได้“ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดออกไปพร้อมกับดูผลงานของตัวเอง "เป็นสร้อยข้อมือที่สวยดีค่ะ"“ผมได้กำชับเอาไว้อย่างนั้น" เขาพึมพำ น้ำเสียงไม่ได้ฟังดูมีความหวังเหมือนเมื่อครู่นี้เลย เขาล้วงมือเข้าไปในก

    Last Updated : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 41

    อย่ามองคนแค่เปลือกนอก ฉันพึมพำกับตัวเอง แล้วเร่งเร้าให้เดินต่อไป“คุณแบรนคะ" ฉันทักทาย“คุณนายตอร์เรสครับ" เขายิ้ม เมื่อฉันเดินไปถึงโต๊ะที่เขานั่งอยู่ เขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง ตัวสูงกว่าฉันมากจนต้องยืดแขนมาจับมือทักทายกับฉัน ฉันจับมือทักทายเขา มือจับกันอย่างแนบแน่นเรานั่งลงแล้วพูดคุยเรื่องธุรกิจกันทันที ฉันนึกอยากจะถามว่าสามารถสั่งกาแฟอีกแก้วนอกเหนือจากแก้วที่เขาสั่งมาแล้วได้ไหม แต่ก็ไม่เห็นความจำเป็นเลย เพราะไม่มีการให้บริการใด ๆ ที่นี่เลยขณะพูดคุยกันอยู่นั้น ฉันก็สังเกตเห็นว่าเขามีความกระตือรือร้นไม่แพ้ตอนที่เราคุยกันทางออนไลน์เลย แต่ฉันไม่สามารถสลัดความรู้สึกแปลก ๆ ออกไปได้ เขาจ้องมองฉันในขณะที่ยิ้มและพูดถึงวิธีการที่เราจะร่วมมือกัน รวมทั้งการสร้างสรรค์งานออกแบบใหม่ ๆ ไม่หยุด ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกกระวนกระวายใจมาก และเขาไม่ได้เป็นมืออาชีพอย่างที่ฉันชอบเลย เขาคอยเร่งเร้าให้ฉันดื่มกาแฟ ที่ดูเหมือนจะสั่งมาตั้งแต่ตอนที่ฉันยังมาไม่ถึงใช่แล้ว เขาดูเหมือนผู้ชายที่ฉันเคยคุยด้วย และทุกอย่างที่เขาพูดก็ฟังดูสอดคล้องกับที่เราเคยคุยกันนั่นแหละ แต่ฉันก็อดสงสัยในตัวตนของเขาไม่ได้“ดิฉันขอตัวไปเ

    Last Updated : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 42

    ฉันเก็บคำถามไว้กับตัวเอง แล้วรีบกระโดดเข้าไปร่วมวงกับลุยจิทันที แล้วภายในพริบตาเดียวก็เกิดความโกลาหลขึ้นในร้านกาแฟแห่งนั้น ซึ่งมีทั้งโต๊ะและเก้าอี้ปลิวว่อน เมื่อแบรนเห็นว่าสถานการณ์กำลังจะลุกลาม และเรากำลังเอาชนะกลุ่มชายรูปร่างกำยำของเขาได้ เขาก็กระโดดเข้ามาร่วมวงการต่อสู้เขาพุ่งเข้าหาลุยจิทันทีแล้วไล่ต้อนเขาไปทั่วห้อง เมื่อฉันเห็นเขาล้มลงกับพื้น ฉันก็รีบหลบหมัดของชายที่กำลังต่อสู้กับฉัน แล้ววิ่งเข้าไปช่วยเขาแต่ทันทีที่ฉันไปถึงที่นั่น ลุยจิก็เหวี่ยงเขาลงกับพื้น แล้วกดฝ่ามือลงบนหน้าของแบรนอย่างไม่ปรานี เขาเหลียวหน้ามามองหาฉันก่อนจะจ้องมองฉันไม่วางตา“หนีไป" เขาพูด "มีตรอกเล็ก ๆ อยู่ ไปรอที่นั่นก่อน"“แล้วคุณล่ะ?!” ฉันกระซิบกลับไปในขณะที่เบิกตากว้าง“ออกไปก่อน ซิดนีย์!” เขาตะโกนบอกในขณะที่แบรนใช้ประโยชน์จากการที่เขาเสียสมาธิ แล้วใช้ถาดที่เขาคว้ามาจากโต๊ะใดโต๊ะหนึ่งฟาดเข้าที่หน้าเขาฉันตัดสินใจที่จะเชื่อฟังเขา เขาอาจมีแผนการบางอย่าง แต่ถ้าเขาไม่มี อย่างน้อย ฉันก็สามารถแจ้งตำรวจหรือขอความช่วยเหลือได้ ฉันรีบไปยังโต๊ะที่มีกระเป๋าเงินวางอยู่โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วรีบคว้ามันมาเมื

    Last Updated : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 43

    ในขณะที่รออยู่ที่นั่นฉันก็คลำหาโทรศัพท์ กำเครื่องช็อตไฟฟ้าเอาไว้แน่นในขณะกดเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินออกไป“คุณอยู่ที่ไหนครับ คุณผู้หญิง?” พวกเขาถามหลังจากฟังฉันอธิบายถึงสถานการณ์อันลำบากอย่างกระหืดกระหอบ“ฉะ…ฉะ…ฉันไม่รู้" ฉันพยายามพูดให้ฟังปะติดปะต่อกัน "ฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน"“รับทราบครับ คุณผู้หญิง ทำใจเย็น ๆ นะครับ อย่าลืมเปิดตำแหน่งที่ตั้งในโทรศัพท์เอาไว้นะครับ เราจะกดค้นหาคุณเอง"“ขอบคุณค่ะ" ฉันก้มตัวโค้งคำนับโดยเอามือวางไว้บนเข่า "ช่วยรีบหน่อยนะคะ" ฉันกระซิบบอกอย่างกระหืดกระหอบฉันหลับตาและสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ถ้าลุยจิไม่ปรากฏตัว ฉันคงไม่สามารถรับมือกับพวกเขาได้แน่ฉันไม่รู้ว่าแบรนมีเจตนาอะไร อาจมีใครส่งเขามาก็ได้ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะมีปัญหาอะไรกับฉันเลย เขาต้องทำตามคำสั่งของใครบางคนแน่ ๆ แต่ใครกันล่ะ? มาร์คเหรอ?ฉันส่ายหัวแล้วยืดตัวตรง เอนหัวพิงกำแพงเอาไว้ มาร์คไม่ใช่คนขี้ขลาดที่จะส่งผู้ชายมาหาเธอ เขาไม่ได้กลัวเกรงที่จะเผชิญหน้ากับฉันเลย แล้วจะเป็นใครกันนะ?ฉันกระโจนถอยห่างออกจากกำแพง และทำหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ากะโผลกกะเผล

    Last Updated : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 44

    "ถูกต้อง! ลูกผู้ชายตัวจริงมันต้องเดินกะโผลกกะเผลก และมีเลือดไหลออกมาจากแผลที่ท้องเสมอ"เขาหัวเราะร่วนจนไหล่โยก "อย่ามาพูดจาเหน็บแนมผมนะ ซิด"“คุณไปโผล่ที่แบบนั้นได้ยังไง?” ฉันโพล่งออกไปเพราะทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว "คือคุณโผล่ออกมาในเวลาที่เหมาะเหม็ง แล้วช่วยฉันเอาไว้ได้" ฉันหรี่ตามองเขาแล้วทำให้เขายิ้มร่า "คุณสะกดรอยตามฉันเหรอ ลุยจิ?”เขาจ้องมองมาที่เส้นผมของฉัน แล้วจากนั้นก็เลื่อนลงมาที่ชุดกระโปรงที่ฉันใส่อยู่ "ตอนนี้คุณดูแย่มากเลย คุณควรไปหาที่อาบน้ำดีกว่านะ"“ตอบคำถามฉันมาดี ๆ" ฉันขู่เขาแบบเย้าแหย่เขายกคิ้วขึ้น รอยยิ้มซุกซนยังปรากฏอยู่บนริมฝีปากของเขา "ผมช่วยคุณไว้สองครั้งแล้วนะ แล้วคุณยังสงสัยในตัวผมอีกเหรอ?”ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อย ฉันไม่รู้จักเขามากนัก แต่ฉันรู้ว่าเขาจะไม่ทำร้ายฉัน ฉันหวังว่าฉันคงคิดถูกนะ“อะไรกัน คุณคิดว่าผมเป็นพวกเดียวกับคนพวกนั้นเหรอ?”ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้มาช่วยเหลือคุณในแง่ของการให้ความช่วยเหลือหรือเป็นสิ่งของก็ตาม ตราบใดที่ได้รับความช่วยก็จำเป็นตอบแทนสิ่งนั้นกลับไป มันไม่มีความบังเอิญอยู่บนโลกใบนี้หรอก เช่นเดียวกับที่พวกคนที่ชอบเกลียดชังคนอื่นมั

    Last Updated : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 45

    เธอเดินเข้ามาพร้อมกับแสยะยิ้ม "ตอนนี้หล่อนปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม?”“ขอให้เป็นวันที่ดีสำหรับคุณเหมือนกันค่ะ โรส" ฉันกัดฟันเลียนแบบน้ำเสียงเธอพร้อมเอนหลังบนเก้าอี้โรส แม่สามีของฉันเอง จริง ๆ แล้วก็น่าขำอยู่นะที่คนที่ฉันคิดว่าเป็นครอบครัวเดียวกันกลับทำตัวห่างเหินมาก ฉันพูดได้เต็มปากว่าแม่สามีเกลียดฉันเข้าไส้เลย หรือบางที เธออาจเกลียดครอบครัวฉันเข้าไส้เช่นกัน เพียงเพราะสถานะของครอบครัวฉันนั้นดูต่ำกว่าครอบครัวเธอซึ่งอยู่ในวงสังคมชั้นสูง การที่มีคนสถานะต่ำกว่าแต่งงานเข้ามาในครอบครัว หรือเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องต่าง ๆ ถือเป็นการตบหน้าฉาดใหญ่ และนั่นคือสิ่งที่ครอบฉันได้ทำลงไป โดยการแต่งงานเข้ามาในครอบครัวของพวกเขาตามมุมมองของเธอ ฉันหลอกให้ลูกชายเธอหลงรักและเสนอหน้าเข้ามาในครอบครัวนี้เอง ฉันคิดว่าเธอคงไม่รู้หรอกว่าลูกชายตนเองเกลียดฉันมากขนาดไหน และหากรู้ เธอคงรู้สึกดีไม่หยอกเชียวล่ะ“ฉันขอถามหล่อนหน่อยนะ นังตัวดี" เธอร้องคำรามฉันกลอกตาแล้วหันหน้าหนี ฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เธอพูด ลุยจิมองกลับไปกลับมาระหว่างเราสองคน และฉันสงสัยว่าเขารู้จักโรสหรือเปล่า เขารู้อะไรเกี่ยวกับฉันมากไหม?กา

    Last Updated : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 46

    ฉันคืนกุญแจรถให้เขาแล้วกล่าวคำอำลา ในขณะที่เดินออกไปนั้น ฉันได้ไปพบหมอและกำชับให้แน่ใจว่า พวกเขาได้ทำการรักษาเขาอย่างครบถ้วน ก่อนจะปล่อยตัวให้เขากลับบ้านได้ นอกจากนี้ยังกำชับไม่ให้เขาต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลแม้แต่สตางค์แดงเดียวด้วยฉันตัดสินใจมุ่งตรงไปที่วิลล่าก่อน โดยเรียกแท็กซี่แล้วบอกจุดหมายปลายทางให้เขารู้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลว่ามาร์คจะขู่ขึ้นราคาค่าหย่าร้าง เพียงเพราะฉันตัดสินใจที่จะไม่กลับบ้าน เขาคงไม่ได้อยู่แถวนั้นหรอก วันนี้โรสต้องเรียกเขาไปพบอย่างแน่นอน และเขาอาจจะไม่กลับบ้านด้วยซ้ำไปเมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว ฉันก็จ่ายเงินให้กับคนขับแท็กซี่ ฉันเดินได้ช้าลงแล้วต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นรถของเกรซ ที่จอดอยู่แบบส่ง ๆ ฉันยักไหล่แล้วเดินเข้าไปข้างใน เธอคงรีบเข้าไปทำอะไรสักอย่างมีกระเป๋าและรองเท้าส้นสูงวางอยู่ตรงหน้าประตู กระเป๋านั้นเปิดอยู่และมีข้าวของตกลงมาเกลื่อนกลาด ส่วนรองเท้าก็ไม่ได้ตั้งตรง แถมยังไม่ได้วางเรียงกันอย่างที่ควรจะเป็นด้วย รองเท้าข้างหนึ่งวางอยู่ข้างกระเป๋า ส่วนอีกข้างหนึ่งวางอยู่ข้างขาเก้าอี้บุนวมตัวแรกในห้องนั่งเล่น ฉันแน่ใจว่าเป็นของเกรซ รองเท้าส้นสูงคู่นี้เป็นคู่โปร

    Last Updated : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 47

    มุมมองของเกรซนี่เป็นวันเกิดของฉันฉันจะทำในสิ่งที่ฉันชอบฉันจะกินในสิ่งที่ฉันชอบฉันจะจูบกับคนที่ฉันชอบนี่เป็นวันเกิดของฉันในขณะที่จังหวะร้องประสานเสียงของเพลง 'เบิร์ธเดย์' ของแอนน์ มารีดังก้องผ่านลำโพงเครื่องเสียงออกมาอย่างเร้าใจ ฉันพบว่าตัวเองไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป ในขณะที่ฉันหวีผมอยู่นั้น หัวก็โยกไปตามจังหวะเพลง ปากขยับปากร้องตามทุกเนื้อร้อง และดื่มด่ำอยู่กับเสียงเพลงนั้นฉันจะทำให้สิ่งที่ฉันชอบฉันจะสวมใส่ในสิ่งที่ฉันชอบฉันจะไปปาร์ตี้ในคืนนี้บ้าเอ๊ย นี่เป็นวันเกิดฉันทุกคนต่างรักฉันใช่ ใช่ ใช่ ดูฉันสิ ให้เงินฉันหน่อยบ้าเอ๊ย นี่เป็นวันเกิดฉันฉันหยุดร้องเพื่อทาลิปสติกให้ถูกที่ถูกทาง ฉันเม้มริมฝีปากเข้าด้วยกัน แล้วส่งยิ้มหวานให้ตัวเองในกระจก ฉันยืดตัวตรงและชื่นชมตัวเองในกระจก ดวงตาจับจ้องอยู่ตรงคอเสื้อชุดนั้นไม่วางตา สร้อยคอมรกตที่ซิดนีย์ทำให้ฉัน ส่วนโค้งส่วนเว้าบนตัว และรอยผ่าของเดรสตัวนั้น“บ้าเอ๊ย สวยเป็นบ้าเลยคนอะไรเนี่ย" ฉันพูดช้า ๆ ในขณะที่หันไปมองในกระจก หัวใจเปี่ยมไปด้วยความสุข โจเอลจะต้องชอบอย่างแน่นอน!นี่เป็นวันธรรมดา แต่ฉันหยุดใส่ชุดทำงานในวันน

    Last Updated : 2024-12-03

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 112

    ที่อยู่ที่มาร์คส่งมาบอกฉันว่าเขาอยู่ที่บาร์ของลุยจิ สายตาของฉันจับจ้องไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ข้างถนนขณะที่ฉันขับรถเข้าไปจอดยังลานจอดรถฉันเดินเข้าไปในบาร์ ขณะมองไปรอบ ๆ เพื่อหาว่ามาร์คอาจนั่งอยู่ตรงไหน สายตาของฉันก็จับจ้องไปที่ลุยจิ เขามองมาที่ฉันอยู่แล้ว พอเราสบตากัน เขายกนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้นชี้ไปที่ตาของตัวเอง ก่อนจะชี้มาทางฉัน "ผมจับตาดูคุณอยู่นะ" เขาขยับปากพูด ฉันกลอกตาและยกนิ้วหนึ่งแตะที่ดวงตาของตัวเอง "ฉันจะควักลูกตาคุณออกมา" ฉันขยับปากตอบกลับ จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปยังห้องส่วนตัวของมาร์ค เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่ชั้นล่าง เขาน่าจะอยู่ในห้องวีไอพีห้องใดห้องหนึ่งแน่นอน "ซิดนีย์..." ดวงตามาร์คจับจ้องมาที่ฉันทันที น้ำเสียงอ้อแอ้ "คุณมาแล้ว มาสิ มานั่งตรงนี้" เขาตบที่นั่งข้างตัวเขา ฉันหยุดที่ประตูและมองไปที่ขวดเปล่าบนโต๊ะ ได้แต่ส่ายหัวให้กับสภาพของเขา เขากำลังดื่มวิสกี้อีกแก้ว เขาดื่มไปเท่าไหร่แล้วนะ? แต่ถึงอย่างไรการมานับขวดวิสกี้ของเขาก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันปิดประตู แล้วก้าวเข้าไปในห้อง "แล้วเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ที่สัญญาไว้อยู่ไหนล่ะ?" เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วเอื้อมไปหยิบกระ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 111

    ฉันบอกจุดหมายของฉันกับคนขับรถแท็กซี่ และเราก็เริ่มออกเดินทาง คนขับแท็กซี่จอดรถที่จุดหมายปลายทางของฉัน หลังจากที่ฉันโอนเงินให้เขา ก็มองดูเขาขับรถจากไป ขณะที่ฉันยืนอยู่ตรงนั้น สายตาของฉันจับจ้องไปยังอาคารสำนักงานสุดหรูขนาดใหญ่ ตรงข้ามกับมันคือร้านกาแฟที่ฉันเคยจับได้ว่า ซิดนีย์แอบฟังบทสนทนาระหว่างฉันกับไอแซค เพราะเธอบอกว่าเธอทำงานที่นี่ งั้นก็ขอพิสูจน์หน่อยแล้วกันฉันเดินเข้าไปใกล้ตัวอาคารด้วยความประทับใจทึ่ง ยิ่งดูใกล้ ๆ อาคารนี้ก็ยิ่งเห็นว่ามันงดงามอย่างมาก ผนังที่เป็นกระจกของชั้นบนสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ มันสะท้อนภาพท้องฟ้าและอาคารรอบข้างด้วย ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดว่าภายในจะสวยงามขนาดไหน เก้าอี้ในสำนักงานจะนั่งสบายเพียงใด... ฉันส่ายหัวและดึงตัวเองกลับมาสู่เหตุผลหลักที่ฉันมาที่นี่ ฉันไม่มีเวลามายืนชื่นชมสถานที่นี้ ซึ่งอาจทำให้มีใครบางคนเห็นเข้า พอมันเป็นของฉันเมื่อไหร่ ฉันค่อยทำแบบนั้นก็ได้ คิดได้ดังนั้น ฉันก็กวาดตามองพื้นที่โดยรอบ และเห็นร้านอาหารอยู่ห่างออกไปจากตัวอาคารเพียงไม่กี่ก้าว พวกเขามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านนอกใต้คันร่ม ฉันรีบไปที่นั่นและเลือกที่นั่งที่ค่อนข้างลับตา ฉ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 110

    มุมมองของเบลล่า "ขอบใจ" ฉันยังคงนอนอยู่บนเตียง หันหลังให้พวกเขา และพูดออกมาอย่างเย็นชาโดยไม่มีท่าทีรู้สึกขอบคุณแม้แต่น้อย "พวกคุณออกไปได้แล้วรึยัง?" "บ..." "แม่!" ฉันพลิกตัวอย่างรวดเร็วด้วยความโมโห ดวงตาจ้องมองพวกเขาอย่างดุดัน "พ่อกับแม่ช่วยออกไปทีได้ไหม? หนูแค่อยากอยู่คนเดียว ขอร้องล่ะ!" หน้าอกของฉันขยับขึ้นลงอย่างแรงด้วยความโกรธในขณะที่มองพวกเขาสบตากัน ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินออกจากห้องไป ฉันเหลือบมองของที่พวกเขานำมาให้ฉัน จากนั้นจึงดันจานอาหารออกไปและคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา ฉันเลื่อนดูข่าว บล็อกโพสต์ และความคิดเห็นต่าง ๆ อย่างบ้าคลั่ง เป็นอย่างที่พวกเขาบอก มันแพร่กระจายไปทั่วแล้ว ทุกสำนักข่าว ทุกช่องและทุกบล็อกข่าวบันเทิงล้วนล้อเลียนฉันที่ถูกมาร์คทิ้ง 'สาวนักขุดทองแกล้งตั้งครรภ์เพื่อจับมหาเศรษฐีอย่างมาร์ค ตอร์เรส' 'หญิงสาวที่พยายามบีบตัวเองเข้าตระกูลตอร์เรสด้วยการตั้งครรภ์แท้งแล้ว จากนั้นยังถูกทายาทตระกูลตอร์เรสทอดทิ้งอีกด้วย' 'แผนล่ม เบลล่า ไมเคิล ทำบัตรผ่านสู่กระเป๋าสตางค์ตระกูลตอร์เรสหายเสียแล้ว' ฉันกัดฟันแน่น มือที่จับโทรศัพท์รัดแน่นขึ้น น้ำตาอุ่น ๆ ไหลรินลงม

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 109

    "จริง ๆ แล้วพวกเรา..." ฉันเอนตัวลงกับเก้าอี้แล้วขัดจังหวะเขา "ถามอะไรหน่อยสิ ลูกสาวเป็นแค่เครื่องมือให้คุณใช้เท่านั้นเหรอ? พวกเราเป็นแค่นั้นสำหรับคุณใช่ไหม? เบลล่าก็เป็นแบบนั้นมาตลอดหรือเปล่า?" ฉันหยุดพูด และภาพของมาร์คที่อุ้มร่างเบลล่าที่โชกไปด้วยเลือดก็แวบเข้ามาในหัว "ฉันอยากรู้จริง ๆ คุณได้ไปเยี่ยมเบลล่าที่โรงพยาบาลหรือยัง? หรือว่ายังไม่รู้ข่าว?" "คือ..." เสียงของพ่อขาดหายไป ฉันเองก็รู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองที่ยังมองพวกเขาเป็นพ่อแม่อยู่ "ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย!" เขาพูดจบ "ฉันแนะนำให้คุณหยุดตั้งแต่ตอนที่คุณยังทำได้ เก็บเงินไว้สำหรับตัวเองกับแม่เถอะก่อนที่มันจะสายเกินไป แล้วคุณต้องมาลงเอยด้วยการไม่มีแม้แต่ที่จะซุกหัวนอนจริง ๆ และได้โปรดเถอะนะ! อย่าโทรหาฉันอีก!" ฉันบอกเขาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด จากนั้นก็วางสายและบล็อกเบอร์นี้ทันที ฉันได้แต่สงสัยว่าเขาจะเอาเบอร์ไหนโทรมาอีก ฉันเลื่อนโทรศัพท์ไปบนโต๊ะ พลันหงุดหงิดเมื่อความทรงจำเรื่องที่ทั้งคู่ไม่เคยสนใจจะตามหาฉันหลังจากที่ฉันถูกลักพาตัวไปเมื่อหลายปีก่อนผุดขึ้น ถ้าฉันไม่ได้หาพวกเขาหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยข้อมูลที่ลูคัสให้มา ฉันมั่นใจ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 108

    มุมมองของซิดนีย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองพาดหัวข่าวที่เพิ่งเด้งขึ้นมาบนแถบแจ้งเตือน หัวข้อข่าวที่สะดุดตาเขียนว่า - "หญิงเจ้าเล่ห์แท้งลูก ทำตั๋วเข้าสู่ความมั่งคั่งหลุดลอยไป" ภาพมาร์คอุ้มเบลล่าที่โชกไปด้วยเลือดเข้าสู่รถพยาบาลถูกแนบมากับโพสต์ข่าว แม้ว่าจะมีโมเสคบาง ๆ เบลอใบหน้าพวกเขาเอาไว้ แต่คนที่คุ้นเคยกับวงสังคมชั้นสูงย่อมจำพวกเขาได้ในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อเบลล่าเพิ่งอวดภาพการตั้งครรภ์ของเธอไปทั่วโซเชียลมีเดีย “พวกเขาทะเลาะกันหรือเปล่านะ?” ฉันนึกสงสัยด้วยความอยากรู้ แต่ความสงสัยนั้นก็ไม่ได้มากพอจะทำให้ฉันเสียสมาธิจากงานมาเปิดข่าวอ่านฉันถอนหายใจแล้วปัดหน้าจอไปยังรูปตัวอย่างของเครื่องประดับที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งแต่แรก ฉันเปรียบเทียบกับแบบร่างที่ฉันร่างไว้แล้วส่ายหัวเบา ๆ ฉันพอใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ ฉันมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว และสิ่งที่ฉันวาดไว้นั้นก็ดูสวยงามกว่าด้วยซ้ำไป ลูกค้าได้ขอให้สตูดิโอของเราปรับแต่งรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อย และสิ่งที่ฉันทำอยู่ตรงนี้ก็นับว่ายอดเยี่ยม ฉันมั่นใจว่าลูกค้าจะต้องถูกใจแน่ ฉันวางโทรศัพท์ลงและเริ่มเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 107

    ความโกรธพลุ่งพล่านในตัวผม ทั้งแทนซิดนีย์และตัวผมเอง ผมมองเธอด้วยสายตาดูแคลน "ไม่จำเป็นต้องโยนความผิดให้ซิดนีย์เหมือนที่คุณทำมาตลอด ไม่ต้องกลบเกลื่อนคำโกหกของคุณด้วยการทำให้เธอดูแย่ด้วย เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย ผมไม่ได้ติดต่อกับเธอมานานแล้ว ตั้งแต่หย่ากันด้วยซ้ำ เพราะงั้นอย่าเอาเธอเข้ามาเกี่ยว" "เชื่อฉันสิ ตั้งแต่ซิด…" ผมหลับตาและกัดฟันแน่น พยายามควบคุมความโกรธ แต่เธอกำลังทำให้มันยากขึ้น "หยุดพูดได้แล้ว เบลล่า ผมไม่อยากฟังคำโกหกที่คุณแต่งขึ้นมาอีกแล้ว ผมได้ยินมามากพอแล้ว" "มาร์ค…" "คุณควรพักผ่อน" ผมตัดบทเธออีกครั้ง "ผมจะไปแล้ว ผมจะติดต่อไมเคิลกับคลาริสสาให้มาดูแลคุณ" เลือดเหมือนจะหายไปจากใบหน้าของเบลล่า ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก ก่อนที่เธอจะกรีดร้อง เสียงและร่างกายของเธอสั่นสะท้าน "คุณจะเลิกกับฉันใช่ไหม?!" ผมเลิกคิ้วขึ้น "เราเคยเป็นอะไรกันด้วยเหรอ? เราไม่เคยตกลงอะไรกันอย่างเป็นทางการ คุณกลับมาจากทริปแล้วก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนผมโดยไม่มีคำพูดอะไร แล้วคุณก็เอาการตั้งครรภ์ที่ไม่ใช่ลูกของผมมามัดผมมือชกอีก ผมอยู่กับคุณเพราะคุณทำให้ผมต้องอยู่…" "คุณพูดแบบ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 106

    "เธอฟื้นหรือยังครับ? ผมเข้าไปหาเธอได้ไหม?" ในที่สุดผมก็สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ หมอส่ายหน้า "เธอยังไม่ได้สติจากฤทธิ์ยาสลบ ตอนนี้เธอกำลังจะถูกย้ายไปยังห้องพักฟื้นแล้ว รออีกสักหน่อย เธอก็น่าจะฟื้นแล้ว" "ขอบคุณครับ" หมอพยักหน้าแล้วเดินจากไป ผมนั่งอยู่ที่แผนกต้อนรับ พยายามใจเย็นขณะที่รอให้เบลล่าฟื้นขึ้นมา จนกระทั่งพยาบาลเดินเข้ามาหาผม "คุณมาร์ค ผู้หญิงที่คุณพามาได้ถูกย้ายไปยังห้องพักคนไข้แล้วค่ะ และเธอก็ฟื้นแล้วด้วย ถ้าคุณพร้อมเข้าไปหาเธอ ฉันจะพาคุณไปที่ห้องของเธอนะคะ" ผมลุกขึ้นและพยักหน้า "พาผมไปได้เลยครับ" เธอเดินนำไปและผมเดินตามเธอ เราผ่านห้องหลายห้องก่อนที่เธอจะหยุดที่หน้าประตู เธอเปิดประตู "นี่ค่ะห้องพักฟื้นของเธอ" ผมเดินเข้าไปในห้อง และพยาบาลก็เดินออกไป ศีรษะของเบลล่าหันไปอีกด้าน เธอสวมชุดของโรงพยาบาลและมีหมวกคลุมผมอยู่ ผมจินตนาการว่าเธออาจกำลังร้องไห้อย่างเงียบ ๆ ขณะที่หันหน้าหนีไปอีกทาง"เบลล่า" ผมเรียกชื่อเธอเบา ๆ และเธอก็หันมาทันที ใบหน้าของเธอซีดเซียว ดวงตาแดงก่ำ ผมเดาว่าเธอคงจะร้องไห้หรือไม่ก็ปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างเงียบ ๆ เพราะทันทีที่สายตาของเธอจับจ้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 105

    มุมมองของมาร์คผมวิ่งตามพยาบาลที่กำลังเข็นเปลหามเธอเข้าไปในโรงพยาบาล ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย ในตอนที่ผมตะโกนขอความช่วยเหลือหลังจากเบลล่าเริ่มมีเลือดออก แต่ทันทีที่ผมลงมาชั้นล่าง รถพยาบาลก็มาถึง ทันทีที่ผมขึ้นรถพยาบาล ผมจับมือเธอไว้ ผมเรียกชื่อเธอหลายครั้ง หวังว่าเธอจะลืมตาขึ้น แต่เธอก็ยังคงหลับตาอยู่ หมอพรวดพราดออกมาจากมุมหนึ่ง โดยมีหูฟังแพทย์ห้อยอยู่บนคออย่างไม่เรียบร้อย ขณะที่เราทั้งสองรีบเดินตามพยาบาลที่กำลังเข็นเปลหาม ผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เขาฟัง "ผมคิดว่าเขาต้องทำร้ายเธอแน่ เพราะเธออยู่ดี ๆ ก็เริ่มมีเลือดออก" หมอพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องที่พวกเขาเข็นเธอเข้าไป เธอถูกย้ายขึ้นเตียงโรงพยาบาลแล้ว ผมไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้อง จึงยืนอยู่ข้างนอกและมองผ่านกระจกฝ้าบนประตู หมอส่ายหน้าในขณะที่ตรวจเธอ จากนั้นเขาพูดบางอย่างกับพยาบาลที่อยู่ด้วย พวกเธอพยักหน้าและรีบออกจากห้องไป "ขอโทษนะคะ" พวกเขาพูดพร้อมกันเบา ๆ ผมจึงหลบให้พวกเขาผ่านไป จากนั้นหมอก็ออกมาด้วยเช่นกัน เขาบอกกับผมทันทีว่า "อาการของเธอวิกฤตมาก ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน เราจะย้ายเธอไปยัง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 104

    ผมขึ้นรถและขับด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มุ่งตรงไปยังอะพาร์ตเมนต์ของเธอ ตั้งแต่วันที่เธอปฏิเสธที่จะมางานฉลองวันเกิด เธอก็ไม่ได้กลับมาที่บ้านของผมอีกเลย ดังนั้นมันคงสมเหตุสมผลถ้าเธอจะอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ของตัวเอง หรือบางทีเธออาจไปหาที่ร้องไห้บนไหล่ของคนรัก ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ผมจะได้รู้เมื่อไปถึงอะพาร์ตเมนต์ของเธอ ผมไม่สนใจที่จะขับรถเข้าทางจอดรถอย่างถูกต้อง แค่หยุดรถทันที ดับเครื่องยนต์ และพุ่งขึ้นบันไดไปยังอะพาร์ตเมนต์ของเธอ ทันทีที่ผมไปถึงหน้าประตู ผมก็ไม่ลังเลที่จะทุบกำปั้นลงบนประตู "เบลล่า!" ผมตะโกนออกไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวดที่อัดแน่น ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน แต่ผมไม่ยอมแพ้ ผมยังคงทุบกำปั้นลงบนประตู ผมยกกำปั้นขึ้นเพื่อเคาะอีกครั้งเป็นครั้งที่สี่ เมื่อเสียงบทสนทนาดังแว่วเข้าหู ผมชะงักไปและปล่อยมือค้างอยู่ในอากาศ จากนั้นเสียงเหล่านั้นก็ดังขึ้นและชัดเจนมากขึ้น จนกระทั่งเสียงของเบลล่าดังทะลุประตูออกมา "ฉันไม่มีเงินให้คุณอีกแล้ว ไอ้ผีพนันเอ๊ย! ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!" น้ำเสียงของเธอดูหงุดหงิด และจากระดับความดังของเสียงก็พอจะบอกได้ว่าเธอกำลังโกรธจัดเสีย

DMCA.com Protection Status