แชร์

บทที่ 308

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
ถูกขับออกจากจวนจี้ชุนโหวแล้ว ยังกล้าใช้เทียบเชิญของจวนจี้ชุนโหวเพื่ออยากเข้าไปในงานเลี้ยงในวังอีก ช่างหน้าหนาเสียเหลือเกิน

คนธรรมดาจะมีหน้ามาทำเช่นนี้หรือ?

ประเดี๋ยวก่อน ยามนี้ทั่วทั้งเมืองหลวงไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าอวิ๋นกานซงไม่ใช่สายเลือดของสกุลอวิ๋น ทั้งยังถูกขับออกจากจวนจี้ชุนโหวอีก แล้วเหตุใดอวิ๋นกานซงถึงกล้าใช้ชื่อของจวนจี้ชุนโหวเจ้าร่วมงานเลี้ยงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ของพระราชวังอีก?

หรือว่าเขายังมีคนให้อาศัยอำนาจบารมีอยู่อีก?

ก่อนหน้านี้หลิงโหยวพาอวิ๋นฝูหลิงไปยืมตัวเสมียนบัญชีจากทางเซียวจิ่งอี้ และได้ตรวจนับรายการบัญชีของจวนจี้ชุนโหวเรียบร้อยแล้ว

แม้ว่านางจะริบของทุกอย่างในจวนโหว ขับครอบครัวอวิ๋นกานซงออกไปจากจวนโหวตัวเปล่า

ทว่าทรัพย์สินของจวนโหวในยามนี้ หดลงไปกว่าครึ่งจากใบรายการบัญชี

ในจำนวนกว่าครึ่งนั้นนอกจากคนในครอบครัวอวิ๋นกานซงจะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายแล้ว ไม่แน่ว่าอาจจะถูกโยกย้ายออกไปนานแล้ว

หากคิดจะทวงคืนตอนนี้เห็นทีคงจะยากเสียแล้ว

อวิ๋นฝูหลิงทวงทรัพย์สินกลับคืนมาได้ครึ่งหนึ่งนั้น ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว

ส่วนที่ถูกอวิ๋นกานซงกลืนกินไปครึ่งหนึ่งนั้น แม้ว่าตอนนี้อวิ๋นฝูหลิง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 309

    เซี่ยงซื่อใบหน้าขาวซีดทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นคำพูดนี้ของฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกง หมายความว่าไม่ยอมรับการหมั้นหมายระหว่างอันอวี้หลินกับอวิ๋นหลิงจืออย่างนั้นหรือ?ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่เคยคิดเลยว่า ยามนี้ไม่ได้มีเพียงแค่คนรอบข้างที่เยาะเย้ยถากถางทำให้ครอบครัวของพวกเขาอับอายเท่านั้น กระทั่งจวนอันกั๋วกงก็ยังเหยียบย่ำพวกเขาด้วยเช่นกันอันอวี้หลินเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เพิ่งจะอ้าปากเรียกออกไปว่า “ท่านยา” ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงก็ถลึงตาจ้องเขา พลางตะคอกใส่อย่างรุนแรงว่า “หุบปาก!”ในใจของฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงพลันเกิดความผิดหวังหลานชายคนโตผู้นี้เป็นอนาคตของจวนอันกั๋วกง แบกความหวังของคนทั้งตระกูลไว้บนบ่า ดังนั้นจึงเข้มงวดกวดขันกับเขามาตั้งแต่เล็ก ด้วยหวังว่าเขาจะอนาคตอันสดใสนึกไม่ถึงเลยว่าเด็กคนนี้จะเลอะเลือนกับเรื่องของสตรีแล้วก็เป็นพวกเขาที่เมื่อก่อนเข้มงวดกวดขันเกินไปสักหน่อย ปีนั้นหลังจากที่จัดแจงเรื่องหมั้นหมายระหว่างอันอวี้หลินและอวิ๋นฝูหลิงกับสองสามีภรรยาจี้ชุนโหว ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงก็เป็นกังวลว่าอันอวี้หลินจะจิตใจฟุ้งซ่าน ดังนั้นจะไม่ได้ให้อันอวี้หลินได้ใกล้ชิดกับอวิ๋นฝูหลิงน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 310

    เมื่อสภาพจิตใจเป็นเช่นนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงก็ยิ่งเห็นอวิ๋นหลิงจือขัดตายิ่งยามนี้นางเองก็คร้านที่จะพูดคุยกับพวกเขาต่ออีก จึงรีบสาวเท้าเดินไปอีกสองก้าว ทำความเคารพเซียวจิ่งอี้กับองค์ชายห้าและคนอื่น ๆ ในทันทีเมื่อทำความเคารพเป็นที่เรียบร้อย จึงคว้ามือของอวิ๋นฝูหลิงขึ้นมา พลางพูดจาอย่าสนิทสนม “เดิมทีคิดว่าเจ้าประสบเคราะห์ร้าย หลายปีมานี้ทุกครั้งที่นึกถึง ในใจของข้าก็เศร้าใจยิ่งนัก”“นึกไม่ถึงเลยว่าสวรรค์จะมีเมตรตา พวกเราถึงยังมีวันได้พบหน้ากันเช่นนี้”“เด็กดี หลายปีมานี้เจ้าต้องลำบากแล้ว!”“โชคดีที่เด็กเช่นเจ้ามีบุญาวาสนาดี วันนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระชายาขั้นหนึ่งขั้นเอก ก็ถือเสียว่าต้นร้ายปลายดีนะ วันข้างหน้าล้วนเป็นวันชื่นคืนสุข เสพสุขได้ไม่รู้จบ”“แม้ว่าจะไร้วาสนาฉันสามีภรรยากับอวี้หลิน แต่ข้าก็เห็นเจ้าเป็นหลานสาวเสมอ บิดาเจ้าไม่อยู่แล้ว วันข้างหน้าจวนอันกั๋วกงก็เป็นบ้านของเจ้า อวี้หลินก็เป็นพี่ชายของเจ้า เจ้ามิใช่คนที่ไร้บ้านมารดาหนุนหลัง!”“ภายภาคหน้าหากไม่อันใดก็มาเที่ยวเล่นที่จวนอันกั๋วกงบ่อย ๆ มาเยี่ยมหาท่านยายคนนี้ของเจ้าบ่อย ๆ บ้าง...”ครั้นอวิ๋นฝูหลิงนึกถึงตอนน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 311

    ในใจอวิ๋นหลิงจือรู้สึกถึงวิกฤตทันทีในอดีตนางยังสามารถอาศัยชื่อเสียงคุณหนูจวนโหว แต่ปัจจุบันนางถูกไล่ออกจากจวนจี้ชุนโหวแล้ว แม้แต่สิ่งที่พ่อของนางเคยทำก็ถูกเปิดโปง ชื่อเสียงป่นปี้ ถ้าหากไม่มีการหมั้นหมายของจวนอันกั๋วกงอีก เช่นนั้นชีวิตนี้ก็สิ้นหวังจริงๆ แล้วการหมั้นหมายของนางกับอันอวี้หลิน คือฟางเส้นสุดท้ายในการเอาตัวรอดของนางนางต้องจับให้แน่น!พลันอวิ๋นหลิงจือครุ่นคิด จู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาทางอวิ๋นฝูหลิงก็ไม่ได้คุยอะไรกับฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงมากนัก หลังจากถามสารทุกข์สุกดิบสองสามคำ ก็เข้าวังไปพร้อมกับเซียวจิ่งอี้แล้วเพราะฐานะองค์ชายของเซียวจิ่งอี้ เข้าวังจึงไม่ต้องเข้าแถวเหมือนคนอื่น สามารถเดินเข้าไปได้โดยตรงหลังจากทหารยามตรงประตูวังคำนับอย่างนอบน้อม ก็ปล่อยให้เซียวจิ่งอี้และคนอื่นเข้าวังแล้วองครักษ์ที่ไล่ครอบครัวอวิ๋นกานซงออกจากแถวก่อนหน้านี้ ตอนคำนับอวิ๋นฝูหลิงดูจริงจังมาก ทำให้อวิ๋นฝูหลิงอดไม่ได้ที่จะมองเขาแวบหนึ่งรอหลังจากอวิ๋นฝูหลิงก้าวเข้าประตูวัง องครักษ์คนนั้นจึงจะเงยหน้ามองแผ่นหลังของอวิ๋นฝูหลิงปีนั้นหากไม่ใช่เพราะจี้ชุนโหวเป็นหมอที่มีความเมตตา ช่วยช

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 312

    เพียงแต่ตรงทางเดินนั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงไม่สะดวกระเบิดอารมณ์ ให้คนนอกเห็นเรื่องตลก ทำได้เพียงข่มความโกรธในใจ ตั้งใจว่าหลังงานเลี้ยงพระราชวังสิ้นสุดลง ค่อยคิดบัญชีนี้นางเหลือบมองอวิ๋นหลิงจือแวบหนึ่ง กล่าวเตือนเบาๆ “ในเมื่อเจ้าเข้ามาในนามของจวนอันกั๋วกง เช่นนั้นก็ทำตัวดีหน่อย ถ้าหากกล้าก่อเรื่องอะไรในงานเลี้ยงพระราชวัง ข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่!” อวิ๋นหลิงจือตามติดอันอวี้หลิน แสดงท่าทางที่เชื่อฟัง “ข้าทราบแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าวางใจได้เจ้าค่ะ”ฮูหยินผู้เฒ่าอันกั๋วกงรู้สึกอัดอั้นมาก แต่ตอนนี้ทำได้เพียงอดกลั้น เดินตามคนนำทางไปยังตำหนักสุ่ยอวิ๋นที่เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงพระราชวังทางอวิ๋นฝูหลิงเดินไปกับสองสามีภรรยาองค์ชายห้า ก็นับว่าพูดคุยกันถูกคอนักสองสามีภรรยาองค์ชายห้ามีลูกชายหนึ่งคน อายุมากกว่าจิงมั่วหนึ่งปี ชื่อเซียวลี่เด็กทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันก็เริ่มพูดคุยกันเซียวลี่ได้ยินมานานแล้วว่าท่านอาเจ็ดเก็บเด็กคนหนึ่งกลับมาจากข้างนอก เดิมทีไม่ชอบใจอย่างยิ่ง แต่เมื่อเห็นจิงมั่วกำลังเล่นลูกบิด[1] ก็มองจนไม่สามารถละสายตาทันทีเขารู้สึกว่าของสิ่งนี้น่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 313

    ภายในและภายนอกตำหนักสุ่ยอวิ๋นเต็มไปด้วยดอกเบญจมาศ แข่งกันโดดเด่น แข่งกันเบ่งบานแขกเหรื่อที่มาถึงก่อน จับกลุ่มสนทนาชมดอกไม้ตามที่ต่างๆ ของตำหนักพระชายาองค์ชายห้าเหมือนจงใจผูกมิตรกับอวิ๋นฝูหลิง เอาแต่พานางเข้าไปในแวดวงสตรีชนชั้นสูงของต้าฉีอวิ๋นฝูหลิงไม่รู้ว่าเบื้องหลังพระชายาองค์ชายห้ามีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ทำได้เพียงรอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วค่อยว่ากันมนุษยสัมพันธ์ของพระชายาองค์ชายห้าดีมาก มีนางอยู่กับอวิ๋นฝูหลิง ช่วยให้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของอวิ๋นฝูหลิงสะดวกขึ้นมากอีกทั้งอวิ๋นฝูหลิงยังเป็นพระชายาอี้อ๋องที่ได้รับการแต่งตั้งโดยฮ่องเต้จิ่งผิง ไม่ว่าทุกคนคิดอย่างไร ภายนอกก็ยิ้มแย้มเป็นมิตรมากโอกาสเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าเป็นนกจ่าฝูงทำให้อวิ๋นฝูหลิงอับอายต่อหน้าผู้คนหลังจากเดินวนหนึ่งรอบ อวิ๋นฝูหลิงแอบโล่งอก สถานการณ์ดีกว่าที่นางคิดไว้มากเดิมทีนางคิดว่าจะมีคนมาหาเรื่องนาง ได้คิดวิธีรับมือมากมายไว้ในหัวแล้ว คิดไม่ถึงว่าไม่ได้ใช้เลยแต่ว่างานเลี้ยงพระราชวังยังไม่เริ่ม ก่อนออกจากวัง ประมาทไม่ได้เด็ดขาดอวิ๋นฝูหลิงกำลังชมดอกเบญจมาศกับพระชายาองค์ชายหลายท่าน พลันหางตาก็เหลือบเห็นอวิ๋นหล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 314

    ด้วยเหตุนี้จึงไม่กลัวพวกนางสองคนร่วมมือกัน สมคบคิดกันในวังหลังงานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลไหว้พระจันทร์ครั้งนี้ ก็ร่วมกันจัดโดยชุยกุ้ยเฟยกับซูกุ้ยเฟยปัญหาที่พบบ่อยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ ผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดมักจะกล่าวสุนทรพจน์ก่อนเสมออวิ๋นฝูหลิงนั่งอยู่ตรงที่นั่ง ค่อยฟังพระราชดำรัสของฮ่องเต้จิ่งผิงด้วยความเบื่อหน่ายโอกาสเช่นนี้ จะมีอะไรนอกจากประจบประแจง เจ้าชมข้าข้าชมเจ้าหลังจากฮ่องเต้จิ่งผิงกล่าวสุนทรพจน์จบ งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น นางระบำทยอยเข้าสู่ตำหนักอย่างอ่อนช้อย เริ่มร่ายรำอย่างสง่างามนางกำนัลเดินขวักไขว่สวนทางในตำหนัก ยกอาหารไปวางตามบนโต๊ะต่างๆอวิ๋นฝูหลิงพลางดื่มกิน พลางชื่นชมการระบำ ครึ้มอกครึ้มใจนักขณะที่นางกำลังสนุก จู่ๆ มีนางกำนัลที่ไม่รู้จักคนหนึ่งเดินเข้ามา กล่าวรายงานเบาๆ “คำนับพระชายาอี้อ๋อง บ่าวรับคำสั่งจากอี้อ๋อง จับตาดูอวิ๋นหลิงจือเจ้าค่ะ”“อวิ๋นหลิงจือวางยาในเหล้าของซื่อจื่ออันกั๋วกง เมื่อครู่ซื่อจื่ออันกั๋วกงออกจากตำหนัก ไปยังสถานที่ใช้พักผ่อนของเหล่าฮูหยิน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 315

    อวิ๋นฝูหลิงเห็นอวิ๋นหลิงจือกับอันอวี้หลินเข้าไปในห้อง ก็รีบขยิบตาให้เหยากวงทันทีเหยากวงเข้าใจทันที นางเข้าไปตีคนทั้งสองจนสลบหลังจากนั้นอวิ๋นฝูหลิงเดินตามเข้าไป พวกนางช่วยกันลากอันอวี้หลินไปซ่อนไว้ที่พุ่มไม้ข้างนอกก่อน หลังจากนั้นยกอวิ๋นฝูหลิงขึ้นเตียง ถอยเสื้อชั้นนอกของนางออกอวิ๋นฝูหลิงล้วงกำยานก้อนเล็กๆ ออกจากแขนเสื้อ หลังจากจุดไฟก็นำไปใส่ในกระถางธูปจากนั้นก็รีบลากเหยากวงออกไปแล้วเครื่องหอมที่อวิ๋นฝูหลิงจุดคือธูปสะกดอารมณ์เช่นนี้หนึ่ง ฤทธิ์ของมันแรงกว่าที่ขายในท้องตลาดหลายเท่าอวิ๋นหลิงจือใช้วิธีวางยาไม่ใช่หรือ เช่นนั้นตนก็ให้นางลองลิ้มรสของการถูกวางยาดู!อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งลากเหยากวงออกจากห้อง ก็เห็นเซียวจิ่งอี้เดินมาหาแล้วเซียวจิ่งอี้ให้คนจับตาดูการเคลื่อนไหวของอวิ๋นหลิงจือตลอด ทางอวิ๋นหลิงจือมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ข่าวก็ถูกส่งไปให้อวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้ทันทีเซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงออกจากตำหนัก เขาไม่วางใจ แต่ทำอย่างไรได้ถูกพี่ชายทั้งหลายชวนให้ดื่มเหล้าสุดท้ายใช้ข้ออ้างถ่ายเบาจึงสามารถออกมาได้หลังจากทั้งสองเจอกัน อวิ๋นฝูหลิงก็บอกแผนของตัวเองให้เซียวจิ่งอี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 316

    “เพราะธรรมเนียมชายหญิง หมอหลวงตรวจโรคให้สนมในวังหลัง มักจะมีจุดที่ไม่สะดวก ด้วยเหตุนี้สำนักหมอหลวง จึงได้คัดเลือกหมอหญิงบางส่วนเข้ามา”“บอกว่าเป็นหมอหญิง แต่ที่จริงมีความรู้เพียงเล็กน้อย จะคอยช่วยดูอาการตอนหมอหลวงวินิจฉัยโรคให้เหล่าสนม”“อวิ๋นหลิงจือเรียนแพทย์กับอวิ๋นกานซงตั้งแต่เด็ก ฝีมือการแพทย์ย่อมดีกว่าหมอหญิงในวังไม่น้อย ดังนั้นเวลาที่ไทเฮาประชวร อวิ๋นกานซงก็จะพาอวิ๋นหลิงจือเข้าวัง สองพ่อลูกร่วมกันถวายการรักษาไทเฮา”“มีครั้งหนึ่งอวิ๋นหลิงจือเข้าวัง บังเอิญเจอนางกำนัลคนนั้นป่วย ก็เลยถือโอกาสรักษานางกำนัลคนนั้นด้วยเลย จึงผูกสายสัมพันธ์ส่วนหนึ่งร่วมกัน”“นางกำนัลคนนั้นตื้นตันใจ จดจำบุญคุณส่วนนี้ไว้ในใจมาโดยตลอด ดังนั้นคืนนี้จึงพยายามช่วยอย่างเต็มที่”อวิ๋นฝูหลิงฟังจนเบิกตากว้าง คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลิงจือก็มีวันที่ทำความดีด้วยแต่ว่านางให้ความสนใจหมอหญิงของสำนักหมอหลวงมากกว่าโลกนี้มีหมอผู้หญิงน้อยมาก นอกจากตนแล้ว จนถึงปัจจุบัน อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งเคยเจอแม่นางหลี่ของเขตปกครองจินโจวที่เป็นหมอผู้หญิงแต่ใต้ฟ้ามีผู้หญิงที่เจ็บป่วยมากมาย และเพราะต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมชายหญิง ดังนั้นเ

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 367

    โอวหยางหมิงไม่ทันตั้งตัวกับคำขอของอวิ๋นฝูหลิงเอาเสียเลยนี่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ทำการผ่าท้องเอาเด็กออก ในขณะที่มารดาที่ตั้งครรภ์ยังมีชีวิตอยู่หากเป็นอย่างที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจริง ๆ ที่ว่าหลังผ่าตัดแล้ว ทั้งมารดาและบุตรล้วนมีชีวิตอยู่ต่อได้โดยปลอดภัยละก็ พอจะจินตนาการออกเลยว่าจะก่อความตื่นตะลึงมากมายมหาศาลเลยทีเดียววีรกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ ถึงขั้นในตำราประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นได้ว่าจะบันทึกเอาไว้อย่างโดดเด่นอีกด้วยฉากที่ได้เป็นประจักษ์พยานเช่นนี้ โอวหยางหมิงย่อมหวังว่าตัวเขาเองจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหลังจากโอวหยางหมิงตอบรับคำร้องขอของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “ฝูหลิง เจ้าต้องการผู้ช่วยสักกี่คน จะให้ปู่เรียกคนในสำนักแพทย์หลวงมาให้เจ้าสักหลาย ๆ คนหน่อยหรือไม่?”โอวหยางหมิงมั่นใจ ขอแค่เขาเรียกตัว เหล่าหมอหลวงในสำนักแพทย์หลวงจำนวนไม่น้อยจะต้องให้ความสนใจกับการผ่าคลอดครั้งนี้ ทั้งยังเต็มใจมาช่วยอีกด้วยอวิ๋นฝูหลิงส่ายหน้าพลางกล่าว “เรื่องท่านหมอนั้นข้ามีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องการใครอีกเจ้าค่ะ”“แต่ได้ยินว่าในสำนักแพทย์หลว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 366

    ยามนี้ ผู้เฝ้าประตูเดินเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋อง พระชายา แม่ทัพน้อยฉู่จากจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินมาขอรับ”“บอกว่าต้องการเชิญพระชายาให้ไปตรวจอาการอีกครั้งขอรับ!”อวิ๋นฝูหลิงวางชามโจ๊กในมือลง ฉวยผ้าเช็ดปากมาซับปากเล็กน้อย“เชิญให้ท่านแม่ทัพน้อยฉู่รอที่โถงหน้าสักครู่ อีกประเดี๋ยวข้าจะตามไป”เมื่อวานนี้นางมั่นใจยิ่ง ว่าท้ายที่สุดแล้วสกุลฉู่ก็จะมาหานางเนื่องจากสถานการณ์ของฮูหยินน้อยฉู่ หากเป็นการคลอดธรรมชาติ ด้วยวิชาแพทย์ในปัจจุบันนี้ของแคว้นต้าฉีนั้น แทบจะไม่มีหมอคนไหนที่สามารถรับรองความปลอดภัยของทั้งมารดาและบุตรได้เลยเดิมทีนางคิดว่าสกุลฉู่จะฝืนทนต่ออีกสองสามวัน เฝ้าหาหมอชื่อดังหลายท่านไปตรวจดูนึกไม่ถึงว่านี่เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว ฉู่หมิงก็มาเชิญนางถึงหน้าประตูด้วยตนเองเสียแล้วการกระทำของสกุลฉู่ ยิ่งทำให้อวิ๋นฝูหลิงมั่นใจว่าสกุลฉู่เอนเอียงที่จะใช้วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกที่นางเสนอแล้วเซียวจิ่งอี้ว่า “วันนี้ข้าไม่มีกิจอันใดพอดี ตามเจ้าไปได้”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า หลังกลับไปหยิบกล่องยาที่ห้องแล้ว จึงเดินไปที่โถงหน้ากับเซียวจิ่งอี้ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นว่าไม่มีใครเรียกนาง ครั้นลองคิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 365

    อย่าว่าแต่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถูกเซียวจิ่งอี้แย่งแส้ไปเลย นี่ยังถูกซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้อีกครั้นฉยงอวี้จวิ้นจู่สบเข้ากับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาลคู่นั้นของเซียวจิ่งอี้ ในใจพลันหวาดหวั่นขึ้นมาแต่พอนึกถึงสาเหตุที่ตัวเองมาที่นี่ในวันนี้แล้ว จึงรู้สึกมั่นใจและหาญกล้าขึ้นมาทันที“พี่เจ็ด ท่านถามว่าข้าคิดจะทำอะไรหรือ? ข้าอยากถามอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า ว่านางคิดจะทำอะไร?”“เจ้ายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีก?” เซียวจิ่งอี้บันดาลโทสะ ง้างมือเหวี่ยงแส้ออกไปฉยงอวี้จวิ้นจู่หลบไปข้าง ๆ ด้วยความตกใจทันทีดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ท่าทางน้อยอกน้อยใจเป็นที่สุดทว่าแส้ของเซียวจิ่งอี้กลับสะบัดไปถูกอากาศเท่านั้น มิได้พุ่งไปยังบริเวณที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยซ้ำ“หากเจ้ายังกล้าทำตนไม่เคารพไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้เจ้าอยู่อีก หนหน้าแส้ในมือข้าจะไม่โดยเพียงอากาศแล้ว!” แววตาของเซียวจิ่งอี้เย็นชาเป็นอย่างยิ่งเขาไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ตามมารังแกอวิ๋นฝูหลิง!ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นเซียวจิ่งอี้มีโทสะเข้าแล้วจริง ๆ ถึงกับอดหดคอด้วยความหวาดกลัวไม่ได้นางชอบเล่นกับเซียวจิ่งอี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 364

    “วันพรุ่งไม่สู้ลองเชิญพระชายาอี้อ๋องมาอีกครั้ง แล้วให้อธิบายวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกให้ละเอียดดีหรือไม่?”“หลังลองฟังดูแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครา?”หลังจากที่คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ สบตากัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยที่วันพรุ่งจะเชิญอวิ๋นฝูหลิงมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคังจวิ้นอ๋อง พวกเขาอยากได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเองกับหูส่วนทางอวิ๋นฝูหลิงหลังจากกลับมาถึงจวนอี้อ๋องนั้น ก็เข้ามิติไปรื้อค้นในเรือนไม้ไผ่ เพื่อตระเตรียมของสำหรับการผ่าคลอดนางมีลางสังหรณ์ ว่าสุดท้ายแล้วสกุลฉู่จะยอมให้นางทำการผ่าคลอดวันต่อมา ขณะที่อวิ๋นฝูหลิงกำลังกินข้าวเช้า ในจวนอ๋องพลันมีแขกไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่งปรากฏตัวครั้นอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่เสด็จมา จึงประหลาดใจไม่น้อยนับแต่งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คลุกคลีอะไรกันอวิ๋นฝูหลิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายต่อนาง จึงคอยอยู่ห่าง ๆ ไว้แล้วเหตุใดนางถึงได้โผล่มาถึงหน้าจวนกะทันหันแบบนี้?วันนี้เซียวจิ่งอี้มิได้มีกิจอันใดพอดี และกำลังร่วมกินข้าวเช้าอยู่กับอวิ๋นฝูหลิงครั้นทราบว่าฉยงอวี้จวิ้นจู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status