All Chapters of ชายาแพทย์พลิกชะตา: Chapter 411 - Chapter 420

780 Chapters

บทที่ 411

“ท่านลุง!”หลี่เฉินอันตะโกนเสียงดัง รีบรุดเข้าไปช่วยเกิ่งกวง“ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”“ข้าไม่เป็นไร เพียงคือเวียนหัวนิดหน่อย”เกิ่งกวงลูบหน้าผาก กู้หว่านเยว่เอ่ยเตือนอย่างเห็นใจ“ท่านเพิ่งเสียเลือดไปเยอะ บาดแผลยังไม่หายดี ทั้งอารมณ์ผันผวนอย่างรุนแรง รู้สึกเวียนหัวเป็นเรื่องปกติ รีบพักผ่อนเสียเถอะ”เกิ่งกวงส่ายหัว“แม้ว่าผู้พิพากษาหลินจะถูกจับกุม แต่พวกอันธพาลก็ยังไม่หมดไป ข้ายังต้องไปจัดการ”กู้หว่านเยว่พูดอะไรไม่ออก “จะดูแลตัวเองดีๆ มีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้นหรือจะตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด จะตายแหล่ไม่ตายแหล่”เกิ่งกวงเป็นทหาร จิตใจจึงเถรตรงอย่างไม่อาจหลีบเลี่ยงก่อนหน้านี้ คิดเพียงว่าเรื่องเจ้าหนูหลินเขาจึงล่าช้าไปหลายอย่าง ต้องละทิ้งผู้มีพระคุณ หลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของกู้หว่านเยว่ ยามนี้เขาก็คิดได้แล้ว“ที่ฮูหยินซูพูดคือ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะลงไปพักผ่อน รวบรวมเรี่ยวแรงกลับมา ล้างแค้นให้น้องสาวและตัวข้าเอง”“ไปเถอะ” ในเมื่อเกิ่งกวงคิดได้แล้ว กู้หว่านเยว่จึงไม่ได้พูดอะไรอีก“อาจารย์หญิง ข้าจะไปเป็นเพื่อนท่านลุงนะขอรับ”หลี่เฉินอันตามมา เขาต้องอธิบายบางสิ่งให้เกิ่งกวงเข้
Read more

บทที่ 412

เกิ่งกวงเห็นเช่นนี้ก็ตกใจเล็กน้อย เดิมทีเขารายงานตัวกับซูจิ่งสิง ยามนี้เมื่อรายงานตัวอีกครั้ง กลับเป็นกู้หว่านเยว่ไปเสียได้“ผู้พิพากษาหลินตายแล้ว เมืองนี้ต้องมีผู้ที่เข้ามาจัดการ ขอถามฮูหยินซู ท่านมีผู้ที่คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ขอรับ?”เกิ่งกวงและกงชางเหอต่างก็เป็นแม่ทัพ รับผิดชอบในการป้องกันทางทหารในเมืองตะวันไม่ตกดินหากต้องการจัดการทุกอย่างในเมืองให้เป็นระเบียบ ยังต้องพึ่งพาขุนนางผู้พิพากษากู้หว่านเยว่คิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงสั่งให้ใครบางคนเรียกฟู่หลานเหิงเข้ามา ก่อนจะบอกสถานการณ์ให้เขาฟัง“ใต้เท้าฟู่ ท่านเต็มใจที่จะทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษามณฑล ไม่ออกจากเมืองแห่งนี้หรือไม่?”ฟู่หลานเหิงยังคงเป็นราชทูตในจักรพรรดิที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักกู้หว่านเยว่ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเต็มใจหรือไม่ ดังนั้นนางจึงถามเขาก่อนทว่า นางยังคงหวังว่าฟู่หลานเหิงจะเต็มใจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว นางไม่สามารถหาใครที่เหมาะสมไปกว่าเขาได้ฟู่หลานเหิงไม่ลังเลเลย“ในเมื่อท่านและสหายซูเชื่อใจข้า เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เต็มที่”“เช่นนั้นแล้ว ก็ต้องรบกวนใต้เท้าฟู่ด้วย”กู้หว่านเยว่มั่นใจในความสามารถของฟู่หลานเหิงม
Read more

บทที่ 413

หลังจากลงมาจากหอคอยเมือง กู้หว่านเยว่ก็ขึ้นรถม้ากลับจวนผู้พิพากษาในเวลานี้ ฟู่หลานเหิงกำลังอ่านบันทึกความของเมืองตะวันไม่ตกดินตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาเป็นคนจริงจัง ในเมื่อตกลงมาเป็นผู้พิพากษาเมืองตะวันไม่ตกดินให้กู้หว่านเยว่แล้ว เขาย่อมต้องทำหน้าที่นี้ให้เต็มที่กู้หว่านเยว่ได้ยินว่าฟู่หลานเหิงกำลังยุ่ง ดังนั้นจึงไม่เข้าไปรบกวน จึงกลับไปที่ห้องของตนเองและเริ่มเขียนแผนกลยุทธ์ทันทีซูจิ่งสิงนั่งอยู่ข้างๆ ฝนหมึกให้นางใช้หากกู้หว่านเยว่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งใด นางก็จะถามซูจิ่งสิง ทั้งสองคนจะปรึกษาเรื่องนั้นด้วยกันเนื่องจากเป็นเวลากลางวัน พวกเขาทั้งสองจึงไม่ได้ปิดประตู บทสนทนาทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของทุกคน“กบฐฟ้าแล้วจริงๆ คุณชายซูไปนั่งฝนหมึกให้ภรรยาเช่นนั้นได้อย่างไร?”กงชางเหอดูตกตะลึง ในใจของเขา ภาพลักษณ์ของซูจิ่งสิงนั้นสูงเหลือคณานับหลู่จิงกลอกตามาที่เขา“เพราะฮูหยินของพวกเรามีความสามารถ เจ้ามีปัญหาอะไร?”“อีกอย่าง คุณชายของพวกเราก็เต็มใจด้วย”เจียงเฟิ่งก็ทำตามเช่นกัน ทั้งคู่ชื่นชมคนที่มีความสามารถและความสามารถของกู้หว่านเยว่ ก็ทำให้พวกเขาประทับใจไม่รู้ลืมกงชางเหอเกาหัว
Read more

บทที่ 414

ถนนปูน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!“ถนนปูนเป็นถนนประเภทหนึ่ง เรียบกว่าถนนอิฐหินและถนนลูกรังที่เรามีอยู่ตอนนี้”กู้หว่านเยว่บรรยายลักษณะของถนนปูนให้อีกฝ่ายฟังอย่างคร่าวๆ ทำให้ฟู่หลานเฟิงตกใจทันที บรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นเกือบจะอุทานออกมา“เยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ!”กู้หว่านเยว่ยกริมฝีปากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานของจีน ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกนะ“ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง เมืองตะวันไม่ตกดิน ส่วนใหญ่มักมีอาชญากรรมระดับปานกลางถึงรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้น เกรงว่าจะมีคนมาทำงานไม่มากนัก”จากแผนกลยุทธ์ของกู้หว่านเยว่ ฟู่หลานเหิงสามารถคาดเดาได้ว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ผู้คนหลายร้อยคนในเมืองตะวันไม่ตกดิน ย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน“ง่ายดายนัก มองลงไปดูสิ ปีนี้เจดีย์หนิงกู่มีพายุหิมะรุนแรง ด้านนอกเต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยมากมาย”“ขอเพียงท่านทำประกาศ จ้างผู้ลี้ภัย และบอกพวกเขาว่าตราบใดที่พวกเขาเข้ามาช่วยสร้างเมือง จะไม่เพียงแต่มีที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีค่าจ้างให้ด้วย หนึ่งวันมีอาหารสามมื้อไม่ขาด ผู้ใดจะปฏิเสธ?”ฟู่หลานเหิงสะดุ้งเล็กน้อย ใช่แล้ว เหตุใดเขาถึงคิดไม่ได้กัน?“แต่หากเกิดมีสายลับที่ไม่ใช่ผู้ลี้ภั
Read more

บทที่ 415

“จินเอ๋อร์ พวกเราต้องออกไปข้างนอกสักพัก อยู่บ้านดีๆ เล่า”หลังจากกำชับซูจิ่นเอ๋อร์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงออกไปทันทีกู้หว่านเยว่ไม่กังวลเกี่ยวกับเงินและอาหาร ตอนนี้นางมีสิ่งของมากมายนับล้านสิ่งสิ่งที่นางกังวลคือ จะขนส่งสิ่งของเหล่านี้ผ่านถนนเปิดไปยังเมืองตะวันไม่ดินได้อย่างไรเมื่อคำนวณจากความสามารถในการแบกเสบียงสองลิตรของคนคนหนึ่ง หนึ่งหมื่นคนจะเท่ากับสองหมื่นลิตร ปริมาณสำรองของธัญพืชของเมืองจะต้องมีอย่างน้อยสองเดือน ซึ่งก็คือหนึ่งล้านสองแสนลิตรหรือหนึ่งล้านแปดแสนกิโลกรัมด้วยปริมาณอาหารมากมายเช่นนี้ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเพียงลำพัง ไม่สามารถแบกกลับไปเองได้พวกเขาต้องหาสถานที่ที่เชื่อถือได้ นำอาหารออกมาก่อน จากนั้นจึงหากลุ่มคนที่ไว้ใจได้มาขนส่งอาหารไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินมิฉะนั้น หากอาหารจำนวนมากถูกถ่ายโอนออกจากมิติไปยังยุ้งฉางของเมืองตะวันไม่ตกดินโดยตรง จะทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยอย่างแน่นอนกู้หว่านเยว่ทำงานเด็ดขาด ย่อมไม่ต้องการเปิดเผยมิติของเองและมิติ ก็คือไพ่ตายของนางซูจิ่งซิงเข้าใจความกังวลของหญิงสาวดี เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า“ตอนที่พวกเราไปลั่วอั
Read more

บทที่ 416

ซูจิ่งสิงเหลือบมองท้องฟ้าแล้วพูดว่า “เวลาไม่คอยท่า ไปที่หมู่บ้านสือหานกันก่อนเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปดูที่เก็บเสบียง”“พวกท่านออกไปก่อน ข้าจะเข้าไปเอาของสักหน่อย”ในสวนยังมีเมล็ดพันธุ์ผัอีกกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ใช้ กู้หว่านเยว่ไม่อยากทิ้งมันไป“ได้” ซูจิ่งสิงรู้ว่าภรรยาของเขากำลังจะทำอะไร จึงรีบพาพวกเขาทั้งสามออกไปหลังจากนั้นไม่นาน กู้หว่านเยว่ก็เดินออกมาและพูดว่า “ไปที่หมู่บ้านสือหานกันเถอะ”ทุกคนออกจากเมืองพร้อมกัน และถูกทำการสอบสวนอีกครั้งแต่ทั้งหมดล้วนเก่งเหนือมนุษย์ เหล่าทหารไม่อาจจับความผิดปกติได้เมื่อพวกเขามาถึงประตูเมือง กู้หว่านเยว่ก็คิดได้ว่าพวกเขาไม่มีม้า ไม่อาจเดินกลับไปเช่นนี้ได้ จึงแก้ตัวว่าม้าถูกมัดอยู่ด้านหลังร้านน้ำชา ขอให้พวกเขารอที่นี่จากนั้น นางก็พาซูจิ่งสิงไปยังมุมที่เงียบสงบไร้ผู้คน ก่อนจะนำม้าที่แข็งแกร่งห้าตัวออกมาจากลานเลี้ยงม้าม้ากระต่ายสีแดงสะดุดตาเกินไป กู้หว่านเยว่ไม่อาจเอาออกมาใช้งานได้ทั้งสองจึงพาม้ากลับไปทันที“ม้าสามตัวนี้เป็นของพวกเจ้า ขี่กลับไปที่หมู่บ้านสือหานเถอะ”“ขอรับ”ฮั่นจิ่วและคนอื่นๆ ไม่สงสัยอะไรเลยสักนิด ขึ้นควบขี่ม้า ติดตามกู้หว
Read more

บทที่ 417

“เสบียงพวกนี้เป็นภรรยาข้าเตรียมเอาไว้ ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า พวกเจ้าอยากชมก็ชมนางเถอะ”ซูจิ่งสิงดึงกู้หว่านเยว่ออกมา ไม่ปิดบังการมีส่วนร่วมของกู้หว่านเยว่ฮั่นจิ่วและคนอื่นๆ ตกตะลึงทันที พวกเขารู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถมาก แต่ก็ไม่เคยคิดว่านางจะมีความสามารถขนาดนี้เสบียงนับแสนล้านเหล่านี้ วางที่ใดไหนเล่าจะไม่เกิดความรู้สึก?ชิงเหลียนแสดงความชื่นชมทันที “ฮูหยิน ท่านเป็นแบบอย่างของคนรุ่นเราแล้วจริงๆ”หงเจาไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้าเท่านั้นส่วนฮั่นจิ่วเป็นบุรุษ ไม่อาจพูดคำชมโต้งๆ ออกมาได้ แต่สายตาที่มองกู้หว่านเยว่เต็มไปด้วยความชื่นชมกู้หว่านเยว่ยิ้มให้ซูจิ่งสิง “นี่คือที่ที่พวกเราจะเก็บเสบียงเอาไว้ พวกเจ้าต้องจำที่นี่เอาไว้ให้แม่น จากนี้ไป พวกเจ้าจะต้องรับผิดชอบในการพาคนจากด้านล่างขึ้นมาขนส่งเสบียงไปยังเมืองตะวันไม่ตกดิน หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น ข้าจะลงโทษนะ”“ฮูหยินวางใจ พวกเราจะปกป้องเสบียงเหล่านี้ด้วยชีวิต ส่งมอบอาหารทั้งหลายไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินอย่างปลอดภัยแน่นอนขอรับ!” พวกเขาเคยอยู่ในค่ายทหาร ย่อมรู้ซึ้งถึงความสำคัญของเสบียงอาหาร“ดี”เจียงเฟิ่งและลู่จิง กู้หว่านเยว่เคย
Read more

บทที่ 418

เขาคือผู้มีพระคุณต่อหลู่ซื่อ ซึ่งหลู่ซื่อเองก็ติดตามเขามานานนับสิบปีทว่าเมื่อได้รับการกล่าวเตือนจากเถาเอ๋อร์ มู่หรงอวี้ที่กำลังป่วยหนักก็เริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้หลู่ซื่อประมาทอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังทำดินปืนหนึ่งเดียวของเขาหายไป นัยน์ตาของมู่หรงอวี้ก็ฉายแววเคร่งขรึมที่ยากจะคาดเดา และสั่งให้คนสะกดรอยตามหลู่ซื่อทันทีหลู่ซื่อรู้สึกแย่เกินกว่าที่จะรับได้ มู่หรงอวี้ไม่เชื่อใจเขา ทั้งยังอยากทำร้ายเขาแผ่นไม้ที่ถูกฟาดลงมาจำนวนสี่สิบครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ฝึกวิทยายุทธ์ แต่ก็ทำให้เขาต้องนอนติดเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือนนั้นหมายความว่าครึ่งเดือนนี้เขาจะไม่สามารถไปเยี่ยมลั่วยางได้เลยหลู่ซื่อเกิดความกังวลอยู่ในใจ จึงตัดสินใจว่าจะไปซื้ออาหารในตลาดนัดก่อน ตั้งใจว่าจะนำอาหารไปส่งให้ลั่วยางที่หมู่บ้านสือหาน แล้วค่อยกลับมารับไม้กระดานเหล่านั้นคนที่มู่หรงอวี้ส่งออกมาคอยติดตามอยู่รอบตัวของหลู่ซื่ออย่างเงียบ ๆ จนมาถึงหมู่บ้านสือหาน เมื่อเห็นลั่วยางที่ยังมีชีวิตอยู่จากกำแพงที่อยู่ถัดไป ก็พลันตื่นตกใจและนำเรื่องนี้กลับไปรายงานมู่หรงอวี้เถาเอ๋อร์ยิ้มเยาะด้วยน้ำ
Read more

บทที่ 419

“ท่านอ๋อง ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอท่านเสียที!”ทันทีที่เหล่าพลทหารสกุลซูหลายสิบคนเจอกับซูจิ่งสิงก็ทยอยกันคุกเข่าลงไปบนพื้น และคำนับศีรษะโขกพื้นดินต่อหน้าซูจิ่งสิงด้วยน้ำตาคลอเบ้าคาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะได้เจอกับท่านอ๋องในช่วงชีวิตของเขา“ทุกคนลุกขึ้นเถิด ข้าไม่ใช่ท่านอ๋อง ต่อไปไม่ต้องเรียกข้าเช่นนี้อีก”ซูจิ่งสิงมองคนที่อยู่ใต้อาณัติอย่างจงรักภักดีเหล่านี้อย่างซาบซึ้งอยู่ในใจพลทหารสกุลซูที่อยู่หน้าสุดรีบกล่าว “เช่นนั้นพวกเราเรียกท่านว่าคุณชายนะขอรับ ท่านอ๋องที่ฮ่องเต้ชั่วผู้นั้นแต่งตั้ง หากไม่อยากได้ก็ช่างเถิด!”ซูจิ่งสิงพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวแนะนำกู้หว่านเยว่ให้พลทหารเหล่านั้นรู้จัก “นี่คือภรรยาของข้า พวกเจ้าจงเรียกนางว่าฮูหยิน”ทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าเหตุผลที่ซูจิ่งสิงมีชีวิตรอดมาถึงเจดีย์หนิงกู่ได้ ต้องขอบคุณการช่วยเหลือของกู้หว่านเยว่ยามอยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่ จึงค่อนข้างสุภาพเป็นพิเศษ กระทั่งรีบทำความเคารพนาง“ข้าน้อยขอคารวะฮูหยิน”“รีบลุกขึ้นเถิด”เมื่อเห็นพลทหารสกุลซูที่เต็มไปด้วยความจงรักภักดีเหล่านี้ กู้หว่านเยว่ก็ทนเห็นพวกเขาคุกเข่าอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เย็นเยียบไม่ได
Read more

บทที่ 420

ทั้งสองคนตอบสนองอย่างรวดเร็ว หมายความว่ามู่หรงอวี้รู้แล้วว่าลั่วยางยังมีชีวิตอยู่ จึงส่งนักฆ่ามาฆ่าลั่วยางทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าหลู่ซื่ออยู่ที่ไหน เมื่อเห็นนักฆ่าเหล่านั้นกำลังจะทำร้ายลั่วยาง กู้หว่านเยว่ก็รีบกระโดดลงมาจากหลังคา หยิบธนูขึ้นมาง้างและยิงปลิดชีพนักฆ่าหนึ่งในนั้นทันทีสองคนที่เหลือรีบหันกลับมา เมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้มาเยือนคือกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป ทยอยกันพุ่งเข้ามาฆ่าพวกเขา“น้องหญิง ถอยไป”ซูจิ่งสิงกล่าวเสียงเคร่งขรึม จากนั้นก็ชักดาบออกมาเผชิญหน้ากับนักฆ่าเหล่านั้น ไม่นานบุรุษชุดดำสองคนนั้นก็ถูกปลิดชีพ“ขอบคุณพวกเจ้าที่ช่วยชีวิตข้า” เมื่อเห็นว่านักฆ่าทั้งสามคนทยอยล้มลงไปบนพื้น ลั่วยางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากได้สติกลับมาก็รีบกล่าวขอบคุณทั้งสองคนกู้หว่านเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้าไม่รู้จักพวกข้าหรือ?”“ข้ารู้จักพวกเจ้าด้วยหรือ?” ครานี้ถึงตาลั่วยางงุนงงบ้างซูจิ่งสิงกล่าวถาม “เจ้าชื่ออะไร?”ต่อหน้าคนทั้งสองที่ช่วยชีวิตตน ลั่วยางไม่มีอะไรต้องปิดบัง และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าชื่อยางเหมียว”ในตอนนี้เองกู้หว่านเยว่และซูจิ
Read more
PREV
1
...
4041424344
...
78
DMCA.com Protection Status