All Chapters of รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์: Chapter 571 - Chapter 580

974 Chapters

บทที่ 571

ซูจิ่นพ่ารู้สึกว่าหลี่เฉินพูดเรื่องไร้สาระแต่ในขณะที่จะหักล้าง ก็จำสิ่งที่ซูผิงเป่ยเคยโน้มน้าวตัวเองก่อนหน้านี้ได้...ซูจิ่นพ่ายอมรับอย่างอ่อนแอว่าบางทีซูผิงเป่ยคงไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติกับเรื่องนี้เลยเป็นเพียงการแต่งงานทางการเมือง ดังที่เขาพูดกับนาง จะแต่งกับใครก็ได้ เมื่อถึงตาของผิงเป่ย เขาก็สามารถแต่งกับใครก็ได้เช่นกัน? ถ้าแม้แต่คนที่เกี่ยวข้องยังไม่สนใจ แล้วทำไมตัวเองถึงต้องออกโรงให้เหนื่อยเปล่าด้วยล่ะ?คิดได้ดังนั้น ซูจิ่นพ่าก็รู้สึกเบื่อเล็กน้อย“ช่างเถอะ เรื่องของพวกเขา ข้าไม่สามารถขวางได้ ดังนั้นข้าจะไม่สนใจ”เมื่อได้ยินสิ่งที่ซูจิ่นพ่าพูด หลี่เฉินก็ยิ้มและพูดว่า “ถูกต้อง แทนที่จะคิดถึงเรื่องนั้น ควรคิดว่าจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง เพราะอีกไม่นานเจ้าจะต้องแต่งงาน”ซูจิ่นพ่าขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยความโกรธว่า “ข้าควรเตรียมตัวอะไร? ข้าจำเป็นต้องเตรียมการอะไร? ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าจัดแจงทุกอย่างแล้วหรือ ข้าก็แค่ต้องแต่งงานกับเจ้าก็พอ”“เจ้าปรารถนาชีวิตอิสระขนาดนั้นเชียวเหรอ?”คำถามที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยของหลี่เฉิน ทำให้ซูจิ่นพ่าชะงักจากนั้นนางก็มองดูทิวทัศน์ในสวนด้วยความอ้างว้างและพู
Read more

บทที่ 572

“เจ้าเตรียมตัวมาดีมาก มีแผนจะหนีออกจากบ้านนานแล้วหรือยัง?”หลี่เฉินคิดไม่ออกจริงๆ ว่าผู้หญิงจะมีเสื้อผ้าผู้ชายในห้องส่วนตัวได้อย่างไร เมื่อประกอบกับคำพูดและการกระทำก่อนหน้านี้ของซูจิ่นพ่า หลี่เฉินก็เดาได้ทันทีว่าซูจิ่นพ่าอาจจะมีความคิดเช่นนี้มานานแล้ว ซูจิ่นพ่าร้องหึออกมา และยอมรับอย่างเปิดเผยว่า “ถ้าไม่เป็นเพราะสุนัขหน่วยบูรพาของเจ้าเยอะเกินไป ข้าคงหนีไปนานแล้ว!”หลี่เฉินหัวเราะลั่น“มีคนไม่กี่คนในโลกนี้ที่กล้าพูดว่าหน่วยบูรพาเป็นสุนัขต่อหน้าข้า เจ้าคือหนึ่งในนั้น”พวกเขาสองคนไม่ใช่คนที่ชอบยืดเยื้อ เมื่อตัดสินใจลงไปแล้ว ก็เก็บข้าวของจากไปในทันทีเมื่อวั่นเจียวเจียวออกไปเตรียมการ หลี่เฉินก็ไปถึงหน้าประตู เขาไม่สนใจที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับซูเจิ้นถิง และลักพาตัวลูกสาวของเขาไปตรงๆสิ่งเดียวที่พวกเขาสองคนนำไปจากจวนแม่ทัพใหญ่ก็คือม้าสองตัวดูเผินๆ พวกเขาไม่ได้นำผู้ติดตามมาเลย แต่ในความมืดมิด กลับมีหน่วยบูรพาคอยปกป้องอยู่ห่างๆหลี่เฉินไม่ได้คนโง่ แม้ว่าจะมาจีบสาว แต่เขาไม่มีทางละเลยความปลอดภัยของตัวเองในโลกนี้มีคนที่อยากให้เขาตายมากกว่าอยากให้เขาอยู่หลังออกจากจวนแม่ทัพใหญ่ ซู
Read more

บทที่ 573

ท่ามกลางทุ่งนา มีชาวนาคู่หนึ่งกำลังทำนาอยู่ “ผู้เฒ่าๆ”หลี่เฉินลงจากหลังม้า ยืนอยู่ที่ขอบทุ่ง ชี้ไปที่ต้นกล้ามันเทศในทุ่งนา แล้วแสร้งถามอย่างไร้เดียงสา “ท่านปลูกอะไรในทุ่งนี้?”ชายชราสวมหมวกไม้ไผ่ที่ก้มลงปลูกพืชก็ยืนขึ้น เดินเข้ามาแล้วตอบว่า “ต้นกล้ามันเทศ”ขณะที่เขาพูด เขาก็เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ไม่แปลกหรอก ที่คนหนุ่มสาวไม่รู้จักกัน แม้แต่ข้าก็ไม่รู้จักด้วยซ้ำ นี่เป็นสิ่งที่พวกข้าราชการกำหนด ว่ากันว่าแต่ละครัวเรือนจะต้องปลูกมันเทศในแปลงของตนเพียงสามส่วนเท่านั้น เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยว ก็สามารถลดภาษีได้หนึ่งส่วน”หลี่เฉินยิ้มและไม่ออกความเห็น เขารู้ดีอยู่แล้วเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวในความเป็นจริง ถ้าเขาไม่แน่ใจ เจิ้งเป่าหรงคงจะไม่กล้าคิดนโยบายเช่นนี้ออกมา แม้ว่าเขาจะมอบความกล้าหาญให้ก็ตาม“ข้าจำได้ว่าการปลูกมันเทศสามส่วนสามารถลดภาษีได้หนึ่งส่วน แต่ถ้าปลูกครึ่งหมู่ไม่เพียงแต่จะลดภาษีได้สองเท่านั้น แต่ยังลดภาษีต่อหัวได้อีกด้วย ครึ่งหมู่นี้คุ้มค่าที่สุดแล้ว ทำไมถึงไม่ปลูกเพิ่มล่ะ?” หลี่เฉินถามเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ชาวนาชราก็มีความสุข เขายิ้มแล้วพูดว่า “พ่อหนุ่มมาจากทางการหรือ?
Read more

บทที่ 574

คำพูดของชาวนาทำให้ซูจิ่นพ่ารู้สึกโกรธมาก ในมุมมองของนาง นี่มันชัดเจนว่าเป็นการสมคบระหว่างหยวนไว้กับทางการ เพื่อเอาเปรียบชาวนากับราชสำนัก แต่ชาวนาที่ถูกเอาเปรียบกลับทำท่าเหมือนได้กำไร และยังมาห้ามปรามตนเองอีกหรือ? แต่หลี่เฉินกลับไม่ปล่อยให้ซูจิ่นพ่าพูดอะไรต่อ เขากล่าวขึ้นว่า “ผู้เฒ่า นี่เป็นน้องสาวของข้า นางยังเด็กและไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก ท่านอย่าไปถือสานางเลย” เมื่อได้ยินหลี่เฉินพูดเช่นนี้ ซูจิ่นพ่าก็ยิ่งโกรธมากขึ้น “เจ้าต่างหากที่ไม่เข้าใจ…” ซูจิ่นพ่าพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “พวกเจ้าสองคนทำอะไรกันอยู่?” หลี่เฉินหันไปมอง พบว่ามีคุณชายผู้หนึ่งพากลุ่มคนรับใช้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร ชาวนาเฒ่าก็เห็นเช่นกัน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสี และกล่าวเสียงเบาแก่หลี่เฉินว่า “พวกเจ้าจงรีบไปเสีย นั่นคือคุณชายบ้านตระกูลหวัง เขาอารมณ์ไม่ดีนัก” พูดจบ ชาวนาเฒ่าก็ยิ้มประจบประแจงก่อนเดินเข้าไปหา กล่าวกับคุณชายผู้นั้นด้วยท่าทางนอบน้อมว่า “คุณชาย สองคนนี้เป็นเพียงคนผ่านทาง มาถามทางกับข้าสักครู่ และกำลังจะไปแล้ว” คุณชายหวังมองหลี่เฉินด้วยสายตาไม่เป็นมิตร พลางกล่าวว
Read more

บทที่ 575

หลี่เฉินลงมือจัดการชายคนหนึ่งไปแล้ว แต่สำหรับพวกคนรับใช้ที่เหลือ เขาไม่คิดจะเปลืองแรงด้วยตัวเอง ทันใดนั้น องครักษ์เสื้อแพรที่ซุ่มอยู่ในเงามืดก็ปรากฏตัวขึ้น พวกคนรับใช้เหล่านี้ที่มักใช้อำนาจข่มเหงประชาชน ยังพอมีฝีมือในระดับต่ำ แต่เมื่อเจอกับองครักษ์เสื้อแพร ผู้มีฝีมือระดับสูง พวกเขาไม่มีทางเทียบได้ ในชั่วพริบตาเดียว พวกคนรับใช้ที่พุ่งเข้ามาล้วนถูกล้มลงทั้งหมด โดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งเสียงร้อง พวกองครักษ์เสื้อแพรปิดปากพวกเขาและลากตัวออกไป ขณะที่คุณชายหวัง ยังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหลี่เฉิน ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ เขาค่อยๆ ฟื้นตัวจากอาการเจ็บปวด หายใจหอบถี่ แต่ความเจ็บปวดและความรู้สึกคลื่นไส้ยังคงทรมานเขาจนแทบทนไม่ไหว เขาเห็นคนรับใช้ของตนถูกพวกที่มีฝีมือร้ายกาจจัดการและลากตัวออกไปทันที สิ่งนี้ทำให้เขา แม้จะโง่เขลา ก็เข้าใจได้ว่าเขาไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกิน แม้ว่าที่นี่จะพ้นเขตเมืองหลวงเข้าสู่เขตทงโจวแล้ว แต่ก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่าไม่มีผู้มีอำนาจจากเมืองหลวงออกมาเที่ยวเล่นปลอมตัว ครอบครัวธรรมดา ไม่มีทางมีคนคุ้มกันฝีมือดีแอบซุ่มอยู่รอบตัว คุณชายตระกูลเฉินที่เคยโอหัง ตอนนี้
Read more

บทที่ 576

ทั่วทั้งจักรวรรดิต้าฉิน ชนชั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผู้ใด?ขุนนาง?ราชวงศ์?ไม่ใช่ทั้งสอง แต่เป็นเจ้าของที่ดินผู้ถือครองที่นาจำนวนมหาศาลต่างหาก เจ้าของที่ดินเหล่านี้ แม้กำลังของแต่ละคนจะดูไม่มากนัก ส่วนใหญ่ล้วนเป็นขุนนางท้องถิ่น คอยดูแลหมู่บ้านในพื้นที่เล็กๆ แต่ด้วยเหตุที่พวกเขามีความใกล้ชิดกับรากฐานของสังคม พวกเขาจึงมีอำนาจกำหนดชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในระดับรากฐานได้อย่างแท้จริง หากล่วงเกินชนชั้นเจ้าของที่ดินเหล่านี้ จนเกิดการต่อต้านในวงกว้าง ย่อมนำพาความวุ่นวายไปทั่วทั้งแผ่นดินอย่างแน่นอน ราชสำนักต้าฉิน ไม่อาจทนรับมือกับความปั่นป่วนเช่นนั้นได้เลย ดังนั้น ซูจิ่นพ่าจึงเกรงว่าหลี่เฉินจะใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วสั่งประหารชนชั้นเจ้าของที่ดินเหล่านั้นโดยไม่คิด “ข้าเป็นคนบุ่มบ่ามเช่นนั้นหรือ?” หลี่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เจ้าวางใจเถิด ข้าจะคิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบ” หลี่เฉินไม่ใช่คนโง่ สิ่งที่ซูจิ่นพ่ามองเห็น เขาในฐานะผู้ข้ามกาลเวลามายังยุคนี้ ย่อมมองออกเช่นกัน ในยุคของระบบศักดินา ชนชั้นที่ไม่ควรล่วงเกินที่สุด คือเจ้าของที่ดิน เพราะการปกครองในระบบศักดินา จ
Read more

บทที่ 577

แต่เดิม หลี่เฉินไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องพวกนี้ แต่ไม่อาจต้านทานความกระตือรือร้นของซูจิ่นพ่าได้ จึงยอมถูกลากไปดูความครึกครื้นโดยไม่ขัดขืน ดูจากเครื่องแห่ในขบวน เห็นได้ว่าครอบครัวเจ้าภาพมีฐานะค่อนข้างดี อุปกรณ์ในพิธีแต่งงานล้วนเป็นของคุณภาพสูง ครอบครัวธรรมดาย่อมไม่สามารถหามาใช้ได้จากเสียงซุบซิบนินทาของชาวบ้าน หลี่เฉินเริ่มสนใจในตัวเจ้าบ่าว “เจ้าบ่าวคนนี้เป็นคนนอกพื้นที่ ได้ยินว่าครอบครัวลำบากยากจน ทุ่มเททุกอย่างเพื่อส่งเขาเรียนหนังสือ สอบราชการเมื่อครั้งก่อนเขาสอบตก ไม่มีเงินกลับบ้าน เลยไปทำงานเป็นครูสอนหนังสือให้ลูกหลานตระกูลหลินในเมืองทงโจว หลังจากนั้น คุณหนูตระกูลหลินก็ตกหลุมรักเขา” “ในการสอบครั้งนี้ ในที่สุดก็สอบผ่านเข้าสู่สนามสอบขั้นสูง ตระกูลหลินจึงยอมให้แต่งงาน ช่างเป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญจริงๆ” “ดีจริงเชียว...” ซูจิ่นพ่ามองไปยังเจ้าบ่าวที่อยู่ไม่ไกล กล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชมว่า “นี่คงเรียกว่าคู่รักที่สมหวังในที่สุดสินะ?” หลี่เฉินยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้กล่าวอะไร หากเป็นคนอื่นก็คงไม่ใส่ใจ แต่ในเมื่อเป็นผู้เข้าสอบราชการปีนี้ หลี่เฉินย่อมเคยเห็นประวัติและข้อมูลขอ
Read more

บทที่ 578

เฉินเส้าห้าวที่ถูกฟาดหน้าหนักๆ ยืนนิ่งอยู่กับที่ ราวกับร่างกายถูกสาปให้กลายเป็นหิน อาภรณ์เจ้าบ่าวที่เขาสวมใส่อย่างหรูหรา ตัดกับหญิงสาวตรงหน้าที่แต่งตัวอย่างหยาบกร้านราวคนละโลก ดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยน้ำตาที่กลั้นไว้ นางกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า “หากท่านรังเกียจข้าที่เป็นเพียงภรรยาผู้ต่ำต้อย ข้าก็ไม่ว่าอะไร ขอเพียงท่านเขียนหนังสือหย่ามาให้ ข้าก็จะยอมรับชะตากรรมนี้” “แต่เด็กคนนี้คือเลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน ท่านไม่อาจทอดทิ้งเขาได้!” นางกล่าวจบ พลางผลักเด็กน้อยเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินเส้าห้าว ท่าทางนี้ทำให้เด็กน้อยตกใจจนร้องไห้เสียงดัง บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความอึดอัดและสะเทือนใจ ในขณะนั้นเอง หญิงสาวในชุดเจ้าสาวที่สวมมงกุฎปักวิหกอมตะและอาภรณ์หรูหรา เดินออกมาจากจวนตระกูลหลิน เห็นได้ชัดว่านางคือเจ้าสาวในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา หรือความสง่างาม หญิงสาวผู้นี้ล้วนดูเหนือกว่าภรรยาเก่าของเฉินเส้าห้าวในทุกด้าน นางเม้มริมฝีปาก เดินตรงมายังเฉินเส้าห้าวด้วยท่าทางเยือกเย็น จากสถานการณ์นี้ เห็นได้ชัดว่านางรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว “ข้า...” เฉินเส้าห้าวเพิ่ง
Read more

บทที่ 579

“หากบิดาของเขามีสติสักหน่อย เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร ขอเพียงเฉินเส้าห้าวหย่าภรรยาเก่าเสีย เขาก็ยังสามารถเป็นเขยผู้ทรงเกียรติของตระกูลหลินได้” “หลังประกาศผลสอบ ด้วยตำแหน่งนักปราชญ์ของเขา จุดเริ่มต้นของอาชีพคงเป็นขุนนางระดับอำเภอ หากตระกูลหลินช่วยเปิดทางให้สักหน่อย ก็อาจเข้าวังไปเป็นขุนนางฝ่ายวิชาการ ใช้เวลาเก็บประสบการณ์อีกไม่กี่ปี เส้นทางย่อมราบรื่นขึ้น” คำพูดของหลี่เฉินทำให้ซูจิ่นพ่ารู้สึกไม่พอใจ นางกล่าวอย่างเดือดดาลว่า “ภรรยาเก่าของเขาเหน็ดเหนื่อยเพื่อสนับสนุนเขามาโดยตลอด แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียงหนังสือหย่า? พวกบุรุษนี่ช่างไร้หัวใจจริง ๆ!” “เรื่องพวกนี้สามารถชดเชยในภายหลังได้” หลี่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ยิ่งไปกว่านั้น ข้าไม่ใช่เขา คนเราย่อมแตกต่างกัน” เขามองซูจิ่นพ่าเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “นี่แหละคือชีวิตของคนส่วนใหญ่ที่ต้องเผชิญ” “ความรัก เป็นเพียงจินตนาการอันงดงามของหญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือน” “แต่เมื่อเข้าสู่ชีวิตจริง สิ่งที่ต้องเผชิญล้วนเป็นปัญหาเล็กน้อยแต่ซับซ้อนในแต่ละวัน” “เมื่อมีฐานะและอำนาจถึงระดับหนึ
Read more

บทที่ 580

“ข้าไม่ชอบคำพูดนี้เลยจริงๆ” “ตงอิ๋งเป็นรัฐเล็ก แต่รัฐเล็กก็ยังเป็นรัฐ อีกทั้งตงอิ๋งยังเป็นรัฐที่ชั่วช้าที่สุด การกระทำของพวกเขาล้วนทำให้ฟ้าดินโกรธแค้น ราชสำนักชนะในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดี หากพูดตามเจ้า เช่นนี้นอกจากซงหนูที่อยู่ทางเหนือแล้ว ราชสำนักก็คงไม่อาจจัดการใครได้อีกเลยกระมัง?” “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น...” เมื่อเห็นว่าเริ่มมีบรรยากาศตึงเครียด คนที่เปิดประเด็นจึงรีบกล่าวขึ้นว่า “ข้าหมายถึง ราชสำนักจะจัดการกับแม่ทัพตงอิ๋งอย่างไร?” “จะจัดการอย่างไรได้อีกเล่า? ก็แค่ใช้แลกผลประโยชน์ ให้ตงอิ๋งจ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาล หรือมิฉะนั้นก็ฆ่าเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง” หลี่เฉินนั่งดื่มชาใบหยาบ ฟังความคิดเห็นหลากหลายพลางยิ้มโดยไม่พูดสิ่งใด ในช่วงแรก ความคิดเห็นบางอย่างยังดูน่าสนใจอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นล้วนเป็นเพียงคำพูดเลื่อนลอยของชาวบ้าน ถึงขั้นมีคนเสนอให้ราชสำนักส่งกองทัพไปถล่มเกาะตงอิ๋งให้ราบสิ้น ซึ่งหลี่เฉินคิดว่า แม้ตนจะเสียสติ ก็ไม่มีวันทำเรื่องบ้าคลั่งถึงเพียงนี้ “เจ้าคิดจะจัดการแม่ทัพตงอิ๋งอย่างไร?” ซูจิ่นพ่ากระพริบตา มองอย่างสงสัย “ในช่วงเริ่มสงคราม กษัตริย์ตงอิ๋ง
Read more
PREV
1
...
5657585960
...
98
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status