หย่า…มารักฉันเลย의 모든 챕터: 챕터 151 - 챕터 160

438 챕터

บทที่ 151

มุมมองของเบลล่าฉันขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจเมื่อมองดูเบอร์โทรของผู้ที่โทรเข้ามาเธอต้องการอะไร? ทำไมถึงโทรมาหาฉัน? ฉันคิดอย่างหงุดหงิด และที่สำคัญก็คือทำไมยังมีชื่อเธอบันทึกอยู่ในโทรศัพท์ของฉันด้วยฉันจ้องมองไปข้างหน้าโดยกวาดสายตามองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของผู้คนที่กำลังเดินออกมาจากประตู เมื่อเธอไม่ยอมหยุดโทรหาฉัน ฉันจึงตัดสินใจรับสาย“หล่อนต้องการอะไร?” ฉันโพล่งออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ฮัลโหลเพื่อนรัก นานแล้วนะ เธอว่าไหม?”ฉันทำเสียงเย้ยหยัน อีงั่งคนนี้พูดเหมือนเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ เธอเคยเป็นเพื่อนฉันด้วยเหรอ? เธอมักจะอ้างว่าเธอเกลียดซิดนีย์เพื่อเอาใจฉัน แต่ตลอดเวลานั้นเธอจ้องมองแต่ผู้ชายที่ฉันต้องการ“หล่อนต้องการอะไรยะ แซนดร้า?” ฉันส่งเสียงลอดฟันที่ขบแน่นออกไป ส่วนมือทั้งสองข้างก็กำวัตถุที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนทรงหลวมเอาไว้ ฉันรู้สึกหงุดหงิดจริง ๆ ที่ได้ยินแต่เสียงเธอ ถ้าเธอยืนอยู่ตรงหน้าฉันล่ะก็ ฉันคงใช้เจ้าวัตถุนั้นกับเธออย่างไม่รู้สึกผิดอะไรเลยเธอคร่ำครวญเหมือนทุกครั้งที่ฉันเริ่มร่ำร้องถึงความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ "เธอยังเครียดอยู่อีกเหรอ? ทำไมถึงทำเสียงแข็งเวลาคุยอยู่กับเพ
더 보기

บทที่ 152

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงวันที่ฉันจะได้พบเขา ฉันตรวจดูตัวเองในกระจก โดยมองเงาสะท้อนตัวเองด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส ในขณะตรวจดูให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าและสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ละเมิดนโยบายของพวกเขาฉันโบกมือเรียกแท็กซี่และบอกจุดหมายปลายทางกับคนขับ แล้วเขาก็กวาดตามองฉันโดยไม่พูดอะไรพอฉันไปถึงที่นั่น ฉันก็ถูกพาไปยังห้องรับรองแล้วขอให้นั่งรออยู่ที่นั่น ซึ่งมีคนอื่น ๆ มานั่งรอเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังด้วยเหมือนกัน… ฉันนั่งมองโน่นมองนี่อยู่ประมาณยี่สิบนาที แล้วเริ่มรู้สึกอ่อนล้าทีละน้อยเมื่อมีตำรวจเข้ามาขานนามสกุลของใครก็ตามที่จะได้เข้าพบเป็นรายต่อไปฉันกระเด้งตัวลุกขึ้นเมื่อได้ยินตำรวจคนเดิมตะโกนเรียกนามสกุลของไอแซคออกมาฉันฝืนยิ้มในขณะเดินเข้าไปในห้องเยี่ยม ซึ่งมีโต๊ะตัวเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางห้อง และมีเก้าอี้สองตัววางอยู่ในแต่ละด้าน“ให้เวลายี่สิบนาที" ตำรวจคนนั้นพึมพำแล้วเดินห่างออกไปสองสามฟุตในช่วงแรก ๆ นั้นฉันกับไอแซคได้แต่นั่งจ้องหน้ากัน ฉันสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แล้วจากนั้นก็สงสัยเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ว่าทำไม?ทำไมเขาต้องนำความโชคร้ายมาสู่ชีวิตฉันในเมื่อฉันทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อเขา? เขาเป
더 보기

บทที่ 153

เขาหัวเราะคิกคัก แล้วความทรงจำตอนที่เราเพิ่งคบกันก็แวบเข้ามาในหัวฉัน เขามักจะหัวเราะกับมุกตลกของฉันเสมอ บางทีการได้กลับไปเป็นแบบนั้นอีกก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนะ… หรืออาจจะแย่ก็ได้“ฉันกำลังคิดอยู่นะ" ฉันพูดหลังจากเขาเงียบเสียงลง นิ้วมือฉันประสานอยู่กับนิ้วเขา "ฉันอาจถอนฟ้องคุณก็ได้นะ"เขานั่งนิ่งแล้วอ้าปากค้างจ้องมาที่ฉัน "คุณพูดจริงเหรอ?” หัวใจฉันเต็มไปด้วยความสุข เมื่อเห็นประกายแห่งความหวังฉายอยู่ในดวงตาเขาฉันพยักหน้า“พระเจ้า คุณยินดีที่ให้โอกาสผมอีกครั้งเหรอ?”ฉันหัวเราะ "ใช่แล้ว ไอแซค คุณรักฉันใช่ไหม?”“ผมรักคุณสุดหัวใจเลย"“แล้วคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นผู้ชายที่ฉันตกหลุมรักใช่ไหม?”เขาพยักหน้า“เราสามารถเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง"เขาเบิกตาโพลงและยิ้มกว้าง "เบลล่า ผมสาบานว่าจะรักคุณตลอดไป ผมยอมรับว่าเคยทำอะไรที่ไม่ดีกับคุณ ซึ่งเป็นความผิดของผม ผมยินดีที่จะกลับเนื้อกลับตัว ผม...”“หมดเวลาแล้ว" ผู้คุมเข้ามาขัดจังหวะการพูดของเขา และมือที่กำแน่นของฉันก็คลายลงเมื่อเขาหยุดพูด เขาจะกลับตัว...หรือว่า!เขาดึงฉันเข้าไปกอดแบบปุบปับ และฉันก็ไม่ได้สนใจกับความรู้สึกคลื่นเหียน
더 보기

บทที่ 154

มุมมองของซิดนีย์“ว้าว!” ฉันส่งเสียงออกมาในที่สุด แล้วละสายตาออกมาจากโทรศัพท์ฉันเพิ่งรับสายจากกรมตำรวจ พวกเขาจับกุมเบลล่าในข้อฆ่าไอแซ็คในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่เรื่องของดอริสไปจนถึงเรื่องของมาร์ค เรื่อยไปจนถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำงานหรือในโรงพยาบาลที่มาร์คเข้ารับการรักษา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย และฉันต้องจัดการกับเรื่องพวกนี้ราวกับถูกตั้งโปรแกรมมาให้ทำ ฉันจึงนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินข่าวนี้ โดยไม่สามารถประมวลผลในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดออกมาได้ตอนนี้ฉันได้แต่ครุ่นคิดถึงคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่วนเวียนอยู่ในหัว ฉันสงสัยจังว่าทำไมฉันถึงเป็นคนที่พวกเขาโทรมา แล้วพ่อแม่ของเราล่ะ?ฉันรู้สึกพิศวงงงงวยที่ข่าวนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้ฉันอย่างที่ควรจะเป็น นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลให้ฉันใช้เวลานานมากกว่าจะโต้ตอบออกไปได้ จริง ๆ แล้วฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจได้อีกแล้วแต่ถึงกระนั้นด้วยความสัตย์จริง ฉันก็ต้องขอคารวะให้กับความกล้าหาญของเบลล่า เธอต้องใช้ความกล้าและความอดทนอย่างมากในการทำอย่างนั้น ถึงแ
더 보기

บทที่ 155

"สวัสดีครับคุณซิดนีย์" คุณหมอยิ้มแฉ่งในขณะมองดูฉันเดินเข้าไปในห้องทำงานของเขา“คุณมาถามเรื่องของคุณมาร…”“เปล่าค่ะ" ฉันส่ายหัว มันกลายเป็นนิสัยไปแล้ว ที่จะเข้ามาพบคุณหมอทุกครั้งที่มาดูอาการมาร์ค ฉันจะเข้ามาถามว่าอาการเขาเป็นอย่างไร และจะตื่นขึ้นเมื่อไหร่ แต่น้ำเสียงของเขามักจะฟังดูจริงจังเสมอในขณะตอบฉันฉันนั่งลงตรงที่นั่งตรงข้ามเขา "ฉันมาที่นี่เพื่อถามเรื่องคนไข้คนอื่นน่ะค่ะ"เขาเงียบเสียงลงแล้วพยักหน้า "อะไรเหรอครับ?”“นอกจากมาร์คกับคนที่อยู่ในรถเขาอีกสองคนแล้ว ยังมีคนไข้คนอื่นที่ต้องรีบมาที่นี่ในคืนนั้นด้วยไหมคะ?”เขาขมวดคิ้วแล้วส่ายหัว "ควรจะมีคนอื่นด้วยเหรอ?”“ก็ไม่รู้สิคะ นั่นคือเหตุผลที่ฉันเข้ามาที่นี่ มีรถคันหนึ่งพุ่งชนรถของมาร์ค แล้วจากนั้นก็ชนเสาหลังจากสูญเสียการควบคุม ฉันอยากพบคนขับรถคันนั้นน่ะค่ะ"“อ้อ เจ้าหน้าที่รถพยาบาลที่ขับรถไปยังที่เกิดเหตุในวันนั้น รายงานว่าไม่มีใครอยู่ในรถคันอื่นเลยตอนที่พวกเขาไปถึง"“อะไรนะ?” ฉันขมวดคิ้ว เป็นไปได้ยังไง? ฉันแน่ใจว่าเห็นเงาของคนที่กำลังพยายามบังคับพวงมาลัยในวันนั้นคุณหมอยักไหล่ "ผมก็ได้ยินมาอย่างนั้น คุณสามารถติดต่อกรมตำรวจ
더 보기

บทที่ 156

มาร์คขมวดคิ้วมากขึ้น แล้วกวาดตามองฉันตั้งแต่หัวจดเท้าเกือบหนึ่งนาที ก่อนจะส่งเสียงออกมา "ผมอาจจะจำความเสื่อม แต่ไม่ได้โง่นะครับ ผมจะมีแม่อายุน้อยขนาดนั้นได้ยังไง? แล้วผมอายุเท่าไหร่เหรอ?ฉันอดที่จะปล่อยลมหายใจออกมาไม่ได้ ฉันเสียใจที่เขาสูญเสียความทรงจำ แต่รู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้เขากลับคืนมา เพื่อได้ยินเขาพูดอะไรแบบขวานฝ่าซากอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากมายเรื่องราวกลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เขาสูญเสียไปเพียงอย่างเดียวก็คือความทรงจำ ขอบคุณพระเจ้า ฉันไม่คิดว่าจะสามารถรับมือกับเขาได้ ถ้าเขาสูญเสียความทรงจำแล้วกลายเป็นคนโง่เขลาไปมากกว่านี้ เขายังมีไหวพริบดีอยู่เลยฉันหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ เตียงเขา แล้วเขาก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง "แน่นอนว่าฉันคงมีลูกชายที่อายุเท่าคุณไม่ได้ แต่ฉันเป็นแม่เลี้ยงของคุณ"ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันจึงยังแกล้งเขาต่อไป แต่มันสนุกจริง ๆ ฉันเดาว่าฉันคงอยากใช้โอกาสดี ๆ อย่างนี้ ซึ่งตอนนี้ฉันเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แล้วเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นช่างก่ออิฐ ตำรวจ คนเมา...หรือใครต่อใครก็ได้ ไม่ได้เป็นสามีเก่าของฉันหรือมาร์ค ตอร์เรส ประธานบริหารของกลุ่มบริษัทข้ามชาติ หรือแฟน
더 보기

บทที่ 157

ฉันเลิกคิ้วขึ้นเมื่อสีหน้าบูดบึ้งของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูอ่อนโยนทันทีที่เธอหันไปหามาร์ค คิ้วของเธอดูลู่ลงพร้อมกับมีน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเป็นกังวล เธอขยับตัวเข้าไปใกล้ ๆ เตียง แล้วยืนเกาะเตียงให้อยู่ห่างจากฉัน“มาร์ค" เธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือ "เกิดอะไรขึ้น? ลูกจำแม่ไม่ได้เหรอ?” เธอวางฝ่ามือลงบนใบหน้าของมาร์ค แต่เขากลับดึงออกด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะหงุดหงิด“คุณเป็นแม่แท้ ๆ ของผมเหรอ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างเล็กน้อยโรสพยักหน้า "ใช่แล้วลูก นี่แม่เอง แม่ที่ให้กำเนิดเธอ แม่อุ้มท้องเธอมาตั้งหลายเดือน จำไม่ได้เลยเหรอ?”มาร์คขมวดคิ้วใส่เธอ "ผมจะจำได้ยังไงว่าอยู่ในท้องของคุณ?”มีเสียงประหลาดหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากฉัน ในขณะที่พยามกลั้นหัวเราะเอาไว้ก่อนที่โรสจะพ่นคำดูถูกเหยียดหยามอะไรออกมา มาร์คที่ไม่รู้ถึงผลกระทบจากคำพูดของเขาก็ถามขึ้นว่า "แล้วคุณเป็นใคร?” แล้วจ้องมองฉันด้วยความสับสนอีกครั้งฉันรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่โรสจะโพล่งอะไรโง่ ๆ ออกมา "ฉันเป็นเจ้าหนี้คุณไง คุณเป็นหนี้ฉัน"“อะไรนะ?” โรสกับมาร์คเผลอหลุดปากออกมาพร้อมกัน ฉันพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูส
더 보기

บทที่ 158

**มีเนื้อหาทางเพศ**ในที่สุดโรสก็เข้ามาอ้างเป็นสมาชิกในครอบครัวของมาร์ค ซึ่งก็หมายความว่าฉันไม่ต้องเข้าไปยุ่งอะไรที่นั่นอีกต่อไป ฉันผลักตัวเองให้เดินผ่านกลุ่มคนที่กำลังตะลึงงันในชุดหรูหรา และฉีดน้ำหอมกลิ่นหอมฟุ้งที่ทำให้ฉันต้องย่นจมูกด้วยความรังเกียจ จนกระทั่งเดินไปจนถึงสุดปลายทางเดินแล้วไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงมองกลับไปที่ประตูห้องส่วนตัวของมาร์คพร้อมกับหัวเราะร่วนออกมา เพื่อมองดูคนพวกนี้ทำตัวเหมือนคนชั้นต่ำทั่วไป ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันเราไม่มีทางรู้เลยวว่าใครคือเพื่อนแท้ของเรา จนกว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอย่างน่าตกใจฉันถอนหายใจแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเบาะรถ แล้วปิดตูตามมา จากนั้นก็โยนกระเป๋าสตางค์ไปไว้อีกเบาะหนึ่งฉันมองออกผ่านกระจกหน้ารถออกไปดูผู้คนที่เดินเข้าออกโรงพยาบาล และในขณะที่นั่งอยู่ตรงนั้นฉันก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า ตอนที่มาร์คประสบอุบัติเหตุนั้นฉันมองเห็นลุยจิด้วย ฉันจำได้ว่ามองเห็นร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ห่างจากฉันนิดเดียวเองก่อนที่จะหายตัวไปหรือบางทีฉันอาจจะคิดไปเอง?ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ถ้าลุยจิไปที่นั่นจริง ๆ แล้วทำตัวเหมือนส
더 보기

บทที่ 159

จากนั้นเขาก็วางฉันลงบนเตียงโดยกดฉันลงบนที่นอน“พระเจ้า คุณไม่รู้หรอกว่าผมรอสิ่งนี้มานานขนาดไหน นานมาก ๆ" ลูคัสกระซิบบอกพร้อมกับกดฉันแน่นยิ่งขึ้นในขณะที่เขาเริ่มไซร้ซอกคอฉัน“ฉันก็เหมือนกัน" ฉันตอบอย่างหื่นกระหายนี่คือสิ่งที่ฉันโหยหามาตลอดเหมือนกัน และฉันหวังว่ามันคงไม่จบลงอย่างเนิ่นนาน ฉันต้องผจญกับเรื่องต่าง ๆ มามากมาย ฉันก็สมควรจะได้รับความหฤหรรษ์อย่างนี้บ้าง ความเคลิบเคลิ้มอย่างฉุดไม่อยู่แบบนี้จะช่วยให้ฉันลืมโน่นลืมนี่หรือแม้แต่ใคร ๆ ไปได้สักพักหนึ่งโอ้ ลูคัสช่างดูดีเหลือเกินเมื่อมองจากด้านล่างโครงหน้าอันหล่อเหลาและดวงตาที่แสนคมเข้มนั้นคือสิ่งที่ฉันตกหลุมรัก และการที่มีผมยาว ๆ ตกลงมาปิดหน้าปิดตา ก็เป็นการยั่วให้ฉันต้องยกมือขึ้นไปลูบไล้ความปรารถนาของฉันแล่นทะยานขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นเสื้อของเขารัดแน่นไปตามกล้ามเนื้อ และเผยให้เห็นเนื้อหนังบางส่วนในบริเวณที่ปลดกระดุมออกสองสามเม็ดมีจี้เงินห้อยต่องแต่งลงมาจากสร้อยคอที่คล้องอยู่บนคอเขา และเมื่อไม่สามารถต้านทานอะไรได้อีกต่อไป ฉันจึงใช้ปลายนิ้วเกี่ยวสร้อยคอนั้นลงมา จนกระทั้งริมฝีปากของเรามาบรรจบกันอีกครั้งน้ำหนักตัวของเขากดทั
더 보기

บทที่ 160

มุมมองของแซนดร้าฉันเดินออกจากลิฟต์อย่างรวดเร็ว โดยส้นสูงกระทบกับพื้นตามจังหวะการแกว่งไกวของสะโพก เมื่อฉันก้าวเท้าไปตามโถงทางเดินเพื่อไปยังห้องทำงานของพ่อ ซึ่งในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกได้ว่ามีผู้คนมากมายจับจ้องฉันอยู่ทุกย่างก้าว มีพนักงานบางคนที่เดินผ่านมาได้ทักทายฉัน แต่ฉันไม่ได้หันไปมองหรือตอบโต้อะไร เพราะเอาแต่เดินผ่านพวกเขาไปเมื่อฉันไปถึงประตูห้องทำงานของพ่อ ฉันก็เดินเข้าไปข้างในโดยไม่บอกกล่าวอะไร ซึ่งข้างในนั้นพ่อของฉันนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานพร้อมกับผู้ชายอีกสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา พวกเขาทั้งหมดหันมามองตอนฉันเดินเข้าไปพ่อเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นฉันปรากฏตัว ก่อนจะสรุปการพูดคุยกับแขกพวกนั้น“ผมจะจัดการในส่วนที่เหลือเอง พวกคุณสองคนไปเถอะ"ผู้ชายสองคนนั้นพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป ในขณะฉันมองดูพวกเขาเดินจากไป จากนั้นฉันก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับพ่อ เดินไปหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเขา แล้วกระแทกกระเป๋าสตางค์ลงโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน เจมส์ เฮนเดอร์สัน พ่อของฉันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาหลายสมัย เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศเข
더 보기
이전
1
...
1415161718
...
44
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status