แชร์

บทที่ 411

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“ท่านลุง!”

หลี่เฉินอันตะโกนเสียงดัง รีบรุดเข้าไปช่วยเกิ่งกวง

“ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่เป็นไร เพียงคือเวียนหัวนิดหน่อย”

เกิ่งกวงลูบหน้าผาก กู้หว่านเยว่เอ่ยเตือนอย่างเห็นใจ

“ท่านเพิ่งเสียเลือดไปเยอะ บาดแผลยังไม่หายดี ทั้งอารมณ์ผันผวนอย่างรุนแรง รู้สึกเวียนหัวเป็นเรื่องปกติ รีบพักผ่อนเสียเถอะ”

เกิ่งกวงส่ายหัว

“แม้ว่าผู้พิพากษาหลินจะถูกจับกุม แต่พวกอันธพาลก็ยังไม่หมดไป ข้ายังต้องไปจัดการ”

กู้หว่านเยว่พูดอะไรไม่ออก “จะดูแลตัวเองดีๆ มีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้น

หรือจะตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด จะตายแหล่ไม่ตายแหล่”

เกิ่งกวงเป็นทหาร จิตใจจึงเถรตรงอย่างไม่อาจหลีบเลี่ยง

ก่อนหน้านี้ คิดเพียงว่าเรื่องเจ้าหนูหลินเขาจึงล่าช้าไปหลายอย่าง ต้องละทิ้งผู้มีพระคุณ หลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของกู้หว่านเยว่ ยามนี้เขาก็คิดได้แล้ว

“ที่ฮูหยินซูพูดคือ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะลงไปพักผ่อน รวบรวมเรี่ยวแรงกลับมา ล้างแค้นให้น้องสาวและตัวข้าเอง”

“ไปเถอะ” ในเมื่อเกิ่งกวงคิดได้แล้ว กู้หว่านเยว่จึงไม่ได้พูดอะไรอีก

“อาจารย์หญิง ข้าจะไปเป็นเพื่อนท่านลุงนะขอรับ”

หลี่เฉินอันตามมา เขาต้องอธิบายบางสิ่งให้เกิ่งกวงเข้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 412

    เกิ่งกวงเห็นเช่นนี้ก็ตกใจเล็กน้อย เดิมทีเขารายงานตัวกับซูจิ่งสิง ยามนี้เมื่อรายงานตัวอีกครั้ง กลับเป็นกู้หว่านเยว่ไปเสียได้“ผู้พิพากษาหลินตายแล้ว เมืองนี้ต้องมีผู้ที่เข้ามาจัดการ ขอถามฮูหยินซู ท่านมีผู้ที่คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ขอรับ?”เกิ่งกวงและกงชางเหอต่างก็เป็นแม่ทัพ รับผิดชอบในการป้องกันทางทหารในเมืองตะวันไม่ตกดินหากต้องการจัดการทุกอย่างในเมืองให้เป็นระเบียบ ยังต้องพึ่งพาขุนนางผู้พิพากษากู้หว่านเยว่คิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงสั่งให้ใครบางคนเรียกฟู่หลานเหิงเข้ามา ก่อนจะบอกสถานการณ์ให้เขาฟัง“ใต้เท้าฟู่ ท่านเต็มใจที่จะทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษามณฑล ไม่ออกจากเมืองแห่งนี้หรือไม่?”ฟู่หลานเหิงยังคงเป็นราชทูตในจักรพรรดิที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนักกู้หว่านเยว่ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเต็มใจหรือไม่ ดังนั้นนางจึงถามเขาก่อนทว่า นางยังคงหวังว่าฟู่หลานเหิงจะเต็มใจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว นางไม่สามารถหาใครที่เหมาะสมไปกว่าเขาได้ฟู่หลานเหิงไม่ลังเลเลย“ในเมื่อท่านและสหายซูเชื่อใจข้า เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เต็มที่”“เช่นนั้นแล้ว ก็ต้องรบกวนใต้เท้าฟู่ด้วย”กู้หว่านเยว่มั่นใจในความสามารถของฟู่หลานเหิงม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 413

    หลังจากลงมาจากหอคอยเมือง กู้หว่านเยว่ก็ขึ้นรถม้ากลับจวนผู้พิพากษาในเวลานี้ ฟู่หลานเหิงกำลังอ่านบันทึกความของเมืองตะวันไม่ตกดินตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาเป็นคนจริงจัง ในเมื่อตกลงมาเป็นผู้พิพากษาเมืองตะวันไม่ตกดินให้กู้หว่านเยว่แล้ว เขาย่อมต้องทำหน้าที่นี้ให้เต็มที่กู้หว่านเยว่ได้ยินว่าฟู่หลานเหิงกำลังยุ่ง ดังนั้นจึงไม่เข้าไปรบกวน จึงกลับไปที่ห้องของตนเองและเริ่มเขียนแผนกลยุทธ์ทันทีซูจิ่งสิงนั่งอยู่ข้างๆ ฝนหมึกให้นางใช้หากกู้หว่านเยว่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งใด นางก็จะถามซูจิ่งสิง ทั้งสองคนจะปรึกษาเรื่องนั้นด้วยกันเนื่องจากเป็นเวลากลางวัน พวกเขาทั้งสองจึงไม่ได้ปิดประตู บทสนทนาทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของทุกคน“กบฐฟ้าแล้วจริงๆ คุณชายซูไปนั่งฝนหมึกให้ภรรยาเช่นนั้นได้อย่างไร?”กงชางเหอดูตกตะลึง ในใจของเขา ภาพลักษณ์ของซูจิ่งสิงนั้นสูงเหลือคณานับหลู่จิงกลอกตามาที่เขา“เพราะฮูหยินของพวกเรามีความสามารถ เจ้ามีปัญหาอะไร?”“อีกอย่าง คุณชายของพวกเราก็เต็มใจด้วย”เจียงเฟิ่งก็ทำตามเช่นกัน ทั้งคู่ชื่นชมคนที่มีความสามารถและความสามารถของกู้หว่านเยว่ ก็ทำให้พวกเขาประทับใจไม่รู้ลืมกงชางเหอเกาหัว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 414

    ถนนปูน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน!“ถนนปูนเป็นถนนประเภทหนึ่ง เรียบกว่าถนนอิฐหินและถนนลูกรังที่เรามีอยู่ตอนนี้”กู้หว่านเยว่บรรยายลักษณะของถนนปูนให้อีกฝ่ายฟังอย่างคร่าวๆ ทำให้ฟู่หลานเฟิงตกใจทันที บรรพบุรุษทั้งสิบแปดรุ่นเกือบจะอุทานออกมา“เยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ!”กู้หว่านเยว่ยกริมฝีปากขึ้น โครงสร้างพื้นฐานของจีน ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกนะ“ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง เมืองตะวันไม่ตกดิน ส่วนใหญ่มักมีอาชญากรรมระดับปานกลางถึงรุนแรงเกิดขึ้น ดังนั้น เกรงว่าจะมีคนมาทำงานไม่มากนัก”จากแผนกลยุทธ์ของกู้หว่านเยว่ ฟู่หลานเหิงสามารถคาดเดาได้ว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ผู้คนหลายร้อยคนในเมืองตะวันไม่ตกดิน ย่อมไม่เพียงพออย่างแน่นอน“ง่ายดายนัก มองลงไปดูสิ ปีนี้เจดีย์หนิงกู่มีพายุหิมะรุนแรง ด้านนอกเต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยมากมาย”“ขอเพียงท่านทำประกาศ จ้างผู้ลี้ภัย และบอกพวกเขาว่าตราบใดที่พวกเขาเข้ามาช่วยสร้างเมือง จะไม่เพียงแต่มีที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีค่าจ้างให้ด้วย หนึ่งวันมีอาหารสามมื้อไม่ขาด ผู้ใดจะปฏิเสธ?”ฟู่หลานเหิงสะดุ้งเล็กน้อย ใช่แล้ว เหตุใดเขาถึงคิดไม่ได้กัน?“แต่หากเกิดมีสายลับที่ไม่ใช่ผู้ลี้ภั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 415

    “จินเอ๋อร์ พวกเราต้องออกไปข้างนอกสักพัก อยู่บ้านดีๆ เล่า”หลังจากกำชับซูจิ่นเอ๋อร์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงออกไปทันทีกู้หว่านเยว่ไม่กังวลเกี่ยวกับเงินและอาหาร ตอนนี้นางมีสิ่งของมากมายนับล้านสิ่งสิ่งที่นางกังวลคือ จะขนส่งสิ่งของเหล่านี้ผ่านถนนเปิดไปยังเมืองตะวันไม่ดินได้อย่างไรเมื่อคำนวณจากความสามารถในการแบกเสบียงสองลิตรของคนคนหนึ่ง หนึ่งหมื่นคนจะเท่ากับสองหมื่นลิตร ปริมาณสำรองของธัญพืชของเมืองจะต้องมีอย่างน้อยสองเดือน ซึ่งก็คือหนึ่งล้านสองแสนลิตรหรือหนึ่งล้านแปดแสนกิโลกรัมด้วยปริมาณอาหารมากมายเช่นนี้ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเพียงลำพัง ไม่สามารถแบกกลับไปเองได้พวกเขาต้องหาสถานที่ที่เชื่อถือได้ นำอาหารออกมาก่อน จากนั้นจึงหากลุ่มคนที่ไว้ใจได้มาขนส่งอาหารไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินมิฉะนั้น หากอาหารจำนวนมากถูกถ่ายโอนออกจากมิติไปยังยุ้งฉางของเมืองตะวันไม่ตกดินโดยตรง จะทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยอย่างแน่นอนกู้หว่านเยว่ทำงานเด็ดขาด ย่อมไม่ต้องการเปิดเผยมิติของเองและมิติ ก็คือไพ่ตายของนางซูจิ่งซิงเข้าใจความกังวลของหญิงสาวดี เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า“ตอนที่พวกเราไปลั่วอั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 416

    ซูจิ่งสิงเหลือบมองท้องฟ้าแล้วพูดว่า “เวลาไม่คอยท่า ไปที่หมู่บ้านสือหานกันก่อนเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปดูที่เก็บเสบียง”“พวกท่านออกไปก่อน ข้าจะเข้าไปเอาของสักหน่อย”ในสวนยังมีเมล็ดพันธุ์ผัอีกกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ใช้ กู้หว่านเยว่ไม่อยากทิ้งมันไป“ได้” ซูจิ่งสิงรู้ว่าภรรยาของเขากำลังจะทำอะไร จึงรีบพาพวกเขาทั้งสามออกไปหลังจากนั้นไม่นาน กู้หว่านเยว่ก็เดินออกมาและพูดว่า “ไปที่หมู่บ้านสือหานกันเถอะ”ทุกคนออกจากเมืองพร้อมกัน และถูกทำการสอบสวนอีกครั้งแต่ทั้งหมดล้วนเก่งเหนือมนุษย์ เหล่าทหารไม่อาจจับความผิดปกติได้เมื่อพวกเขามาถึงประตูเมือง กู้หว่านเยว่ก็คิดได้ว่าพวกเขาไม่มีม้า ไม่อาจเดินกลับไปเช่นนี้ได้ จึงแก้ตัวว่าม้าถูกมัดอยู่ด้านหลังร้านน้ำชา ขอให้พวกเขารอที่นี่จากนั้น นางก็พาซูจิ่งสิงไปยังมุมที่เงียบสงบไร้ผู้คน ก่อนจะนำม้าที่แข็งแกร่งห้าตัวออกมาจากลานเลี้ยงม้าม้ากระต่ายสีแดงสะดุดตาเกินไป กู้หว่านเยว่ไม่อาจเอาออกมาใช้งานได้ทั้งสองจึงพาม้ากลับไปทันที“ม้าสามตัวนี้เป็นของพวกเจ้า ขี่กลับไปที่หมู่บ้านสือหานเถอะ”“ขอรับ”ฮั่นจิ่วและคนอื่นๆ ไม่สงสัยอะไรเลยสักนิด ขึ้นควบขี่ม้า ติดตามกู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 417

    “เสบียงพวกนี้เป็นภรรยาข้าเตรียมเอาไว้ ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า พวกเจ้าอยากชมก็ชมนางเถอะ”ซูจิ่งสิงดึงกู้หว่านเยว่ออกมา ไม่ปิดบังการมีส่วนร่วมของกู้หว่านเยว่ฮั่นจิ่วและคนอื่นๆ ตกตะลึงทันที พวกเขารู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถมาก แต่ก็ไม่เคยคิดว่านางจะมีความสามารถขนาดนี้เสบียงนับแสนล้านเหล่านี้ วางที่ใดไหนเล่าจะไม่เกิดความรู้สึก?ชิงเหลียนแสดงความชื่นชมทันที “ฮูหยิน ท่านเป็นแบบอย่างของคนรุ่นเราแล้วจริงๆ”หงเจาไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้าเท่านั้นส่วนฮั่นจิ่วเป็นบุรุษ ไม่อาจพูดคำชมโต้งๆ ออกมาได้ แต่สายตาที่มองกู้หว่านเยว่เต็มไปด้วยความชื่นชมกู้หว่านเยว่ยิ้มให้ซูจิ่งสิง “นี่คือที่ที่พวกเราจะเก็บเสบียงเอาไว้ พวกเจ้าต้องจำที่นี่เอาไว้ให้แม่น จากนี้ไป พวกเจ้าจะต้องรับผิดชอบในการพาคนจากด้านล่างขึ้นมาขนส่งเสบียงไปยังเมืองตะวันไม่ตกดิน หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น ข้าจะลงโทษนะ”“ฮูหยินวางใจ พวกเราจะปกป้องเสบียงเหล่านี้ด้วยชีวิต ส่งมอบอาหารทั้งหลายไปยังเมืองตะวันไม่ตกดินอย่างปลอดภัยแน่นอนขอรับ!” พวกเขาเคยอยู่ในค่ายทหาร ย่อมรู้ซึ้งถึงความสำคัญของเสบียงอาหาร“ดี”เจียงเฟิ่งและลู่จิง กู้หว่านเยว่เคย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 418

    เขาคือผู้มีพระคุณต่อหลู่ซื่อ ซึ่งหลู่ซื่อเองก็ติดตามเขามานานนับสิบปีทว่าเมื่อได้รับการกล่าวเตือนจากเถาเอ๋อร์ มู่หรงอวี้ที่กำลังป่วยหนักก็เริ่มเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้หลู่ซื่อประมาทอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังทำดินปืนหนึ่งเดียวของเขาหายไป นัยน์ตาของมู่หรงอวี้ก็ฉายแววเคร่งขรึมที่ยากจะคาดเดา และสั่งให้คนสะกดรอยตามหลู่ซื่อทันทีหลู่ซื่อรู้สึกแย่เกินกว่าที่จะรับได้ มู่หรงอวี้ไม่เชื่อใจเขา ทั้งยังอยากทำร้ายเขาแผ่นไม้ที่ถูกฟาดลงมาจำนวนสี่สิบครั้ง แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ฝึกวิทยายุทธ์ แต่ก็ทำให้เขาต้องนอนติดเตียงอย่างน้อยครึ่งเดือนนั้นหมายความว่าครึ่งเดือนนี้เขาจะไม่สามารถไปเยี่ยมลั่วยางได้เลยหลู่ซื่อเกิดความกังวลอยู่ในใจ จึงตัดสินใจว่าจะไปซื้ออาหารในตลาดนัดก่อน ตั้งใจว่าจะนำอาหารไปส่งให้ลั่วยางที่หมู่บ้านสือหาน แล้วค่อยกลับมารับไม้กระดานเหล่านั้นคนที่มู่หรงอวี้ส่งออกมาคอยติดตามอยู่รอบตัวของหลู่ซื่ออย่างเงียบ ๆ จนมาถึงหมู่บ้านสือหาน เมื่อเห็นลั่วยางที่ยังมีชีวิตอยู่จากกำแพงที่อยู่ถัดไป ก็พลันตื่นตกใจและนำเรื่องนี้กลับไปรายงานมู่หรงอวี้เถาเอ๋อร์ยิ้มเยาะด้วยน้ำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 419

    “ท่านอ๋อง ในที่สุดพวกเราก็ได้เจอท่านเสียที!”ทันทีที่เหล่าพลทหารสกุลซูหลายสิบคนเจอกับซูจิ่งสิงก็ทยอยกันคุกเข่าลงไปบนพื้น และคำนับศีรษะโขกพื้นดินต่อหน้าซูจิ่งสิงด้วยน้ำตาคลอเบ้าคาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะได้เจอกับท่านอ๋องในช่วงชีวิตของเขา“ทุกคนลุกขึ้นเถิด ข้าไม่ใช่ท่านอ๋อง ต่อไปไม่ต้องเรียกข้าเช่นนี้อีก”ซูจิ่งสิงมองคนที่อยู่ใต้อาณัติอย่างจงรักภักดีเหล่านี้อย่างซาบซึ้งอยู่ในใจพลทหารสกุลซูที่อยู่หน้าสุดรีบกล่าว “เช่นนั้นพวกเราเรียกท่านว่าคุณชายนะขอรับ ท่านอ๋องที่ฮ่องเต้ชั่วผู้นั้นแต่งตั้ง หากไม่อยากได้ก็ช่างเถิด!”ซูจิ่งสิงพยักหน้า จากนั้นก็กล่าวแนะนำกู้หว่านเยว่ให้พลทหารเหล่านั้นรู้จัก “นี่คือภรรยาของข้า พวกเจ้าจงเรียกนางว่าฮูหยิน”ทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าเหตุผลที่ซูจิ่งสิงมีชีวิตรอดมาถึงเจดีย์หนิงกู่ได้ ต้องขอบคุณการช่วยเหลือของกู้หว่านเยว่ยามอยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่ จึงค่อนข้างสุภาพเป็นพิเศษ กระทั่งรีบทำความเคารพนาง“ข้าน้อยขอคารวะฮูหยิน”“รีบลุกขึ้นเถิด”เมื่อเห็นพลทหารสกุลซูที่เต็มไปด้วยความจงรักภักดีเหล่านี้ กู้หว่านเยว่ก็ทนเห็นพวกเขาคุกเข่าอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เย็นเยียบไม่ได

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1416

    เดิมทีหญิงสาวนึกว่าตัวเองจะได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่ากลับเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน“เจ้า”สวีซื่อฉวนอยากก้าวไปข้างหน้า แต่ถูกคนของถูเอ้อร์ขวางไว้“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”คนข้างหลังเขาก็ร้อนใจเช่นกัน เมื่อเห็นว่ากำลังจะตีกับถูเอ้อร์ จู่ๆ สวีซื่อฉวนเอ่ยขึ้น “ถอยให้หมด พวกเราไป”“หัวหน้ารอง...” หลายคนไม่พอใจ“ไป”สวีซื่อฉวนหันมองใบหน้าคนชั่วได้ใจของถูเอ้อร์แวบหนึ่ง แล้วกำหมัดแน่น พาคนของตัวเองจากไปอย่างเงียบเชียบ“ถุย คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้ารองจริงๆ หรือ”ถูเอ้อร์ถุยน้ำลายใส่แผ่นหลังเขาที่จากไป แล้วลากหญิงสาวที่เหลือออกไปหลังจากพวกเขาไปหมดแล้ว บนหลังคามีคนกระโดดลงมาสองคนซึ่งก็คือกู้หว่านเยว่กับหวังปี้ที่ดูอยู่เมื่อครู่“ดูท่าภายในของโจรพวกนี้ ก็ไม่ได้สามัคคีกันมากนัก”หวังปี้กล่าวพร้อมถอนหายใจ“ก่อนหน้านี้ทุกคนอยู่บนเขา เรียกท่านพี่ใหญ่ เรียกข้าพี่รอง เรียกขานกันดุจพี่น้องตอนนี้ยึดเมืองเหยาได้แล้ว จึงคิดอยากเป็นใหญ่ จะยอมแบ่งอำนาจได้หรือ”หวังปี้บ่นพร้อมส่ายหน้า กู้หว่านเยว่เพียงเม้มปากยิ้ม“นี่ก็พอดีเลยไม่ใช่หรือ จะได้ยุยงให้พวกเขาแตกคอกัน”นางดึงหวังปี้ “ไป พวกเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1415

    ก่อนจากมา กู้หว่านเยว่ยัดเงินใส่มือของจางเอ้อร์“ตอนนี้อยู่ข้างนอก อีกทั้งท่านยังบาดเจ็บ มีเงินอยู่กับตัวดีกว่าไม่ดี รับไว้เถอะ”“แม่นางกู้ บรรพบุรุษของข้าจางเอ้อร์ทำบุญด้วยอะไร ถึงได้มารู้จักกับท่าน”จางเอ้อร์ชั่งน้ำหนักเงินที่อยู่ในมือซึ่งน้ำหนักค่อนข้างมาก น้ำเสียงสะอื้น แล้วมองทั้งสองจากไป“พระชายา เหลือเวลาไม่มากแล้ว พวกเรารีบไปเมืองเหยากันเถอะ”หวังปี้เอ่ยเตือน ในไม่ช้าทั้งสองคนมาถึงนอกเมืองเหยาขณะนี้ภายในเมืองเหยาเงียบสงัดบนถนนเต็มไปด้วยศพที่นอนเกลื่อนกลาด ในอากาศกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง เลือดไหลมาบรรจบกันดุจแม่น้ำสายเล็กแล้วไหลลงสู่คูเมือง จนทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีแดงฉานร้านรวงสองข้างทางถูกปล้นจนว่างเปล่า ถูกทำลายบ้าง ถูกเผาบ้างภายในจวนเจ้าเมือง มีหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง กอดกันร้องไห้ส่วนมากพวกนางเป็นหญิงชาวบ้านในเมืองถูกโจรจับมาไว้ในจวน เพื่อให้พวกมันย่ำยี“ข้าอยากกลับบ้าน...”“ท่านพ่อท่านแม่ตายแล้ว พี่น้องก็ตายหมดแล้ว”“พวกเรายังมีบ้านหรือ?”“ไม่มี ไม่มีบ้านแล้ว ไม่มีบ้านอีกต่อไปแล้ว...”จากนั้นเสียงร้องไห้ดังขึ้นระงมขณะนี้ นอกประตูมีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามากะทันหันแ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1414

    แต่นึกไม่ถึงว่าทำดีไม่ได้ดี ความเมตตานี้กลับถูกคนชั่วหลอกใช้หลังจากเอ้อร์คำนับเสร็จ ก็ยันตัวลุกขึ้นยืนกู้หว่านเยว่ตรวจดูอาการของเขาสักครู่“ข้ากับแม่ทัพหวังยังมีธุระต่อ เกรงว่าคงอยู่ดูแลเจ้าที่นี่ไม่ได้ ที่นี่มีเงินถึงหนึ่ง เจ้ารับไป แล้วหาที่รักษาตัวเถอะ”กู้หว่านเยว่นำก้อนเงินเล็กถุงหนึ่งยื่นให้จางเอ้อร์จางเอ้อร์เห็นถุงก้อนเงินเล็กขอบตาแดงไปหมด มองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาตื้นตันในยามนั้นการทำดีตอนเนรเทศ วันนี้ถือว่ามีส่วนช่วยเขาอย่างใหญ่หลวง“แม่นางกู้”แต่ว่าเขาไม่ได้ยื่นมือไปรับถุงก้อนเงินเล็กมา“พวกท่านจะไปเมืองเหยาหรือ?”กู้หว่านเยว่สบตากับหวังปี้แวบหนึ่ง เนื่องจากจางเอ้อร์ไม่ใช่คนเลว ดังนั้นทั้งสองจึงไม่ปิดบัง แต่ว่าทัพใหญ่ของหนางหยางอ๋องตั้งค่ายอยู่ในภูเขาเหยา ทั้งสองไม่ได้เปิดเผยให้รู้“ถูกต้อง พวกเราสองคนต้องไปทำธุระในเมืองเหยา”“พาข้าไปด้วยได้หรือไม่?” จางเอ้อร์ถามหยั่งเชิงคราวนี้กู้หว่านเยว่ไม่ลังเล ส่ายหน้าทันที“ท่านคงยังไม่รู้สถานการณ์ในเมืองเหยา เมืองเหยาถูกพวกโจรโจมตีแล้ว ตอนนี้พวกโจรกำลังฆ่าคนไปทั่วเมือง คนทั่วไปเมื่อเข้าไปก็จะไม่ได้ออกมาอีกอีกอย่าง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1413

    ไม่ว่าเขาจะเรียกร้องอย่างไร หัวหน้าสำนักคุ้มภัยหวังก็เหมือนคนนอนหลับ ไม่มีการตอบสนองสักนิด“จางเอ้อร์ หักห้ามใจเถอะ”หวังปี้ถอนหายใจ พร้อมเอ่ยเตือนเขาเข้าใจอาการคลุ้มคลั่งในยามนี้ของจางเอ้อร์ดี เพียงแต่ คนตายไม่อาจฟื้นคืน“ข้าผิดคำพูดแล้ว”ในใจจางเอ้อร์เสียใจอย่างที่สุดเขาเคยรับปากหัวหน้าสำนักคุ้มภัยหวังว่าจะช่วยเขา“ข้าจะทำแผลให้ท่านก่อน”กู้หว่านเยว่นำขวดยาและผ้าพันแผลที่ติดตัวมา ทำแผลให้จางเอ้อร์“ขอบคุณแม่นางกู้”จางเอ้อร์น้ำตาร่วงต่อให้ในใจจะเสียใจเพียงใด เขาก็รู้ว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงบาดแผลบนตัวจางเอ้อร์ค่อนข้างลึก กู้หว่านเยว่ทำแผลได้เพียงเบื้องต้น เพื่อไม่ให้บาดแผลอักเสบ“ท่านลุกขึ้นยืนได้หรือไม่?”หลังทำแผลเสร็จ กู้หว่านเยว่สอบถามนางและหวังปี้ต้องเข้าไปสืบข่าวในเมืองเหยา จึงดูแลจางเอ้อร์เป็นเวลานานไม่ได้“ข้า ข้าพอยืนได้”หลังกินยาของกู้หว่านเยว่เข้าไป เรี่ยวแรงของจางเอ้อร์ฟื้นฟูขึ้นมาบ้าง“ยืนได้ก็ดีแล้ว ใช่สิ สำนักคุ้มภัยของพวกท่านพบเจอเรื่องใดหรือ ถึงได้ล้มตายกันหมดเช่นนี้?”กู้หว่านเยว่สอบถาม เมื่อครู่ระหว่างทำแผลให้จางเอ้อร์ นางมองสำรวจโดยรอบพ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1412

    เขาโกรธจนกำหมัดแน่นเพื่อให้ทหารระบายความแค้น ก่อนและหลังโจมตีเมือง บางกองทัพจะฆ่าล้างบางชาวบ้านหนึ่งเพื่อข่มขวัญผู้คนที่อยู่ในเมืองสองเพื่อให้เหล่าทหารผ่อนคลายเพียงแต่หนางหยางอ๋องและซูจิ่งสิงปกครองอย่างเข้มงวด ไม่เคยปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น“พวกเราไปก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ทนดูไม่ได้อีกต่อไป จึงเก็บสายตากลับมาเงียบๆตั้งแต่โบราณผู้ที่ทุกข์ร้อนในศึกสงครามก็คือชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ขณะที่ทั้งสองเตรียมจากไป จู่ๆ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังแผ่วเบามาจากถนนสายเล็กด้านข้าง“ทางนั้นเหมือนจะมีคน”หวังปี้รีบหันมองทันที“ไป พวกเราไปดูสักหน่อย” กู้หว่านเยว่ลากหวังปี้เข้าไปตรวจดูด้วยกัน ปรากฏว่าเห็นคนสองคนล้มอยู่ในพงหญ้าบนตัวทั้งสองคนเต็มไปด้วยเลือด บนตัวมีบาดแผลจากดาบไม่น้อย“น้องเล็ก ดูจากเสื้อผ้าของพวกเขาน่าจะเป็นคนของสำนักคุ้มภัย”หวังปี้เปลี่ยนสรรพนามอย่างระวัง กู้หว่านเยว่พยักหน้า เดินไปหาคนที่ขอความช่วยเหลือนางรู้สึกว่าเสียงของคนผู้นี้คุ้นหูอยู่บ้างพอดีกับที่ชายผู้นั้นเห็นว่ามีคนเข้ามา จึงรีบมองไปทางพวกกู้หว่านเยว่เมื่อทั้งสองสบตากัน ต่างชะงักไปทันใด กู้หว่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1411

    “พี่น้องสกุลฮั่ว เจ้าไม่เป็นไรนะ?” กู้หว่านเยว่เดินมาตรงหน้าฮั่วจี๋ แต่อีกฝ่ายยังอยู่บนหลังของหวังปี้ ไม่มีแรงลงมา“คารวะพระชายา”ฮั่วจี๋ใช้หางตาเหลือบมองกู้หว่านเยว่แวบหนึ่งท้องฟ้ามืดสลัว เขาเองก็มองไม่ชัดว่าหน้าตากู้หว่านเยว่เป็นอย่างไรแต่ว่าเขาเพิ่งเคยเห็นหญิงสาวลอบโจมตีสนามรบพร้อมกองทัพยามวิกาลเป็นครั้งแรก ในใจจึงรู้สึกนับถือมาก คำพูดที่พูดกับกู้หว่านเยว่จึงเคารพมาก“พระชายาโปรดอภัย ข้าน้อยไม่อาจลงไปคารวะด้วยตัวเอง”“แค่พิธีเท่านั้น รักษาตัวสำคัญกว่า”กู้หว่านเยว่เป็นคนในยุคปัจจุบัน จึงไม่ใส่ใจพิธีรีตองมากนักอีกอย่างพวกนางกำลังเร่งเดินทาง ไม่จำเป็นต้องให้ฮั่วจี๋ลงจากหลังหวังปี้ เพียงเพื่อทำความเคารพเท่านั้นฮั่วจี๋คุยกับกู้หว่านเยว่เพียงไม่กี่คำ พลันหลับตาลงอย่างอึดอัดบิดาและพี่ชายเพิ่งเสียชีวิต ประชาชนชาวเมืองเหยาตกอยู่ในอันตราย เขาเป็นแม่ทัพน้อยแห่งเมืองเหยา จึงไม่มีแก่ใจพูดคุยกับใครเมื่อนึกถึงกลุ่มโจรเหล่านั้นในเมืองเหยา ที่เข้ามาปล้นชิงฉุดคร่าทำให้หมัดของฮั่วจี๋ กำแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมเขาโกรธมาก!สกุลฮั่วเฝ้ารักษาเมืองเหยามาตลอดชีวิตราษฎรเมืองเหยาคือครอบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1410

    ฮั่วจี๋รู้สึกแค้นเคืองภายในใจเพียงเขาหลับตาลงหนึ่งข้าง เบื้องหน้าก็ปรากฏภาพศีรษะของบิดาและพี่ชายถูกห้อยอยู่หน้าประตูเมืองหากมิใช่เพราะฮ่องเต้ชั่วตัดสินใจผิดพลาด ไฉนเลยสกุลฮั่วของเขาจะตกลำบากมาถึงขั้นนี้ได้?“ก่อนกองโจรโจมตียึดครองเมืองสองสามวัน ท่านพ่อและพี่ชายได้รับข่าวมาแล้ว ตั้งใจเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ ขอความเมตตาจากฝ่าบาทเคลื่อนย้ายกำลังพลจากคูเมืองละแวกใกล้เคียงมาเพียงน่าเสียดาย ฝ่าบาทไม่สนใจพวกเราเลยแม้แต่น้อย”ฮั่วจี๋ย้อนนึกถึงความทรงจำทีละน้อย ภายในสายตาเปี่ยมไอแค้น“บิดาและพี่ชายไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงย้ายข้าออกมาก่อนเป็นอันดับแรก”ที่แท้ฮั่วจี๋ไปเลือกกำลังพลในวันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่สกุลฮั่วสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรก ตั้งใจส่งเขาออกไป“ข้าไม่เต็มใจจากไป ท่านพ่อและท่านพี่สั่งให้คนตีข้าจนหมดสติตอนข้าฟื้นขึ้นมา ทั้งหมดก็สายไปแล้ว”อาจเพราะคนของสกุลฮั่วรู้ว่าไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้อีก ดังนั้นจึงต้องการเก็บสายเลือดสุดท้ายไว้ นี่ถึงส่งฮั่วจี๋ออกไป“หลานชาย”หนานหยางอ๋องถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ไม่รู้สมควรปลอบเยี่ยงไรนึกถึงตอนแรก เขาและเหล่าฮั่วสองคนต่อสู้เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1409

    “ข้ารู้แล้ว ขอบคุณเจ้าที่ยอมเล่าให้พวกเราฟัง”กู้หว่านเยว่มองเจียงม่านมากอีกทีหนึ่ง กลับไม่ดูเบาเพียงเพราะนางเป็นสตรีในโลกีย์“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เล่าความจริงให้พวกท่านฟัง นั่นเพราะข้าไม่สามารถแยกออกว่าพวกท่านเป็นมิตรหรือศัตรูกังวลพูดฐานะของคุณชายฮั่วออกไป จะนำมาซึ่งหายนะ”เจียงม่านคำนับกู้หว่านเยว่“ล่วงเกินไปที่ใด หวังว่าแม่นางจะให้อภัย”บัดนี้ได้เห็นกู้หว่านเยว่ออกมือช่วยเหลือฮั่วจี๋ด้วยตนเอง นางก็คือผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตฮั่วจี๋ปัดเศษดูแล้ว ภายภาคหน้าก็เป็นผู้มีบุญคุณของเจียงม่านนางเฉกเดียวกัน“ไม่ต้องเกรงใจถึงเพียงนี้”กู้หว่านเยว่ยื่นอาหารแห้งให้นาง“ยังไม่ได้กินข้าวกระมัง รองท้องก่อนเถอะ”เจียงม่านเลียริมฝีปาก นับตั้งแต่หนีออกจากเมืองเหยา เพื่อป้องกันถูกคนพบเห็น นางเองก็ไม่กล้าพาฮั่วจี๋ไปยังที่ที่มีคนมากนางไม่กล้าไปแม้แต่โรงน้ำชาเพื่อจิบชา กลัวถูกคนรู้ฐานะนางไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว ได้เห็นอาหารแห้งตาก็ลุกวาว รีบรับอาหารแห้งไปด้วยสองมือ ขอบคุณกู้หว่านเยว่นับพันนับหมื่นครั้งทุกคนเดินไปราวระยะหนึ่ง ฮั่วจี๋ก็ฟื้นขึ้นมาหลังเขาฟื้นแล้ว หนานหยางอ๋องก็แสดงตัว พูดคุย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1408

    นางอยากเปิดบาดแผลของฮั่วจี๋ให้พวกเขาดู แต่มือสองข้างถูกมัดไว้“คุณชายถูกยิงที่อก ลูกธนูยังอยู่ข้างในเจ้าค่ะ!”หนานหยางอ๋องเลื่อนคบเพลิงเข้าใกล้อกของฮั่วจี๋ได้เห็นลูกธนูที่บาดแผลบนอกของเขาไม่ผิดไปดังคาด ถูกเกราะบังไว้ เห็นได้ไม่ชัดนัก“พระชายา ต้องรบกวนเจ้าแล้ว”หนานหยางอ๋องมองทางกู้หว่านเยว่ ครั้งนี้พวกเขาออกมาเป็นหน่วยจู่โจมสายฟ้าแลบ ข้างกายมิได้พาหมอทหารมาด้วย“ไม่เป็นไร”กู้หว่านเยว่พกกระเป๋ายาติดมาด้วย ก็เพื่อรับมือในยามจำเป็นแผลถูกธนูยิงนี้สำหรับนางกลับเป็นเรื่องเล็ก“วางคนนอนราบก่อน ข้าจะดูอาการของเขา”หวังปี้รีบขยับขึ้นไป “ข้าเอง”เขามือเท้าคล่องแคล่วว่องไว แก้มัดเชือกบนตัวฮั่วจี๋ออก จากนั้นจับคนนอนราบ“เอาคบเพลิงมาอีกสองอัน ส่องสว่างให้ข้า”เพื่อป้องกันมิให้มีแสงไฟ ทำให้คนสังเกตเห็นเบาะแสดังนั้นภายในหน่วยจึงจุดคบเพลิงเพียงหนึ่งถึงสองอันหนานหยางอ๋องนำคบเพลิงสองอันมา สั่งให้คนย่อตัวถือคบเพลิงข้างกายกู้หว่านเยว่ ส่องแสงให้นางขั้นตอนการดึงธนูออกมีเลือดเล็กน้อยกู้หว่านเยว่สวมถุงมือ การกระทำเป็นขั้นเป็นตอน คีบลูกธนูที่หักออกมาก่อน ล้างแผลด้วยแอลกอฮอล์ โรยผงยาแก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status