All Chapters of ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ: Chapter 471 - Chapter 480

492 Chapters

บทที่ 471

ในสมองของอวิ๋นฝูหลิงพลันเกิดความคิดอันหาญกล้าขึ้นมาเป็นไปได้หรือไม่ว่าชุยไทเฮาคิดจะกวาดล้างในคราเดียว?วันนี้คนมารวมตัวกันมากมายถึงเพียงนี้ หากชุยไทเฮาเตรียมการไว้ล่วงหน้านานแล้ว เพื่อฉวยโอกาสควบคุมพวกเขา หลังจากนั้นก็กดดันให้ฮ่องเต้จิ่งผิงสละราชบัลลังก์ เขียนพระราชโองการ ส่งต่อบัลลังก์ให้องค์ชายสาม ก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้มากทีเดียวทว่าฮ่องเต้จิ่งผิงกับเซียวจิ่งอี้ต่างมิได้โง่เขลา คงมิถูกเอาชนะได้ง่ายดายถึงเพียงนี้กระมัง?โดยเฉพาะฮ่องเต้จิ่งผิงตั้งแต่แรกเขาก็สามารถทำให้ชุยไทเฮาสนับสนุนเขาซึ่งเป็นโอรสบุญธรรมขึ้นครองบัลลังก์ได้ เห็นได้ว่าเต็มไปด้วยแผนการไม่ขาดเขาเป็นฮ่องเต้มาหลายปี อำนาจควบคุมวังหลวงและราชสำนัก ก็มากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ชุยไทเฮาคิดจะเปลี่ยนแปลงวังหลวง เกรงว่าย่อมไม่ง่ายถึงเพียงนั้นอวิ๋นฝูหลิงกำลังคิดเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ บนเตียงก็มีการเคลื่อนไหวขึ้นมาอย่างกะทันหันจากนั้นก็มีเสียงไออย่างรุนแรงพักหนึ่ง ชุยไทเฮาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นนางกำนัลผู้ดูแลตำหนักโซ่วคังเห็นเช่นนั้นก็มีสีหน้ายินดี รีบเอ่ยเสียงดัง “ไทเฮาทรงฟื้นแล้ว...”ฮ่องเต้จิ่งผิงซึ่งประทับอยู่ข้างเตียงได้
Read more

บทที่ 472

ฮ่องเต้จิ่งผิงพยักหน้า กล่าวว่า “ย่อมเป็นเรื่องดี”ในใจเซียวจิ่งอี้กลับเต้น ‘ตึกตัก’ ครู่หนึ่ง รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีอย่างอธิบายไม่ถูกทว่าชุยไทเฮาในฐานะผู้อาวุโส นางเจาะจงว่าต้องการให้อวิ๋นฝูหลิงอยู่ดูแล ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่ฮ่องเต้จิ่งผิงก็ไม่อาจคัดค้านได้อย่างเปิดเผยเช่นกันในใจเซียวจิ่งอี้ไม่เต็มใจจะให้อวิ๋นฝูหลิงอยู่ดูแลอย่างไรก็ตามการกระทำเหล่านี้ของชุยไทเฮา ในสายตาของพวกองค์ชายใหญ่ กลับเห็นว่าเป็นการกระทำที่แสดงความสนิทสนมสำหรับบุคคลเช่นชุยไทเฮาและฮ่องเต้จิ่งผิง ผู้ที่จะสามารถอยู่ดูแลข้างกายได้ หากไม่ใช่บุคคลที่พวกเขาชื่นชอบ ก็ย่อมเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสถานะสูงส่งนี่ถือเป็นการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากชุยไทเฮาเป็นฝ่ายเอ่ยว่าให้อวิ๋นฝูหลิงอยู่ต่อ มิใช่เพราะในใจเอนเอียงไปทางเซียวจิ่งอี้หรือ?พวกองค์ชายใหญ่ต่างอิจฉาจนดวงตาแทบแดงก่ำขณะเดียวกันในใจก็รู้สึกถึงวิกฤตอย่างรุนแรงเดิมทีเซียวจิ่งอี้ก็ได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้จิ่งผิงอยู่แล้ว หากแม้แต่ชุยไทเฮาก็ยังยืนอยู่ข้างเขาด้วย ตำแหน่งรัชทายาทย่อมเป็นของเขามิใช่หรือ?พระชายาองค์ชายใหญ่ได้รับสัญญาณทางสายตาขององค์ชา
Read more

บทที่ 473

ทุกคนได้ยินเช่นนี้ ก็พากันตอบรับและออกไปเซียวจิ่งอี้จูงมือจิงมั่ว และเหลือบมองอวิ๋นฝูหลิงอย่างไม่วางใจอวิ๋นฝูหลิงเงยหน้าสบสายตาเขา ก็พยักหน้าเล็กน้อย แสดงท่าทีว่าเขาไม่ต้องห่วงยามนี้เซียวจิ่งอี้จูงมือจิงมั่ว ขณะเดินไปก็หันกลับมามองอยู่หลายคราหลังออกจากตำหนักโซ่วคังแล้ว เซียวจิ่งอี้ก็ไม่ได้ออกจากตำหนักไปตรง ๆ แต่เบนฝีเท้าตรงไปยังตำหนักจื่อเฉินฮ่องเต้จิ่งผิงกลับมาถึงตำหนักจื่อเฉินก่อน ยามที่เห็นเซียวจิ่งอี้ปรากฏตัว ก็ยังมีท่าทีสงบ ราวกับคาดเดาไว้ก่อนแล้วเขาผลักกองฎีกาไปทางเซียวจิ่งอี้ “ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ก็มาช่วยเราจัดการฎีกาพวกนี้เถอะ”เซียวจิ่งอี้เคยช่วยฮ่องเต้จิ่งผิงจัดการเรื่องงานของราชสำนักมาก่อนฮ่องเต้จิ่งผิงก็ตั้งใจให้เซียวจิ่งอี้ฝึกฝน จึงเอาราชกิจที่ไม่เล็กไม่ใหญ่มาให้เขาฝึกประสบการณ์เรื่องการตรวจสอบฎีกาเช่นนี้ ก็เคยทำมาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกันเพียงแต่คนของตำหนักจื่อเฉินล้วนปิดปากเงียบ เซียวจิ่งอี้กับฮ่องเต้จิ่งผิงก็ต่างคิดตรงกันว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ออกไปฮ่องเต้จิ่งผิงมอบราชกิจในปัจจุบันส่วนใหญ่ให้เซียวจิ่งอี้ ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นโดยพลันเขาโบกมือให้จิงมั่ว
Read more

บทที่ 474

ก่อนหน้านี้อวิ๋นฝูหลิงพบว่าชุยไทเฮาแสร้งทำเป็นหมดสติ ก็ยังรู้สึกแปลกใจ คิดไม่ตกว่านางจะทำสิ่งใดนางคิดไปร้อยแปดพันเก้า คิดแม้กระทั่งว่าจะกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงในวังหลวง ทว่ากลับคาดไม่ถึงว่านี่จะเป็นอุบายที่วางไว้เพื่อนางนางไม่มีคุณธรรม ไม่มีความสามารถหรืออย่างไร จึงทำให้ชุยไทเฮาใส่ใจเช่นนี้?เพียงแต่เหตุใดชุยไทเฮาจึงเพ่งเล็งนางอย่างกะทันหันเช่นนี้?อวิ๋นฝูหลิงใคร่ครวญอย่างรอบคอบ ก่อนหน้านี้นางมิได้ทำสิ่งใดให้ชุยไทเฮาขุ่นเคืองมาก่อนชุยไทเฮาบำเพ็ญสมาธิและสักการะพระพุทธศาสนาอยู่ในตำหนักโซ่วคัง ไม่ชอบให้ใครมารบกวนด้วยเหตุนี้นอกจากวันที่สิบห้าซึ่งเป็นวันที่ต้องมาทำความเคารพทุกเดือนแล้ว อวิ๋นฝูหลิงก็มีโอกาสได้พบชุยไทเฮาน้อยมากทุกครั้งที่พบกัน ชุยไทเฮาก็ล้วนมีความน่านับถือเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจต่อนางแม้แต่น้อยทันใดนั้นอวิ๋นฝูหลิงก็นึกถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในสกุลชุยจวนเฉิงเอินกงผู้อื่นไม่รู้ แต่ในใจอวิ๋นฝูหลิงกลับรู้ดี เหตุการณ์หลายอย่างในสกุลชุย ล้วนมีมือของเซียวจิ่งอี้อยู่เบื้องหลังแม้เซียวจิ่งอี้จะหนุนคลื่นลมให้สูง ทำให้ความจริงถูกเปิดเผย แต่สืบสาวจนถ
Read more

บทที่ 475

ซางเถาถูกคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงทำให้สำลักโดยพลัน และไม่รู้ว่าควรตอบโต้อย่างไรไปชั่วขณะหนึ่งนางเป็นสินเดิมติดตัวของชุยไทเฮา ตามเข้ามาอยู่กับชุยไทเฮาในวังหลวง ผ่านลมฝนมากว่าสิบปี และเป็นคนสนิทซึ่งชุยไทเฮาให้ความสำคัญมานานแม้นางจะเป็นข้ารับใช้ แต่ทุกคนในวังต่างก็เรียกนางว่ากูกู แม้แต่เหล่าสนมของฮ่องเต้จิ่งผิง เมื่ออยู่ต่อหน้านางก็ยังต้องมีความเคารพอาศัยอำนาจของชุยไทเฮาเป็นสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือมานาน ซางเถาลืมไปนานแล้วว่าตัวเองมีสถานะเป็นบ่าวทว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงกลับทำลายจินตนาการของนางโดยตรงประโยคที่ว่า ‘เคยชินกับการปรนนิบัติผู้คนแล้ว’ เมื่อได้ยินเข้าหูซางเถา ก็รู้สึกเพียงว่าบาดหูอย่างแรงชุยไทเฮาเมื่อครู่เพื่อสร้างปัญหาให้อวิ๋นฝูหลิง จึงจงใจบอกว่าตัวเองกระหายน้ำแต่ในยามนี้ นางกลับรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาจริง ๆ“น้ำ น้ำ...”ซางเถาได้ยินว่าชุยไทเฮาต้องการน้ำ ก็ไปรินน้ำแก้วหนึ่งมาตามสัญชาตญาณ หลังจากนั้นก็พยุงนางขึ้นดื่มน้ำแก้วหนึ่งการเคลื่อนไหวทั้งหมดราบรื่น และเชี่ยวชาญเป็นอย่างมากหลังจากชุยไทเฮาดื่มน้ำแก้วหนึ่งเสร็จแล้ว ก็ทอดถอนใจเสียงหนึ่งอย่างสบายใจอวิ๋นฝูหลิงปรบมื
Read more

บทที่ 476

เมล็ดสนที่เดิมทีปอกยากมาก เมื่อมาอยู่ในมืออวิ๋นฝูหลิง ก็ราวกับกลายเป็นเปลือกบางกรอบ ซึ่งสามารถปอกได้โดยง่ายปอกเมล็ดแล้วเมล็ดเล่า อวิ๋นฝูหลิงปอกเปลือกได้รวดเร็วและยอดเยี่ยมชุยไทเฮากับซางเถาเบิกตาโตอย่างตกใจผ่านไปครู่หนึ่ง ชุยไทเฮาก็หาเสียงของตัวเองกลับมาได้ “ของรูปทรงแปลกประหลาดในมือเจ้าคืออันใดกัน?”อวิ๋นฝูหลิงเขย่าอุปกรณ์ปอกเปลือกในมือ “ไทเฮาถามถึงสิ่งนี้หรือเพคะ? สิ่งนี้หม่อมฉันเรียกมันว่าอุปกรณ์ปอกเปลือกเพคะ”“ไม่ว่าจะปอกเปลือกถั่วสมอง หรือปอกเปลือกเมล็ดสน เมล็ดซิ่ง เมล็ดเกาลัด เมล็ดแตงโม ก็ล้วนใช้ได้ทั้งสิ้น”“ไทเฮาทรงชอบเสวยเมล็ดสน ช่างบังเอิญนัก หม่อมฉันไม่เพียงแต่ชอบกินเมล็ดสน ทว่าของป่าอย่างพวกถั่วสมองหรือเมล็ดเกาลัด หม่อมฉันก็ชอบกินเช่นกันเพคะ”“ดังนั้นหม่อมฉันจึงตั้งใจทำอุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งทั้งสะดวกและใช้งานง่าย”ชุยไทเฮาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่งเข้ามาในวัง ก็ยังพกอุปกรณ์ปอกเปลือกเข้ามาในกระเป๋าด้วย คงจะชอบกินมากทีเดียว!สายตาของชุยไทเฮาจับจ้องอุปกรณ์ปอกเปลือกในมือของอวิ๋นฝูหลิง อดไม่ได้ที่จะแอบทอดถอนใจ หากไม่พูดถึงเรื่องอื่น อวิ๋นฝูหลิงก็เป็นคนที่ฉล
Read more

บทที่ 477

น้ำเสียงของฮ่องเต้จิ่งผิงธรรมดา ราวกับเพียงแค่ตรัสถามอย่างไม่ยี่หระสีหน้าของชุยไทเฮาเปลี่ยนไปเล็กน้อย กำลังจะเอ่ย อวิ๋นฝูหลิงกลับชิงตอบก่อนก้าวหนึ่ง“ทูลฝ่าบาท แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่หม่อมฉันปรนนิบัติคนป่วย ทำให้ยังไม่คุ้นชิน แต่เสด็จย่ามีเมตตายิ่ง จึงไม่ถือสาหม่อมฉันเพคะ”“ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะคนรุ่นหลัง การยกชารินน้ำ ปรนนิบัติถ่ายหนักถ่ายเบาเพื่อเสด็จย่า ก็เป็นการแสดงความกตัญญูที่สมควรแล้วเพคะ”“เมื่อครู่เสด็จย่ายังชมหม่อมฉันเกินจริง บอกว่านางชอบกินเมล็ดสน หม่อมฉันจึงปอกเปลือกใส่ถ้วยใหญ่ให้ใบหนึ่ง เสด็จย่าก็ดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง”ชุยไทเฮาได้ยินมุมปากก็กระตุกเล็กน้อยอย่าคิดว่านางฟังไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงมิได้จะบอกว่านางมีเมตตา เห็นได้ชัดว่าเป็นการแอบขยายความเกินจริง ร้องทุกข์แก่ฮ่องเต้จิ่งผิงนางคิดไม่ถึงเลยว่าอวิ๋นฝูหลิงจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ ถึงขั้นกล้าทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้านางสาวน้อยผู้นี้ไม่กลัวนางเลยหรือ?แววตาของฮ่องเต้จิ่งผิงมืดครึ้มเล็กน้อย ทว่าท่าทีและน้ำเสียงกลับไม่เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว ราวกับเป็นคำพูดไร้สาระ และกล่าวอย่างเฉยชา “พระชายาอี้อ๋องทำงานหนักทีเดียว”“งานจิ
Read more

บทที่ 478

เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้จิ่งผิงก็มองบางสิ่งออกเพียงแต่บางเรื่อง ไม่อาจแสดงออกชัดเจนเกินไปได้เซียวจิ่งอี้นึกถึงรอยยิ้มเชื่อมั่นในตัวเองอันงดงามของอวิ๋นฝูหลิง หัวใจก็กลับมาเต้นจังหวะปกติ“เสด็จพ่อ ใกล้ถึงเวลาลงกลอนประตูวังแล้ว ยามนี้ลูกต้องขอพาจิงมั่วออกจากวังก่อนพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้จิ่งผิงโบกมือเซียวจิ่งอี้กับเซียวจิงมั่วโค้งคำนับก่อนจะจากไปหลังมองส่งสองพ่อลูกจนลับสายตา ฮ่องเต้จิ่งผิงก็ประทับบนรถพระที่นั่งอีกครา และกลับไปยังตำหนักจื่อเฉินเซียวจิ่งอี้ไม่สบายใจที่จะปล่อยให้อวิ๋นฝูหลิงอยู่ในวังหลวงคนเดียว แต่เขาก็ไม่สะดวกจะอยู่ต่อเช่นกันด้วยเหตุนี้ ก่อนออกจากวังหลวง เซียวจิ่งอี้จึงเรียกองครักษ์ลับซึ่งติดตามมาตลอด ให้พวกเขาทั้งหมดอยู่ในวังหลวง เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยของอวิ๋นฝูหลิงแม้แต่เทียนเฉวียนที่เปลี่ยนจากทำงานในที่ลับมาเป็นที่แจ้ง ก็ยังถูกเซียวจิ่งอี้ทิ้งไว้ในวังหลวงเช่นกันหลังออกจากประตูวังหลวง ก็นั่งรถม้ากลับไปที่จวนอี้อ๋อง จิงมั่วจึงเพิ่งถามออกมาว่า “ท่านพ่อ ไทเฮาจงใจให้ท่านแม่อยู่ต่อ เพราะอยากรังแกท่านแม่หรือ?”เซียวจิ่งอี้เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “เหตุใดจึงพูดเช่นนี้?”จิ
Read more

บทที่ 479

ยาต้มที่ทั้งขมทั้งฝาดไหลเข้าปากชุยไทเฮาดื่มไปเพียงอึกเดียว ก็ขมวดคิ้วแน่น“ยาคืนนี้ เหตุใดจึงขมถึงเพียงนี้?”อวิ๋นฝูหลิงคิดในใจว่าย่อมต้องขมอยู่แล้วนางจงใจไปหาพวกโอวหยางหมิงและหมอหลวงเพื่อหารือเรื่องจ่ายยา และใช้หวงเหลียนมากกว่าก่อนหน้านี้สองเท่า หากไม่ขมก็แปลกแล้ว!ใบสั่งยาของนาง ก็เหมาะกับอาการป่วยของชุยไทเฮาด้วยแม้ว่าหมอหลวงทั้งสำนักหมอหลวงจะล้วนเข้ามาตรวจอาการแล้ว ก็ยังไม่พบจุดผิดปกติยิ่งไปกว่านั้นเหล่าหมอหลวงที่รับผิดชอบรักษาชุยไทเฮา ก็แทบรอไม่ไหวที่จะใช้ใบสั่งยาที่ยอดเยี่ยมกว่าของอวิ๋นฝูหลิงถึงอย่างไรพวกเขาก็อยากรักษาชุยไทเฮาให้หายดีโดยเร็วที่สุดแม้อาการป่วยจะหายดี ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาหากอาการป่วยของไทเฮาผ่านไปนานแล้วยังไม่ดีขึ้น เบื้องบนย่อมโทษว่าพวกเขาทักษะแพทย์ไม่ดีพอ และถูกมองว่าไร้ค่า จนแม้แต่ชีวิตน้อย ๆ ก็อาจรักษาไว้ไม่ได้ส่วนเรื่องที่ยาต้มขมเกินไป โธ่ถัง ยารสขมย่อมดีต่ออาการป่วย ไหนเลยจะมียาที่ไม่ขมซางเถาเห็นชุยไทเฮาไม่ยอมดื่มยา ทั้งยังโกรธเกรี้ยวอีกด้วยถึงอย่างไรช่วงนี้ชุยไทเฮาก็สุขภาพแย่ลงเรื่อย ๆ จนแทบจะต้องกินยาตลอดยาต้มรสชาติไม่ดี ดังนั้
Read more

บทที่ 480

ชุยไทเฮาเดือดดาลเป็นอย่างมาก “ข้าไม่ได้บอกไปแล้วหรือว่าอย่าปลุกข้าอีก!”อวิ๋นฝูหลิงยกถ้วยยา “ไทเฮา ทางด้านโรงโอสถหลวงนำยาที่ต้มเสร็จแล้วมาส่งเพคะ”“การดื่มยาเป็นเรื่องสำคัญ จะล่าช้าไม่ได้เพคะ”พูดจบ นางก็หันไปมองซางเถา “ซางเถากูกู ข้าล้วนทำเพื่อไทเฮา ท่านว่าจริงหรือไม่?”ซางเถา “...”อวิ๋นฝูหลิงอ้างว่าทำเพื่อไทเฮา คำพูดที่กล่าวล้วนไม่มีส่วนที่ผิดแม้แต่น้อยซางเถามองออกลาง ๆ ว่ากำลังเกิดบางสิ่งขึ้นแต่นางไม่กล้าเชื่อว่า อวิ๋นฝูหลิงจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ ถึงขั้นกล้าตอบโต้ไทเฮาแน่นอนว่าคงเป็นการคิดไปเอง น่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นซางเถาเห็นอวิ๋นฝูหลิงถือถ้วยยา ขณะมองตรงมาที่นาง ราวกับรอให้นางเอ่ยปากซางเถาจะพูดสิ่งใดได้ นางทำได้เพียงโน้มน้าวชุยไทเฮาให้ดื่มยาก่อนค่ำคืนนี้ ชุยไทเฮาเรียกได้ว่าลำบากเป็นอย่างยิ่งทุกครั้งที่เพิ่งหลับ ก็จะถูกอวิ๋นฝูหลิงเรียกให้ตื่นผ่านไปครู่หนึ่งก็ป้อนน้ำให้นางดื่ม ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถามว่านางอยากไปเข้าห้องน้ำหรือไม่ บางครั้งก็จะนวดไหล่นวดขาให้นาง วุ่นวายจนชุยไทเฮาทุกข์ใจชุยไทเฮาเพิ่งจะรู้สึกตัวในยามนี้มิน่าเล่า อวิ๋นฝูหลิงจึงเป็นฝ่ายอยาก
Read more
PREV
1
...
454647484950
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status