All Chapters of ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ: Chapter 301 - Chapter 310

500 Chapters

บทที่ 301

อวิ๋นฝูหลิงประสานมือไปทางชาวบ้านที่เข้ามาล้อมวงดู พลางยิ้มแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว ฮ่องเต้ไท่จูเป็นผู้พระราชทานแผ่นป้ายนี้ให้แก่สกุลอวิ๋น”“ย่อมมีเพียงคนสกุลอวิ๋นเท่านั้นที่ใช้ได้!”“ข้าน้อยอวิ๋นฝูหลิง เป็นธิดาเพียงคนเดียวของจี้ชุนโหวผู้ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่เหลือแต่เพียงผู้เดียวของสกุลอวิ๋น”“แน่นอนว่าข้าไม่อาจทนมองแผ่นป้ายที่ฮ่องเต้ไท่จูพระราชทานมาให้สกุลอวิ๋นของข้าถูกคนนอกยึดเอาไปได้”ยังไม่ทันที่คำพูดของอวิ๋นฝูหลิงจะจบ คนที่รายล้อมอยู่ก็พากันส่งเสียงวิจารณ์ขึ้นมาจนเสียงดังหึ่งหั่งอวิ๋นฝูหลิงโบกมือให้ลูกพี่อู๋และคนอื่น ๆ แล้วออกคำสั่งอีกครั้ง “ปลดป้าย!”อวิ๋นกานซงรีบร้อนกระวีกระวาดตามมาเมื่อมาถึงก็ได้ยินอวิ๋นฝูหลิงสั่งให้คนปลดป้ายออกแล้ว“หยุดนะ!” เขาตะโกนลั่น รีบพุ่งตัวเข้าไป มองอวิ๋นฝูหลิงด้วยสายตาเดือดดาล“อวิ๋นฝูหลิง เจ้าถึงกับกล้าปลดป้ายออกเชียวหรือ นี่เป็นป้ายที่ฮ่องเต้ไท่จู่พระราชทานให้เชียวนะ!”อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้ว “ไยข้าจึงจะไม่กล้า?”“ท่านเองก็พูดอยู่ว่าฮ่องเต้ไท่จูเป็นผู้พระราชทานป้ายนี้ลงมาให้ ฮ่องเต้ไท่จูพระราชทานให้สกุลอวิ๋นต่างหาก!”“เช่นน
Read more

บทที่ 302

“ทุกท่าน ที่นี่ของข้าต่างหากที่รับประกันเลยว่าเป็นสำนักช่วยชีพแท้จริง”“มิได้มีเพียงป้ายคำขวัญที่ฮ่องเต้ไท่จูพระราชทานให้เท่านั้น กระทั่งชื่อสำนักช่วยชีพนี้ก็เป็นองค์ฮ่องเต้ไท่จูที่พระราชทานนามให้ในปีนั้นเช่นกัน”“วันนี้สำนักช่วยชีพเปิดทำการใหม่แล้ว เพียงแต่ผู้ป่วยไข้ที่เข้ามาดูอาการที่สำนักในสามวันแรกมิจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายการตรวจไข้ ทั้งค่ายังลดลงกึ่งหนึ่ง!”“ที่ร้านของเรามียาลูกกลอนทุกอย่างที่เพิ่งออกใหม่ เหมาะยิ่งสำหรับซื้อกลับไปสำรองใช้ในบ้าน”สิ้นคำของอวิ๋นฝูหลิง ด้านข้างทั้งสองของบานประตูก็ปล่อยประทัดยาวเหยียดลงมา ชั่วพริบตานั้น เสียงประทัดดังเปรี้ยงปร้าง เสริมบรรยากาศแห่งความปีติให้แก่กิจการเปิดใหม่ครั้นได้ยินว่าค่ายาลดลงกึ่งหนึ่ง ทั้งยังมียาลูกกลอนอีก ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยก็ใจเต้นโครมครามในทันที พากันกรูเข้าไปด้านในสำนักช่วยชีพอวิ๋นฝูหลิงเตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อวันนี้ ดังนั้นแม้ในสำนักช่วยชีพจะยุ่งทว่าก็มิได้วุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นนายท่าน หรือเสี่ยวเอ้อร์ และท่านหมอในสำนัก ล้วนทำงานในหน้าที่ไปตามลำดับขั้นอวิ๋นฝูหลิงเห็นแล้วจึงแอบถอนหายใจออกมาเบา ๆจากนั้นจึงส่งสายตาให้
Read more

บทที่ 303

อวิ๋นฝูหลิงวางจอกชาในมือลง แล้วกล่าวอย่างเฉื่อย ๆ ว่า “ท่านปู่ทั้งสอง พวกท่านน่าจะรู้ดีว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับสำนักช่วยชีพนั้นคือสิ่งใด?”โอวหยางหมิงและนายท่านผู้เฒ่าหางมองหน้ากัน เผยสีหน้าไม่เข้าใจนักอวิ๋นฝูหลิงยิ้มแย้มไม่พูดจา ยกมือขึ้นชี้ไปทางกรอบประตูโอวหยางหมิงและนายท่านผู้เฒ่าหางตรัสรู้ได้ในทันทีทันใด ทั้งคู่แทบจะตบโต๊ะลั่นในเวลาพร้อม ๆ กัน ทั้งยังเอ่ยถามออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า “ป้ายพระราชทานแผ่นนั้น!”สำนักช่วยชีพมีฐานะเฉกเช่นทุกวันนี้ได้ ฝีมือการแพทย์ของสกุลอวิ๋นนั้นยังนับว่าเป็นรอง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือป้ายพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้ไท่จูแผ่นนั้นมิเช่นนั้นท่ามกลางสำนักแพทย์มากมายในราชวงศ์ต้าถัง ทั้งในนั้นยังไม่ขาดแคลนตระกูลแพทย์ที่สืบอายุมานานนับร้อยปี แล้วเพราะเหตุใดในแวดวงการแพทย์จึงมีเพียงสำนักช่วยชีพแห่งเดียวเท่านั้นที่ตั้งตระหง่านเป็นอันดับหนึ่งเสมอมา เหตุผลทั้งมวลคือป้ายพระราชทานจากฮ่องเต้ไท่จูแผ่นนั้น มีฐานความมั่นใจของสกุลอวิ๋นและสำนักช่วยชีพอวิ๋นฝูหลิงจึงใช้กลยุทธ์ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม โดยอาศัยฐานะของคนสกุลอวิ๋นปลดป้ายออกไปอย่างเปิดเผย ตัดหนทางมิให้อวิ๋นกา
Read more

บทที่ 304

ความสามารถของสตรีนั้น บางครั้งยังเหนือกว่าบุรุษด้วยซ้ำไป ฮ่องเต้จิ่งผิงยกมือขึ้น ตรัสกับเกากงกงว่า “กลับไปหารือกับทางสำนักหมอหลวง ค้นหาความผิดสักอย่าง แล้วขับอวิ๋นกานซงออกจากสำนักหมอหลวงเสีย”คนที่ความประพฤติไม่ดี ไร้คุณธรรมเช่นนี้ มิสมควรอยู่ในสำนักหมอหลวงเกากงกงเข้าใจได้ทันทีว่าอวิ๋นกานซงประสบเข้ากับความเหนื่อยหน่ายของฮ่องเต้จิ่งผิงเสียแล้วเขาหลุบตารับคำ แล้วเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ฝ่าบาท แต่ไหนแต่ไรอวิ๋นกานซงล้วนได้รับความโปรดปรานจากองค์ไทเฮาเป็นอย่างยิ่ง ปกติแล้วหากต้องจับชีพจรหรือเรื่องอื่น ๆ ล้วนเรียกตัวเขาเข้าไปพ่ะย่ะค่ะ”“หากประเดี๋ยวทางองค์ไทเฮาทราบเรื่องเข้า แล้วเกิดไต่ถาม...”ปีนั้นอวิ๋นกานซงใช้ยากลูกกลอนหนึ่งเม็ด รักษาอาการประชวรของไทเฮาจนหายดีจึงเข้าพระเนตรของไทเฮามานับแต่นั้น หลายปีมานี้พระวรกายของไทเฮาล้วนได้รับการดูแลจากเขาและหมอหลวงแซ่สวี่อีกผู้หนึ่งมาตลอดฮ่องเต้จิ่งผิงได้ยินเช่นนั้น จึงถลึงพระเนตรใส่เกากงกงทันที แล้วตรัสอย่างไม่สบพระทัยว่า “เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ยังต้องให้เราสอนเจ้าอีกหรือว่าต้องทำเช่นไร?”เกากงกงรีบค้อมกายน้อมรับผิดทันที “เป็นกระหม่อมที่เลอะเล
Read more

บทที่ 305

จากที่เรื่องการกลับมาของทายาทจวนจี้ชุนโหว ฉีกหน้าอวิ๋นกานซงผู้เป็นบุตรนอกสมรส แล้วชิงกิจการของสกุลอวิ๋นกลับมาเหล่านี้โจษจันไปทั่วทั้งเมือง บรรดาตระกูลสูงศักดิ์และขุนนางยศสูงทั้งหลายในเมืองหลวงเองก็ได้แต่อึดอัดอยู่ในใจอวิ๋นกานซงนั้นเป็นดั่งนกเขาครองรังนกสาลิกา วางแผนสังหารทายาทสาวจวนจี้ชุนโหว แล้วครอบครองทรัพย์สมบัติของสกุลอวิ๋น นับว่าไม่ใช่คนดีอะไรจริง ๆแต่หลังจากสูญสิ้นทายาทผู้เป็นสายเลือดของสกุลอวิ๋น จวนจี้ชุนโหวก็หลงเหลือเพียงแต่ชื่อ ตำแหน่งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะถูกริบคืนเมื่อไรแม้ว่าทายาทสาวจวนจี้ชุนโหวจะเป็นสายเลือดเพียงคนเดียวของสกุลอวิ๋น ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพียงเด็กสาวกำพร้าผู้หนึ่งเท่านั้นเมื่อก่อนตอนที่อยู่ในเมืองหลวงก็มิได้มีชื่อเสียงอันใด ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นตอนนั้นที่ร่วมคืนวสันต์กับอี้อ๋อง แต่กลับถูกคนไปเจอเข้าเมื่อทำเรื่องคาวโลกีย์เช่นนี้ลงไป แน่นอนว่าย่อมไม่มีชื่อเสียงที่ดีอะไรในเมืองหลวงทว่าวันนี้กลับกล้าที่จะฉีกหน้าอวิ๋นกานซง ทั้งยังมีความสามารถทวงทรัพย์สินของสกุลอวิ๋นกลับคืนมาได้ จะไม่ให้ผู้อื่นตื่นตกใจได้เช่นไรถัดจากความตกใจ ก็ยังมีความสงสัยอยู่หลา
Read more

บทที่ 306

จวนอี้อ๋องอยู่ไม่ไกลจากวังหลวงนัก ผ่านไปไม่นานก็เดินทางมาถึงแล้วยามนี้มีคนยืนอยู่หน้าประตูวังไม่น้อย ทุกคนล้วนต่อแถวรอเข้าวังทั้งสิ้นนอกจากส่วนน้อยที่มีพระราชโองการพิเศษ สามารถขี่ม้าหรือนั่งรถลากเข้าวังได้แล้ว คนอื่น ๆ ที่ต้องเข้าวังล้วนต้องตรวจสอบฐานะที่ประตูวังเสียก่อนเมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดปกติ จึงจะปล่อยให้ผ่านเข้าไปได้เมื่อก้าวข้าประตูวังมาแล้ว ยังต้องอาศัยสองเท้าเดินไปตามทางเดินยาวเหยียด หากร่างกายอ่อนแอสักหน่อยก็แทบจะทนไม่ไหวกันเลยทีเดียวเพราะฉะนั้น การที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงในวังได้นั้น แม้จะเป็นเกียรติยิ่ง ทว่าก็เหนื่อยยากเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยังไม่มีสิทธิพิเศษที่นั่งรถเข้าไปในวังได้ ดังนั้นเมื่อมาถึงประตูวัง สามคนหนึ่งครอบครัวจึงต้องลงจากรถม้าการเคลื่อนไหวนี้ แน่นอนว่าดึงดูดสายตาให้คนอื่นพากันหันมามองอยู่แล้วครั้นเห็นว่าเป็นเซียวจิ่งอี้ ผู้คนรอบด้านจึงพากันคารวะเต็มพิธีส่วนอวิ๋นฝูหลิงและเซียวจิงมั่วที่อยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้นั้น แม้ทุกคนจะรู้สึกไม่คุ้นหน้าคุ้นตานัก ทว่าพอเห็นอวิ๋นฝูหลิงสวมใส่ชุดพิธีการประจำองค์พระชายา ทั้งยังนึกถึงข่าวคราวล่าสุดที่แพร่
Read more

บทที่ 307

งานเลี้ยงในวังแตกต่างกันย่อมมีกฎแตกต่างกัน แน่นอนว่าคนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงได้ย่อมไม่แตกต่างกันอย่างงานฉลองใหญ่วันไหว้พระจันทร์ร่วมกับประชาราษฎร์เช่นนี้ นอกจากเชื้อพระวงศ์และครอบครัวขุนนางสูงศักดิ์ที่สามารถเข้าวังมาร่วมงานเลี้ยงในวังได้แล้ว ขุนนางในเมืองหลวงที่มียศขั้นสี่ชั้นเอกขึ้นไปก็สามารถพาครอบครัวเข้ามาร่วมงานได้อวิ๋นกานซงแม้จะเป็นเพียงหมอหลวงขั้นห้า ทว่ากลับมีชื่อของจวนจี้ชุนโหวประดับศีรษะ ดังนั้นทุกงานเลี้ยงในวัง ย่อมเห็นเงาเขาอยู่บ่อยครั้งงานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลไหว้พระจันทร์ในครานี้ ทางกรมราชสำนักชั้นในได้เริ่มจัดการมานานแล้วควรเชิญใครบ้างนั้น ล้วนได้ส่งเทียบเชิญออกไปนานแล้วเช่นกันแน่นอนว่าครอบครัวอวิ๋นกานซงย่อมได้รับเทียบเชิญไม่ต่างกันเพื่องานเลี้ยงในวังงานนี้แล้ว เซี่ยงซื่อกับอวิ๋นหลิงจือถึงกับซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมาโดยเฉพาะใครจะรู้ว่าหลังจากที่พวกเขาหนึ่งครอบครัวมาถึงหน้าประตูวัง กลับถูกขวางกั้นไว้ต่อให้อวิ๋นกานซงหยิบเทียบเชิญออกมาอย่างไร ก็ไม่ได้รับการปล่อยให้เข้าวัง กลับกันยังถูกองครักษ์หน้าประตูวังเยาะเย้ยถากถางเอาเสียด้วย“เทียบเชิญนี้มอบให้จวนจี้ชุ
Read more

บทที่ 308

ถูกขับออกจากจวนจี้ชุนโหวแล้ว ยังกล้าใช้เทียบเชิญของจวนจี้ชุนโหวเพื่ออยากเข้าไปในงานเลี้ยงในวังอีก ช่างหน้าหนาเสียเหลือเกินคนธรรมดาจะมีหน้ามาทำเช่นนี้หรือ?ประเดี๋ยวก่อน ยามนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าอวิ๋นกานซงไม่ใช่สายเลือดของสกุลอวิ๋น ทั้งยังถูกขับออกจากจวนจี้ชุนโหวอีก แล้วเหตุใดอวิ๋นกานซงถึงกล้าใช้ชื่อของจวนจี้ชุนโหวเจ้าร่วมงานเลี้ยงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ของพระราชวังอีก?หรือว่าเขายังมีคนให้อาศัยอำนาจบารมีอยู่อีก?ก่อนหน้านี้หลิงโหยวพาอวิ๋นฝูหลิงไปยืมตัวเสมียนบัญชีจากทางเซียวจิ่งอี้ และได้ตรวจนับรายการบัญชีของจวนจี้ชุนโหวเรียบร้อยแล้วแม้ว่านางจะริบของทุกอย่างในจวนโหว ขับครอบครัวอวิ๋นกานซงออกไปจากจวนโหวตัวเปล่าทว่าทรัพย์สินของจวนโหวในยามนี้ หดลงไปกว่าครึ่งจากใบรายการบัญชีในจำนวนกว่าครึ่งนั้นนอกจากคนในครอบครัวอวิ๋นกานซงจะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะถูกโยกย้ายออกไปนานแล้วหากคิดจะทวงคืนตอนนี้เห็นทีคงจะยากเสียแล้วอวิ๋นฝูหลิงทวงทรัพย์สินกลับคืนมาได้ครึ่งหนึ่งนั้น ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วส่วนที่ถูกอวิ๋นกานซงกลืนกินไปครึ่งหนึ่งนั้น แม้ว่าตอนนี้อวิ๋นฝูหลิง
Read more

บทที่ 309

เซี่ยงซื่อใบหน้าขาวซีดทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นคำพูดนี้ของฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกง หมายความว่าไม่ยอมรับการหมั้นหมายระหว่างอันอวี้หลินกับอวิ๋นหลิงจืออย่างนั้นหรือ?ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่เคยคิดเลยว่า ยามนี้ไม่ได้มีเพียงแค่คนรอบข้างที่เยาะเย้ยถากถางทำให้ครอบครัวของพวกเขาอับอายเท่านั้น กระทั่งจวนอันกั๋วกงก็ยังเหยียบย่ำพวกเขาด้วยเช่นกันอันอวี้หลินเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เพิ่งจะอ้าปากเรียกออกไปว่า “ท่านยา” ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงก็ถลึงตาจ้องเขา พลางตะคอกใส่อย่างรุนแรงว่า “หุบปาก!”ในใจของฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงพลันเกิดความผิดหวังหลานชายคนโตผู้นี้เป็นอนาคตของจวนอันกั๋วกง แบกความหวังของคนทั้งตระกูลไว้บนบ่า ดังนั้นจึงเข้มงวดกวดขันกับเขามาตั้งแต่เล็ก ด้วยหวังว่าเขาจะอนาคตอันสดใสนึกไม่ถึงเลยว่าเด็กคนนี้จะเลอะเลือนกับเรื่องของสตรีแล้วก็เป็นพวกเขาที่เมื่อก่อนเข้มงวดกวดขันเกินไปสักหน่อย ปีนั้นหลังจากที่จัดแจงเรื่องหมั้นหมายระหว่างอันอวี้หลินและอวิ๋นฝูหลิงกับสองสามีภรรยาจี้ชุนโหว ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงก็เป็นกังวลว่าอันอวี้หลินจะจิตใจฟุ้งซ่าน ดังนั้นจะไม่ได้ให้อันอวี้หลินได้ใกล้ชิดกับอวิ๋นฝูหลิงน
Read more

บทที่ 310

เมื่อสภาพจิตใจเป็นเช่นนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงก็ยิ่งเห็นอวิ๋นหลิงจือขัดตายิ่งยามนี้นางเองก็คร้านที่จะพูดคุยกับพวกเขาต่ออีก จึงรีบสาวเท้าเดินไปอีกสองก้าว ทำความเคารพเซียวจิ่งอี้กับองค์ชายห้าและคนอื่น ๆ ในทันทีเมื่อทำความเคารพเป็นที่เรียบร้อย จึงคว้ามือของอวิ๋นฝูหลิงขึ้นมา พลางพูดจาอย่าสนิทสนม “เดิมทีคิดว่าเจ้าประสบเคราะห์ร้าย หลายปีมานี้ทุกครั้งที่นึกถึง ในใจของข้าก็เศร้าใจยิ่งนัก”“นึกไม่ถึงเลยว่าสวรรค์จะมีเมตรตา พวกเราถึงยังมีวันได้พบหน้ากันเช่นนี้”“เด็กดี หลายปีมานี้เจ้าต้องลำบากแล้ว!”“โชคดีที่เด็กเช่นเจ้ามีบุญาวาสนาดี วันนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระชายาขั้นหนึ่งขั้นเอก ก็ถือเสียว่าต้นร้ายปลายดีนะ วันข้างหน้าล้วนเป็นวันชื่นคืนสุข เสพสุขได้ไม่รู้จบ”“แม้ว่าจะไร้วาสนาฉันสามีภรรยากับอวี้หลิน แต่ข้าก็เห็นเจ้าเป็นหลานสาวเสมอ บิดาเจ้าไม่อยู่แล้ว วันข้างหน้าจวนอันกั๋วกงก็เป็นบ้านของเจ้า อวี้หลินก็เป็นพี่ชายของเจ้า เจ้ามิใช่คนที่ไร้บ้านมารดาหนุนหลัง!”“ภายภาคหน้าหากไม่อันใดก็มาเที่ยวเล่นที่จวนอันกั๋วกงบ่อย ๆ มาเยี่ยมหาท่านยายคนนี้ของเจ้าบ่อย ๆ บ้าง...”ครั้นอวิ๋นฝูหลิงนึกถึงตอนน
Read more
PREV
1
...
2930313233
...
50
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status