บททั้งหมดของ บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน: บทที่ 341 - บทที่ 350

468

บทที่ 341

เธอพูดกับเขาด้วยความหวังดี ไม่ว่าเมื่อก่อนเธอจะเคยชื่นชอบเขามากแค่ไหนก็ตาม แต่ตั้งแต่ที่การแต่งงานของพวกเขาคือธุรกิจ มันก็ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไปแล้วเธออยากให้ลูกสาวของเธอมีความสุข และไม่ต้องติดอยู่กับการแต่งงานที่ไร้ความรักเช่นนี้เย่หนานโจวไม่ได้หยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือ เขาพอจะเดาออกว่าเติ้งจวนจะพูดอะไร และเขาก็เอ่ยขึ้นเสียงทุ้มว่า “แม่ครับ ผมจะให้คำตอบกับแม่แน่นอนครับ”เติ้งจวนกล่าว “หนีหนี่เองก็ต้องการความสุขเช่นกัน ฉันหวังว่าเธอจะไม่ต้องรอนานเกินไป”คำพูดของเธอชัดเจน ผู้หญิงอย่างเวินหนี่หลังจากหย่าแล้ว เธอจะต้องได้พบกับคนที่รักเธอจากใจจริงแน่นอน พวกเขาอายุเยอะแล้ว ไม่อาจอยู่กับเวินหนี่ไปได้ตลอดชีวิตหากเวินหนี่ต้องการหาที่พึ่งพิงดี ๆ แต่งงานและมีลูก เธอก็หวังว่าจะไม่มีใครเข้ามาขัดขวางลูกของเธอระหว่างทานอาหาร ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันกู้อีอีเคยไปทานข้าวกับผู้คนมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดคุณปู่ หรือเทศกาลสำคัญ ๆ ก็จะมีคนมาทานอาหารร่วมเธอมากมายแต่มันแตกต่างจากความรู้สึกนี้เติ้งจวนได้ยินมาจากเวินหนี่ว่าเด็กคนนี้ไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กในฐานะแม่ เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 342

อิจฉาที่เวินหนี่มีครอบครัวที่น่ารักแบบนี้เธอรู้ว่าพวกเขารักและห่วงใยเธอเพราะเธอเป็นเพื่อนของเวินหนี่“หยุดร้องไห้ได้แล้ว น้ำตาของผู้หญิงมีค่ามากเลยนะ” เวินจ้าวไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้กู้อีอีไม่สามารถหยุดได้เวินหนี่เป็นคนประเภทที่มีจิตใจอ่อนไหวเธอรู้ว่ากู้อีอีไม่มีพ่อแม่และมีญาติเพียงคนเดียวคือคุณปู่กู้ เธอจึงรู้สึกสงสารอยู่ในใจและอยากพากู้อีอีมาพบพ่อแม่ของเธอ“หยุดร้องได้แล้ว วันนี้ยังร้องไห้ไม่พออีกเหรอ?” เวินหนี่ไม่อยากให้เธอร้องไห้กู้อีอีเช็ดน้ำตา สูดจมูกแล้วถือชานมไว้ในอ้อมแขน “ขอบคุณนะคะคุณลุงคุณป้า หนูจะกลับมาใหม่แน่นอนค่ะ”เติ้งจวนและเวินจ้าวส่งพวกเขาที่หน้าประตู กู้อีอียังคงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้เมื่อเธอลงไปถึงชั้นล่างเวินหนี่ยื่นทิชชู่ให้เธอเย่หนานโจวค่อนข้างเฉยเมยและพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ถ้าปู่ของเธอเห็นเธอร้องไห้แบบนี้ เดี๋ยวก็คิดว่าเวินหนี่รังแกเธอหรอก”เวินหนี่กำลังคิดหาวิธีปลอบใจเด็กสาวคนนี้ แต่เย่หนานโจวกลับสาดน้ำเย็นลงบนหัวของเธอเวินหนี่พูด “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณหยุดพูดเถอะ เดี๋ยวก็ทำให้เธอร้องไห้ขึ้นมาจริง ๆ หรอก”ยิ่งกว่าน้ำตาแห่งความซึ้งใ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 343

เธอยื่นกระเป๋าคืนให้กู้อีอีกู้อีอีรู้สึกกังวลเล็กน้อยและถามขึ้นว่า “เมื่อวานเธอคุยโทรศัพท์อยู่ข้าง ๆ ฉันไม่ใช่เหรอ? แค่พริบตาเธอก็หายไปแล้ว แน่ใจเหรอว่าคนที่หายไปเป็นฉัน?”เจียงซิงถงไม่ได้พูดความจริงเธอเห็นกู้อีอีถูกรังแก แต่เธอไม่ได้ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือเธอเองก็เป็นผู้หญิง แถมยังไม่มีคนติดตามมาด้วย ดังนั้นการยื่นมือเข้าไปยุ่งมีแต่จะสร้างปัญหาให้กับตัวเอง เธอได้แต่เฝ้าดูอย่างเฉยเมย ก่อนจะวิ่งหนีไปในขณะที่พวกเขาไม่ทันสังเกตเธอจะให้กู้อีอีรู้ไม่ได้ว่า เธอรู้ว่ากู้อีอีกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่น่ะสิ ฉันมีงานสำคัญต้องคุยกัน พอได้คุยก็ใช้เวลาตั้งครึ่งชั่วโมง หลังจากวางสายฉันก็ไม่เห็นเธอแล้ว ฉันนึกว่าเธอรอไม่ไหวเลยกลับไปก่อน แต่เธอลืมกระเป๋าไว้ที่นั่น ฉันก็เลยเอามาคืนให้น่ะ”“อีอี เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?” เจียงซิงถงถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรสิ่งที่เจียงซิงถงพูด หากเป็นเมื่อก่อน กู้อีอีก็คงจะเชื่อเจียงซิงถงเป็นรุ่นพี่ของเธอ ตอนที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ เธออยู่คนเดียวและไม่รู้จักใครเลยนั้น พอได้มารู้จักกับเจียงซิงถ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 344

คำพูดของเธอทำให้ใบหน้าของเจียงซิงถงแข็งทื่อ และไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรอยู่ครู่หนึ่งตามความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับกู้อีอี กู้อีอีเป็นคนหัวอ่อน ตราบใดที่เธอทำดีกับกู้อีอี กู้อีอีก็จะทำดีกับเธอมากล้านเท่าแต่เธอกลับถามคำถามแบบนี้ออกมาแต่คำพูดของกู้อีอีนั้นก็ไม่ได้ไม่สมเหตุสมผลตอนที่พวกเธอยังอยู่ต่างประเทศ เจียงซิงถงไม่รู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของคุณปู่กู้ กู้อีอียังเด็กและเป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศ ดังนั้นนิสัยการใช้ชีวิตจึงแตกต่างออกไปมากเธอไม่คุ้นชินและไม่มีเพื่อน เธอมักจะอยู่ตัวคนเดียวและไม่ชอบสื่อสารกับผู้อื่นเจียงซิงถงได้ยินคนอื่นพูดว่าเธอไม่มีพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งดูน่าสงสารและอ่อนแอ มีประสบการณ์ชีวิตที่น่าสังเวชมากกว่าคนส่วนใหญ่แต่เจียงซิงถงนั้นต่างออกไป เธอเติบโตมาในตระกูลที่มีสิทธิพิเศษ ร่ำรวย และใช้ชีวิตได้ดีในต่างประเทศคนอย่างกู้อีอีต้องการความช่วยเหลือ ส่วนเธอก็จะสามารถได้รับความชื่นชมนับถือจากกู้อีอีได้เช่นกันกู้อีอีถือว่าเธอคือที่พึ่ง และเธอก็จะรู้สึกภาคภูมิใจเธอรู้สึกแบบนั้นมาตลอดและเธอก็เข้ากับกู้อีอีได้ดี หลังจากกลับมาประเทศจีน และรู้ว่ากู้อีอีเป็นลูกส
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 345

เธอเคยคิดว่ากู้อีอีเป็นคนที่เชื่อฟังว่าง่ายตั้งแต่เธอกลับมาตระกูลกู้ เธอก็เปลี่ยนไป ดวงตาของเจียงซิงถงเย็นลง หลังจากพูดแขวะกู้อีอีเสร็จ เธอก็เริ่มเกลียดเวินหนี่อีกครั้งถ้าไม่ใช่เพราะเวินหนี่ กู้อีอีก็จะยังคงเป็นกระต่ายน้อยที่เชื่อฟังเธอ ที่ไม่ว่าจะสั่งอะไรก็ทำอย่างนั้น เวินหนี่นี่แหละที่ทำลายเรื่องดี ๆ ของเธอ!…เวินหนี่อาศัยจังหวะที่เย่หนานโจวอยู่ในห้องหนังสือและไม่ได้อยู่กับเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทำการช้อปปิ้งออนไลน์เธอซื้อหนังสือการเลี้ยงลูกสองสามเล่มเธอลูบท้องตัวเอง แม้ว่าจะยังไม่ชัดมาก แต่อาจเป็นเพราะเธอรู้ว่าตัวเองกำลังท้อง จึงได้รู้สึกว่าในท้องมีน้ำหนักอยู่เมื่อรู้สึกว่าลูกยังอยู่ เธอก็สบายใจ หนังสือที่เธอซื้อไม่ได้ส่งมาที่บ้านอย่างแน่นอน แต่ส่งไปที่ถังเยาเธอขอให้ถังเยาเซ็นรับให้ และเมื่อเธอมีเวลาก็จะได้ไปหาถังเยาและถือโอกาสอ่านหนังสือด้วยเธอส่งข้อความถึงถังเยาเพื่อเตือนเพื่อนถังเยาตอบกลับมาว่า [เข้าใจแล้ว! ส่งมาที่บ้านฉันได้เลย ไว้ฉันจะอ่านด้วยว่าคนท้องควรกินอะไรถึงจะแข็งแรง และเลี้ยงดูลูกน้อยของเธอให้ดี]ถังเยาทุ่มเทให้กับเธอและคอยคิดแทนเธอเสมอเวิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 346

ยิ่งเย่หนานโจวสงสัย เธอก็ยิ่งตื่นตระหนก เธอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวและอธิบายว่า “พ่อแม่รู้ว่าฉันชอบกิน พวกเขาจึงทำให้กินทุกครั้งที่ฉันกลับไป ฉันกินจนเบื่อแล้ว วันนี้ก็เลยไม่ค่อยอยากกินน่ะค่ะ ทำไมจู่ ๆ คุณถึงสนใจอาหารการกินของฉันล่ะคะ?” เย่หนานโจวเงยหน้าขึ้นมองเธอ และเอามือทัดผมของเธอเบา ๆ “ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่าช่วงนี้เธอเปลี่ยนไปมาก เธอสบายดีก็ดีแล้วล่ะ”“แต่...เวินหนี่ เธออย่าปิดบังอะไรฉัน”เธอมองมือที่ยื่นออกมาอย่างห่วงใยเธอและสนิทสนมกับเธอ แต่ปากถามคำถามที่คาดคั้น เธอก็รู้สึกเพียงตื่นตระหนกเท่านั้นเธอจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขาที่ลุ่มลึกและไร้ขอบเขต ราวกับว่าเขารู้ถึงสิ่งที่เธอซ่อนไว้อยู่แล้วเป็นไปไม่ได้หากเขารู้ ปฏิกิริยาของเขาคงไม่เป็นแบบนี้และปกติเขาก็ไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไรบางทีเขาอาจจะแค่รู้สึกสงสัยเวินหนี่ฝืนยิ้ม “ฉันไปทำงานและเลิกงานพร้อมคุณทุกวัน จะปิดบังอะไรคุณได้ คุณระแวงเกินไปแล้ว”“ยังจำโจวเสี่ยวหลินได้ไหม?”จู่ ๆ เขาก็กล่าวถึงเธอ สิ่งนี้ทำให้เวินหนี่หัวใจเต้นแรงอีกครั้ง “จำได้ค่ะ เธอเสียชีวิตแล้วไม่ใช่เหรอคะ”“เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น!”เย่หนานโจวมั่นใจว่าแ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 347

เธอยื่นกุญแจกลับไปอีกครั้ง “ฝากบอกเขาว่าไม่จำเป็น”เผยชิงรู้สึกกระอักกระอ่วน และดันกุญแจใส่ไว้ในมือของเธอ “คุณขับรถคันนี้เถอะครับ ประธานเย่ได้โอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของคุณแล้ว หากคุณไม่ยอมรับมันผมก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเขายังไง”ประธานเย่บอกเขาว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้เวินหนี่ขับรถคันนี้ให้ได้ถ้าเธอปฏิเสธ เขาก็จบไม่สวยแน่ และเขาก็จะถูกตำหนิว่าเขาไร้ความสามารถในการทำงาน เวินหนี่เม้มริมฝีปากถือกุญแจรถในมือ และมองดูรถคันใหม่อีกครั้งด้วยความรู้สึกกังวลเย่หนานโจวเขาทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?หากเธอขับรถหรูแบบนี้ไปทำงาน มีหวังคนอื่นได้นินทาว่าเธอมีผู้สนับสนุนเบื้องหลังแน่ ๆ เผยชิงเห็นว่าเธอลังเล ดังนั้นจึงอาศัยจังหวะที่เธอไม่ได้พูดอะไร ก็ชิงพูดขึ้นก่อนว่า “จะสายแล้วครับ ผมมาขับรถพอดี เดี๋ยวจะไปส่งคุณเอง”เผยชิงหยิบกุญแจรถ แล้วรีบเข้าไปรอเวินหนี่เวินหนี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเย่หนานโจวกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็ให้เธอขับรถหรูขนาดนี้เธอรู้ว่าเขาใจกว้าง แต่เธอก็ต้องระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยแน่นอนว่าต้องจอดที่โรงจอดรถส่วนบุคคล และไม่ค่อยมีคนเห็นเธอกำลังจะสายแล้ว จึงยอมตามเผยชิงไป
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 348

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดูเป็นกังวลของเธอ เวินหนี่ก็เงยหน้าขึ้นมองหลี่ถิงอีกครั้งสายตาของหลี่ถิงมองไปยังห้องทำงานของเย่หนานโจว ราวกับเธออยากให้เธอไปที่นั่นตามปกติ หลี่ถิงจะไม่ค่อยอยากให้เธอกังวลเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในห้องทำงานของเย่หนานโจว นอกเสียจากว่าเธอเชื่อข่าวลือที่เพื่อนร่วมงานซุบซิบกัน และมีบางอย่างเกิดขึ้นในห้องทำงานของเขาจริง ๆ หลายครั้งเป็นเพราะหลี่ถิงความรู้สึกช้าจึงไม่ได้คิดอะไรมาก และผลักตัวเองให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเธอไม่ขยับ มือของเธอยังคงพิมพ์คีย์บอร์ดอยู่ และเธอพูดอย่างเรียบนิ่ง “ห้องทำงานของเขาทำไม? เรื่องของประธานเย่ คิดว่าฉันจะเข้าไปยุ่งได้หรือไง?”จริง ๆ แล้วเธอแค่ต้องการบอกหลี่ถิงว่าอย่าเก็บข่าวลือของเพื่อนร่วมงานเหล่านั้นมาใส่ใจ เมื่อหลี่ถิงเห็นว่าเธอยังคงดูคอมพิวเตอร์และไม่ได้ร้อนรนใจอะไร จึงอดไม่ได้ที่จะพูดกับเธอว่า “ลู่ม่านเซิงมาที่นี่ตั้งแต่เช้า ประธานเย่ให้เธอไปที่ห้องทำงาน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมา ข้างในจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ ๆ ค่ะ”เธอไม่อยากให้เวินหนี่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหากเธอเป็นเพียงภรรยาของประธานเย่ ก็ควรนั่งตำแหน่งภ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 349

แต่เมื่อถูกนักข่าวถ่ายรูปไว้ได้ ก็ไม่สามารถแก้ตัวได้ เมื่อเห็นคลิปเวินหนี่ก็เงียบไป และไม่ได้แสดงความคิดเห็น ลู่ม่านเซิงมีอะไรกับนักแสดงชายคนนั้นหรือไม่ไม่สำคัญ แต่การที่เย่หนานโจวใส่ใจและยังโกรธมากขนาดนั้น เป็นเพราะเขาหึงอย่างนั้นเหรอ?เวินหนี่ไม่สนใจว่าพวกเขาอยู่ในห้องทำงานหรือไม่ จะสนใจเรื่องที่เย่หนานโจวโกรธสร้างความปวดหัวให้กับตัวเองทำไมกันเธอปลอบใจตัวเองและหยุดคิดฟุ้งซ่านหลี่ถิงและซ่งฉือพูดคุยกัน เย่หนานโจวทำหลายสิ่งหลายอย่างให้กับลู่ม่านเซิง พวกเขามีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอีกครั้ง แล้วคราวนี้ลู่ม่านเซิงเป็นคนเปิดมันเอง หลี่ถิงและซ่งฉือเงียบลง “หนานโจว ฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรกัน ปาปารัสซี่แค่ถ่ายไปเรื่อย ฉันจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก พี่หายโกรธเถอะนะ” ลู่ม่านเซิงสะอึกสะอื้น แถมยังเข้าไปเกลี้ยกล่อมเย่หนานโจวหลี่ถิงเม้มริมฝีปาก เธอแสดงเก่งเกินไปแล้ว เสแสร้งจริง ๆ เย่หนานโจวมีสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาของเขาดูเคร่งขรึม และพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น อย่าให้ฉันเห็นข่าวซุบซิบแบบนี้อีก”“ฉันจะระวัง” ลู่ม่านเซิงอธิบายต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 350

ความภาคภูมิใจของลู่ม่านเซิงถูกทำลาย เวินหนี่กำลังบอกว่าละครของเธอไร้สาระไม่ต้องใช้หัวคิดอย่างนั้นเหรอ?เดิมทีเธอต้องการจะโอ้อวดสักหน่อย เธอประสบความสำเร็จในฐานะนักร้อง และก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในฐานะนักแสดง ตอนนี้เธอได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิมแต่เวินหนี่กลับดูถูกเธอเธออัดอั้นในใจและอยากจะตวาดใส่เวินหนี่แต่เย่หนานโจวอยู่ที่นี่ เธอจึงต้องควบคุมอารมณ์ตัวเอง“ฉันคิดว่าโปสเตอร์ของอันนี้ฉันถ่ายออกมาค่อนข้างดีทีเดียว เธอคิดว่ายังไง? เวินหนี่” ลู่ม่านเซิงจงใจเดินไปที่หน้าต่างและมองดูโปสเตอร์โฆษณาของตัวเองที่อยู่อาคารด้านนอกเธอหัวเราะขึ้นอีกครั้ง ไม่คิดว่าตำแหน่งของเวินหนี่จะเห็นได้อย่างชัดเจนขนาดนี้การเห็นโปสเตอร์ของเธอทุกวันคงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจมากแน่ ๆเวินหนี่ไม่แม้แต่จะหันหน้าไปมองและพูดขึ้นว่า “คุณลู่ ฉันยังต้องทำงาน คุณมีธุระอะไรอีกหรือเปล่าคะ?”เธอไม่ต้องการคุยกับลู่ม่านเซิง มันเป็นแค่การโอ้อวดของเธอเท่านั้น และเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจ“ไม่มี ก็แค่เรารู้จักกันมานาน ฉันก็เลยอยากชวนเธอคุยเท่านั้น” ลู่ม่านเซิงเดินเข้าไปอีกครั้งและยืนอยู่ข้างโต๊ะของเธอ “ได้ยินมาว่าเธอจะลาอ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
3334353637
...
47
DMCA.com Protection Status