แชร์

บทที่ 47

ผู้เขียน: เบลล่า
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 13:41:41
มุมมองของเกรซ

นี่เป็นวันเกิดของฉัน

ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะกินในสิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะจูบกับคนที่ฉันชอบ

นี่เป็นวันเกิดของฉัน

ในขณะที่จังหวะร้องประสานเสียงของเพลง 'เบิร์ธเดย์' ของแอนน์ มารีดังก้องผ่านลำโพงเครื่องเสียงออกมาอย่างเร้าใจ ฉันพบว่าตัวเองไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป ในขณะที่ฉันหวีผมอยู่นั้น หัวก็โยกไปตามจังหวะเพลง ปากขยับปากร้องตามทุกเนื้อร้อง และดื่มด่ำอยู่กับเสียงเพลงนั้น

ฉันจะทำให้สิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะสวมใส่ในสิ่งที่ฉันชอบ

ฉันจะไปปาร์ตี้ในคืนนี้

บ้าเอ๊ย นี่เป็นวันเกิดฉัน

ทุกคนต่างรักฉัน

ใช่ ใช่ ใช่ ดูฉันสิ ให้เงินฉันหน่อย

บ้าเอ๊ย นี่เป็นวันเกิดฉัน

ฉันหยุดร้องเพื่อทาลิปสติกให้ถูกที่ถูกทาง ฉันเม้มริมฝีปากเข้าด้วยกัน แล้วส่งยิ้มหวานให้ตัวเองในกระจก ฉันยืดตัวตรงและชื่นชมตัวเองในกระจก ดวงตาจับจ้องอยู่ตรงคอเสื้อชุดนั้นไม่วางตา สร้อยคอมรกตที่ซิดนีย์ทำให้ฉัน ส่วนโค้งส่วนเว้าบนตัว และรอยผ่าของเดรสตัวนั้น

“บ้าเอ๊ย สวยเป็นบ้าเลยคนอะไรเนี่ย" ฉันพูดช้า ๆ ในขณะที่หันไปมองในกระจก หัวใจเปี่ยมไปด้วยความสุข โจเอลจะต้องชอบอย่างแน่นอน!

นี่เป็นวันธรรมดา แต่ฉันหยุดใส่ชุดทำงานในวันน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 48

    หัวใจที่หนักอึ้งเพราะถูกนอกใจ ฉันจึงเผลอหลุดปากออกไป "ตอนนี้คุณยังจะกล้าว่าฉันอีกเหรอ?” ฉันเอนศีรษะไปทางด้านหลัง เพื่อพยายามไม่ให้น้ำตาร่วงหล่นลงมาอย่างเปล่าประโยชน์ เสียงหัวเราะอันขมขื่นหลุดลอดออกไปจากริมฝีปากแม้ในยามที่ฉันสะอื้นไห้ "อยากมาเซอร์ไพรส์ แต่กลับจับได้ว่าคุณกำลังนอกใจฉันอยู่!”โจเอลหัวเราะเยาะ แล้วเสียงนั้นก็ทิ่มแทงเข้าไปในหัวที่กำลังแตกสลายอยู่ "นอกใจเหรอ?” เขาทำเสียงเยาะเย้ย "เรายังไม่เคยตกลงเรื่องความสัมพันธ์กันเลยนะ ไม่มีป้ายกำกับ ไม่มีพันธะผูกพัน เราไม่ใช่แฟนกัน แล้วคุณมากล่าวหาว่าผมนอกใจคุณได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยคบกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เลย?"ฉันเอามือทาบหน้าอกแล้วออดอ้อนเขา "แล้วฉันเป็นอะไรกับคุณเหรอ โจเอล? ถ้าไม่ใช่แฟนแล้วฉันเป็นอะไร?”หัวใจขสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อโจเอล ผู้ชายที่ฉันเชื่อว่าฉันรักเขา และหวังว่าเขาคงจะรักฉันอย่างหัวปักหัวปำเช่นกัน พูดใส่หน้าฉันว่า "เราแค่เป็นเพื่อนคู่นอนเท่านั้น เกรซ" เขาประกาศอย่างเย็นชา "เราแค่เป็นเพื่อนที่เอากันได้ คุณเกาหลังให้ผม ผมเกาหลังให้คุณ แค่นั้นก็พอแล้ว"ฉันมีความรู้สึกเหมือนจะเป็นลม แล้วก้าวถอยหลังโดยสัญชาตญาณ "เพื่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 49

    มุมมองของซิดนีย์ฉันประคองเกรซเดินไปที่รถ จากนั้นก็กลับไปข้างในเพื่อคว้าโทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่ท่ามกลางข้าวของที่หลุดร่วงออกมาจากกระเป๋า โดยไม่ต้องค้นหาอะไรเลย บนหน้าจอโทรศัพท์นั้นมีรูปของเธอกับผู้ชายหน้าคุ้น ๆฉันเหน็บโทรศัพท์ไว้ตรงกระเป๋าหลัง หารองเท้าแตะได้คู่หนึ่ง แล้วเดินกลับไปหาเธอที่รถ ในขณะที่ฉันขับรถไปยังโรงพยาบาลนั้น เธอไม่ได้พูดอะไรเลย เธอเอียงคอมองออกไปนอกหน้าต่าง แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเศร้าสร้อยฉันไม่รู้ว่าจะพูดหรือปลอบเธออย่างไรดี บางทีเธออาจจะอยากอยู่เงียบ ๆ ก็ได้ ฉันได้แต่บีบมือเธอเป็นครั้งคราว แล้วนิ้วของเธอก็ค่อย ๆ กำมือชั้นอย่างช้า ๆ เธอยังอยู่ตรงนั้น เกรซผู้คล่องแคล่วของฉันยังอยู่ตรงนั้นเมื่อขับรถไปถึงโรงพยาบาล ก็มีพยาบาลออกมาพบฉันตรงครึ่งทาง แล้วเราทั้งคู่ก็ช่วยประคองเกรซไปยังห้องคนไข้ พวกเขาลงมือรักษาเธอทันทีหลังจากฉันจ่ายค่ารักษาเรียบร้อยแล้วฉันจับมือเกรซไว้ในขณะที่หมอเช็ดเลือดที่แห้งกรังอยู่บนใบหน้าเธอ จากนั้นก็เริ่มทำการรักษา เธอกำมือฉันแน่น และสะดุ้งหนีในขณะที่หมอกำลังทำหน้าที่อยู่ในขณะที่หมอกำลังสาละวนกับการดูแลเธออยู่นั้น ฉันก็ดึงโทรศัพท์ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 50

    เขาดูตกใจเมื่อเห็นท่าทีเดือดดาลของฉัน "ซิดนีย์" เขาเรียกซ้ำ และเสียงที่เขาเรียกชื่อฉันซ้ำ ๆ นั้นเริ่มทำให้ฉันหงุดหงิดอย่างมาก“โจเอลอยู่ที่ไหน?”ดูเหมือนริมฝีปากจะสั่นพักหนึ่งก่อนจะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้ "คุณมาที่นี่ทำไม?” จากนั้น เขาก็ขมวดคิ้วแล้วส่งสายตาที่ดูอ่อนโยนลงในขณะเดินเข้ามาหาฉัน เขาชี้ไปที่ประตูที่อยู่ด้านหลังฉัน "ซิดนีย์ คุณอยู่หลังประตูนั่นมานานแค่ไหนแล้ว?” เขากวาดตามองฉันพร้อมกับถาม "คุณได้ยินอะไรหรือเปล่าเมื่อกี้นี้?” เขาเริ่มก้าวเดินมาหาฉันหลังจากถามคำถามสุดท้ายฉันยกฝ่ามือห้ามเขาเอาไว้ เขาหยุดก้าวเดินทันที เมื่อสายตาเราสบกัน ฉันเห็นความกังวลสับสนหมุนวนอยู่ในดวงตาของเขา“ซิดนี...” เขาเริ่มพูด แต่ฉันไม่อาจทนได้ยินชื่อฉันจากริมฝีปากของเขาได้อีกครั้ง“คุณหยุดเรียกชื่อฉันซะทีได้ไหม? แล้วแค่บอกมาว่าโจเอลอยู่ที่ไหน?” ฉันระเบิดคำพูดออกมาอย่างร้อนแรง ซึ่งเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ความโกรธเกรี้ยว และความเจ็บปวด“คุณตามหาโจเอลทำไม? มีอะไรหรือเปล่า?” สายตาของเขาดูอ่อนโยน และน้ำเสียงก็ฟังดูสงบนิ่ง แต่นั่นช่างรบกวนประสาทของฉันเหลือเกินโอ้พระเจ้า ฉันอยากจะทึ้งผมตัวเองแล้วกรีดร้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 51

    ฉันรีบเดินผ่านชายรูปร่างกำยำสองคนที่มีสีหน้าบูดบึ้งอยู่ตลอดเวลา และดูเหมือนกำลังยืนอยู่ตรงทางเข้าและทางขึ้นบันไดสั้น ๆ แล้วนั่นไง ไอ้ผู้ชายเฮงซวยฉันรู้สึกว่ามีคนมาแตะไหล่ฉัน แล้วหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น "ส่วนตรงนี้คุณไม่ได้รับอณุาญาตให้เข้าไป" เขาพูดเรียบ ๆ แต่ถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิม หลังจากมองขึ้นไปบริเวณเหนือศีรษะของฉันฉันกลับไปหาโจเอลที่กำลังโอบแขนอยู่รอบ...ฉันหรี่ตามองผู้หญิงที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ข้าง ๆ เขา ฉันรู้จักเธอ แซนดร้า เธอเป็นเพื่อนของเบลล่า เบลล่ามักจะขลุกอยู่กับเธอเสมอ เธอมาทำอะไรกับโจเอลเนี่ย? ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อพบเธอนะฉันหยุดกึกเมื่อมองเห็นคอของเธอ แต่ฉันมาเพื่อสร้อยคอที่เธอใส่อยู่นั่นแหละ มันเป็นสร้อยเส้นเดียวกับที่ฉันทำให้เกรซ ดังนั้น เป็นนังบ้าชอบแย่งผู้ชายชาวยังไม่พอใจ แต่ยังเป็นหัวขโมยด้วย ฉันจะไปจัดการกับเธอทีหลัง แต่ขั้นแรกฉันจะต้องไปให้บทเรียนกับผู้ชายเฮงซวยอย่างโจเอลก่อนฉันเบนสายตาไปที่ผู้ชายคนที่ฉันมาตามหาเขาที่นี่ ฉันรู้สึกว่ามือสั่นเทาและกำแน่นด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ข้างในมากขึ้น เมื่อเห็นเขาก้มลงไปจูบปากแซนดร้า จากนั้นเขาก็หันม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 52

    ในขณะที่มาร์คยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าฉัน แซนดร้าก็เงียบเสียงลงทันที และผู้ชายพวกนั้นก็ถอยกลับไปอย่างรวดเร็วอย่างให้ความเคารพก่อนจะพูดอะไรออกมา เขาก็ส่งสัญญาณให้บาร์เทนเดอร์เข้ามา เด็กชายรูปร่างผอมสูงที่ดูเหมือนจะมาเข้าเวรแทนคนอื่น ได้วิ่งเข้ามาหามาร์คอย่างไม่ลังเลพร้อมดวงตาเบิกกว้าง“สวัสดีครับ ท่าน" เขาโค้งคำนับทักทายโดยวางมือไว้ข้างตัวอย่างมั่นคง เขาใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่มองมาทางฉัน ฉันไม่ตำหนิเขาหรอก เขาแค่มองดูฉันฟาดขวดเบียร์ใส่หัวผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น“ไม่เรียกเจ้านายมา แล้วให้ทุกคน ยกเว้นพวกเรา ออกจากบาร์นี้ไป ฉันจะเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมดให้เองเขาพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น "ครับท่าน! ทันทีเลยครับ!” จากนั้น เขาก็หมุนตัวแล้ววิ่งออกไป ฉันคิดหาเหตุผลว่าทำไมมาร์คถึงทำแบบนั้น แล้วฉันก็สรุปได้ว่าเหตุผลนั่นคืออะไร พวกเราทั้งหมดมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงในสังคมชั้นสูง แต่ฉันไม่สนใจหรอก ไม่มีทางที่อะไรก็ตามที่รั่วไหลออกมาจากเรื่องวุ่นวายนี้ จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียหายได้ เนื่องจากไม่มีใครรู้เลยว่าฉันเป็นเจ้าของร่วมในอเทลิเย่ สตูดิโอส์ นอกจากพนักงานในบริษัทนั้น ดังนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 53

    "ก็เป็นนังแพศยาอยู่นิ!" ฉันสวนกลับไปแล้วท้าทายเขากับมาร์คให้ทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ“อย่าได้บังอาจมาเรียกแฟนฉันว่านังแพศยาอีก แซนดร้าเป็นแฟนฉัน เพื่อนเธอเหมาะคำ ๆ นั้นมากกว่า"ฉันหันกลับไปจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อหู ฉันไม่เชื่อว่าเกรซจะหลงรักผู้ชายแบบนี้ได้ "ไอ้ชั่วเอ้ย! ผู้หญฺงไรสมองของแกอ่ะเป็นนังแพศยาย่ะ คิดว่าแกทุบตีเพื่อนฉันขนาดนั้น แล้วฉันจะนั่งดูเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?”“ไม่มีใครทำร้ายเธอนะ" เขาพูดขึ้น "อีกอย่าง ตอนนั้นเธอไม่ได้อยู่ที่นั่น แล้วเห็นว่าเพื่อนเธอทำอะไรกับแฟนฉันบ้าง”ฉันจ้องมองแซนดร้าตั้งแต่หัวจดเท้า ฉันมองหารอยฉีกขาดบนชุดเดรสอันสวยไร้ที่ติแต่ก็หาไม่เจอ เส้นผมของเธอดูเรียบตรงราวกับเพิ่งเดินออกมาจากร้านทำผม แล้วก็ไม่มีรอยฟกช้ำใด ๆ บนใบหน้าเลยก่อนที่ฉันจะจัดให้ไปเมื่อกี้นี้“ไม่เห็นมีรอยช้ำ รอยข่วนบนหน้าเลย แล้วก็ไม่ได้ถูกหามไปนอนโรงพยาบาลด้วย แล้วเพื่อนฉันทำอะไรให้มัน ถึงต้องทำแบบนั้นกับเกรซด้วย? เพื่อนฉันยังคงนอนเป็นผักอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลอยู่เลย ต้องกินยาคลายเครียดจะได้นอนหลับลงแล้วลืมเรื่องร้าย ๆ ทั้งหมดไปได้!” จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกโกรธมากขึ้น "เป็นผู้ชายอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 54

    ดูเหมือนโจเอลจะทำตัวลีบในขณะหันไปหามาร์ค แล้วคิ้วขมวดด้วยความสับสน "เพื่อน เราเป็นเพื่อนซี้กันไม่ใช่เหรอ? ฉันนึกว่านายจะเข้าข้างฉันซะอีก" เขาพูดด้วยความไม่เชื่อ“เราเป็นเพื่อนซี้กัน และฉันก็คอยอยู๋ข้างเสมอ" มาร์คตอบอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ยักไหล่แล้วเอามือล้วงกระเป๋า "แต่นี่ก็ภรรยาของฉันเหมือนกัน แล้วเชื่อฉันเถอะ ฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น"“แล้วนายจะยืนเฉย ๆ อยู่ตรงนั้น แล้วปล่อยให้เมียนายรังแกเราแบบนั้นเหรอ?” โจเอลพึมพำ แววตายังเต็มไปด้วยความผิดหวัง“ฉันปล่อยให้ซิดนีย์รังแกนายแบบนั้น อย่างนั้นเหรอ?” มาร์คตอบโต้อย่างใจเย็น เขาเลิกคิ้วขึ้น ทำให้โจเอลพูดไม่ออกในขณะมองเขาอ้าปากค้าง มาร์คยักไหล่ "อะไร? ฉันเป็นบอดี้การ์ดของนายหรือไง?”คำพูดของโจเอลหลั่งไหลออกมาด้วยความหงุดหงิดพลางขึ้นเสียงออกมา "ฉันยั้งมือเอาไว้เพราะเห็นแกนายนะเว้ย!”"พอซะทีเถอะ" ฉันเผชิญหน้ากับเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม "อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย ทำกับฉันให้เหมือนกับทำกับเกรซไปเลย ปล่อยให้นังแพศยานั่นวิ่งเอาเล็บเข้ามาข่วนหน้าฉันอย่างที่มันเป็นนั่นแหละ"ขากรรไกรของโจเอลดูนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สายตาเบนไปที่ใครบางคนข้างหลัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 55

    "ผมจะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณฟังเมื่อเราถึงบ้านแล้ว หยุดก่อเรื่องวุ่นวายแล้วไปกันเถอะ" มาร์คพูดอย่างหงุดหงิด ฉันบอกได้เลยว่าเขากำลังพยายามสงบสติอารมณ์เหมือนในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ถึงยังไงก็ตามเสียงของเขาก็ดังกว่าฉันนิดนึง“บ้านเหรอ? นั่นมันบ้านของคุณ โอเคไหม? นั่นมันบ้านของคุณ ไม่ใช่บ้านของฉัน" ฉันชี้นิ้วไปที่ประตู "ฉันจะไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น และไม่อยากได้ยินคำอธิบายที่คุณแต่งขึ้นมาด้วย!”“ซิดนีย์" เขาขมวดคิ้ว“คุณกับโจเอลต่างกันยังไงเหรอ?” ฉันหัวเราะเยาะพวกเขา "พวกคุณทั้งคู่ต่างเป็นคนเห็นแก่ตัว จอมหลอกลวง ตลบตะแลง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่เป็นเพื่อนกันได้!”สีหน้าของมาร์คยิ่งดูมืดมนลงไปอีก "ผมบอกคุณแล้วไง ซิดนีย์ ว่าผมไม่ได้นอนกับเบลล่า ผมไม่ได้ทรยศต่อชีวิตคู่เรา!”“เห็นไหม? คุณยังเป็นคนโกหกอีกต่างหาก" ฉันกล่าวหาเขา เขาเอามือเสยผมด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่เอามืออีกข้างท้าวสะโพกอยู่ เขาเริ่มพูดจาติด ๆ ขัด ๆ เสียงของเขาขลุกขลักอยู่ในลำคอ ราวกับกำลังพยายามหาคำพูดที่เหมาะสม "ผมไม่ได้นอนกับ...”เขาหยุดชะงัก จากนั้นก็มองมาที่ฉันแล้วส่ายหัว เขาพยายามอีกครั้งหนึ่ง "ผมไม่ได้นอนกับ...” เขาพูดแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03

บทล่าสุด

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 108

    มุมมองของซิดนีย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองพาดหัวข่าวที่เพิ่งเด้งขึ้นมาบนแถบแจ้งเตือน หัวข้อข่าวที่สะดุดตาเขียนว่า - "หญิงเจ้าเล่ห์แท้งลูก ทำตั๋วเข้าสู่ความมั่งคั่งหลุดลอยไป" ภาพมาร์คอุ้มเบลล่าที่โชกไปด้วยเลือดเข้าสู่รถพยาบาลถูกแนบมากับโพสต์ข่าว แม้ว่าจะมีโมเสคบาง ๆ เบลอใบหน้าพวกเขาเอาไว้ แต่คนที่คุ้นเคยกับวงสังคมชั้นสูงย่อมจำพวกเขาได้ในทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อเบลล่าเพิ่งอวดภาพการตั้งครรภ์ของเธอไปทั่วโซเชียลมีเดีย “พวกเขาทะเลาะกันหรือเปล่านะ?” ฉันนึกสงสัยด้วยความอยากรู้ แต่ความสงสัยนั้นก็ไม่ได้มากพอจะทำให้ฉันเสียสมาธิจากงานมาเปิดข่าวอ่านฉันถอนหายใจแล้วปัดหน้าจอไปยังรูปตัวอย่างของเครื่องประดับที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งแต่แรก ฉันเปรียบเทียบกับแบบร่างที่ฉันร่างไว้แล้วส่ายหัวเบา ๆ ฉันพอใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ ฉันมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว และสิ่งที่ฉันวาดไว้นั้นก็ดูสวยงามกว่าด้วยซ้ำไป ลูกค้าได้ขอให้สตูดิโอของเราปรับแต่งรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อย และสิ่งที่ฉันทำอยู่ตรงนี้ก็นับว่ายอดเยี่ยม ฉันมั่นใจว่าลูกค้าจะต้องถูกใจแน่ ฉันวางโทรศัพท์ลงและเริ่มเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 107

    ความโกรธพลุ่งพล่านในตัวผม ทั้งแทนซิดนีย์และตัวผมเอง ผมมองเธอด้วยสายตาดูแคลน "ไม่จำเป็นต้องโยนความผิดให้ซิดนีย์เหมือนที่คุณทำมาตลอด ไม่ต้องกลบเกลื่อนคำโกหกของคุณด้วยการทำให้เธอดูแย่ด้วย เพราะมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย ผมไม่ได้ติดต่อกับเธอมานานแล้ว ตั้งแต่หย่ากันด้วยซ้ำ เพราะงั้นอย่าเอาเธอเข้ามาเกี่ยว" "เชื่อฉันสิ ตั้งแต่ซิด…" ผมหลับตาและกัดฟันแน่น พยายามควบคุมความโกรธ แต่เธอกำลังทำให้มันยากขึ้น "หยุดพูดได้แล้ว เบลล่า ผมไม่อยากฟังคำโกหกที่คุณแต่งขึ้นมาอีกแล้ว ผมได้ยินมามากพอแล้ว" "มาร์ค…" "คุณควรพักผ่อน" ผมตัดบทเธออีกครั้ง "ผมจะไปแล้ว ผมจะติดต่อไมเคิลกับคลาริสสาให้มาดูแลคุณ" เลือดเหมือนจะหายไปจากใบหน้าของเบลล่า ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก ก่อนที่เธอจะกรีดร้อง เสียงและร่างกายของเธอสั่นสะท้าน "คุณจะเลิกกับฉันใช่ไหม?!" ผมเลิกคิ้วขึ้น "เราเคยเป็นอะไรกันด้วยเหรอ? เราไม่เคยตกลงอะไรกันอย่างเป็นทางการ คุณกลับมาจากทริปแล้วก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนผมโดยไม่มีคำพูดอะไร แล้วคุณก็เอาการตั้งครรภ์ที่ไม่ใช่ลูกของผมมามัดผมมือชกอีก ผมอยู่กับคุณเพราะคุณทำให้ผมต้องอยู่…" "คุณพูดแบบ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 106

    "เธอฟื้นหรือยังครับ? ผมเข้าไปหาเธอได้ไหม?" ในที่สุดผมก็สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ หมอส่ายหน้า "เธอยังไม่ได้สติจากฤทธิ์ยาสลบ ตอนนี้เธอกำลังจะถูกย้ายไปยังห้องพักฟื้นแล้ว รออีกสักหน่อย เธอก็น่าจะฟื้นแล้ว" "ขอบคุณครับ" หมอพยักหน้าแล้วเดินจากไป ผมนั่งอยู่ที่แผนกต้อนรับ พยายามใจเย็นขณะที่รอให้เบลล่าฟื้นขึ้นมา จนกระทั่งพยาบาลเดินเข้ามาหาผม "คุณมาร์ค ผู้หญิงที่คุณพามาได้ถูกย้ายไปยังห้องพักคนไข้แล้วค่ะ และเธอก็ฟื้นแล้วด้วย ถ้าคุณพร้อมเข้าไปหาเธอ ฉันจะพาคุณไปที่ห้องของเธอนะคะ" ผมลุกขึ้นและพยักหน้า "พาผมไปได้เลยครับ" เธอเดินนำไปและผมเดินตามเธอ เราผ่านห้องหลายห้องก่อนที่เธอจะหยุดที่หน้าประตู เธอเปิดประตู "นี่ค่ะห้องพักฟื้นของเธอ" ผมเดินเข้าไปในห้อง และพยาบาลก็เดินออกไป ศีรษะของเบลล่าหันไปอีกด้าน เธอสวมชุดของโรงพยาบาลและมีหมวกคลุมผมอยู่ ผมจินตนาการว่าเธออาจกำลังร้องไห้อย่างเงียบ ๆ ขณะที่หันหน้าหนีไปอีกทาง"เบลล่า" ผมเรียกชื่อเธอเบา ๆ และเธอก็หันมาทันที ใบหน้าของเธอซีดเซียว ดวงตาแดงก่ำ ผมเดาว่าเธอคงจะร้องไห้หรือไม่ก็ปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างเงียบ ๆ เพราะทันทีที่สายตาของเธอจับจ้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 105

    มุมมองของมาร์คผมวิ่งตามพยาบาลที่กำลังเข็นเปลหามเธอเข้าไปในโรงพยาบาล ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย ในตอนที่ผมตะโกนขอความช่วยเหลือหลังจากเบลล่าเริ่มมีเลือดออก แต่ทันทีที่ผมลงมาชั้นล่าง รถพยาบาลก็มาถึง ทันทีที่ผมขึ้นรถพยาบาล ผมจับมือเธอไว้ ผมเรียกชื่อเธอหลายครั้ง หวังว่าเธอจะลืมตาขึ้น แต่เธอก็ยังคงหลับตาอยู่ หมอพรวดพราดออกมาจากมุมหนึ่ง โดยมีหูฟังแพทย์ห้อยอยู่บนคออย่างไม่เรียบร้อย ขณะที่เราทั้งสองรีบเดินตามพยาบาลที่กำลังเข็นเปลหาม ผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เขาฟัง "ผมคิดว่าเขาต้องทำร้ายเธอแน่ เพราะเธออยู่ดี ๆ ก็เริ่มมีเลือดออก" หมอพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องที่พวกเขาเข็นเธอเข้าไป เธอถูกย้ายขึ้นเตียงโรงพยาบาลแล้ว ผมไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้อง จึงยืนอยู่ข้างนอกและมองผ่านกระจกฝ้าบนประตู หมอส่ายหน้าในขณะที่ตรวจเธอ จากนั้นเขาพูดบางอย่างกับพยาบาลที่อยู่ด้วย พวกเธอพยักหน้าและรีบออกจากห้องไป "ขอโทษนะคะ" พวกเขาพูดพร้อมกันเบา ๆ ผมจึงหลบให้พวกเขาผ่านไป จากนั้นหมอก็ออกมาด้วยเช่นกัน เขาบอกกับผมทันทีว่า "อาการของเธอวิกฤตมาก ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน เราจะย้ายเธอไปยัง

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 104

    ผมขึ้นรถและขับด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด มุ่งตรงไปยังอะพาร์ตเมนต์ของเธอ ตั้งแต่วันที่เธอปฏิเสธที่จะมางานฉลองวันเกิด เธอก็ไม่ได้กลับมาที่บ้านของผมอีกเลย ดังนั้นมันคงสมเหตุสมผลถ้าเธอจะอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ของตัวเอง หรือบางทีเธออาจไปหาที่ร้องไห้บนไหล่ของคนรัก ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ผมจะได้รู้เมื่อไปถึงอะพาร์ตเมนต์ของเธอ ผมไม่สนใจที่จะขับรถเข้าทางจอดรถอย่างถูกต้อง แค่หยุดรถทันที ดับเครื่องยนต์ และพุ่งขึ้นบันไดไปยังอะพาร์ตเมนต์ของเธอ ทันทีที่ผมไปถึงหน้าประตู ผมก็ไม่ลังเลที่จะทุบกำปั้นลงบนประตู "เบลล่า!" ผมตะโกนออกไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวดที่อัดแน่น ไม่มีเสียงตอบรับจากข้างใน แต่ผมไม่ยอมแพ้ ผมยังคงทุบกำปั้นลงบนประตู ผมยกกำปั้นขึ้นเพื่อเคาะอีกครั้งเป็นครั้งที่สี่ เมื่อเสียงบทสนทนาดังแว่วเข้าหู ผมชะงักไปและปล่อยมือค้างอยู่ในอากาศ จากนั้นเสียงเหล่านั้นก็ดังขึ้นและชัดเจนมากขึ้น จนกระทั่งเสียงของเบลล่าดังทะลุประตูออกมา "ฉันไม่มีเงินให้คุณอีกแล้ว ไอ้ผีพนันเอ๊ย! ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!" น้ำเสียงของเธอดูหงุดหงิด และจากระดับความดังของเสียงก็พอจะบอกได้ว่าเธอกำลังโกรธจัดเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 103

    มุมมองของมาร์ค"นี่คือรายงานของคุณเบลล่าที่ขอให้ตามสืบครับ" ผมได้ยินผู้ช่วยส่วนตัวพูด ผมพึมพำตอบกลับไป จากนั้นอีกสองสามวินาทีต่อมา ผมก็เงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสารที่มีรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับนักลงทุนรายล่าสุดของจีที กรุ๊ป เพียงเพื่อจะเห็นแค่แผ่นหลังของผู้ช่วยส่วนตัวที่รีบเดินออกจากห้องไป ผมหยุดและนึกสงสัยว่าเขาจะรีบไปไหน พลันเบี่ยงสายตากลับมายังรายงานซึ่งผมมอบหมายให้เขาไปจัดการที่เขาเพิ่งนำมาวางไว้ให้ แม้ผมจะอยากอ่านรายละเอียดทุกอย่างในรายงานด้วยตัวเอง แต่ผมก็ยุ่งเกินไป จึงตั้งใจจะให้เขาสรุปเนื้อหาให้ฟัง เพราะเขาเป็นคนรวบรวมข้อมูลทั้งหมดหลังจ้างนักสืบเอกชนให้ดำเนินการ แต่ตอนนี้เขากลับออกไปเสียแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กำลังจะโทรตามเขา แต่ผมกลับหยุดมือไว้ก่อน สายตาเลื่อนไปที่รายงานที่วางอยู่บนโต๊ะ ทับกับกองเอกสารมากมายที่ผมยังต้องอ่านมันการอ่านรายงานคงใช้เวลาไม่เกินสามสิบนาที ดังนั้นแทนที่จะเรียกให้ผู้ช่วยทิ้งงานของตัวเองแล้วมาสรุปรายงานให้ผมฟัง ทั้งที่ผมแค่อ่านผ่าน ๆ เอาเองก็ได้ ผมจึงวางโทรศัพท์ลงและหยิบรายงานนั่นขึ้นมาแทน ผมเปิดดูคร่าว ๆ ทันที ก่อนจะต้องเลิกคิ้วขึ้น มัน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 102

    ลูคัสถอนหายใจ ก่อนจะตอบว่า "เพราะพวกเขาไม่ยอมให้ผมกลับมาไง" "พวกเขา?" คิ้วฉันขมวดเข้าหากันขณะมองเขาอย่างงุนงง "ใครไม่ยอมให้คุณกลับมาเหรอ?" ขนตาของเขากวาดลง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มขมขื่น "คนในครอบครัวของผมน่ะ" คิ้วฉันขมวดลึกขึ้นขณะที่พยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เขาพูด ฉันส่ายหน้า "ฉันงงไปหมดแล้ว ช่วยอธิบายให้ชัดหน่อยได้ไหม?" "แบบว่า…ที่คุณเพิ่งรู้ว่าผมกับมาร์คเกี่ยวข้องกัน เพราะจริง ๆ แล้วผมเป็นลูกนอกสมรส ตอนแรกครอบครัวไม่ยอมรับผม ผมเป็นความลับอันโสมมที่ไม่เคยถูกพูดถึงหรือเอ่ยถึง ถูกซุกซ่อนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล พ่อของผมคือสามีผู้ล่วงลับของดอริส ซึ่งเป็นสายสัมพันธ์เดียวที่เชื่อมผมเข้ากับครอบครัวนี้ ตอนที่พ่อกำลังจะเสีย สิ่งที่เขาปรารถนาเพียงอย่างเดียวคือให้ครอบครัวดูแลผมอย่างดี พวกเขาจึงรับผมกลับมาอย่างเสียไม่ได้" ฉันขมวดคิ้ว "งั้นก็หมายความว่ามันไม่ใช่ว่าพ่อของคุณไม่มีเวลาให้คุณ แต่เขา…" ฉันหยุด แล้วกระซิบออกมา "ป่วย" เขาพยักหน้าช้า ๆ อย่างสงบ ฉันอยากถามเขาว่า ‘แล้วแม่ของเขาล่ะ?’ แต่บางอย่างหยุดฉันไว้ ถ้าเขาอยากพูดถึงแม่ เขาคงจะพูดเอง ถ้าเขาไม่อยากพูด ฉันก็ไม่มี

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 101

    ฉันพยักหน้าช้า ๆ แต่ก็ยังสงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋า "คุณรู้ได้ยังไงว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋า?" เขาพยักหน้าไปทางกระเป๋า "ซิปมันเปิดอยู่ครึ่งหนึ่งน่ะสิ" ฉันก้มลงมองแล้วสบถออกมา "บ้าเอ๊ย!" ฉันรีบวางมันบนตักและตรวจดูว่ามีอะไรหล่นออกไปหรือเปล่า ซิปคงเปิดตอนที่โจรเหวี่ยงกระเป๋าไปมา หรือไม่ก็ตอนที่ลุยจิแย่งมันมา ฉันรู้สึกถึงสายตาของลูคัสที่จับจ้องมา ขณะที่ฉันหยิบแบบร่างออกมาตรวจดู ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่ามันยังอยู่อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ดี เมื่อฉันเงยหน้าขึ้น รู้สึกอึดอัดและต้องการอธิบาย "ฉันกลัวว่าแบบร่างบางแผ่น(ชิ้น)หล่นหายไปน่ะ" ฉันฝืนยิ้ม "แล้วมีอะไรหายไปไหม?" เขาเลิกคิ้วที่ได้รูปอย่างสมบูรณ์แบบขึ้น "ไม่ค่ะ ทุกอย่างยังอยู่ครบ" ฉันตอบและเริ่มเก็บแบบร่างกลับเข้ากระเป๋า "ขอผมดูหน่อยได้ไหม?" คำขอเบา ๆ ของเขาทำให้ฉันชะงัก ฉันยิ้ม หัวใจรู้สึกอบอุ่นที่เขาสนใจจะดูแบบร่างของฉัน "นี่ค่ะ" ฉันยื่นให้เขา "เชิญคุณดูได้เลย" เขารับกระดาษจากฉันและถือมันไว้อย่างระมัดระวังราวกับมันเป็นอัญมณีล้ำค่า ฉันมองเขาด้วยใจเต้นระทึก ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องที่แบบร่า

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 100

    เขาจับมือฉันแกว่งไปมาในขณะเดินชมสวนอย่างเงียบ ๆ โดยเราก็ต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองในขณะดื่มด่ำกับความเงียบสงบของค่ำคืนมีแสงสว่างสาดส่องอยู่ข้างหน้า และดูเหมือนจะมีผู้คนอยู่มากมาย ฉันหรี่ตามอง "นั่นรถขายของสักอย่างใช่ไหม?” ฉันพึมพำในขณะเหลือบมองลูคัสแวบนึง ซึ่งกำลังมองไปข้างหน้าเช่นกัน“ผมก็คิดว่าอย่างนั้นนะ" ลูคัสตอบพร้อมกับยักไหล่ขึ้นเล็กน้อยเมื่อเราเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นภาพก็ชัดเจนขึ้น แล้วฉันก็หยุดยั้งตัวเองเอาไว้ไม่ได้เลย เมื่อตระโกนออกไปว่า "ไอศกรีม!” ฉันชี้ไปที่รถไอศกรีมแล้วหันไปหาลูคัสซึ่งกำลังยืนยิ้มอยู่“ไปกันเถอะ" ฉันดึงมือออกจากเขา "ไปกินไอศกรีมกัน"ฉันรีบวิ่งไปยังรถไอศกรีมที่เปิดเพลงอยู่โดยไม่ได้รอคำตอบจากเขา ตอนที่ฉันร้องตะโกนออกไปนั้น มีเด็ก ๆ บางคนหันมามอง ดังนั้นเมื่อฉันรีบวิ่งไปที่นั่น พวกเขาก็ยังคงจ้องมองอยู่ฉันไม่สนใจสายตาที่จ้องมองมาที่ฉันเลยสักนิดเดียว ตอนนี้ฉันมีความรู้สึกเหมือนอยู่ในวัยเดียวกับพวกเขาเลย ฉันนึกถึงตอนที่ฉันกับลูคัสเคยเดินเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ แล้วแวะไปที่ร้านไอศกรีม หรือรถไอศกรีมเหมือนรถคันนี้ แล้วซื้อไอศกรีมกินกันคนละสองถ้วย“คุณอยาก

DMCA.com Protection Status