แชร์

บทที่ 418

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เขาคือผู้มีพระคุณต่อหลู่ซื่อ ซึ่งหลู่ซื่อเองก็ติดตามเขามานานนับสิบปี

ทว่าเมื่อได้รับการกล่าวเตือนจากเถาเอ๋อร์ มู่หรงอวี้ที่กำลังป่วยหนักก็เริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย

กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้หลู่ซื่อประมาทอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังทำดินปืนหนึ่งเดียวของเขาหายไป นัยน์ตาของมู่หรงอวี้ก็ฉายแววเคร่งขรึมที่ยากจะคาดเดา และสั่งให้คนสะกดรอยตามหลู่ซื่อทันที

หลู่ซื่อรู้สึกแย่เกินกว่าที่จะรับได้ มู่หรงอวี้ไม่เชื่อใจเขา ทั้งยังอยากทำร้ายเขา

แผ่นไม้ที่ถูกฟาดลงมาจำนวนสี่สิบครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ฝึกวิทยายุทธ์ แต่ก็ทำให้เขาต้องนอนติดเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือน

นั้นหมายความว่าครึ่งเดือนนี้เขาจะไม่สามารถไปเยี่ยมลั่วยางได้เลย

หลู่ซื่อเกิดความกังวลอยู่ในใจ จึงตัดสินใจว่าจะไปซื้ออาหารในตลาดนัดก่อน ตั้งใจว่าจะนำอาหารไปส่งให้ลั่วยางที่หมู่บ้านสือหาน แล้วค่อยกลับมารับไม้กระดานเหล่านั้น

คนที่มู่หรงอวี้ส่งออกมาคอยติดตามอยู่รอบตัวของหลู่ซื่ออย่างเงียบ ๆ จนมาถึงหมู่บ้านสือหาน เมื่อเห็นลั่วยางที่ยังมีชีวิตอยู่จากกำแพงที่อยู่ถัดไป ก็พลันตื่นตกใจและนำเรื่องนี้กลับไปรายงานมู่หรงอวี้

เถาเอ๋อร์ยิ้มเยาะด้วยน้ำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 419

    “ท่านอ๋อง ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอท่านเสียที!”ทันทีที่เหล่าพลทหารสกุลซูหลายสิบคนเจอกับซูจิ่งสิงก็ทยอยกันคุกเข่าลงไปบนพื้น และคำนับศีรษะโขกพื้นดินต่อหน้าซูจิ่งสิงด้วยน้ำตาคลอเบ้าคาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะได้เจอกับท่านอ๋องในช่วงชีวิตของเขา“ทุกคนลุกขึ้นเถิด ข้าไม่ใช่ท่านอ๋อง ต่อไปไม่ต้องเรียกข้าเช่นนี้อีก”ซูจิ่งสิงมองคนที่อยู่ใต้อาณัติอย่างจงรักภักดีเหล่านี้อย่างซาบซึ้งอยู่ในใจพลทหารสกุลซูที่อยู่หน้าสุดรีบกล่าว “เช่นนั้นพวกเราเรียกท่านว่าคุณชายนะขอรับ ท่านอ๋องที่ฮ่องเต้ชั่วผู้นั้นแต่งตั้ง หากไม่อยากได้ก็ช่างเถิด!”ซูจิ่งสิงพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวแนะนำกู้หว่านเยว่ให้พลทหารเหล่านั้นรู้จัก “นี่คือภรรยาของข้า พวกเจ้าจงเรียกนางว่าฮูหยิน”ทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าเหตุผลที่ซูจิ่งสิงมีชีวิตรอดมาถึงเจดีย์หนิงกู่ได้ ต้องขอบคุณการช่วยเหลือของกู้หว่านเยว่ยามอยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่ จึงค่อนข้างสุภาพเป็นพิเศษ กระทั่งรีบทำความเคารพนาง“ข้าน้อยขอคารวะฮูหยิน”“รีบลุกขึ้นเถิด”เมื่อเห็นพลทหารสกุลซูที่เต็มไปด้วยความจงรักภักดีเหล่านี้ กู้หว่านเยว่ก็ทนเห็นพวกเขาคุกเข่าอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เย็นเยียบไม่ได

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 420

    ทั้งสองคนตอบสนองอย่างรวดเร็ว หมายความว่ามู่หรงอวี้รู้แล้วว่าลั่วยางยังมีชีวิตอยู่ จึงส่งนักฆ่ามาฆ่าลั่วยางทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าหลู่ซื่ออยู่ที่ไหน เมื่อเห็นนักฆ่าเหล่านั้นกำลังจะทำร้ายลั่วยาง กู้หว่านเยว่ก็รีบกระโดดลงมาจากหลังคา หยิบธนูขึ้นมาง้างและยิงปลิดชีพนักฆ่าหนึ่งในนั้นทันทีสองคนที่เหลือรีบหันกลับมา เมื่อพวกเขาเห็นว่าผู้มาเยือนคือกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป ทยอยกันพุ่งเข้ามาฆ่าพวกเขา“น้องหญิง ถอยไป”ซูจิ่งสิงกล่าวเสียงเคร่งขรึม จากนั้นก็ชักดาบออกมาเผชิญหน้ากับนักฆ่าเหล่านั้น ไม่นานบุรุษชุดดำสองคนนั้นก็ถูกปลิดชีพ“ขอบคุณพวกเจ้าที่ช่วยชีวิตข้า” เมื่อเห็นว่านักฆ่าทั้งสามคนทยอยล้มลงไปบนพื้น ลั่วยางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากได้สติกลับมาก็รีบกล่าวขอบคุณทั้งสองคนกู้หว่านเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้าไม่รู้จักพวกข้าหรือ?”“ข้ารู้จักพวกเจ้าด้วยหรือ?” ครานี้ถึงตาลั่วยางงุนงงบ้างซูจิ่งสิงกล่าวถาม “เจ้าชื่ออะไร?”ต่อหน้าคนทั้งสองที่ช่วยชีวิตตน ลั่วยางไม่มีอะไรต้องปิดบัง และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าชื่อยางเหมียว”ในตอนนี้เองกู้หว่านเยว่และซูจิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 421

    นางหยางและซูจิ้งกำลังช่วยดูแลคนของหนานหยางอ๋อง เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกลับมา ทั้งสองก็รีบเข้ามาต้อนรับ“หว่านเยว่ จิ่งสิง ในที่สุดพวกเจ้าก็กลับมาแล้ว บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”กู้หว่านเยว่หมุนตัวหนึ่งรอบพร้อมกับรอยยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราไม่ได้บาดเจ็บ”จากนั้นก็เล่าสถานการณ์ของเมืองตะวันไม่ตกดินให้ทั้งสองคนฟัง“จิ่นเอ๋อร์เจ้าเด็กน้อยนั่นอยากจะอยู่ที่เมืองตะวันไม่ตกดิน พวกเราจึงปล่อยให้นางอยู่ที่นั่น”หลังจากฟังจบ นางหยางกลับไม่รู้สึกกังวล “จิ่นเอ๋อร์มีนิสัยเอาแต่ใจ แต่ถ้ามีใต้เท้าฟู่อยู่ ต้องควบคุมนางได้แน่”ไม่แปลกใจเลยที่เขากล่าวกันว่าแม่ยายรักลูกเขยเหมือนกับที่รักลูกสาวของตนเองนางหยางคิดจะจับคู่ซูจิ่นเอ๋อร์และฟู่หลานเหิงมานานแล้ว เมื่อเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน นางย่อมรู้สึกมีความสุขเป็นธรรมดาซูจิ่งสิงนึกถึงจุดประสงค์ที่มาในครั้งนี้ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าและหว่านเยว่ต้องไปที่เมืองอวี้ จะต้องออกเดินทางเดี๋ยวนี้แล้ว”จวนหลี่โหวอยู่ที่เมืองอวี้ หากต้องการช่วยหลี่เฉินอันแย่งชิงตำแหน่งโหว ต้องไปเมืองอวี้ให้เร็วที่สุดเท่าที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 422

    กู้หว่านเยว่ตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็รีบปรับสีหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว การแสดงอารมณ์มากเกินไปต่อหน้าผู้ป่วยไม่ใช่เรื่องดี“พระชายาทรงเป็นสตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันหรือ?”“สตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตัน สตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันคืออะไร?” ในต้าฉีมีหมอหญิงไม่กี่คน และยิ่งมีน้อยคนที่ศึกษาเกี่ยวกับโรคสตรีพระชายาหนานหยางส่ายหัว “ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องสตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันอะไร แต่ตั้งแต่เด็ก ท่านแม่ก็บอกข้าว่า ข้าแตกต่างจากคนอื่น พูดไปก็ไม่กลัวเจ้าหัวเราะหรอก ด้วยสภาพแบบนี้ของข้า แม้แต่จะแต่งงานก็ยังยาก ถ้าข้ายังไม่ได้แต่งงานออกไป คงจะทำให้พี่น้องในครอบครัวพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะพี่สาวท่านอ๋องจึงเห็นใจข้า และให้ที่พักพิงแก่ข้า” กู้หว่านเยว่รู้เรื่องนี้ พี่สาวของพระชายาหนานหยางคือพระชายาองค์ก่อนที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว“ท่านไม่ต้องกังวล ให้ข้าลองคิดดูก่อน” กู้หว่านเยว่พูดปลอบใจนางสตรีที่มีภาวะช่องคลอดตีบตันแต่กำเนิดก็ใช่ว่าจะไม่สามารถรักษาได้เลยทีเดียว หากเป็นเพียงปัญหาในการเจริญเติบโตของปากช่องคลอด แต่ภายในและมดลูกยังสมบูรณ์ ก็สามารถทำการผ่าตัดได้หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว ไม่เพียงแต่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 423

    ชายคนนั้นพยักหน้า “ใช่แล้ว ตั้งแต่ท่านหลี่โหวเป็นอัมพาต ฮูหยินท่านโหวก็ดูแลท่านอย่างใกล้ชิด แล้วยังไปตามพระมาสวดมนต์ขอพรให้ท่านหลี่โหวอีก ช่างเป็นภรรยาที่ดีจริง ๆ ”“เหอะ ๆ... ”หลี่เฉินอันหัวเราะอย่างประชดประชันชายคนนั้นโมโห “นี่เจ้าหัวเราะอะไร? คำพูดของข้ามันตลกมากหรือไร?”เห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกันอีกแล้ว กู้หว่านเยว่ก็รีบดึงหลี่เฉินอันออกไป“อาจารย์หญิง ท่านพ่อของข้าเป็นอัมพาต ต้องเป็นฝีมือของสวีหลานแน่ ๆ ”นี่มันบังเอิญเกินไปหน่อย กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงมองหน้ากัน ทั้งสองคนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เดิมทีตั้งใจจะพาหลี่เฉินอันกลับจวนโหวโดยตรง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจวนโหวคงตกอยู่ในมือของสวีหลานทั้งหมดแล้วถ้าพวกเขากลับไปทั้งแบบนี้ ก็เหมือนเอาตัวเองไปให้สวีหลานจัดการง่าย ๆ “ท่านหลี่โหวเป็นอัมพาตแล้ว สกุลหลี่ก็ต้องมีผู้อาวุโส มีผู้อาวุโสคนไหนที่เจ้าไว้ใจได้บ้างหรือไม่?”“มี ท่านผู้อาวุโสลำดับสอง เขารักและเอ็นดูข้ามาตลอด”หลี่เฉินอันรีบตอบ“เช่นนั้นผู้อาวุโสท่านนั้นอยู่ที่ไหน?”“อยู่ที่จวนหลี่ในตรอกอวี่ฮวา”สกุลหลี่อยู่ในเมืองอวี้อย่างน้อยก็ร้อยปีแล้ว คนในสกุลมีมากมายนับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 424

    แต่ที่จริงแล้ว นางใช้โอกาสกลับไปบ้านเกิดเพื่อใส่ชื่อในบันทึกลำดับเครือญาติ แล้วกำจัดนางเกิ่งให้สิ้นซากต้องรู้ว่าหากนางเกิ่งเสียชีวิต หลี่เฉินอันก็จะไม่มีแม่แท้ ๆ เหลือเพียงสวีหลานผู้เป็นแม่เลี้ยง และสวีหลานก็ไม่เพียงแต่กำจัดอนุภรรยาเกิ่งได้เท่านั้น ยังได้ลูกชายมาคนหนึ่งมาฟรี ๆ อีกด้วย“เดิมทีสวีหลานไม่ได้อยากจะฆ่าข้า แต่ข้าไปเห็นความผิดของนางเข้า นางจึงอยากปิดปากข้า เลยลงมือกับข้า”สายตาของหลี่เฉินอันฉายแววหวาดกลัว โชคดีที่วันนั้นเขาไปเข้าห้องน้ำแล้วเห็นเหตุการณ์ไม่เช่นนั้น เกรงว่าจะยอมรับศัตรูเป็นแม่ และถือว่าสวีหลานเป็นผู้มีพระคุณ!ผู้อาวุโสลำดับสองครุ่นคิด สวีหลานเป็นคนที่สร้างภาพลักษณ์ได้ดีมาก ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่เฉินอันพูดเอง ทุกคนคงไม่สงสัยเลยแต่เมื่อหลี่เฉินอันพูดเช่นนี้ ก็ดูเหมือนจะมีจุดน่าสงสัยอยู่เหมือนกันสุดท้าย ผู้อาวุโสลำดับสองก็ตัดสินใจเข้าข้างหลี่เฉินอัน ถึงอย่างไรหลี่เฉินอันก็เป็นคนสกุลหลี่ ส่วนสวีหลานเป็นเพียงคนนอกตระกูล และยังไม่มีลูกด้วยหลังจากตัดสินใจแล้ว ผู้อาวุโสลำดับสองก็จัดที่พักให้กับหลี่เฉินอันทันที“จริง ๆ แล้ว เจ้ากลับมาได้จังหวะพอดี ท่านโหวเป็นอั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 425

    คนชุดดำหลายคนพุ่งตัวเข้ามาจากข้างนอก ล้อมกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงทั้งสามคนไว้“ใครกันบังอาจบุกรุกจวนโหว?” คนชุดดำตะโกนถามด้วยความไม่พอใจทั้งสามคนปลอมตัวมา คนชุดดำจำไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นใคร รู้สึกแค่ว่าพวกเขากล้ามาก“ท่านพี่ รีบจัดการให้เร็วที่สุด”กู้หว่านเยว่ขยิบตาให้ซูจิ่งสิง การหาหลักฐานเป็นเรื่องสำคัญ จึงไม่อยากเสียเวลากับพวกเขานางยื่นมือโปรยผงพิษออกไป ร่างกายของคนชุดดำหลายคนก็อ่อนยวบในทันที ซูจิ่งสิงกลั้นหายใจแล้วพุ่งตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นปาดคอทั้งห้าคนจัดการคนได้รวดเร็ว และไม่ทำให้คนข้างนอกตกใจทั้งสามคนยังคงค้นหาหลักฐานต่อไปจากบทเรียนเมื่อครู่ ตอนนี้หลี่เฉินอันไม่กล้าพลิกอะไรมั่ว ๆ แล้ว“ข้ามีความรู้เรื่องกลไก ข้าจัดการเอง”ซูจิ่งสิงสังเกตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพบว่าเมื่อครู่หลี่เฉินอันไปโดนแท่นหมึกบนโต๊ะหนังสือ ทำให้กลไกทำงานและดูจากการจัดวางโดยรวมของห้อง พบว่าโต๊ะหนังสือ หัวเตียง และตามจุดต่าง ๆ ล้วนมีกลไกซ่อนอยู่เขาหลีกเลี่ยงจุดเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง จากนั้นค้นหาหลักฐาน ในที่สุดก็พบจดหมายลับที่สวีหลานจ้างวานฆ่าคนอยู่ใต้โต๊ะ รวมถึงจดหมายที่ให้ผู้ว่าการอำเภอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 426

    ชายคนนั้นดูเหมือนจะอดใจรอไม่ไหวเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สวีหลานก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่ทำมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว นางก็ยังไม่ท้องเสียที“ข้าว่าเจ้าคงไม่มีปัญหาหรอกกระมัง?”สวีหลานมองชายคนนั้นด้วยความสงสัยคำพูดนี้ไปกระทบความภาคภูมิใจของชายคนนั้น เขาโอบกอดสวีหลานแล้วเอ่ยขึ้น“ข้ามีปัญหาหรือไม่มีปัญหา เจ้าไม่รู้หรือไร เช่นนั้นก็ให้เจ้ามาลองด้วยตัวเอง!”เห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะเริ่มต้นบทรักกันอีกครั้ง กู้หว่านเยว่ที่อยู่นอกประตูไม่อยากดูต่อแล้ว จึงพังประตูเข้าไปโดยตรงสวีหลานและชายคนนั้นกำลังเพลิดเพลินอยู่ในห้วงรัก ไม่คิดเลยว่าจะมีคนบุกเข้ามาจากข้างนอกทั้งสองคนหน้าถอดสี จากนั้นสวีหลานก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว กดปุ่มกลไกที่อยู่บนเตียง ผนังก็เปิดออกเผยให้เห็นทางลับ นางรีบวิ่งหนีเข้าไปในทางลับนั้นทันทีชายคนนั้นดึงกางเกงขึ้น แล้วรีบตามไป“หยุดนะ!”กว่าจะคว้าโอกาสนี้มาได้ ซูจิ่งสิงจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร จึงพุ่งไปข้างหน้าแล้วคว้าคอเสื้อด้านหลังของชายคนนั้นไว้คิดไม่ถึงเลยว่าชายคนนี้ก็มีวรยุทธ์เหมือนกัน เขาถดตัวกลับมาด้านใน หลบไปได้อย่างคล่องแคล่วคราวนี้ซูจิ่ง

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1167

    “ลำบากเยว่จีแล้ว หากไม่มีเจ้า คงไม่มีทางหลอกให้ซูจิ่นเอ๋อร์ถ่อมาถึงทูเจวี๋ย”ชายที่เอนกายอยู่บนหนังเสือ ก็คือเหยลวี่เจิงที่หนีรอดมาจากมือซูจิ่งสิงเมื่อคราวที่แล้วส่วนหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ด้านล่าง คือเยว่จีเจ้าสำนักหอร้อยบุปผา นางคือผู้นำของหอร้อยบุปผา นอกจากเหยลวี่เจิง หญิงสาวในหอร้อยบุปผาล้วนฟังคำสั่งนางดวงตาเยว่จีเย้ายวน รูปโฉมของนางถือเป็นอันดับหนึ่งในหอร้อยบุปผา“ท่านแม่ทัพชมเกินไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านพบว่าน้องสาวของซูจิ่งสิงกำลังค้นหาดอกน้ำแข็งนิล เยว่จีก็ไม่สามารถใช้ความร้อนใจที่เป็นห่วงสามีของนาง หลอกนางมาถึงนี่”เยว่จีมองร่างกายกำยำของเหยลวี่เจิงอย่างลุ่มหลง ร่างกายนี้เคยพรากพรหมจรรย์ของนางไป ทำให้นางทุรนทุราย นางอยากลองอีกสักครั้ง...“ท่านแม่ทัพ นี่ก็ดึกแล้ว ให้เยว่จีปรนนิบัติท่านเถอะ” เยว่จีจ้องไปที่เข็มขัดของเขา แววตาเหยลวี่เจิงกลับมีความเกลียดชัง แล้วสะบัดมือนางทิ้ง“ไม่ต้อง คืนนี้ข้ายังต้องไปที่อื่น ที่มาครั้งนี้เพื่อแจ้งเจ้า ให้ส่งจดหมายไปหาซูจิ่ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1166

    ซูจิ่งสิงอาบน้ำอยู่ด้านใน กู้หว่านเย่วอยู่ด้านนอกก็ไม่ได้อยู่เฉย นางให้ระบบมอบแผนที่แคว้นทูเจวี๋ยนางหนึ่งชุดจากสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ช้าหรือเร็วพวกนางก็ต้องเดินทางไปทูเจวี๋ยกู้หว่านเยว่ใช้ปากกาขีดๆ เขียนๆ บนแผนที่ เพียงไม่นานซูจิ่งสิงเองก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จบนตัวมีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำติดตัวกลิ่นของทั้งสองหลอมรวมกัน ทำให้บรรยากาศเกิดความละมุนละไมทันที“อาบเสร็จเร็วขนาดนี้เชียว?”กู้หว่านเยว่หันมอง สายตาอยู่บนร่างกายซูจิ่งสิง วินาทีต่อมาถึงกับตาค้างอย่างตะลึงเขาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ หล่อเกินไปแล้ว!“ท่าน ท่านหล่อเกินไปแล้ว!”กู้หว่านเยว่หน้าแดงพร้อมพูดออกไปหนึ่งคำ นางไม่ค่อยมีแรงต้านทานต่อหนุ่มหล่อ โดยเฉพาะสามีของนางที่หล่อจนแทบอยากตาย อยากลูบกล้ามหน้าท้องจังเลย“ขอบคุณที่ชม”ซูจิ่งสิงถูกนางชมจนหน้าเริ่มแดง สายตาที่จ้องเขม็งยิ่งทำให้เขาหูแดงเถือก แม้จะกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกลับว้าวุ่นไปหมด“เจ้าทำสิ่งใดอยู่?”เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หากถูกสายตาราวกับเสือจ้องขย้ำของน้องหญิงมองต่อไป เขาอาจควบคุมตัวเองไม่อยู่กู้หว่านเยว่รีบกางแผนที่วางไว้บน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1165

    ทำให้ซวนลู่ดีใจ “พูดเช่นนี้เจ้ายังชอบข้าอยู่หรือ?”“ก็เปล่านะ”เกาเจี้ยนส่ายหน้า ตลอดทาง ซวนลู่หยั่งเชิงเขาทั้งทางอ้อมและทางตรงหลายครั้ง“อีกเดี๋ยว ข้าจะส่งเจ้ากลับไปสกุลซวน แล้วคุยกับท่านลุงซวนให้ชัดเจน ให้ท่านถอนหมั้นพวกเราสองคนซะ”เกาเจี้ยนพูดจบ สีหน้าเผยความสบายใจออกมาความจริงตั้งแต่ตอนอยู่เจดีย์หนิงกู่ เขาก็คิดเอาไว้แล้วเขากับซวนลู่ไม่เหมาะสมกัน ในเมื่อซวนลู่ไม่ชอบเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องบังคับใคร“เจ้าจะถอนหมั้นกับข้าหรือ?”ซวนลู่ชะงักไปเล็กน้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางอยากให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ทำไมยามนี้เมื่อกลายเป็นจริงแล้ว ในใจจึงรู้สึกเจ็บปวดราวกับมีสิ่งของที่เป็นของนาง กำลังค่อย ๆ จากไป“เจ้าพูดจริงหรือ?”เนื่องจากไม่กล้าเชื่อ ซวนลู่จึงย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่สิ่งที่ได้คือคำตอบที่มั่นใจของเกาเจี้ยน“ใช่”“เพราะอะไร?” ซวนลู่กำหมัดแน่น “เจ้ารังเกียจข้า เจ้ารู้ว่าข้าเสียตัวแล้ว ดังนั้นจึงถอนหมั้นหรือ!”เกาเจี้ยนรู้สึกว่าเหลวไหล“อาลู่ เป็นเพราะเจ้าไม่เคยรักข้าเลย”“เข้าเปล่านะ ข้า” “ตอนนี้เจ้าไม่อยากถอนหมั้น เป็นเพราะเจ้ารู้สึกว่า คนที่เมื่อก่อนเคยเดินตามหล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1164

    “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่ทัพผู้เฒ่า”ซูจิ่งสิงส่ายหน้า ก่อนเขาจะจากชายแดนกลับไปรับคำสั่งที่เมืองหลวง ได้สั่งการพวกแม่ทัพเกาเอาไว้ไม่ว่าในเมืองหลวงจะเกิดเรื่องใดขึ้น ห้ามพวกเขากระทำการบุ่มบ่ามเด็ดขาด ทางที่ดีให้รักษาตัวรอดที่ด่านซานไห่“ตอนนี้ข้าเองก็ปลอดภัยดี อีกอย่าง น้ำใจของแม่ทัพผู้เฒ่าข้าเข้าใจดี”แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า สายตาหันไปมองกู้หว่านเยว่“ท่านนี้คงเป็นพระชายาสินะ”“คารวะแม่ทัพผู้เฒ่าเกา” กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างสง่างาม ทำให้แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า “พระชายาไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป ใจกว้างเปิดเผย!”เกาเจี้ยนที่อยู่ข้างกันประหลาดใจ ต้องรู้ว่าปากของพ่อเขานั้น อยู่ในค่ายมีชื่อด้านปากเสียยิ่งนัก คำพูดสิบประโยคมีสิบเอ็ดประโยคไม่น่าฟังยามนี้เขาเพิ่งเห็นกู้หว่านเยว่เป็นครั้งแรก ก็ประเมินค่าสูงขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพผู้เฒ่าเกาชอบกู้หว่านเยว่จริง ๆทว่า ลองคิดดูก็เป็นเรื่องปกติพระชายาเก่งกล้าสามารถ แม้แต่เขายังยอมแพ้บนโลกนี้ ใครบ้างจะไม่ชอบพระชายา“ท่านพ่อ พวกเราเร่งเดินทางมาตลอดทาง ไม่ได้หยุดพักระหว่างทางเลยอย่ามัวแต่ยืนคุยกันข้างนอก ให้ท่านอ๋องกับพระชายาเข้าไปพักผ่อ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status