Share

บทที่ 153

Author: เบลล่า
เขาหัวเราะคิกคัก แล้วความทรงจำตอนที่เราเพิ่งคบกันก็แวบเข้ามาในหัวฉัน เขามักจะหัวเราะกับมุกตลกของฉันเสมอ บางทีการได้กลับไปเป็นแบบนั้นอีกก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนะ… หรืออาจจะแย่ก็ได้

“ฉันกำลังคิดอยู่นะ" ฉันพูดหลังจากเขาเงียบเสียงลง นิ้วมือฉันประสานอยู่กับนิ้วเขา "ฉันอาจถอนฟ้องคุณก็ได้นะ"

เขานั่งนิ่งแล้วอ้าปากค้างจ้องมาที่ฉัน "คุณพูดจริงเหรอ?” หัวใจฉันเต็มไปด้วยความสุข เมื่อเห็นประกายแห่งความหวังฉายอยู่ในดวงตาเขา

ฉันพยักหน้า

“พระเจ้า คุณยินดีที่ให้โอกาสผมอีกครั้งเหรอ?”

ฉันหัวเราะ "ใช่แล้ว ไอแซค คุณรักฉันใช่ไหม?”

“ผมรักคุณสุดหัวใจเลย"

“แล้วคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงกลับไปเป็นผู้ชายที่ฉันตกหลุมรักใช่ไหม?”

เขาพยักหน้า

“เราสามารถเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง"

เขาเบิกตาโพลงและยิ้มกว้าง "เบลล่า ผมสาบานว่าจะรักคุณตลอดไป ผมยอมรับว่าเคยทำอะไรที่ไม่ดีกับคุณ ซึ่งเป็นความผิดของผม ผมยินดีที่จะกลับเนื้อกลับตัว ผม...”

“หมดเวลาแล้ว" ผู้คุมเข้ามาขัดจังหวะการพูดของเขา และมือที่กำแน่นของฉันก็คลายลงเมื่อเขาหยุดพูด เขาจะกลับตัว...หรือว่า!

เขาดึงฉันเข้าไปกอดแบบปุบปับ และฉันก็ไม่ได้สนใจกับความรู้สึกคลื่นเหียน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 154

    มุมมองของซิดนีย์“ว้าว!” ฉันส่งเสียงออกมาในที่สุด แล้วละสายตาออกมาจากโทรศัพท์ฉันเพิ่งรับสายจากกรมตำรวจ พวกเขาจับกุมเบลล่าในข้อฆ่าไอแซ็คในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่เรื่องของดอริสไปจนถึงเรื่องของมาร์ค เรื่อยไปจนถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำงานหรือในโรงพยาบาลที่มาร์คเข้ารับการรักษา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย และฉันต้องจัดการกับเรื่องพวกนี้ราวกับถูกตั้งโปรแกรมมาให้ทำ ฉันจึงนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินข่าวนี้ โดยไม่สามารถประมวลผลในสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดออกมาได้ตอนนี้ฉันได้แต่ครุ่นคิดถึงคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่วนเวียนอยู่ในหัว ฉันสงสัยจังว่าทำไมฉันถึงเป็นคนที่พวกเขาโทรมา แล้วพ่อแม่ของเราล่ะ?ฉันรู้สึกพิศวงงงงวยที่ข่าวนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้ฉันอย่างที่ควรจะเป็น นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลให้ฉันใช้เวลานานมากกว่าจะโต้ตอบออกไปได้ จริง ๆ แล้วฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจได้อีกแล้วแต่ถึงกระนั้นด้วยความสัตย์จริง ฉันก็ต้องขอคารวะให้กับความกล้าหาญของเบลล่า เธอต้องใช้ความกล้าและความอดทนอย่างมากในการทำอย่างนั้น ถึงแ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 155

    "สวัสดีครับคุณซิดนีย์" คุณหมอยิ้มแฉ่งในขณะมองดูฉันเดินเข้าไปในห้องทำงานของเขา“คุณมาถามเรื่องของคุณมาร…”“เปล่าค่ะ" ฉันส่ายหัว มันกลายเป็นนิสัยไปแล้ว ที่จะเข้ามาพบคุณหมอทุกครั้งที่มาดูอาการมาร์ค ฉันจะเข้ามาถามว่าอาการเขาเป็นอย่างไร และจะตื่นขึ้นเมื่อไหร่ แต่น้ำเสียงของเขามักจะฟังดูจริงจังเสมอในขณะตอบฉันฉันนั่งลงตรงที่นั่งตรงข้ามเขา "ฉันมาที่นี่เพื่อถามเรื่องคนไข้คนอื่นน่ะค่ะ"เขาเงียบเสียงลงแล้วพยักหน้า "อะไรเหรอครับ?”“นอกจากมาร์คกับคนที่อยู่ในรถเขาอีกสองคนแล้ว ยังมีคนไข้คนอื่นที่ต้องรีบมาที่นี่ในคืนนั้นด้วยไหมคะ?”เขาขมวดคิ้วแล้วส่ายหัว "ควรจะมีคนอื่นด้วยเหรอ?”“ก็ไม่รู้สิคะ นั่นคือเหตุผลที่ฉันเข้ามาที่นี่ มีรถคันหนึ่งพุ่งชนรถของมาร์ค แล้วจากนั้นก็ชนเสาหลังจากสูญเสียการควบคุม ฉันอยากพบคนขับรถคันนั้นน่ะค่ะ"“อ้อ เจ้าหน้าที่รถพยาบาลที่ขับรถไปยังที่เกิดเหตุในวันนั้น รายงานว่าไม่มีใครอยู่ในรถคันอื่นเลยตอนที่พวกเขาไปถึง"“อะไรนะ?” ฉันขมวดคิ้ว เป็นไปได้ยังไง? ฉันแน่ใจว่าเห็นเงาของคนที่กำลังพยายามบังคับพวงมาลัยในวันนั้นคุณหมอยักไหล่ "ผมก็ได้ยินมาอย่างนั้น คุณสามารถติดต่อกรมตำรวจ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 156

    มาร์คขมวดคิ้วมากขึ้น แล้วกวาดตามองฉันตั้งแต่หัวจดเท้าเกือบหนึ่งนาที ก่อนจะส่งเสียงออกมา "ผมอาจจะจำความเสื่อม แต่ไม่ได้โง่นะครับ ผมจะมีแม่อายุน้อยขนาดนั้นได้ยังไง? แล้วผมอายุเท่าไหร่เหรอ?ฉันอดที่จะปล่อยลมหายใจออกมาไม่ได้ ฉันเสียใจที่เขาสูญเสียความทรงจำ แต่รู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้เขากลับคืนมา เพื่อได้ยินเขาพูดอะไรแบบขวานฝ่าซากอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากมายเรื่องราวกลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เขาสูญเสียไปเพียงอย่างเดียวก็คือความทรงจำ ขอบคุณพระเจ้า ฉันไม่คิดว่าจะสามารถรับมือกับเขาได้ ถ้าเขาสูญเสียความทรงจำแล้วกลายเป็นคนโง่เขลาไปมากกว่านี้ เขายังมีไหวพริบดีอยู่เลยฉันหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆ เตียงเขา แล้วเขาก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง "แน่นอนว่าฉันคงมีลูกชายที่อายุเท่าคุณไม่ได้ แต่ฉันเป็นแม่เลี้ยงของคุณ"ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันจึงยังแกล้งเขาต่อไป แต่มันสนุกจริง ๆ ฉันเดาว่าฉันคงอยากใช้โอกาสดี ๆ อย่างนี้ ซึ่งตอนนี้ฉันเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แล้วเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นช่างก่ออิฐ ตำรวจ คนเมา...หรือใครต่อใครก็ได้ ไม่ได้เป็นสามีเก่าของฉันหรือมาร์ค ตอร์เรส ประธานบริหารของกลุ่มบริษัทข้ามชาติ หรือแฟน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 157

    ฉันเลิกคิ้วขึ้นเมื่อสีหน้าบูดบึ้งของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูอ่อนโยนทันทีที่เธอหันไปหามาร์ค คิ้วของเธอดูลู่ลงพร้อมกับมีน้ำตาเอ่อล้นด้วยความเป็นกังวล เธอขยับตัวเข้าไปใกล้ ๆ เตียง แล้วยืนเกาะเตียงให้อยู่ห่างจากฉัน“มาร์ค" เธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือ "เกิดอะไรขึ้น? ลูกจำแม่ไม่ได้เหรอ?” เธอวางฝ่ามือลงบนใบหน้าของมาร์ค แต่เขากลับดึงออกด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนจะหงุดหงิด“คุณเป็นแม่แท้ ๆ ของผมเหรอ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้างเล็กน้อยโรสพยักหน้า "ใช่แล้วลูก นี่แม่เอง แม่ที่ให้กำเนิดเธอ แม่อุ้มท้องเธอมาตั้งหลายเดือน จำไม่ได้เลยเหรอ?”มาร์คขมวดคิ้วใส่เธอ "ผมจะจำได้ยังไงว่าอยู่ในท้องของคุณ?”มีเสียงประหลาดหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากฉัน ในขณะที่พยามกลั้นหัวเราะเอาไว้ก่อนที่โรสจะพ่นคำดูถูกเหยียดหยามอะไรออกมา มาร์คที่ไม่รู้ถึงผลกระทบจากคำพูดของเขาก็ถามขึ้นว่า "แล้วคุณเป็นใคร?” แล้วจ้องมองฉันด้วยความสับสนอีกครั้งฉันรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่โรสจะโพล่งอะไรโง่ ๆ ออกมา "ฉันเป็นเจ้าหนี้คุณไง คุณเป็นหนี้ฉัน"“อะไรนะ?” โรสกับมาร์คเผลอหลุดปากออกมาพร้อมกัน ฉันพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูส

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 158

    **มีเนื้อหาทางเพศ**ในที่สุดโรสก็เข้ามาอ้างเป็นสมาชิกในครอบครัวของมาร์ค ซึ่งก็หมายความว่าฉันไม่ต้องเข้าไปยุ่งอะไรที่นั่นอีกต่อไป ฉันผลักตัวเองให้เดินผ่านกลุ่มคนที่กำลังตะลึงงันในชุดหรูหรา และฉีดน้ำหอมกลิ่นหอมฟุ้งที่ทำให้ฉันต้องย่นจมูกด้วยความรังเกียจ จนกระทั่งเดินไปจนถึงสุดปลายทางเดินแล้วไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงมองกลับไปที่ประตูห้องส่วนตัวของมาร์คพร้อมกับหัวเราะร่วนออกมา เพื่อมองดูคนพวกนี้ทำตัวเหมือนคนชั้นต่ำทั่วไป ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันเราไม่มีทางรู้เลยวว่าใครคือเพื่อนแท้ของเรา จนกว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอย่างน่าตกใจฉันถอนหายใจแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเบาะรถ แล้วปิดตูตามมา จากนั้นก็โยนกระเป๋าสตางค์ไปไว้อีกเบาะหนึ่งฉันมองออกผ่านกระจกหน้ารถออกไปดูผู้คนที่เดินเข้าออกโรงพยาบาล และในขณะที่นั่งอยู่ตรงนั้นฉันก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่า ตอนที่มาร์คประสบอุบัติเหตุนั้นฉันมองเห็นลุยจิด้วย ฉันจำได้ว่ามองเห็นร่างสูงใหญ่ของเขาอยู่ห่างจากฉันนิดเดียวเองก่อนที่จะหายตัวไปหรือบางทีฉันอาจจะคิดไปเอง?ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ถ้าลุยจิไปที่นั่นจริง ๆ แล้วทำตัวเหมือนส

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 159

    จากนั้นเขาก็วางฉันลงบนเตียงโดยกดฉันลงบนที่นอน“พระเจ้า คุณไม่รู้หรอกว่าผมรอสิ่งนี้มานานขนาดไหน นานมาก ๆ" ลูคัสกระซิบบอกพร้อมกับกดฉันแน่นยิ่งขึ้นในขณะที่เขาเริ่มไซร้ซอกคอฉัน“ฉันก็เหมือนกัน" ฉันตอบอย่างหื่นกระหายนี่คือสิ่งที่ฉันโหยหามาตลอดเหมือนกัน และฉันหวังว่ามันคงไม่จบลงอย่างเนิ่นนาน ฉันต้องผจญกับเรื่องต่าง ๆ มามากมาย ฉันก็สมควรจะได้รับความหฤหรรษ์อย่างนี้บ้าง ความเคลิบเคลิ้มอย่างฉุดไม่อยู่แบบนี้จะช่วยให้ฉันลืมโน่นลืมนี่หรือแม้แต่ใคร ๆ ไปได้สักพักหนึ่งโอ้ ลูคัสช่างดูดีเหลือเกินเมื่อมองจากด้านล่างโครงหน้าอันหล่อเหลาและดวงตาที่แสนคมเข้มนั้นคือสิ่งที่ฉันตกหลุมรัก และการที่มีผมยาว ๆ ตกลงมาปิดหน้าปิดตา ก็เป็นการยั่วให้ฉันต้องยกมือขึ้นไปลูบไล้ความปรารถนาของฉันแล่นทะยานขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นเสื้อของเขารัดแน่นไปตามกล้ามเนื้อ และเผยให้เห็นเนื้อหนังบางส่วนในบริเวณที่ปลดกระดุมออกสองสามเม็ดมีจี้เงินห้อยต่องแต่งลงมาจากสร้อยคอที่คล้องอยู่บนคอเขา และเมื่อไม่สามารถต้านทานอะไรได้อีกต่อไป ฉันจึงใช้ปลายนิ้วเกี่ยวสร้อยคอนั้นลงมา จนกระทั้งริมฝีปากของเรามาบรรจบกันอีกครั้งน้ำหนักตัวของเขากดทั

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 160

    มุมมองของแซนดร้าฉันเดินออกจากลิฟต์อย่างรวดเร็ว โดยส้นสูงกระทบกับพื้นตามจังหวะการแกว่งไกวของสะโพก เมื่อฉันก้าวเท้าไปตามโถงทางเดินเพื่อไปยังห้องทำงานของพ่อ ซึ่งในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกได้ว่ามีผู้คนมากมายจับจ้องฉันอยู่ทุกย่างก้าว มีพนักงานบางคนที่เดินผ่านมาได้ทักทายฉัน แต่ฉันไม่ได้หันไปมองหรือตอบโต้อะไร เพราะเอาแต่เดินผ่านพวกเขาไปเมื่อฉันไปถึงประตูห้องทำงานของพ่อ ฉันก็เดินเข้าไปข้างในโดยไม่บอกกล่าวอะไร ซึ่งข้างในนั้นพ่อของฉันนั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานพร้อมกับผู้ชายอีกสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา พวกเขาทั้งหมดหันมามองตอนฉันเดินเข้าไปพ่อเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นฉันปรากฏตัว ก่อนจะสรุปการพูดคุยกับแขกพวกนั้น“ผมจะจัดการในส่วนที่เหลือเอง พวกคุณสองคนไปเถอะ"ผู้ชายสองคนนั้นพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป ในขณะฉันมองดูพวกเขาเดินจากไป จากนั้นฉันก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับพ่อ เดินไปหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเขา แล้วกระแทกกระเป๋าสตางค์ลงโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน เจมส์ เฮนเดอร์สัน พ่อของฉันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาหลายสมัย เขาเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศเข

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 161

    ผู้ชายไร้ค่าแบบมาร์ค คงไม่มีวันเติมเต็มความต้องการอันเร่าร้อนของฉันได้หรอก ฉันรู้ดีเพราะว่าเคยผ่านผู้ชายมาตั้งกี่คน แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำให้ฉันถึงใจได้สักทีทว่าผู้ชายที่ต้องแต่งงานด้วยกลับต้องมานั่งรถเข็น? ฉันต้องกลายเป็นคนดูแลเขาเหมือนพี่เลี้ยงเด็กงั้นเหรอ? ตลกสิ้นดี ฉันจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด แค่คิดว่าต้องผูกติดกับเขาไปตลอดชีวิตฉันก็แทบจะสำรอกออกมา ถ้าฉันแข็งใจปฏิเสธตั้งแต่แรก เรื่องน่ารังเกียจนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นยิ่งคิดถึงสายตาเยาะเย้ยและเสียงซุบซิบนินทาจากเพื่อนๆ ในแวดวงไฮโซเมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า “แซนดรา เฮนเดอร์สัน คุณหนูผู้เพียบพร้อม” ต้องมาลงเอยกับสามีพิการไร้น้ำยา คงกลายเป็นเรื่องตลกให้คนพวกนั้นหัวเราะเยาะไปอีกนานมันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้! ฉันต้องทำให้พ่อเข้าใจให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ฉันต้องทำให้พ่อเห็นถึงความไร้ค่าของมาร์คที่โรงพยาบาล พยาบาลช่วยกันพยุงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงของเขามานั่งบนเตียง ก่อนจะยกตัวเขาขึ้นราวกับตุ๊กตาวางลงบนรถเข็นที่จอดรออยู่ ฉันแทบจะอาเจียนออกมาเมื่อเห็นภาพน่าสมเพชนั้นดูเอาเถอะ"เรียบร้อยแล้วค่ะ" พยาบาลสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มจืด

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 438

    มุมมองของนักเขียนอาน่าถอนหายใจเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องพักของเดนนิสและนั่งลงข้าง ๆ เขา เธอหยิบหนังสือออกมาและเริ่มอ่านเป็นครั้งคราว เธอจะเปิดโทรศัพท์เพื่อดูจัสตินนอนหลับหรือเล่นรอบบ้านในขณะที่พี่เลี้ยงยุ่งอยู่ หรือแค่ซุกตัวบนโซฟาตัวหนึ่งเพื่ออ่านหนังสือ โดยคอยจับตาดูจัสตินตอนนี้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของอาน่าไปแล้วในวันที่เธอพักค้างคืนที่โรงพยาบาล เธอจะออกจากที่นั่นแต่เช้าเพื่อไปดูแลจัสตินและกลับมา ขณะที่เธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา นิ้วอุ่นๆ ของเธอประสานกับนิ้วเย็นๆ ที่ยังคงนิ่งของเขา เธอจะอ่านหนังสือเดนนิสยังคงอยู่ในอาการโคม่า และในแต่ละวัน อาน่ารู้สึกว่าความกลัวกำลังเพิ่มขึ้น... กลัวว่าเขาอาจจะยังคงอยู่ในอาการโคม่าจนถึงแก่ชีวิต ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียวเธอต้องการให้เขาลืมตาขึ้นมามองเธอด้วยความรักที่เขามีให้เธอเสมอ เธอต้องการบอกเขาว่าเธอรักเขามากแค่ไหนและรู้สึกขอบคุณที่มีเขาในชีวิตของเธอ แต่ที่สำคัญที่สุด เธอต้องการขอโทษเขาเธอเห็นแก่ตัวมาก คิดว่าความเจ็บปวดของพวกเขาไม่ยิ่งใหญ่เท่าของเธอ... พวกเขาทุกคนรักเอมี่อย่างสุดซึ้ง และพวกเขาทุกคนเจ็บปวดกับการจากไปของเธอจากชีวิตนี้ ห

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 437

    มุมมองของนักเขียนชารอนถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดฐานมีส่วนร่วมโดยตรงในการเสียชีวิตของเอมี่ แต่มีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิด เธอโชคดีพอที่จะได้รับการลดหย่อนโทษ จำคุกในระยะเวลาอันสั้น ทนายของเธอทำให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเช่นนั้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะพ่อของเธอแม้ว่าพ่อของเธอจะผิดหวังกับทุกสิ่งที่เธอทำ แต่เธอก็เป็นลูกสาวของเขา ทายาทที่น่าเกรงขามเพียงคนเดียวของเขา ไม่มีทางที่เขาจะทอดทิ้งเธอได้ขณะที่เธอรับโทษจำคุก นับถอยหลังสู่วันที่เธอจะได้ออกไปจากที่นั่นในที่สุด เธอได้รับเอกสารหย่าร้างส่งมาให้เธอเธอคิดว่าเช้าวันนั้นหนาวเกินไปสำหรับฤดูกาล ห้องขังเล็กๆ ของเธอรู้สึกเล็กกะทันหัน มันรู้สึกเหมือนมันจะปิดล้อมเธอ และเธอเอามือสอดเข้าไปในช่องประตูเพื่อหายใจเมื่อหนึ่งในผู้คุมมาพาเธอไปเธอนั่งลง ได้รับปากกา และต่อหน้าเธอ บนโต๊ะเหล็ก มีจดหมายหย่าร้างวางอยู่ เหตุผลหลักที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการกระทำสกปรกเหล่านี้ทั้งหมดคือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไอเดนทิ้งเธอ มันน่าเศร้าจริงๆ ที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ แต่กลับถูกโยนใส่อย่างแรงที่ใบหน้าของเธอในตอนท้ายดวงตาปวดหนึบด้วยน้ำตาขณะที่เธ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 436

    "หยุด!" เสียงของเธอสั่นเครือขณะที่เธอตะโกนบอกคนขับแท็กซี่แค่นั้นก็เพียงพอให้อาน่าหันกลับมา"ฉันทำอะไรลงไป?" ลมหายใจของเธอสั่นเทาขณะที่เธอเปิดประตูและรีบออกจากแท็กซี่ มือของเธอสั่นเทาขณะที่เธอสะดุดลงบนทางเท้า"เดนนิส!" เธอตะโกนขณะที่เข่าของเธอล้มลงบนพื้นคอนกรีตแข็ง "ได้โปรด อย่า" เธอพูดกระซิบ สายตาของเธอจ้องมองไปที่รถที่พังยับเยิน "เดนนิส ต้องรอดให้ได้นะ"เธอคลานไปที่รถ มองเข้าไปข้างในเพื่อดูเขา แต่ข้างในนั้นมืดมิดและเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้น "ทำไมฉันถึงออกมา? ทำไมฉันไม่รอเขา?"เธอเช็ดน้ำตา "ฉันสัญญา" เธอสะอื้น "ฉันจะไม่ไปหาเอมี่อีกแล้ว ฉันสัญญา เดนนิส ได้โปรดออกมา" เธอร้องไห้ขณะที่เธอจำได้เลือนรางว่าเขาบอกเธอว่าเอมี่ได้รับความยุติธรรมแล้ว และไม่จำเป็นต้องไปหาเธออีกต่อไปนี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด เธอควรจะฟังเขา เธอควรจะรอเขาก่อนที่เธอจะออกไป"อาน่า!" ไอเดนตะโกนขณะที่เขารีบออกจากรถ เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นอาน่า เขาหารถแท็กซี่หลังจากที่เดนนิสขับออกไปสักพัก และตามเขาไป เมื่อเขาสังเกตเห็นฝูงชนและเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาก็กลัวว่าจะเป็นอาน่า"ให้ตายสิ!" เขาพึมพำขณะหยุดอยู่ต่อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 435

    มุมมองของนักเขียนหลังจากที่ไอเดนได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาไม่ลังเลเลยก่อนที่จะเดินออกจากห้องพิจารณาคดีหัวใจของชารอนแตกสลายเมื่อมองดูไอเดนเดินออกไปอย่างโกรธจัด เขาเกลียดชังเธอมากจนทนดูการพิจารณาคดีของเธอไม่ได้เลยหรือ? น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ และเธอรีบเช็ดมันออกก่อนที่พ่อของเธอจะเห็นพ่อของเธอบอกเธอไปก่อนหน้านี้ว่า "พอได้แล้ว ชารอน อย่าร้องไห้เพราะผู้ชายอย่างเขาเลย" แต่นั่นหลังจากที่เขาตำหนิเธอสำหรับทุกสิ่งที่เธอทำ"มีการตัดสินแล้วหรือยัง คุณไอเดน? คุณจะประกันตัวภรรยาของคุณไหม?"คำถามทั้งหมดของพวกเขาไม่ได้เข้าหูไอเดนแม้แต่น้อย เขาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยขณะที่เขาเร่งรีบไปที่รถของเขาและขับออกจากบริเวณศาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล เขาโทรหาทีมรักษาความปลอดภัยของเขาที่ตามเขามาทันทีที่เขาขับรถออกไป "อาน่าสตาเซียเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ตามหาเธอ" เขาออกคำสั่ง "ผมจะส่งรูปของเธอให้คุณตอนนี้""ครับ"เขาตัดสาย ขณะที่เขาขับรถ เขาหารูปอาน่าที่ชัดเจนและส่งให้ทีมรักษาความปลอดภัยที่เริ่มตามหาเธอทันทีจากนั้นไอเดนพยายามโทรหาเดนนิส แต่เขาก็ยังไม่รับสายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล เขาพบเดนนิสอยู่ข้างนอก เขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 434

    ไอเดนเมื่อเวลาผ่านไป คดีของเอมี่ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย ช่องข่าวทุกช่องมีรูปเด็กผู้หญิงน่าสงสารคนนั้นขณะที่พวกเขาพูดถึงการตายที่ไม่ยุติธรรมของเธอ และทุกคนที่รับผิดชอบต้องถูกลงโทษตามนั้นท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่าง จุดสนใจก็เปลี่ยนจากเอมี่มาเป็นชารอนและผม อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานของเราและการตั้งครรภ์ปลอมของเธอผมเริ่มได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จักหลายหมายเลข โทรมาถามคำถามไร้สาระทั้งหมดเพื่อต้องการข้อมูลโดยตรงจากแหล่งข่าว ผมต้องเปลี่ยนซิมการ์ดในโทรศัพท์ของผมเป็นซิมที่ผู้ช่วยของผมใช้ หากมีข้อมูลใดๆ เขาก็แค่ส่งต่อมา ผมเบื่อที่จะรับมือกับสายเรียกเข้าที่ไม่หยุดหย่อนเหล่านั้นเมื่อชารอนอาการดีขึ้นและเธอต้องถูกส่งตัวกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขามาถึงสถานีพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่ทางเข้าตำรวจคุ้มกันเธอขณะพาเธอเข้าไปข้างใน แต่นั่นไม่ได้หยุดนักข่าวจากการตะโกนถามคำถามของพวกเขา"คุณเสแสร้งว่าท้องจริง ๆ เหรอ คุณนายไอเดน?""คุณชารอน คุณยังเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่ไหม?""สามีของคุณอยู่ที่ไหน? เขายังรักคุณอยู่ไหม?""จะมีการหย่าร้างไหม?""คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสีย

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 433

    เดนนิสอาน่าถูกส่งตัวไปยังศูนย์บำบัดวิกฤตสุขภาพจิต และผมใช้เวลาส่วนใหญ่ของผมที่นั่น แม้ว่าผมจะพยายามแบ่งเวลาอย่างเท่าเทียมกันระหว่างงาน จัสติน และเอมี่ แต่ผมก็พบว่าตัวเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่งานเป็นไปด้วยดีอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมทำเงินได้มากกว่าที่เคยทำก่อนที่ผมจะถูกหลอก แต่ผมไม่มีความสุข คนที่ผมรักที่สุดอยู่ในบ้านพักผู้ป่วยทางจิต ทุกวันที่ผมไปที่นั่น ผมหวังว่าอาการของเธอจะเริ่มดีขึ้นในไม่ช้า ครึ่งหนึ่งของเวลา เธอดูปกติดี แค่นั่งอยู่คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกลาง เธอจะไม่พูดคุยกับใครเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกครึ่งหนึ่งใช้ไปกับการร้องไห้และขอร้องให้ผมพาพวกเราไปหาเอมี่แพทย์บอกว่าเธอดีขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้นสำหรับผมจัสตินทำได้ดีมาก เขาดูเหมือนจะไม่โศกเศร้าอย่างที่ไอเดนแนะนำ มีบางครั้งที่เขาจะร้องไห้และไม่มีอะไรทำให้เขาหยุดได้จนกว่าเขาจะหลับไป แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นหายาก และผมคิดว่าเขาแค่คิดถึงแม่ของเขาผมทำให้แน่ใจว่าผมมีเวลาให้เขาเสมอ เหมือนกับที่ผมมีเวลาให้อาน่า ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน ผมไม่ต้องการปล่อยเขาไว้กับพี่เลี้ยงทั้งหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ผมต้องการให้ไอเดนเติ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 432

    ไอเดนนักสืบส่งที่อยู่โรงพยาบาลที่ชารอนถูกนำตัวส่งมาให้กับผมภายในห้อง ชารอนนอนขดตัวอยู่กับตนเองพร้อมกับกุญแจมือที่คล้องอยู่พอจะเอื้อมถึงเธอรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นผมเข้ามาในห้อง "ไอเดน" เธอหายใจออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว"ไม่เพียงแต่คุณจะเป็นอาชญากร แต่ยังเป็นคนโกหกด้วยเหรอ? คนโป้ปด!" ผมพูดออกมาขณะที่สายตาเหลือบไปที่ท้องแบนราบของเธอ ผมหัวเราะเยาะตัวเองขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ที่หันหน้าเข้าหาเตียงของเธอ ผมรู้สึกหมดแรงจนแทบจะยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้เธอส่ายหัว น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของเธอ เหมือนกับที่มันไหลลงมาบนใบหน้าของเธอตอนที่เธอถูกจับกุม "มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสาบานได้นะ ฉัน…" เธอพูดไม่ออกและไหล่ของเธอก็สั่นเทาขณะที่เธอร้องไห้หนักขึ้นผมเอียงศีรษะไปด้านข้างและมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมไม่รู้สึกสงสารเธอแม้แต่น้อย "ถ้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด แล้วมันคืออะไร? บอกมาสิ""คุณแกล้งทำเป็นท้องมาตั้งหลายเดือน!" เสียงหัวเราะขมขื่นหลุดออกจากริมฝีปากขณะที่ผมส่ายหัว มันยังคงรู้สึกเหมือนเรื่องตลก ผมคงไม่เชื่อนักสืบเลย ถ้าไม่มีสัญญาณทั้งหมดที่ผมมองข้ามไปผมโน้มตัวไปข้างหน้

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 431

    ไอเดนผมตกใจกับคำพูดของเขา เดนนิสรู้แล้วเหรอ?เดนนิสก็มีส่วนร่วมในการสอบสวนด้วย เขาแค่ไม่ได้กระตือรือร้นเท่าผม ดังนั้นมันไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ นอกจากนี้ มันเป็นคดีของลูกสาวเขาด้วย เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะรู้แต่ผมเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดที่รุนแรงของเขา ผมยังคงสับสนกับข่าวที่ว่าอนาอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชในขณะนี้ มันเป็นไปได้อย่างไร? เขาปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ผมอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ผมก็สงบสติอารมณ์ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมตั้งแต่แรก... และของชารอน"แล้วเธออยู่ที่โรงพยาบาลไหน?" มันฟังดูไม่จริง ผมรู้ว่าเธอรักเอมี่มาก แต่ผมไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเธอมากขนาดนี้เดนนิสหันมาหาผม คิ้วของเขาขมวดลึกขณะที่เขาขมวดคิ้ว "อยากรู้ไปทำไม? จะได้เอาไปบอกภรรยานายหรือไง?"ให้ตายสิ! ผมรู้สึกว่ามือกำแน่นโดยอัตโนมัติผมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันโทรหาพวกนาย แต่ไม่มีใครรับสาย อาน่าก็ปิดโทรศัพท์อีก ฉันก็แค่เป็นห่วง..." ผมพูดเสียงแผ่วและไหล่สั่น “ฉันก็เลยตัดสินใจมาดูเธอนี่ไง"“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนะว่าเธออยู่ไหน งั้นเชิญออกไปได้แล้ว”เขามีสิทธิ์ทุกประการที่จะขอให้ผมออกจากบ้านและชีวิต แต่ผ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 430

    ไอเดน"ไม่เป็นไรแล้วค่ะ" ชารอนพูดขณะที่เธอโอบแขนรอบไหล่ "คุณต้องหยุดโทษตัวเองเรื่องนี้ได้แล้ว ที่รัก มันไม่ใช่ความผิดของคุณ และการทุ่มเทตัวเองให้กับการสอบสวนทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วยเลย""ผมต้องหาตัวคนผิดมาให้ได้ ชารอน ผมต้องหาว่าใครทำเรื่องนี้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมทำเพื่อลูกสาวผมได้ ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกผิดนี้ทุเลาลง" "ถ้ามันเป็นวิธีเดียว คุณก็ควรทำอยู่แล้ว" เธอให้กำลังใจ "ฉันจะคอยดูแลให้พ่อช่วยในคดีนี้ด้วย ฉันสัญญา"พ่อของเธอโทรหาผมครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกสาวผม ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรกับลูกสาวเขาเลย และเขาฟังดูไม่พอใจนัก ผมประหลาดใจด้วยซ้ำที่เธอจะบอกเรื่องนั้นกับพ่อของเธอ ผมสงสัยว่าเขาอยากจะช่วยเปิดโปงฆาตกรของเด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขาในทางใดทางหนึ่งหรือไม่ แต่ผมเก็บเรื่องนั้นไว้กับตัวเอง"ขอบคุณครับ" ผมบอกเธอแทนเธอโอบกอดผมครึ่งหนึ่ง และคราวนี้ไม่ได้ผละออกทันที ในวันแบบนี้เองที่เธอไม่ได้กระโดดหนีจากผมเหมือนผมติดเชื้อเมื่อใดก็ตามที่ผมพยายามสัมผัสเธอ"แล้วคุณจะยิ้มให้ฉันไหม?" เธอยิ้มขณะที่ดึงผิวแก้มของผมเพื่อพยายามทำให้ผมยิ้มเมื่อผมเอามือของเธอออก เธอก็แสร้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status