บททั้งหมดของ ชายาแพทย์พลิกชะตา: บทที่ 71 - บทที่ 80

347

บทที่ 71

เมื่อเห็นว่าซูจิ่นเอ๋อร์ออกไปแล้ว ซูจิ่งสิงก็พูดขึ้นอย่างลังเล “เจ้ากับฟู่หลานเหิง...”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้ว “ข้ากับฟู่หลานเหิงทำไมหรือ ท่านก็สงสัยว่าเรามีความสัมพันธ์กันงั้นหรือ?”“แน่นอนว่าไม่” ซูจิ่งสิงรีบกล่าวขึ้น “ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า”เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่ากู้หว่านเยว่ปฏิบัติต่อฟู่หลานเหิงอย่างเหมาะสม แต่เขาไม่แน่ใจว่านางมีความรู้สึกอื่นหรือไม่ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็ก ฟู่หลานเหิงก็รักกู้หว่านเยว่มากเขาขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ถ้าฟู่หลานเหิงขอให้เจ้าอยู่ต่อ เจ้าจะอยู่หรือไม่?”กู้หว่านเยว่ตกตะลึง ในที่สุดก็รู้ว่าซูจิ่งสิงกำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงจงใจพูดว่า “ถ้าข้าอยากอยู่ต่อ ท่านจะให้ข้าอยู่หรือไม่?”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้ว กล่าวขึ้นด้วยความอึดอัด“ไม่”“งั้นก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?” กู้หว่านเยว่หาวแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงฝังเข็มเหนื่อยเกินไปแล้ว นางต้องพักผ่อนให้เต็มที่ซูจิ่งสิงยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของนางเมื่อมองใบหน้าที่สงบขณะหลับของนาง ในที่สุดซูจิ่งสิงก็เข้าใจในสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่นี้ ในใจของเขาก็พลันเต็มไปด้วยความสุข รู้สึกว
Read More

บทที่ 72

ซูจิ่งสิง!“เจ้าปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้!” ท่านี้มันน่าอายเกินไปแล้วกู้หว่านเยว่ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ก็ท่านบอกให้ข้าพาท่านไปด้วยไม่ใช่หรือ?”“กู้หว่านเยว่!” ซูจิ่งสิงกัดฟัน“เอาละ เลิกเล่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ปลุกจิ่นเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ตื่นหรอก”กู้หว่านเยว่ตบก้นของเขาเบา ๆ ไม่อยากจะพูดเลยว่านุ่มมือดีจริง ๆซูจิ่งสิง อยากจะตายแล้วความอับอายของเขาอยู่ได้ไม่นาน ก็รู้สึกตกใจกับการกระทำของกู้หว่านเยว่ เพียงแค่พริบตาเดียวนางก็ออกไปไกลกว่าสิบเมตรแล้วจากนั้นก็เดินตามหลังหมอโจวไปอย่างไม่ใกล้ไม่ไกล จนมาถึงร้านขายยาของสกุลโจวร้านขายยาของสกุลโจวเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตงโจว แบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นล่างและชั้นบน ด้านหลังยังมีโกดังเก็บยาหลายโกดัง มีสมุนไพรกองอยู่เต็มไปหมดหมอโจวได้ตำราแพทย์มาแล้ว ก็เหมือนได้สมบัติล้ำค่า จึงขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่อศึกษาค้นคว้าแต่ไม่ทันสังเกตเลยว่ามีคนแอบตามเขาเข้ามาในร้านขายยาจากด้านหลัง“เจ้าคิดจะทำอะไร?”หลังจากถูกวางลง ซูจิ่งสิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องอยู่ในท่าทางที่น่าอึดอัดอีกต่อไปเมื่อเงยหน้าขึ้นมองกู้หว่านเยว่ที่
Read More

บทที่ 73

นี่ไม่ใช่ตำราแพทย์อะไรเลย แต่เป็นสมุดภาพที่กู้หว่านเยว่ขีดเขียนเล่น ๆสิ่งที่วาดไว้ข้างใน ไม่ใช่เต่าก็เป็นตะพาบ แถมยังมีคำด่าทอที่เป็นที่นิยมในสมัยใหม่ด้วยหมอโจวยอมทิ้งศักดิ์ศรีไปทำตัวเป็นโจร ศึกษาตำราทั้งคืน สุดท้ายก็ได้แค่ของแบบนี้มาเขาสติแตกแล้วโมโหจนขว้างตำราแพทย์ลงพื้น จากนั้นเดินออกไปด้วยความโกรธ“กู้หว่านเยว่ นางเด็กสารเลว เจ้ากล้าหลอกข้า เจ้าไม่ตายดีแน่...เอ๊ะ สมุนไพรของข้าล่ะ?”เมื่อเห็นร้านขายยาที่ว่างเปล่า เขายังคิดว่าตัวเองตาฝาด จึงรีบขยี้ตาจนกระทั่งขยี้ตาไปหลายสิบรอบแล้วก็ยังเห็นภาพเดิม สุดท้ายก็ตกใจจนทรุดลงไปกองกับพื้น“ร้านของข้า สมุนไพรของข้า สมุนไพรล่ะ!”เสียงร้องไห้ของหมอโจว ทำให้หมอและเด็กในร้านขายยาคนอื่น ๆ ตกใจกันหมดทุกคนต่างตกใจจนหน้าถอดสี รีบไปแจ้งทางการ เนื่องจากสมุนไพรสูญหายไปมากขนาดนี้ ทางการย่อมให้ความสำคัญอย่างยิ่งอย่างไรก็ตาม เมื่อไปตรวจสอบที่ร้านขายยา ก็ไม่พบว่ามีใครบุกรุกเข้าไปในร้าน แต่กลับพบชุดดำภายในห้องของหมอโจวทางการสงสัยว่าหมอโจวจงใจสร้างเรื่องขึ้นมา หมอโจวที่น่าสงสารไม่เพียงแต่ไม่ได้รับการชดใช้ความเสียหาย แต่ยังถูกจับเข้าคุกและถู
Read More

บทที่ 74

จางเอ้อร์กระทืบเท้า “เป็นคนของสกุลซู พวกเขา พวกเขาติดโรคระบาดแล้ว!”“เป็นไปได้อย่างไร?”สีหน้าของกู้หว่านเยว่เปลี่ยนไป นางให้ซูจิ่นเอ๋อร์ต้มยาป้องกันโรคระบาดแบ่งให้ทุกคนกินทุกวันถ้าทุกคนดื่มยาแล้ว จะไม่มีทางติดโรคระบาดแน่นอนซูจิ่นเอ๋อร์ที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงก็ออกมา แล้วรีบบอกกู้หว่านเยว่ว่า“พี่สะใภ้ ท่านฟังข้านะ ข้าใช้ห่อยาที่ท่านให้มาต้มตลอด ไม่มีทางเกิดปัญหาแน่นอน”“จิ่นเอ๋อร์ ข้าเชื่อเจ้า”ซูจิ่นเอ๋อร์อาจจะเคยเป็นคุณหนูเอาแต่ใจอยู่บ้าง แต่หลังจากที่นางปรับปรุงตัวแล้ว ตอนนี้ก็ระมัดระวังในการต้มยาเป็นอย่างมากกู้หว่านเยว่เคยดูอยู่ข้าง ๆ หลายครั้ง ก็มั่นใจในเรื่องนี้ได้นางมองไปที่จางเอ้อร์ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีคนในสกุลซูกี่คนที่ติดโรคระบาด?”“ข้าก็ไม่รู้แน่ชัดว่ากี่คน แต่ที่รู้ ๆ คือนางจินจากบ้านใหญ่ใกล้จะไม่ไหวแล้ว คนอื่น ๆ ก็อาจจะติดโรคไปด้วยหัวหน้าของเราสั่งให้คนไปล็อกห้องเก็บฟืนแล้ว ไม่ให้คนข้างในออกมา”“ล็อกห้องเก็บฟืน?” กู้หว่านเยว่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ คิ้วขมวดเข้าหากันนอกจากพวกเขาและเหล่านักการแล้ว สกุลเหยียน สกุลหลี่ สกุลเซิ่ง และสกุลซูทั้งหมดก็อยู่ใน
Read More

บทที่ 75

ตามหลักแล้ว ทุกคนดื่มยาป้องกันโรคทุกวัน และไม่ได้สัมผัสกับผู้ป่วย จึงไม่น่าจะติดเชื้อได้เว้นแต่ว่าพวกเขาจะสัมผัสกับสิ่งของที่ผู้ป่วยเคยใช้แต่ของของผู้ป่วยจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?กู้หว่านเยว่เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนอื่นให้ซูจิ่นเอ๋อร์ไปเตรียมสำลีมาหลายสิบอัน แล้วเขียนชื่อของแต่ละคนลงบนสำลีจากนั้นแจกจ่ายให้คนของบ้านใหญ่และนักการในศาลาว่าการ สั่งให้แต่ละคนใช้สำลีป้ายเบา ๆ ที่ลำคอ แล้วใส่ลงในแก้วที่สะอาดแยกกัน และนำมาส่งให้นางนางก็ค่อยนำสำลีเหล่านี้เข้าไปตรวจสอบที่ตึกการแพทย์ที่อยู่ในมิติของนาง“โชคดีที่คนข้างนอกไม่ได้ติดเชื้อมาลาเรีย”ซุนอู่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกขอบคุณสวรรค์ ส่วนนักการคนอื่น ๆ ก็โล่งใจเช่นกันต่อไปก็ถึงตาของนักโทษเนรเทศที่อยู่ในห้องเก็บฟืนแล้วเมื่อหน้าต่างเปิดออกเล็กน้อย คนที่อยู่ข้างในก็รีบกรูเข้ามาทันที และทุบขอบหน้าต่างด้วยความตื่นเต้น“แม่นางน้อยกู้ ช่วยพวกเราด้วยเถอะ!”“ใช่แล้ว พวกเราหลายคนไม่ได้ป่วย เหตุใดต้องขังพวกเราไว้ด้วยกันข้างในนี้ เราไม่อยากตายนะ”ทุกคนในห้องเก็บฟืนต่างตื่นตระหนก อาจพังหน้าต่างออกมาได้ทุกเมื่อกู้หว่านเยว่สวมผ้าคลุมหน้า “ท
Read More

บทที่ 76

หลังจากผลออกมา กู้หว่านเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่มีเพียงสี่คนที่ติดโรคระบาดฮูหยินผู้เฒ่าซู นางจิน ฮูหยินสกุลหลี่ และลูกชายคนเล็กของสกุลเซิ่ง“คนที่ไม่ได้ป่วยให้ออกมาจากห้องเก็บฟืน ถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่ออกมานำไปเผา แล้วใส่เสื้อผ้าที่สะอาด จากนั้นไปรับยาต้มป้องกันโรคจากจิ่นเอ๋อร์”กู้หว่านเยว่สั่งการอย่างเป็นระเบียบ“คนที่ป่วยทั้งสี่คน ให้อยู่ในห้องเก็บฟืนห้ามออกมา”คนอื่น ๆ ทั้งสามคนเชื่อฟังคำสั่งอย่างว่าง่าย มีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูที่ทำหน้าบึ้งตึง ใช้ไม้เท้าพยุงตัวพยายามจะออกไปข้างนอก“ท่านออกไปไม่ได้”กู้หว่านเยว่รีบขวางนางไว้ยายแก่คนนี้ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไร ป่วยแล้วยังจะออกไปข้างนอกอีก อยากแพร่เชื้อให้คนอื่นใช่หรือไม่?ฮูหยินผู้เฒ่าซูจ้องมองนางอย่างดุร้าย “ทำไมข้าจะออกไปไม่ได้ ข้าไม่ได้ป่วย ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก กู้หว่านเยว่นางสารเลว เจ้าทำเพื่อแก้แค้นส่วนตัว ต้องการฆ่าข้า!”ดูทั้งสามคนที่เป็นโรคระบาดนั่นสิ คนไหนบ้างที่ร่างกายไม่อ่อนแอ?ข้อหนึ่งนางไม่ไอ ข้อสองไม่ตัวร้อน แล้วทำไมถึงเป็นโรคมาลาเรียได้?เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าซูกำลังจะพุ่งออกมาด้วยความโกรธ
Read More

บทที่ 77

ซูหรานหร่านก้มหน้าลง “ท่านย่าไม่ยอมดูแลท่านแม่ก่อนตอนที่นางป่วย ท่านแม่คอยดูแลนางตลอด ตอนนี้ท่านแม่ป่วยแล้ว นางไม่สนใจเลยสักนิด โดนตีก็สมควรแล้วมิใช่หรือ?”“ซูหรานหร่าน เจ้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร ปกติพ่อสอนให้เจ้าเคารพผู้ใหญ่และรักเด็กไปไหนหมด?”ซูหัวหยางแสดงสีหน้าเย็นชาซูหรานหร่านกลับเหมือนถูกกระตุ้น เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา“ข้าพูดผิดตรงไหน พวกเราบ้านใหญ่รับใช้ท่านย่ามาตลอดทางเหมือนวัวเหมือนม้า แต่ท่านย่าเคยเห็นความดีของพวกเราบ้างหรือไม่ในใจของท่านพ่อมีแต่ท่านย่า ไม่สนใจเลยหรือว่าท่านแม่ข้าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร?”ซูหัวหยางหน้าแดงก่ำแน่นอนว่าเขาเป็นห่วงนางจิน แต่ความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เขาควรจะห่วงใยท่านแม่ของเขามากกว่า เพราะฮูหยินผู้เฒ่าซูคือแม่ของเขานี่นา?“หรานหร่าน เจ้าจะก้าวร้าวเกินไปแล้ว กล้าพูดกับพ่อแบบนี้ได้อย่างไร!”ซูหัวหยางกล่าวพลางยกมือจะตบหน้าซูหรานหร่าน แต่โชคดีที่ซูเช่อเข้ามาขวางไว้ทัน“ท่านพ่อ อย่าทำร้ายน้องสาวเลย น้องสาวก็แค่เป็นห่วงท่านแม่”ซูหรานหร่านฉวยโอกาสหนีไป มองซูหัวหยางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แล้ววิ่งหนีไปไกล ทางด้านนี้ เพื่อ
Read More

บทที่ 78

ซูจิ่งสิงส่ายหัวให้นาง“ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน เจ้าไม่มีหลักฐาน ตอนนี้ไปหานาง นางก็ไม่ยอมรับหรอก”“แล้วจะทำอย่างไรดี?”จะปล่อยให้นางรอดตัวไปงั้นหรือ? กู้หว่านเยว่ยอมไม่ได้“ข้ามีวิธีให้นางยอมรับเอง” ซูจิ่งสิงกระซิบข้างหูนางสองสามประโยค กู้หว่านเยว่ฟังแล้วตาเป็นประกายสองวันต่อมา ผู้ป่วยในห้องเก็บฟืนก็หายดีเกือบหมดแล้ว แม้แต่นางจินที่หมดสติก็ฟื้นขึ้นมาซูหรานหร่านรู้สึกขอบคุณกู้หว่านเยว่เป็นอย่างยิ่ง มองนางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกู้หว่านเยว่และซุนอู่เสนอว่าจะออกไปซื้อแม่ไก่แก่มาสักสองสามตัว จากนั้นตุ๋นเป็นน้ำแกงหนึ่งหม้อ เพื่อบำรุงร่างกายให้ทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินว่ามีน้ำแกงแม่ไก่ให้ดื่ม บรรยากาศหดหู่จากโรคระบาดก็พลันสลายไป ทุกคนต่างถือชามมาต่อแถวรับน้ำแกงไก่ด้วยความกระตือรือร้นหลี่ซือซือก็ไม่ยกเว้นแต่เมื่อนางเห็นหม้อที่กู้หว่านเยว่ใช้ต้มน้ำแกง ชามในมือก็เกือบจะหลุดร่วงลงพื้นด้วยความตกใจ“หม้อมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...” นางตกใจจนหน้าถอดสี หันหลังจะเดินหนีไปกู้หว่านเยว่เรียกนางจากด้านหลัง “หลี่ซือซือ เจ้าจะไปไหน น้ำแกงไก่นี่ไม่ดื่มแล้วหรือ?”หลี่ซือซือส่ายหัว เหมือนถูกก
Read More

บทที่ 79

“ไม่หย่าเจ้าแล้วจะเก็บไว้ฉลองตรุษจีนหรือไร?”ซูอวี่เข้ามาในห้องด้วยท่าทางโมโห หยิบกระดาษมาเขียนหนังสือหย่าอย่างลวก ๆ แล้วปาใส่หน้าหลี่ซือซือ“ท่านพี่ แม้เป็นสามีภรรยากันเพียงคืนเดียวก็ยังผูกพันกันนะ!”หลี่ซือซือน้ำตาไหลพราก กอดขาซูอวี่ไว้แน่น“ไปให้พ้น!” ฮูหยินผู้เฒ่าซูถีบนางออกไปด้วยเท้าข้างหนึ่ง จากนั้นยังเอาพื้นรองเท้าถูกับพื้นหญ้าอย่างแรง ราวกับเหยียบขี้หมาเหม็น ๆ ทุกคนมองดูอย่างเย็นชา ไม่มีใครสงสารหลี่ซือซือเลย“พวกเราซดน้ำแกงจากหม้อใบเล็กไปแล้ว คงไม่ติดโรคมาลาเรียหรอกนะ?”“ไม่หรอก”กู้หว่านเยว่รีบอธิบาย เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก“หม้อใบเล็กนี้ข้าหาใบที่เหมือนกันมาโดยเฉพาะ ใบเก่าถูกเผาทิ้งไปนานแล้ว”ทุกคนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก“กู้หว่านเยว่ เจ้ากล้าหลอกข้า!”หลี่ซือซือรู้สึกว่าตนเองถูกหลอก จึงคว้าชามที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาปาใส่กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่หลบไปด้านข้าง จากนั้นยกเท้าถีบนางจนกระเด็น“ถ้าเจ้าไม่คิดร้ายกับใคร ก็ไม่มีใครหลอกเจ้าได้หรอก ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าทำเรื่องชั่วอีกเลย”หลี่ซือซือทรุดตัวลงไปตามกำแพง มองกู้หว่านเยว่ด้วยความโกรธแค้น และกำหมัดแน่น นา
Read More

บทที่ 80

อย่างไรก็ตาม สมุนไพรเหล่านั้นนางเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่บริจาคให้พื้นที่ระบาดเท่านั้น ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดส่วนทางด้านอวิ๋นมู่ นางเชื่อว่าเขาไม่กล้าหาผลประโยชน์ใส่ตัวจากเรื่องนี้“หมอเทวดาน้อยไม่ควรขอบคุณข้า ข้าต่างหากที่ควรขอบคุณท่าน ก่อนอื่นข้าขอขอบคุณสำหรับบุญคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ และขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับความเมตตาที่ท่านมอบสมุนไพรให้ชาวเมืองตงโจว”อวิ๋นมู่ยกถ้วยขึ้นมาก่อน แล้วกล่าวคำขอบคุณอันไพเราะต่อกู้หว่านเยว่ จากนั้นจึงพูดอย่างขี้เล่นว่า“แผลยังไม่หายดี ข้าขอใช้ชาดื่มแทนเหล้า เพื่อเป็นการคารวะท่านหมอเทวดาน้อย”“คุณชายอวิ๋นเกรงใจเกินไปแล้ว”กู้หว่านเยว่รีบยกถ้วยขึ้นชนกับเขา นางค่อนข้างชอบนิสัยของอวิ๋นมู่ การพูดคุยกับเขาทำให้นางรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกทั้งสองสบตากัน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“น้องหญิง กินผักสิ” ทันใดนั้น มือข้างหนึ่งก็มาขวางระหว่างทั้งสองคนซูจิ่งสิงมีสีหน้าหงอยเหงา อวิ๋นมู่ก็รีบเอ่ยขึ้น “ลองเป็ดย่างหนังกรอบนี่สิ เป็นอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ เป็ดที่ใช้เป็นเป็ดแม่พันธุ์อายุหลายปี เนื้อนุ่มไม่เลี่ยน และไม่มีกลิ่นคาว”เขาคีบขึ้นมา
Read More
ก่อนหน้า
1
...
678910
...
35
DMCA.com Protection Status