บททั้งหมดของ ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ: บทที่ 461 - บทที่ 470

492

บทที่ 461

องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อไม่ได้พูดถึงเรื่องของชุยหย่าจิ้งกับเซียวจิ่งอี้ในวันนั้นเพราะนางรู้ว่าเรื่องนี้จะไปถึงหูของเซียวจิ่งอี้ในไม่ช้าก็เร็ว นางไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ไม่จำเป็นและด้วยนิสัยของเซียวจิ่งอี้ ไม่มีทางปล่อยไปเช่นนั้นเด็ดขาดเป็นอย่างที่คิดไว้ เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง ทางสกุลชุยก็เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่แม้แต่องค์ชายสามก็ไม่รอดแม้องค์หญิงใหญ่ฉางเล่อจะไม่สนใจเรื่องของราชสำนัก แต่ก็รู้ดีอยู่แก่ใจวันนั้นชุยหย่าจิ้งสามารถพูดคำพูดเช่นนั้นออกมา นอกจากสกุลชุยสอนลูกสาวไม่ดีแล้ว อาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมของนางด้วยการชิงตำแหน่งทายาทสายหลัก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อยินดีออกหน้าปกป้องอวิ๋นฝูหลิง แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองยิ่งกว่านั้นถ้าหากเซียวจิ่งอี้ตัดสินใจะเลือกที่จะเดินบนเส้นทางที่นำไปสู่ความสูงศักดิ์ เช่นนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องบางเรื่องท้ายที่สุดก็ต้องให้เขาไปเผชิญหน้า ฝึกฝนขัดเกลาประสบการณ์ด้วยตัวเองขณะที่จวนเฉิงเอินกงกับเหล่าองค์ชายกำลังปวดหัว เซียวจิ่งอี้กลับถูกฮ่องเต้จิ่งผิงเรียกเข้าวังเซียวจิ่งอี้ก้าวเข้าต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 462

“อีกทั้งนี่เป็นความแค้นส่วนตัวของกระหม่อมกับสกุลชุย เอาคืนแค่นี้ก็พอประมาณแล้ว”“เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น กระหม่อมคิดไม่ถึงและไม่ได้มีส่วนร่วมจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมจะรู้ได้อย่างไรว่าต่อมายังจะส่งผลต่อเรื่องมากมายเช่นนี้?”ฮ่องเต้จิ่งผิงมองเซียวจิ่งอี้ที่สีหน้าเรียบเฉยและเหมือนไม่รู้อะไร เห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในภายหลังเกินความคาดหมายของเขาเขาเลิกคิ้ว ถามอีก “บุตรสาวภรรยาเอกของสกุลชุยล่วงเกินพระชายาอี้อ๋อง จึงทำให้เจ้าไม่พอใจไม่ใช่หรือ?”“เจ้าไม่เล่นงานนาง แต่กลับไปเล่นงานคุณชายใหญ่สกุลชุย นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”เซียวจิ่งอี้กล่าวอธิบาย “ที่นางอวดดีถึงขั้นกล้ารังแกพระฉายาของกระหม่อม ก็เพราะอาศัยอิทธิพลของสกุลชุยไม่ใช่หรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ กระหม่อมจัดการสกุลชุยไม่ง่ายกว่าหรอกหรือ?”“สกุลชุยได้รับบทเรียน ย่อมรู้ว่าต้องสั่งสอนบุตรสาวของตัวเองอย่างไร”“เฉิงเอินกงรักลูกชายคนโตของเขาที่สุดไม่ใช่หรือ กระหม่อมก็เลยเอาลูกชายคนโตของเขามาทำให้ดูเป็นตัวอย่าง!”“อีกทั้งชุยหย่าจิ้งเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าหากกระหม่อมจัดการนางแค่คนเดียว ผู้อื่นจะไม่ว่ากระหม่อมที่เป็น
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 463

เกิดความวุ่นวายในราชสำนักหลายวัน สุดท้ายฮ่องเต้จิ่งผิงไม่ได้สั่งให้คนตรวจสอบ อีกทั้งลงโทษองค์ชายทั้งหมดโดยตรงบ้างก็หักเบี้ยเดือน บ้างก็กักบริเวณไม่ลำเอียงไม่เข้าข้าง ไม่รอดแม้แต่คนเดียวแม้แต่เซียวจิ่งอี้ก็ถูกตำหนิเหล่าขุนนางเบิกตากว้างด้วยความงงงวย ชั่วขณะไม่รู้ว่าฮ่องเต้จิ่งผิงคิดจะทำอะไรกันแน่เฉิงเอินกงก็ถูกจับผิดในเรื่องงานเช่นกัน ถูกต้องข้อหาละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ หักเบี้ยเดือนครึ่งปี และลดตำแหน่งหนึ่งขั้นนับตั้งแต่ฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ เคารพและกตัญญูต่อชุยไทเฮาแม่บุญธรรมคนนี้มากแม้แต่จวนเฉิงเอินกงก็ได้รับความเมตตาและความโปรดปรานไม่หยุดนี่เป็นครั้งแรกที่ลงโทษเฉิงเอินกงหักเบี้ยเดือนครึ่งปีอะไรนั่น เฉิงเอินกงไม่ใส่ใจเลยสักนิดจวนเฉิงเอินกงเป็นครอบครัวใหญ่ เบี้ยเดือนแค่นั้นจะพอเลี้ยงชีพได้อย่างไรเบี้ยเดือนแค่นั้น เฉิงเอินกงยังไม่เห็นอยู่ในสายตาสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอัดอั้นทรมานใจคือ ถูกลดตำแหน่งหนึ่งขั้นอย่าดูถูกว่าเป็นแค่หนึ่งขั้น ขุนนางมากมายพยายามทั้งชีวิต ก็ไม่สามารถก้าวข้ามหนึ่งขั้นนี้รอเฉิงเอินกงออกจากจวนองค์ชายสาม รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องเจอทั้งหมด ล้ว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 464

ถ้าไม่ใช่รู้สึกแสบร้อนที่ใบหน้า ความเจ็บปวดที่จริงแท้เช่นนี้ คงทำให้นางคิดว่าตัวเองกำลังฝันร้ายและเมื่อได้ยินเสียงของเฉิงเอินกง จิตใจของชุยหย่าจิ้งยิ่งพังทลายแล้ว“ท่านพ่อ ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”“ทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับข้า?”“เหตุใดจึงส่งผลกระทบต่อท่านพ่อ และยังถูกลงโทษหักเบี้ยเดือนกับลดตำแหน่ง”เฉิงเอินกงมองนางแวบหนึ่ง ความโกรธในแววตาไม่ลดน้อยลง “ถ้าหากไม่ใช่เพราะเจ้าไปล่วงเกินพระชายาอี้อ๋อง อี้อ๋องจะลงมือกับพวกเราอย่างต่อเนื่องหรือ?”“อย่าว่าแต่จวนเฉิงเอินกงเลย แม้แต่องค์ชายสามก็ได้รับผลกระทบด้วย”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะความโง่เขลาของเจ้า องค์ชายสามต้องสูญเสียมากเท่าไร?”เฉพาะการค้าที่สามารถทำเงินได้ถูกสกัด รายได้หดหายไปครึ่งหนึ่ง ก็ทำให้องค์ชายสามปวดใจมากแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าเฉิงเอินกง องค์ชายสามคงโบยชุยหย่าจิ้งตายเพื่อระบายความคับข้องใจนานแล้วชุยหย่าจิ้งเบิกตากว้างด้วยความตกใจเหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้?นางก็แค่ต่อว่าอวิ๋นฝูหลิงสองสามคำ และยังถูกองค์หญิงใหญ่ฉางเล่อตบหน้าจนต้องอับอายเพราะเรื่องนี้อวิ๋นฝูหลิงยังได้พูดขู่ไว้ว่าต่อไปจะไม่รักษาให้จวนเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 465

“ท่านแม่” เฉิงเอินกงเรียกฮูหยินผู้เฒ่าชุยถอนสายตากลับ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ได้ยินมาว่าพอเจ้ากลับมาก็ทั้งทุบทั้งตีหย่าจิ้ง มีเรื่องอะไร คุยกับนางดีๆ ไม่ได้หรือ ถึงขั้นต้องลงมือเลย?”น้ำเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าชุยไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเฉิงเอินกงรีบอธิบายความเป็นมาของเรื่องราวทันทีฮูหยินผู้เฒ่าชุยคาดเดาไว้นานแล้วว่าช่วงนี้สกุลชุยเกิดปัญหาอย่างต่อเนื่อง ต้องมีคนเล่นงานสกุลชุยอยู่เบื้องหลังแน่นอนแต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดจากสาเหตุนี้นางเงียบไปชั่วขณะผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงจะถอนหายใจเบาๆ แล้วกล่าว “มาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้ฆ่านางก็ไม่มีประโยชน์”“รีบหาคู่ให้นางออกเรือนเถอะ”เฉิงเอินกงก้มหน้าขานรับเพียงแต่พอนึกถึงเรื่องแต่งงานของชุยหย่าจิ้ง เฉิงเอินกงก็รู้สึกปวดหัวตอนนั้นไม่รู้ว่าฮูหยินของเขาไปดูตัวอย่างไร ทั้งก่อนและหลังล้วนเป็นคนอายุสั้นทั้งสองคน ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของลูกสาวไม่ว่า และยังทำให้นางเสียเวลาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ออกเรือนเฉิงเอินกงคิดว่าครั้งนี้เขาต้องจัดการด้วยตัวเองฮูหยินผู้เฒ่าชุยเห็นเฉิงเอินกงคอตก รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที“เจ้ายืดอกเดี๋ยวนี้ เป็นถึงกั๋วกง เจ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 466

ในใจฮูหยินชุยก็ผิดหวังไม่น้อยไปกว่าเฉิงเอินกงแม้ที่ผ่านมานางรู้สึกว่าสติปัญญาของหลานชายคนโตสู้หลานชายคนรองไม่ได้ แต่อย่างไรก็เป็นลูกชายคนโตของภรรยา อีก อีกทั้งยังหนักแน่นพึ่งพาได้วันข้างหน้าสองพี่น้องรวมใจเป็นหนึ่ง เกื้อหนุนกันและกัน ต้องสามารถทำให้กิจการของสกุลชุยเจริญรุ่งเรืองแน่นอนแต่ปัจจุบันหลานชายคนโตหลงผู้หญิงคนหนึ่งจนสติเลอะเลือน ยังจะแบกรับหน้าที่สำคัญของจวนเฉิงเอินกงได้อย่างไร?โชคดีที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้แต่งตั้งเขาเป็นซื่อจื่อฮูหยินผู้เฒ่าชุยรีบเรียกคนมาทันที กล่าวออกคำสั่ง “ไปตรอกอู๋ถง จับคุณชายกลับมา!”“ส่วนนางจิ้งจอกนั่น ถ่ายทอดคำพูดของข้า ประทานผ้าขาวผืนหนึ่ง ให้นางจบชีวิตตัวเอง”เฉิงเอินกงยืนอยู่ที่ข้างๆ ไม่ได้ออกความเห็นอะไรสำหรับเรื่องนี้เพื่อเมียน้อยคนนั้น ชุยหงเหวยเหลวไหลจริงๆผู้หญิงเช่นนี้ เก็บไว้ไม่ได้จริงๆไม่เช่นนั้นวันข้างหน้ายังไม่รู้ว่าจะส่งผลกระทบต่อชุยหงเหวยอย่างไร!จวนเฉิงเอินกงจะเสียหน้าเพราะเรื่องนี้ไม่ได้!วันรุ่งขึ้น ฮูหยินผู้เฒ่าชุยส่งป้าย เข้าวังได้พบกับชุยไทเฮาแล้วภายในตำหนักโซ่วคัง มีเครื่องหอมกำลังเผาไหม้ในเตาทองแดงรูปหัวสัตว์ กลิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 467

อวิ๋นฝูหลิงก็ชอบหางหนานซิงเด็กรุ่นหลังคนนี้เช่นกันเก็บเขาไว้ข้างกายในฐานะผู้ช่วยก็ดี เมื่อเป็นเช่นนี้นางก็มีผู้ช่วยในด้านของการแพทย์แล้วอวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิด มองไปทางหางหนานซิงแล้วกล่าวถาม “หนานซิง เจ้ายินดีอยู่เป็นผู้ช่วยข้าหรือไม่?”หางหนานซิงยิ้มจนเห็นฟัน “อาจารย์ป้า ข้ายินดี!”เรื่องนี้นายท่านผู้เฒ่าหางเคยถามความเห็นของหางหนานซิงเป็นการส่วนตัวแล้วแม้เขาสามารถตรวจชีพจรให้คนไข้แล้ว แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นผู้ช่วยของอวิ๋นฝูหลิงมันน่าอายตรงไหนติดตามคนเก่ง จึงจะเก่งยิ่งขึ้นปัจจุบันชื่อเสียงของอวิ๋นฝูหลิงเป็นที่เลื่องลือ วิชาผ่าท้องยิ่งไม่มีใครสามารถเทียบได้หางหนานซิงยินดีติดตามเรียนวิชาแพทย์กับอวิ๋นฝูหลิง วันข้างหน้าเขาก็จะเป็นหมอมีชื่อเสียงที่ทุกคนรู้จักเมื่อโอวหยางหมิงเห็นดังนี้ อดด่านายท่านผู้เฒ่าหางเจ้าเล่ห์ในใจไม่ได้นี่ก็ยัดหลานชายเข้าไปอยู่ข้างกายอวิ๋นฝูหลิงแล้วสายตาของเขากวาดผ่านบรรดาหลานชายของตัวเอง กำลังคิดว่าจะส่งใครไปเป็นผู้ช่วยอวิ๋นฝูหลิงเพียงแต่ดูไปดูมา ชั่วขณะก็ไม่มีใครที่เหมาะสมเลยพลันเมื่อมาคิดดูอีกที ช่างเถอะ ฝีมือการแพทย์ของครอบครัวตัวเองก็ไม่ได้แย่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 468

อวิ๋นฝูหลิงบีบจมูกของนางด้วยรอยยิ้ม “ใครว่าเจ้าทำไม่ได้ ขอแค่เจ้ายินดี ก็สามารถเรียนได้!”โอวหยางหลันเงียบไปครู่หนึ่งโอวหยางหมิงแอบถอนหายใจ เดิมทีเขาคิดว่าเด็กผู้หญิงในบ้านไม่มีใครอยากเรียนแพทย์คิดไม่ถึงว่ามีคนหนึ่ง แต่เขากลับไม่รู้ เขาไม่ได้ไปตำหนิมารดาของโอวหยางเชี่ยนอะไร เพราะทางโลกก็เป็นเช่นนี้ วันข้างหน้าลูกสาวต้องออกเรือน มีครอบครัวฝ่ายสามีน้อยมากที่สามารถยอมรับผู้หญิงที่ออกไปเป็นหมอจนถึงปัจจุบัน ก็มีแค่อวิ๋นฝูหลิงคนเดียวไม่ใช่หรือ?อวิ๋นฝูหลิงลุกขึ้นยืน พลางจับมือโอวหยางเชี่ยน พลางมองไปทางโอวหยางหมิง “ท่านปู่โอวหยาง ข้าเลือกเสร็จแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะเอาโอวหยางเชี่ยน เมื่อครู่ท่านบอกให้ข้าเลือกได้เลย จะกลับคำไม่ได้นะเจ้าคะ!”“ข้ากลับคำอะไร?” โอวหยางหมิงเลิกคิ้ว “นี่คือโอกาสของเด็ก ข้าดีใจยังแทบไม่ทันเลย!”กล่าวจบ เขามองไปทางโอวหยางหลันโอวหยางหลันเข้าใจแล้ว กล่าวทันที “ทางแม่ของเชี่ยนเชี่ยน ข้าจะไปคุยเอง”โอวหยางหมิงจึงจะพยักหน้าด้วยความพอใจเขากวักมือให้โอวหยางเชี่ยนรอโอวหยางเชี่ยนเดินไปถึงตรงหน้าเขา เขายกมือลูบศีรษะของนาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เด็กดี ต่อไปตั้งใจเรียนฝี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 469

หางหนานซิงกับโอวหยางเชี่ยนรับป้ายสวัสดิภาพที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้ กล่าวพร้อมกัน“ขอบคุณอาจารย์!”“ศิษย์จะจดจำคำสอนของอาจารย์!”อวิ๋นฝูหลิงก็คิดไม่ถึงว่างานเลี้ยงขอบคุณแค่งานเดียว ตนจะมีลูกศิษย์เพิ่มมาสองคนรุ่งเช้าของงานเลี้ยงขอบคุณ นายท่านผู้เฒ่าหางและคนอื่นก็เดินทางกลับเจียงโจวแล้วผ่านไปสองวัน สวินเส้าคังก็มาอำลาอวิ๋นฝูหลิงเขาอยู่เมืองหลวงมาสักพักแล้ว ถึงเวลากลับเจียงเป่ยแล้วแม้ในใจอวิ๋นฝูหลิงอาลัยอาวรณ์ แต่ใต้ฟ้าไม่มีงานเลี้ยงที่ไม่เลิกลาอีกทั้งที่เจียงเป่ย ยังมีความรับผิดชอบที่สวินเส้าคังต้องแบกรับนายท่านผู้เฒ่าหางกับสวินเส้าคังและคนอื่นไปแล้ว จู่ๆ อวิ๋นฝูหลิงก็รู้สึกไม่ค่อยชิน มักจะรู้สึกว่าไม่มีคนเหล่านี้ ชีวิตก็ไม่ได้คึกคักเช่นนั้นแล้วดีที่อวิ๋นฝูหลิงรับลูกศิษย์มาใหม่สองคน ปกติก็สอนลูกศิษย์ ไปรักษาที่สำนักช่วยชีพ แวะไปตรวจดูโรงงานยากับสวนสมุนไพรเป็นครั้งคราว และยังต้องแบ่งเวลามาอยู่กับจิงมั่วลูกชายคนนี้ ชีวิตสุขสมบูรณ์เลยทีเดียววันนี้อวิ๋นฝูหลิงอนุญาตให้ตัวเองหยุดหนึ่งวัน บอกว่าจะพาเซียวจิงมั่วไปเที่ยวนอกเมืองด้วยเหตุนี้นางยังได้ไปขอความร่วมมือกับเซียวจิ่งอี้ แบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 470

“นับตั้งแต่ไม่มีครอบครัวเจียงโจวอ๋อง สุขภาพของไทเฮาก็แย่มาโดยตลอด”“ทางหมอหลวงบอกแค่ว่าอายุมากแล้ว เจ็บป่วยเล็กน้อยก็เป็นเรื่องปกติ”“ถ้าหากไทเฮาให้เจ้าตรวจ เจ้าอย่าตัดสินใจเอง ต้องปรึกษากับหมอหลวงคนอื่นก่อน เข้าใจหรือไม่?”อวิ๋นฝูหลิงกะพริบตาปริบๆ รู้สึกว่าไปดูแลครั้งนี้ เกรงว่าไม่ได้ง่ายเช่นนั้นเซียวจิ่งอี้โน้มกาย ขยับไปที่ข้างหูอวิ๋นฝูหลิง ลดเสียงเบาจนสามารถได้ยินกันแค่สองคน“เสด็จพ่อไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของไทเฮา ที่ผ่านมายังสามารถรักษาความสัมพันธ์แม่ใจดี ลูกกตัญญู”“แต่เพราะเรื่องของอ๋องเจียงโจว ทำให้ระหว่างไทเฮากับเสด็จพ่อเกิดรอยร้าว ทั้งสองต่างมีความคับข้องใจ”เมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยินก็จับมือของเซียวจิ่งอี้ เพื่อบอกว่าตัวเองเข้าใจแล้วในเมื่อไทเฮาเกิดความไม่พอใจ เกรงว่าความคิดบางอย่างในอดีตก็เปลี่ยนไปแล้วไม่มีเจียงโจวอ๋องลูกตนนี้แล้ว ฮ่องเต้จิ่งผิงก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของนาง ในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย มีเพียงองค์ชายสามที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับนางคิดว่าไทเฮาคงไม่อยากเห็นเซียวจิ่งอี้ขึ้นครองบัลลังก์ในวันข้างหน้าแน่นอนทางฮ่องเต้จิ่งผิงยกย่องไทเฮาที่เป็นแม่บุญธรรมคนนี้เป็นไทเฮาผู้
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
454647484950
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status