Share

บทที่ 414

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ถนนปูน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!

“ถนนปูนเป็นถนนประเภทหนึ่ง เรียบกว่าถนนอิฐหินและถนนลูกรังที่เรามีอยู่ตอนนี้”

กู้หว่านเยว่บรรยายลักษณะของถนนปูนให้อีกฝ่ายฟังอย่างคร่าวๆ ทำให้ฟู่หลานเฟิงตกใจทันที บรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นเกือบจะอุทานออกมา

“เยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

กู้หว่านเยว่ยกริมฝีปากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานของจีน ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกนะ

“ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง เมืองตะวันไม่ตกดิน ส่วนใหญ่มักมีอาชญากรรมระดับปานกลางถึงรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้น เกรงว่าจะมีคนมาทำงานไม่มากนัก”

จากแผนกลยุทธ์ของกู้หว่านเยว่ ฟู่หลานเหิงสามารถคาดเดาได้ว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ผู้คนหลายร้อยคนในเมืองตะวันไม่ตกดิน ย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน

“ง่ายดายนัก มองลงไปดูสิ ปีนี้เจดีย์หนิงกู่มีพายุหิมะรุนแรง ด้านนอกเต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยมากมาย”

“ขอเพียงท่านทำประกาศ จ้างผู้ลี้ภัย และบอกพวกเขาว่าตราบใดที่พวกเขาเข้ามาช่วยสร้างเมือง จะไม่เพียงแต่มีที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีค่าจ้างให้ด้วย หนึ่งวันมีอาหารสามมื้อไม่ขาด ผู้ใดจะปฏิเสธ?”

ฟู่หลานเหิงสะดุ้งเล็กน้อย ใช่แล้ว เหตุใดเขาถึงคิดไม่ได้กัน?

“แต่หากเกิดมีสายลับที่ไม่ใช่ผู้ลี้ภั
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 415

    “จินเอ๋อร์ พวกเราต้องออกไปข้างนอกสักพัก อยู่บ้านดีๆ เล่า”หลังจากกำชับซูจิ่นเอ๋อร์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงออกไปทันทีกู้หว่านเยว่ไม่กังวลเกี่ยวกับเงินและอาหาร ตอนนี้นางมีสิ่งของมากมายนับล้านสิ่งสิ่งที่นางกังวลคือ จะขนส่งสิ่งของเหล่านี้ผ่านถนนเปิดไปยังเมืองตะวันไม่ดินได้อย่างไรเมื่อคำนวณจากความสามารถในการแบกเสบียงสองลิตรของคนคนหนึ่ง หนึ่งหมื่นคนจะเท่ากับสองหมื่นลิตร ปริมาณสำรองของธัญพืชของเมืองจะต้องมีอย่างน้อยสองเดือน ซึ่งก็คือหนึ่งล้านสองแสนลิตรหรือหนึ่งล้านแปดแสนกิโลกรัมด้วยปริมาณอาหารมากมายเช่นนี้ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเพียงลำพัง ไม่สามารถแบกกลับไปเองได้พวกเขาต้องหาสถานที่ที่เชื่อถือได้ นำอาหารออกมาก่อน จากนั้นจึงหากลุ่มคนที่ไว้ใจได้มาขนส่งอาหารไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินมิฉะนั้น หากอาหารจำนวนมากถูกถ่ายโอนออกจากมิติไปยังยุ้งฉางของเมืองตะวันไม่ตกดินโดยตรง จะทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยอย่างแน่นอนกู้หว่านเยว่ทำงานเด็ดขาด ย่อมไม่ต้องการเปิดเผยมิติของเองและมิติ ก็คือไพ่ตายของนางซูจิ่งซิงเข้าใจความกังวลของหญิงสาวดี เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า“ตอนที่พวกเราไปลั่วอั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 416

    ซูจิ่งสิงเหลือบมองท้องฟ้าแล้วพูดว่า “เวลาไม่คอยท่า ไปที่หมู่บ้านสือหานกันก่อนเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปดูที่เก็บเสบียง”“พวกท่านออกไปก่อน ข้าจะเข้าไปเอาของสักหน่อย”ในสวนยังมีเมล็ดพันธุ์ผัอีกกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ใช้ กู้หว่านเยว่ไม่อยากทิ้งมันไป“ได้” ซูจิ่งสิงรู้ว่าภรรยาของเขากำลังจะทำอะไร จึงรีบพาพวกเขาทั้งสามออกไปหลังจากนั้นไม่นาน กู้หว่านเยว่ก็เดินออกมาและพูดว่า “ไปที่หมู่บ้านสือหานกันเถอะ”ทุกคนออกจากเมืองพร้อมกัน และถูกทำการสอบสวนอีกครั้งแต่ทั้งหมดล้วนเก่งเหนือมนุษย์ เหล่าทหารไม่อาจจับความผิดปกติได้เมื่อพวกเขามาถึงประตูเมือง กู้หว่านเยว่ก็คิดได้ว่าพวกเขาไม่มีม้า ไม่อาจเดินกลับไปเช่นนี้ได้ จึงแก้ตัวว่าม้าถูกมัดอยู่ด้านหลังร้านน้ำชา ขอให้พวกเขารอที่นี่จากนั้น นางก็พาซูจิ่งสิงไปยังมุมที่เงียบสงบไร้ผู้คน ก่อนจะนำม้าที่แข็งแกร่งห้าตัวออกมาจากลานเลี้ยงม้าม้ากระต่ายสีแดงสะดุดตาเกินไป กู้หว่านเยว่ไม่อาจเอาออกมาใช้งานได้ทั้งสองจึงพาม้ากลับไปทันที“ม้าสามตัวนี้เป็นของพวกเจ้า ขี่กลับไปที่หมู่บ้านสือหานเถอะ”“ขอรับ”ฮั่นจิ่วและคนอื่นๆ ไม่สงสัยอะไรเลยสักนิด ขึ้นควบขี่ม้า ติดตามกู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 417

    “เสบียงพวกนี้เป็นภรรยาข้าเตรียมเอาไว้ ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า พวกเจ้าอยากชมก็ชมนางเถอะ”ซูจิ่งสิงดึงกู้หว่านเยว่ออกมา ไม่ปิดบังการมีส่วนร่วมของกู้หว่านเยว่ฮั่นจิ่วและคนอื่นๆ ตกตะลึงทันที พวกเขารู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถมาก แต่ก็ไม่เคยคิดว่านางจะมีความสามารถขนาดนี้เสบียงนับแสนล้านเหล่านี้ วางที่ใดไหนเล่าจะไม่เกิดความรู้สึก?ชิงเหลียนแสดงความชื่นชมทันที “ฮูหยิน ท่านเป็นแบบอย่างของคนรุ่นเราแล้วจริงๆ”หงเจาไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้าเท่านั้นส่วนฮั่นจิ่วเป็นบุรุษ ไม่อาจพูดคำชมโต้งๆ ออกมาได้ แต่สายตาที่มองกู้หว่านเยว่เต็มไปด้วยความชื่นชมกู้หว่านเยว่ยิ้มให้ซูจิ่งสิง “นี่คือที่ที่พวกเราจะเก็บเสบียงเอาไว้ พวกเจ้าต้องจำที่นี่เอาไว้ให้แม่น จากนี้ไป พวกเจ้าจะต้องรับผิดชอบในการพาคนจากด้านล่างขึ้นมาขนส่งเสบียงไปยังเมืองตะวันไม่ตกดิน หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น ข้าจะลงโทษนะ”“ฮูหยินวางใจ พวกเราจะปกป้องเสบียงเหล่านี้ด้วยชีวิต ส่งมอบอาหารทั้งหลายไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินอย่างปลอดภัยแน่นอนขอรับ!” พวกเขาเคยอยู่ในค่ายทหาร ย่อมรู้ซึ้งถึงความสำคัญของเสบียงอาหาร“ดี”เจียงเฟิ่งและลู่จิง กู้หว่านเยว่เคย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 418

    เขาคือผู้มีพระคุณต่อหลู่ซื่อ ซึ่งหลู่ซื่อเองก็ติดตามเขามานานนับสิบปีทว่าเมื่อได้รับการกล่าวเตือนจากเถาเอ๋อร์ มู่หรงอวี้ที่กำลังป่วยหนักก็เริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้หลู่ซื่อประมาทอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังทำดินปืนหนึ่งเดียวของเขาหายไป นัยน์ตาของมู่หรงอวี้ก็ฉายแววเคร่งขรึมที่ยากจะคาดเดา และสั่งให้คนสะกดรอยตามหลู่ซื่อทันทีหลู่ซื่อรู้สึกแย่เกินกว่าที่จะรับได้ มู่หรงอวี้ไม่เชื่อใจเขา ทั้งยังอยากทำร้ายเขาแผ่นไม้ที่ถูกฟาดลงมาจำนวนสี่สิบครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ฝึกวิทยายุทธ์ แต่ก็ทำให้เขาต้องนอนติดเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือนนั้นหมายความว่าครึ่งเดือนนี้เขาจะไม่สามารถไปเยี่ยมลั่วยางได้เลยหลู่ซื่อเกิดความกังวลอยู่ในใจ จึงตัดสินใจว่าจะไปซื้ออาหารในตลาดนัดก่อน ตั้งใจว่าจะนำอาหารไปส่งให้ลั่วยางที่หมู่บ้านสือหาน แล้วค่อยกลับมารับไม้กระดานเหล่านั้นคนที่มู่หรงอวี้ส่งออกมาคอยติดตามอยู่รอบตัวของหลู่ซื่ออย่างเงียบ ๆ จนมาถึงหมู่บ้านสือหาน เมื่อเห็นลั่วยางที่ยังมีชีวิตอยู่จากกำแพงที่อยู่ถัดไป ก็พลันตื่นตกใจและนำเรื่องนี้กลับไปรายงานมู่หรงอวี้เถาเอ๋อร์ยิ้มเยาะด้วยน้ำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 419

    “ท่านอ๋อง ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอท่านเสียที!”ทันทีที่เหล่าพลทหารสกุลซูหลายสิบคนเจอกับซูจิ่งสิงก็ทยอยกันคุกเข่าลงไปบนพื้น และคำนับศีรษะโขกพื้นดินต่อหน้าซูจิ่งสิงด้วยน้ำตาคลอเบ้าคาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะได้เจอกับท่านอ๋องในช่วงชีวิตของเขา“ทุกคนลุกขึ้นเถิด ข้าไม่ใช่ท่านอ๋อง ต่อไปไม่ต้องเรียกข้าเช่นนี้อีก”ซูจิ่งสิงมองคนที่อยู่ใต้อาณัติอย่างจงรักภักดีเหล่านี้อย่างซาบซึ้งอยู่ในใจพลทหารสกุลซูที่อยู่หน้าสุดรีบกล่าว “เช่นนั้นพวกเราเรียกท่านว่าคุณชายนะขอรับ ท่านอ๋องที่ฮ่องเต้ชั่วผู้นั้นแต่งตั้ง หากไม่อยากได้ก็ช่างเถิด!”ซูจิ่งสิงพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวแนะนำกู้หว่านเยว่ให้พลทหารเหล่านั้นรู้จัก “นี่คือภรรยาของข้า พวกเจ้าจงเรียกนางว่าฮูหยิน”ทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าเหตุผลที่ซูจิ่งสิงมีชีวิตรอดมาถึงเจดีย์หนิงกู่ได้ ต้องขอบคุณการช่วยเหลือของกู้หว่านเยว่ยามอยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่ จึงค่อนข้างสุภาพเป็นพิเศษ กระทั่งรีบทำความเคารพนาง“ข้าน้อยขอคารวะฮูหยิน”“รีบลุกขึ้นเถิด”เมื่อเห็นพลทหารสกุลซูที่เต็มไปด้วยความจงรักภักดีเหล่านี้ กู้หว่านเยว่ก็ทนเห็นพวกเขาคุกเข่าอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เย็นเยียบไม่ได

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 420

    ทั้งสองคนตอบสนองอย่างรวดเร็ว หมายความว่ามู่หรงอวี้รู้แล้วว่าลั่วยางยังมีชีวิตอยู่ จึงส่งนักฆ่ามาฆ่าลั่วยางทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าหลู่ซื่ออยู่ที่ไหน เมื่อเห็นนักฆ่าเหล่านั้นกำลังจะทำร้ายลั่วยาง กู้หว่านเยว่ก็รีบกระโดดลงมาจากหลังคา หยิบธนูขึ้นมาง้างและยิงปลิดชีพนักฆ่าหนึ่งในนั้นทันทีสองคนที่เหลือรีบหันกลับมา เมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้มาเยือนคือกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป ทยอยกันพุ่งเข้ามาฆ่าพวกเขา“น้องหญิง ถอยไป”ซูจิ่งสิงกล่าวเสียงเคร่งขรึม จากนั้นก็ชักดาบออกมาเผชิญหน้ากับนักฆ่าเหล่านั้น ไม่นานบุรุษชุดดำสองคนนั้นก็ถูกปลิดชีพ“ขอบคุณพวกเจ้าที่ช่วยชีวิตข้า” เมื่อเห็นว่านักฆ่าทั้งสามคนทยอยล้มลงไปบนพื้น ลั่วยางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากได้สติกลับมาก็รีบกล่าวขอบคุณทั้งสองคนกู้หว่านเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้าไม่รู้จักพวกข้าหรือ?”“ข้ารู้จักพวกเจ้าด้วยหรือ?” ครานี้ถึงตาลั่วยางงุนงงบ้างซูจิ่งสิงกล่าวถาม “เจ้าชื่ออะไร?”ต่อหน้าคนทั้งสองที่ช่วยชีวิตตน ลั่วยางไม่มีอะไรต้องปิดบัง และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าชื่อยางเหมียว”ในตอนนี้เองกู้หว่านเยว่และซูจิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 421

    นางหยางและซูจิ้งกำลังช่วยดูแลคนของหนานหยางอ๋อง เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกลับมา ทั้งสองก็รีบเข้ามาต้อนรับ“หว่านเยว่ จิ่งสิง ในที่สุดพวกเจ้าก็กลับมาแล้ว บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”กู้หว่านเยว่หมุนตัวหนึ่งรอบพร้อมกับรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราไม่ได้บาดเจ็บ”จากนั้นก็เล่าสถานการณ์ของเมืองตะวันไม่ตกดินให้ทั้งสองคนฟัง“จิ่นเอ๋อร์เจ้าเด็กน้อยนั่นอยากจะอยู่ที่เมืองตะวันไม่ตกดิน พวกเราจึงปล่อยให้นางอยู่ที่นั่น”หลังจากฟังจบ นางหยางกลับไม่รู้สึกกังวล “จิ่นเอ๋อร์มีนิสัยเอาแต่ใจ แต่ถ้ามีใต้เท้าฟู่อยู่ ต้องควบคุมนางได้แน่”ไม่แปลกใจเลยที่เขากล่าวกันว่าแม่ยายรักลูกเขยเหมือนกับที่รักลูกสาวของตนเองนางหยางคิดจะจับคู่ซูจิ่นเอ๋อร์และฟู่หลานเหิงมานานแล้ว เมื่อเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน นางย่อมรู้สึกมีความสุขเป็นธรรมดาซูจิ่งสิงนึกถึงจุดประสงค์ที่มาในครั้งนี้ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าและหว่านเยว่ต้องไปที่เมืองอวี้ จะต้องออกเดินทางเดี๋ยวนี้แล้ว”จวนหลี่โหวอยู่ที่เมืองอวี้ หากต้องการช่วยหลี่เฉินอันแย่งชิงตำแหน่งโหว ต้องไปเมืองอวี้ให้เร็วที่สุดเท่าที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 422

    กู้หว่านเยว่ตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็รีบปรับสีหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว การแสดงอารมณ์มากเกินไปต่อหน้าผู้ป่วยไม่ใช่เรื่องดี“พระชายาทรงเป็นสตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันหรือ?”“สตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตัน สตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันคืออะไร?” ในต้าฉีมีหมอหญิงไม่กี่คน และยิ่งมีน้อยคนที่ศึกษาเกี่ยวกับโรคสตรีพระชายาหนานหยางส่ายหัว “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องสตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันอะไร แต่ตั้งแต่เด็ก ท่านแม่ก็บอกข้าว่า ข้าแตกต่างจากคนอื่น พูดไปก็ไม่กลัวเจ้าหัวเราะหรอก ด้วยสภาพแบบนี้ของข้า แม้แต่จะแต่งงานก็ยังยาก ถ้าข้ายังไม่ได้แต่งงานออกไป คงจะทำให้พี่น้องในครอบครัวพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะพี่สาวท่านอ๋องจึงเห็นใจข้า และให้ที่พักพิงแก่ข้า” กู้หว่านเยว่รู้เรื่องนี้ พี่สาวของพระชายาหนานหยางคือพระชายาองค์ก่อนที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว“ท่านไม่ต้องกังวล ให้ข้าลองคิดดูก่อน” กู้หว่านเยว่พูดปลอบใจนางสตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันแต่กำเนิดก็ใช่ว่าจะไม่สามารถรักษาได้เลยทีเดียว หากเป็นเพียงปัญหาในการเจริญเติบโตของปากช่องคลอด แต่ภายในและมดลูกยังสมบูรณ์ ก็สามารถทำการผ่าตัดได้หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว ไม่เพียงแต่

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1167

    “ลำบากเยว่จีแล้ว หากไม่มีเจ้า คงไม่มีทางหลอกให้ซูจิ่นเอ๋อร์ถ่อมาถึงทูเจวี๋ย”ชายที่เอนกายอยู่บนหนังเสือ ก็คือเหยลวี่เจิงที่หนีรอดมาจากมือซูจิ่งสิงเมื่อคราวที่แล้วส่วนหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ด้านล่าง คือเยว่จีเจ้าสำนักหอร้อยบุปผา นางคือผู้นำของหอร้อยบุปผา นอกจากเหยลวี่เจิง หญิงสาวในหอร้อยบุปผาล้วนฟังคำสั่งนางดวงตาเยว่จีเย้ายวน รูปโฉมของนางถือเป็นอันดับหนึ่งในหอร้อยบุปผา“ท่านแม่ทัพชมเกินไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านพบว่าน้องสาวของซูจิ่งสิงกำลังค้นหาดอกน้ำแข็งนิล เยว่จีก็ไม่สามารถใช้ความร้อนใจที่เป็นห่วงสามีของนาง หลอกนางมาถึงนี่”เยว่จีมองร่างกายกำยำของเหยลวี่เจิงอย่างลุ่มหลง ร่างกายนี้เคยพรากพรหมจรรย์ของนางไป ทำให้นางทุรนทุราย นางอยากลองอีกสักครั้ง...“ท่านแม่ทัพ นี่ก็ดึกแล้ว ให้เยว่จีปรนนิบัติท่านเถอะ” เยว่จีจ้องไปที่เข็มขัดของเขา แววตาเหยลวี่เจิงกลับมีความเกลียดชัง แล้วสะบัดมือนางทิ้ง“ไม่ต้อง คืนนี้ข้ายังต้องไปที่อื่น ที่มาครั้งนี้เพื่อแจ้งเจ้า ให้ส่งจดหมายไปหาซูจิ่ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1166

    ซูจิ่งสิงอาบน้ำอยู่ด้านใน กู้หว่านเย่วอยู่ด้านนอกก็ไม่ได้อยู่เฉย นางให้ระบบมอบแผนที่แคว้นทูเจวี๋ยนางหนึ่งชุดจากสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ช้าหรือเร็วพวกนางก็ต้องเดินทางไปทูเจวี๋ยกู้หว่านเยว่ใช้ปากกาขีดๆ เขียนๆ บนแผนที่ เพียงไม่นานซูจิ่งสิงเองก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จบนตัวมีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำติดตัวกลิ่นของทั้งสองหลอมรวมกัน ทำให้บรรยากาศเกิดความละมุนละไมทันที“อาบเสร็จเร็วขนาดนี้เชียว?”กู้หว่านเยว่หันมอง สายตาอยู่บนร่างกายซูจิ่งสิง วินาทีต่อมาถึงกับตาค้างอย่างตะลึงเขาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ หล่อเกินไปแล้ว!“ท่าน ท่านหล่อเกินไปแล้ว!”กู้หว่านเยว่หน้าแดงพร้อมพูดออกไปหนึ่งคำ นางไม่ค่อยมีแรงต้านทานต่อหนุ่มหล่อ โดยเฉพาะสามีของนางที่หล่อจนแทบอยากตาย อยากลูบกล้ามหน้าท้องจังเลย“ขอบคุณที่ชม”ซูจิ่งสิงถูกนางชมจนหน้าเริ่มแดง สายตาที่จ้องเขม็งยิ่งทำให้เขาหูแดงเถือก แม้จะกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกลับว้าวุ่นไปหมด“เจ้าทำสิ่งใดอยู่?”เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หากถูกสายตาราวกับเสือจ้องขย้ำของน้องหญิงมองต่อไป เขาอาจควบคุมตัวเองไม่อยู่กู้หว่านเยว่รีบกางแผนที่วางไว้บน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1165

    ทำให้ซวนลู่ดีใจ “พูดเช่นนี้เจ้ายังชอบข้าอยู่หรือ?”“ก็เปล่านะ”เกาเจี้ยนส่ายหน้า ตลอดทาง ซวนลู่หยั่งเชิงเขาทั้งทางอ้อมและทางตรงหลายครั้ง“อีกเดี๋ยว ข้าจะส่งเจ้ากลับไปสกุลซวน แล้วคุยกับท่านลุงซวนให้ชัดเจน ให้ท่านถอนหมั้นพวกเราสองคนซะ”เกาเจี้ยนพูดจบ สีหน้าเผยความสบายใจออกมาความจริงตั้งแต่ตอนอยู่เจดีย์หนิงกู่ เขาก็คิดเอาไว้แล้วเขากับซวนลู่ไม่เหมาะสมกัน ในเมื่อซวนลู่ไม่ชอบเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องบังคับใคร“เจ้าจะถอนหมั้นกับข้าหรือ?”ซวนลู่ชะงักไปเล็กน้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางอยากให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ทำไมยามนี้เมื่อกลายเป็นจริงแล้ว ในใจจึงรู้สึกเจ็บปวดราวกับมีสิ่งของที่เป็นของนาง กำลังค่อย ๆ จากไป“เจ้าพูดจริงหรือ?”เนื่องจากไม่กล้าเชื่อ ซวนลู่จึงย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่สิ่งที่ได้คือคำตอบที่มั่นใจของเกาเจี้ยน“ใช่”“เพราะอะไร?” ซวนลู่กำหมัดแน่น “เจ้ารังเกียจข้า เจ้ารู้ว่าข้าเสียตัวแล้ว ดังนั้นจึงถอนหมั้นหรือ!”เกาเจี้ยนรู้สึกว่าเหลวไหล“อาลู่ เป็นเพราะเจ้าไม่เคยรักข้าเลย”“เข้าเปล่านะ ข้า” “ตอนนี้เจ้าไม่อยากถอนหมั้น เป็นเพราะเจ้ารู้สึกว่า คนที่เมื่อก่อนเคยเดินตามหล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1164

    “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่ทัพผู้เฒ่า”ซูจิ่งสิงส่ายหน้า ก่อนเขาจะจากชายแดนกลับไปรับคำสั่งที่เมืองหลวง ได้สั่งการพวกแม่ทัพเกาเอาไว้ไม่ว่าในเมืองหลวงจะเกิดเรื่องใดขึ้น ห้ามพวกเขากระทำการบุ่มบ่ามเด็ดขาด ทางที่ดีให้รักษาตัวรอดที่ด่านซานไห่“ตอนนี้ข้าเองก็ปลอดภัยดี อีกอย่าง น้ำใจของแม่ทัพผู้เฒ่าข้าเข้าใจดี”แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า สายตาหันไปมองกู้หว่านเยว่“ท่านนี้คงเป็นพระชายาสินะ”“คารวะแม่ทัพผู้เฒ่าเกา” กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างสง่างาม ทำให้แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า “พระชายาไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป ใจกว้างเปิดเผย!”เกาเจี้ยนที่อยู่ข้างกันประหลาดใจ ต้องรู้ว่าปากของพ่อเขานั้น อยู่ในค่ายมีชื่อด้านปากเสียยิ่งนัก คำพูดสิบประโยคมีสิบเอ็ดประโยคไม่น่าฟังยามนี้เขาเพิ่งเห็นกู้หว่านเยว่เป็นครั้งแรก ก็ประเมินค่าสูงขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพผู้เฒ่าเกาชอบกู้หว่านเยว่จริง ๆทว่า ลองคิดดูก็เป็นเรื่องปกติพระชายาเก่งกล้าสามารถ แม้แต่เขายังยอมแพ้บนโลกนี้ ใครบ้างจะไม่ชอบพระชายา“ท่านพ่อ พวกเราเร่งเดินทางมาตลอดทาง ไม่ได้หยุดพักระหว่างทางเลยอย่ามัวแต่ยืนคุยกันข้างนอก ให้ท่านอ๋องกับพระชายาเข้าไปพักผ่อ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status