บททั้งหมดของ ชายาแพทย์พลิกชะตา: บทที่ 851 - บทที่ 860

1200

บทที่ 851

คนอื่นอีกสองสามคนต่างพากันหันมองซูจิ่งสิงด้วยสายตาสงสาร คิดไม่ถึง พี่ใหญ่ผู้ห้าวหาญดุจเทพสงคราม ถึงขั้นมีปัญหาทางด้านนั้นภายในห้องหมายเลขสอง อ๋องหกมองยากระทิงดุที่ถูกส่งเข้ามา ขมวดคิ้วมุ่นเพื่อทำให้ซูจิ่งสิงไม่ได้รับของสิ่งนี้ไป วันนี้เขาใช้จ่ายเกินงบประมาณไปบ้างมีของประมูลอีกสองสามชิ้นส่งเข้าไปอีกครั้ง“ลำดับต่อจากนี้คือประมูลผลต้นเกล็ดหิมะ ตำนานเล่าว่าท่ามกลางต้นเกล็ดหิมะหนึ่งหมื่นต้นจะออกผลเพียงหนึ่งเดียว ผลต้นเกล็ดหิมะสามารถถอนพิษได้ทุกชนิด เริ่มประมูลที่หนึ่งหมื่น!”อ๋องหกมองผลต้นเกล็ดหิมะบนโต๊ะก็หวั่นไหวเล็กน้อยได้รับผลนี้มา อาการป่วยของเสด็จแม่ก็มีทางรักษาแล้ว“หนึ่งแสนตำลึง”เขาเสนอราคาอย่างทนรอแทบไม่ไหวภายในห้องหมายเลขหนึ่ง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เมื่อครู่ตอนพวกเขาอยู่ภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ได้ยินคำพูดของอ๋องหก พอจะเดาออกว่าอ๋องหกต้องการประมูลผลต้นเกล็ดหิมะนี้มอบให้เสด็จแม่ของเขา“แปลกยิ่งนัก ผลต้นเกล็ดหิมะใช้สำหรับถอนพิษ หรือว่าเสด็จแม่ของอ๋องหกถูกพิษหรือ?” กู้หว่านเยว่กระซิบเสียงแผ่วพลางใคร่ครวญซูจิ่งสิงพูดเสียงเบา “คนในราชวงศ์เต็มไปด้วยการชิงดีช
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 852

ปรมาจารย์แพทย์มองดูอยู่ครู่หนึ่งก็คืนต้นเกล็ดหิมะให้กู้หว่านเยว่เขาเชื่อมาโดยตลอดว่าสมุนไพรทุกชนิดในใต้หล้ามีข้อดีของตน ไม่ใช่ยิ่งแพงก็ยิ่งดี ยาทุกชนิดล้วนสามารถใช้งานได้ตามความเหมาะสมของมันเขาย่อมไม่มีวันยอมรับว่าเพราะตนเองยากจน เดิมทีก็ไม่สามารถใช้สมุนไพรราคาแพงได้“อย่างไรเสียครั้งนี้ ข้าก็นับว่าได้รับอย่างเต็มที่แล้ว”ก่อนหน้านี้ก็เพราะปรมาจารย์แพทย์ดูเบาที่จะเข้าร่วมงานประมูลเช่นนี้ ไม่อยากนำยาที่ตนปรุงออกมาอย่างยากลำบากมาประมูล หาไม่แล้วอิงตามวิชาแพทย์ของเขา ก็ไม่รู้ว่ามีทรัพย์สินกี่มากน้อยไปตั้งนานแล้ว ไม่มีวันขาดแคลนเงินงานประมูลดำเนินต่อไป ในที่สุดก็มาถึงตำราควบคุมสัตว์ร้ายที่กู้หว่านเยว่ต้องการอย่างว่องไวเดิมทีนางเตรียมจะประชันขันแข่งแล้ว สรุปคือนางต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าทุกคนไม่รู้จักสิ่งนี้ ไม่รู้ว่านำของสิ่งนี้ไปแล้วมีประโยชน์อันใด ดังนั้นจึงไม่มีใครเสนอราคาแม้แต่คนเดียว ลงท้ายนางก็ได้มาในราคาต่ำเพียงหนึ่งพันตำลึง ราคาโน้ตเพลงนี้ราคาต่ำเกินคาดชั่วขณะได้โน้ตเพลงนี้มาถือไว้ในมือ กู้หว่านเยว่ตื่นเต้นมาก อยากรีบวิ่งเข้ามิติและค้นคว้าโน้ตเพลงนี้ในทันทีทว่าลงท้ายยั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 853

กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ “ท่านข้าเป็นสามีภรรยา ระหว่างสามีภรรยาไม่พูดห่างเหินกันเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นข้ารู้ว่าท่านเองก็คำนึงถึงราษฎร์ของเจดีย์หนิงกู่”แม้นางมิใช่คนต้าฉีเลยเสียทีเดียว แต่เคยอ่านต้นฉบับมาก่อน ก็รู้ว่าคนทูเจวี๋ยต้องการฆ่าล้างราษฎร์ต้าฉีให้สิ้นซากที่ชายแดนในทุกปีคนทูเจวี๋ยมักข้ามแนวป้องกันมาลักพาตัวราษฎร์ ทารุณกรรมเข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แม้แต่ผู้หญิงและเด็กก็ไม่ละเว้นสามารถมองเห็นได้ หากคนเช่นนี้เข้ามาที่เจดีย์หนิงกู่ ไม่แน่ว่าอาจนำมาซึ่งการทำลายล้างเจดีย์หนิงกู่“เจดีย์หนิงกู่เองก็เป็นบ้านที่ข้าสร้างขึ้น เป็นดินแดนแห่งสวรรค์ที่ข้าสร้างขึ้น หากพวกเขาต้องการลงมือที่นี่ ข้าเองก็ไม่มีวันยอม”กู้หว่านเยว่หัวเราะ ซูจิ่งสิงสบมองนางอย่างอ่อนโยน จิตวิญญาณของทั้งคู่ในเวลานี้สอดประสานกันได้ดีในเมื่อตัดสินใจสืบค้นทั้งตลาดประมูลแล้ว เช่นนั้นอย่างแรกก็ต้องมีแผนที่ของตลาดประมูลก่อนกู้หว่านเยว่นึกคิดก็เข้ามาในมิติ ให้ระบบมอบแผนที่ตลาดประมูลให้นางหนึ่งฉบับจากนั้นทั้งสองคนก็อ้างว่ามีธุระ ออกจากห้องหมายเลขหนึ่งไป“วันนี้พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่เป็นอะไรไป เหตุใดคล้ายมีง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 854

กู้หว่านเยว่พูดอย่างแปลกใจมาก “งานใหญ่ถึงเพียงนี้ เจ้าของตลาดมืดถึงขั้นไม่ปรากฏตัวออกมาหรือ?”ซูจิ่งสิงส่ายหน้า “เจ้าของตลาดมืดอินซานไปมาโดยไม่ทิ้งร่องรอย ไม่ว่าใครก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ปกติเขาไม่เปิดเผยโฉมหน้าออกมาอย่างง่ายดาย ล้วนมอบให้สามผู้ดูแลของตนไปจัดการผู้ดูแลมาจัดงานประมูลที่เจดีย์หนิงกู่ในครั้งนี้ ชื่อว่าเฉียนต้า”กู้หว่านเยว่ใคร่ครวญ มองดูแล้วเจ้าของงานประมูลนี้ลึกลับมากจริงๆในเมื่อเขาไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนมาก่อน เช่นนั้นต่อให้เผชิญหน้ากับเขาโดยตรง ก็อาจจำไม่ได้ว่าเขาคือเจ้าของงานประมูลนั่นก็หมายความว่าต้องการตามหาเขา ยากไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร“แม้ว่าพวกเราไม่เคยพบเจ้าของงานประมูลมาก่อน แต่ผู้ดูแลอยู่ใต้อาณัติเขาทั้งสามคนจะต้องเคยพบมาก่อนแน่”ดวงตากู้หว่านเยว่ทอประกาย จากนั้นไม่ชักช้าร่ำไรอีก พาซูจิ่งสิงเทเลพอร์ตไปบนคานบ้านของห้องเล็กแห่งนั้นทั้งสองคนมาถึงที่นี่ถึงรู้ว่าห้องเล็กแห่งนี้อยู่ตำแหน่งสูงที่สุดของตลาดประมูล คนนั่งอยู่ทางด้านล่างสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งงานประมูลได้ขณะเดียวกันที่กำลังนั่งอยู่กลางห้องก็คือชายวัยกลางคนร่างอ้วนอัปลักษณ์คนหนึ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 855

กู้หว่านเยว่ที่อยู่บนคานบ้านหรี่ตาลงทูเจวี๋ยเป็นชนเผ่าเร่ร่อน หมายปองดินแดนอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาและข้าวของต้าฉีมานานหลายปี เข้ามารุกรานแถบชายแดนต้าฉีแทบทุกปี หลังเข่นฆ่าปล้นสะดมแล้ว ก็จากไปอย่างว่องไวเนื่องจากพวกเขาเชี่ยวชาญการต่อสู้บนหลังม้า ต้าฉีจึงไม่สามารถทำอันใดพวกเขาได้ทว่านับตั้งแต่ซูจิ่งสิงไปที่ชายแดน ภายในระยะเวลาสามถึงห้าปี ปราบพวกเขาจนพ่ายแพ้ราบคาบ ชนิดที่ว่ายังบังคับให้พวกเขาลงนามในหนังสือยอมจำนนมอบทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง เงินขาวหนึ่งแสนตำลึง วัวแกะห้าพันตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังห้ามรุกรานภายในระยะเวลาห้าสิบปีนี่เพิ่งผ่านมาได้หนึ่งถึงสองปี ก็เริ่มก่อเรื่องอีกแล้ว“ระวังคำพูดหน่อย ซูจิ่งสิงอยู่ที่ห้องหมายเลขหนึ่งนะ”ผู้ดูแลเฉียนขมวดคิ้วเอ่ยเตือน เขาชอบสาวงาม เว้นเสียแต่คนที่สร้างปัญหาให้เขานี่คือเจดีย์หนิงกู่ เป็นอาณาเขตของซูจิ่งสิง ทั้งหมดต้องระมัดระวังให้ดีลี่จีถลึงตาใส่ห้องหมายเลขหนึ่งอย่างโมโห พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ“ข้ารู้แล้ว”ผู้ดูแลเฉียนโอบปลอบนาง “เป็นอะไร อารมณ์ไม่ดีแล้ว?”เห็นแก่ลี่จีปรนนิบัติจนสบายตัว เขาอธิบายอย่างเชื่องช้าหนึ่งประโยค“ตกปลาใหญ่ต้องอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 856

ที่นี่คืองานประมูล ไม่ใช่ห้องเตียงใหญ่เสียหน่อย!“ท่านพี่ ท่านว่าคนอยู่เบื้องหลังหญิงคนนี้เป็นใคร? ฮ่องเต้ทูเจวี๋ยหรือ?”ซูจิ่งสิงส่ายหน้า “เป็นเหยลวี่เจิง”“เหยลวี่เจิงเป็นใคร?”กู้หว่านเยว่สงสัยมากยิ่งขึ้นซูจิ่งสิงอธิบายเสียงเครียด “ปีนั้นคนที่ต่อสู้กับข้าในสนามรบ แม่ทัพของทูเจวี๋ย”เขาพูดเสียงค่อย “เหยลวี่เจิงอายุไล่เลี่ยกับข้า วิชายุทธ์ล้ำเลิศ จิตใจล้ำลึก ในมือของเขายังมีกลุ่มหนึ่งชื่อว่าหอร้อยบุปผา ภายในล้วนคือหญิงงามอันดับหนึ่ง อาศัยขายความงาม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหรือได้รับรายงานข่าว”กู้หว่านเยว่กะพริบตา “หญิงเมื่อครู่คนนั้น ก็คือคนของหอร้อยบุปผาหรือ?”“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงอธิบาย “หญิงของหอร้อยบุปผาล้วนมีรอยสักรูปดอกโบตั๋นบนอก รอยตรานั้นเว้นเสียแต่เฉือนเนื้อออกก็ไม่สามารถล้างออกได้ เพราะเหตุนี้หากเข้าหอร้อยบุปผาแล้ว ก็จะมีรอยตราของหอร้อยบุปผาชั่วชีวิต อย่าคิดว่าจะหนีไปได้”จู่ๆ เขาก็มีท่าทางประหม่า อย่างไรเสียบริเวณนั้นก็ชวนเก้อกระดากอยู่บ้าง“บนหน้าอกของหญิงเมื่อครู่คนนั้นก็คือลายดอกโบตั๋น”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ไม่ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยนี้สองสามีภรรยาฟังผ่านคำพูด
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 857

อีกคนหนึ่งเดินเข้ามาดู ยังไม่ต้องพูดถึงเงาคน แม้แต่หนูตัวเดียวก็ไม่พบ“ข้างนอกมียามเฝ้ามากถึงเพียงนี้ ไม่มีวันมีคนเข้ามาได้ ไปเถอะๆ อีกเดี๋ยวก็จะถึงการประมูลหมายเลขยี่สิบสามแล้ว พวกเรายกกล่องหมายเลขยี่สิบสามไปก่อน”ยามเฝ้าอีกคนพยักหน้าอย่างสงสัย แปลกยิ่งนัก เมื่อครู่เขาได้ยินเสียง หรือว่าตนเองหูฝาดไป?ตรวจดูสองรอบอย่างไม่วางใจ แต่หาคนไม่พบจริงๆเขารีบยกกล่องออกจากคลังสินค้าพร้อมกับอีกคนหนึ่งแล้วจากไปได้ยินเสียงลงสลักที่นอกประตูคลังสินค้าแล้ว กู้หว่านเยว่มิได้พาซูจิ่งสิงออกมาในทันที แต่อยู่ภายในมิติต่ออีกครู่หนึ่งกู้หว่านเยว่อาศัยโอกาสนี้โยนถ่านเข้าหอแห่งโอสถเพื่อทดสอบ ทำเสียจนซูจิ่งสิงแปลกใจมาก“น้องหญิง ตกลงถ่านนี้มีความพิเศษอะไรหรือ?”กู้หว่านเยว่หยิบรายงานผลการทดสอบ พูดอธิบาย “ภายในถ่านมีพิษ เพียงแต่พิษนี้ไร้สีไร้กลิ่น พบเห็นได้ยาก หลังถูกจุดแล้ว ยาพิษจะค่อยๆ กำจายภายในอากาศ หากคนสูดดมยาพิษนี้เข้าไป ก็จะถูกวางยาพิษยิ่งไปกว่านั้นต่อให้พิษนี้กำเริบ คนทั่วไปก็สังเกตไม่เห็น มันจะค่อยๆ ทำให้เส้นประสาทของท่านเป็นอัมพาต ทำให้ท่านกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนภายในระยะเวลาสองสามเดือน”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 858

“ต้องรวยแน่นอน หากข้าร่ำรวยเหมือนเขาแล้วล่ะก็ ชาตินี้ก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”เนี่ยชิงหลานเผยสีหน้าอิจฉา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากันเจ้าของตลาดมืดอินซานร่ำรวยถึงเพียงนี้ เชื่อว่าไม่ขาดแคลนเงิน ก็ไม่รู้ว่าทูเจวี๋ยใช้สิ่งใดถึงทำให้เขายอมร่วมมือทำร้ายพวกเขาดูท่าแล้ว คืนนี้จะต้องจับผู้ดูแลเฉียนมาสอบสวนดีๆ สักรอบ“พี่ใหญ่พี่สะใภ้ใหญ่ พวกท่านกลับมาแล้ว”หางตาของซูจื่อชิง มองเห็นสองคนเดินเข้ามาจากภายนอก“อืม” ซูจิ่งสิงพยักหน้า พากู้หว่านเยว่มานั่งลง ปรมาจารย์แพทย์เอ่ยปากอย่างหวังดี“อีกเดี๋ยวหลังงานประมูลจบลง ข้าจะลองจับชีพจรให้เจ้าดู”ทีแรกซูจิ่งสิงยังตอบสนองไม่ทัน เหตุใดต้องจับชีพจรรอจนกระทั่งดึงสติกลับมาได้แล้ว สีหน้าดำทะมึน สายตาตำหนิทอดมองกู้หว่านเยว่“น้องหญิง”เขาเสียสละเพื่อครอบครัวมากถึงเพียงนี้ ถึงขั้นถูกคนสงสัยว่านกเขาไม่ขันมุมปากกู้หว่านเยว่กระตุกริก เมื่อครู่นางคิดเพียงต้องการแย่งอ๋องหกประมูล คิดไม่ถึงเลยว่าทุกคนจะเข้าใจผิดไป“แค่กๆ ปรมาจารย์แพทย์ ท่านเข้าใจผิดไปแล้ว ร่างกายสามีไม่มีปัญหาอะไร”ปรมาจารย์แพทย์เผยสีหน้าเข้าใจ “วางใจเถอะ วางใจเถอะ ข้ามิได้พูดว่าร่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 859

ใบหูแดงเรื่อ ทันใดนั้นถึงขั้นไม่รู้ว่าสมควรเข้าไปหรือไม่ซ่งเสวี่ยเองก็ตกตะลึง ดึงสติกลับมาได้อย่างว่องไว เห็นท่าทางยืนลังเลอยู่หน้าประตูของอีกฝ่าย เอ่ยเตือนว่า“คุณชายโจวรีบเข้ามาเถอะ อย่ายืนหน้าประตูรถม้าเลย”โจวเซิงนี่ถึงดึงสติกลับมาได้ บัดนี้ยามเผชิญหน้ากับซ่งเสวี่ย ถึงขั้นเกิดความคิดวู่วามอยากหนีไปทำนองนั้นแต่เขาขึ้นรถม้ามาแล้ว ลงไปตอนนี้ กลับคล้ายยิ่งปกปิดก็ยิ่งเปิดเผยออกมานี่ถึงกัดฟันเดินเข้ารถม้า กลับไม่กล้านั่งข้างกายซ่งเสวี่ย พยายามนั่งที่มุมหนึ่งซ่งเสวี่ยนึกถึงเรื่องในวันนั้น เดิมทียังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับโจวเซิงเยี่ยงไร เพราะนางไม่แน่ใจว่าโจวเซิงได้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นไปแล้วหรือไม่ขณะเดียวกันโจวเซิงหดตัวที่มุมหนึ่ง ท่าทางคล้ายกลัวทำให้คนอื่นอึดอัดนั้น กลับทำให้หลุดหัวเราะออกมาแล้ว“คุณชายโจว วันนั้นขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้า”ที่แท้นางก็รู้ หัวใจโจวเซิงร้อนรุ่ม คำขอบคุณนี้ห่างไปนานทีเดียว“ไม่ต้องเกรงใจ สถานการณ์เช่นนั้นในวันนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือ”โจวเซิงรีบตอบ ท่าทางระมัดระวังของเขา ทำเสียจนซ่งเสวี่ยรู้สึกอยากขัน บรรยากาศไม่ตึงเครียดเหมือนเมื่อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 860

“น้องหญิง สองคนนั้นเป็นคนของอ๋องหก”ซูจิ่งสิงกระซิบข้างโสตนางเสียงค่อย เสียงทำให้นางรู้สึกคันหูยุบยิบกู้หว่านเยว่มองตามสายตาของเขาไป ก็มองเห็นท่าทางลับๆ ล่อๆ ของทั้งสองคนที่กำลังจับตามองพวกเขา แสร้งเดินบนเส้นทางสายเดียวกับพวกเขา“ไม่ต้องสนใจพวกเขา พวกเราออกเดินทางเถอะ”กู้หว่านเยว่ยิ้มเย็นทีหนึ่ง ในเมื่อกลางคืนต้องการมาสืบงานประมูลอีกครั้ง ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่คิดกลับเมืองอวี้ แต่ตัดสินใจวนอยู่ที่ละแวกใกล้เคียงหนึ่งรอบบังเอิญละแวกนี้มีโรงเรือนปลูกผักขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง สามารถไปดูได้กู้หวานเยว่กระโดดขึ้นรถม้า ซูจิ่งสิงมาขับรถม้าเห็นว่ารถม้าออกเดินทางแล้ว ใบหน้าอ๋องหกเผยสีหน้าเย็นชา“ตามไป ชิงผลต้นเกล็ดหิมะมาหากมีโอกาส ฆ่าพวกเขาสองสามีภรรยาไปเสียเลย”“พ่ะย่ะค่ะ” คนชุดดำหลายคนได้ยินคำสั่ง จากนั้นต่างพากันไล่ตามรถม้าของกู้หว่านเยว่ไปขณะเดียวกัน รถม้ามีเพียงกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสองคน เพื่อความสะดวก พวกเขาไล่องครักษ์จันทราออกไปแล้วหลังรถม้าขับมาได้ระยะหนึ่ง ก็ค่อยๆ เข้าสู่ถนนสายเล็กมีคนน้อยมาก“มาแล้ว”สีหน้าซูจิ่งสิงเย็นชา สังเกตเห็นว่าข้างหลังมีคนกำลังเข้าใกล้รถม้าอย
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
8485868788
...
120
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status