Share

บทที่ 313

Author: หลันซานอวี่
ภายในและภายนอกตำหนักสุ่ยอวิ๋นเต็มไปด้วยดอกเบญจมาศ แข่งกันโดดเด่น แข่งกันเบ่งบาน

แขกเหรื่อที่มาถึงก่อน จับกลุ่มสนทนาชมดอกไม้ตามที่ต่างๆ ของตำหนัก

พระชายาองค์ชายห้าเหมือนจงใจผูกมิตรกับอวิ๋นฝูหลิง เอาแต่พานางเข้าไปในแวดวงสตรีชนชั้นสูงของต้าฉี

อวิ๋นฝูหลิงไม่รู้ว่าเบื้องหลังพระชายาองค์ชายห้ามีจุดประสงค์อะไร ตอนนี้ทำได้เพียงรอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน

มนุษยสัมพันธ์ของพระชายาองค์ชายห้าดีมาก มีนางอยู่กับอวิ๋นฝูหลิง ช่วยให้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของอวิ๋นฝูหลิงสะดวกขึ้นมาก

อีกทั้งอวิ๋นฝูหลิงยังเป็นพระชายาอี้อ๋องที่ได้รับการแต่งตั้งโดยฮ่องเต้จิ่งผิง ไม่ว่าทุกคนคิดอย่างไร ภายนอกก็ยิ้มแย้มเป็นมิตรมาก

โอกาสเช่นนี้ ไม่มีใครกล้าเป็นนกจ่าฝูงทำให้อวิ๋นฝูหลิงอับอายต่อหน้าผู้คน

หลังจากเดินวนหนึ่งรอบ อวิ๋นฝูหลิงแอบโล่งอก สถานการณ์ดีกว่าที่นางคิดไว้มาก

เดิมทีนางคิดว่าจะมีคนมาหาเรื่องนาง ได้คิดวิธีรับมือมากมายไว้ในหัวแล้ว คิดไม่ถึงว่าไม่ได้ใช้เลย

แต่ว่างานเลี้ยงพระราชวังยังไม่เริ่ม ก่อนออกจากวัง ประมาทไม่ได้เด็ดขาด

อวิ๋นฝูหลิงกำลังชมดอกเบญจมาศกับพระชายาองค์ชายหลายท่าน พลันหางตาก็เหลือบเห็นอวิ๋นหล
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 314

    ด้วยเหตุนี้จึงไม่กลัวพวกนางสองคนร่วมมือกัน สมคบคิดกันในวังหลังงานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลไหว้พระจันทร์ครั้งนี้ ก็ร่วมกันจัดโดยชุยกุ้ยเฟยกับซูกุ้ยเฟยปัญหาที่พบบ่อยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ ผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดมักจะกล่าวสุนทรพจน์ก่อนเสมออวิ๋นฝูหลิงนั่งอยู่ตรงที่นั่ง ค่อยฟังพระราชดำรัสของฮ่องเต้จิ่งผิงด้วยความเบื่อหน่ายโอกาสเช่นนี้ จะมีอะไรนอกจากประจบประแจง เจ้าชมข้าข้าชมเจ้าหลังจากฮ่องเต้จิ่งผิงกล่าวสุนทรพจน์จบ งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น นางระบำทยอยเข้าสู่ตำหนักอย่างอ่อนช้อย เริ่มร่ายรำอย่างสง่างามนางกำนัลเดินขวักไขว่สวนทางในตำหนัก ยกอาหารไปวางตามบนโต๊ะต่างๆอวิ๋นฝูหลิงพลางดื่มกิน พลางชื่นชมการระบำ ครึ้มอกครึ้มใจนักขณะที่นางกำลังสนุก จู่ๆ มีนางกำนัลที่ไม่รู้จักคนหนึ่งเดินเข้ามา กล่าวรายงานเบาๆ “คำนับพระชายาอี้อ๋อง บ่าวรับคำสั่งจากอี้อ๋อง จับตาดูอวิ๋นหลิงจือเจ้าค่ะ”“อวิ๋นหลิงจือวางยาในเหล้าของซื่อจื่ออันกั๋วกง เมื่อครู่ซื่อจื่ออันกั๋วกงออกจากตำหนัก ไปยังสถานที่ใช้พักผ่อนของเหล่าฮูหยิน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 315

    อวิ๋นฝูหลิงเห็นอวิ๋นหลิงจือกับอันอวี้หลินเข้าไปในห้อง ก็รีบขยิบตาให้เหยากวงทันทีเหยากวงเข้าใจทันที นางเข้าไปตีคนทั้งสองจนสลบหลังจากนั้นอวิ๋นฝูหลิงเดินตามเข้าไป พวกนางช่วยกันลากอันอวี้หลินไปซ่อนไว้ที่พุ่มไม้ข้างนอกก่อน หลังจากนั้นยกอวิ๋นฝูหลิงขึ้นเตียง ถอยเสื้อชั้นนอกของนางออกอวิ๋นฝูหลิงล้วงกำยานก้อนเล็กๆ ออกจากแขนเสื้อ หลังจากจุดไฟก็นำไปใส่ในกระถางธูปจากนั้นก็รีบลากเหยากวงออกไปแล้วเครื่องหอมที่อวิ๋นฝูหลิงจุดคือธูปสะกดอารมณ์เช่นนี้หนึ่ง ฤทธิ์ของมันแรงกว่าที่ขายในท้องตลาดหลายเท่าอวิ๋นหลิงจือใช้วิธีวางยาไม่ใช่หรือ เช่นนั้นตนก็ให้นางลองลิ้มรสของการถูกวางยาดู!อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งลากเหยากวงออกจากห้อง ก็เห็นเซียวจิ่งอี้เดินมาหาแล้วเซียวจิ่งอี้ให้คนจับตาดูการเคลื่อนไหวของอวิ๋นหลิงจือตลอด ทางอวิ๋นหลิงจือมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ข่าวก็ถูกส่งไปให้อวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้ทันทีเซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงออกจากตำหนัก เขาไม่วางใจ แต่ทำอย่างไรได้ถูกพี่ชายทั้งหลายชวนให้ดื่มเหล้าสุดท้ายใช้ข้ออ้างถ่ายเบาจึงสามารถออกมาได้หลังจากทั้งสองเจอกัน อวิ๋นฝูหลิงก็บอกแผนของตัวเองให้เซียวจิ่งอี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 316

    “เพราะธรรมเนียมชายหญิง หมอหลวงตรวจโรคให้สนมในวังหลัง มักจะมีจุดที่ไม่สะดวก ด้วยเหตุนี้สำนักหมอหลวง จึงได้คัดเลือกหมอหญิงบางส่วนเข้ามา”“บอกว่าเป็นหมอหญิง แต่ที่จริงมีความรู้เพียงเล็กน้อย จะคอยช่วยดูอาการตอนหมอหลวงวินิจฉัยโรคให้เหล่าสนม”“อวิ๋นหลิงจือเรียนแพทย์กับอวิ๋นกานซงตั้งแต่เด็ก ฝีมือการแพทย์ย่อมดีกว่าหมอหญิงในวังไม่น้อย ดังนั้นเวลาที่ไทเฮาประชวร อวิ๋นกานซงก็จะพาอวิ๋นหลิงจือเข้าวัง สองพ่อลูกร่วมกันถวายการรักษาไทเฮา”“มีครั้งหนึ่งอวิ๋นหลิงจือเข้าวัง บังเอิญเจอนางกำนัลคนนั้นป่วย ก็เลยถือโอกาสรักษานางกำนัลคนนั้นด้วยเลย จึงผูกสายสัมพันธ์ส่วนหนึ่งร่วมกัน”“นางกำนัลคนนั้นตื้นตันใจ จดจำบุญคุณส่วนนี้ไว้ในใจมาโดยตลอด ดังนั้นคืนนี้จึงพยายามช่วยอย่างเต็มที่”อวิ๋นฝูหลิงฟังจนเบิกตากว้าง คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลิงจือก็มีวันที่ทำความดีด้วยแต่ว่านางให้ความสนใจหมอหญิงของสำนักหมอหลวงมากกว่าโลกนี้มีหมอผู้หญิงน้อยมาก นอกจากตนแล้ว จนถึงปัจจุบัน อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งเคยเจอแม่นางหลี่ของเขตปกครองจินโจวที่เป็นหมอผู้หญิงแต่ใต้ฟ้ามีผู้หญิงที่เจ็บป่วยมากมาย และเพราะต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมชายหญิง ดังนั้นเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 317

    อวิ๋นฝูหลิงแฝงตัวอยู่ในฝูงชน มองดูท่าทางที่สิ้นหวังของอวิ๋นหลิงจือ รู้สึกสาแก่ใจนัก!อวี้อ๋องเป็นคนนิสัยไม่สนใจคำพูดคนอื่น แม้ถูกผู้คนพบเห็นสมสู่กับผู้หญิงหลังจากดื่มจนเมา ก็ไม่ใส่ใจเลยสักนิดขอแค่ไม่ได้นอนกับนางสนมในวังหลัง ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรอย่างมากรับเข้าจวนอ๋องก็สิ้นเรื่องมองดูอวิ๋นหลิงจือที่ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเสียมารดา แม้อยู่ต่อหน้าหญิงงาม ก้นบึ้งหัวใจของอวี้อ๋องก็เกิดความรำคาญเสี้ยวหนึ่งร้องอะไรนักหนา?ก็แค่ลูกสาวของหมอหลวงคนหนึ่ง ได้นอนกับเขาคือวาสนาของนาง!ขณะที่เขากำลังจะพูดว่าตนจะรับผิดชอบ ทันใดนั้นได้ยินเสียงสายหนึ่งดังออกมาจากฝูงชน “เอ๋ กลิ่นในห้องนี้แปลกๆ เหมือนเป็นกลิ่นของธูปสะกดอารมณ์”เมื่ออวี้อ๋องได้ยิน ก็รู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อยแม้เขาดื่มเหล้า แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ไม่มีสติ ก่อนหน้านี้ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง ก็รู้สึกร้อนรุ่มเหมือนเลือดในร่างกายพลุ่งพล่านเมื่อเห็นผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง ก็กระโจนเข้าไปอย่างแทบไม่สามารถควบคุมแม้อวี้อ๋องชอบหญิงงาม แต่ผู้หญิงที่ตนโปรดปรานเพราะอารมณ์ชั่ววูบ กับถูกคนออกอุบายใช้ธูปสะกดอารมณ์ สองอย่างนี้แตกต่างกั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 318

    ทุกคนรีบโค้งคำนับทันทีฮ่องเต้จิ่งผิงมองอวี้อ๋องแวบหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะปวดศีรษะน้องชายคนนี้ของเขาดีทุกอย่าง จะเสียก็แต่หื่นกามไปหน่อยนอนกับผู้หญิงคนหนึ่งไม่นับอะไร แต่ดันอยู่ในงานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลไหว้พระจันทร์ และยังทำให้เรื่องมันบานปลายเสียหน้าราชวงศ์จริงๆชุยกุ้ยเฟยกับซูกุ้ยเฟยก็ไม่พอใจเป็นอย่างมากพวกนั้นทุ่มทั้งแรงกายแรงใจจัดงานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลไหว้พระจันทร์ครั้งนี้ เดิมทีทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น ไทเฮากับฝ่าบาทพึงพอใจมาก เหล่าขุนนางก็สุขสันต์สำราญใครจะรู้ว่างานเลี้ยงพระราชวังดีๆ จะมาถูกขัดจังหวะเพราะเรื่องเช่นนี้ชั่วขณะ สายตาของชุยกุ้ยเฟยกับซูกุ้ยเฟยคมเหมือนกับมีด มองตรงไปที่อวิ๋นหลิงจือเวลานี้อวี้อ๋องสวมเสื้อชั้นนอกแล้ว เขาคุกเข่าก้มลงกล่าวขอโทษ “เสด็จพี่ กระหม่อมเมาสุรา ประพฤติตนไม่เหมาะสม จึงทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ลงไป”“กระหม่อมยินดีรับโทษ!”ฮ่องเต้จิ่งผิงพ่นลมออกจากจม “วังหลวงเป็นสถานที่สำคัญ มาทำเรื่องเช่นนี้ สมควรลงโทษ!”“ทำลายความบริสุทธิ์ของเด็กผู้หญิง ยิ่งสมควรลงโทษสถานหนัก!”อวี้อ๋องรีบกล่าวทันที “กระหม่อมยินดีรับนางเข้าจวนอ๋อง มอบตำแหน่งซู่เ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 319

    ในมุมของอวิ๋นหลิงจือ อย่างไรก็ตามจวนอ๋องมั่งคั่งกว่าจวนอันกั๋วกงมากแม้เป็นแค่ซู่เฟย แต่ถ้านางสามารถให้กำเนิดลูกชาย ก็คือสายเลือดราชวงศ์ วันข้างหน้าจะได้รับความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งอันไร้ที่สิ้นสุดยิ่งกว่านั้นนางเสียตัวให้อวี้อ๋องแล้ว ทางจวนอันกั๋วกงไม่มีทางให้อันอวี้หลินแต่งงานกับนางแน่นอน เกรงว่าแม้แต่อนุภรรยาก็เป็นไม่ได้ในเมื่อล้วนเป็นอนุภรรยา เป็นอนุภรรยาของราชวงศ์ย่อมดีกว่าแต่ทั้งหมดนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่มีใครรู้ว่านางเคยทำอะไรเมื่อไรที่มีการตรวจสอบอย่างละเอียด เช่นนั้นเรื่องที่นางวางยาและล่อคนมา เกรงว่าจะปิดไม่อยู่แล้วถึงเวลา มีแต่จะนำภัยมาสู่ตัวอวิ๋นหลิงจือร้อนใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรเวลานี้เอง ฉงอวี้จวิ้นจู่ขยิบตาให้สาวใช้ข้างกายตัวเองสาวใช้คนนั้นลากนางกำนัลคนหนึ่งออกมาจากฝูงชนทันที“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้นางกำนัลคนนี้แหละเพคะที่มารายงานจวิ้นจู่ บอกว่าจวิ้นหม่าอยู่ที่หลังตำหนัก คิดไม่ถึงว่าไม่เจอจวิ้นหม่า กลับเจออวี้อ๋องอยู่ที่นี่แทนเพคะ”สาวใช้ของฉงอวี้จวิ้นจู่ผลักนางกำนัลน้อยคนนั้นออกไปชั่วขณะนางกำนัลน้อยคนนั้นยืนไม่มั่นคง กระโจนล้มลงไปที่พื้น กลัวจน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 320

    “ใช่แล้ว ซื่อจื่ออันกั๋วกงไปไหนแล้ว?”ใบหน้าของอวี้อ๋องบูดบึ้ง สีหน้าดูน่าเกลียดมากตอนนี้เขาจึงจะเข้าใจ คนที่เป็นเป้าหมายของอวิ๋นหลิงจือคืออันอวี้หลินซื่อจื่ออันกั๋วกงแต่ตนพลั้งเผลอบุกเข้ามา จึงเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้โดยที่ไม่รู้อะไรเลยสายตาของอวี้อ๋องที่มองอวิ๋นฝูหลิงคมราวกับมีด อยากแทงใส่นางครั้งแล้วครั้งเล่าอวี้อ๋องชอบหญิงงามเป็นเรื่องจริง กลับรังเกียจผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์มากอุบายที่สุด ผู้หญิงเช่นนี้ แม้เป็นสาวใช้ที่ปรนนิบัติบนเตียง เขาก็ไม่ต้องการเวลานี้เอง ขันทีน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ กระซิบข้างหูเกากงกงสองสามคำหลังจากเกากงกงได้ยิน ก็รีบเดินเข้าไปรายงานฮ่องเต้จิ่งผิง “ฝ่าบาท คนของอันกั๋วกงเจอซื่อจื่ออันกั๋วกงที่ศาลาริมน้ำ ซื่อจื่ออันกั๋วกงดูผิดปกติ หมอหลวงที่เข้าเวรไปดูแล้ว บอกว่าซื่อจื่ออันกั๋วกงโดนวางยาปลุกอารมณ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง”เมื่อข่าวของซื่อจื่ออันกั๋วกงมาถึง ก็เหมือนกับในที่สุดก็เจอชิ้นส่วนที่ขาดหายไปของภาพวาดนำทุกอย่างมาเชื่อมโยงกัน ทุกอย่างก็สมเหตุสมผลแล้วมีความรังเกียจสายหนึ่งแลบผ่านแววตาฮ่องเต้จิ่งผิง“อวิ๋นหลิงจือใช้ยาเสน่ห์ในวัง วิธีการ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 321

    ณ ห้องรับรองในจวนอี้อ๋องอวิ๋นฝูหลิงคิดไม่ถึงว่าพระชายาองค์ชายห้ากับซื่อจื่อน้อยเซียวลี่จะมาเยือนพระชายาองค์ชายห้ากล่าวอย่างรู้สึกผิด “เดิมทีควรจะส่งเทียบเชิญมาก่อนล่วงหน้า แต่อาลี่งอแงอยากจะมาเล่นกับจิงมั่ว...”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ห้ากล่าวเช่นนี้จะดูห่างเหินเกินไปกระมัง ครอบครัวเดียวกันย่อมมิจำเป็นต้องใส่ใจเรื่องเหล่านั้น”“เมื่อคืนจิงมั่วบอกข้าแล้วเช่นกัน ว่าเขาชอบอาลี่ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขามาก จึงชวนอาลี่ให้มาเล่นด้วย”พระชายาองค์ชายห้าเห็นความสนิทสนมผ่านคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง รอยยิ้มในแววตาก็จริงใจขึ้นหลายส่วนองค์ชายห้ามิได้มีพรสวรรค์มากนัก ทั้งยังไม่มีความทะเยอทะยาน พระชายาองค์ชายห้าก็มิได้มีพื้นเพครอบครัวโดดเด่นในหมู่พระชายาเช่นกัน สองสามีภรรยาเพียงแค่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบ ไม่ต้องการเข้าไปพัวพันเรื่องการต่อสู้แย่งชิงอำนาจทว่าพระชายาองค์ชายห้ามีความเข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี ด้วยสถานะของพวกเขา ต่อให้พวกเขาไม่ต่อสู้แย่งชิง แต่หากไร้ผู้สนับสนุน ผู้อื่นย่อมไม่ปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆมารดาขององค์ชายห้าเสียชีวิตจากภาวะคลอดยาก ฮ่องเต้จิ่งผิงยุ่งอยู่กับราชกิจ

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 367

    โอวหยางหมิงไม่ทันตั้งตัวกับคำขอของอวิ๋นฝูหลิงเอาเสียเลยนี่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ทำการผ่าท้องเอาเด็กออก ในขณะที่มารดาที่ตั้งครรภ์ยังมีชีวิตอยู่หากเป็นอย่างที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจริง ๆ ที่ว่าหลังผ่าตัดแล้ว ทั้งมารดาและบุตรล้วนมีชีวิตอยู่ต่อได้โดยปลอดภัยละก็ พอจะจินตนาการออกเลยว่าจะก่อความตื่นตะลึงมากมายมหาศาลเลยทีเดียววีรกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ ถึงขั้นในตำราประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นได้ว่าจะบันทึกเอาไว้อย่างโดดเด่นอีกด้วยฉากที่ได้เป็นประจักษ์พยานเช่นนี้ โอวหยางหมิงย่อมหวังว่าตัวเขาเองจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหลังจากโอวหยางหมิงตอบรับคำร้องขอของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “ฝูหลิง เจ้าต้องการผู้ช่วยสักกี่คน จะให้ปู่เรียกคนในสำนักแพทย์หลวงมาให้เจ้าสักหลาย ๆ คนหน่อยหรือไม่?”โอวหยางหมิงมั่นใจ ขอแค่เขาเรียกตัว เหล่าหมอหลวงในสำนักแพทย์หลวงจำนวนไม่น้อยจะต้องให้ความสนใจกับการผ่าคลอดครั้งนี้ ทั้งยังเต็มใจมาช่วยอีกด้วยอวิ๋นฝูหลิงส่ายหน้าพลางกล่าว “เรื่องท่านหมอนั้นข้ามีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องการใครอีกเจ้าค่ะ”“แต่ได้ยินว่าในสำนักแพทย์หลว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 366

    ยามนี้ ผู้เฝ้าประตูเดินเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋อง พระชายา แม่ทัพน้อยฉู่จากจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินมาขอรับ”“บอกว่าต้องการเชิญพระชายาให้ไปตรวจอาการอีกครั้งขอรับ!”อวิ๋นฝูหลิงวางชามโจ๊กในมือลง ฉวยผ้าเช็ดปากมาซับปากเล็กน้อย“เชิญให้ท่านแม่ทัพน้อยฉู่รอที่โถงหน้าสักครู่ อีกประเดี๋ยวข้าจะตามไป”เมื่อวานนี้นางมั่นใจยิ่ง ว่าท้ายที่สุดแล้วสกุลฉู่ก็จะมาหานางเนื่องจากสถานการณ์ของฮูหยินน้อยฉู่ หากเป็นการคลอดธรรมชาติ ด้วยวิชาแพทย์ในปัจจุบันนี้ของแคว้นต้าฉีนั้น แทบจะไม่มีหมอคนไหนที่สามารถรับรองความปลอดภัยของทั้งมารดาและบุตรได้เลยเดิมทีนางคิดว่าสกุลฉู่จะฝืนทนต่ออีกสองสามวัน เฝ้าหาหมอชื่อดังหลายท่านไปตรวจดูนึกไม่ถึงว่านี่เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว ฉู่หมิงก็มาเชิญนางถึงหน้าประตูด้วยตนเองเสียแล้วการกระทำของสกุลฉู่ ยิ่งทำให้อวิ๋นฝูหลิงมั่นใจว่าสกุลฉู่เอนเอียงที่จะใช้วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกที่นางเสนอแล้วเซียวจิ่งอี้ว่า “วันนี้ข้าไม่มีกิจอันใดพอดี ตามเจ้าไปได้”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า หลังกลับไปหยิบกล่องยาที่ห้องแล้ว จึงเดินไปที่โถงหน้ากับเซียวจิ่งอี้ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นว่าไม่มีใครเรียกนาง ครั้นลองคิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 365

    อย่าว่าแต่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถูกเซียวจิ่งอี้แย่งแส้ไปเลย นี่ยังถูกซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้อีกครั้นฉยงอวี้จวิ้นจู่สบเข้ากับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาลคู่นั้นของเซียวจิ่งอี้ ในใจพลันหวาดหวั่นขึ้นมาแต่พอนึกถึงสาเหตุที่ตัวเองมาที่นี่ในวันนี้แล้ว จึงรู้สึกมั่นใจและหาญกล้าขึ้นมาทันที“พี่เจ็ด ท่านถามว่าข้าคิดจะทำอะไรหรือ? ข้าอยากถามอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า ว่านางคิดจะทำอะไร?”“เจ้ายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีก?” เซียวจิ่งอี้บันดาลโทสะ ง้างมือเหวี่ยงแส้ออกไปฉยงอวี้จวิ้นจู่หลบไปข้าง ๆ ด้วยความตกใจทันทีดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ท่าทางน้อยอกน้อยใจเป็นที่สุดทว่าแส้ของเซียวจิ่งอี้กลับสะบัดไปถูกอากาศเท่านั้น มิได้พุ่งไปยังบริเวณที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยซ้ำ“หากเจ้ายังกล้าทำตนไม่เคารพไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้เจ้าอยู่อีก หนหน้าแส้ในมือข้าจะไม่โดยเพียงอากาศแล้ว!” แววตาของเซียวจิ่งอี้เย็นชาเป็นอย่างยิ่งเขาไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ตามมารังแกอวิ๋นฝูหลิง!ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นเซียวจิ่งอี้มีโทสะเข้าแล้วจริง ๆ ถึงกับอดหดคอด้วยความหวาดกลัวไม่ได้นางชอบเล่นกับเซียวจิ่งอี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 364

    “วันพรุ่งไม่สู้ลองเชิญพระชายาอี้อ๋องมาอีกครั้ง แล้วให้อธิบายวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกให้ละเอียดดีหรือไม่?”“หลังลองฟังดูแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครา?”หลังจากที่คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ สบตากัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยที่วันพรุ่งจะเชิญอวิ๋นฝูหลิงมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคังจวิ้นอ๋อง พวกเขาอยากได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเองกับหูส่วนทางอวิ๋นฝูหลิงหลังจากกลับมาถึงจวนอี้อ๋องนั้น ก็เข้ามิติไปรื้อค้นในเรือนไม้ไผ่ เพื่อตระเตรียมของสำหรับการผ่าคลอดนางมีลางสังหรณ์ ว่าสุดท้ายแล้วสกุลฉู่จะยอมให้นางทำการผ่าคลอดวันต่อมา ขณะที่อวิ๋นฝูหลิงกำลังกินข้าวเช้า ในจวนอ๋องพลันมีแขกไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่งปรากฏตัวครั้นอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่เสด็จมา จึงประหลาดใจไม่น้อยนับแต่งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คลุกคลีอะไรกันอวิ๋นฝูหลิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายต่อนาง จึงคอยอยู่ห่าง ๆ ไว้แล้วเหตุใดนางถึงได้โผล่มาถึงหน้าจวนกะทันหันแบบนี้?วันนี้เซียวจิ่งอี้มิได้มีกิจอันใดพอดี และกำลังร่วมกินข้าวเช้าอยู่กับอวิ๋นฝูหลิงครั้นทราบว่าฉยงอวี้จวิ้นจู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status