All Chapters of หย่า…มารักฉันเลย: Chapter 161 - Chapter 170

438 Chapters

บทที่ 161

ผู้ชายไร้ค่าแบบมาร์ค คงไม่มีวันเติมเต็มความต้องการอันเร่าร้อนของฉันได้หรอก ฉันรู้ดีเพราะว่าเคยผ่านผู้ชายมาตั้งกี่คน แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำให้ฉันถึงใจได้สักทีทว่าผู้ชายที่ต้องแต่งงานด้วยกลับต้องมานั่งรถเข็น? ฉันต้องกลายเป็นคนดูแลเขาเหมือนพี่เลี้ยงเด็กงั้นเหรอ? ตลกสิ้นดี ฉันจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด แค่คิดว่าต้องผูกติดกับเขาไปตลอดชีวิตฉันก็แทบจะสำรอกออกมา ถ้าฉันแข็งใจปฏิเสธตั้งแต่แรก เรื่องน่ารังเกียจนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นยิ่งคิดถึงสายตาเยาะเย้ยและเสียงซุบซิบนินทาจากเพื่อนๆ ในแวดวงไฮโซเมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า “แซนดรา เฮนเดอร์สัน คุณหนูผู้เพียบพร้อม” ต้องมาลงเอยกับสามีพิการไร้น้ำยา คงกลายเป็นเรื่องตลกให้คนพวกนั้นหัวเราะเยาะไปอีกนานมันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้! ฉันต้องทำให้พ่อเข้าใจให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ฉันต้องทำให้พ่อเห็นถึงความไร้ค่าของมาร์คที่โรงพยาบาล พยาบาลช่วยกันพยุงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงของเขามานั่งบนเตียง ก่อนจะยกตัวเขาขึ้นราวกับตุ๊กตาวางลงบนรถเข็นที่จอดรออยู่ ฉันแทบจะอาเจียนออกมาเมื่อเห็นภาพน่าสมเพชนั้นดูเอาเถอะ"เรียบร้อยแล้วค่ะ" พยาบาลสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มจืด
Read more

บทที่ 162

มุมมองของซิดนีย์ฉันมองตามร่างของแซนดร้าที่กำลังเดินจากไปด้วยแววตาขบขัน ผู้หญิงคนนี้ช่างมีพรสวรรค์ในการปรากฏตัวและจากไปอย่างน่าตื่นเต้น แม้ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ทันทีที่แซนดร้าลับสายตา ฉันก็หันกลับมามองมาร์คที่กำลังหมุนรถเข็นเพื่อรูดซิปกางเกงของเขาอย่างน้อยอาการความจำเสื่อมก็ไม่ได้พรากความรู้สึกตัวตนของเขาไป ฉันคิดเช่นนั้น ใครจะไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไม่กี่วินาทีก่อนที่ฉันจะมาถึงประตู ฉันได้ยินคล้ายเธอโอดครวญว่าเขาไม่ค่อยมีความต้องการทางเพศหรืออะไรสักอย่างมาร์คหันกลับมามองหน้าฉัน คิ้วของเขาเลิกขึ้นราวกับว่าเขากำลังท้าทายให้ฉันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขาอย่างเงียบ ๆ พลันรู้สึกถึงความร้อนที่คืบคลานขึ้นมาที่คอของฉัน ทั้งหมดเป็นเพราะฉันกำลังกลั้นหัวเราะ แม้จะความจำเสื่อม มาร์คก็ยังคงทำตัวแข็งกร้าว เปี่ยมด้วยมั่นใจในตัวเองแบบไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดฉันกอดอกเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่ใส่ใจเท่าที่จะทำได้ และจ้องมองสำรวจรูปร่างหน้าตาของเขาตั้งแต่ผมจรดปลายเท้า"รู้ไหม คนส่วนใหญ่คงอับอายขายหน้าถ้ากางเกงหลุดต่อหน้าคนอื่นนะ" ฉันกล่าวประชดประชัน"แต่ก็นั่นแหละ คุณไม่เค
Read more

บทที่ 163

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ช่างเป็นช่วงเวลาอันแสนสุข ฉันรู้สึกราวกับได้ชีวิตของตัวเองกลับคืนมาอีกครั้ง ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ใจปรารถนาเสียที หลังจากที่ได้ช่วยเหลือมาร์คเท่าที่ฉันจะทำได้ และมั่นใจแล้วว่าเขาปลอดภัยดี ตำแหน่งประธานบริษัทก็ยังพอจะกอบกู้ไว้ได้ ฉันก็สามารถหันมาโฟกัสกับงานและตัวเองได้อย่างเต็มที่หัวใจของฉันพองโตด้วยความอบอุ่น ท้องไส้ปั่นป่วนด้วยความสุขทุกครั้งที่นึกถึงเดทแสนหวานกับลูคัสที่เรามีโอกาสได้เจอกันบ่อยขึ้น ราวกับว่าเราทั้งสองต่างตกลงกันโดยปริยายว่าจะใช้เวลาอันน้อยนิดที่มีร่วมกันให้คุ้มค่าที่สุดในยามที่เราไม่ได้ทำงาน และทุ่มเทให้กับความสัมพันธ์ของเรามากขึ้นฉันรู้จักลูคัสมานานแสนนาน ตั้งแต่ก่อนที่เราจะแยกจากกัน ฉันรู้ดีว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนโยน และจะเติบโตเป็นผู้ชายที่แสนดี แต่ลูคัสในวันนี้กลับทำให้ฉันประหลาดใจ เขาเผยให้เห็นมุมมองที่อ่อนโยน ซึ่งฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน มุมที่ฉันเคยเชื่อว่ามีแต่ในนิยายรักหวานซึ้งเท่านั้น แม้ว่าบางครั้งจะมีข่าวคราวและความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีของเบลล่าจากทนายความที่ทำให้ฉันกังวลใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะไม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ
Read more

บทที่ 164

ในท้ายที่สุด เบลล่าถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อรับการบำบัดรักษาอย่างเหมาะสม แทนที่จะต้องโทษจำคุก แม้กระทั่งก่อนที่ผู้พิพากษาจะเอ่ยปาก ฉันก็ล่วงรู้คำตัดสินของเขาอยู่แล้วฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด บางทีอาจเป็นสิ่งที่ฉันแอบหวังไว้โดยไม่รู้ตัวแม้ว่าเบลล่ากับฉันจะกลายเป็นคนอื่นต่อกันเพราะมาร์ค แต่ฉันรู้สึกว่าฉันได้ลงโทษเธอในแบบของฉันเองแล้วน่าเศร้าที่ความสัมพันธ์ของเบลล่ากับไอแซคนั้นยาวนาน และเธอก็ยังเป็นน้องสาวของฉัน ไอแซคทำให้เธอเป็นคนที่บอบช้ำ และเธอจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาอย่างจริงจังดังนั้นการส่งเธอไปโรงพยาบาลโรคจิตจึงเปรียบเสมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหนึ่งคือฉันสามารถตัดเธอออกไปจากชีวิตได้ระยะหนึ่ง และถือเป็นการลงโทษเธอโดยการพรากอิสรภาพ ข้อสองเธอจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และมีโอกาสที่จะเยียวยาตัวเองจนกลายเป็นคนที่ดีขึ้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันเดินออกจากห้องครัว โยกตัวไปตามจังหวะเสียงเรียกเข้าขณะที่เดินไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อหยิบโทรศัพท์ฉันยิ้มเมื่อเห็นชื่อผู้โทร "ไงคะ เพื่อนสาว ฉันโทรมาถามว่าเธ…"ฉันขัดจังหวะเธอด้วยรอยยิ้ม "นี่มัน
Read more

บทที่ 165

ตอนนั้นเองที่ฉันสังเกตเห็นชุดคนไข้สีเขียวที่เธอสวมอยู่ แต่ฉันยังคงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "แล้วเธอเข้ามาในบ้านฉันได้ยังไง?"เธอยิ้มเยาะอีกครั้ง "นี่แหละ คือเหตุผลที่ทำไมแกถึงควรมีคนหูตาไวอยู่รอบตัว ป้าแก่ๆ เพื่อนบ้านแกตามันฝ้าฟาง จำคนผิดคิดว่าฉันเป็นคนที่อยู่กับแก ฉันก็เลยบอกไปว่าลืมกุญแจ แล้วแกก็ไม่รับโทรศัพท์ นางแก่นั่นก็เลยให้ปีนกำแพงบ้านมันเข้ามาไงล่ะ"โอ้ ฉันจดไว้ในใจว่าต้องไปคุยกับคุณยายคนนั้นให้รู้เรื่องเสียแล้ว "แต่เธอเข้ามาในบ้านได้ยังไง?" ฉันถามต่อ"ถามมากจริงนังนี่" เธอจี้ปืนที่ขมับฉันแน่นขึ้นฉันกลอกตาเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายกระบอกปืนที่ขมับ ถ้าเธอจะยิงฉันจริง ๆ เธอก็คงทำไปแล้ว คงไม่มามัวเสียเวลาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกฉันตัดสินใจเสี่ยง เดินไปนั่งที่โซฟาในห้อง ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะมายืนเล่นเกมถามตอบกับน้องสาวจอมโจรคนนี้แล้วเธอดูประหลาดใจกับการกระทำของฉัน ยืนอ้าปากค้างมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ฉันจ้องกลับไป มองเธอเปลี่ยนท่าทาง เล็งปืนมาที่ฉัน มองนิ้วของเธอที่เหนี่ยวไกปืน มองปลายกระบอกปืนแค่เธอออกแรงกดอีกนิดเดียว กระสุนก็จะพุ่งทะลุหัวหรือหัวใจ แล้วแต่ว่าเธอเล็งไปที่จุดไหนฉั
Read more

บทที่ 166

ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวตุบ ๆ ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่จำได้... อาจจะเกินไปนิด แต่เอาเถอะ มันเจ็บจริง ๆ ฉันนิ่วหน้าเล็กน้อยพลางพลิกตัวไปด้านข้าง เห็นเสา ผ้าม่านสีฟ้า ผนังสีขาว ดูแล้วฉันน่าจะอยู่ในโรงพยาบาลสินะ ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่พาให้ฉันต้องมานอนอยู่ที่นี่พรั่งพรูเข้ามาในหัวใครพาฉันมาที่นี่นะ? ฉันครุ่นคิดพลางกวาดตามองไปรอบๆ คอมพิวเตอร์ที่ส่งเสียงบี๊บๆ ผ้าม่านสีฟ้าอีกผืน ผนังสีขาว ทางเดิน…"พระเจ้า ซิดนีย์!"ทันใดนั้นก็มีใครบางคนโผเข้ามากอดฉัน ฉันหลับตาแน่นเพราะปวดหัว พอหันไปมองก็เห็นว่าเป็นเกรซ จึงฝืนยิ้มให้ แต่เมื่อเห็นตาบวมๆ ริมฝีปากแดงๆ พร้อมรอยยิ้มทั้งน้ำตา และรอยคล้ำใต้ตาของเธอ รอยยิ้มของฉันก็พลันหายวับไป เกรซไม่เคยมีสภาพแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะทำงานหนักหรืออดหลับอดนอนแค่ไหน เธอก็ดูสดใสอยู่เสมอ"เกิดอะไรขึ้น? เป็นอะไรรึเปล่า?" ฉันถามด้วยความตกใจ พยายามจะลุกขึ้น แต่เกรซรีบกดไหล่ฉันไว้ นิ้วมือของเธอค่อยๆ นวดคลายกล้ามเนื้อ "ใจเย็น ๆ สาวน้อย ใจเย็น ๆ เธอต้องพักก่อน" เสียงของเธอสั่นเครือ แต่ก็แฝงไปด้วยความดีใจแล้วฉันก็นึกขึ้นได้ ในจังหวะที่ไม่ควรนึกขึ้นได้เอาซะเลย ฉันเงยหน้
Read more

บทที่ 167

ซิดนีย์พยักหน้า "เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ"ฉันหันไปมองเกรซ ส่งสายตาแบบ 'แล้วไง' ไปให้ เธอกลอกตา แต่ก่อนที่เธอจะสบตาฉันก็เห็นเธอแอบมองคุณหมออยู่ไม่นานนัก คุณหมอจึงหันไปหาเกรซ "คุณด้วยนะครับ" เขาชี้ปากกาในมือไปทางเธอ ฉันไม่คิดว่าเพื่อนของฉันจะหน้าแดงไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว "คุณต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ ขณะที่ดูแลคนไข้ ดูคุณสิ หน้าแดงหมดแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนไม่ได้นอนเลยใช่ไหมครับ! จะกลายเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้วนะครับ"เกรซหัวเราะคิกคัก หน้าแดงก่ำ "ฉัน... ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะคุณหมอ" ฉันแทบจะตบหน้าผากตัวเองเมื่อได้ยินเธอพูดตะกุกตะกักคุณหมอยิ้มกว้างให้เธอ ก่อนจะหันมามองฉันแวบหนึ่ง "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้าต้องการอะไร เรียกผมได้เลยนะครับ"ฉันพยักหน้า "ค่ะ"เกรซถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากคุณหมอออกจากห้องไป แล้วก็เริ่มพัดบริเวรใบหน้าของตัวเอง "พระเจ้า! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนั้นเห็นฉันตอนมีรอยคล้ำใต้ตา ฉันต้องดูเหมือนคนบ้าแน่ๆ" เธอหันมาหาฉัน "ฉันดูเหมือนคนบ้าไหม?""ไม่ เธอดูไม่เหมือนคนบ้าสักหน่อย"เธอเบะปาก แล้วก็หรี่ตาลงทันที "ยังไงเธอก็ไม่ได้ไปประชุมนั่นหรอก""เอาน่า
Read more

บทที่ 168

“เพราะโรสขายหุ้นให้ผมแล้วไง” ลูคัสตอบพร้อมกับยิ้มเหยียดอย่างพอใจฉันผงะถอยหลังด้วยความตกใจ อะไรนะ? ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น?ฉันจำได้อย่างชัดเจนว่ามาร์คเคยบอกฉันอย่างมั่นใจว่า เขาถือหุ้นมากกว่าและกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มโดยพฤตินัย เพราะหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของแม่ของเขา เมื่อรวมกับหุ้นสี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ของเขา งั้นตอนนี้โรสขายหุ้นให้ลูคัสหมายความว่ายังไง? ไม่มีผู้ถือหุ้นคนไหน โดยเฉพาะพวกโลภมากในห้องนี้จะยอมให้คนที่ป่วยครึ่ง ๆ กลาง ๆ ที่มีหุ้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัททั้งหมดเป็นผู้นำถึงแม้ว่ามาร์คจะไม่ได้สูญเสียความทรงจำ เขาก็ยังคงไม่สามารถควบคุมคณะกรรมการบริหารได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดฉันมองไปรอบ ๆ ห้อง มองไปที่ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ ขณะที่เรารอเจ้าภาพและมาร์ค บางคนกำลังคุยกันเบาๆ แต่ฉันสามารถมองเห็นความโลภในดวงตาของพวกเขาได้อย่างชัดเจน นี่คือโอกาสที่พวกเขาทุกคนรอคอย โอกาสในการแซงหน้าฉันแค่หวังว่าทั้งหมดนี้จะไม่หนักเกินไปสำหรับเขา เพราะเขายังคงดิ้นรนที่จะเข้าใจทุกอย่างรอบตัวเขาฉันหันกลับไปมองลูคัส ที่จ้องมองใบหน้าของฉัน มุมปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย “คุณดูน่าทึ่งมาก”“ฮะ?” ฉันอุทานออ
Read more

บทที่ 169

เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกสงสารโรส และสงสัยมากว่าเธอจะรู้สึกแย่แค่ไหน เธอต้องเจ็บปวดมาก แต่ก็เก็บซ่อนไว้ภายใต้ท่าทางแข็งกร้าวและน่ารำคาญลูคัสกระแอม ยักไหล่ “แล้วเช้าวันหนึ่ง เธอก็ยอมขาย อาจเพราะคิดถึงลูกชาย อยากเจอหน้าเขาอีกครั้ง หรือไม่อยากให้ลูกชายเสียหน้าต่อหน้าคนอื่น ไม่อยากให้การแต่งงานพัง” เขายักไหล่อีกครั้ง “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่ทันได้ใช้ไม้ตาย เธอก็เซ็นสัญญาโอนหุ้นฉบับสุดท้ายแล้ว”เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ยิ้มกริ่มฉันจ้องลูคัส มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นฉันรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกเหมือนถูกหักหลัง หลอกลวง อยากจะให้เขาไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย? ทำไม? ฉันนึกว่าเขาจะปล่อยวางเรื่องในอดีตไปแล้วซะอีกตอนนี้ลูคัสดูต่างไปจากคนที่ฉันรู้จักและตกหลุมรัก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์น่าเกลียดนั่น... ฉันพยายามมองหาผู้ชายใจดี คนที่ฉันรัก แต่ก็หาไม่เจอเขาเป็นใครกันแน่?“แล้วไงต่อ?” รอยยิ้มของเขาจางหายไป สีหน้าอ่อนลง “ทำไมมองผมแบบนั้น? คิดอะไรอยู่?”ฉันเลียริมฝีปาก ขยับตัวออกห่าง ไม่ตอบคำถามเขา“ซิดนีย์ มองหน้าผมสิ” เขาสั่ง ฉันจำใจต้องทำตาม “อย่าโทษผมเลย โรสกับสามี พว
Read more

บทที่ 170

ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วทั้งห้อง ราวกับถูกครอบคลุมด้วยผ้าห่มผืนหนา ผู้คนต่างมองหน้ากัน ก่อนจะหันไปมองลูคัสฉันมองสีหน้าเรียบเฉยของลูคัส แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้? ต้องการอำนาจไปเพื่ออะไร? ทำไมต้องแก้แค้น ในเมื่อเขาเคยบอกว่าให้อภัยพวกนั้นไปแล้ว? หรือว่าเขารอให้ดอริสหายไปจากชีวิตก่อนจะลงมืออย่างนั้นเหรอ?ฉันถอนหายใจ ละสายตาจากชายที่กำลังพูดอยู่ตรงหน้าไม่ได้ ดวงตาของเขากำลังสะกดให้ทุกคนยกมือขึ้น โหวตสนับสนุนเขา เขาดูแปลกไป ดูโหดร้าย ลูคัสที่อ่อนโยนหายไปไหน? คนที่เคยยักไหล่ พูดว่า "เรื่องมันผ่านไปแล้ว"มือข้างหนึ่งค่อย ๆ ยกขึ้น ทุกคนหันไปมองเจ้าของมือ ไม่ถึงวินาที ก็มีคนยกมือขึ้นอีก โหวตสนับสนุนเขา และในเวลาไม่นาน ผู้ถือหุ้นหลายคนก็ยกมือขึ้นสนับสนุนลูคัสยิ่งเห็นคนยกมือมากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของฉันก็ยิ่งหนักอึ้ง ฉันเห็นภาพมาร์คกำลังจะถูกปลด ถูกไล่ออกจากบริษัทอย่างโหดเหี้ยม น่าแปลกที่ฉันนึกภาพลูคัสทำเรื่องใจร้ายแบบนั้นได้อย่างง่ายดาย บางทีเขาอาจซ่อนความโหดร้ายไว้ภายใต้หน้ากากแสนดีมาตลอดมาร์คกำลังจะเสียตำแหน่งในจีทีกรุ๊ป และฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลยฉันคิดว่าจะลองคุยกับลูคัส เ
Read more
PREV
1
...
1516171819
...
44
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status